การยอมรับฟังความเห็นที่แตกต่างเป็นสิ่งที่ดีนะครับ เห็นด้วยค่ะ   สิ่งที่เราไม่รู้ยังมีอีกเยอะแยะ อย่าพยายามคิดว่า  การเสนอแนะจากผู้อื่น เป็นการสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ โดย sabina1 เสาร์ ต.ค. 11, 2008 3:01 pm

เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าฝรั่ง short sell เราอยู่หรือไม่ tvo Newbie ออนไลน์ กระทู้: 17   Re: หุ้นลงทั่วโลกแบบนี้ บ่งว่า มหาอำนาจรับสถานะการณ์ไม่ได้ « ตอบ #22 เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:07:38 »   -------------------------------------------------------------------------------- คุณ sabinaไม่รู้หลอกนะว่าคุณเป็นใครยังไงเพราะพึ่งได้เข้ามาอ่านเวปนี้แต่ว่าชอบ ข้อมูล การให้แนวคิดอีกแบบหนึ่งของคุณ ชอบๆๆๆๆ โดย sabina1 ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 2:35 pm

เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าฝรั่ง short sell เราอยู่หรือไม่ superlemonn Full Member ออนไลน์ กระทู้: 227   Re: หุ้นลงทั่วโลกแบบนี้ บ่งว่า มหาอำนาจรับสถานะการณ์ไม่ได้ « ตอบ #28 เมื่อ: วันนี้ เวลา 13:28:27 »   -------------------------------------------------------------------------------- ใน VI มีแต่คนการศึกษาสูงพี่ พวกนี้เขาจะรับไม่ได้ถ้าใครมาทำเก่งกว่า แบบว่าข้าต้องเก่งเสมอ เหมือนครูกับนักเรียน  เวลาเจอนักเรียนเก่งๆ ที่มาเถียงในข้อมูลที่ครูสอนผิดไป ครูก็รับไม่ได้ กลัวเสียหน้ากับเด็กคนอื่นๆ ต้องเถียงข้างๆคูๆ หัวชนฝา นี่แหละหนอ คนมีการศึกษาสูงเมืองไทย มันเป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้วพี่ หนูเลมอนว่าพี่อย่าไปยุ่งเลย จะปวดหัวเครียดเองปล่าวๆ โดย sabina1 ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 2:22 pm

Buffett รอคอยโอกาสซื้อหุ้นนานถึง 10 ปี ตั้งแต่ก่อนที่ ข่าว subprime   โด่งดังขึ้นมา รู้กันบ้างหรือเปล่า   Warren Buffet   เล่นในด้าน  short sale  ไป เท่าไร     อย่าบอกนะ  พวก VI   เขาไม่ใช่ short sale  กัน ถ้าคิดอย่างนั้น  แสดงว่าไม่รู้อะไรเลย โดย sabina1 ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 1:29 pm

ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory อันนี้ ก็เป็นประเด็นหนึ่งอีกเหมือนกัน ไม่ทราบว่าคุณ wattaeเขียนมาทำไม  ในเมื่อคุณก็รับว่า จำไม่ได้  ที่เขียนว่า ส่วนในพันทิพ ไม่แน่ใจว่าคุณ sabina มี 2 id รึปล่าว เห็นอีกคน(ผมจำชื่อไม่ได้) ออกมาชมกระทู้ที่คุณ sabina เขียน ว่าดียังงั้นดีอย่างนี้ คุณไปหาหลักฐานมาอ้างอิงดีกว่า ถ้าคณอยากจะเขียนเช่นนี้   เพราะการเขียนเช่นนี้ เป็นการโน้มให้ผู้อ่านอื่นเข้าใจไปในทางที่ไม่ดี แต่อันที่จริงแล้ว sabina   คิดว่า คุณคงจะปรับปรุงตนเองให้ดีกว่านี้จะดีกว่า และไม่ต้องเสียเวลามากระแนะกระแหนคนอื่น    ปรับปรุงตัวเอง  ปรับปรุงตัวเอง  ท่องไว้ และกรุณายุติได้  ถ้าไม่  คุณอาจจะถูกจวกกลับมากกว่านี้ โดย sabina1 พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 2:45 pm

ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory บางครั้ง  sabina   ก็แปลกใจเหมือนกัน เมื่อเขียนกระทู้ขึ้นมา  แทนที่จะมีคนเข้าถกในประเด็นของกระทู้ แต่กลับมีคนเข้ามาตำหนิโน่น ตำหนินี่  ไม่เข้าใจจริง ทำเหมือนตนเองนั้นดีเลิศ  คอยหาทางตำหนิผู้อื่น ไม่ได้ในเว็บนี้ ก้ไปสรรหามาจาก เว็บอื่น   ทำไมถึงเป็นไปได้เช่นนี้ พี่น้อง เอ๊ย  ช่วยบอกทีเถิด   หรือ เขาอยากมาให้เรื่องให้เป็นประเด็นทะเลาะกันในกระทู้ โดย sabina1 พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 2:35 pm

ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory ถ้าคุณไม่มองโลกในแง่ร้าย  คุณก็คงเข้าใจผิด การที่ sabina  เอารายการซื้อขายมาแสดง   คนเห็นก็มองไปตามพื้นฐานของคนนั้น และเข้าใจไปตามสิ่งแวดล้อมที่คน ๆนั้นอยู่ ถ้าคนที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่ดี มีแต่ความอิจฉาริษยา พวกนี้ก็จะมอง ไปในทำนองมาโอ้อวด   บางคนก็มองลึกไปในทางด้านการศึกษา เช่น เขาอยากรู้ว่า ซื้อตอนเวลาไหน ขายตอนเวลาไหน  บางคนก็อยากพิสูจน์  ดีแต่พูดหรือเปล่า กล้าเอาหลักฐานมาแสดงหรือเปล่า แล้วแต่จะมอง   แต่อย่างไรก็ตาม อยากจะถามคุณว่า เอามาให้ดูแล้ว sabinaได้อะไร  ในเมื่อ ชื่อ sabina  ก็เป็นแค่  user name  ไม่มีใครรู้ ว่าเป็นใคร  ถ้าเอาโอ้อวดแล้วได้อะไร คนเราบางครั้ง ก็เห็นใครดีกว่าไม่ได้  อันนี้เป็นความจริง เพราะฉะนั้น จึงมี โคลงกลอนที่ว่า อันที่จริง คนเขาอยาก ให้เราดี แต่ถ้าเด่น ขึ้นทุกที  เขาหมั่นใส้ ทำดีเถิด แต่อย่าเด่น  จะเป็นภัย ไม่มีใคร เขาอยากเห็น เราเด่นเกิน sabina  ขอสรุปว่า  ใครอยากจะเข้าใจอย่างไร ก็ปล่อยเขาไปเถอะ  เพราะเราไม่สามารถจะไปเปลี่ยนแปลงกำพืดของผู้นั้น ๆได้ โดย sabina1 พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 2:24 pm

ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory ตอนบ่ายวันนี้ พึ่งกลับมาจากข้างนอก ถือหนังสือติดมือไปอ่านในรถไฟฟ้าด้วย มีข้อความบางตอนน่าสนใจก็เลยเอามาฝาก เพื่อน ๆ People don't seem to grasp easily the fundamentals of stock trading. I have often said that to buy into a rising market is the most comfortable way of buying stocks....... Remember that stocks are never too high for you to begin buying or too low to begin selling. But after the initial transaction , don't make the second unless the first shows you a profit. ผู้คนส่วนมากไม่ค่อยเข้าใจหลักเบื้องต้นของการเล่นหุ้น ข้าพเจ้าได้บอกหลายต่อหลายครั้งว่า การซื้อตอนที่หุ้นกำลังเบนหัวเป็นขาขึ้น เป็นวิธีที่ดีที่สุด จงจำไว้ หุ้นไม่มีคำว่า ราคาสูงเกินไปที่จะเริ่มต้นซื้อ หรือต่ำเกินไปที่จะขาย แต่ หลังจากการซื้อครั้งแรกแล้ว อย่าซื้ออีก เว้นแต่ว่า ครั้งแรกที่ซื้อแล้วมีกำไร วิลเลี่ยม แกนน์ กล่าวในหนังสืออีกเล่มหนึ่ง อย่าซื้อโดยคิดแต่เพียงว่า หุ้นราคาถูก หรือขายเพราะคิดว่า หุ้นราคาแพง โดย sabina1 พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:35 pm

ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory แล้วก็นึกถึง สำนวน จีนกลางได้ว่า Tan xiao shi da = อ่านว่า ทาน เสี่ยว สือ ต้า หมายความว่า ละโมบในสิ่งเล็กน้อย แต่ต้องสูญเสียลาภก้อนใหญ่ โดย sabina1 พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:31 pm

ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory เคยอ่าน แต่จำไม่ได้ว่า เป็นคำกล่าวของใคร They say you never grow poor taking profits. No you don't. But neither do you grow rich taking a four-point spread in a bull market. โดย sabina1 พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:30 pm

ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory ตลาดหุ้นมีอันตรายอยู่รอบด้าน ต้องระมัดระวังให้ดี การเปลี่ยนแปลงของราคา มีหลักใหญ่ ๆ อยู่ ว่า ยิ่งสูงเท่าไร ยิ่งหนาวเท่านั้น I am on top of the world and afraid of height นักไต่เขา เขากล่าวเช่นนั้น ถึงแม้ข้าพเจ้าจะอยู่บนจุดสูงสุดของโลก ข้าพเจ้าก็ยังกลัวความสูงอยู่ดี ตลาดหุ้นมีอันตราย ก็เพราะความกลัวนี่แหละ และความกลัว ทำให้นักลงทุนเดินทางผิด มักจะรีบเข้าซื้อเมื่อหุ้นอ่อนตัวลง (หลังจากที่พุ่งขึ้นไปแล้ว) หรือไม่ก็ขายตอนที่หุ้นตกไปจนถึงระยะที่ควรจะขึ้น เรียกว่าเข้าออกไม่ถูกจังหวะทั้งขึ้นทั้งล่อง โดย sabina1 พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:29 pm

ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory สำหรับ  real VI  เงินหามาด้วยความยากลำบากครับเงินทุกบาททุกสตางค์ จึงต้องไม่วางอยู่บนความเสี่ยง เพราะฉะนั้นเล่นหุ้นของ  VI  จึงต้องกำไรทุกครั้ง ไม่กำไรก็ต้องไม่ขาดทุน โดย sabina1 พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:26 pm

ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory การเล่นหุ้น ใช่ว่าจะกำไรทุกครั้งไป มันเป็นเกมส์เดียวกัน แต่การเล่นต่างกัน The game is the same, but what a difference in the playing! สำหรับผู้เล่นที่ไม่ได้ยึดติดว่า จะต้องทำกำไรได้ตลอดเวลา มันก็จะเป็นประสบการณ์ของชีวิตที่ดีอย่างหนึ่ง แม้บางครั้งจะขาดทุนไปบ้าง ก็ยังมีความรู้สึกว่า มีค่าในด้านการลงทุน ที่แม้ในมหาวิทยาลัย ก็ไม่สามารถจะเรียนรู้ได้ โดย sabina1 พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:24 pm

ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory น่าแปลก ถึงแม้จะมี ทฤษฎี The Greater Fool Theory ก็ไม่มีใครสักคนยอมรับว่า ตนเป็นคนโง่ ก็ในเมื่อพวกเขามองว่า ตลาดหุ้นเป็น เกมส์สมอง และ เกมส์การเงินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์สามารถค้นคิดขึ้นมาได้ แล้วพวกเขาจะเป็นคนโง่ไปได้อย่างไร เมื่อพวกเขายังเล่นได้ คนเล่นไม่ได้ หรือคนที่ไม่เข้ามาเล่นซิเป็นคนโง่ แต่เหตุผลอีกอย่างหนึ่ง พวกเขาติดตลาดหุ้นต่างหาก ติดเสียยิ่งกว่าติดยาเสียอีก พวกเขาเคยได้สิ้มรสชาติของกำไร แม้บางครั้งจะขาดทุนบ้างก็ตาม ก็ไม่เคยลืมความเย้ายวนและความหวานชื่นของกำไรที่เคยได้รับ โดย sabina1 พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:22 pm

ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory นักเล่นหุ้นทั้งหลาย ต่างเข้ามาล่าหุ้นทุกวัน ๆ ทั้ง ๆที่รู้ว่า 7 ใน 10 คน ขาดทุน อีก 2 คน เสมอตัว และมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้กำไร แล้วทำไมจึงอยากเข้ามาเล่นในเกมนี้อีกล่ะ เหตุผลก็ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไร เพราะ 7 คน ไม่ยอมแพ้ จะต้องหาทางเอาคืนให้จนได้ อีก 2 คน ไม่กำไรไม่ขาดทุน ก็คิดอยากจะต่อสู้ต่อไป ส่วนคนเดียวที่ได้กำไร ก็อยากได้กำไร เพิ่ม โดย sabina1 พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:20 pm

ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory แต่ ถึงอย่างไร ตราบเท่าทุกวันนี้ ก็ไม่มีใครที่จะกลัวว่าเป็นคนโง่ที่สุด เพราะทฤษฎีนี้ กล่าวถึง คนโง่กว่าเท่านั้น ที่ไม่กลัว จะเป็นคนโง่ที่สุด ก็เพราะขนาดเป็นคนโง่ ก็ยังมี คนโง่กว่ามารับ ทฤษฎีนี้ช่างอาถรรพ์และเป็นความจริงเสียนี่กระไร และก็เพราะ ถึงเป็นคนโง่ ก็ยังมีกำไร ตลาดหุ้นจึงเป็นอาหารทิพย์ (Ambrosia) สำหรับนักล่าหุ้นทั้งหลาย อยู่ตลอดมาและตลอดไป โดย sabina1 พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:18 pm

เค้าขายหุ้นกันทำไมครับ บางคนขายเพราะ มั่นใจ ว่า ตอนตลาดปิด เขาสามารถซื้อคืนได้ถูกกว่า   โดย sabina1 อังคาร ต.ค. 07, 2008 6:34 pm

จินตนาการกับการเล่นหุ้น ที่เขียนว่า คนหูหนวกอย่างบีโธเฟน จะแต่งเพลงได้ไพเราะเพราะพริ้งได้อย่างไร ลองจินตนาตามประสาคนธรรมดาๆว่า เราเป็นคนหูหนวกฟังอะไรก็ได้ยินไม่ชัด  แถมมีเสี่ยงหึ่งๆรบกวนตลอดเวลา แล้วเราจะบอกได้อย่างไรว่าเสียงแบบนั้นถือว่าไพเราะสุดๆแล้ว ******************************************** ขอตอบว่า บีโธเฟน  ใช้ความเป็นคนหูหนวกนี่แหละ  ฟังเสียงดนตรีได้  เพราะดนตรีนั้นเสียงมีความถี่สูงกว่า เสียงพูดธรรมดา จึงผ่านหูเข้าไปยังบีโธเฟน ให้เป็นเสียงที่ไพเราะได้มากกว่าและง่ายกว่าที่คนธรรมดาจะรับฟังได้ เรื่องนี้ ลองไปถามคนหูหนวกดู  เขาสามารถเพลิดเพลินกับเสียงดนตรีได้มากกว่า คนธรรมดา โดย sabina1 จันทร์ ต.ค. 06, 2008 11:05 am

ความน่าจะเป็นไปได้ (เรื่องอะไรเอ่ย) โจทย์บอกแล้วนี่ค่ะ ว่าเกิดในปีเดียวกัน   คำตอบของ คุณ goldenpig  ผิดค่ะ กระทู้นี้ เอาไปลงทั้งใน pantip เว็บดูหุ้น เซทเทรด และ กระทิงเขียว เพื่อจะได้รู้ว่า เว็บไหนให้ความสนใจมากกว่ากัน และคนในเว็บ จริง ๆแล้วสนใจเรื่องอะไร โดย sabina1 เสาร์ ก.ย. 27, 2008 3:22 pm

Arbitrage,,,,Wash Sale,,,,, Daisy Chain Daisy chain แปลตามตัวว่า พวงมาลัยที่ทำด้วยดอกเดซี่ ในความหมายของหุ้น หมายถึง กลุ่มนัก ปั่ นหุ้นซึ่ง trade หุ้นอย่างหลอกพวกแมงเม่า โดยทำราคาให้สูงขึ้น พร้อมกับ volume โตอย่างผิดปรกติเพื่อให้แมงเม่าหลงระเริง ซึ่งในที่สุด เมื่อเกมใกล้จบ พวกเดซี่ เชน ก็จะกวาดกำไรไป ปล่อยให้เหยื่อตาดำ ๆ ติดดอย แต่ในเมืองไทย นักเล่นหุ้นจะชอบ พวก daisy chain มาก เพราะต่างก็คิดว่าตนเองก็ หนึ่งในตองอู เล่นหุ้น ปั่ น กำไรง่ายกว่า พวก long term investment ซึ่งต้องรอกันเป็นปี และก็ได้กำไรไม่เท่าไร สำหรับ sabina นั้น ก็ชอบพวก daisy chain เพราะมันทำให้ตลาดมีสีสัน และมีชีวิตชีวา พูดเล่นน่า sabina ก็เล่นหุ้นแบบ sabina ก็เคยบอกมาหลายครั้งแล้ว หลายคนคงจำได้ โดย sabina1 เสาร์ ก.ย. 27, 2008 2:19 pm

Arbitrage,,,,Wash Sale,,,,, Daisy Chain Wash Sale คือ transaction ที่ผิดกฎหมาย ด้วยจุดประสงค์ที่จะหลีกเลี่ยงภาษีกำไรจากการขายหุ้น โดยจะหักภาษีจากการขาดทุน นักลงทุนจะซื้อและขายหุ้นพร้อม ๆกันโดยผ่าน 2 broakers ซึ่งเป็นการกระทำที่หลอกลวงนักลงทุนอื่นด้วย (แต่โดยที่เมืองไทยยังไม่มีภาษีจากการขายหุ้น ปัญหาจากการ wash Sale จึงยังไม่มี) แต่ที่อเมริกา ปัญหานี้ก็ได้ลดไปอย่างมาก เพราะมีการออกกฎหมายจาก IRS Internal Revenue Service เรียกว่า IRS 30-day Wash Sale โดยนักลงทุนไม่สามารถจะ claim หัก ภาษีจากการขายขาดทุน ถ้าขายหลังจากซื้อภายใน 30 วัน โดย sabina1 เสาร์ ก.ย. 27, 2008 2:18 pm

Arbitrage,,,,Wash Sale,,,,, Daisy Chain Arbitrage คือ The simultaneous perchase and selling of an asset in order to profit from a differential in the price. This usually takes place on different exchanges or market places . บางที ก็เรียก Arbitrage ว่า " Riskless Profit" เหมือนกัน Arbitrrage is recommended for experienced investors only. อธิบายง่าย ๆ สำหรับผู้ที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงก็คือ การซื้อ asset หรือ หุ้นตัวเดียวกันในตลาดหนึ่ง แล้วขายในอีกในตลาดหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น หุ้น CHANG มีเทรดทั้งในตลาด ญี่ปุ่น และ New York นักลงทุนที่ฉลาด อาจซื้อในตลาดหนึ่งซึ่งมีราคาถูกไปขายอีกตลาดหนึ่งซึ่งแพงกว่า ในเวลาเดียวกัน เรื่อง Arbitrage นี้มันยาว และต้องการทักษะเป็นอันมาก ค่อย ๆศึกษาไปก็แล้ว โดย sabina1 เสาร์ ก.ย. 27, 2008 2:16 pm

ความน่าจะเป็นไปได้ (เรื่องอะไรเอ่ย) สำหรับผู้ที่ อยากเดามี choice ให้เลือกดังนี้ค่ะ ความน่าจะเป็นไปได้ที่จะมีนักเรียนสองคนจะเกิดวันเดือนปีเดียวกัน 1. น้อยกว่า 10% 2. 10--25% 3. 25--50% 4. 50--70% 5. 70--80% 6. มากกว่า 80% โดย sabina1 เสาร์ ก.ย. 27, 2008 1:38 pm

set50ดีกว่าไหม คิดว่า  หุ้นใน set 50   เป็นหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ได้กรองมาแล้ว   หน้าที่ของเราถ้าอยากเล่นหุ้น ในกลุ่มนี้  เราต้องมากรองมาเลือกหุ้นที่เราพอใจอีกที มีหลักง่าย ๆ  หุ้นนั้นต้องมี วอลลุ่มในด้านปริมาณและมูลค่า ประการที่สอง  ต้องดูว่า มีการเทรดกันที่กระดานต่างประเทศสำหรับหุ้นนั้นหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ตัดทิ้งไปได้เลย  ด้วยเหตุผลที่ว่า แม้ต่างชาติก้ยังไม่สนใจ โดย sabina1 พุธ ก.ย. 24, 2008 8:09 pm

ทำไมนักเล่นหุ้นจึงชอบเล่นห้นปั่นมากกว่าหุ้นพื้นฐานดี sabina อยากจะบอกว่า การเล่นหุ้นนั้นเป็นการเสี่ยงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจุด safe แรก คือจุดป้องกันความเสี่ยง หุ้น BBL เป็นหุ้นที่ลงช้ามาก วันที่มีการซื้อขายมากทุกราคาบิดจะมีการบิดเป็น ล้าน ๆหุ้น ส่วนทางด้าน offer จะมีจำนวนแสนเท่านั้น เพราะฉะนั้น เมื่อ ซื้อ BBL ไป ให้ตลาดมีการขึ้นลงอย่างไร หุ้นที่เราซื้อไปก็ยากที่จะขาดทุน อีกประการหนึ่ง หุ้นนี้เมื่อซื้อไป ไม่จำเป็นที่จะต้องรีบขายเสียด้วยซ้ำ ผิดกับหุ้นเล็ก ๆ ราคาแกว่งไปแกว่งมา หุ้นที่ซื้ออาจจะขาดทุนได้ และอาจขาดทุนด้วยเวลานานกว่าจะฟื้นขึ้นมาได้ โดย sabina1 พุธ ก.ย. 24, 2008 8:01 pm

ทำไมนักเล่นหุ้นจึงชอบเล่นห้นปั่นมากกว่าหุ้นพื้นฐานดี หุ้นปั่น มันเร้าใจได้ง่าย ทำให้ดีใจเมื่อเห็นราคามันขึ้นอย่างรวดเร็ว มันทำให้เกิดความโลภไม่อยากจะรีบขาย แต่เวลามันลงแล้วมันลงอย่างรวดเร็ว ไม่มีเวลาที่จะทำใจยอมรับขาดทุนได้ เพราะฉนั้น นักเล่นหุ้นส่วนมากจะขาดทุนกับหุ้นปั่ น ผิดกับหุ้นดี ลงช้ามากมีคนอยากรับทุกราคา และก็ขึ้นช้าด้วย จึงทำให้ผู้ที่ไม่รู้เกมไม่อยากเล่น ระยะเวลาที่ผ่านมา sabina ได้พยายามเขียนกระทู้ให้เล่นหุ้นดี ๆ ก็คงจะมีคนถามอีกว่า ทำไมไม่บอกมาเลยว่าหุ้นอะไร ก็เลยฟันธงให้เล่น BBL แต่ก็มีคนแย้งและร้องยี้ เล่นไปทำไมกัน วันหนึ่งมีแค่ 3 ราคา และก็ต้องรอ ๆ ไปจนเหงือกแห้ง มันก็เป็นการยากที่จะอธิบายทุกปัจจัย ที่สนับสนุนให้เล่นหุ้นนี้ โดย sabina1 พุธ ก.ย. 24, 2008 8:00 pm

ทำไมนักเล่นหุ้นจึงชอบเล่นห้นปั่นมากกว่าหุ้นพื้นฐานดี อีกประการหนึ่งที่เขาเข้าใจผิด ก็คือคิดว่า หุ้นเล็ก ๆ นั้นสามารถขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน เขาสามารถซื้อได้จำนวนที่มากกว่า และสามารถทำกำไรได้ง่ายกว่าและเร็วกว่า ผิดกว่าหุ้นใหญ่ที่ วันหนึ่ง ๆมีแค่ 3 ช่วงราคา เขาไม่สามารถหากำไรได้อย่างจุใจ ไม่สามารถจับเสือมือเปล่า หรือทำ net settlement ได้ ดดยคิดว่า ทำไปค่า คอมก็กินหมด sabina เคยใช้เวลานับเป็นสิบ ๆปี อธิบายให้นักเล่นหุ้นฟัง แต่ก็ยากที่จะให้เขาเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ ความผิดข้อแรก ที่เขาไม่เข้าใจ ก็คือ เขาคิดว่า ตัวของเขาเองนั้นเก่งสามารถเอาชนะตลาดได้ ยิ่งหุ้นเล็ก ๆที่ราคาถีบตัวขึ้นไว เขาสามารถที่จะทำกำไรได้อย่างง่ายดาย แต่ในความเป็นเป็นจริงแล้ว เมื่อ เวลาหุ้นตัวเล็ก ๆขึ้น น้อยคนนักจะอาศัยจังหวะและโอกาสเข้าไปซื้อได้ ส่วนมากมักจะมองตาค้าง มองหุ้นขึ้นไป ขึ้นไป กว่าจะตัดสินใจซื้อได้ ราคาก็ขึ้นไปมากแล้ว บางคนก็ได้แต่แค่รอ ขอให้ราคาตกมายังจุดที่เขาได้เปรียบคนอื่นก่อนจึงจะเข้าไปซื้อ หารู้ไม่ว่า ราคาที่เขาคิดว่า เขาได้เปรียบนั้น เป็นราคาที่ลงมาแล้ว และยากที่จะกลับขึ้นไปอีก โดย sabina1 พุธ ก.ย. 24, 2008 7:58 pm