หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
send
การเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นจากการยอมรับ
Joined: เสาร์ ส.ค. 30, 2008 9:39 am
322
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - send
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: การตัดสินใจมูลค่า 50,000 ล้าน เหรียญ by วอร์เรน บัฟเฟตต์
ขอบคุณมากๆครับและก็ขออนุญาตแชร์ครับ
โดย
send
อาทิตย์ เม.ย. 15, 2012 1:20 pm
0
0
Re: หนี้สินผลประโยชน์พนักงาน
เราจะคาดการณ์หนี้สินผลประโยชน์พนักงานในอนาคต ได้อย่างไรครับ
โดย
send
เสาร์ เม.ย. 07, 2012 4:43 pm
0
0
Re: ชำแหละพอร์ตโฟลิโอของวอร์เรน บัฟเฟ็ตต์ (หนังสือแปลออกใหม่
ผมก็อ่านได้ประมาณ 1/3 เล่มแล้วก็วางเช่นกันครับ
โดย
send
อาทิตย์ เม.ย. 01, 2012 9:58 am
0
0
Re: ชำแหละพอร์ตโฟลิโอของวอร์เรน บัฟเฟ็ตต์ (หนังสือแปลออกใหม่
หลังๆ ผมไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่ Mary เขียนเท่าไหร่ครับ บางอย่างเหมือนจะตีความไปเอง รบกวนแนะนำหน่อยได้มั้ยครับว่าเพราะอะไร ผมเห็นพี่ๆหลายคนบอกว่าหลังสือของ Buffettology นั้นมีส่วนผิดพลาดอยู่
โดย
send
อังคาร มี.ค. 27, 2012 11:14 am
0
0
Re: Residual income นี้คืออะไรเหรอครับ
เป็นวิธีประเมินมูลค่าหุ้นวิธีนึงครับ
โดย
send
จันทร์ มี.ค. 26, 2012 7:59 pm
0
0
Re: อยากเล่น Future
Future เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง และ เก็งกำไร ไม่เครื่องมือในการลงทุน ถ้าคุณคือนักลงทุนผมคิดว่าคงกำลังใช้ผิดเครื่องมือ
โดย
send
อังคาร มี.ค. 20, 2012 1:05 am
0
0
Re: ผมมีเรื่องจะขอคำแนะนำเกี่ยวกับการเครดิตภาษีครับ
โพสมาซะคนเดียวเลย 555 ญาติผมคนนึงเคยยื่นเครดิตภาษีไปครับ หลังจากนั้นสรรพากรมาเช็ครายได้ที่บ้านครับ (บ้านเป็นร้านขายยา) สุดท้ายสรรพากรปรับรายได้เพิ่มประมาณเท่าตัวครับ
โดย
send
เสาร์ มี.ค. 10, 2012 8:01 pm
0
0
Re: งานวิจัย รศ.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา น่าสนใจมากๆครับ
ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าความหมายของคำว่า "งานวิจัย" คืออะไรเหรอครับ งานวิจัยคือ สิ่งที่บ่งบอกแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ในกรณีที่เราควบคุมตัวแปรให้เป็นไปตามนั้น ใช่หรือไม่ครับ ไม่ใช่ว่าถ้าทำตามแล้วจะสำเร็จแน่ ๆ ใช่หรือไม่ครับ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ แต่คิดว่า งานวิจัยนั้นโดยหลักจะให้ข้อมูลในอดีตมาทำวิจัย หากออกมาดี ก็บอกได้ว่า วิธีนี้สามารถใช้ได้ในอตีดดี (เช่นการกรอง P/E ROE) ไม่ได้รับรองใดๆว่าจะใช้ได้ดีในอนาคตครับ นอกจากนี้ถ้ามีคนใช้วิธีเดียวกันมากขึ้น จะทำให้ demand ในหุ้นตัวนั้นมากขึ้น ราคาหุ้นจะสูงขึ้นหรือไม่ยอมลง ส่งผลให้ Return น่าจะลดลน้อยลง(ถ้าปัจจัยอื่นๆคงที่)
โดย
send
อาทิตย์ มี.ค. 04, 2012 12:17 pm
0
0
Re: เราจะรู้ว่าบริษัทนั้นๆ จ่ายเงินปันผลจากภาษีอัตราเท่าไรบ้
ดูได้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินครับ อยู่ข้อหลังๆหน่อย บริษัทส่วนใหญ่จะมีครับ (แต่บางบริษัทก็ไม่มี)
โดย
send
อาทิตย์ มี.ค. 04, 2012 12:01 pm
0
0
Re: งานวิจัย รศ.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา น่าสนใจมากๆครับ
ไม่ทราบว่ามี อ. ท่านอื่นที่น่าสนใจอีกหรือเปล่า เพราะที่นิด้าน่าจะมีเก่งๆ เยอะเหมือนกัน ผมคิดว่าแบบนั้นลอง search จากประเภทบทความน่าจะดีกว่าครับ จะได้เป็นเรื่องที่เราสนใจครับ
โดย
send
พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2012 12:12 pm
0
0
Re: งานวิจัย รศ.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา น่าสนใจมากๆครับ
ไม่ได้จริงๆ ผมก็งงครับลองอีกอัน http://journal.nida.ac.th/journal/index.php?option=com_content&view=article&id=58&Itemid=63&lang=th อันนี้น่าจะได้แล้วครับ ในใส่ชื่อ "รศ.ดร.ไพบูลย์" ในช่องค้นหา แล้วกด Search ครับ
โดย
send
อังคาร ก.พ. 28, 2012 7:45 pm
0
3
Re: งานวิจัย รศ.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา น่าสนใจมากๆครับ
