Re: จอง “10ปี Thai Vi 60ปี ปูชนียาจารย์ วงการตลาดทุนไทย” 400 champ_st / สมาชิกสมาคม / champ_st/ สมาชิกสมาคม / 2 ที่นั่ง / 3,000.00 บาท / scb / 23-07-2556 / 13:02 โดย champ_st อังคาร ก.ค. 23, 2013 1:03 pm

Re: สรุป Money talk@SET-4May13 เจาะลึกหุ้นเหล็ก และสอนลูกเงิ สุดยอดเลยครับ อิอิ มีคนมาทำหน้าที่แทนเราแล้ว อีกหน่อย คุณi-salmon ประสบความสำเร็จแน่นอนครับ โดย champ_st จันทร์ พ.ค. 06, 2013 8:50 am

Re: #1 สรุปอบรม 6/10/55 แนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ดร.นิเวศ ขอบคุณมากครับ เห็นความพยายามแบบนี้ต้องประสบความสำเร็จแน่ๆนอนครับ โดย champ_st พุธ ต.ค. 10, 2012 11:05 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไอ 9/9/55 ต้องขอบคุณพี่รี่ ด้วยครับ ลงยูทูปแล้วได้ทบทวนความรู้ตลอดเลย โดย champ_st ศุกร์ ก.ย. 14, 2012 1:35 pm

Re: สรุป สัมมนากลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไอ 9/9/12 ต้องขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ โดย champ_st อังคาร ก.ย. 11, 2012 10:01 pm

Re: ขอเสียงคนอยู่แถวบางนาหน่อยค้าบ อนู่จ๊ะ เดินเซนทรัลบางนาทุกอาทิตย์ โดย champ_st อังคาร ก.ย. 11, 2012 10:00 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ ไม่รู้หูแว่วไปหรือเปล่า 555 โดย champ_st จันทร์ ก.ย. 10, 2012 8:05 am

