หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
kakathi
" "
Joined: อาทิตย์ พ.ย. 30, 2008 6:24 pm
186
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - kakathi
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: เจาะเซฟ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ปรับพอร์ตหุ้น เน้น…
ขอบคุุณครับ :D ในความคิดผมลองสรุปแบบของผมได้ดังนี้.. หลักการเลือกหุ้นของ ดร. 1. ธุรกิจมีโอกาสเติบโตหรือไม่? (sun rise,growth?) 2.เป็นผู้ชนะหรือไม่?(Durable Competitive Advantage : DCA) 3.ราคาหุ้นเป็นอย่างไร? (valuation)
โดย
kakathi
พุธ ม.ค. 25, 2012 9:21 am
0
1
Re: ลงทุนแบบ ปีเตอร์ ลินซ์
ขอบคุณครับ :D
โดย
kakathi
อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2011 8:26 pm
0
0
Re: การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ TTA ?
เปิดเบื้องลึก!กลุ่มทุนใหม่ฮุบกิจการทีทีเอ วันที่ 30 พฤษภาคม 2554 08:47 โดย : อภิญญา มั่นช้อย กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ซีอีโอ "ทีทีเอ" เปิดใจ "กรุงเทพธุรกิจ" แฉเบื้องลึกศึกเทคโอเวอร์ ถ่านหินขุมทรัพย์ใหญ่ 2 ปี ครองรายได้ 50% ต้องยอมรับว่า การออกมาเปิดโปงกระบวนการจ้องเทคโอเวอร์กิจการของ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ (TTA) ของ ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นร้อนที่กำลังถูกจับตามองจากสังคม โดยเฉพาะการพาดพิงถึง วิจิตร สุพินิจ ประธานคณะกรรมการ กำกับหลักกทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่มาร่วมเจรจากับกลุ่ม บี เตชะอุบล และ วีระ มานะคงตรีชีพ ซึ่งแต่ละชื่อล้วนแต่เป็นผู้ที่คร่ำหวอดในตลาดทุน โดยเฉพาะ วิจิตร นั้นถือว่าเป็นเบอร์หนึ่งของวงการตลาดทุนก็ว่าได้ ม.ล.จันทรจุฑา ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า การออกตัวของเราในครั้งนี้ไม่ได้แรง แต่มันคือข้อเท็จจริงที่นำมาเล่าให้สื่อมวลชนฟัง เพราะว่าก่อนหน้าที่จะตัดสินใจออกมาแถลงข่าวนั้น มีกระแสข่าวที่เกี่ยวข้องกับการเทคโอเวอร์กิจการทีทีเอ ออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร แต่หลังจากที่มีสื่อมวลชน ผู้ถือหุ้น ที่ติดต่อเข้ามาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ก็เลยตัดสินใจแถลงข่าว เขาบอกว่า สิ่งที่เขาได้ตัดสินใจออกไปนั้น ได้ผ่านการหารืออย่างรอบคอบทั้งคณะกรรมการของบริษัท ฝ่ายกฎหมาย แม้กระทั่งที่ปรึกษาการเงิน ซึ่งการตัดสินใจทั้งหมดก็ผ่านการกลั่นกรองอย่างรอบคอบแล้ว พร้อมทั้งบอกด้วยว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ตั้งใจที่จะเก็บตัว ทุกคนในบริษัททราบดีว่าผมมุ่งมั่นทำธุรกิจอย่างเดียว เดินทางตลอด ไม่ได้ปิดตัวอะไร พยายามวางรากฐานธุรกิจให้แข็งแกร่ง บริหารธุรกิจอย่างมืออาชีพ "ผมบริหารอย่างมืออาชีพ และผมก็มีหุ้นทีทีเอ เพียง 4 ล้านหุ้น ไม่ใช่ 4% ตามที่เป็นข่าว ผมมุ่งมั่นที่จะวางรากฐานบริษัท และหากกลุ่มทุนใหม่จะเข้ามาจริงก็พร้อมที่จะรับฟังความเห็น" อย่างไรก็ตาม การที่บริษัท ทีทีเอ ไม่ได้มีเจ้าภาพหลักหรือผู้ถือหุ้นหลัก ก็น่าจะเป้าที่จะถูกการเทคโอเวอร์กิจการได้ เพราะด้วยพื้นฐานของทีทีเอนั้น ถือว่าเป็นขุมทรัพย์ที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตได้ หรือแม้กระทั่งหากกลุ่มทุนที่เข้ามาแล้วไม่ต้องการทำธุรกิจ แค่ขายสินทรัพย์ที่ถืออยู่ก็มีกำไร แม้ว่าเขาจะไม่ระบุโดยตรงว่าสาเหตุหลักของความพยายามเข้ามาเทคโอเวอร์คือ อะไร แต่การอธิบายถึงทิศทางและขุมทรัพย์ของบริษัทที่จะออกดอกออกผลในระยะอันใกล้ นี้ คือ "ปม" จูงใจ ให้คนบางกลุ่มจ้องเข้ามาเทคโอเวอร์ โดยเฉพาะธุรกิจ "ถ่านหิน" ที่มีแนวโน้มขยายปีกใหญ่โตและสร้างรายได้อย่างงดงามให้แก่บริษัท ทั้งเหมืองในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ธุรกิจเดินเรือขาลงเร่งตัดขาย ม.ล.จันทรจุฑา ได้สังเคราะห์ธุรกิจทั้งหมดของทีทีเอ แต่ละกลุ่มธุรกิจให้ฟังว่า ในส่วนของธุรกิจเดินเรือนั้นเดิมทีถือเป็นรายได้หลักกว่า 95%ของรายได้รวม และที่ผ่านมาก็สร้างกำไรให้กับบริษัทค่อนข้างมากโดยเฉพาะในช่วงปี 2550-2551 ค่าระวางเรือพุ่งสูงมากถึง 24,000 ดอลลาร์ต่อวันเดินเรือ ดัชนีค่าระวางเรือ หรือ Baltic Dey Index (BDI) ขึ้นสูงถึง 1,200 จุด ปี 2551 กำไรของบริษัทมากถึง 8.7 พันล้านบาท และก็หล่นฮวบลงมาในปี 2552 กำไรเหลือแค่ 1,814 ล้านบาท และล่าสุดปี 2553 กำไรได้ลดฮวบลงมาอยู่ที่ 795 ล้านบาท ซึ่งเขาเห็นสัญญาณการชะลอตัวอย่างรุนแรงของธุรกิจเดินเรือตั้งแต่ปี 2551 "ตอนที่ ทีทีเอ มีกำไรมากๆ หากเราตัดสินใจลงทุนซื้อเรือเพิ่มช่วงนั้น บอกได้เลยว่า ทีทีเอ จะขาดทุนมากๆ ซึ่งเราก็อยู่แล้ว เรามองมาตลอดตั้งแต่ปี 2550 จึงเป็นที่มาของการลงทุนในธุรกิจอื่นเพิ่มเติมเพื่อลดความผันผวนของบริษัท เพียงแต่สิ่งที่บริษัทวางรากฐานไว้ยังไม่ได้ออกผลในช่วงนี้ แต่จะเริ่มดีในอีก 12 เดือนข้างหน้า" การลดความผันผวนของธุรกิจเดินเรือ เริ่มจากการตัดขายเรือ 7 ลำ ซึ่งจะทยอยส่งมอบภายใน 2-3 เดือนจากปัจจุบัน ทีทีเอ มีเรือ 23 ลำ และเรือที่ขายส่วนใหญ่จะเป็นเรือเล็กที่มีอายุการใช้งานนานมาก โดยเงินที่ได้จากการขายเรือในครั้งนี้ประมาณ 35 ล้านดอลลาร์ แต่ว่าเราก็ไม่บุ่มบ่ามที่จะซื้อเรือใหม่เพิ่ม เพราะมองว่าวัฏจักรของธุรกิจเดินเรือจะยังซบเซาต่อเนื่องอีก 1-2 ปี ดังนั้นบริษัทก็ไม่จำเป็นที่จะรีบร้อนลงทุน รอจังหวะที่เหมาะสมจะดีกว่า 2 ปีถ่านหินธุรกิจหลักบริษัท ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการสยายปีกไปสู่ธุรกิจถ่านหิน ซึ่งเขามั่นใจว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าจะกลายเป็นธุรกิจหลักของทีทีเอ มีสัดส่วนรายได้มากกว่า 50% จากปัจจุบันโครงสร้างรายได้ของทีทีเอ มาจากธุรกิจเดินเรือ 38.17% ธุรกิจพลังงาน 27.28% และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ประมาณ 34% เขายังได้ประเมินแนวโน้มของธุรกิจถ่านหินว่า ยังสดใส ความต้องการใช้ในตลาดโลกสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บริษัทตัดสินใจร่วมทุนกับพันธมิตรลงทุนในบริษัท เมอร์ตันกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาสินทรัพย์ที่เป็นถ่านหินที่ประเทศฟิลิปปินส์ตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา และเพิ่งจะเริ่มผลิตได้ในเดือนที่ผ่านมา 1 หมื่นตันต่อเดือน ซึ่งก็สามารถขายได้หมดในราคาเฉลี่ย 105 ดอลลาร์ต่อตัน และคาดว่ากำลังผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 หมื่นตันต่อเดือน เพราะในอนาคตบริษัทกำลังจะลงทุนเพิ่มอีก 10 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในอนาคตทีทีเอก็จะถือหุ้นประมาณ 30% สำหรับเหมืองถ่านหินที่ฟิลิปปินส์นั้น มีพื้นที่สัมปทานประมาณ 7.5 หมื่นไร่ เหมืองแรกมีสำรองถ่านหินประมาณ 3-4 ล้านตัน และเหมืองที่ 2 คาดว่าจะมีสำรองประมาณ 5-6 ล้านตัน และถ่านหินที่ผลิตได้ส่วนใหญ่เป็นถ่านหินคุณภาพสูง และขณะนี้ก็มีลูกค้าเซ็นสัญญารับซื้อถ่านหินทั้งหมดที่ผลิตจากเหมืองดัง กล่าว ถัดมาก็ตัดสินใจเทคโอเวอร์กิจการบริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส หรือ UMS และช่วงนี้ก็อยู่ระหว่างการปรับยุทธศาสตร์เพื่อความแข็งแกร่งในอนาคต ล่าสุดก็ลงทุนในเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย โดย ทีทีเอ ถึงหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมรวม 28% ซึ่งเหมืองดังกล่าวมีพื้นที่สัมปทานมากกว่าเหมืองในฟิลิปปินส์ถึง 3 เท่า และจากการเริ่มดำเนินการสำรวจแค่ 20% ก็พบว่า มีสำรองประมาณ 100 ล้านตัน ซึ่งคาดว่าภายใน 2 ปี จะสามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ประมาณปีละ 1 ล้านตัน นั่นคือ ภาพขุมทรัพย์ที่จะสร้างรายได้ให้แก่ ทีทีเอ ได้อย่างมหาศาลในอนาคต ซึ่งการตัดสินใจเบนเข็มหลักมาที่ธุรกิจถ่านหิน แม่ทัพใหญ่อย่าง ม.ล. จันทรจุฑา ไม่ได้มองแค่แนวโน้มของธุรกิจถ่านหินเท่านั้น แต่ส่วนหนึ่งก็จะเข้ามาเสริมธุรกิจเดินเรือ ซึ่งในอดีตเคยเป็นรายได้หลักของทีทีเอ เพราะจากฐานลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งทางเรือของทีทีเอนั้น มีกลุ่มถ่านหินมากถึง 20.8% ของสินค้าที่มาใช้บริการ ลุยธุรกิจปุ๋ย-โลจิสติกส์ ในเวียดนาม ไม่เพียงแต่เท่านั้น การลงทุนในธุรกิจปุ๋ยโดยถือหุ้น 100% ในบริษัท บาคองโค ที่ประเทศเวียดนาม ที่ ทีทีเอ ได้ลงทุนไป 10 ล้านดอลลาร์ ล่าสุดก็คืนทุนหมดแล้ว และจากนี้ไปก็จะสร้างผลตอบแทนต่อเนื่อง โดย ม.ล.จันทรจุฑา ยอมรับว่า เป้าหมายหลักของบริษัทไม่ใช่ธุรกิจปุ๋ย แต่เป้าหมายอยู่ที่การทำธุรกิจโลจิสติกส์มากกว่า เนื่องจากโลเคชันของบริษัทดังกล่าวติดกับท่าเรือน้ำลึกที่ใหญ่ที่สุดใน เวียดนาม เป้าหมายของบริษัทอยู่ที่ท่าเรือมากกว่า ส่วนธุรกิจปุ๋ยนั้นก็ขายเงินสด เพื่อลดความผันผวนของค่าเงิน อนาคตธุรกิจในเวียดนามจะเติบโตสูงมาก "ก่อนลงทุนทุกครั้งเราติดอย่างรอบคอบ และมองอนาคต 3-5 ปี ไม่ใช่แค่ 3 เดือน ธุรกิจแต่ละโตมีอัตราการเติมโตทั้งหมด แต่ต้องใช้เวลา" เดินหน้าเรือขุดเจาะ การปรับยุทธศาสตร์ของ ทีทีเอ ไม่ใช่แค่การรุกคืบในธุรกิจใหม่ๆ ที่มีอนาคตเท่านั้น ในส่วนของธุรกิจเดิมนอกเหนือจากธุรกิจเดินเรือ ก็มีการปรับกลยุทธ์ โดยในเฉพาะในส่วนของบริษัทย่อยคือเมอร์เมด ที่มีบริษัทย่อยทำธุรกิจ 2 ประเภท คือ ธุรกิจบริการเรือขุดเจาะ และวิศวกรรมใต้น้ำ ซึ่งผลประกอบการในปี 53 ยังติดลบ และก็มีแนวโน้มท่าจะติดลบถึงปีนี้ เนื่องจากความต้องการใช้บริการนอกชายฝั่งลดลงอย่างมาก หลังจากที่เกิดเหตุการณ์สารรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งคาดว่าในปีหน้าทุกอย่างน่าคลี่คลายและผลประกอบการพลิกบวกได้ เขาอธิบายต่อว่าจากเหตุการณ์ที่อ่าวเม็กซิโก ทำให้บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ หันมาใช้บริการเรือใหม่ ซึ่งบริษัทก็เห็นเทรนด์นี้ จึงลงทุนในบริษัทเรือขุดเจาะใหม่ผ่านบริษัท AOD ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นอร์เวย์ในเดือนมิ.ย. นี้ ดังนั้นในอนาคตเมอร์เมดจะยุบรวมธุรกิจเรือขุดเจาะมาอยู่ที่ AOD เหลือ เพียงธุรกิจวิศวกรรมใต้น้ำ "เรามั่นใจว่าสิ่งที่ทำทุกอย่าง จะเริ่มเห็นผล และการที่บริษัทถือหุ้นในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศถึง 2 ก็เป็นสิ่งสะท้อนถึงความน่าเชื่อของบริษัท และทุกอย่างที่ลงทุนก็มองรอบด้าน หากนักลงทุนรายใหม่ตั้งใจจะเข้ามาลงทุนและทำให้บริษัทดีขึ้นเราพร้อม แต่หากตั้งใจมาทำอย่างอื่นก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะสิ่งที่เราทำทั้งหมดตอนนี้ก็เพื่อให้บริษัทที่มีอายุยาวนาน 107 ปีอยู่ได้ พนักงาน 2,700 คน อยู่ได้" ธุรกิจของ ทีทีเอ ที่กล่าวมาในตอนต้นทั้งหมด น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนว่า เหตุใดจึงเป็นเป้าหมายของกลุ่มทุนที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์ เพราะนอกจากพื้นฐานที่แข็งแกร่งแล้ว ต้องยอมรับว่าทีทีเอ มีจุดด้อยที่จะเป็นเป้าการถูกเทคโอเวอร์ก็คือ การไม่มีเจ้าภาพหลัก ในการคอนโทรลหุ้น และหากโครงสร้างผู้ถือหุ้นยังเป็นแบบกระจายอย่างนี้ ม.ล.จันทรจุฑา ในฐานะที่เป็นฝ่ายบริหาร ก็ต้องทำใจเตรียมรับมือกับการเป็นเป้าของการถูกเทคโอเวอร์ต่อไป สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2554 มีดังนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง คือ บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 27,723,629 หุ้น หรือคิดเป็น 4% อันดับสอง STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY จำนวน 18,066,882 หุ้น หรือ 2.55% อันดับสาม HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD จำนวน 11,375,368 หุ้น หรือ คิดเป็น 1.61% ขณะที่อันดับสี่ น.ท.อภิวัฒน์ ชาญชัยมงคล จำนวน 11 ล้านหุ้น หรือ 1.55% อันดับห้า STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY FOR LONDON ถืออยู่ 8,126,400 หุ้น หรือ 1.15% อันดับหก นายประทีป ตั้งมติธรรม จำนวน 7,593,400 หุ้น หรือ 1.07% อันดับเจ็ด NORTRUST NOMINEES LIMITED-MELBOURNE BRANCH FUTURE FUND CLIEN จำนวน 7,031,771 หุ้น หรือ 0.99% โดยตั้งแต่อันดับ 8-17 จะถือเฉลี่ย 3-5 ล้านหุ้น หรือประมาณ 0.5-0.7% สำหรับราคาหุ้น ทีทีเอ เมื่อวันศุกร์ที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา ปิดที่ระดับ 22 บาท
โดย
kakathi
จันทร์ พ.ค. 30, 2011 4:57 pm
0
0
Re: ทำอย่างไรกับหุ้นตัวที่ถืออยู่ถูกเทนเดอร์ฯ
บทความจากเวบ กลต.ครับ http://www.sec.or.th :D ทำอย่างไรดี เมื่อเจอคำเสนอซื้อหุ้น tender offer ? โดย : ก.ล.ต.คู่คิดนักลงทุน จารุพรรณ อินทรรุ่ง วันที่ 24 มิถุนายน 2553 01:00 ประเด็นหนึ่งที่ผู้ลงทุนมักถามมายัง ก.ล.ต. ก็คือ เมื่อบริษัทที่ลงทุนอยู่ เกิดมีกลุ่มทุนใหม่จะเข้ามาเทคโอเวอร์บริษัทโดยมีการทำคำเสนอซื้อหุ้น (tender offer) จากผู้ถือหุ้นทั่วไป ในฐานะผู้ลงทุน ถ้ายังไม่อยากขายหุ้น ควรจะทำอย่างไร? ไม่ต้องห่วงค่ะ วันนี้ ดิฉันมีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกันอีกเช่นเคย ทำไมต้องมีการทำคำเสนอซื้อ? ลองนึกถึงหนังจีนที่คุณเคยดูนะคะ ตระกูลพระเอกบริหารบริษัทอยู่ดีๆ วันหนึ่งมีใครก็ไม่รู้ดอดเข้ามาถือหุ้นในบริษัทพระเอกไปเกิน 50% และเตรียมปลดครอบครัวพระเอกออกเพื่อขึ้นบริหารงานแทน ถามว่าในโลกแห่งความเป็นจริง ถ้าคุณเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทพระเอก คุณจะกังวลไหมคะว่าอยู่ดีๆ มีคนแปลกหน้าเข้ามาบริหารบริษัทแทน ซึ่งคุณก็ไม่รู้ว่าเขาเก่ง/ดีพอหรือเปล่า แล้วคุณจะมีทางเลือกอะไรบ้าง ตรงนี้ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เพราะตลาดทุนเรามีเกณฑ์กำหนดว่า เวลาที่ใครจะเข้าไปเทคโอเวอร์กิจการของบริษัทจดทะเบียนใดก็ตาม ผู้ที่จะเข้าไปเทคโอเวอร์นั้น ต้องเปิดช่องให้ผู้ถือหุ้นเดิมมีทางเลือก (fair exit) ว่าจะยังคงอยากถือหุ้นต่อไปแม้เปลี่ยนอำนาจการบริหารแล้ว หรือจะเลือกขายหุ้น เพราะไม่แน่ใจอนาคตบริษัทหลังเปลี่ยนอำนาจบริหาร ดังนั้น ผู้ที่จะเข้าไปเทคโอเวอร์กิจการ ก็จะต้องมีหน้าที่ทำคำเสนอซื้อหุ้น ในส่วนที่เหลือทั้งหมด เมื่อตัวเองได้หุ้นในกิจการเท่ากับหรือมากกว่าระดับที่ 25% 50% และ 75% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการค่ะ ทั้งนี้สำหรับการทำคำเสนอซื้อในบ้านเราที่ผ่านมาก็พบทั้งในลักษณะของการเปลี่ยนอำนาจบริหารอย่างในหนังจีนที่ยกมา หรือบางทีก็ไม่มีการเปลี่ยนมือผู้บริหารค่ะ แต่ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจนแตะเกณฑ์ก็มี รวมถึงการทำคำเสนอซื้อเพื่อเอากิจการออกจากตลาดหลักทรัพย์ (delisted) ก็พบเช่นกันค่ะ ศึกษาข้อมูลให้ถ้วนถี่ เมื่อเกิดกรณีหุ้นที่คุณถืออยู่มีการทำคำเสนอซื้อ สิ่งแรกที่ควรทำในฐานะผู้ถือหุ้นคุณภาพ คือ ศึกษาข้อมูลจากคำเสนอซื้อค่ะ อาจใช้หลัก Who, What, Why, When, How มาจับก็ได้ว่า ใครเป็นคนทำคำเสนอซื้อ เป็นผู้บริหารกลุ่มเดิม หรือเป็นหน้าใหม่ วัตถุประสงค์ในการทำคำเสนอซื้อคืออะไร ทำไมเขาถึงสนใจอยากเข้ามา เช่น ต้องการอำนาจควบคุมบริษัทเพื่อขยายกิจการ หรือเพื่อเอาบริษัทออกจากตลาดฯ รวมถึงดูเรื่องของเวลาในการรับซื้อหลักทรัพย์ว่าเป็นเมื่อไร ราคาที่เสนอซื้อและเงื่อนไขเป็นอย่างไร (เช่น บอกถึงการยกเลิกคำเสนอซื้อ หรือการชำระค่าหุ้นไว้อย่างไร) นอกจากนั้น อาจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม เช่น ดูว่าแหล่งเงินที่จะมาจ่ายค่าซื้อหุ้นนั้นมาจากไหน หรือดูงบการเงินของผู้ที่ทำคำเสนอซื้อว่าฐานะเป็นอย่างไร มีแผนอย่างไรในการเข้ามาบริหารกิจการต่อ หรือจะว่าจ้างคนอื่นมาบริหารแทนหลังจากทำคำเสนอซื้อสำเร็จแล้ว ฯลฯ ความเห็นจาก “ตัวช่วย” ต่างๆ ก็สำคัญ อีกข้อมูลที่ต้องดูเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะขายหุ้นในคำเสนอซื้อหรือไม่ คือ ความเห็นจากบริษัทที่คุณถือหุ้นอยู่ และความเห็นจากที่ปรึกษาการเงินอิสระ (หรือ IFA) ทั้งสองส่วนนี้จะศึกษาข้อมูลคำเสนอซื้อและให้ความเห็นต่อผู้ลงทุน อย่างเรื่องหลัก ๆ ก็เช่นดูว่าแผนธุรกิจของผู้ที่ทำคำเสนอซื้อดีกับบริษัทหรือไม่ ราคาที่เสนอซื้อนั้นเหมาะสมไหม พร้อมคำแนะนำว่า ผู้ลงทุนควรตัดสินใจอย่างไร (ขายหรือไม่ขาย) อย่างไรก็ตาม มุมมองที่ออกมาจาก “ตัวช่วย” ทั้งสองฝั่งนี้ บางกรณีอาจไปแนวทางเดียวกัน บางกรณีอาจมองต่างมุม เช่น ความเห็นบริษัทบอกว่าราคาเหมาะสมแล้ว ผู้ถือหุ้นควรขาย แต่ IFA กลับให้ความเห็นว่า มูลค่าของหุ้นสูงกว่านั้น ราคาที่เสนอซื้อต่ำไป ผู้ถือหุ้นไม่ควรขายก็มีค่ะ ซึ่งในกรณีที่ความเห็นต่างกัน ผู้ลงทุนก็ต้องประมวลข้อมูล เทียบข้อดีข้อเสียว่าท้ายที่สุดจะตัดสินใจอย่างไร อยากแถมอีกนิดเรื่อง “ราคา” ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้ลงทุนคาใจ (เพราะมักไม่สูงอย่างที่หวัง) ว่าตัวเลขมาจากไหน ตรงนี้ถ้าเป็นคำเสนอซื้อทั่วไป (ที่ไม่ใช่การเอาบริษัทออกจากตลาดฯ) เกณฑ์บอกไว้ว่า หากผู้ทำคำเสนอซื้อเคยได้หุ้นมาราคาเท่าใด (นับย้อนไปถึง 90 วันก่อนทำคำเสนอซื้อ) ราคาในคำเสนอซื้อก็ต้องไม่ต่ำไปกว่านั้นค่ะ แต่หากไม่มีการได้หุ้นมา ราคาก็จะกำหนดด้วยวิธีอื่น เช่น เปรียบเทียบราคาตลาด หรือดูมูลค่าทางบัญชี หรืออีกวิธีหนึ่งคือการประเมินจากมูลค่าทั้งหมดของกิจการโดยดูมูลค่าในอนาคตแล้วประเมินว่ามูลค่าปัจจุบันควรเป็นเท่าไร ผู้ลงทุนบางท่านอาจเลือกไม่ขายหุ้น หากมั่นใจว่าผู้บริหารทีมใหม่สามารถทำให้ธุรกิจเติบโตก้าวหน้า แต่หากเป็นการทำคำเสนอซื้อเพื่อเอาบริษัทออกจากตลาดฯ นอกจากดูราคาตอนที่ได้หุ้นมาว่าสูงกว่าราคาในคำเสนอซื้อหรือไม่ ผู้ลงทุนยังต้องคำนึงถึงเรื่องสภาพคล่องที่จะหายไปหลังหุ้นออกจากตลาดฯ แล้วด้วยค่ะ ค่อยๆ ตัดสินใจ ไม่จำเป็นต้องรีบ สำหรับการตัดสินใจเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องรีบทำตั้งแต่วันแรกๆ ที่มีคำเสนอซื้อเข้ามา ผู้ลงทุนมีเวลาตามเกณฑ์ในคำเสนอซื้ออย่างน้อย 25 วัน ขณะที่ความเห็นของบริษัทและ IFA จะมาถึงมือผู้ถือหุ้นใน 15 วันทำการหลังจากวันที่มีคำเสนอซื้อ ซึ่งผู้ลงทุนควรรอดูความเห็นจากทั้งสองฝั่งนี้ก่อน อย่างไรก็ดี หากตัดสินใจขายหุ้นไปแล้วและอยากเปลี่ยนใจระหว่างทาง ก็สามารถทำได้นะคะ (แต่มีเงื่อนไขว่า ตอนที่คุณส่งแบบตอบรับคำเสนอซื้อส่งกลับไปที่ตัวแทนผู้ทำคำเสนอซื้อนั้น จะต้องไม่ทำเครื่องหมายในช่อง “ยืนยันไม่ยกเลิกแสดงเจตนา...” และจะต้องยื่นแบบขอยกเลิกการแสดงเจตนาขายไปที่ตัวแทนผู้ทำคำเสนอซื้อภายใน 20 วันทำการแรกนับจากวันเริ่มรับซื้อค่ะ) อย่างไรก็ตาม ถ้าไตร่ตรองดูแล้ว คุณไม่ถูกใจที่จะขายหุ้นให้กับผู้ทำคำเสนอซื้อจริงๆ คุณก็ยังสามารถเลือกที่จะขายหุ้นในตลาดฯ ได้เช่นกันค่ะ