ไม่ได้จริงๆ ผมก็งงครับลองอีกอัน http://journal.nida.ac.th/journal/index.php?option=com_content&view=article&id=58&Itemid=63&lang=th
โดย
send
อังคาร ก.พ. 28, 2012 7:43 pm
0
1
Re: งานวิจัย รศ.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา น่าสนใจมากๆครับ
http://journal.nida.ac.th/journal/index.php?option=com_content&view=article&id=59 ลองอีกทีนะครับ
โดย
send
อังคาร ก.พ. 28, 2012 7:42 pm
0
0
Re: การจ่ายปันผลเป็นหุ้นปันผล
เกิด dilution เหมือนเพิ่มทุน (จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น) แต่ Equity ไม่เปลี่ยนแปลง คล้ายการแตกพาร์ ผมคิดว่าหากเปรียบแล้วการจ่ายหุ้นปันผลน่าจะเหมือนกับ การงดจ่ายปันผลมากกว่า เพราะบริษัทไม่ได้จ่ายอะไรออกมาเลย สังเกตได้จาก Equity ไม่ได้ลด (จริงๆมี equity ลดนิดหน่อยจากปันผลส่วนที่เป็นเงินสดที่จ่ายเพื่อเป็นภาษีหัก ณที่จ่าย) แม้นักลงทุนจะได้จำนวนหุ้นที่มากขึ้น แต่ราคาหุ้นก็จะลดลง ส่งผลให้มูลค่าไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม (ราคาหุ้น*จำนวน => แล้วได้เท่าเดิม) ซึ่งสาเหตุที่บริษัทจ่ายปันผลเป็นหุ้นคิดว่าน่าจะมาจาก 1.การงดจ่ายปันผลมันดูแย่ในเชิงจิตวิทยา 2.บริษัทเห็นช่องทางการขยายธุรกิจ หรือการลงทุนที่คุ้มค่า 3.บริษัทไม่มีเงินสดในการจ่ายปันผล ****รอฟังความเห็นคนอื่นๆเพิ่มเติมด้วยนะครับ****
โดย
send
จันทร์ ก.พ. 27, 2012 1:45 pm
0
0
Re: การซื้อหุ้นคืน
บริษัทมักซื้อหุ้นคืนในตลาดครับ เหมือนที่เราซื้อนี่แหละครับ ซึ่งถ้าเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องทั่วไปก็ซื้อได้ไม่ยาก ถ้าเป็นหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่อง บริษัทน่าจะหลีกเลี่ยงการซื้อหุ้นคืน เพราะจะทำให้สภาพคล่องยิ่งลด
โดย
send
เสาร์ ก.พ. 25, 2012 5:55 pm
0
0
Re: กรณีจ่ายปันผลเป็นหุ้น สามารถเครดิตภาษีได้มั้ยครับ
ขอบคุณมากครับ จริงๆผมเห็นมูลค่าที่ปันผลแล้วครับ เพียงแต่นึกในมุมมองความเป็นจริงคิดว่าน่าจะเป็นราคาตลาด จึงสงสัยครับ ขอบคุณ พี่ chatchai และพี่ ลูกอิสาน มากครับ
โดย
send
เสาร์ ก.พ. 25, 2012 5:50 pm
0
0
Re: กรณีจ่ายปันผลเป็นหุ้น สามารถเครดิตภาษีได้มั้ยครับ
ได้เหมือนปันผลเป็นเงินสดทุกประการครับ พี่ chatchai ครับ แล้วเราใช้ตัวเลขอะไรมาแทนเงินปันผลครับ เช่น กรณีปันผลเป็นเงินสด หากผมมีหุ้น A 1000 หุ้น ปันผลหุ้นละ 0.10 บาท ผมก็ได้ปันผล 100 บาท หัก ณ ที่จ่าย 10 บาท แต่ กรณีที่ปันผลเป็นหุ้น เช่นปันผล 10:1 ตัวเลขที่จะมาแทน 100 บาท จะมาจาก จำนวนหุ้นปันผล*ราคาตลาด ณ ก่อนวัน XD หรือ จำนวนหุ้นปันผล*ราคา Par ครับ
โดย
send
พฤหัสฯ. ก.พ. 23, 2012 8:19 pm
0
0
Re: เหตุใดหุ้นจึงชนะทองคำและพันธบัตร - วอร์เรน บัฟเฟตต์ (แปล
ขอบคุณครับ
โดย
send
พฤหัสฯ. ก.พ. 23, 2012 9:30 am
0
0
Re: อยากถามไอเดียของเพื่อนๆพี่ๆ เพื่อใช้ไปทำวิทยานิพนธ์ครับ
ผมสนใจเกี่ยวกับ cost of equity ที่เหมาะสมครับ ผมเคยคิดจะทำวิจัยเรื่องนี้ แต่อาจารย์ที่ปรึกษาแนะนำว่า มันยากที่จะทดสอบว่า cost of equity เท่าไหร่ถึงเหมาะสม
โดย
send
อาทิตย์ ก.พ. 12, 2012 7:33 pm
0
1
Re: ถามวิธีการพิจารณาดูผู้บริหารครับ
ส่วนผมมักชอบผู้บริหารที่ conservative ครับ อาจพอดูได้จากการสัมภาษณ์ หรือการคาดการ์งบ เทียบกับงบที่ออกมาจริง และผมจะให้ความสำคัญการเกี่ยวกับพวกนโยบายบัญชี เช่น พวกการรับรู้รายได้ การตัดค่าเสื่อม หรือ พวกค่าเผื่อหนี้ ค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ ว่า conervative มากน้อยเพียงใด ซึ่งหากเทียบกับคู่แข่งจะทำให้เห็นภาพชัดขึ้น นอกจากนี้ก็จะดูว่ามีการจัดสรรอย่างสมเหตุสมผลหรือไม่ และหากผู้บริหารเคยมีประวัติว่าชื่อเสียงไม่ดีก็ห่างๆหน่อย เท่าที่นึกออกก็ประมาณนี้ครับ
โดย
send
พฤหัสฯ. ก.พ. 09, 2012 7:56 pm
0
0
Re: vi มี cut loss มั้ยครับ
Cut Loss เมื่อพื้นฐานระยะยาว ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์
โดย
send
จันทร์ ธ.ค. 05, 2011 10:11 am
0
0
Re: หุ้นคุณค่า เวลากิจการขาดทุน จังหวะซื้ออยู่ที่ไหนครับ??
หากมองว่าขาดทุนที่เกิดขึ้นเกิดเพียงชั่วคราว ผมจะทยอยซื้อครับ ซื้อก่อนตอนนี้เลย จากนั้นรอดูราคาหุ้นครับ ถ้าราคาลงต่อก็ซื้อเพิ่ม ผมไม่รู้ว่าหุ้นจะต่อสุดที่ราคาไหน บางครั้งประกาศงบออกมาไม่ดี แต่ราคาก็ดันขึ้น บางบริษัทประกาศงบมาดีราคาก็ลง บางครั้งก็อาจลงด้วยเหตุผลอื่นๆอีกเช่น วิกฤตเศรษฐกิจ ผมคิดว่าผมไม่สามารถซื้อที่ราคาต่ำสุดได้ จึงคิดว่าทยอยซื้อจะเป็นวิธีที่ดีครับ เพิ่มนิดนึงว่า การทยอยซื้อของผมจะแบ่งเงินเท่าๆกัน วิธีการนี้ถ้าหุ้นลงเราจะซื้อได้จำนวนเพิ่มขึ้น ถ้าหุ้นขึ้นเราจะซื้อได้จำนวนลดลง ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยเราต่ำกว่าราคาหุ้นเฉลี่ยครับ
โดย
send
จันทร์ ธ.ค. 05, 2011 10:06 am
0
1
Re: ใครที่ท้อมาดู port ของเซียนช่วงวิกฤติดีกว่า
ขอบคุณมากครับ :D
โดย
send
อังคาร ต.ค. 04, 2011 5:29 pm
0
0
Re: บ.ที่ออกหุ้นทุนเพิ่มเติมเราจะทราบได้อย่างไรหรือต้องดูตรง
ขอโทษนะครับยังไม่ค่อยเข้าใจ ว่าส่วนที่ชำระแล้วนั้นเป็นส่วนทุนหรือส่วนเพิ่ม รบกวนขยายอีกนิดครับ การที่ส่วนที่ชำระแล้วเพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการที่บริษัทได้เงินเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทุน พูดง่ายๆคือ เมื่อมีการเพิ่มทุน ส่วนที่ชำระแล้วจะเพิ่มขึ้น
โดย
send
อังคาร ก.ย. 27, 2011 10:28 pm
0
0
Re: บ.ที่ออกหุ้นทุนเพิ่มเติมเราจะทราบได้อย่างไรหรือต้องดูตรง
ดูได้ที่มูลค่าหุ้นที่เรียกชำระแล้วครับ แต่ยังไงเราก็ควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อคากการณ์การเพิ่มทุนในอนาคตด้วย โดยอาจดูคร่าวๆว่ามีพวก warrant หรือ ESOP หรือไม่
โดย
send
อังคาร ก.ย. 27, 2011 1:59 pm
0
0
Re: ถามเกี่ยวกับ ธุรกิจรถเช่าครับ
ลักษณะของหุ้นกลุ่มนี้คือ การปล่อยสินเชื่อ ซึ่งสินค้าคือ เงิน นั่นเอง ซึ่งในมุมของลูกค้าไม่ว่ากู้ใครก็ไม่มีความต่างกันมากนัก (สินค้าไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้) ส่งผลให้ลูกค้ามีอำนาจต่อรองสูง ทำให้บริษัทแข่งขันในเรื่อง การลดเงินดาวน์และดอกเบี้ย นอกจากนี้ธุรกิจนี้ยังต้องการเงินทุนมากในการเพิ่มรายได้ ส่งผลให้บริษัที่โตเร็วมีหนี้เยอะ และอาจจำเป็นที่ต้องเพิ่มทุน แต่ในกรณี GL กับ TK จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเงินทุน เนื่องจากสามารถปล่อยกู้ได้ในอัตราที่สูง(ประมาณ 30%) แต่สาเหตุที่ GL PE ต่ำน่าจะมาจากสามส่วน หนึ่งเรื่องการแปลง Warrant สองเรื่องการลาออกไปตั้งบริษัทใหม่ของ CEO และ สามเรื่อง NPL ที่สูงขึ้น (GL ไม่ใช่ธุรกิจรถเช่านะ แต่เป็นปล่อยสินเชื่อรถมอเตอร์ไซด์ และส่วนย่อหน้าแรก ผมพูดถึงธุรกิจ สินเชื่อเช่าซื้อ ครับ) ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
โดย
send
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 9:01 pm
0
0
Re: มีเว็บไหนที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับค่าเบต้า บ้างครับ
https://www.trinityquicktrade.com/Quicktrade/jsp/tools.jsp ของ บล. ทรินิตี้ ครับ (แต่โดยส่วนตัวผมไม่ใช้ Beta วัดความเสี่ยงนะครับ)
โดย
send
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 8:44 pm
0
0
Re: ขอความช่วยเหลือเรื่องหนังสือครับ
buffettology http://www.se-ed.com/eShop/Search/SearchList.aspx?Keyword=buffettology&SearchType=Name&SelectType=All
โดย
send
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 11:52 am
0
0
Re: รบกวนถามเรื่อง ROIC กับ ROA ครับ
ผมคิดว่าการใช้แทนกันอาจไม่เหมาะเท่าไหร่ครับ เพราะบางธุรกิจอาจมี เจ้าหนี้การค้าสูงครับ ซึ่งจะทำให้ ROIC มากกว่า ROA อย่างมาก ลองดูอย่าง CPALL ก็ได้ครับ
โดย
send
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 11:45 am
0
0
Re: ขอความช่วยเหลือเรื่องหนังสือครับ
ถ้าผมเจออีกทีจะจำแล้วมาบอกนะครับ
โดย
send
เสาร์ ก.ย. 24, 2011 11:37 am
0
0
Re: มาร์เก็ตติ้งเล่นหุ้นได้ไหมครับ
ถ้าผมจำไม่ผิดคือ เล่นได้แต่ต้องมีการรายงานการซื้อขายกับบริษัท และอาจมีการตรวจของเกี่ยวกับ ลำดับการซื้อขาย รวมทั้งการใช้ข้อมูลภายใน ดังนั้นเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความยุ่งยากเหล่านี้ Marketing ส่วนใหญ่จึงเทรดในชื่อคนอื่น
โดย
send
ศุกร์ ก.ย. 23, 2011 9:54 pm
0
0
Re: ขอความช่วยเหลือเรื่องหนังสือครับ
ผมว่าหาไม่ยากนะครับ ผมยังเจออยู่ แต่ beating the street จะหายากหน่อย ลองสั่งซื้อ จากร้านหนังสือดูครับ
โดย
send
ศุกร์ ก.ย. 23, 2011 4:53 pm
0
0
Re: บริษัทไหนบ้างที่เสียภาษี 30%
ลองเข้าไปดูในหมายเหตุประกอบงบ ของบบริษัท หรือไม่ก็ Annual Report ครับ ส่วนใหญ่จะมีบอกไว้
โดย
send
เสาร์ ก.ย. 03, 2011 8:29 pm
0
0
Re: forward pe
ราคาปัจจุบันของหุ้น หารด้วย กำไร ในอนาคตครับ ใช้วัดความถูกของหุ้นได้ดีกว่า pe ปกติ เพราะการลงทุนต้องมองไปที่อนาคต กำไร ในอนาคตครับ หาได้ยังไงครับ อันนี้คือสิ่งที่ยากมากสิ่งนึงครับ ทำโดยเราต้องเข้าใจบริษัทก่ิอน อะไรคือความเสี่ยง และอะไรคือปัจจัยที่ทำให้บริษัทกำไร จากนั้นก็คาดการณ์สิ่งเหล่านี้ แล้วก็คาดการกำไร ยิ่งคุณเข้าใจบริษัทมากก็จะสามารถคาดการณ์ได้ใหล้เคียงมากขึ้น แต่บางบริษัทก็มีความผันผวน อย่างมากจนยากที่จะคาดการณ์ได้ ในความเป็นจริงคือ เราไม่จำเป็นต้องคากการณ์ทุกบริษัทได้ สำหรับ Buffett บอกว่าบริษัทส่วนใหญ่ ยากเกินไป หรืออยู่นอกขอบเขตความรู้ของเขา นอกจากนี้แม้เราจะเข้าใจบริษัทเป็นอย่างดีการคาดการณ์ ก็ยังอาจผิดพลาดได้ ทำให้เราต้องมี Margin of Safety (การซื้อที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมที่เราคาดการณ์) จากความเห็นผมถ้าจะฝึกคาดการณ์กำไรบริษัท ให้หาบริษัทที่กำไรไม่ผันผวนมาก เช่น โต 5% ทุกปี หรือ คงที่ทุกปี หรืออาจดูจาก ROE ว่า ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง ซึ่งบริษัทเหล่านี้มักเป็นบริษัทที่มี Competitive Advantage ที่สูงด้วย หรืออาจฝึกจากกลุ่ม กองทุนอสังหา เพราะกลุ่มนี้เข้าใจค่อนข้างง่าย แต่ซึ่งที่ต้องสนใจเป็นพิเศษสำหรับกลุ่มนี้คือ เป็น Lease Hold หรือ Free Hold นอกจากนี้ก็คือ ระวังเรื่องการรับรองรายได้ เพราะเมื่อมันหมดไปรายได้อาจจะ หายไปเยอะ
โดย
send
พฤหัสฯ. ส.ค. 25, 2011 10:41 am
0
0
Re: ขอความรู้เรื่องการที่บริษัทซื้อหุ้นคืนครับ