Re: สรุป สัมมนากลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไอ 9/9/12 ต้องขอบคุณด้วยครับ มีคนช่วยๆกันจด ดีใจๆ โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 10:07 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 สุดท้ายขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุน และขอขอบคุณทีมงานที่จัดสัมนาในครั้งนี้ทุกท่านครับ โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:13 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 ดร. : ตอนนี้ดูยาก บริษัทที่ดีมาก ก็แพงมาก ไม่ค่อยมีราคาถุกๆ ก็เลยมองการไปลงทุนต่างประเทศ สั้นๆมองว่าเสี่ยง อย่างกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงถ้าไม่เข้าใจก็พวก ถ่านหิน ปิโต เหล้ก เพราะมันขึ้นลงตามตลาดโลก ช่วงนี้เงินจากพันธบัตรก็ไหลมาตลาดหุ้นเยอะพอควร มีแนะนำญาติๆไปก็เอาที่ปลอดภัย ( EXXXX TXX เป้นต้น อาจารไพบูลย์ใบ้มา 555 ) โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:12 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 หมอพงษ์ : ประเทศเรากำลังเปลี่ยนฐานรายได้ประชากร สินค้าที่ตอบสนองชนชั้นกลางน่าจะดี อย่างพวก สุขภาพ ห้าง ก็น่าสนใจ พวกที่จะเหนื่อยไม่น่าสนใจก็พวกบริษัทที่รับ OEM ไม่มีแบรนเป้นของตนเอง เพราะอำนาจต่อรองไม่มีบิ่งค่าแรงขึ้นอาจมีปัญหากำไรหายไปความสามารถในการแข่งขันจะลดลง อาจมีการย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:11 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 พี่โจ : มองอุตสาหกรรม อาจดูยาก เน้นดูรายบริษัทมากกว่า วิเคราะห์ ไฟว์ฟอซโมเดล ความสามารแข่งขัน แข็งแกร่ง ไม่มีสินค้าทดแทน เป้นหลัก อย่างเมือ่ 2-3ปีที่แล้วห้มองถ่านหินจะมาจะดี เป้นดาวรุง ตอนนี้ก็มีปัญหามากมาย แต่ก็สนใจกลุ่มที่มีเครือข่ายที่เข้าถึงผู้บริโภค ซึ่งจะมีพลังมาก อย่างปูนซื้อโกลบอลก็เพื่อหาแขนขาเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง สินค้าที่ดีอาจต้องไม่มีอะไรมาทดแทนได้ คอมโมระยะสั้นก็ต้องระวังผันผวน โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:11 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 ถาม : อุตสาหกรรมที่น่าลงทุน กับหลีกเลี่ยง พี่วิบูล : ชั่วโมงนี้ต้องดู AEC ไปทำควาเข้าใจว่าคืออะไร ตลาดซื้อขายเดียว เคลื่อนย้ายเงินทุนเสรี แรงงานบางอาชีเสรี ธุนะกิจไหนได้ประโยช อย่างโรงบาลไทย ใหญ่สุดในเอเชีย โรงบาลแห่งหนึ่งในสุขุมวิท ลูกค้าต่างชาติทั้งปีที่นี่ เท่ากับลุกค้าต่างทั้งทั้งประเทศสิงคโปเป้นต้น กลุ่มรับเหมาจะไม่ค่อยสนใจลงทุนเพราะเวลาซื้อหุ้นต้องมอง 3-5ปีกลุ่มนี้มองอะไรไม่ออกยึ่งมีปัญหาขึ้นค่าแรงยื่งน่าจะเหนื่อย โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:10 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 ดร.นิเวศ : เลือกหุ้นผิดพลาดก็มีคือวิเคราะห์เร็วๆผิดก็ขายทิ้งเลยไม่ค่อยได้จำ อย่าง โลจิสติกรายหนึ่งก็เคยดูราคาถูกมาก มีอำนาจล้นเหลือกุมโลจิสติกไว้เข้าถึงได้ทุกที่ ถือวานานมาก ที่ดินที่แฝงไว้ก็มี กำไรก็โอเค แต่มันก็ไม่ไปไหนเบื่อมากถือมานานมาก สุดท้ายพอกำไรนิดหน่อยก็ขายทิ้งแล้วก็มีข่าว คนมาเทค ยกเลิกสัญญา ราคาก็วิ่งพรวดๆ อีกตัวก็ แบรนอาหารอันหนึ่งที่มีข่าวต่างชาติยกเลิกแบรนไป เราก็ตกใจเพราะมองว่าแบรนมันสำคัญก็ขายไปสุดท้ายมันก็กลับมาได้เพราะมันมีบริการ มีโลเคชั่น มีสาขา การจัดการเจ้มแข็ง ตอนนั้นมองแต่แบรนอย่างเดียว ในแต่ละอุตสาหกรรมที่จะลงทุนก้ต้องรู้ว่า อำนาจอยู่ตรงไหน อย่างอสังหา มันก็ซื้อที่พัฒนาขายก็หมดไปเป็นที่ๆ เหมือนนักรบบนหลังม้าที่ต้องหาที่ดินพัฒนา ขาย หมดไปแบบนี้ไปเรื่อยๆ เหนื่อย เมือ่ก่อนย้อนไปดูอย่างบีแลนเป้ฯรายใหญ่ เบอร์1 ตอนนี้ก็แย่ไปเลยมีรายใหญ่ใหม่ๆมาแทนที่ ระยะยาวมันคาดเดาอะไรได้ไม่หมด ต่สงจากบางกิจการยิ่งทำยิ่งมีเครือขาย ยึดพื้นที่ ผู้ชนะเข้มแข็งไปเรื่อยๆ คนมาใหม่สู้ยาก โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:10 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 พี่วิบูล : ปกติถ้ายึดแนวทางที่ให้ไป 3 คนข้างต้นโอกาสขาดทุนน้อยมากมีแต่ขายหมู แต่ไม่เคยซื้อควายเพราะรู้ว่าความคืออะไร อย่างเมือ่ 4-5ปีที่แล้วก็เจออสังหาตัวหนึ่งที่สร้างทาวเฮ้าได้เร็วมาก 45วันปกติ 90วัน มีแผนจะเป้นเบอร์ 1 ในอสังหาเราห็สนใจศึกษา งบการเงินก็ดีมาก หนี้ไม่เยอะเทียบกับรายอื่น ความสามารถในการแข่งกันก็เป้ฯอันดับต้นๆ มีแผนงานจัดเจนที่จะเป้นเบอร์ 1 ก็เลยซื้อราคา 4บาท เพราะคำนวณว่าถ้าเป้นเบอร์ มันต้อง 8บาทแน่ๆ พอผ่านไป 6เดือนมันก้มา 8 บาทจริงๆก็เลยขาด สุดท้ายวิ่งไป 25 บาทขายหมุไป 400% ต่อมาก็ดชคดีที่น้ำท่วมใหย่ ตัวนี้โดนหนักสุดลงมา 10 บาทก็ซื้อไปอีกทีเพราะมองว่า คนไทยไม่ค่อยย้ายถิ่นอาศัยบ่อยก็คิดว่าจะให้เวลา 3ปีราคากลับมาคนก็กลัวเราก็ซื้อ ก็ยืนยันแนวคิดบัเฟดว่า จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:09 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 พี่โจ : ที่ผิดพลาดปีที่ผ่านมาก็ขาดทุนไปหลายๆตัว อย่างคอมโมตัวหนึ่ง เป็นกิจการกลางน้ำก็เห็นมีแผนสวยหรูจะไปซื้อต้นน้ำมา เราก็เคลิ้ม แต่ตอนหลังเราก้คิดว่ามันผิดเพราะไปซื้อบริษัทที่มันขาดทุนมามันแก้ไขยาก จนสุดท้ายก็ขายขาดทุนไป 30% ได้บทเรียนเรื่องหุ้นฟื้นตัว ต้องดูปัจจัยที่จะทำให้มันฟื้นว่าเกิดจากอะไร ถ้าไม่ฟื้นราคาที่เราซื้อตอนนี้จะขาดทุนไหมหรือจะแย่ไปกว่านี้ไหม ส่วนตัวที่ถูกก็คือ ลิสซิ่งตัวหนึ่งมีปัญหาผู้บริหารลาออกยกทีม โดนน้ำท่วม กำไรก็หายไปเยอะมาก แต่สุดท้ายบริษัทก็มีแผนงานชัดเจน ว่าจะปล่ยเงินกู้เพิ่ม 10 เท่า เหนราคาถูกก็เลยซื้อไป โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:09 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 ถาม : ประสบการณ์ลงทุน หมอพงษ์ : กิจการ XXX ตอนนั้นพึ่งเข้ามาใหม่ เปิดสาขา เราก้มองเป๋นกิจการที่อยู่ในเทรนสุขภาพออกกำลังกาย ก็ลองไปใช้บริการดูก็เห็นคนเยอะ เลยตัดสินใจซื้อ เพราะอะไรก็ดูดีหมด แต่ที่พลาดคือกิจการใหม่ๆเรายังไม่เข้าใจไม่มีข้อมูลย้อนหลังมากพอ คือรีบซื้อเกินไป ปีเตอร์ลิชก็บอกว่าพวกนี้ไม่ต้องรีบ สุดท้ายก็ผิด เพราะเห็นหนี้เยอะมาก กำไรมมี ขายสมาชิคแปลกๆ ก็ขาดทุนไป 20% ตัวที่ประสบความสำเร้จ ก็ค้าปลีกตัวหนึ่ง มองราคามันมานานก็ไมได้ซื้อ เพราะมันแพง พอวิกฤตราคาลงมาก็ซื้อไปเรื่อยๆ สนสุดท้ายเห้น bid offer น้อยมากๆ เราก็ไม่ได้กดเพื่มก็เสียดายที่ไม่ได้ซื้อรคาต่ำสุด โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:09 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 ดร. : ชอบลงทุนยาวๆ พอตหลักก็ต้องเป้นหุ้นที่อยู่ในกระแสเมกะเทรน เดี่ยวนี้ศึกษาเรื่องสงคราม มองภาพรวมของธุระกิจเหมอืนสนามรบก็ต้องเลือกหุ้นที่มีความได้เปรียบเป้นผู้ชนะ โดยเฉพาะการชนะแล้วตนเองแข็งแกร่งขึ้นอย่าง ค้าปลีกโตด้วยการขยายสาขาไปยึดพื้นที ผู้ชนะจะได้พื้นที่เป้นจำนวนมาก รายใหม่เข้ามาก็ลำบาก บางช่วงพวกนี้กาจกำไรลดลงบ้างก็เป้นเพราะการแข่งขันมันดุเดือด แต่เราต้องมองให้ออกว่าใครจะเป้นผู้ชนะ เพราะเมื่อชนะแล้ว กิจการจะแข็งเกรง จะขึ้นราคากำไรก็จะกลับมา บางทีทั้งอุตสหกรรมโตหมด ทุกบรัก็กำไรเราก็ต้องดูคนที่กำไรดีที่สุดแย่งคนอื่นมา น่าสนใจ แต่บางทีอุตหกรรมหดตัว มันแค่ทรงๆไม่หดตามแต่คู่แข่งล้มหายตายจากไป มันก็พอน่าสนใจ โดยส่วนตัวชอบอุตสหกรรมที่โต 10%ขึ้นไปและธุรกิจเป้นเบอร์ 1 ของอุตสาหกรรมนั้นๆ ถ้าอุตสาหกรรมไม่โตก็ไม่ค่อยสนใจ โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:08 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 พี่วิบูลย์ : ก็ยกตัวอย่างปีเตอร์ลิซให้เลือกหุ้นที่เรา เข้าใจกิจการ ต่อมาก็ต้องดูฐานะทางการเงินตามแนวทางเกรแฮม และสุดท้ายดูความสามารถในการแข่งขันตามแนวทางฟิชเชอร์ ถ้าเราเอา 3 หลักนี้มาจับจะไม่พลาดหุ้นดีๆ สุดท้ายเวลาซื้อ ก็ดูแนวคิดบับเฟด จงโลภเมื่อคนอื่นกลัว จงกลัวเมือคนอื่นโลภ ทางทีวิเคราะห์แล้วเจอตัวที่ใช่แต่ราคาแพงก็ต้องอดใจรอต่อไป ตัวอย่าง เมือ่ก่อนไปเดินเซนทรัลบางนาเห็นคนต่อคิวยาวมากเราก็ไปดูพบว่าเป้นบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่ง พอไปดูงบก็เข้าท่า กิจการก็แข่งแกร่งแต่ราคา 240 pe 30 เท่า peตลาดสมัยนั้น 7 เท่าก็ไม่ซื้อ จนอยู่ดีดีแบงค์ชาติก็ประกาศคุมดอกเบี้ยบัตรเครดิต หุ้นตัวนี้ก็ลงถล่มถลายเหลือ 120 บาท เราก็ไปเชคว่าข่าวกระทบไหมปรากฏว่าไม่เกี่ยวกับมันเราก็ซื้อ 120 ลงไป 80 ก็ใจแป้ว แต่สุดท้ายพอตลาดรับรู้งบออกมาราคาก็กลับไป 240 โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:08 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 พี่โจ : ชอบหุ้นที่เติบโต กำไรโต โดยโตแบบยั่งยื่น ดูตัวเลขย้อนไป 4-5ปี ก็เห้นว่าเติบโต แล้วราคาไม่แพง เพราถ้าราคาแพงก็ไม่ใช่การลงทุนที่ดี อย่างยกตัวอย่างคิดคราวๆ กำไรโต 20% pe ก็ซัก 20 เท่าพอรับได้ แต่ถ้าธุรกิจเข้มแข็งมากๆ โต 20% pe 25 ก็พอไหว แต่ก้ต้องดูเป้ฯรายๆตัวไป เวลามองก็ต้องมอง Fw PE ซัก 1-3ปี ถ้าถูกก็ซือ้เก็บไว้ โดยเอา EPS มาคูณถ้าถูกก้ซื้อหลัการลงทุนที่ดีต้องดู ดาวไซ ก่อนเสมอเพื่อนรักษาเงินต้น บางทีเวลาอานข่าวผู้บริหารบอกปีนี้โต 100 ปีหน้า 200 ก็ต้องมาดูแล้วว่าเป้นไปได้ไหม กำไรโตมาจากอะไร โดยส่วนตัวชอบกำไรโตจากยอดขายที่โต มันดีกว่ากำไรโตเพราะลดค้าใช้จ่ายเพราะตัวลดค่าใช้จ่ายมันก็มีขีดจำกัด หลังๆจะชอบพวกหุ้นฟื้นตัว ดูว่ามีปัญหากำไรหายแต่เป้ยนการหายชั่วคราว เช่นน้ำท่วมมันคงไม่ท่วมทุกปี โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:07 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 ถาม ชอบหุ้นสไตล ไหน หมอพงษ์ : ชอบหุ้นที่มีความเข้มแข็งเหนือคู่แข่ง อยู่ในเทรนอนาคต จะได้ถือนานๆไม่ต้องตามบ่อยๆ แต่ถ้ายังไม่มีที่เราต้องการ ก็อยามีพวก asstoplay เกบไว้เพื่อรอหุ้นที่เราชอบลงมาถูกๆแต่พวกนี้ยังไงก็ต้องขายเพราะเรามองไม่ออก อยากวื้อขายแค่ปีละครั้ง โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:06 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 ดร.นิเวศ : เล่าตอนสมัยวิกฤติที่ตนเองเริ่มต้น หุ้นคุณภาพดี ราคาถูกๆมีเยอะ เพราะตอนนั้นมันแย่ทั้งตลาดแต่เราก็มาแบ่งหุ้นออกเป้น 2 กลุ่มคือ 1 ไอ้พวกหนีเยอะๆ จะเจ้ง ราคาลงมาก็สมควรแต่อีกประเภท 2 คือไม่ได้กระทบกิจการก็ดี แต่ราคาก้ลงตามๆกันมา อย่างที่ดุ pe 7 บุค 0.5 กำไรก้โตสม่ำเสมอ ปันผลก็เกือบ 10% ก็ลงทุน แต่พอสมัยนี้ตอนนี้ หุ้นดีมากๆและถูกๆไม่มี ไอ้หุ้นที่ไม่ได้ดีมากๆราคาก็ไม่ถูกมากเท่าไหร มันก็เลยไม่รู้จะเลือกยังไง ส่วนหนึ่งก็เพราะกระแสวีไอ ทำให้หุ้นบางตัวที่ไม่ค่อยดี ไม่ค่อยมีอะไรแต่ราคาถูก คนก็มาซื้อราคามันก็ขึ้นทำให้ไม่ถูกแบบเดิม หุ้นธรรมดากำไรไม่ค่อยโตอะไร ราคาถูกมามีสินทรัพย์เยอะๆ มีปันผล ราคาต่ำมากๆจาก มาเกตแคปเทียบกับยอดขายก็เลยซื้อๆไป เพราะมองว่า 5 ปีก็น่าจะตอบสนองราคาขึ้นมาก้ขายทิ้งไปแต่ว่วนใหย่ไม่เกิน 3ปี แนวหุ้นก้นบุหรี เพราะไม่รู้จะซื้ออะไรมันแพงไปหมด แต่ถ้าจะต้องลงทุนยาวๆ ก็ต้องหาหุ้นขั้นเทพ อีกแบบมองยาวๆถือไปเรื่อยๆ คิดถึงอนาคต กิจการจะเป้นบังไงในอีก 5ปี จะไปทางไหน เทรนจะไปต่อไป ขยายใหญ่ได้ขนาดไหน เป็นหลัก โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:06 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 พี่วิบูลย์ : มีความเชื่อใน ทบ”การลงทุนให้มีความสุข” คนส่วนใหย่เวลาหุ้นขึ้นก้มีความสุย เวลาลงก็ทุกบ์แบบนี้ก็มีความสุขความทุกข์ครึ่งๆ แต่ถ้าเราลงทุนแบบวีไอเลือกหุ้นที่ดี กิจการที่ดี ราคาเหมาะสม เวลาหุ้นขึ้นเราก็มีความสุข เวลาลงเราก้มีความสุขเพื่อเราจะได้ซื้อเพิ่ม โดยขอยกตัวอย่าง วิธีเลือกหุ้นที่สำคัญคือ ปีเตอร์ลิน ให้ซื้อหุ้นที่เรารู้จัก อยู่ในวงความรู้ เข้าใจมัน จากนั้นก็เอาแนวคิดของเกรแฮมที่ศึกษางบการเงิน ของบริษัทนั้นๆ แล้วก็ตามด้วยการวิเคราะหืเชิงคุณภาพตามแนวทางของ ฟิชเชอร์ ดูอุตสหกรรม ความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งถ้าเรายังไม่เข้าใจธุรกิจไหนก็พยายามศึกษาเพ่มไปเรื่อยๆให้วงของความรู้ของเราขยายออกไป โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:05 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 หมอพงษ์ศัก : ชอบหุ้นขั้นเทพ คือมีความสามารถเหนือคู่แข่ง มีตัวเร่งที่จะทำให้มีกำไรได้ในระยะเวลาสั้นๆ จะได้ไม่ต้องรอนาน เพราะเวลาซื้อหุ้นพวกที่มีตัวเร่งใกล้ๆซัก 6 เดือน 1ปี มันจะปลอดภัยกับเงินต้นของตัวเอง ซึ่งไอ้หุ้นขั้นเทพก็คือ หุ้นที่มี DCA มีความสามารถในการแข่งขัน สามารถขึ้นราคาได้ ลูกค้าปฏิเสธไม่ได้ มีอำนาจในการกำหนดราคา มีแชร์ใหญ่ในตลาด ทำให้ผลประกอบการออกมาโดดเด่น แต่สุดท้ายก็ต้องดูว่าหุ้นเหล่านี้มีตัวกระตุ้นอะไรที่จะทำให้ผลประกอบการออกมาดี เช่น ปกติก็ปรับราคาปีละ 5% เป้นแบบนี้เรื่อยมาเป้นหุ้นที่ดีมากๆ แต่อยู่ดีๆก็มีแผนจะประบ 15% แบบนี้ก้คาดการได้เลยว่างบกำไรจะต้องออกมาดีแน่ๆเป้นต้น หุ้นที่ตามอยู่ก้มี 15 ตัวซึ่งหุ้นขั้นเทพบอกไปใครๆก็รู้จัก แต่จังหวะซื้อนั้นก็สำคัญรวมถึงจังหวะขายด้วย ปีนึงเจอซัก ตัวก็ถือว่าโชคดีแล้ว โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:05 pm

Re: สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไป 9/9/55 ถาม : มีหลักการในการเลือกหุ้นอย่างไร พี่โจ : เรียกว่าถ้าซื้อหุ้น เราต้องซื้อหุ้นที่มันกำลังจะขึ้น ซึ่งสาเหตุที่มันจะขึ้นก็มีมาจากผลทางธุรกิจ โดยเกิดการการเติบโตของกำไร ธุรกิจที่สนใจคือกำไรจะต้องโตมากๆเท่านั้น เมือกำไรโตราคาก็จะขึ้นตามมันไปในที่สุด ซึ่งกำไรที่โตนั้นเราก็ต้องมาดูโครงสร้างว่ามันโตแบบยั่งยืนไหท เป้นวัฎจักรหรือเปล่า คือดูที่มาของกำไร โดยวิธีที่จะหาหุ้นเหล่านี้ ก็ต้องเปิดหู เปิดตา อ่านข่าวตลอดเวลา ซึ่งก็เน้นที่ข่าวของตลาดหลักทรัพย์ที่น่าเชือ่ถือ ข่าวที่เปิดเผยทั่วไป เดี่ยวนี้ต้องระหวังพวกหนังสือพิมนี่อย่าไปเชื่อมากเหมือนอ่านนิยาย บางทีพาดหัวทุกฉบับว่าด๊มากๆน่าสนใจพออ่านเนื้อข่าวไม่มีอะไรเลย โดยก็เข้าใจว่าข่วที่มีในตอนนี้มันเยอะมากๆ ต้องกรอบบริษัทที่เราสนใจศึกษา เลือกบริษัทที่ดี ที่ไว้ใจได้เพราถ้าบริษัทไม่ดีวิเคราะห์ดียังไงก็มีโอกาสขาดทุนได้ อย่าพี่โจจะคัดเหลือประมาณ 200 บริษัทแล้วก็ศึกษาไป เรือ่ยๆ ให้ความรู้มันทบต้นไป โดยย้ำว่า ข้อมูลที่ต้องอ่านก็ต้องเป้นข้อมูลที่จะทำให้กำไรโตเท่านั้น เพราะเป้นตัวผลักดันราคา หุ้นสินทรัพแฝงไม่ค่อยเล่นมีแค่นิดๆหน่อยๆพำราะไม่รู้ว่าเขาจะปลอดปล่อยราคาที่แท้จริงออกมาเมือ่ไหร อย่าเลยดูบริษัทที่มีที่ดินจำนวนมาก อ่านโปรไฟล์ผู้บริหารเป้นคนดีมีธรรมะ ก็ไม่เอา เพราะเชือ่ว่าคนแบบนี้เค้าคงไม่ขนเอาที่ดินมาขายมาเล่นแร่ร่แปรธาตุ ต้องแยกให้ออก ว่าคนดีกับการลงทุนที่ดีไม่เหมือนกัน ส่วนเรื่องกลุ่มธุรกิจก็ไม่สนใจมากก็กระจายๆไปหลายๆกลุ่มตอนนี้ก้มีหุ้นอยู่ประมาณ 20ตัว มี 8 ตัวที่เป้นตัวหลักๆ โดย champ_st อาทิตย์ ก.ย. 09, 2012 9:04 pm

Re: ***เปิดจองงานสัมมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไอ 9/9/2555*** จองสัมนาครับ โดย champ_st พฤหัสฯ. ส.ค. 30, 2012 9:15 am

Re: ตีแตกความคิด 'ธันวา เลาหศิริวงศ์' ผู้นำ 'เซียนหุ้นวีไอ' สุดยอดครับพี่ โดย champ_st อังคาร ก.ค. 24, 2012 8:32 am

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก เป้นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนครับ โดย champ_st จันทร์ ก.ค. 23, 2012 12:26 pm

Re: สรุปหลักการลงทุนที่ได้รับvi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมาร ขอบคุณทุกท่านที่กด like ครับ 555 โดย champ_st พุธ มิ.ย. 06, 2012 1:28 pm

Re: VI meeting ครั้งที่3 ชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ขอสปอยหน่อยครับ^^ งานนี้ได้ยินมาว่ามีความพิเศษที่ จะมีคุณ XXXXX_XX (ไม่บอกชื่ออุปไว้เล่นๆ:P) มาแชร์เรื่องAEC แบบเจาะลึกเนื้อหาแบบที่.....เยอะกว่าที่เพื่อนๆจิตนาการณ์ไว้แน่นอนครับ!!! ผมโชคดีมีโอกาสได้ฟังREviewแล้วอึ้งมากๆ มางานนี้ผมว่าเหมือนไปศึกษาAECมาเป็นปีๆ และข้อมูลบางอย่างผมการันตรีว่าเอามาใช้ในการลงทุนได้เต็มๆ ถึงขนาดผมฟังแล้วขนลุกเลยว่า โหววนี่ถ้าไม่รู้นี่จะเสียโอกาสขนาดไหนเนี๊ยะOo ปล.เพื่อนๆหรือเซียนท่านใดสนใจคุยกันหลังไมด์นะครับ แม้นที่นั่งฟังจะเต็ม แต่ที่นั่งวิทยากรว่างเสมอครับ:P 555 โดย champ_st อังคาร มิ.ย. 05, 2012 6:30 pm

Re: สรุปหลักการลงทุนที่ได้รับvi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมาร อ่านจบแล้วท่านใดเมตตา ขอหุ้นเด็ดชีพ เอ้ย มีอะไรแนะนำด้วยนะครับ 555 โดย champ_st จันทร์ มิ.ย. 04, 2012 7:24 pm

Re: สรุปหลักการลงทุนที่ได้รับvi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมาร มุมมองต่อธุรกิจในประเทศไทยที่ไปลงทุนยังต่างประเทศ มีหลายๆบริษัทที่ไปลงทุนต่างประเทศแต่สิ่งที่พบก็คือมีอุปสรรค์หรือประสบความสำเร็จยากมาก เช่นบริษัทอสังหารายใหญ่ที่ไปลงทุนในอินเดียที่ตอนแรกก็มองจำนวนประชากรจำนวนมากแต่สุดท้ายก็เหนื่อย หรือบริษัทอาหารโรงแรมที่ไปลงทุนในต่างประเทศขยายสาขาในต่างประเทศก็มีอุปสรรคมากเหมือนกัน เท่าที่ดูๆมีน้อยมากที่ไปลงทุนต่างประเทสแล้วประสบความสำเร็จแบบจริงๆจังๆ ตรงนี้ก็อยากให้นักลงทุนลองติดตามดู โดย champ_st จันทร์ มิ.ย. 04, 2012 7:23 pm

Re: สรุปหลักการลงทุนที่ได้รับvi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมาร มุมมองต่อธุรกิจห้างและคอมโมลดิตี้มอล หลังๆห้างนี่เปิดเยอะมากจนรู้สึกว่ามันมากเกินไปหรือไม่ ช่วงเปิดใหม่ๆคนเช่าก็อาจเต็มพื้นที่และก็ต้องทนๆอยุ่ตามสัญญาและดูเชิงกันไปก่อน อย่างล่าสุดไปเดินห้างใหญ่แถวบางนาก็รู้สึกว่าเป็นมอลที่เหมือนต่างประเทศมีสินค้าแปลกๆในต่างประเทศขายจำนวนมาก แต่พบว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าส่วนใหญ่จะเดินอยุ่ข้างนอกหรืออยู่ตามร้านอาหาร ทำให้รู้สึกว่าร้านค้าจะอยู่ได้ไหมแน่นอนว่าการเป้นพื้นที่เช่าทางเจ้าของมอลหรือห้างอาจไม่กระทบในช่วงแรกๆแต่สุดท้ายหากร้านค้าที่มาเปิดอยุ่ไมได้ เจ้าของพื้นที่ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องลำบาก และการลงทุนสร้างห้างหรือมอลแต่ละครั้งก็ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากและทำเลต่างๆก็น่าจะเต็มไปเกือบหมด โดย champ_st จันทร์ มิ.ย. 04, 2012 7:23 pm

Re: สรุปหลักการลงทุนที่ได้รับvi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมาร มุมมองต่อธุรกิจทีวีดาวเทียม อาจารย์มองว่าเป้นธุรกิจที่แข่งขันกันแบบดุเดือดเชือดคอกันเลยทีเดียว เป็นธุรกิจที่แย่งสายตาคนดูซึ่งมีอยู่เท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นน้อยมาก แต่ช่องทีวีต่างๆตอนนี้เปิดขึ้นมาเยอะมากเลยทีเดียว ทำให้มองยากว่าใครจะเป้นผู้ชนะในธุระกิจนี้ ส่วนในประเด็นเรื่องของรายการของบางแห่งมีเรทติ้งที่ดีกว่าก็คาดการว่าจะปรับค่าโฆษณาได้ก็อาจต้องใช้เวลาพิสูจน์เพราะปกติแล้วพวกเจ้าของสินค้าหรือเอเจนซี่จะมีการวางแผนทำโฆษณาไว้แต่เนิ่นๆตั้งแต่ต้นปีการจะปรับเปลี่ยนแผนก็คงต้องใช้เวลา งบอาจหมดก่อนที่จะมาถึงทีวีดาวเทียม อีกทั้งรายการที่มีเรทติ้งสูงๆก็อาจต้องใช้เวลาพิสูจน์ว่าจะรักษาเรทติ้งของตนเองไว้ได้หรือไม่ เหมือนช่วงที่ประเทศไทยมีกีฬาสี ช่องทีวีของสีแดง สีเหลือง นี่มีเรทติ้งดีกว่าฟรีทีวี แต่พอกระแสแผวลงเรทติ้งนี้ก็หายไป ก็ต้องให้เวลาพิสูจน์ต่อไป โดย champ_st จันทร์ มิ.ย. 04, 2012 7:22 pm

Re: สรุปหลักการลงทุนที่ได้รับvi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมาร มุมมองในธุรกิจด้านการบิน ธุรกิจนี้ความเสี่ยงเยอะมาก เป็นธุรกิจที่โหดร้ายมาก ทั้งเรื่องของการแข่งขันกันเอง และความเสี่ยงจากราคาน้ำมัน ในโลกนี้สายการบินที่ประสบความสำเร็จและให้ปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้น แทบไม่มีเลย ที่ครั้งที่จะเติบโตก็ต้องลงทุนซื้อหรือบางบริษัทก็เช่าเครื่องบิน ก็เข้าใจยาก ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างเด็กปั๊มเติมน้ำมันเครื่องบินก็มีรายได้แน่นอน โตช้าๆ ปลอดภัยแต่จะหวังโตหวือหวาคงไมได้ เหมือนเป้นหุ้นพันธบัตรเสียมากกว่า โดย champ_st จันทร์ มิ.ย. 04, 2012 7:22 pm

Re: สรุปหลักการลงทุนที่ได้รับvi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมาร มุมมองต่อธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งมีรายใหญ่ๆอยู่ 2 ราย อาจารย์มีมุมมองว่าโครงการของผู้ถือหุ้นที่เป็นธนาคารทั้ง 2 รายนี้แตกต่างกัน ตัวที่มีสัดช่วนการถือหุ้นของธนาคารมากกว่าก็มองว่าน่าจะมีการช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีการตั้งเป้า รุกผ่านช่องทางที่เป็นธนาคารมากกว่าที่ถือหุ้นน้อยเพราะความเป็นเจ้าของนั้นแตกต่างกัน นอกจากนี้พวก ประกันภัย ประกันชีวิตก็ไม่ควรมองว่าเป็นธุรกิจที่พิเศษอะไร ที่เมืองนอกก็มีที่ปิดกิจการไปมาก ส่วนที่กำไรหรือเก่งๆก็ได้มากจากกลุ่มที่ลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนที่ดี คือตัวธุรกิจเองแค่รักษารายรับกับรายจ่ายให้พอพอกันแล้วไปวัดกำไรขาดทุนจากการลงทุนเสียมากกว่า ส่วนที่มองว่าอนาคตคนไทยจะทำประกันชีวิตมากขึ้นหรือไม่นั้น ก็มองว่าอาจมีการทำมากขึ้นแต่คงไม่ทำให้โตก้าวกระโดดอะไรมากมายคงไปแค่เรื่อยๆเพราะรายได้ของคนไทยก็ยังไม่สูงมากนักเมือ่เทียบกับประเทศที่มีการประกันอย่างมาก หลังๆก็มีการขายผ่านของทางว่าได้ผลตอบแทนมากกว่าฝากออมทรัพย์ คนก็ทำดูเพื่อทดแทนแต่ก็ได้ส่วนหนึ่งเท่านั้นเพราะมันขาดสภาพคล่องในการถอนเหมือนฝากคน แต่ที่สังเกตคือช่วง 3-4 ปีนี้กำไรในธุระกิจนี้อาจดูสูงเพราะทรัพย์สินที่ไปลงทุนก็ให้ผลตอบแทนที่ดีมากแต่หลังจากนี้ก็อาจต้องระมัดระวังหน่อย เรื่องของการตั้งสำรองก็ทำให้เกิด กำไร ขาดทุนได้ซึ่งเราก็ต้องระมัดระวังในการลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ด้วย ส่วนที่เล่นเรื่องผลตอบแทนขั้นบันได ก็อย่างี่กล่าวไว้คือ มันมีการคิดผลตอบแทนให้เราเร็จแล้วว่าทำแล้วผู้เอาประกันจะได้อะไรเท่าไหร่แค่เอาเงินเบี้ยประกันที่ผู้เอาประกันภัยส่งไปหาผลตอบแทนได้ได้สูงกว่าที่ตกลงในสัญญาก็เหมือนกันธุระกิจธนาคารี่รับความเสี่ยงจาก สเปรดของดอกเบี้ยจากและดอกเบี้ยรับที่หามาได้ โดย champ_st จันทร์ มิ.ย. 04, 2012 7:22 pm

Re: บรรยากาศงาน vi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมารีนา มุมมองต่อธุรกิจในประเทศไทยที่ไปลงทุนยังต่างประเทศ มีหลายๆบริษัทที่ไปลงทุนต่างประเทศแต่สิ่งที่พบก็คือมีอุปสรรค์หรือประสบความสำเร็จยากมาก เช่นบริษัทอสังหารายใหญ่ที่ไปลงทุนในอินเดียที่ตอนแรกก็มองจำนวนประชากรจำนวนมากแต่สุดท้ายก็เหนื่อย หรือบริษัทอาหารโรงแรมที่ไปลงทุนในต่างประเทศขยายสาขาในต่างประเทศก็มีอุปสรรคมากเหมือนกัน เท่าที่ดูๆมีน้อยมากที่ไปลงทุนต่างประเทสแล้วประสบความสำเร็จแบบจริงๆจังๆ ตรงนี้ก็อยากให้นักลงทุนลองติดตามดู โดย champ_st จันทร์ มิ.ย. 04, 2012 6:28 pm

Re: บรรยากาศงาน vi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมารีนา มุมมองต่อธุรกิจห้างและคอมโมลดิตี้มอล หลังๆห้างนี่เปิดเยอะมากจนรู้สึกว่ามันมากเกินไปหรือไม่ ช่วงเปิดใหม่ๆคนเช่าก็อาจเต็มพื้นที่และก็ต้องทนๆอยุ่ตามสัญญาและดูเชิงกันไปก่อน อย่างล่าสุดไปเดินห้างใหญ่แถวบางนาก็รู้สึกว่าเป็นมอลที่เหมือนต่างประเทศมีสินค้าแปลกๆในต่างประเทศขายจำนวนมาก แต่พบว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าส่วนใหญ่จะเดินอยุ่ข้างนอกหรืออยู่ตามร้านอาหาร ทำให้รู้สึกว่าร้านค้าจะอยู่ได้ไหมแน่นอนว่าการเป้นพื้นที่เช่าทางเจ้าของมอลหรือห้างอาจไม่กระทบในช่วงแรกๆแต่สุดท้ายหากร้านค้าที่มาเปิดอยุ่ไมได้ เจ้าของพื้นที่ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องลำบาก และการลงทุนสร้างห้างหรือมอลแต่ละครั้งก็ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากและทำเลต่างๆก็น่าจะเต็มไปเกือบหมด โดย champ_st จันทร์ มิ.ย. 04, 2012 6:28 pm

Re: บรรยากาศงาน vi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมารีนา มุมมองต่อธุรกิจทีวีดาวเทียม อาจารย์มองว่าเป้นธุรกิจที่แข่งขันกันแบบดุเดือดเชือดคอกันเลยทีเดียว เป็นธุรกิจที่แย่งสายตาคนดูซึ่งมีอยู่เท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นน้อยมาก แต่ช่องทีวีต่างๆตอนนี้เปิดขึ้นมาเยอะมากเลยทีเดียว ทำให้มองยากว่าใครจะเป้นผู้ชนะในธุระกิจนี้ ส่วนในประเด็นเรื่องของรายการของบางแห่งมีเรทติ้งที่ดีกว่าก็คาดการว่าจะปรับค่าโฆษณาได้ก็อาจต้องใช้เวลาพิสูจน์เพราะปกติแล้วพวกเจ้าของสินค้าหรือเอเจนซี่จะมีการวางแผนทำโฆษณาไว้แต่เนิ่นๆตั้งแต่ต้นปีการจะปรับเปลี่ยนแผนก็คงต้องใช้เวลา งบอาจหมดก่อนที่จะมาถึงทีวีดาวเทียม อีกทั้งรายการที่มีเรทติ้งสูงๆก็อาจต้องใช้เวลาพิสูจน์ว่าจะรักษาเรทติ้งของตนเองไว้ได้หรือไม่ เหมือนช่วงที่ประเทศไทยมีกีฬาสี ช่องทีวีของสีแดง สีเหลือง นี่มีเรทติ้งดีกว่าฟรีทีวี แต่พอกระแสแผวลงเรทติ้งนี้ก็หายไป ก็ต้องให้เวลาพิสูจน์ต่อไป โดย champ_st จันทร์ มิ.ย. 04, 2012 6:27 pm

Re: บรรยากาศงาน vi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมารีนา มุมมองในธุรกิจด้านการบิน ธุรกิจนี้ความเสี่ยงเยอะมาก เป็นธุรกิจที่โหดร้ายมาก ทั้งเรื่องของการแข่งขันกันเอง และความเสี่ยงจากราคาน้ำมัน ในโลกนี้สายการบินที่ประสบความสำเร็จและให้ปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้น แทบไม่มีเลย ที่ครั้งที่จะเติบโตก็ต้องลงทุนซื้อหรือบางบริษัทก็เช่าเครื่องบิน ก็เข้าใจยาก ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างเด็กปั๊มเติมน้ำมันเครื่องบินก็มีรายได้แน่นอน โตช้าๆ ปลอดภัยแต่จะหวังโตหวือหวาคงไมได้ เหมือนเป้นหุ้นพันธบัตรเสียมากกว่า โดย champ_st จันทร์ มิ.ย. 04, 2012 6:27 pm

Re: บรรยากาศงาน vi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมารีนา มุมมองต่อธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งมีรายใหญ่ๆอยู่ 2 ราย อาจารย์มีมุมมองว่าโครงการของผู้ถือหุ้นที่เป็นธนาคารทั้ง 2 รายนี้แตกต่างกัน ตัวที่มีสัดช่วนการถือหุ้นของธนาคารมากกว่าก็มองว่าน่าจะมีการช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีการตั้งเป้า รุกผ่านช่องทางที่เป็นธนาคารมากกว่าที่ถือหุ้นน้อยเพราะความเป็นเจ้าของนั้นแตกต่างกัน นอกจากนี้พวก ประกันภัย ประกันชีวิตก็ไม่ควรมองว่าเป็นธุรกิจที่พิเศษอะไร ที่เมืองนอกก็มีที่ปิดกิจการไปมาก ส่วนที่กำไรหรือเก่งๆก็ได้มากจากกลุ่มที่ลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนที่ดี คือตัวธุรกิจเองแค่รักษารายรับกับรายจ่ายให้พอพอกันแล้วไปวัดกำไรขาดทุนจากการลงทุนเสียมากกว่า ส่วนที่มองว่าอนาคตคนไทยจะทำประกันชีวิตมากขึ้นหรือไม่นั้น ก็มองว่าอาจมีการทำมากขึ้นแต่คงไม่ทำให้โตก้าวกระโดดอะไรมากมายคงไปแค่เรื่อยๆเพราะรายได้ของคนไทยก็ยังไม่สูงมากนักเมือ่เทียบกับประเทศที่มีการประกันอย่างมาก หลังๆก็มีการขายผ่านของทางว่าได้ผลตอบแทนมากกว่าฝากออมทรัพย์ คนก็ทำดูเพื่อทดแทนแต่ก็ได้ส่วนหนึ่งเท่านั้นเพราะมันขาดสภาพคล่องในการถอนเหมือนฝากคน แต่ที่สังเกตคือช่วง 3-4 ปีนี้กำไรในธุระกิจนี้อาจดูสูงเพราะทรัพย์สินที่ไปลงทุนก็ให้ผลตอบแทนที่ดีมากแต่หลังจากนี้ก็อาจต้องระมัดระวังหน่อย เรื่องของการตั้งสำรองก็ทำให้เกิด กำไร ขาดทุนได้ซึ่งเราก็ต้องระมัดระวังในการลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ด้วย ส่วนที่เล่นเรื่องผลตอบแทนขั้นบันได ก็อย่างี่กล่าวไว้คือ มันมีการคิดผลตอบแทนให้เราเร็จแล้วว่าทำแล้วผู้เอาประกันจะได้อะไรเท่าไหร่แค่เอาเงินเบี้ยประกันที่ผู้เอาประกันภัยส่งไปหาผลตอบแทนได้ได้สูงกว่าที่ตกลงในสัญญาก็เหมือนกันธุระกิจธนาคารี่รับความเสี่ยงจาก สเปรดของดอกเบี้ยจากและดอกเบี้ยรับที่หามาได้ โดย champ_st จันทร์ มิ.ย. 04, 2012 6:26 pm

Re: บรรยากาศงาน vi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมารีนา กลับมารายงานย่อๆ เซ็นเซอร์ชื่อหุ้นให้เหลือแต่หลักการลงทุนทีได้รับมานะครับ ถ้าตกหล่นหรือเข้าใจผิดก็ชี้แนะด้วยนะครับ มุมมองเกี่ยวกับหมวดธนาคารของอาจารย์ ประเด็นที่น่าสนใจคือการดูหุ้นกลุ่มธนาคารนั้น เราอาจต้องพิจารณาถึงเรื่องการตั้งสำรองของแต่ละธนาคารเข้ามาประกอบเพื่อดูคุณภาพของกำไรด้วย บางธนาคารมีที่มีการตั้งสำรองไว้สูงๆ กำไรต่อหุ้นที่ปรากฏออกมาหรือ E จะไม่สูงมาก บางธนาคารมีการตั้งสำรองที่ต่ำกว่าก็จะให้กำไรต่อหุ้นออกมาค่อนข้างสูงถึงจะเป็นการตั้งสำรองตามที่กฏหมายกำหนดไว้ก็ตาม ทำให้ถ้าเรามอง pe เพียงอย่างเดียวจะพบว่าบางธนาคารบาง บางธนาคารถูกแล้วตัดสินใจจากความถูกและแพงของ PE เลยก็ดูจะไม่ครบถ้วนนัก นอกจากนี้ธนาคารเล็กๆเมือ่เกิดวิกฤติจะมีปัญหาก่อนทั้งนี้เพราะโครงการเงินฝากของธนาคารเล็กๆขึ้นอยู่กับคนฝากเพียงไม่มากนัก และการคุ้มครองเงินฝากในปัจจุบันก็ไม่เป้น 100% เหมือนในอดีตแล้ว เมือ่เกิดปัญหาคนก็จะแห่ถอนเงินจากธนาคารเล็กๆเพื่อไป ฝากธนาคารที่ใหญ่และมั่นคงน่าเชือถือในสายตาของคนทั่วไปก่อน และสิ่งธนาคารที่มีทุนสำรองต่ำก็จะยิ่งอันตรากว่าธนาคารที่มีทุนสำรองสูงกว่า ในส่วนของการเติบโตของธนาคารนั้นก็อาจต้องระมัดระวัง เพราะขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคาร ถ้าธนาคารอยากโตมากก็ปล่อยสินเชื่อออกไปมากๆ ซึ่งในช่วงแรกๆคนกู้ก็ยังมีกำลังผ่อนเพราะพึ่งเริ่มต้น แต่อนาคตหากเกิดวิกฤติ ธนาคารที่ปล่อยกู้ออกไปมากๆเร่งการเติบโตมากเกินไปกำไรดีๆในช่วงแรก อาจลำบากหนักในส่วนวิกฤติ เรียกว่ากินก่อนผ่อนที่หลัง ซึ่งตรงนี้เราวิเคราะห์ได้ยากเพราะขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้บริหารล้วนๆ โดย champ_st จันทร์ มิ.ย. 04, 2012 6:26 pm

Re: บรรยากาศงาน vi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมารีนา ใครอะครับอยากรู้จักด้วย เอก อย่าไปตอบนะครับ.... รอให้แชมป์ เอา lecure มาให้ลอกก่อน... :twisted: i saw his book duoy kab.Lots of lecture loey kab^^ Champ posts noi na:) ทีมงานกับอาจารขออย่าโพสครับเป็นประเด็นอ่อนไหว พอดียังไม่ได้พิมเลยมาเที่ยวหลายวัน555 โดย champ_st จันทร์ มิ.ย. 04, 2012 12:47 am

Re: บรรยากาศงาน vi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมารีนา ได้คุยกะเซียน Bxxx มากหน่อย ถ้าเข้าใจผิดบ้างก็ขออภัยคับ ผมค่อนข้างสนใจเเนวคิด เหตุเเห่งการเลือกหุ้น เลยออกเเนวสัมภาษณ์ไปหน่อยนะค้บ :D เอก ถ้าย้อนเวลากลับไปตอนเงินน้อยๆ ด้วยความรู้ตอนนี้ยังจะทําเเบบเดิมไม๊(ถือหุ้นน้อยตัว) B ทําเเบบเดิม เเต่จะดูdown side มากขึ้น เอก ถ้าportเล็กๆก็จําเป็นต้องทําเเบบนี้ B ใช่ ผมเห็นว่าport โต15% ต่อปีม้นช้าสู้ทําอย่างอื่นดีกว่า เเต่ตอนนี้เริ่มสบายๆ เงินใช้จ่ายก็มาจากปันผล เอก port ใหญ่ขนาดไหนถึงเริ่มสบายได้ 100 ล้าน? B เเล้วเเต่คน เเต่ 100 ล้านนี่ ฝากพันธบัตรก็ได้ 4-5เเสนเเล้วนะ (ยิ้ม :)) เอก ได้ข่าวว่าตอนได้หุ้นตีเเตก ได้อ่าน annual report ของคู่เเข่งในset เเละท้ังภูมิภาค B ใช่ เเต่ของภูมิภาคผมอ่าน reserch เอา เอก (Classic question) set จะตกอีกไหม B ไม่รู้ แต่พยายามถือหุ้นปลอดภัยที่อนาคตดี พร้อมปันผลดีเป็นbufferกันหุ้นตกมาก ถ้าsetตกมากๆจิง ก็ขายไปซื้อตัวที่ตกมากกว่าได้ as i have talked to many great VI including him, Almost all of them consider much on dividend as buffer also. ใครอะครับอยากรู้จักด้วย โดย champ_st อาทิตย์ มิ.ย. 03, 2012 3:09 pm

Re: บรรยากาศงาน vi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมารีนา ว่าแต่ว่าข้าวเหนียวมะม่วงอร่อยมั๊ยอ่ะครับ ผมไม่ทันได้กิน พอดีรับหน้าที่ลงทะเบียน ร่วมกับน้อง kongkang little wing และ oatty พอเสร็จมากินอาหาร เหลือแต่หอย อิ อิ อร่อยม๊าก หวานๆ โดย champ_st อาทิตย์ มิ.ย. 03, 2012 3:08 pm

Re: นับถอยหลังสู่การขึ้นเรือ VI ON CRUISE http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=51940 มันอยู่อีกกระทู้นี่เอง ตอนแรกผมหาไม่เจอ :oops: :oops: :oops: เห็นชื่อที่จองมีมาเป็นคู่ก็เยอะ อ่านแล้วรู้สึกอิจฉาขึ้นมา ม่ายรู้ว่าเป็นอารายยย 555 ฮิฮิ เดี่ยวนี้ พร่ำเพ้อถึงการมีคู่เยอะนะพี่ 5555 โดย champ_st พุธ พ.ค. 30, 2012 1:11 pm

Re: ทำไมต้อง การลงทุนตอนนี้ไปแต่ทวาย ขอแสดงความคิดเห็นบ้างครับ เนื่องจากเคยศึกษาเรื่องพม่ามานิดหน่อย จริงๆแล้วถ้าในความเห็นผมมองว่า ท่าเรือน้ำลึกทวายกับเหตุอุตสหกรรมทวาคงเกิดได้ยากถ้าจะเกิดคงต้อใช้เวลาไม่น้อยกว่า 10 ปีครับ ด้วยเหตุผลดังนี้ ระบบโครงสร้างพื้นฐานของพื้นที่ในบริเวณนี้ยังขาดความพร้อมอย่างยิ่ง ตั้งแต่ รูปแบบกฏหมาย (จริงๆแล้วคนเราพึ่งมาสนใจว่าต่างชาติเลิกคว่ำบาตรกับพม่า บราๆตามที่ตีข่าวกันว่าแต่ถ้าในเชิงไม่เป้นทางการนั้น รัฐบาลในต่างประเทศก็ไมได้คว่ำบาตรไม่คบค้าสมาคมพม่าแบบหมดสินเยื่อใยครับ ยังมีการเจรจาพูดคุยกันแบบไม่เป็นทางการและมีโครงการแลกเปลี่ยนในหลายเรื่อง) กลับมาที่รุปแบบกฏหมายต่อส่วนใหญ่ที่เอกชนยังรู้สึกกังวลคือระบบการเก็บภาษี ซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักสากลในหลายๆอย่างเช่นต้องนำเข้าก่อนถึงส่งออกได้ การร่วมทุน การดำเนินกิจการของต่างด้าว และที่น่าสนใจคือการใช้ที่ดินของพม่า ถ้าจำไม่ผิดสัมประทานใช้ที่ดินนี่ 30ปีครับต่อไม่ต่อแล้วแต่ความพึงพอใจของรัฐบาลซึ่งสั้นมากแต่ค่าเช่าที่ดินก็โครตถูกเลย แถวทวายที่ไร่ละ 20บาทต่อปี พื้นที่ดินและเขตถนนชุมชนรอบๆนี่ยังเป้นถนนลูกรังรังครับ เขตที่เจริญที่สุดของพม่า คือเส้นย่างกุ้ง-มันดาเล ถนนปูนซีเมน รถบรรทุกวิ่งได้ 70 กม/ชม แล้วคิดว่าเขตนี้ที่ยังไม่ไปไหนจะมีสภาพถนนเป็นอย่างไร เหตุนี้ทำให้ต้นทุนด้านโลจิสติกของพม่าสูงมาก เรียกว่าเกือบที่สุดในภูมิภาคนี้ เทียบไซด์โครงการทวาย (15 ล้านBTU)ถ้าสำเร็จคือจะมีขนาดใหญ่กว่ามาบตาพุด 1 เท่า(7.5ล้านBTU) แต่ก็เล็กกว่าท่าเรือสิงคโปค์ 1 เท่า(30ล้าน BTU)เช่นกัน ซึ่งสำหรับพม่าแล้วถือว่าการจัดการเป็นเรื่องสำคัญมากและคิดว่าคงยังทำได้ไม่ดีแถมที่บอกว่าจะให้พันมิตรมาจัดการก็คงเป้นเรื่องยากเพราะติดปัญหาการเมือง กฏหมาย ผลประโยชน์ ชาวบ้าน ถ้ามองถึงท่าสำคัญทางเศรษฐกิจจริงๆพม่ามีท่าเรือที่สำคัญแล้ว คือย่างกุ้งซึ่งเป้นเมืองเศรษฐกิจด้วย ถ้าเทียบปริมาณการขนถ่ายสินค้าแล้วท่าที่ย่างกุ้งก็ 80%ของการขนถ่ายทางทะเลครับ นอกจากนั้นยังมีท่าเรือที่สำคัญอย่าง มะละแมง และยะอับอีกท่า เลยมองว่าท่าเรือทวายนี่ยังไม่ค่อยน่าสนใจในตอนนี้ จีนอาจมองแค่ท่านี้ใช้ขนส่งแก๊สของอินเดียเข้าจีนเท่านั้นเพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน โดย champ_st อังคาร พ.ค. 29, 2012 11:24 pm

Re: นับถอยหลังสู่การขึ้นเรือ VI ON CRUISE แล้วเราจะไปลอกหุ้นวงไหนดีละเนี่ย 555 โดย champ_st เสาร์ พ.ค. 26, 2012 9:10 am

Re: เขียนเท่าที่จำได้ งานสัมมนา ดร นิเวศ 18/5/2555 อิอิ มีคนมาจดต่อแล้ว รับรองรวยแน่นอนครับขยันๆ โดย champ_st พุธ พ.ค. 23, 2012 8:41 pm

Re: สำรวจหุ้นที่เคยถือนานที่สุดในชีวิต เอาแบบสั้นๆบ้างไหม 555มี30วินาที เพราะนานๆบางคนยังไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน โดย champ_st พุธ พ.ค. 23, 2012 7:52 pm