-
-
อืมม์
Joined: อังคาร ส.ค. 10, 2004 10:17 am - ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - อืมม์
-
- โพสต์ที่ตอบ
- คอมเมนต์
- ไลค์
-
-
ขอโทษผิดคำพูดว่าไม่ post แต่อยากพูดเรื่องเบียช้าง เพราะทนไม่ มองในแง่นักลงทุนผมคิดว่าถ้ามีปัญหาอย่าเอาเข้าก็ดีครับ เอาเข้ามาแล้วจะกลายเป็นหุ้นที่อ่อนไหวกับข่าวมากอีกตัว ถ้ามีการออกกฏหมายอะไรเช่นพวกเก็บภาษีเหล้าเบียร์เพื่อ cover ค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลของประเทศ (เห็นบางประเทศมีแล้วนิ) ก็จะเดือดร้อน ทำก็ถูกว่าไม่ทำก็ถูกว่า ใครประท้วงทีก็ทรุดที แล้วก็เข้าใจว่าตอนนี้เปิดเหล้าเสรีแล้ว ธุรกิจน่าจะแข่งขันกันสูงขึ้น (เขาเลยยอมเข้าตลาดรึเปล่า) ไม่อยากให้เจ้าของเขาเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นเงินสดได้ง่าย ๆ เลย (แบบว่าอิจฉาง่า) :roll: โดย อืมม์ อังคาร มี.ค. 22, 2005 1:07 pm
- 0
- 0
-
-
-
กลุ่มแข่งขันของบริษัทที่เกี่ยวกับมือถือ เดือนที่แล้ว Orange โปรโมทนาทีละบาท อยู่ ๆ ก็ลดมาห้าสิบสตางค์ ตอนแรกผมก็ยังคิดว่าเขาใจดี แต่พอได้บิลของ Dtac มีโบชัวร์นาทีละ 75 สตางค์มาเมื่อต้นเดือน เลยถึงบางอ้อว่ามันตัดหน้าเฉือนคมกันน่าดู แถมตอนนี้ Ais ก็ลงมาร่วมด้วยแล้วอย่างเงียบ ๆ อย่างที่เห็นในกระทู้พันธ์ทิพย์ โดย อืมม์ ศุกร์ มี.ค. 18, 2005 11:19 am
- 0
- 0
-
-
-
บัฟเฟตต์ฟันกำไรพันล้านจากดอลลาร์อ่อน(เก็งกำไร ?) เรื่องของค่าเงินถ้าซื้อขายตามธุรกรรมปกติ น่าจะไม่เป็นปัญหา แต่ถ้ากองทุนบางกองที่ใหญ่มาก ๆ แล้วฉวยโอกาสถล่มค่าเงินของบางประเทศ ก็คงเหมือนพวกรายใหญ่ที่ปั่นหุ้นให้ขึ้นหรือลงด้วยอำนาจเงินที่มากกว่า เรื่องอย่างนี้ก็คงเหมือนกรณีปั่นหุ้นที่ต้องตีความว่าปั่นหรือไม่ปั่น :twisted: โดย อืมม์ พุธ มี.ค. 09, 2005 10:39 am
- 0
- 0
-
-
-
กฏหัวแม่มือนี้คิดว่าจริงไหม น้ำมันขึ้นราคาอะไร ๆ ก็คงแย่หมดยกเว้นเจ้าของน้ำมัน ลองนึกเหตุผลที่เกี่ยวกับการขนส่งนะครับ น้ำมันขึ้น -> คนประหยัด ใช้จ่ายน้อยลง โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือย นำเข้า รวมทั้งวัตถุดิบต่างๆ ก็ต้องการน้อยลง ทำให้การขนส่งลดลงตามสภาพเศรษฐกิจ น้ำมันขึ้น -> ค่าใช้จ่ายขนส่งก็ต้องขึ้น สินค้าก็ต้องขึ้นราคา คนใช้น้อยลง จำนวนเที่ยวการขนส่งก็ต้องน้อยลง มีอื่น ๆ อีกมั้ยนี่ โดย อืมม์ พุธ มี.ค. 09, 2005 10:32 am
- 0
- 0
-
-
-
กลับมาดู TTA กับ PSL อีกครั้ง เอ่อ แล้วเวลาถอยกลับมันจะไวเหมือนตอนขึ้นมาหรือเปล่าครับ ใครเคยมีประสบการณ์หรือความรู้เกี่ยวกับทางนี้บ้าง โดย อืมม์ อังคาร มี.ค. 08, 2005 9:37 am
- 0
- 0
-
-
-
ดร.โชค ไพศาล ท่านคือใครครับ... เห็นด้วยครับว่าบทความมันแปร่ง ๆ ประมาณว่าโฆษณามากกว่า อ่านแล้วนึกถึงเวปไซต์ประเภทข่าวหุ้น โดย อืมม์ จันทร์ มี.ค. 07, 2005 11:39 am
- 0
- 0
-
-
-