- จำนวนหุ้นยังคงเท่าเดิมไม่ใช่หรือครับ แต่สัดส่วนที่บริษัทเป็นผู้ถือ มากขึ้น เราสามารถพิจารณากิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมการลงทุนแบบนึงใช่มั้ยครับ และถ้าจำนวนหุ้นเท่าเดิมแล้วผู้ถือหุ้นจะได้ส่วนแบ่งต่อหุ้นสูงขึ้นได้ยังไงครับ ต้องได้เท่าเดิมไม่ใช่หรือครับ ไม่ชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์นะครับ แต่คิดว่าจำนวนหุ้นจะลดลงครับ สังเกตได้ว่าไม่มีบริษัทใดเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เลย นอกจากไปตั้ง Holding company มาถือหุ้น เมื่อจำนวนหุ้นลดจะได้ส่วนแบ่งต่อหุ้นสูงขึ้น - เมื่อบริษัทมีมติจ่ายปันผล แสดงว่า เงินปันผลจ่ายที่บริษัทได้มา (จากการซื้อหุ้นตัวเองคืน) จะกลายมาเป็นกำไรสะสมใช่มั้ยครับ ซึ่งกรณีนี้ น่าจะมีผลทำให้มูลค่าหุ้นสูงขึ้นใช่มั้ยครับ และนี่น่าจะเป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้นเดิมมากกว่าใช่มั้ยครับ บริษัทจะไม่ได้ปันผลจากการซื้อหุ้นตนเอง - กรณีที่ราคาหุ้นในตลาดปรับตัวสูงขึ้น จนถึงค่านึง แล้วบริษัทขายหุ้นออกไป กำไรส่วนต่างนั้นจึงจะสะท้อนมาเป็นเงินปันผลที่มากขึ้นในปีนั้นๆ ใช่มั้ยครับ ซึ่งจะทำให้เงินปันผลมากขึ้นแค่ในช่วงที่บริษัทขายหุ้นตัวเอง (ที่ซื้อคืนมา) ออกไปเท่านั้น ถูกมั้ยครับ ปกติ การซื้อคืนมักจะมีกำหนดระยะเวลาการขายคืนไว้ ถ้าไม่ขายในระยะเวลาที่กำหนด ก็จะไปปรับลดจำนวนหุ้นทีำชำระแล้วอีกที ในกรณีที่ขายหุ้นคืนกำไรก็จะสะท้อนออกมาในรูปของกำไรจากการลงทุนไม่ใช่ปันผล ทั้งหมดไม่ชัวร์เท่าไหร่นะครับ รอคนมา comfirm อีกทีละกัน
โดย
send
พุธ ส.ค. 24, 2011 11:17 pm
0
0
Re: forward pe
ราคาปัจจุบันของหุ้น หารด้วย กำไร ในอนาคตครับ ใช้วัดความถูกของหุ้นได้ดีกว่า pe ปกติ เพราะการลงทุนต้องมองไปที่อนาคต
โดย
send
พุธ ส.ค. 24, 2011 11:06 pm
0
0
Re: ปรึกษาหน่อยครับ อยากจะทำประกันชีวิตครับ
อย่าซื้อแบบสะสมทรัพย์เด็ดขาดครับ ก็แล้วแต่คนมองนะครับ ผมลองทำ DCF เล่นๆดูของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ถ้าหักภาษีได้ 30% จ่ายเบี้ย 100000 บาทต่อปี (สูงสุดที่ให้ลดหย่อน) 5 ปี รับความคุ้มครอง 100000 บาท เพิ่มเรื่อยๆไปถึง 500000 บาท ผลตอบแทนแบบทบต้น 7.5% มากกว่าฝากพันธบัตรด้วยครับ ก็คงแล้วแต่แหละครับว่าพอใจกับตัวเลขนี้หรือเปล่า ผมคิดว่าคุณ โอ@ คงพูดถึงประกันที่มีความคุ้ทครอง 10 ปีแต่จ่ายเบี้ย 5 ปี ผมคิดว่าในกรณีการทำประกันนั้นสิ่งสำคัญที่สุด คือต้องทำให้ตรงวัตถุประสงค์ และวตถุประสงค์ก็ควรเป็นความคุ้มครองชีวิต และสุขภาพ ซึ่งผมก็คิดว่าไม่ควรทำประกันแบบสะสมทรัพย์ ยกเว้นทำเพื่อลดหย่อนภาษี อย่างไรก็ตามหากมองถึงการลดหย่อนภาษีก็มีเครื่องมืออีกหลา่ยตัว ซึ่งผมคิดว่า LTF คือตัวเลือกที่ดีตัวหนึ่ง ฐานภาษี 30 ให้ผลตอบแทน 12.62% ไม่รวม capital gain นอกจากนี้ LTF ยืดหยุ่นกว่าประกันมาก หากปีไหนไม่มีเงินลงทุนก็ไม่ลงต้องลงทุน เงินก็ไม่ได้จมนานอย่างประกัน เมื่อครบอายุก็สามารถนำเงินมา reinvest
โดย
send
อาทิตย์ ส.ค. 14, 2011 8:10 pm
0
0
Re: ปรึกษาหน่อยครับ อยากจะทำประกันชีวิตครับ
หากเป็นนักลงทุนเหมือนกันคงคุยกันเข้าใจง่ายขึ้น :D
โดย
send
อังคาร ส.ค. 09, 2011 10:03 am
0
0
Re: ปรึกษาหน่อยครับ อยากจะทำประกันชีวิตครับ
จะทำประกันชีวิตต้องคิดให้ดีนะครับ เพราะ สัญญาส่วนใหญ่จะเป็นระยะยาว ประมาณ 20 ปี หากระหว่าง 20 นั้น เราต้องการเงินไปทำอย่างอื่น เช่น ซื้อบ้าน เราจะไม่สามารถยกเลิกการออมได้ และไม่สามารถนำเงินที่ออมไปก่อนหน้าออกมาได้เช่นกัน (จริงๆทำได้แต่มักจะไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่) นอกจากนี้ผลตอบแทนที่ได้จากประกันชีวิตก็ค่อนข้างต่ำ เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1-2% เท่านั้น (หากบอกสูงกว่านี้เป็นไปได้ว่าใช้วิธีการคำนวณที่ไม่ถูกหลักการเงินเท่าไร) แต่ปัจจุบันเนื่องจากดอกเบี้ยี่สูง ขึ้นผมคิดว่าผลตอบแทนคงอยู่ที่ประมาณ 2-3% ประกันชีวิตนั้นเป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นเพื่อความคุ้มครองครับ ถ้าซื้อเพราะต้องการ คุ้มครองกรณีเสียชีวิต และคุ้มครองสุขภาพนั้นผมเห็นด้วย แต่ถ้าซื้อเพื่อลงทุนนั้นผมไม่เห็นด้วยครับ(ลงทุน 20 ปี ให้ผลตอบแทน 2-3% ถือว่าน้อยมากๆ) ถ้าจะลงทุนผมแนะนำให้ไปซื้อพวกพันธบัตรดีกว่า ยังไงก็ตามตัวแทนมักจะเอาประกันแบบสะสมทรัพย์มาขายเรา ให้เลือกแบบที่คุ้มครองเท่านั้นครับ ไม่ต้องมีออมทรัพย์พ่วง เบี้ยประกันจะลดลงประมาณ 80% ณ ทุนประกันที่เท่ากัน(ไม่รวมส่วนประกัน สุขภาพ) สำหรับประกันสุขภาพนั้น หากเป็นพนักงานบรษัท ก็น่าจะมีอยู่แล้ว บางบริษัททำประกันสุขภาพให้ แต่ส่วนใหญ่ก็มีประกันสังคม อันนี้ผมเคยเขียนเกี่ยวกับประกันชีวิตไว้ครับ ลองอ่านดูก็ดีครับ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=rinvestment&group=4&month=29-03-2010&gblog=1 มีอะไรสงสัยก็ถามเพิ่มเติมนะครับ
โดย
send
อังคาร ส.ค. 09, 2011 10:01 am
0
0
Re: รวบรวมบทความน่าสนใจ + ความเห็นBuffet
ขอบคุณครับ
โดย
send
จันทร์ ส.ค. 08, 2011 11:36 pm
0
0
Re: อยากได้ความคิดเห็นเกี่ยวกับหุ้นราคาถูกเรื้อรัง ใน พ.ศ.2
ผมคิดว่าเพราะ 1.บริษัทขนาดเล็ก 2.บริษัทไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป 3.สถาพคล่องน้อย 4.Earning Growth น้อย (ผมคิดว่าถ้าสูงไม่นานคนจะเห็นคุณค่าและไม่ถูกเรื้อรัง) 5.ไม่มีนักวิเคราะห์ และกองทุนสนใจ หลักๆน่าจะประมาณนี้ครับ
โดย
send
พุธ ส.ค. 03, 2011 12:25 am
0
0
Re: Warren Buffett: All Cars Will Be Electric By 2030
ขอบคุณที่นำประเด็นมาให้ศึกษาวิเคราะห์กันนะครับ ผมคงต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มซะแล้ว ได้อะไรกลับมา รยกวนมาแชร์กันบ้างนะครับ
โดย
send
อาทิตย์ ก.ค. 31, 2011 1:53 pm
0
0
Re: ถามเกี่ยวการประเมินมูลค่ากลุ่ม Leasing ครับ
ลองเข้า ไป search หาบทความใน http://www.tsi-thailand.org มีบทความของ ดร.กฤษฎา สอนเรื่อง งบการเงินของธนาคาร ใช้งานกับกลุ่ม Leasing ได้เหมือนกัน ส่วนการประเมินมูลค่า ใช P/BV ก็ได้ เเต่มี RATIO หลายๆตัวที่ต้องระวัง คิดว่าคงเป็นอันนี้ http://www.tsi-thailand.org/index.php?option=com_content&task=view&id=937&Itemid=1397 ขอบคุณครับ
โดย
send
จันทร์ ก.ค. 25, 2011 9:09 pm
0
0
Re: ถามเกี่ยวการประเมินมูลค่ากลุ่ม Leasing ครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ
โดย
send
อาทิตย์ ก.ค. 24, 2011 10:22 pm
0
0
Re: ถามเกี่ยวการประเมินมูลค่ากลุ่ม Leasing ครับ
หากจะแนะนำหนังสือก็จะดีมากเลยครับ
โดย
send
อาทิตย์ ก.ค. 24, 2011 12:01 am
0
0
Re: ถามเกี่ยวการประเมินมูลค่ากลุ่ม Leasing ครับ
อยากได้ความรู้เรื่องนี้เหมือนกันครับ หาหนังสืออ่านไม่ได้เลย แต่เท่าที่ผมใช้ก็คือ D/E ratio เทียบกับบริษัทที่ทำธุรกิจคล้ายกัน ดูดอกเบี้ย MLR ว่ายังจะมีสเปรดเหลือพอหรือไม่ ดูหนี้สงสัยจะสูญ ดูลูกหนี้ด้อยคุณภาพ ดูการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ ประมาณนี้ล่ะครับ การ forecast คงหนีไม่พ้นจากการดูพอร์ตสินเชื่อแล้วประเมินการเติบโตออกมาให้เป็นตัวเลข ส่วนการ ประเมินมูลค่า ผมก็พยายามศึกษาหลายวิธี แต่ที่จะใกล้เคียงกับที่ผมคาดไว้น่าจะเป็น DDM โดยวิธีของ Gordon Growth ครับ ลองทำ DCF แล้วมันเข้ารกเข้าพงไปเลย :oops: ผิดถูกยังไงชี้แนะด้วยนะครับ ผมเองก็เพิ่งศึกษาเรื่องนี้ได้ไม่นาน พอดีมีน้องท่านนึง pm มาถามว่าผมใช้โมเดลอะไรในการวัดมูลค่าหุ้น ตอนนั้นผมตอบไม่ได้ ทำให้ผมรู้สึกว่าต้องไปหาความรู้เพิ่มเรื่องนี้แล้วแหละ ใช้ DDM ผมคิดว่าอาจมีปัญหา เพราะบริษัทที่ผมจะวิเคราะห์ ปี 52 ปันผลประมาณ 40% ของกำไร แต่ปี 53 ปันผลเกือบ 70% ของกำไร แบบนี้ผมใช้ตัวไหนดีครับ
โดย
send
อาทิตย์ ก.ค. 24, 2011 12:00 am
0
0
Re: ถามเกี่ยวการประเมินมูลค่ากลุ่ม Leasing ครับ
การประเมินโดย P/B มีจุดอ่อนที่ไม่ได้ประเมิน รวม Growth ของ eps เข้าไปด้วยครับ ดังนั้นหาก บ.ลิสซิ่งที่มีพอร์ตสินเชื่อที่มีคุณภาพ และขยายพอร์ตได้เราสามารถที่จะคาดโกรทของปีถัดๆไปได้ครับ ดังนั้น PB อาจไม่ค่อยเหมาะ เพราะ book value ไม่ได้รวม ค่าแบรนด์เนม ค่าฐานลูกค้า ค่าความชำนาญของ พนง ไว้ด้วยครับ ลองแลกเปลี่ยนความเห็นกันดูครับ :D เห็นด้วยอย่างมากครับ แก้โดยใช้๋ี Justified PB ได้มั้ยครับ (ROE-g)/(Re-g)
โดย
send
เสาร์ ก.ค. 23, 2011 11:53 pm
0
0
Re: ถามเกี่ยวการประเมินมูลค่ากลุ่ม Leasing ครับ
ถ้าจำไ่ม่ผิดที่ผมเจอว่าควรใช้ PB เนื่องจากสินทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้ ที่มีความซึ่งใกล้เคียงกับมูลค่าจริงครับ
โดย
send
เสาร์ ก.ค. 23, 2011 8:27 pm
0
0
Re: อยากถามเรื่อง Property Fund กับความขัดแย้งทางผลประโยชน์
ครับคือบางทีผมมองแล้วรู้สึกเหมือนว่าเป็นการหลอกกู้เงินดอกเบี้ยถูกมากๆ โดยที่คนกู้ไม่มีความเสี่ยงเลย เผลอๆเป็นการลดความเสี่ยงของตัวเองด้วยซ้ำ เพราะถ้ากู้เงินธรรมดานอกจากจะต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงแล้ว ถ้าธุรกิจไม่ดีก็เสี่ยงที่จะไม่มีเงินมาจ่าย แต่แทนที่จะกู้ถ้าออก Property Fund แทน นอกจากจะไม่ต้องจ่ายดอกแพงๆแล้วถ้าธุรกิจในอนาคตกำไรลดลงก็แค่จ่ายปันผลน้อยลง แล้วที่ผมว่ามันแย่คือ Property Fund แบบนี้พอสัญญาเช่าหมดหรือใกล้จะหมดหุ้นเราก็หมดค่าไปด้วย ผมมองว่าสิ่งที่บริษัทต้องจ่ายคือ ปันผลนะครับ ซึ่งปกติแล้วจะสูงกว่าดอกเบี้ยซะด้วย (CPNRF ก็น่าจะ 7-8% เทียบจากราคา PAR) แต่บริษัทก็มีความเสี่ยงต่ำ กล่าวคือ หากขาดทุนก็ไม่ต้องจ่ายปันผล ผมมองว่าที่บริษัทขาดกองทุนอสังหา ออกมา เนื่องจากต้องการเงินไปลงทุนสร้างห้างใหม่ๆ และผมคิดว่าทาง CPN อาจต้องการขยายอย่างรวดเร็ว เพื่อยึดทำเลดีๆ แต่หากกู้เงินจำนวนมาก ก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงมากเกินไป แต่หากออก หุ้นเพิ่มทุนก็จะทำให้เกิด dilution effect ดังนั้นจึงเลือกที่จะนำเงินจากการขายกองทุนอสังหา มาลงทุน ส่วนตัวผมมองว่ากองทุนอสังหาน่าสนใจนะครับ เพราะมีปันผลผันผวนค่อนข้างน้อย และจะธุรกิจจะเข้าใจง่าย ทำให้คาดการณ์อนาคตได้ไม่ยากนัก แต่ก็มีบางส่วนที่ต้องระวังเป็นพิเศษเหมือนกัน เช่น การรับรองรายได้ และ การเป็นแบบเช่าพื้นที่ หรือ ซื้อพื่นที่ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่วิเคราะห์เก่งๆ ผมคิดว่าหุ้นจะใหผลตอบแทนที่สูงกว่าครับ ข้อมูลทั้งหมดแค่ความเห็นคร่าวๆนะครับ
โดย
send
พุธ ก.ค. 20, 2011 1:29 pm
0
0
Re: อยากถามเรื่อง Property Fund กับความขัดแย้งทางผลประโยชน์
คือจริงๆแล้วผมไม่ได้สงสัยเกี่ยวกับ Property Fund ทุกอันนะครับ แต่มันมี Property Fund อยู่แบบนึงที่ผมคิดว่ามันแปลกๆอยู่ Property Fund แบบที่ผมสงสัยคือแบบที่เจ้าของห้างหรือตึกที่เช่าที่ดินระยะยาวอยู่ทำ Property Fund ขึ้นมาโดยให้สิทธิค่าเช่าจากโครงการกับผู้ถือหุ้น อย่าง CPNRF ที่ให้สิทธิของห้าง Central 3 สาขา คือที่ผมสงสัยก็คือว่าในกรณีนี้ผลประโยชน์สำหรับผู้ถือหุ้นกับผู้ทำ Property Fund (เจ้าของห้าง) มันไม่ได้เป็นไปในทางทิศทางเดียวกันเท่าไหร่ เพราะอย่างถ้าเป็นหุ้นบริษัท ยิ่งบริษัทกำไรเยอะก็ยิ่งดีกับทั้งผู้ถือหุ้นใหญ่ ผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นรายเล็ก และถ้าบริษัทกำไรไม่ดี ผู้บริหารก็อาจถูกเปลี่ยนได้ แต่สำหรับ Property Fund แบบนี้ คนทำก็คือเจ้าของห้าง ถ้าเขาขายสิทธิค่าเช่าให้ Property Fund แล้ว (ถึงแม้เขาเองจะต้องถือหุ้นอยู่ 30%) ความสนใจว่าห้างจะกำไรเท่าไหร่หลังจากนั้นน่าจะลดลงเยอะเพราะกำไรส่วนใหญ่ต้องจ่ายให้ผู้ถือหุ้น Property Fund แล้วยิ่งถ้าเขามีห้างสาขาอื่นที่เขาไม่ได้เอาเข้า Property Fund เขาไปสนใจห้างพวกนั้นไม่ดีกว่าหรือสำหรับเขาเพราะกำไรเขาก็ได้คนเดียวเต็มๆ ส่วนห้างที่อยู่ใน Property Fund ถ้าเขาปรับปรุงหรือตั้งใจทำตอนนี้ก็ต้องแบ่งกำไร ไปรอทำหลังจากที่สัญญาเช่าที่และ Property Fund หมดไม่ดีกว่าเหรอ หรือถ้าจะแย่จริงๆเขาอาจทำบัญชีให้ดูเหมือนว่าสาขาอื่นๆกำไรเยอะแต่สาขาที่อยู่ใน Property Fund กำไรน้อยก็ได้ อีกอย่างนึงถ้า Property Fund ผลประกอบการไม่ดีก็ไม่สามารถเปลี่ยนผู้บริหารได้เหมือนถ้าเป็นบริษัทใช่ไหมครับ ขอบคุณครับ ผมดูแล้วเลยสงสัยว่าทำไมผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น กับผู้บริหาร Property Fund แบบนี้(เฉพาะแบบนี้นะครับ) มันดูขัดแย้งกันยังไงก็ไม่รู้ ผมเห็นด้วยครับว่าน่าจะมีความขัดแย้งดังกล่าวอยู่ แต่ผมคิดว่าหากบริษัทไม่สนใจดูแลเลย ทำให้รายได้ลดลง ในระยะยาวก็ไม่มีนักลงทุนสนใจ ทำให้ออก Property Fund ใหม่ๆได้ยาก นอกจากนี้แล้วคิดว่าปัญหาความขัดแย้งของ CEO กับผู้ถือหุ้นก็มักจะมีอยู่ทุกบริษัทอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะมีไม่เท่ากัน สิ่งที่ต้องระวังคือบริษัทที่ไม่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่เลย(เช่นบริษัทที่ผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งถือหุ้นแค่ 3%) ในกรณีนี้จะไม่มีใครมาคอยตรวจสอบผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น
โดย
send
จันทร์ ก.ค. 18, 2011 8:57 am
0
0
205 โพสต์
of 5
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
send
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
เสาร์ ส.ค. 30, 2008 9:39 am
ใช้งานล่าสุด:
-
โพสต์ทั้งหมด:
322 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.02% จากโพสทั้งหมด / 0.05 ข้อความต่อวัน)
ลายเซ็นต์
การเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นจากการยอมรับ
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว