หลานอายุ4ขวบ ถ้าเป็นชาว VI จะเลือกโรงเรียนไหนเพราะอะไรครับ? ดิฉันขอแสดงความเห็นในฐานะที่เป็นแม่ ซึ่งมีลูกเล็กๆ อยู่ในวัย 4-8 ขวบ บ้างนะคะ ดิฉันเป็นแม่ซึ่งเลี้ยงลูกเอง เป็นนักลงทุน (มือใหม่) และรับจ็อบทำงานเป็นชิ้นๆ จึงมีเวลาดูแลลูกเต็มที่ มีลูกซึ่งมีประสบการณ์ทั้งโรงเรียนไทย และขณะนี้เรียนโรงเรียนนานาชาติ (เนื่องจากติดตามคุณพ่อมารับราชการในต่างแดน) ขออนุญาตแสดงความเห็นว่า เด็กวัยเริ่มต้นเข้าเรียน ให้เรียนโรงเรียนใกล้บ้านจะดีที่สุด เด็กไม่เหนื่อยกับการเดินทาง การเลือกโรงเรียนให้ลูกควรดูที่ฐานะการเงินของเราเป็นหลักด้วย ดูไประยะยาวสัก 3-5 ปีนะคะ ว่าด้วยกำลังเงิน ณ ขณะนี้ เราสามารถจ่ายค่าเล่าเรียนไหวไหม ถ้าไม่ไหว แล้วต้องเปลี่ยนโรงเรียนกลางคันซึ่งแตกต่างกันมาก ก็จะเป็นการทำร้ายจิตใจลูก โรงเรียนไทยส่วนใหญ่ เด็กมักจะร้องไห้ ไม่อยากไป เพราะเรียนหนักตั้งแต่ชั้นอนุบาล ส่วนโรงเรียนหลักสูตรอินเตอร์ เด็กไปเรียนด้วยความสนุกสนาน แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือ คุณวางกรอบสังคมการเรียนรู้ของลูกไว้ที่ไหน ที่เมืองไทยหรือที่เมืองนอก เด็กโรงเรียนไทย เรียนหนักกว่า หลายวิชากว่า แต่สิ่งที่ได้คือ ความรู้พื้นฐานแน่น แต่...ระบบการศึกษาไทย ไม่สอนให้เด็กคิด ขณะที่เด็กโรงเรียนอินเตอร์ เน้นการฝึกให้เด็กคิดด้วยตนเอง เป็นตัวของตัวเอง แต่ความรู้พื้นฐานอ่อนกว่าเด็กโรงเรียนไทยค่ะ นี่เป็นเรื่องจริง คุณจะเห็นว่าเด็กไทย เมื่อไปเรียนต่างประเทศ พอปรับตัวกับภาษาอังกฤษได้แล้ว เรียนเก่งได้เกรดสูงๆ กันแทบทั้งนั้น จากประสบการณ์ของดิฉันเอง พบว่า ไม่ว่าจะเรียนโรงเรียนใดก็ตาม สำคัญที่สุดคือ พ่อกับแม่ค่ะ ต้องช่วยลูก ในโรงเรียนไทย เรียนหนัก คุณต้องสละเวลาอย่างมากเพื่อเข้าไปเรียนรู้ในสิ่งที่ลูกเรียน แล้วสอนเขา (อย่างไม่ให้เขารู้สึกเครียด) เมื่อเด็กเข้าใจวิชาเรียนมากขึ้น เขาจะไปโรงเรียนด้วยความสุขค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ดิฉันมักคิดเกมส์บวกเลขมาเล่นกับลูกในรถ เวลาเข้านอน ก็จะเอาประวัติศาสตร์ วรรณคดีไทย มาเล่าให้ลูกฟัง (ขอเน้นว่าเล่าให้ฟังนะคะ แบบนิทาน ไม่ใช่อ่านให้ฟัง) เด็กๆ สนุกสนานกันมาก และเมื่อเขาได้เรียนเรื่องที่ได้ฟังแม่เล่าที่โรงเรียน เขาก็เรียนด้วยความสุขมาก ภูมิใจว่า เขาเคยได้ยินแล้ว มาเรียนโรงเรียนอินเตอร์ ปรากฏว่า ดิฉันก็เกิดความกังวลอีก เพราะการเรียนน้อยมาก ในเมื่อถึงอย่างไรลูกก็ต้องกลับไปเมืองไทย ดิฉันก็ต้องคิดหาวิธีสอนลูกด้วยตัวเองที่บ้านอีก เพื่อให้ลูกเรียนทันเด็กไทย แม้แต่ภาษาอังกฤษเอง ดิฉันก็พบว่า ลูกจะเรียนได้เร็วถ้า พ่อหรือแม่ เอาใจใส่ พูดกับลูกด้วยประโยคง่ายๆ สิคะ ช่วงแรก พูดไทยควบไปด้วย ท่านใดไม่เก่งอังกฤษ ลองจดประโยคคำสั่งง่ายๆ แล้วท่องก่อน เช่น Close the door, please. ปิดประตูให้พ่อหน่อยลูก หรือ kids, it's bed time ได้เวลานอนแล้วเด็กๆ ...อะไรทำนองนั้น สรุปว่า ไม่ว่าคุณจะให้ลูกเรียนแบบไหน โรงเรียนใดก็ตาม ไม่สำคัญเลย ความสำคัญอยู่ที่ เวลาที่คุณมีให้ลูก คุณสามารถพัฒนาลูกได้ด้วยการช่วยลูก เรียนไปพร้อมลูกค่ะ อย่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของครูฝ่ายเดียว อย่าไปกังวลเรื่องภาษาให้มากนัก สมัยนี้มีแหล่งเรียนภาษามากกว่าสมัยก่อน เขียนมาซะยาว ไม่เกี่ยวกับเรื่องหุ้นเลย ต้องขอโทษด้วยค่ะ หากไปทำให้ใครเสียเวลาเข้ามาอ่าน แต่ดิฉันออกจะเห็นว่า การพัฒนาคน ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของการพัฒนาชาติ เป็นงานที่หนักที่สุด เหน็ดเหนื่อยที่สุด ใช้เวลานานที่สุด จึงอยากจะขอแชร์ความคิดเห็นบ้างค่ะ โดย kanattano พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 10:55 pm

ขอข้อมูลอีกครั้งค่ะ พี่ครรชิตคะ ได้รับข้อมูลแล้วค่ะ แต่ปรากฏว่าเปิดอ่านไม่ได้ รบกวนพี่ช่วยส่งใหม่อีกครั้งนะคะ คราวนี้เพื่อความแน่นอนใช้ yahoo ดีกว่า ใช้ gmail เปลี่ยนภาษาไม่ได้เลยค่ะ ขอบคุณพี่มากค่ะ [email protected] โดย kanattano เสาร์ ต.ค. 30, 2004 11:21 pm

ขอข้อมูลค่ะ สวัสดีค่ะ พี่ครรชิต เป็นน้องใหม่เพิ่งสมัครสมาชิกค่ะ ขอความกรุณาพี่ช่วยส่งข้อมูลด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ [email protected] โดย kanattano อังคาร ต.ค. 26, 2004 10:00 pm