ถ้าลีนุกซ์จะเติบโต ต้องเรื่องเกมส์ ยากครับที่ Linux จะโตเรื่องเกมส์ ตอนนี้เกมส์ทั้ง Online, Offline ออกมาแต่ Windows เท่านั้น รวมทั้ง Engine ของเกมส์ดังๆ ก็เป็น Pc ทั้งนั้น DirectX ของ Microsoft ค่อนข้างได้ผลจริง ๆ ตอนนี้ เกมส์มีอยู่แค่สามสี่ platform คือ PC -> Windows XBox -> Microsoft (ก้าวไปแล้ว) PS2 -> Sony และก็เครื่องเล่นเกมส์อื่น ๆ ของนินเทนโด ฯลฯ ขนาดแอปเปิลยังหาเกมส์ support ยากเลย ไม่ต้องพูดถึง Linux ที่ส่วนใหญ่ไม่เน้น entertainment โดย อืมม์ พฤหัสฯ. ก.พ. 17, 2005 5:31 pm
- 0
- 0
-
-
- 0
- 0
-
-
ไม่นึกเลยว่าหนังไทยจะ ......... ขนาดนี้เลยนะ !!!! จากนิตยสาร Time ฉบับ 7 ก.พ. 2548 The Next Action Hero With flying feet and a unique style, Thailand's Tony Jaa is ready to take on Jackie Chan and Jet Li By RICHARD CORLISS Monday, Feb. 07, 2005 Bunch of villains chases the hero through back streets clogged with human traffic. Nothing new there. But watch the way Thailand's Tony Jaa uses his daredevil energy and grace to obliterate action-movie clich?s in the pummeling, exhilarating Ong-Bak: The Thai Warrior. With a spring in his sneakers, he vaults over a pyramid of tires, a flotilla of cars and a class of children while being pursued by a gang of thugs. He dives through a ring of barbed wire, glides under moving vehicles. He jogs up pedestrians' backs and tiptoes on their heads. In this thrilling 5 1/2-min. scene, Jaa defies gravity, death, logic and all those out-of-breath bad guys. Action-movie stars have become geriatric lately. Arnold is Governor, Sly is about to become a reality-show host, Jean-Claude Van Damme toils in direct-to-video. Jackie Chan is almost a creaky 50, and Jet Li doesn't work much anymore. The genre needs another hero, and Jaa (Thai name: Phanom Yeerum) is the fellow to fill the void. He's young--28--and good-looking, with a quiet ?lan to match his athletic skill. He's also a throwback to kung-fu film's early days, when stars and stunt men alike took a licking and kept on kicking. Ong-Bak has no crouching, no hiding, no wires, no pixel-perfected stunts. Like Chan's early epics, it convinces you that the mayhem is real, that the star is enduring the pain for your pleasure. "Jackie Chan, Jet Li and Bruce Lee are my masters--they're the inspiration for my work," says Jaa, speaking through an interpreter. "Bruce Lee was a heavy fighter who threw hard punches. Jackie moves very fast and uses a lot of comedy, and Jet Li is very fluid. I've tried to combine all of their styles and added some things of my own." With its primitive action premise (a sacred MacGuffin has been stolen; you go get it back), Ong-Bak needs the things Jaa can add. And there are plenty. As Ting, a country-boy studying to be a monk who has been taught Muay Thai martial arts and goes to Bangkok to retrieve a missing Buddha head, Jaa battles a series of Asian and Caucasian bruisers with fists, feet, elbows, head--he uses them all in his full-body barrage--with a sleek intensity and jaw-swiveling impact unique in movie martial arts. He also knows how to take a fall. In one match, he gets on the wrong end of a killer kick and executes a triple twist before hitting the canvas, as if Greg Louganis were doing a gold-medal dive from a curb into a puddle. And stick around for Jaa's higher, higher, pants-on-fire stunt, in which he twirls and kicks while swathed in flames. Like most other martial-arts stars, Jaa has been preparing since childhood. Born to elephant trainers in the hard-luck northeast province of Surin, the boy watched kung-fu movies on outdoor screens during temple festivals. Soon he was aping his heroes and studying gymnastics as well as Muay Thai, an ancient Siamese boxing discipline that is a kind of combination of karate and kickboxing. He worked as a stunt man, doubling Robin Shou in Mortal Kombat, before director Prachya Pinkaew saw a reel of Jaa's best stunts and built Ong-Bak around him. A huge hit in Thailand, Ong-Bak generated brisk box office in Asia, then in Europe after French auteur Luc Besson (La Femme Nikita, The Fifth Element) bought the rights to the film, trimmed a few minutes and slapped on a new music track. Even before its February opening in 20 U.S. cities, the movie has sparked a rabid cult, thanks to festival showings, bootleg DVD imports and Internet downloading. Jaa has picked up heavyweight Holly-wood fans, from Brett Ratner, director of Chan's Rush Hour smashes, to Quentin Tarantino, who screened Ong-Bak at his home with his pal the RZA of the iconic rap group Wu-Tang Clan. "Tony is my homey, yo," says the RZA. "He's young, energetic--a new breed of martial artist born in the hip-hop generation." That's a big claim for a guy with just one starring role. Jaa still lacks Chan's Everyman charisma, Jet Li's eerie agility, Lee's smoldering gravity. Now working on his second feature with Pinkaew, Tom Yum Goong, Jaa says, "I want a strong foundation in Thailand. Hollywood? Maybe in the future." So give him a year or two. That could be when, in hip-hop-Hollywood terms, Jaa rules. --Reported by Jeffrey Ressner/Los Angeles โดย อืมม์ จันทร์ ก.พ. 14, 2005 12:04 pm
- 0
- 0
-
-
-
ยุคเงินเหรียญสหรัฐกำลังจะจบลง ??? เป็นไปได้มั้ยครับว่าที่ทองแพงขึ้นเรื่อย ๆ จนทำสถิติสูงสุดเพราะเริ่มกังวลเรื่องเงินกระดาษ โดย อืมม์ พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2005 11:30 am
- 0
- 0
-
-
- 0
- 0
-
-
รบกวนถามเกี่ยวกับ Internet trading ครับ ควรหลีกเลี่ยงการไปใช้คอมพ์สาธารณะหรือร้านอินเตอร์เน็ตก็ดีนะครับ เพราะบางที่จะมีโปรแกรมโทรจันที่ดักจับคีย์บอร์ดทุกตัวที่เราป้อนไว้ ทำให้ได้ทั้ง login กับ password ไปหมด ยิ่งพวกร้านเน็ตนี่ได้ยินบ่อยว่าชอบดักไว้เพราะจะเอา hack ข้อมูลพวกที่มาเล่นเกมส์เอาเงินในเกมส์ไปขาย :evil: โดย อืมม์ พฤหัสฯ. ธ.ค. 30, 2004 11:57 am
- 0
- 0
-
-
-
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ เสริมนิดนึงนะครับ รถผมก็ทำชั้นหนึ่ง แต่เคยไปชนมอเตอร์ไซด์บาดเจ็บก็ยังต้องไปโรงพักหลายเที่ยว เสียเงินทำขวัญ ฯลฯ เหมือนกันนะครับ แต่ก็ประหยัดในบางส่วนที่ประกันจ่ายไปได้ ประกันชั้นหนึ่งถ้าพูดถึงความคุ้มค่า คนขับดี ๆ ต้องบอกว่าไม่คุ้มแน่ ๆ แต่ถ้าพอมีสตางค์ก็ทำเพื่อความสบายใจ และตัดปัญหาจุกจิกกวนใจเวลาชนอย่างที่คุณปรัชญาว่า จะดีกว่า โดย อืมม์ พุธ ธ.ค. 29, 2004 1:35 pm
- 0
- 0
-
-
-
ชอบวาทะประโยคนี้ ของนายก จังเลย บางทีพยายามยึดเอาแบบเมืองนอกหมดก็น่ากลัวนะครับ ผมมีคนรู้จักเป็นอาจารย์อยู่จุฬา เห็นบอกว่าตอนนี้กำลังออกจากระบบและพยายามปรับปรุงให้อาจารย์ทุกคนต้องทำงานวิจัย ทุกคนต้องมีผลงานวิจัย ไม่อย่างนั้นทุกสองสามปีจะมีการประเมินและปรับออก สิ่งใหม่ ๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่จะเกิดจากระดับ ดร. ที่ไปเรียนเมืองนอกมาแล้วอยากให้มีงานวิจัย (เพราะตัวเองอยากวิจัยหรือเปล่า?) แล้วก็บอกว่าต้องทำให้เหมือนเมืองนอก ทำให้เริ่มเห็นแววว่าต่อไปคำว่า "ครู" คงไม่มีในเมืองไทยอีกแล้วล่ะครับ ทุกคนต้องแข่งกันวิจัย แข่งกันหาเงิน แข่งกันสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง งานสอนเป็นแค่งานไม้ประดับที่ไว้ให้ตัวเองมีชื่อว่าเป็น"อาจารย์" อยู่เท่านั้น โดย อืมม์ พฤหัสฯ. ธ.ค. 09, 2004 9:24 am
- 0
- 0
-
-
-
หลานอายุ4ขวบ ถ้าเป็นชาว VI จะเลือกโรงเรียนไหนเพราะอะไรครับ? ถ้ามองในแง่ประหยัดและสะดวกคงเป็นสาธิตมั้งครับ เพราะถ้าเข้าป.1 ได้ก็เรียนไปได้ถึงม.6 เลย (ถ้าไม่เกเรจนไม่ไหว) ค่าเล่าเรียนก็ไม่แพงมาก คุณภาพก็ใช้ได้ คนถึงแย่งกันเข้าเยอะ แต่ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าสาธิตแต่ละที่เหมือนกันมั้ย เห็นเขาบอกว่าเด็กสำคัญที่สุดที่ 0-5 ขวบ สิ่งต่าง ๆ ที่ได้ช่วงนี้จะติดตัวไปจนตาย ยังไงซะพ่อแม่ก็คงสำคัญที่สุดช่วงนี้ ส่วนเรียนโรงเรียน Inter. ที่ต้องระวังก็คือถ้าเด็กไม่แตกฉานภาษาอังกฤษจริง เรียนไปแล้วจะไม่ค่อยรู้เรื่อง ได้รับสิ่งที่สอนไปไม่ถึง 30-40% ทำให้แทนที่จะได้รับความรู้ตามวัยก็กลับได้น้อยกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ถ้าจะส่ง Inter พ่อแม่ควรพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษด้วย เพราะสิ่งแวดล้อมสำคัญมาก ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าไม่ได้ดีซักอย่างครับ ผมคิดว่าสิ่งที่เราเรียนรู้ในโรงเรียน เรื่องของภาษาเป็นเพียงส่วนเล็กน้อย ไม่ควรให้ความอยากได้ภาษามาเป็นตัวกำหนดและจำกัดการเรียนรู้ แต่ถ้ามั่นใจว่าลูกได้ภาษาด้วยและเรียนรู้ได้ดีด้วยก็โอเคเลยครับ โดย อืมม์ พุธ ธ.ค. 01, 2004 9:21 am
- 0
- 0
-
-
-
ทำคนถึงนิยมซื้อหุ้นปันผลก่อนxp 1 วัน ซื้อเอาปันผล เพื่อเครดิตภาษีปลายปีครับ :D โดย อืมม์ จันทร์ พ.ย. 22, 2004 12:24 pm
- 0
- 0
-
-
- 0
- 0
-
- 0
- 0
-
- 0
- 0
-
-
มองตลาดหนังสือไทยผ่านงานบุ๊กแฟร์ เท่าที่ผมรู้หนังสือคอมพิวเตอร์ที่ขายดีมาก ๆ ยอดขายเป็นแสนเล่มเหมือนกันครับ แต่เราจะได้ยินคนพูดบ่อย ๆ ว่าหนังสือขายไม่ได้เพราะคนไทยไม่ชอบอ่านหนังสือ ซึ่งผมไม่เห็นด้วยเลย แค่งานสัปดาห์หนังสือคนก็เดินเป็นแสน ๆ คนแล้วครับ แต่ในแต่ละวงการหนังสือที่ขายดีก็ต้องน้อยกว่าขายไม่ดีแบบเทียบกันไม่ติด เหมือนกับอัตราส่วนคนเล่นหุ้นกำไรเทียบกับคนขาดทุนนั่นล่ะครับ :P โดย อืมม์ พฤหัสฯ. ต.ค. 28, 2004 10:01 am
- 0
- 0
-
-
- 0
- 0
-
-
ความนิยมadsl จะมาแทนอินเตอร์เนท แบบโทรได้หรือไม่ ค่าบริการ 590 ถ้าติดได้แสนรายก็กินหัวคิวเดือนละ 59 ล้าน ถ้าล้านรายก็ เดือนละ 590 ล้าน ปีนึงก็โขอยู่นะครับ และลูกค้าก็คงไม่เปลี่ยนกันง่าย ๆ ถ้าไม่มีอะไรแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ตลาดนี้เลยกำลังแรง ทั้ง True และ Csl แข่งกันอยู่ โปรโมชั่น Csl ตอนนี้ยังสู้ True ไม่ได้ (เสียค่าติดตั้ง+Modem) แต่ถ้ามีแต่สายองค์การก็คงต้อง Csl และที่จริงค่าใช้จ่ายมันก็ไม่ได้สูงมากนักเทียบกับสมัยก่อนแค่ค่าโมเดมตัวละสามสี่พันก็แพงกว่ากันเยอะแล้ว ถ้าคนใช้แบบหมุนโทรศัพท์ใช้เยอะหน่อย ค่าโทรศัพท์ก็ประมาณสามสี่ร้อยแล้ว ค่าเน็ตเป็นพัน สปีดก็ช้ากว่าเป็นสิบเท่า สำหรับคนที่ใช้เรื่อย ๆ ยังไงก็คงเปลี่ยนเป็น Adsl ในไม่ช้า (ถ้ามีให้ติดนะ) :wink: โดย อืมม์ จันทร์ ต.ค. 11, 2004 9:07 am
- 0
- 0
-
-
-
หุ้นเป๊ปซี่ เห็นด้วยว่าคนรุ่นใหม่เริ่มใส่ใจสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ญาติผมหลาย ๆ คนแต่ก่อนติดน้ำอัดลมกันมาก เดี๋ยวนี้พอเริ่มอายุสามสิบ ทุกคนหันกลับมาใส่ใจสุขภาพ หลีกเลี่ยงน้ำอัดลมกันแทบทั้งนั้น หันมาดื่มน้ำเปล่า น้ำผลไม้ น้ำชา ฯลฯ กัน น้ำอัดลมมันเป็นน้ำทางเลือกนะครับ จะเทียบกับพวกเบียร์เหล้าซึ่งเป็นน้ำเสพติดที่มีคนบางกลุ่มยังเสพติดอยู่ รวมทั้งใช้เฮฮาสังสรรกันคงไม่ตรงนัก โดย อืมม์ ศุกร์ ก.ย. 03, 2004 12:40 pm
- 0
- 0
-
-
-
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI ผมเองก็ไม่เห็นด้วยวิธีของคุณเด่นศรีในบางจุด แต่คิดว่ามีจุดที่มีประโยชน์มาก ๆ ในการนำมาประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์ของตัวเองเยอะทีเดียว ที่จริงวิธีของคุณเด่นศรี ผมคิดว่า VI จะได้ประโยชน์มากนะครับถ้าเอามาประยุกต์ใช้ให้ถูกจุด ก็คงต้องแล้วแต่ว่าจะเปิดใจให้กว้างได้ขนาดไหน ถ้าคนที่มีแนวคิดว่า การ short sell การดูเทคนิค ฯลฯ ไร้สาระ ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปศึกษากลยุทธ์อีกร้อยแปดพันเก้าในโลกนี้มั้งคับ โดย อืมม์ พุธ ส.ค. 11, 2004 9:09 am
- 0
- 0
-