โดย
kakathi
อังคาร พ.ค. 24, 2011 11:09 am
0
0
Re: สารคดีชีวิตสัตว์โลก :: จิตสงบ
การ์ตูนน่ารักดี โดนใจเม่า ชอบครับ :D
โดย
kakathi
อังคาร พ.ค. 24, 2011 8:04 am
0
0
Re: มาตราฐานบัญชีฉบับที่ 40 กับขุมทรัพย์ที่รอการเปิดเผย
ขอบคุณครับ :D
โดย
kakathi
พฤหัสฯ. พ.ค. 19, 2011 6:17 pm
0
0
Re: รบกวนขอเปลี่ยนuse rnameครับ
ขอบคุณครับ :D
โดย
kakathi
พฤหัสฯ. พ.ค. 19, 2011 6:00 pm
0
0
Re: รบกวนขอเปลี่ยนuse rnameครับ
รบกวนขอเปลี่ยน user name เป็น kakathi ครับ ขอบคุณครับ :D
โดย
kakathi
พฤหัสฯ. พ.ค. 19, 2011 12:18 pm
0
0
Re: ++เปิดโผหุ้น 300 เด้ง!! ตั้งแต่เข้าตลาดวันแรกจนถึงปัจจุบ
ขอบคุณครับ :)
โดย
kakathi
อาทิตย์ ธ.ค. 19, 2010 9:29 pm
0
0
ทำไมใครๆก็ชอบ หุ้นกลุ่มซื้อเชื่อขายสด
http://www.tempf.com/getfile.php?id=705928&key=4c88ddd9b441e โทษทีครับเมื่อกี๊ลืมทำเป็น zip ขอบคุณครับ :D
โดย
kakathi
ศุกร์ ก.ย. 10, 2010 9:16 am
0
0
อยากให้พี่ๆจัดคอร์ส valuation (การหามูลค่าหุ้น)
+ 1 อยากเีรียนครับ คอร์สโดนใจใครหลาย ๆ คน อิอิ :D
โดย
kakathi
พุธ ก.ย. 08, 2010 9:09 am
0
0
สำรวจ(ความสูง?)อายุของชาวTHAIVI ครับ
โหวต ให้แล้วครับ 25-30 :D
โดย
kakathi
จันทร์ ก.ย. 06, 2010 4:46 pm
0
0
"ตัน ภาสกรนที" เปิดตัวบริษัทใหม่ "ไม่ตัน"
ขอบคุณ จขกท ครับ ผมเพิ่งได้อ่าน หนังสือของคุณตันเมื่อไม่นานมานี่เอง ("ชีวิตนี้ไม่มีทางตัน ตันโออิชิ" ) พิมพ์ครั้งที่ 20 แล้วด้วย มีอยู่ประโยคนึงที่ผมชอบคือ " ความสำเร็จเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของผมอยู่ที่ประสบการณ์ความล้มเหลว ถ้าผมไม่เคยล้มเหลวมาก่อน ผมคงไม่มีวันนี้" อ่านแล้วได้ข้อคิด และแรงบันดาลใจ ดีครับ
โดย
kakathi
จันทร์ ก.ย. 06, 2010 8:31 am
0
0
ธุรกิจคอนโดกำลังโต?
ชอบกระทู้แบบนี้มากครับ หลายคนหลายความคิดเห็น อ่านแล้วได้คิดตาม นักวิชาการชี้ไม่พบสัญญาณฟองสบู่คอนโดฯ วันที่ 5 สิงหาคม 2553 14:04 โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ อสังหาริมทรัพย์ ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ม.หอการค้าไทยชี้ยังไม่พบสัญญาณฟองสบู่คอนโดฯ อ้างมีการเก็งกำไรไม่มาก แถมที่ผ่านมาราคาก็ยังไม่ได้พุ่งพรวด นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ยังไม่ห่วงฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ในส่วนคอนโดมิเนียม อย่างที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กังวล เนื่องจากคอนโดมิเนียม ยังไม่มีสัญญาณการซื้อขายเปลี่ยนมือที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในแนวรถไฟฟ้าและในย่านที่ต่างชาติอยู่อาศัย และการเก็งกำไรคอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นยังไม่มาก จนส่งผลกระทบกับภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นเพียงการลงทุนเท่านั้น และราคาของคอนโดมิเนียมก็ยังไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากนัก นอกจากนี้ จากการสำรวจผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ยังยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่พบสัญญาณการเกิดภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคงต้องติดตามในช่วงไตรมาส 1/54 ว่า จะเกิดภาวะฟองสบู่หรือไม่ ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยที่เป็นช่วงขาขึ้น ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ทิ้งเงินดาวน์ เพราะอัตราดอกเบี้ยแท้จริงยังติดลบ แต่อาจมีการเทขาย เพื่อทำกำไรในปีหน้าได้ หลังจากมีการคาดการณ์ว่า ธปท.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ในปีนี้ ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวอีกว่า ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ จะมีการปรับประมาณการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ จากที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 5–6% ในปีนี้ เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว และประชาชนเริ่มเห็นว่า เศรษฐกิจไทยมีทิศทางการฟื้นตัวที่ดีขึ้น
โดย
kakathi
ศุกร์ ส.ค. 06, 2010 12:12 pm
0
0
หลากหลุมพราง ทำให้นักลงทุนล้มเหลว
ขอบคุณครับ อ่านได้ข้อคิด เตือนสติ :D
โดย
kakathi
เสาร์ ก.ค. 31, 2010 5:24 pm
0
0
ต้นไม้เพิ่งโต อย่ารีบเด็ดยอด : เพิ่งโต อย่ารีบซื้อความสุข
ใครอยากได้ ฝาก email ไว้ได้เลยจ้า เคยทำเป็น file word ไว้ แล้วจะ mail ให้ขอรับ :D รบกวนขอด้วยคน ครับ
[email protected]
ขอบคุณครับ :D
โดย
kakathi
พุธ ก.ค. 28, 2010 8:26 am
0
0
ต้นไม้เพิ่งโต อย่ารีบเด็ดยอด : เพิ่งโต อย่ารีบซื้อความสุข
กูรูหุ้นพันล้าน : ตอนที่ 9 อย่ารีบซื้อความสุข คนเราต้องตั้งเป้าหมายให้สูงๆ เข้าไว้ และในระหว่างที่ต้นไม้กำลังโต คุณอย่ารีบไปเด็ดยอดทิ้ง อย่าด่วนเอาเงินมาซื้อความสุข ใจเย็นๆ ไว้ก่อน เพิ่งอ่านจบไปเมื่อไม่นานมานี่เอง ชอบตอนนี้มากที่สุด ครับ :D
โดย
kakathi
อังคาร ก.ค. 27, 2010 8:38 am
0
0
อาจารย์มนตรี กับคุณพรรณ จะมีเปิดคอร์สอีกหรือเปล่าครับ
อีเมลไปแล้ว เมื่อวันที่ 23 กค 2553 ขอจอง 1 ที่ครับ :D
โดย
kakathi
อาทิตย์ ก.ค. 25, 2010 3:45 pm
0
0
DVD สัมมนา TVI#2 เปิดรับโอนเงินเพื่อซื้อสินค้าได้แล้วนะครับ
ขอจอง 1 ชุดครับ
[email protected]
โดย
kakathi
อาทิตย์ ก.ค. 25, 2010 3:39 pm
0
0
ทำไมสินทรัพย์ถึงไม่เท่ากับหนี้สินบวกส่วนทุนครับ
ปี 49 มีกำไร มากกว่า รายได้ ??? :shock: อยากดูงบแบบละเอียด จัง บ.อะไรครับเนี่ย
โดย
kakathi
จันทร์ ก.ค. 05, 2010 12:19 am
0
0
รถยนต์ แบบนี้ เมืองไทยอนุญาต ให้ใช้หรือเปล่า
โอ้ว มันมีอย่างนี้แล้วหรือนี่ ทุกสิ่งทุกอย่าง ในหนังวิทยาศาสตร์หรือการ์ตูน เมื่อก่อน มันเป็นไปได้จริง ๆ ในตอนนี้ และในอนาคต ก็ไม่รู้ว่าจะมีสิ่งประดิษฐ์อะไรเกิดขึ้นมาอีก มนุษย์เราถ้าตั้งใจทำอะไรแล้วมันต้องประสบความสำเร็จสักวัน .... :8)
โดย
kakathi
พุธ มิ.ย. 30, 2010 4:21 pm
0
0
No double-dip for global economy !!!!
ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ขอบคุณครับ :D http://www.marketwatch.com/story/no-double-dip-for-global-economy-imf-chief-2010-06-29
โดย
kakathi
พุธ มิ.ย. 30, 2010 4:09 pm
0
0
มี100ล้านไม่ยากอย่างที่คิด สูตรรวย'ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร'
ตอนเริ่มแรกที่ผมสนใจเรื่องการออม การลงทุนผมก็เริ่มจาก ฟังรายการวิทยุของ ดร.สุวรรณนี่แหละครับ "น่าจะเป็นรายการชี้ทางออก บอกทางรวย " และก็มีเวบไซต์ ชมรมคนออมเงิน saverclub อีก ตอนนี้ไม่ได้เข้านานแล้ว มาอยู่กับ TVI ซะส่วนใหญ่ ขอบคุณเวบ thaivi ครับ ที่ให้ความรู้ :D
โดย
kakathi
อังคาร มิ.ย. 29, 2010 1:12 pm
0
0
ราคาที่ควรซื้อ
5. http://www.earnconcept.com/blog/5 อันนี้บล๊อกของคุณเทพ รุ่งธนาภิรมย์ ครับ แนะนำข้อมูลในการตัดสินใจซื้อหุ้นซึ่งผมก็ใช้แนวทางนี้เหมือนกัน ขอบคุณครับ :D
โดย
kakathi
เสาร์ มิ.ย. 26, 2010 8:30 am
0
0
วิเคราะห้ข่าวเศรษฐกิจรอบวัน
ดัชนี PMI ยูโรโซนเดือนพ.ค.ลดลงมาอยู่ที่ 56 จุด แต่ยังมากกว่าที่คาดไว้ รายงานข่าวบนเว็บไซท์บลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า มาร์กิตอิโคโนมิกส์เปิดเผยวันนี้ว่า ดัชนีการจัดซื้อในภาคอุตสาหกรรมหรือ PMIของยูโรโซนเดือนพฤษภาคมลดลงมาอยู่ที่ 56 จุด จาก 56.4 จุด ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าดัชนีPMIจะลดลงมาอยู่ที่ 55.8 จุด ซึ่งดัชนีที่ มากกว่า 50 จุด สะท้อนให้เห็นการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม 'ดัชนี PMI อาจลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนถัดไป โดยเราได้ผ่านช่วงเวลาที่การค้า โลกขยายตัวอย่างรวดเร็วมาแล้ว และความต้องการของผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกัน แนวโน้มเศรษฐกิจไม่ดีนัก' นายคอสตา บรันเนอร์นักเศรษฐศาสตร์ที่เนติซิสกล่าว อย่างไรก็ตาม อัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย ซึ่งนั่นทำให้ภาค ส่งออกเป็นเพียงปัจจัยเดียวที่กระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ขณะเดียวกันความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ยุโรปเดือนพฤษภาคมลดลง หลังนักลงทุนกังวลว่า วิกฤตหนี้กรีซอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้ม เศรษฐกิจของภูมิภาค แปลโดย พิมลพรรณ เพชรแปดริ้ว เรียบเรียง โดย วรเชษฐ์ พันธ์ภูวงศ์ อนุมัติ โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน อีเมล์แสดงความคิดเห็น
[email protected]
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย วันที่ 23/06/10 เวลา 16:19:54
โดย
kakathi
พุธ มิ.ย. 23, 2010 4:26 pm
0
0
จีนลอยตัวค่าเงินหยวน
จีนปรับค่าเงินหยวน ดันบาทแตะ31ในสิ้นปี โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 22 มิถุนายน 2553 01:01 ไทยพาณิชย์ชี้จีนปรับค่าเงินหยวนให้เคลื่อนไหวยึดหยุ่นมากขึ้น กดดันค่าเงินบาทแข็งแตะที่ระดับ 31 บาท/ดอลลาร์ ในสิ้นปีนี้ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ธนาคารกลางจีนตัดสินใจปล่อยให้เงินหยวนเคลื่อนไหวได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น ส่งสัญญาว่าจีนอาจเริ่มปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าหลังจากที่ตรึงค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์ไว้ตั้งแต่กรกฎาคม 2008 ทั้งนี้ เชื่อว่าการขยับของค่าเงินหยวนน่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ธนาคารกลางของจีน (The Peoples Bank of China) ประกาศเพิ่มความยืดหยุ่นของการเปลี่ยนแปลงค่าเงินหยวนของจีน โดยให้ขยับได้ +/- 0.5% จากค่ากลาง (central parity) ในแต่ละวัน ซึ่งบ่งบอกว่าการตรึงค่าเงินหยวนน่าจะสิ้นสุดลงในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางของจีนประกาศว่าจะดูแลค่าเงินไม่ให้เคลื่อนไหวอย่างรุนแรง (excessive moves) ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การแข็งค่าของเงินหยวนจะส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ครั้งที่แล้วที่จีนปล่อยค่าเงินหยวนให้แข็งค่า ค่าเงินบาทแข็งเร็วกว่าหยวน ระหว่าง ก.ค. 2005 ก.ค. 2008 ที่จีนปล่อยให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นราว 21% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (เฉลื่ยราว 7% ต่อปี) ในช่วงเดียวกันค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นราว 26% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในช่วงนั้นค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเทียบกับตระกร้าเงินสกุลต่างๆ (ถ่วงน้ำหนักโดยสัดส่วนการค้า หรือ US dollar trade-weighted index) ราว 18% ทั้งนี้ ตลาดมองค่าเงินหยวนน่าจะแข็งค่าขึ้นไม่มากนัก จากผลการสำรวจนักวิเคราะห์ของ Bloomberg คาดว่าค่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นราว 2% ภายในสิ้นปีนี้ ในขณะที่ non-deliverable forward ระยะ 12 เดือนของค่าเงินหยวนปรับตัวแข็งค่าขึ้นและบ่งบอกว่าตลาดคาดว่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นราว 3% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ คงมุมมองว่า ค่าเงินบาทจะแข็งค่าเป็น 31 THB/USD ในปีนี้ เราคงมุมมองว่าค่าเงินบาทน่าจะแข็งค่าขึ้น โดยหนึ่งในสมมติฐานที่เราใช้ก็คือ จีนจะปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นราว 3% ในปีนี้ ทั้งนี้ ปัจจัยหลักของการแข็งค่าของเงินบาทคือการอ่อนค่าของเงิน USD เทียบกับเงินสกุลหลักในเอเชีย และการไหลเข้าของเงินตราจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20100622/338853/จีนปรับค่าเงินหยวน-ดันบาทแตะ31ในสิ้นปี.html
โดย
kakathi
อังคาร มิ.ย. 22, 2010 8:46 am
0
0
Sheet สอนการใช้ MS Excel ในการคำนวณค่าทางการเงิน
ขอบคุณครับ ขอให้พอร์ทโตไว ๆ ครับ :D
โดย
kakathi
อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2010 11:51 am
0
0
แอบดู......พอร์ตคนดัง
รบกวนอีก 2 คนดังนะคะ อ. เทพ รุ่งธนาภิรมย์ อ. สุวรรณ วลัยเสถียร ปล. ไม่มีไฟล์พี่ครรชิตค่ะ อ. สุวรรณ วลัยเสถียร ผมเคยเห็นว่าเป็นหนึ่งในผู้บริหารของ SVI รึเปล่าครับ คุ้น ๆว่า เคยเห็นใน 59-2 :o
โดย
kakathi
เสาร์ มิ.ย. 19, 2010 3:59 pm
0
0
ปู่บัฟ&ลุงเกต สองเพื่อนซี้รณรงค์มหาเศรษฐีบริจาคอย่างน้อย
จะรณรงค์ให้มหาเศรษฐี พันล้านดอลลาร์ ชาวอเมริกันจำนวนหลายร้อยคน บริจาคสินทรัพย์แก่การ กุศลอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง :shock: บริจาคตั้งครึ่งนึงเลยเหรอครับ แค่ท่านสองคนบริจาคไปคนละนิดก็ได้ใจชาวโลกไปแล้วทั้งหัวใจ ในชีวิตนี้ผมก็อยากมีโอกาส ทำเรื่องอะไรที่มันสุดยอดแบบนี้บ้าง จัง :8)
โดย
kakathi
เสาร์ มิ.ย. 19, 2010 3:50 pm
0
0
เรียนจากคุณตันผู้กล่าวว่าชีวิตนี้ไม่มีทางตัน
ขอบคุณครับ :D
โดย
kakathi
พฤหัสฯ. มิ.ย. 17, 2010 9:59 am
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
kakathi
พฤหัสฯ. มิ.ย. 17, 2010 9:39 am
0
0
ประชาสัมพันธ์ moneytalk weekly ครับ
น่าสนใจมากครับ ขอบคุณครับ :D
โดย
kakathi
พฤหัสฯ. มิ.ย. 17, 2010 8:41 am
0
0
ประชาสัมพันธ์ moneytalk weekly ครับ
น่าสนใจมากครับ ขอบคุณครับ :D
โดย
kakathi
พฤหัสฯ. มิ.ย. 17, 2010 8:39 am
0
0
ขอถามความหมายของคติ และแก่น การลงทุนของลุงขวด
เดินตามผู้ใหญ่ หมาไม่กัด ได้รับข้อคิด หลักการจากคนมีประสบการณ์ และนำมาพิจารณาปรับใช้ในการลงทุนของเรา อาจทำให้ย่นระเวลาในการลองผิดลองถูกเอง ขอบคุณมากครับ :D
โดย
kakathi
พฤหัสฯ. มิ.ย. 17, 2010 8:35 am
0
0
คูโบต้า มีหุ้นเจ้าตัวนี้รึป่าวครับ ?
SAT มี KUBOTA เป็นลูกค้าโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายในแต่ละไตรมาสดังนี้ครับ Q1 2009 = 4% Q2 2009 = 7% Q3 2009 = 5% Q4 2009 = 7% Q1 2010 = 5% :D
โดย
kakathi
อังคาร มิ.ย. 15, 2010 3:56 pm
0
0
วิเคราะห้ข่าวเศรษฐกิจรอบวัน
ส่งซิก ขึ้นดอกเบี้ย Tuesday, 15 June 2010 13:32 พงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยหลังการหารือระหว่างภาคเอกชนกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ ว่าแบงก์ชาติได้สรุปภาพรวมภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ให้รับทราบว่าเศรษฐกิจของไทยค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว โดยได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองไม่มากนัก แต่แบงก์ชาติยังมีความกังวลผลกระทบที่มีต่อท่องเที่ยว โดยได้เตือนให้ภาคเอกชนรู้ว่าจะมีการ "ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย" จากที่ใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำมานาน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อแม้จะยังอยู่ในระดับต่ำ แต่เริ่มขยับขึ้นมาแล้ว http://www.stockwave.in.th/hot-news/12177-news15610.html
โดย
kakathi
อังคาร มิ.ย. 15, 2010 3:26 pm
0
0
UPDATE มาตรฐานบัญชีใหม่ ....สรุปจากเรียนอ่านงบ อ.วรศักดิ์
ขอบคุณครับ ที่มีน้ำใจแบ่งปัน ยิ่งให้ยิ่งได้ครับ :D
โดย
kakathi
อังคาร มิ.ย. 15, 2010 10:32 am
0
0
น่าจะมีกระดานโชว์พอร์ต
จะดีเหรอครับ ผมคิดว่าชาว thaivi ไม่ใช่คนชอบโชวน์นะครับ อย่างแค่ถามว่าหุ้นตัวไหนดี ยังต้องโดนให้กลับไปศึกษา อ่านและทำการบ้านเองเลยครับ แต่ถ้ามีคนโชว์ก็ดีนะครับ อยากดูพอร์ทของคนอื่น ๆ เหมือนกัน อิอิ :D
โดย
kakathi
จันทร์ มิ.ย. 14, 2010 5:06 pm
0
0
คำเตือนจากปรมาจารย์
ขอบคุณครับ เล่มนี้ผมอ่านยังไม่จบเลย The Intelligent Investor หนามาก :D
โดย
kakathi
อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:52 pm
0
0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๑๒มิย๒๕๕๓) ภาคปรากฏการณ์ดาวเรียงตัว
[quote="Paul VI"][quote]วันนี้ก่อนจะกลับบ้านเด็กเลี้ยงแกะขับรถติดไฟแดงอยู่แถวย่าน บางบัวทอง ทันใดนั้นก็หันไปเจอน้องวัยรุ่นหน้าตาน่ารักสองสามคนแต่งตัวค่อนข้างน่ารัก กระโปรงสั้น สายเดี่ยว
โดย
kakathi
อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 4:41 pm
0
0
คริปดีๆ ที่ทำให้ชีวิต คุณซาอิเปลี่ยนไป
ผมเข้าดูไม่ได้ครับ
โดย
kakathi
เสาร์ มิ.ย. 12, 2010 9:48 pm
0
0
+++ ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแล้วครับ +++ แถลงการณ์ฉบับที่ 1
ต้องดูให้เห็นกับตา ยังไม่ได้ดูเลยครับ opp day :D
โดย
kakathi
อังคาร มิ.ย. 08, 2010 8:41 pm
0
0
ผลกระทบจากปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในกลุ่มPIGS โดยสศค. !!!!
ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ขอบคุณมากครับ :)
โดย
kakathi
อาทิตย์ มิ.ย. 06, 2010 10:31 pm
0
0
คุณเชื่อไหมว่า "ทุกคนต้องมีช่วงตกอับในชีวิต" คุณเล
open mind ๆ ขอบคุณครับ :)
โดย
kakathi
อาทิตย์ มิ.ย. 06, 2010 10:29 pm
0
0
พบ ดร.นิเวศน์ หมอสามัญชน สอนลูก วันเสวนา 19มิย วันนักลทุนไทย
น่าสนใจมากครับ ขอบคุณครับ :D
โดย
kakathi
ศุกร์ มิ.ย. 04, 2010 9:18 pm
0
0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
ยินดีด้วยครับ :)
โดย
kakathi
พฤหัสฯ. มิ.ย. 03, 2010 9:54 pm
0
0
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
อ๋อ อีกเรืองนะครับ เราเรียนกันวันที่ 29 พค คือวันเสาร์ที่จะถึงนี้ รบกวนเพื่อนๆมาแต่เช้ากันหน่อยสัก 8-8:30 เป็นอย่างช้า เพื่อลงทะเบียนและหลีกเลี่ยงรถติดนะครับ พร้อมทั้งจะได้ไม่เป็นการเสียเวลาในการเรียนด้วยนะครับ เพิ่มเติมนะครับ เกี่ยวกับที่จอดรถ เนื่องจากว่าเป็นโรงแรมเก่า ที่จอดรถจะน้อยนิดนึงนะครับ ใครเอารถไปก็ไปเช้าๆหน่อยนะครับ เดี่ยวที่จอดไม่พอ แต่ถ้าไปรถไฟฟ้าก็จะสะดวกครับ ลงสถานีเอ็มโพเรี่ยมแล้วเดินย้อนกลับมาทางอโศก โรงแรมอยู่ใกล้ปากซอยด้านซ้ายมือครับ รบกวนคุณ green-orange ขอเบอร์ติดต่อกรณีฉุกเฉินด้วยครับ
โดย
kakathi
พุธ พ.ค. 26, 2010 8:33 pm
0
0
ตาราง OPP DAY ใหม่ออกแล้วครับ
ขอบคุณครับ :D
โดย
kakathi
จันทร์ พ.ค. 24, 2010 8:23 pm
0
0
คุณฉัตรชัย คุณมน คุณสามัญชน ออกเนชั่น ใหม่หรือเก่า
ทั้งฮาและมีสาระ ชอบมากครับ :D
โดย
kakathi
เสาร์ พ.ค. 22, 2010 6:09 pm
0
0
พรุ่งนี้ตลาดหลักทรัพย์ปิดทำการ
ตลท.ประการปิดทำการซื้อขายหุ้นวันพรุ่งนี้ หลังเหตุการณ์ยังไม่สงบ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤษภาคม 2553 16:42 น. ผู้จัดการ ตลท. เผยที่ประชุมบอร์ด มีมติให้ประกาศปิดทำการซื้อขายหุ้นในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) หลังประสถานการณ์ความไม่สงบในกรุงเทพฯ ยังไม่น่าจะยุติได้โดยง่าย นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวภายหลังการหารือคณะกรรมการ ตลท.เพื่อประเมินสถานการณ์หลังเกิดเหตุความไม่สงบ โดยระบุว่า บอร์ด ตลท. มีมติให้ปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ของวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2553 (พรุ่งนี้) ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย ทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ตลาดตราสารหนี้ (BEX) และตลาดอนุพันธ์ (TFEX) ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงงดการจัดกิจกรรมและการให้บริการ ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ถ.รัชดาภิเษก ในวันที่ 20-21 พฤษภาคม 2553 หากมีการเปลี่ยนแปลง คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประเมินสถานการณ์ และประกาศให้ทราบต่อไป โดยก่อนหน้านี้ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง ได้บุกเข้าไปเผาห้องสมุดมารวย ชั้นล่างของอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ถนนรัชดาภิเษก และเกิดเพลิงลุกไหม้ และมีการเผาสถานที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจ ทั้งห้างสรรพสินค้า ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม และปล้นสะดมร้านสะดวกซื้อ http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9530000069471
โดย
kakathi
พุธ พ.ค. 19, 2010 5:02 pm
0
0
127 โพสต์
of 3
ต่อไป
Verified User
ชื่อล็อกอิน:
kakathi
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อาทิตย์ พ.ย. 30, 2008 6:24 pm
ใช้งานล่าสุด:
อังคาร ส.ค. 11, 2015 9:44 pm
โพสต์ทั้งหมด:
186 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.03 ข้อความต่อวัน)
ลายเซ็นต์
" "
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว