หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
choochart
Joined: ศุกร์ มิ.ย. 04, 2004 10:48 pm
124
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - choochart
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี
ขอFile ด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
[email protected]
โดย
choochart
พฤหัสฯ. เม.ย. 03, 2014 4:48 pm
0
0
Re: เป็น FULLTIMETRADER มันผิดตรงไหนชีวิตฉันใครกํากับ
ถ้าลูกเราขอมาเป็น daytrader ไม่ขอเรียนต่อแล้วเราจะคิดยังไง Daytrade หาเงิน. สร้าง price ทำงาน --> สร้าง value ให้ชีวิต เกิดมาทำไม ถ้าไม่ทำประโยชน์ให้คนอื่นบ้าง (ด้วยการทำงาน real sector) ปล. Buffet. Lynch ก็ทำประโยชน์ให้คนอื่นโดยการเป็นผู้จัดการกองทุน
โดย
choochart
พุธ ก.พ. 20, 2013 6:31 am
0
3
Re: ฟรี ! แบ่งปันสรุปหุ้นรายตัว ย้อนหลัง 15 ปี ง่าย
ขอด้วยคนครับ
[email protected]
ขอบคุณมากมายครับ
โดย
choochart
อาทิตย์ ม.ค. 20, 2013 2:33 pm
0
0
Re: พี่ๆเริ่มสืบหาหุ้นหลายเด้งกันอย่างไร
ลองนั่งวิเคราะห์หุ้นที่ขึ้นมา 10 เด้งย้อนหลังดู http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I12430408/I12430408.html
โดย
choochart
ศุกร์ ส.ค. 10, 2012 12:33 am
0
0
Re: แจก EPS16YEAR (งบดุล,ราคา,19ปี,Ratio ต่างๆ,แบบเครดิตภาษี
[email protected]
ขอบคุณครับ
โดย
choochart
ศุกร์ มี.ค. 30, 2012 11:07 pm
0
0
Re: สรุปพอร์ต8ปีของ 2นิ+1น ผู้ยิ่งใหญ่>นิติ&นิเวศน์+นริศ
เพิ่มให้อีก 2 ปี
โดย
choochart
อาทิตย์ พ.ค. 29, 2011 12:28 am
0
0
Re: สรุปพอร์ต8ปีของ 2นิ+1น ผู้ยิ่งใหญ่>นิติ&นิเวศน์+นริศ
พี่ครรชิตครับ ราคา wacoal ของ อ.นิเวศ ปี 2002 ราคาอยู่ที่ 182 หรือเปล่าครับ (แตกพาร์ 9/5/2546) choochart
โดย
choochart
เสาร์ พ.ค. 28, 2011 11:35 pm
0
0
Re: สรุปงานวิจัยเบื่้องต้นการลงทุนแบบวีไอในรายการมันนี่ทอร์ค
หมายเหตุ: 1.ไม่ได้ดูสภาพคล่อง 2.ไม่ได้ตรวจสอบการแตกพาร์ และยังไม่ได้เอาเงินปันผลมาลงทุนต่อ 3. price คงเป็น 30 ธ.ค. แต่ EPS และ book value ไม่รู้เป็นรอบบัญชีไหน ถ้าเป็นรอบบัญชี 1 มค - 31 ธค ตอนซื้อจริง งบการเงินคงยังไม่ออก เดี๋ยววันหลังมาทำต่อ choochart
โดย
choochart
เสาร์ พ.ค. 28, 2011 12:00 am
0
0
Re: สรุปงานวิจัยเบื่้องต้นการลงทุนแบบวีไอในรายการมันนี่ทอร์ค
ขายล้าง port ปลายปี 1997 ได้เงิน 660000 ซื้อใหม่ตามเกณฑ์ เดิม
โดย
choochart
ศุกร์ พ.ค. 27, 2011 11:52 pm
0
0
Re: สรุปงานวิจัยเบื่้องต้นการลงทุนแบบวีไอในรายการมันนี่ทอร์ค
ใช้เกณฑ์ PE<=10 PB<=1 DY>=3 เรียงด้วย PB ซื้อ 30 อันดับแรกตอนปลายปี 1996 ไปขายปลายปี 1997
โดย
choochart
ศุกร์ พ.ค. 27, 2011 11:49 pm
0
0
Re: สรุปงานวิจัยเบื่้องต้นการลงทุนแบบวีไอในรายการมันนี่ทอร์ค
ค้นหาข้อมูลจาก CD list info ปี 1998 ของตลาดหลักทรัพย์ มีข้อมูล PE PB DY ของปี 1996-7 ตอนสิ้นปีอยู่ เลยจะลองทำดูว่าจะได้ตามอาจารย์ไพบูลย์หรือเปล่า
โดย
choochart
ศุกร์ พ.ค. 27, 2011 11:39 pm
0
0
Re: สรุปงานวิจัยเบื่้องต้นการลงทุนแบบวีไอในรายการมันนี่ทอร์ค
น่าสนใจตรงที่ตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง ดัชนีจาก 1700 ลงไปเหลือ 300 port จากงานวิจัยยังเป็นบวก .............. แต่ตอน subprime crisis ทำไมติดลบได้ ต้องไปหาข้อมูลปี 1996-2000 มาเรียงดูจริงอีกที
โดย
choochart
พฤหัสฯ. พ.ค. 26, 2011 9:07 pm
0
2
Re: หุ้นที่ให้ผลตอบแทนอย่างน้อย 5.7% ต่อปี ค้ำประกันโดยรัฐบา
21 บาทแล้ว ใกล้บังคับเปลี่ยนเป็น bcp (รัฐบาลเลิกค้ำประกัน) ถือต่อ หรือ ปล่อยดี 4 ปี ได้แค่ 2 เด้ง ( น้อยกว่า SVI)
โดย
choochart
จันทร์ พ.ค. 23, 2011 8:59 pm
0
0
Re: EPS16YEAR อับเดทงบดุล Q1 2011 เสร็จแล้ว ครับ
ขอด้วยคนครับ
[email protected]
ขอบคุณครับ
โดย
choochart
จันทร์ พ.ค. 23, 2011 8:21 pm
0
0
Re: EPS16YEAR อับเดทงบดุล ปี 31/12/10 เสร็จแล้ว
ขอด้วยครับ
[email protected]
ขอบคุณครับ
โดย
choochart
จันทร์ มี.ค. 14, 2011 3:31 pm
0
0
Re: การคำนวณ ยอดซื้อ LTF?
ถามเพื่มครับ แล้วเงิน 500000 บาทจากปันผลที่ได้ BOI นับมาคิด 15% เพื่อซื้อกองทุน RMF/LTF ด้วยหรือเปล่าครับ
โดย
choochart
เสาร์ ธ.ค. 18, 2010 1:04 pm
0
0
แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี)
ขอด้วยครับ
[email protected]
ขอบคุณครับ
โดย
choochart
ศุกร์ พ.ย. 19, 2010 10:31 pm
0
0
แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี)
ขอ update ด้วยครับ ขอบคุณครับ
[email protected]
choochart
โดย
choochart
พุธ ส.ค. 25, 2010 12:27 am
0
0
แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี)
ขอใหม่ด้วยครับ web ที่พี่ครรชิตให้มา มันขึ้นว่า file ถูกลบแล้วครับ http://www.tempf.com/getfile.php?id=556734&key=4bfe8ae2d7027
[email protected]
ขอบคุณครับ
โดย
choochart
จันทร์ พ.ค. 31, 2010 8:53 pm
0
0
แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี)
ขอ ด้วยคนครับ ขอบคุณครับ
[email protected]
โดย
choochart
ศุกร์ พ.ค. 28, 2010 11:12 am
0
0
Warren Buffett's quote on margin of safety
[quote="i_sarut"]หุ้นดีแต่ไม่มี margin of safety ก็ไม่ใช่การลงทุนที่ดีครับ แต่ในกรณีที่จะถือยาวนานมากๆแบบปู่บัฟ ถ้าธุรกิจยอดเยี่ยมมากๆขายในราคาที่เหมาะสมก็อาจจะเป็นข้อยกเว้นนะครับ แต่ยังไงก็ต้องไม่แพงไปอยู่ดี
โดย
choochart
ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 5:52 pm
0
0
รบกวนถามพี่ครรชิต
ผมโหลด ตารางเดือนมีนาคม ในตารางมีหุ้น LNH ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น CMR จะแก้ไขยังไงครับ หรือต้อง load ใหม่ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ choochart
โดย
choochart
จันทร์ ส.ค. 10, 2009 7:47 pm
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
choochart
เสาร์ ก.ค. 18, 2009 9:10 am
0
0
http://www.komchadluek.net/detail/20090718/20881/บริษัทประกั
http://www.komchadluek.net/detail/20090718/20881/บริษัทประกันอ่วมจ่ายค่าเคลมผู้เอาประกันติดไข้หวัด40ล้าน.html
โดย
choochart
เสาร์ ก.ค. 18, 2009 9:02 am
0
0
หน้ากากอนามัย
bjc :wink:
โดย
choochart
พฤหัสฯ. ก.ค. 16, 2009 10:33 pm
0
0
ขออภัย
ขออภัยอย่างแรง post ผิดที่
โดย
choochart
พุธ มิ.ย. 17, 2009 9:21 pm
0
0
สิบเท่า ?
BigC EPS1994 =3.190 EPS2008 =3.559 Stanly EPS1994 =3.82 EPS2008 =13.646 PTT EPS2000 =38.57 EPS2008 = 18.26 APRINT EPS1994 =0.32 EPS2008 =1.379 HMPRO EPS2000 =0.24 EPS2008 =0.52 อ้างอิง: ตาราง excel พี่ครรชิต ไม่รวมปันผล คงไม่เกิน 10% ต่อปี ไม่แน่ใจเรื่องแตกพาร์
โดย
choochart
พุธ มิ.ย. 17, 2009 9:18 pm
0
0
แล้วสรรพากรจะรู้กฎหมายส่งเสริมการลงทุนไหม
แล้วสรรพากรจะรู้กฎหมายส่งเสริมการลงทุนไหม เป็นไปได้ว่าเจ้าหน้าที่บางคนรู้ บางคนไม่รู้ ... บางคนแกล้งไม่รู้ (ขอทำยอด) สงสัยต้อง copy พรบ.ส่งเสริมการลงทุนยื่นพร้อมแบบชำระภาษีด้วย .......................
โดย
choochart
ศุกร์ มิ.ย. 05, 2009 11:39 pm
0
0
เจอแล้ว
มีการยกเว้นไม่ให้นำมาคำนวณรวมภาษี แต่ไปอยู่ในกฎหมายคนละฉบับ ไม่ใช่ประมวลรัษฎากร ....................... พระราชบัญญัติ ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. ๒๕๒๐ .............. ........... มาตรา ๓๑[๗] ผู้ได้รับการส่งเสริมจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ทั้งนี้ ให้พิจารณากำหนดเป็นสัดส่วนของเงินลงทุนโดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน ซึ่งต้องมีกำหนดเวลาไม่เกินแปดปีนับแต่วันที่เริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการนั้น ในกรณีที่กิจการใดเป็นกิจการที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อประเทศเป็นพิเศษตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ให้ผู้ได้รับการส่งเสริมในกิจการดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมมีกำหนดเวลาตามที่คณะกรรมการกำหนด ซึ่งต้องไม่เกินแปดปีนับแต่วันที่เริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการนั้น รายได้ที่ต้องนำมาคำนวณกำไรสุทธิที่ได้จากการประกอบกิจการตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง แล้วแต่กรณี ให้รวมถึงรายได้จากการจำหน่ายผลพลอยได้และรายได้จากการจำหน่ายสินค้ากึ่งสำเร็จรูปตามที่คณะกรรมการพิจารณาเห็นสมควร ในกรณีที่ประกอบกิจการขาดทุนในระหว่างเวลาได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง แล้วแต่กรณี คณะกรรมการอาจอนุญาตให้ผู้ได้รับการส่งเสริมนำผลขาดทุนประจำปีที่เกิดขึ้นในระหว่างเวลานั้นไปหักออกจากกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นภายหลังระยะเวลาได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลมีกำหนดเวลาไม่เกินห้าปีนับแต่วันพ้นกำหนดเวลานั้น โดยจะเลือกหักจากกำไรสุทธิของปีใดปีหนึ่งหรือหลายปีก็ได้ การคำนวณเงินลงทุนตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ............................... ............................... มาตรา ๓๔ เงินปันผลจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา ๓๑ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ตลอดระยะเวลาที่ผู้ได้รับการส่งเสริมได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น http://www.krisdika.go.th/lawHeadPDF.jsp?formatFile=pdf&hID=0
โดย
choochart
ศุกร์ มิ.ย. 05, 2009 11:32 pm
0
0
ไม่มีในข้อยกเว้น(ต่อ)
http://www.rd.go.th/publish/2502.0.html ข้อ 2 ให้กำหนดเงินได้ต่อไปนี้เป็นเงินได้ตาม (17) ของมาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 (1) เงินได้จากกิจการของโรงเรียนราษฎร์ซึ่งได้ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนราษฎร์ แต่ไม่รวมถึงเงินได้จากการขายของ การรับจ้างทำของหรือการให้บริการอื่นใดที่โรงเรียนราษฎร์ซึ่งเป็นโรงเรียนอาชีวศึกษาได้รับจากผู้ซึ่งมิใช่นักเรียน (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 132 (พ.ศ. 2513) ใช้บังคับ 16 กันยายน 2513 เป็นต้นไป) (2) เงินได้จากการจำหน่าย หรือส่วนลดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งของรัฐบาล (3) เงินได้ส่วนที่เป็นค่าจ้างการทำงานในระหว่างเวลาปิดภาคการศึกษาของคนต่างด้าวซึ่งเป็นนักเรียน นักศึกษาหรือนิสิตที่เข้ามาศึกษา ณ สถานศึกษาในประเทศไทย ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน (4) เงินได้ส่วนที่เป็นค่ารักษาพยาบาลที่นายจ้างจ่ายให้ หรือจ่ายแทนลูกจ้างเป็นค่ารักษาพยาบาล สำหรับ (ก) ลูกจ้าง สามี ภริยา บุพการีหรือผู้สืบสันดาน ซึ่งอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของลูกจ้าง ทั้งนี้ เฉพาะสำหรับการรักษาพยาบาลที่กระทำในประเทศไทย (ข) ลูกจ้างในกรณีที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลในต่างประเทศในขณะที่ปฏิบัติการตามหน้าที่ในต่างประเทศเป็นครั้งคราว ทั้งนี้ เงินจำนวนดังกล่าวได้จ่ายไปทั้งหมดในการนั้น (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 149 (พ.ศ. 2523) ใช้บังคับสำหรับเงินได้ปี 2523 เป็นต้นไป) (5) (ยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 187 (พ.ศ. 2534) ความเดิมยังคงใช้บังคับสำหรับการโอนกรรมสิทธิในพันธบัตรของรัฐบาลที่ออกจำหน่ายก่อนวันที่ 8 พฤศจิกายน 2534) (6) เงินได้ที่ทางราชการจ่ายให้เป็นเงินค่าเช่าบ้านหรือเงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่ให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า เงินช่วยการศึกษาบุตร เงินช่วยเหลือบุตรเงินค่าเบี้ยกันดาร เงินยังชีพ หรือเงินค่าอาหารทำการนอกเวลา (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 136 (พ.ศ. 2517) ใช้บังคับสำหรับเงินได้ปี 2517 เป็นต้นไป) (7) (ยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 187 (พ.ศ. 2534) ความเดิมยังคงใช้บังคับสำหรับดอกเบี้ยพันธบัตรของรัฐบาลและพันธบัตรของรัฐบาลที่เริ่มจำหน่ายก่อนวันที่ 8 พฤศจิกายน 2534) (8) เงินค่าเช่าบ้านที่ได้รับจากรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมิใช่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เท่าที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายไปโดยสุจริตตามความเป็นจริง หรือเงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่รัฐวิสาหกิจดังกล่าวให้อยู่โดยไม่ต้องเสียค่าเช่า และรัฐวิสาหกิจผู้จ่ายเงินมิได้ออกค่าภาษีเงินได้สำหรับเงินได้จำนวนดังกล่าวให้ (9) เงินช่วยการศึกษาบุตร เงินช่วยเหลือบุตร เงินค่าเบี้ยกันดารหรือเงินยังชีพ ที่ได้รับจากรัฐวิสาหกิจซึ่งมิใช่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในอัตราเดียวกับที่ทางราชการจ่ายให้แก่ข้าราชการ และรัฐวิสาหกิจผู้จ่ายเงินมิได้ออกค่าภาษีเงินได้สำหรับเงินได้จำนวนดังกล่าวให้ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 138 (พ.ศ. 2518) ใช้บังคับสำหรับเงินได้ปี 2517เป็นต้นไป) (10) รางวัลที่ทางราชการจ่ายให้เพื่อประโยชน์ในการป้องกันมิให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับภาษีอากร (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 139 (พ.ศ. 2518) ใช้บังคับสำหรับเงินได้ปี 2518เป็นต้นไป) (11) ดอกเบี้ยเงินสะสมที่ได้รับจากรัฐวิสาหกิจซึ่งมิใช่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ในอัตราเดียวกับที่ทางราชการจ่ายให้แก่ข้าราชการ และรัฐวิสาหกิจผู้จ่ายเงินมิได้ออกค่าภาษีเงินได้สำหรับเงินได้จำนวนดังกล่าวให้ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 145 (พ.ศ. 2522) ใช้บังคับสำหรับเงินได้ปี 2522 เป็นต้นไป) (12) เงินได้ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลต่างประเทศซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยได้รับจากรัฐบาลของตน ทั้งนี้ โดยให้เป็นไปตามหลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 146 (พ.ศ. 2522) ใช้บังคับสำหรับเงินได้ปี 2522 เป็นต้นไป) (13) เงินได้ส่วนที่เป็นเงินเดือนและเงินใด ๆ บรรดาที่ได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำหรือจากการรับทำงานให้ที่คนต่างด้าวซึ่งเป็นผู้แทนของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย ได้รับจากคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 145 (พ.ศ. 2522) ใช้บังคับสำหรับเงินได้ปี 2522 เป็นต้นไป) (14) (ยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 169 (พ.ศ. 2529) ใช้บังคับ 2 กุมภาพันธ์ 2529 เป็นต้นไป) (15) เงินได้ที่ทางราชการจ่ายให้เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และกระทรวงการคลังได้อนุญาตให้เบิกจ่ายได้ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 152 (พ.ศ. 2523) ใช้บังคับสำหรับเงินได้ไม่ว่าที่ได้รับก่อนหรือตั้งแต่ 6 ตุลาคม 2523 เป็นต้นไป) (16) เงินได้ส่วนที่เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างและเงินใด ๆ บรรดาที่ได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำหรือจากการรับทำงานให้ที่คนต่างด้าวซึ่งไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยได้รับจาก (ก) คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานในการปฏิบัติงานในประเทศไทย (ข) รัฐบาลแห่งประเทศของตนในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้อพยพจากอินโดจีนในประเทศไทย (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 154 (พ.ศ. 2524) ใช้บังคับสำหรับเงินได้ปี 2524 เป็นต้นไป) (17) เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดกหรือสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับจากการให้โดยเสน่หา ที่ตั้งอยู่นอกเขตกรุงเทพมหานคร เทศบาล สุขาภิบาล หรือเมืองพัทยา หรือการปกครองท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ ทั้งนี้ เฉพาะเงินได้จากการขายในส่วนที่ไม่เกิน 200,000 บาท ตลอดปีภาษีนั้น (18) เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ให้แก่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของตนโดยไม่มีค่าตอบแทน บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวไม่รวมถึงบุตรบุญธรรมด้วย (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 155 (พ.ศ. 2525) ใช้บังคับ 27 กุมภาพันธ์ 2525 เป็นต้นไป) (19) เงินได้จากการขายสินค้ายาสูบ ที่โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลังได้เสียภาษีเงินได้แทนผู้ขายสินค้าดังกล่าวทุกทอดตามมาตรา 48 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 156 (พ.ศ. 2526) ใช้บังคับ 28 สิงหาคม 2525) (20) ยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 187 (พ.ศ. 2534) ความเดิมยังคงใช้สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ในใบรับฝากเงินประเภทประจำของธนาคารโดยมีดอกเบี้ยที่ได้มีการออกใบรับฝากก่อนวันที่ 8 พฤศจิกายน 2534 (21) เงินได้ดังต่อไปนี้ (ก) ดอกเบี้ยพันธบัตรหรือดอกเบี้ยหุ้นกู้ (ข) ผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาจำหน่ายพันธบัตรหรือหุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายครั้งแรกในราคาต่ำกว่าราคาไถ่ถอน (ค) ผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนพันธบัตรหรือหุ้นกู้ ทั้งนี้ เฉพาะพันธบัตรหรือหุ้นกู้ของรัฐบาล องค์การของรัฐบาล หรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรม และผู้มีเงินได้นั้นมิได้เป็นผู้อยู่ในประเทศไทย (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 249 (พ.ศ. 2548) ใช้บังคับ 25 มกราคม 2548 เป็นต้นไป) (22) ดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 187 (พ.ศ. 2534) ความเดิมยังคงใช้บังคับที่ได้มีการออกบัตรก่อน 8 พฤศจิกายน 2534) (23) เงินได้จากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแต่ไม่รวมถึงเงินได้จากการขายหลักทรัพย์ที่เป็นหุ้นกู้หรือพันธบัตร (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 187 (พ.ศ. 2534) ความเดิมยังคงใช้บังคับดอกเบี้ยพันธบัตรของรัฐบาลและพันธบัตรของรัฐบาลที่เริ่มจำหน่ายก่อน 8 พฤศจิกายน 2534) (24) เงินได้จากการขายโลหะดีบุกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2531 สำหรับโลหะดีบุกที่ซื้อมาระหว่างวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ทั้งนี้ เฉพาะที่ไม่นำรายจ่ายในส่วนที่เกี่ยวกับกิจการซื้อและขายโลหะดีบุกดังกล่าวไปรวมคำนวณเป็นรายจ่ายในการคำนวณเงินได้สุทธิ ในกรณีที่รายจ่ายบางรายการไม่สามารถแยกเป็นรายจ่ายเกี่ยวกับกิจการซื้อและขายโลหะดีบุกหรือเกี่ยวกับกิจการอื่นได้โดยชัดแจ้ง ให้เฉลี่ยรายจ่ายตามส่วนของเงินได้ของแต่ละกิจการนั้น (25) เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไร แล้วแต่กรณีจากห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หรือจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ทั้งนี้ เฉพาะส่วนที่เป็นการคำนวณจากเงินได้จากการขายโลหะดีบุกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2531 สำหรับโลหะดีบุกที่ซื้อมาระหว่างวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2530 และรายจ่ายในส่วนที่เกี่ยวกับกิจการซื้อและขายโลหะดีบุกดังกล่าว (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 171 (พ.ศ. 2529) ใช้บังคับ 18 กันยายน 2529 เป็นต้นไป) (26) เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนา (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 177 (พ.ศ. 2531) ใช้บังคับ 9 ธันวาคม 2531 เป็นต้นไป) (27) เงินได้สำหรับรางวัลสลากการกุศลสร้างตึกสยามมินทร์ ซึ่งออกเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2531 และเงินได้จากการขายหรือส่วนลดจากการซื้อสลากการกุศลสร้างตึกสยามมินทร์ (28) เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (29) เงินค่าทดแทนตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้เฉพาะที่ดินที่ต้องเวนคืน และอสังหาริมทรัพย์อื่นบนที่ดินที่ต้องเวนคืน (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 184 (พ.ศ. 2533) ใช้บังคับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับใน พ.ศ. 2532 ที่จะต้องยื่นรายการใน พ.ศ. 2533 เป็นต้นไป) (30) เงินได้พึงประเมินดังต่อไปนี้ (ก) ผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาซื้อตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออกและมีการจำหน่ายครั้งแรกในราคาต่ำกว่าราคาไถ่ถอน แต่ไม่รวมถึงกรีที่ผู้มีเงินได้ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นผู้ทรงคนแรก (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 196 (พ.ศ. 2538) ใช้บังคับ 11 กรกฎาคม 2538 เป็นต้นไป) (ข) ผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออก ทั้งนี้ เฉพาะตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ไม่มีดอกเบี้ย (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 223 (พ.ศ. 2542) ใช้บังคับ 30 กรกฎาคม 2542 เป็นต้นไป) (ค) ดอกเบี้ยที่ได้จากตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออก เฉพาะส่วนที่เกิดขึ้นด่อนการเป็นผู้ทรงตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ของผู้มีเงินได้ ทั้งนี้ ต้องมีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50(2) แห่งประมวลรัษฎากร จากดอกเบี้ยดังกล่าวทั้งจำนวนไว้แล้ว (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 231 (พ.ศ. 2544) ใช้บังคับ 14 กันยายน 2544 เป็นต้นไป) ในกรณีที่เงินได้พึงประเมินตามวรรคหนึ่งเกิดจากตั๋วเงิน หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่มีการจำหน่ายครั้งแรกในราคาต่ำกว่าราคาไถ่ถอน จะต้องเป็นกรณีที่ได้มีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายจากเงินได้ของบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ทรงคนแรกไว้แล้วตาม มาตรา 50 (2)(ค) แห่งประมวลรัษฎากร และผู้จ่ายเงินได้ได้ประทับตราว่าได้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายบนตราสารแล้วเท่านั้น (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 196 (พ.ศ. 2538) ใช้บังคับ 11 กรกฎาคม 2538 เป็นต้นไป) (31) เงินได้ที่ผู้เชี่ยวชาญของประชาคมยุโรปที่เป็นคนต่างด้าว และไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยได้รับเนื่องจากการเข้ามาทำงานในประเทศไทย ภายใต้โครงการ ความช่วยเหลือที่ประเทศไทยได้รับจากประชาคมยุโรป (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 190 (พ.ศ. 2535) ใช้บังคับ 13 มีนาคม 2535 เป็นต้นไป) (32) เงินได้จากการขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แต่ไม่รวมถึงเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้รับเนื่องจากการขายหน่วยลงทุนคืนให้แก่กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพหรือกองทุนรวมหุ้นระยะยาวตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 246 (พ.ศ. 2547) ใช้บังคับ 31 สิงหาคม 2547 เป็นต้นไป) (33) เงินได้ที่คณะกรรมการอำนวยการปรับปรุงพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทได้รับเพื่อประโยชน์ในการสร้างพระที่นั่งองค์ใหม่และปรับปรุงพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 193 (พ.ศ. 2536) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ 1 มกราคม 2536 เป็นต้นไป) (34) เงินได้ที่คำนวณได้จากมูลค่าของเครื่องแบบซึ่งลูกจ้างได้รับจากนายจ้างในจำนวนคนละไม่เกินสองชุดต่อไป และเสื้อนอกในจำนวนคนละไม่เกินหนึ่งตัวต่อปี เครื่องแบบ ตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า เครื่องแต่งกาย รวมทั้งสิ่งประกอบเครื่องแต่งกายที่กำหนดให้แต่งเพื่อใช้ในการปฏิบัติงาน แต่ไม่รวมถึงรองเท้าที่อาจใช้งานได้ทั่วไป ชุดชั้นใน หรือสิ่งประกอบเครื่องแต่งกายที่ทำด้วยโลหะหรืออัญมณีที่มีค่าเช่น เงิน ทองคำ ทับทิม หยก เสื้อนอก ตามวรรคหนึ่ง หมายความรวมถึง ชุดไทยพระราชทานและเสื้อที่นิยมใช้ในการแต่งกายไปในงานสำคัญต่างๆ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 194 (พ.ศ. 2537) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ 1 มกราคม 2537 เป็นต้นไป) (35) เงินได้เท่าที่ลูกจ้างจ่ายเป็นเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตามกฎหมาย ว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในอัตราไม่เกินร้อยละสิบห้าของค่าจ้างเฉพาะส่วนที่เกิน หนึ่งหมื่นบาท แต่ไม่เกินสี่แสนเก้าหมื่นบาท สำหรับปีภาษีนั้น (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 266 (พ.ศ. 2551) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นไป) (36) เงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ลูกจ้างได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเมื่อลูกจ้างออกจากงานเพราะเกษียณอายุทุพพลภาพ หรือตาย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 195 (พ.ศ. 2538) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ 1 มกราคม 2537 เป็นต้นไป) (ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 52)) (37) เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไรจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้จากกิจการโรงเรียนเอกชนที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือกิจการสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ทั้งนี้ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวจะต้องมิได้ประกอบกิจการอื่นนอกจาก กิจการโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือกิจการสถาบัยอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 197 (พ.ศ. 2538) ใช้บังคับ 11 พฤษภาคม 2538 เป็นต้นไป) (38) ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักรที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถามประเภทออมทรัพย์ เฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้ได้รับดอกเบี้ยดังกล่าวในจำนวนรวมกันทั้ง-สิ้นไม่เกินสองหมื่นบาทตลอดปีภาษีนั้น ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 200 (พ.ศ. 2538) ใช้บังคับ 29 พฤศจิกายน 2538 เป็นต้นไป) (ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 55)) (39) เงินได้ส่วนที่เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างที่คนประจำเรือได้รับเนื่อง-จากการปฏิบัติงานบนเรือไทยตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพาณิชยนาวีที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 204 (พ.ศ. 2539) ใช้บังคับ 26 กันยายน 2539 เป็นต้นไป) (40) เงินได้ที่คณะกรรมการบริหาร ทุนการกุศลสมเด็จพระเทพฯ ได้รับเพื่อประโยชน์ของทุนการกุศลสมเด็จพระเทพฯ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 205 (พ.ศ. 2540) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ 2 เมษายน 2540 เป็นต้นไป) (41) เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ดังต่อไปนี้ (ก) บ้าน โรงเรือน หรือสิ่งปลูกสร้างอื่น ซึ่งโดยปกติใช้ประโยชน์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย (ข) อสังหาริมทรัพย์ตาม (ก) พร้อมที่ดินี้ (ค) ห้องชุดสำหรับการอยู่อาศัยในอาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้ได้อสังหาริมทรัพย์ตาม (ก) (ข) หรือ (ค) โดยจดทะเบียนการได้มาใน พ.ศ. 2540 และขายอสังหาริมทรัพย์นั้นภายหลังจากการจดทะเบียนไม่น้อยกว่าหนึ่งปี แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2550 (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 206 (พ.ศ. 2540) ใช้บังคับ 1 มกราคม 2540 เป็นต้นไป) (42) ผลประโยชน์ที่ได้จากการควบเข้ากันของธนาคารตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ และหรือบริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัทเครดิต ฟองซิเอร์ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ ซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าเงินทุน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 207 (พ.ศ. 2540) ใช้บังคับ 23 กันยายน 2540 เป็นต้นไป) (ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 69)) (43) เงินได้เท่าที่สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการจ่ายเป็นเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เฉพาะส่วนที่ ไม่เกินห้าแสนบาท สำหรับปีภาษีนั้น (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 266 (พ.ศ. 2551) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป) (44) เงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการได้รับจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เนื่องจากออกจากราชการเพราะเหตุสูงอายุ เหตุทุพพลภาพ เหตุทดแทนหรือตาย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 208 (พ.ศ. 2540) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ 27 มีนาคม 2540 เป็นต้นไป) (ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 70)) (45) เงินได้ที่คณะกรรมการกองทุนลานกีฬาต้านยาเสพติด สำนักนายกรัฐมนตรีได้รับเพื่อประโยชน์ของกองทุนลานกีฬาต้านยาเสพติดดังกล่าว (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 209 (พ.ศ. 2541) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ 4 มีนาคม 2540 เป็นต้นไป) (46) ดอกเบี้ยพันธบัตรออมสิน รุ่นพันธบัตรเงินฝากช่วยชาติ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 210 (พ.ศ. 2541) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ 4 มีนาคม 2540 เป็นต้นไป) (47) เงินได้ที่เป็นเงินเดือนหรือค่าตอบแทนที่เจ้าหน้าที่ของศูนย์วิจัยวนเกษตรนานาชาติ ซึ่งเป็นคนต่างด้าวและไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยได้รับจากศูนย์วิจัยวนเกษตรนานาชาติ เนื่องจากการเข้ามาทำงานในประเทศไทย ภายใต้ข้อตกลงระห่างรัฐบาลไทยและศูนย์วิจัยวนเกษตรนานาชาติ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 211 (พ.ศ. 2541) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ 21 ตุลาคม 2539 เป็นต้นไป) (48) รางวัลบัตรออกทรัพย์ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 213 (พ.ศ. 2541) ใช้บังคับสำหรับรางวัลบัตรออมทรัพย์ที่ออกรางวัลตั้งแต่ 10 มีนาคม 2541 เป็นต้นไป) (49) เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินโดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่วัด วัดบาดหลวงโรมันคาธอลิค หรือมัสยิด ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ทั้งนี้ เฉพาะการโอนที่ดินส่วนที่ทำให้วัด วัดบาดหลวงโรมันคาธอลิค หรือมัสยิดมีที่ดินไม่เกินห้าสิบไร (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 214 (พ.ศ. 2541) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ 22 ตุลาคม 2541 เป็นต้นไป) (50) ผลประโยชน์ที่ได้จากการที่ผู้ประกดอบกิจการซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจำกัดหรือบริษัทจำกัดควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กันตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด ซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าเงินทุน (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 215 (พ.ศ. 2541) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ 14 พฤศจิกายน 2541 เป็นต้นไป) (ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กันของบริษัทมหาชน จำกัด หรือบริษัทจำกัด) (51) ค่าชดเชยที่ลูกจ้างได้รับตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและค่าชดเชยที่พนักงานได้รับตามกฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ แต่ไม่รวมถึงค่าชดเชยที่ลูกจ้างหรือพนักงานได้รับเพราะเหตุเกษียณอายุหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง ทั้งนี้เฉพาะค่าชดเชยส่วนที่ไม่เกินค่าจ้างหรือเงินเดือนค่าจ้างของการทำงานสามร้อยวันสุดท้ายแต่ไม่เกินสามแสนบาท (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 217 (พ.ศ. 2542) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ 1 มกราคม 2541 เป็นต้นไป) (52) เงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ยืม สำหรับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัย โดยจำนองอาคารที่ซื้อหรือสร้างเป็นประกันการกู้ยืมนั้น ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินหนึ่งแสนบาท ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนด ทั้งนี้ เฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่ได้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป ซึ่งจ่ายให้แก่ (ก) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงินที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ข) กองทุนรวมเพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงินที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ค) นิติบุคคลเฉพาะกิจซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์ เป็นหลักทรัพย์ ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่นิติบุคคลเฉพาะกิจดังกล่าวเข้ารับช่วงสิทธิเป็นเจ้าหนี้เงินกู้แทนกองทุนรวมตาม (ก) หรือ (ข) ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น บริษัทประกันชีวิต สหกรณ์ หรือนายจ้าง กรณีที่ผู้มีเงินได้หักลดหย่อนตามมาตรา 47(1)(ซ) แห่งประมวลรัษฎากร หรือได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้ตาม (53) หรือ (59) รวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ เงินได้ที่ได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่งเมื่อรวมกับค่าลดหย่อนตามมาตรา 47 (1)(ซ) แห่งประมวลรัษฎากร หรือเงินได้ตาม (53) หรือ (59) แล้วแต่กรณี ต้องไม่เกินหนึ่งแสนบาท อาคารตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงอาคารพร้อมที่ดินด้วย (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 264 (พ.ศ. 2550) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2550 เป็นต้นไป) (ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 87)) (ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 102)) (ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 103)) (53) เงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ยืมให้แก่ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น บริษัทประกันชีวิต สหกรณ์ หรือนายจ้าง สำหรับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัย โดยจำนองอาคารที่ซื้อหรือสร้างเป็นประกันการกู้ยืมนั้น ตามจำนวนที่จ่ายจริงในส่วนที่เกินหนึ่งหมื่นบาทแต่ไม่เกินเก้าหมื่นบาท และเฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่ได้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนด กรณีที่ผู้มีเงินได้หักลดหย่อนตามมาตรา 47(1)(ซ) แห่งประมวลรัษฎากร หรือได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้ตาม (52) หรือ (59) รวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ เงินได้ที่ได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่งเมื่อรวมกับค่าลดหย่อนตามมาตรา 47(1)(ซ) แห่งประมวลรัษฎากร หรือเงินได้ตาม (52) หรือ (59) แล้วแต่กรณี ต้องไม่เกินหนึ่งแสนบาท อาคารตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงอาคารพร้อมที่ดินด้วย (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 264 (พ.ศ. 2550) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2550 เป็นต้นไป) (ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 88)) (54) เงินได้เท่าที่ผู้อำนวยการ ผู้บริหาร ครู หรือบุคลากรทางการศึกษา ในโรงเรียนเอกชน จ่ายเป็นเงินสะสมเข้ากองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน เฉพาะส่วนที่ไม่เกินห้าแสนบาท สำหรับปีภาษีนั้น (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 266 (พ.ศ. 2551) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป) (55) เงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในอัตราไม่เกินร้อยละสิบห้าของเงินได้พึงประเมินเฉพาะส่วนที่ ไม่เกินห้าแสนบาท สำหรับปีภาษีนั้น โดยผู้มีเงินได้ต้องถือหน่วยลงทุนดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับตั้งแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรกและไถ่ถอนหน่วยลงทุนนั้นเมื่อผู้มีเงินได้มีอายุไม่ต่ำกว่าห้าสิบห้าปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป และ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด ในกรณีที่ผู้มีเงินได้จ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนด้วย เงินได้ที่ได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่งเมื่อรวมกับเงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกองทุนสงเคราะห์ ต้องไม่เกินห้าแสนบาท ในกรณีที่ผู้มีเงินได้ถือหน่วยลงทุนไม่ครบห้าปีนับตั้งแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรกหรือไถ่ถอนหน่วยลงทุนก่อนที่ผู้มีเงินได้มีอายุครบห้าสิบห้าปีบริบูรณ์ ให้ผู้มีเงินได้นั้นหมดสิทธิได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่ง และต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีตามวรรคหนึ่งมาแล้วด้วย (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 266 (พ.ศ. 2551) ใช้บังคับ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป) ในปีภาษี 2551 หากผู้มีเงินได้มีการซื้อหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ให้เงินได้ตามวรรคหนึ่งเท่ากับส่วนที่ไม่เกินเจ็ดแสนบาท แต่ไม่เกินร้อยละสิบห้าของเงินได้พึงประเมิน และในกรณีที่ผู้มีเงินได้ดังกล่าวได้จ่ายเงินสะสมตามวรรคสองด้วย เมื่อรวมเงินได้กับเงินสะสมแล้วต้องไม่เกินเจ็ดแสนบาท ทั้งนี้ เงินได้ที่ได้รับยกเว้นดังกล่าว ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด และให้นำความในวรรคสามมาใช้บังคับด้วย (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 267 (พ.ศ. 2551) ใช้บังคับ 21พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป) (56) เงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้รับจากกองทุนรวมดังกล่าวเพราะเหตุสูงอายุ ทุพพลภาพ หรือตาย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 228 (พ.ศ. 2544) ใช้บังคับ 1 มกราคม 2544 เป็นต้นไป) (ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 91)) (57) เงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนได้รับจากกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน เมื่อครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนออกจากงานเพราะเหตุสูงอายุ ทุพพลภาพ หรือตาย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 233 (พ.ศ. 2544) ใช้บังคับ 1 มกราคม 2543 เป็นต้นไป) (ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 99) ) (58) เงินได้พึงประเมิน ดังต่อไปนี้ (ก) เงินปันผลที่ได้จากการถือหุ้นในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการธุรกิจเงินร่วมลงทุน และได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 5 อัฏฐารส แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2500 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 396) พ.ศ. 2545 (ข) ผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนหุ้นของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการธุรกิจเงินร่วมลงทุน และได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 5 อัฏฐารส แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2500 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 396) พ.ศ. 2545 (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 235 (พ.ศ. 2545) ใช้บังคับ 1 มีนาคม 2545 เป็นต้นไป) (59) เงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ยืมให้แก่กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ สำหรับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัย ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินหนึ่งแสนบาท และเฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่ได้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนด กรณีที่ผู้มีเงินได้หักลดหย่อนตามมาตรา 47(1)(ซ) แห่งประมวลรัษฎากร หรือได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้ตาม (52) หรือ (53) รวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ เงินได้ที่ได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่งเมื่อรวมกับ ค่าลดหย่อนตามมาตรา 47(1)(ซ) แห่งประมวลรัษฎากร หรือเงินได้ตาม (52) หรือ (53) แล้วแต่กรณี ต้อง ไม่เกินหนึ่งแสนบาท อาคารตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงอาคารพร้อมที่ดินด้วย (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 264 (พ.ศ. 2550) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2550 เป็นต้นไป) (ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 122) ) (60) ดอกเบี้ยและรางวัลสลากออมทรัพย์ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แต่ไม่รวมถึงดอกเบี้ยซึ่งผู้รับมิใช่ผู้ทรงคนแรก ทั้งนี้ สำหรับสลากออมทรัพย์ที่ออกจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2545 เป็นต้นไป (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 239 (พ.ศ. 2545) ใช้บังคับ 28 กันยายน 2545 เป็นต้นไป) (61) เงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันภัยในปีภาษี สำหรับการประกันชีวิตของผู้มี เงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง เฉพาะส่วนที่เกินหนึ่งหมื่นบาทแต่ไม่เกินเก้าหมื่นบาท โดยกรมธรรม์ประกันชีวิตต้องมีกำหนดเวลาตั้งแต่สิบปีขึ้นไป และการประกันชีวิตนั้นได้เอาประกันไว้กับผู้รับประกันภัยที่ประกอบกิจการประกันชีวิตในราชอาณาจักร ทั้งนี้ สำหรับเบี้ยประกันภัย ที่ได้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่อธิบดี กำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 266 (พ.ศ. 2551) ใช้บังคับ 16 พฤษภาคม 2551 เป็นต้นไป) ( ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 112) ใช้บังคับ 1 มกราคม 2545 เป็นต้นไป ) (62) เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ดังต่อไปนี้ (ก) บ้าน โรงเรือน หรือสิ่งปลูกสร้างอื่น ซึ่งโดยปกติใช้ประโยชน์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย (ข) อสังหาริมทรัพย์ตาม (ก) พร้อมที่ดิน (ค) ห้องชุดสำหรับการอยู่อาศัยในอาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ทั้งนี้ เฉพาะสำหรับกรณีการทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ซึ่งผู้มีเงินได้ใช้เป็น ที่อยู่อาศัยอันเป็นแหล่งสำคัญ โดยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์นั้น ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด การได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่ง ต้องปรากฏว่าภายในกำหนดเวลาหนึ่งปีก่อนหรือ นับแต่วันที่ทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ผู้มีเงินได้ได้ทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่ซึ่งมีลักษณะตาม (ก) (ข) หรือ (ค) เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของตน และให้ได้รับยกเว้นเท่ากับจำนวนมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว แต่ไม่เกินจำนวนมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่ ทั้งนี้ ให้ถือตามราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 241 (พ.ศ. 2546) ใช้บังคับกับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดินหรือกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดแล้วแต่กรณี สำหรับการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกระทำตั้งแต่ 1 มกราคม 2546 เป็นต้นไป) (ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 125) ใช้บังคับ 1 มกราคม 2546 ) (63) เงินได้จากการขายข้อตกลงซื้อขายล่วงหน้าในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า แห่งประเทศไทย เฉพาะกรณีที่ไม่มีการส่งมอบสินค้าเกษตร (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 244 ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่เปิดทำการซื้อขายข้อตกลงซื้อขายล่วงหน้าในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยเป็นต้นไป) (64) บำเหน็จดำรงชีพตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2546 (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 245 ใช้บังคับ 10 มีนาคม 2547 เป็นต้นไป) (65) เงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้รับเนื่องจากการขายหน่วยลงทุนคืนให้แก่กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้ถือหน่วยลงทุนดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับตั้งแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 265 (พ.ศ. 2551)) (66) เงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ตามกฎหมาย ว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ได้มีการจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวมภายในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ในอัตราไม่เกินร้อยละสิบห้าของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะส่วนที่ไม่เกินห้าแสนบาท สำหรับปีภาษีนั้น และเงินได้ดังกล่าวต้องเป็นเงินได้ของผู้มีเงินได้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาแต่ไม่รวมถึง ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลและกองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง ทั้งนี้ สำหรับเงินได้ พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป เงินได้ที่ได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่ง และการถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้น ระยะยาวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด ในกรณีที่ผู้มีเงินได้ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดใน วรรคสอง ให้ผู้มีเงินได้นั้นหมดสิทธิได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่ง และต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีตามวรรคหนึ่งมาแล้วด้วย (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 266 (พ.ศ. 2551) ใช้บังคับ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป) ในปีภาษี 2551 หากผู้มีเงินได้มีการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาวระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ให้เงินได้ตามวรรคหนึ่งเท่ากับส่วนที่ไม่เกินเจ็ดแสนบาท แต่ไม่เกินร้อยละสิบห้าของเงินได้พึงประเมิน ทั้งนี้ เงินได้ที่ได้รับยกเว้นและการถือหน่วยลงทุนดังกล่าว ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด และให้นำความในวรรคสามมาใช้บังคับด้วย (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 267 (พ.ศ. 2551) ใช้บังคับ 21 พฤศจิกายน 2551 เป็นต้นไป) (67) เงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้รับเนื่องจากการขายหน่วยลงทุนคืนให้แก่ กองทุนรวมหุ้นระยะยาวตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดทรัพย์ ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่ผู้มี เงินได้ถือหน่วยลงทุนดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีปฏิทิน แต่ไม่รวมถึงกรณีทุพพลภาพหรือตาย และเงินหรือผลประโยชน์ดังกล่าวคำนวณมาจากเงินได้พึงประเมินที่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ ตาม (66) (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 246 (พ.ศ. 2547) ใช้บังคับ 31 สิงหาคม 2547 เป็นต้นไป) (68) เงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนตามมาตรา 47 (1)(2) (3) (4) (5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร เท่าจำนวนเงินที่ได้บริจาคเพื่อการกีฬา ให้แก่การกีฬาแห่งประเทศไทยเพื่อส่งเสริมการกีฬา คณะกรรมการกีฬาจังหวัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการกีฬาแห่งประเทศไทยเพื่อส่งเสริมกีฬาในจังหวัด สำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการเพื่อการจัดการแข่งขันกีฬานักเรียน หรือสมาคมกีฬาสมัครเล่นที่ได้รับอนุญาตจากการกีฬาแห่งประเทศไทย แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคตามมาตรา 47(7) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนดังกล่าว (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 248 (พ.ศ. 2547) ใช้บังคับ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป) (69) ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักรเฉพาะดอกเบี้ยเงินฝากประจำที่มีระยะเวลาการฝากตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป แต่เมื่อรวมกับดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภทรวมกันแล้วต้องมีจำนวนทั้งสิ้นไม่เกินสามหมื่นบาทตลอดปีภาษีนั้น และผู้มีเงินได้ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากดังกล่าวเมื่อมีอายุไม่ต่ำกว่าห้าสิบห้าปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ สำหรับเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2548 เป็นต้นไป โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 250 (พ.ศ. 2548) ใช้บังคับ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป) (70) เงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนตามมาตรา 47(1) (2) (3) (4) (5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร เท่าจำนวนที่บริจาคให้แก่ส่วนราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย หรือภัยธรรมชาติอื่น แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคตามมาตรา 47(7) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อนดังกล่าวนั้น ทั้งนี้ สำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปี พ.ศ. 2547 ที่ต้องยื่นรายการในปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 253 (พ.ศ. 2548) ลงวันที่ 28 มีนาคม 2548 ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปี พ.ศ 2547 ที่ต้องยื่นรายการในปี พ.ศ 2548 เป็นต้นไป) (71) เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่สภากาชาดไทย (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 256 (พ.ศ. 2548) ใช้บังคับ 22 สิงหาคม 2548 เป็นต้นไป) (72) เงินได้ที่ผู้มีเงินได้ซึ่งเป็นผู้อยู่ในประเทศไทยและมีอายุไม่ต่ำกว่าหกสิบห้าปีบริบูรณ์ในปีภาษีได้รับ เฉพาะส่วนที่ไม่เกินหนึ่งแสนเก้าหมื่นบาทในปีภาษีนั้น ทั้งนี้ สำหรับเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 257 (พ.ศ. 2549) ใช้บังคับสำหรับเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป) (73) เงินที่มีลักษณะเดียวกับบำเหน็จดำรงชีพตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการและกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ซึ่งพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย พนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย และพนักงานธนาคารออมสินได้รับ โดยมีอัตราและวิธีการคำนวณเช่นเดียวกับบำเหน็จดำรงชีพตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการและกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2547 เป็นต้นไป (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 258 (พ.ศ. 2549) ใช้บังคับ 10 มีนาคม 2547 เป็นต้นไป) (74) เงินได้ที่คณะกรรมการโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทยได้รับเพื่อประโยชน์ของโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 เป็นต้นไป (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 259 (พ.ศ. 2549) ใช้บังคับ 5 กุมภาพันธ์ 2547 เป็นต้นไป) (75) เงินได้จากการขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าซึ่งกระทำในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เฉพาะกรณีที่ไม่มีการส่งมอบสินค้า ทั้งนี้ สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 260 (พ.ศ. 2549) ใช้บังคับ 1 พฤศจิกายน 2548 เป็นต้นไป) (76) เงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันภัยให้แก่บริษัทประกันชีวิตหรือบริษัท ประกันวินาศภัยที่ประกอบกิจการในราชอาณาจักรตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นห้าพัน บาท สำหรับการประกันสุขภาพบิดามารดาของผู้มีเงินได้ รวมทั้งบิดามารดาของสามีหรือภริยาของผู้มี เงินได้ซึ่ง มีรายได้ไม่เพียงพอ แก่การยังชีพ ทั้งนี้ ต้องเป็นเบี้ยประกันภัยที่ได้จ่ายในปี พ.ศ. 2549 เป็น ต้นไป และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนด (77) เงินได้เท่าที่นายจ้างจ่ายเป็นเบี้ยประกันภัยให้แก่บริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันวินาศภัยที่ประกอบกิจการในราชอาณาจักร สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มที่มีกำหนดเวลาไม่เกินหนึ่งปี เฉพาะในส่วนที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับ (ก) ลูกจ้าง สามี ภริยา บุพการีหรือผู้สืบสันดานซึ่งอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของลูกจ้าง ทั้งนี้ เฉพาะการรักษาพยาบาลในประเทศไทย (ข) ลูกจ้าง ในกรณีที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลในต่างประเทศ ในขณะที่ปฏิบัติการตามหน้าที่ในต่างประเทศเป็นครั้งคราว ทั้งนี้ สำหรับเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 263 (พ.ศ. 2549) ใช้บังคับ 1 มกราคม 2549 เป็นต้นไป) (78) เงินได้ของวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ซึ่งมีเงินได้ไม่เกินหนึ่งล้านแปดแสนบาท สำหรับปีภาษีนั้น ทั้งนี้ สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 269 (พ.ศ. 2552) ให้ยังคงใช้บังคับต่อไป เฉพาะในการปฏิบัติจัดเก็บภาษีเงินได้ที่ค้างอยู่หรือพึงชำระก่อนวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552) (79) เงินได้ที่มีลักษณะเดียวกับบำเหน็จดำรงชีพตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการและกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ซึ่งเจ้าหน้าที่สภากาชาดไทยได้รับ โดยมีอัตราและวิธีการคำนวณเช่นเดียวกับบำเหน็จดำรงชีพตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการและกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 268 (พ.ศ. 2552))
โดย
choochart
พุธ มิ.ย. 03, 2009 7:18 pm
0
0
ไม่มีในข้อยกเว้นครับ
http://www.rd.go.th/publish/5937.0.html#mata42 มาตรา 42 เงินได้พึงประเมินประเภทต่อไปนี้ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ (1) ค่าเบี้ยเลี้ยงหรือค่าพาหนะ ซึ่งลูกจ้างหรือผู้รับหน้าที่หรือตำแหน่งงาน หรือผู้รับทำงานให้ ได้จ่ายไปโดยสุจริตตามความจำเป็นเฉพาะ ในการที่จะต้องปฏิบัติการตามหน้าที่ของตนและได้จ่ายไปทั้งหมดในการนั้น ( ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.59/2538 ) ( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.120/2545 ) (2) ค่าพาหนะและเบี้ยเลี้ยงเดินทางตามอัตราที่รัฐบาลกำหนดไว้ โดยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยอัตราค่าพาหนะและเบี้ยเลี้ยงเดินทาง (3) เงินค่าเดินทางซึ่งนายจ้างจ่ายให้ลูกจ้าง เฉพาะส่วนที่ลูกจ้างได้จ่ายทั้งหมดโดยจำเป็นเพื่อการเดินทางจากต่างถิ่นในการเข้ารับงานเป็นครั้งแรก หรือในการกลับถิ่นเดิมเมื่อการจ้างได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ข้อยกเว้นนี้มิให้รวมถึงเงินค่าเดินทางที่ลูกจ้างได้รับในการกลับถิ่นเดิม และในการเข้ารับงานของนายจ้างเดิมภายในสามร้อยหกสิบห้าวัน นับแต่วันที่การจ้างครั้งก่อนได้สิ้นสุดลง ( พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2502 ใช้บังคับปีภาษี 2503 เป็นต้นไป ) (4) ในกรณีที่นายจ้างและลูกจ้างได้ทำสัญญากันโดยสุจริตก่อนใช้พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ พุทธศักราช 2475 มีข้อกำหนดว่า นายจ้างจะชำระเงินบำเหน็จ เงินค่าธรรมเนียม เงินค่านายหน้า หรือเงินโบนัสให้แก่ลูกจ้างเป็นจำนวนเดียวเมื่อการงานที่จ้างได้สิ้นสุดลงแล้ว แม้เงินเต็มจำนวนนั้นจะได้ชำระภายหลังที่ใช้บัญญัติในส่วนนี้ก็ดี เงินบำเหน็จ เงินค่าธรรมเนียม เงินค่านายหน้า หรือเงินโบนัสส่วนที่เป็นค่าจ้างแรงงานอันได้ทำในเวลาก่อนใช้พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ พุทธศักราช 2475 นั้น ไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ (5) เงินเพิ่มพิเศษประจำตำแหน่ง และเงินค่าเช่าบ้าน หรือบ้านที่ให้อยู่โดยไม่ต้องเสียค่าเช่า สำหรับข้าราชการสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ (6) เงินได้จากการขาย หรือส่วนลดจากการซื้ออากรแสตมป์ หรือแสตมป์ไปรษณียากรของรัฐบาล (7) เบี้ยประชุมกรรมาธิการหรือกรรมการ หรือค่าสอน ค่าสอบที่ทางราชการหรือสถานศึกษาของทางราชการจ่ายให้ (8) ดอกเบี้ยดังต่อไปนี้ (ก) ดอกเบี้ยสลากออมสิน หรือดอกเบี้ยเงินฝากออมสินของรัฐบาลเฉพาะประเภทฝากเผื่อเรียก (ข) ดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์ที่ได้รับจากสหกรณ์ (ค) ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักรที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถามประเภทออมทรัพย์ เฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้ได้รับดอกเบี้ยดังกล่าวในจำนวนรวมกันทั้งสิ้นไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทตลอดปีภาษีนั้น ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด ( พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 29) พ.ศ. 2534 ใช้บังคับ 7พ.ย. 2534 เป็นต้นไป ) ( ดูพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 301) พ.ศ. 2539 ) ( ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 55) ) ( ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 64) ) (9) การขายสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดก หรือสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร แต่ไม่รวมถึงเรือกำปั่น เรือที่มีระวางตั้งแต่หกตันขึ้นไป เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ที่มีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป หรือแพ ( พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2525 ใช้บังคับ 27 ก.พ. 2525 เป็นต้นไป ) (10) เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา เงินได้ที่ได้รับจากการรับมรดก หรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี (11) รางวัลเพื่อการศึกษาหรือค้นคว้าในวิทยาการ รางวัลสลากกินแบ่งหรือสลากออมสินของรัฐบาล รางวัลที่ทางราชการจ่ายให้ในการประกวดหรือแข่งขัน ซึ่งผู้รับมิได้มีอาชีพในการประกวดหรือแข่งขัน หรือสินบนรางวัลที่ทางราชการจ่ายให้เพื่อประโยชน์ในการปราบปรามกระทำความผิด ( พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2502 ใช้บังคับสำหรับปีภาษี 2503 เป็นต้นไป ) (12) บำนาญพิเศษ บำเหน็จพิเศษ บำนาญตกทอด หรือบำเหน็จตกทอด (13) ค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิด เงินที่ได้จากการประกันภัย หรือการฌาปนกิจสงเคราะห์ (14) เงินส่วนแบ่งของกำไรจากห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ซึ่งต้องเสียภาษีตามบทบัญญัติในส่วนนี้ แต่ไม่รวมถึงเงินส่วนแบ่งของกำไรจากกองทุนรวม ( พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 14) พ.ศ .2529 ใช้บังคับ 1 ก.พ. 2529 เป็นต้นไป ) (15) เงินได้ของชาวนาที่ได้จากการขายข้าว อันเกิดจากกสิกรรมที่ตนและหรือครอบครัวได้ทำเอง ( พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2504 ใช้บังคับสำหรับเงินได้ปีภาษี 2505 เป็นต้นไป ) (16) เงินได้ที่ได้รับจากกองมรดก ซึ่งต้องเสียภาษีตามความในมาตรา 57 ทวิ (17) เงินได้ตามที่จะได้กำหนดยกเว้นโดยกฎกระทรวง ( พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 ใช้บังคับสำหรับเงินได้ปีภาษี 2496 เป็นต้นไป ) ( ดูกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ) ( ดูกฎกระทรวง ฉบับที่ 201 (พ.ศ. 2539) ) ( ดูกฎกระทรวง ฉบับที่ 219 (พ.ศ. 2542) ) ( ดูกฎกระทรวง ฉบับที่ 230 (พ.ศ. 2544) ) ( ดูกฎกระทรวง ฉบับที่ 241 (พ.ศ. 2546) ) ( ดูกฎกระทรวง ฉบับที่ 252 (พ.ศ. 2548) ) ( ดูกฎกระทรวง ฉบับที่ 254 (พ.ศ. 2548) ) (18) รางวัลสลากบำรุงกาชาดไทย เงินได้จากการขาย หรือส่วนลดจากการซื้อสลากบำรุงกาชาดไทย ( ประกาศของคณะปฏิวัติ (ฉบับที่ 206) พ.ศ. 2515 ) (19) ดอกเบี้ยที่ได้รับตามมาตรา 4 ทศ ( ประกาศของคณะปฏิวัติ (ฉบับที่ 206) พ.ศ. 2515 ใช้บังคับสำหรับเงินได้ปีภาษี 2515 เป็นต้นไป ) ( ดูกฎกระทรวง ฉบับที่ 161 (พ.ศ. 2526) ) ( ดูคำสั่งกรมสรรพากร ท.ป.64/2539 ) (20) (ยกเลิกโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 26) พ.ศ.2525 มาตรา 5 ตั้งแต่ 28 ส.ค. 2525 เป็นต้นไป) (21) (ยกเลิกโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 29) พ.ศ. 2534 มาตรา 6 ตั้งแต่ 7 พ.ย. 2534 เป็นต้นไป) (22) (ยกเลิกโดย พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2529 มาตรา 8 ตั้งแต่ 1 ก.พ. 2529เป็นต้นไป) (23) เงินได้จากการขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวม (24) เงินได้ของกองทุนรวม ( พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2517 ใช้บังคับปีภาษี 2518 เป็นต้นไป ) ( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.119/2545 ) ( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.122/2545 ) (25) เงินประโยชน์ทดแทนที่ผู้ประกันตนได้รับจากกองทุนประกันสังคม ตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม ( พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2533 ใช้บังคับ 3 ก.ย. 2533 เป็นต้นไป )
โดย
choochart
พุธ มิ.ย. 03, 2009 7:16 pm
0
0
ขอเสนอครับ
พี่ครรชิตครับ... คือ file excel มันใหญ่มากอุ้ยอ้าย เป็นไปได้มั๊ยครับที่จะเรียกข้อมูลupdate เฉพาะหุ้นที่อยู่ใน sheet portfolio file จะได้เล็กลง .........ขอบคุณครับ
โดย
choochart
พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 10:01 pm
0
0
ขอ v2007
ขอ v2007 ด้วยครับ
[email protected]
ขอบคุณล่วงหน้าครับ choochart
โดย
choochart
จันทร์ พ.ค. 11, 2009 8:54 am
0
0
ตอนนี้มีใครสนใจบ้าง
ตอนนี้ 10.8 ผลตอบแทนขั้นต่ำ 20% ใน 5 ปี ค้ำประกันโดยกระทรวงคลัง เป็นหุ้นไม่กี่ตัว ใน port ที่ยังไม่แดง ยังเขียวอยู่
โดย
choochart
ศุกร์ มี.ค. 06, 2009 10:18 pm
0
0
ด้วยคนครับ
ขอ version 2007 ครับ ขอบคุณครับ
[email protected]
โดย
choochart
พุธ มี.ค. 04, 2009 10:10 pm
0
0
ขออีกทีครับ
ขอแบบ v2007 ครับ
[email protected]
ขอบคุณครับ
โดย
choochart
จันทร์ พ.ย. 24, 2008 10:26 pm
0
0
ขอด้วยคนครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
[email protected]
choochart
โดย
choochart
เสาร์ พ.ย. 15, 2008 1:06 pm
0
0
ใครมีเงินมากพอ
ใครมีเงินมากพอจะ take over แล้วเอาไปทุบบริษัททิ้ง แล้วเอาเงินสดมาเป็นกำไร ว่าแต่จะมี คนขายหุ้นให้หรือเปล่า
โดย
choochart
พุธ ต.ค. 29, 2008 7:14 pm
0
0
ตามคำขอ
TIW มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) 303.00 สินทรัพย์ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 429.56 ลูกหนี้และตั๋วเงินรับการค้าสุทธิ 7.79 ลูกหนี้และตั๋วเงินรับการค้า-บุคคลหรือกิจการอื่น 7.79 มูลค่างานที่เสร็จยังไม่ได้เรียกเก็บ/ค่างวดที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้ 3.83 มูลค่างานที่เสร็จยังไม่ได้เรียกเก็บ 3.83 เงินให้กู้ยืมระยะสั้นอื่น 3.50 สินค้าคงเหลือ/อสังหาริมทรัพย์ 343.46 สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 3.00 รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 791.14 เงินให้กู้ยืมระยะยาวบริษัทอื่น/บุคคลอื่น 4.22 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์สุทธิ 171.05 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 171.05 สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น 0.08 รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 175.35 รวมสินทรัพย์ 966.49 หนี้สิน เจ้าหนี้และตั๋วเงินจ่ายการค้าสุทธิ 18.64 เจ้าหนี้และตั๋วเงินจ่ายการค้า-บุคคลหรือกิจการอื่น 0.76 เจ้าหนี้และตั๋วเงินจ่ายการค้า-บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 17.88 เงินรับล่วงหน้าจากลูกค้า 0.02 หนี้สินหมุนเวียนอื่น 63.63 รวมหนี้สินหมุนเวียน 82.29 ประมาณการหนี้สิน 23.24 รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน 23.24 รวมหนี้สิน 105.52 429.56- 105.52 =324.04 ( > 303.00 mar.cap)
โดย
choochart
พุธ ต.ค. 29, 2008 7:11 pm
0
0
ตามคำขอคุณ Naris
Scan มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) 151.20 สินทรัพย์ เงินสดและเงินฝากสถาบันการเงิน 395.82 รวมเงินลงทุนสุทธิ 166.78 เงินลงทุนชั่วคราว 166.78 เงินให้กู้ยืม ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับสุทธิ 503.20 ทรัพย์สินรอการขายสุทธิ 2.02 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์สุทธิ 13.79 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 13.79 สินทรัพย์อื่นสุทธิ 29.07 รวมสินทรัพย์ 1,110.68 หนี้สิน รวมเงินกู้ยืมและเงินรับฝาก 154.98 จากสถาบันการเงิน 154.98 หนี้สินอื่น 48.27 รวมหนี้สิน 203.24 395.82-203.24 =192.58 ( > 151.20 MarCap)
โดย
choochart
พุธ ต.ค. 29, 2008 7:08 pm
0
0
ทั้งหมด
ทั้งหมดที่ได้จากสูตร ไปดูคุณภาพทรัพย์สิน หา margin of safety กันเอง AFC BNC CEI CFRESH CHOTI CHUO CPH CPL ESTAR EVER GJS INET JTS KC KTP KYE LALIN LL MANRIN METCO MK NOBLE PF PRECHA RAIMON RASA SAMCO SAWANG SCAN SH SIRI SMM SPG SPSU TC TCOAT THIP TIW TOPP TPP TPROP TTL YCI
โดย
choochart
พุธ ต.ค. 29, 2008 12:19 am
0
0
อีกตัว
BNC มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) 35.82 สินทรัพย์ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 12.09 ลูกหนี้และตั๋วเงินรับการค้าสุทธิ 71.16 ลูกหนี้และตั๋วเงินรับการค้า-บุคคลหรือกิจการอื่น 9.39 ลูกหนี้และตั๋วเงินรับการค้า-บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 62.75 หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 0.99 สินค้าคงเหลือ/อสังหาริมทรัพย์ 85.74 สินค้าสำเร็จรูป 13.20 งานระหว่างทำ /งานระหว่างก่อสร้าง 13.42 วัตถุดิบและวัสดุที่ใช้ในการผลิต 59.12 สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 1.74 รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 170.72 หนี้สิน เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 4.00 เจ้าหนี้และตั๋วเงินจ่ายการค้าสุทธิ 27.71 เจ้าหนี้และตั๋วเงินจ่ายการค้า-บุคคลหรือกิจการอื่น 27.71 หนี้สินหมุนเวียนอื่น 6.88 รวมหนี้สินหมุนเวียน 38.59 รวมหนี้สิน 38.59
โดย
choochart
พุธ ต.ค. 29, 2008 12:18 am
0
0
ซื้อทั้งบริษัท เอาเงินบริษัทจ่ายหนี้ แล้วยังมีเงินเหลือ
ดูข้อมูลทรัพย์สินคร่าวๆ จาก http://www.set.or.th/set/companyfinance.do?type=balance&symbol=CEI&language=th&country=TH CEI มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) 354.00 สินทรัพย์ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 15.58 เงินลงทุนชั่วคราว 399.52 ลูกหนี้และตั๋วเงินรับการค้าสุทธิ 75.48 เงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน-สุทธิ 1.95 ลูกหนี้อื่น-บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 1.95 สินค้าคงเหลือ/อสังหาริมทรัพย์ 52.53 สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 25.79 รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 570.84 หนี้สิน เจ้าหนี้และตั๋วเงินจ่ายการค้าสุทธิ 23.10 เจ้าหนี้และตั๋วเงินจ่ายการค้า-บุคคลหรือกิจการอื่น 23.05 เจ้าหนี้และตั๋วเงินจ่ายการค้า-บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 0.05 หนี้สินหมุนเวียนอื่น 47.59 รวมหนี้สินหมุนเวียน 70.69 หนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น 33.21 รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน 33.21 รวมหนี้สิน 103.89
โดย
choochart
พุธ ต.ค. 29, 2008 12:14 am
0
0
ตัวอย่าง
AFC Market Cap มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) 136.72 สินทรัพย์ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 39.03 ลูกหนี้และตั๋วเงินรับการค้าสุทธิ 226.00 ลูกหนี้และตั๋วเงินรับการค้า-บุคคลหรือกิจการอื่น 169.65 ลูกหนี้และตั๋วเงินรับการค้า-บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 56.34 สินค้าคงเหลือ/อสังหาริมทรัพย์ 284.72 สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 16.55 รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 566.30 หนี้สิน เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 8.24 เจ้าหนี้และตั๋วเงินจ่ายการค้าสุทธิ 38.97 เจ้าหนี้และตั๋วเงินจ่ายการค้า-บุคคลหรือกิจการอื่น 38.97 หนี้สินหมุนเวียนอื่น 36.40 รวมหนี้สินหมุนเวียน 83.62 รวมหนี้สิน 83.62
โดย
choochart
พุธ ต.ค. 29, 2008 12:11 am
0
0
นักลงทุนทิ้งแครี่เทรด ส่งเยนแข็งสุดรอบ 13 ปี
นักค้าเงินแห่ปิดสถานะเงินเยน หลังสภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน ส่งเยนแข็งค่าสุดรอบ 13 ปี ค่าเงินเยนแข็งค่าสุดในรอบ 6 ปีต่อเงินยูโร หลังประเทศในยุโรปตะวันออกอาทิ เบลารุส ยูเครน และฮังการี จะเข้าขอกู้เงินฉุกเฉินจากองค์กรการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ในวงเงินไม่ต่ำกว่า 20 ล้ายเหรียญต่อประเทศ การเข้าขอเงินกู้จากไอเอ็มเอฟ สร้างภาวะความกังวลต่อนักค้าเงินต่อภาวะเศรษฐกิจของยุโรปโดยรวม โดยเกรงว่ายุโรปตะวันตกอาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มตะวันออกได้ ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นไปที่ระดับ 95.34 เยนต่อหนึ่งดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นสุดตั้งแต่เดือน สิงหาคม ปี 2538 ขณะที่หนึ่งยูโรแลกได้ 121.75 เยน เป็นอัตราที่แข็งที่สุดสำหรับเงินเยนตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2546 ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ค่าเงินเย็นแข็งค่าต่อเงินดอลล่าร์แล้วกว่า 6.2% เป็นการแข็งค่าใน 1 สัปดาห์มากสุดตั้งแต่ปี 2541 นอกจากนี้เงินเยนยังแข็งค่าต่อเงินดอลล่าร์แล้วกว่า 12% เป็นการปรับตัวแข็งค่ารอบสัปดาห์สูงสุดตั้งแต่มีการเริ่มใช้สกุลเงินยูโร กระแสเงินไหลกลับจากสกุลเงินที่จ่ายดอกเบี้ยสูง อาทิ ออสเตรเลียดอลล่าร์ และ นิวซีแลนด์ดอลล่าร์ สู่เงินเยน ทำให้ ค่าเงินออสเตรเลียดอลล่าร์อ่อนค่าลง 4% ต่อเงินเยน ที่ระดับ 62.53 เยนต่อหนึ่งดอลล่าร์ออสเตรเลีย และค่าเงินนิวซีแลนด์ดอลล่าร์อ่อนค่าลง 3.3% ไปอยู่ที่ 55.98 เยน
โดย
choochart
ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 6:56 pm
0
0
ตลาดเงินชักดื้อยา ดอกเบี้ยบวกสลับลบ
ตลาดเงินชักดื้อยา ดอกเบี้ยบวกสลับลบ ความกลัวเริ่มเข้าคลุมตลาดเงินอีกรอบ อ้ตราการลดของดอกเบี้ยในตลาดต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี แม้ธนาคารกลางยังเทเงินไม่หยุด อัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร ตลาดลอนดอน หรือ LIBOR สำหรับเงินสกุลดอลล่าร์ ระยะสามเดือนปรับตัวลดลงน้อยกว่า 1 เบสิสพ้อยท์ ลงมาปิดที่ระดับ 3.535% ตามข้อมูลจากสมาคมธนาคารอังกฤษ อัตราดอกเบี้ย LIBOR ระยะข้ามคืน สกุลด่าาร์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 10 วันที่ อยู่ที่ระดับ 1.21% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในเอเชียเริ่มปรับตัวขึ้น หลังรัซเซียอาจถูกดาวน์เกรด และเกาหลีใต้กำลังประสบปัญหาในระบบธนาคาร ระบบตลาดเงินยังคงทำงานไม่ปกติ แม้จะพัฒนาการที่ดีขึ้นต่อเนื่องก็ตาม โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ยอดเงินกู้ของธนาคารพานิชย์โดยตรงกับธนาคารยุโรปขยายตัวมากสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 9.91 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 7.39 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ธนาคารกลางยุโรปพร้อมให้สภาพคล่องเงินสกุลดอลล่าร์แก่ธนาคารพานิชย์ไม่จำกัดจำนวน ขณะที่เงินฝากข้ามคืนที่ธนาคารพานิชย์ฝากไว้กับธนาคารกลางเมื่อวานนี้ อยู่เหนือระดับ 2 แสนล้านยูโรเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน สูงกว่าระดับเฉลี่ยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ที่ระดับ 427 ล้านยูโรกว่า 500 เท่า แสดงถึงความไม่มั่นใจของธนาคารพานิชย์ในการปล่อยกู้ระหว่างกัน นักค้าตลาดเงินกล่าวว่า มีการพูดถึงข่าวลือเกี่ยวกับสถานะการเงินของประเทศในเอเชีย และลาตินอเมริกา ซึ่งอาจต้องมีชะตากรรมกับประเทศไอซ์แลนด์ ที่ต้องเข้ากู้ IMF และรัซเซีย ทำให้สภาพคล่องในตลาดหดหายอีกครั้ง
โดย
choochart
ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 6:55 pm
0
0
บ้านถูกยึด ราคาบ้านร่วง
ราคาบ้านสหรัฐร่วงแรงสุดในรอบ 17 ปี หลังยอดยึดบ้านพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ข้อมูลจากสำนักงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศํย หรือ FHFA ออกรายงานราคาที่อยู่อาศัยเฉลี่ยทั่วประเทศสหรัฐฯ ซึ่งปรับตัวลดลง 5.9% จากช่วงเดี่ยวกันของปีก่อนในเดือนสิงหาคม เป็นการปรับตัวลงมากสุดตั้งแต่เริ่มมีสำนักงานในปี 1991 ในขณะที่บริษัทวิจัยอสังหาริมทรัพย์ รายงานว่ายอดการเข้ายึดที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นกว่า 71% ในไตรมาสสาม จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า นายบริงก์แมน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ สมาคมบริษัทสินเชื่อบ้าน กล่าวว่าการเข้ายึดทรัพย์ของสถาบันการเงิน ยิ่งส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวแรงขึ้น เพราะสถาบันการเงินมักจะขายสินทรัพย์ออกมาในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ข้อมูลสิ้นสุด ณ เดือนสิงหา จาก บรรษัทประกันเงินฝากแห่งชาติเผยว่า ธนาคารพานิชย์ในสหรัฐมีทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ประเภทที่อยู่อาศัยรวม 9.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในไตรมาสสอง เพิ่มขึ้นจากระดับ 8.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสหนึ่งของปีนี้ เจ้าบ้านกว่า 765,558 รายได้รับจดหมายเตือนชำระหนี้ อยู่ระหว่างกระบวนการพิทักษ์ทรัพย์ หรือถูกยึดทรัพย์แล้ว ในไตรมาสสอง ถือเป็นยอดที่สูงที่สุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลดังกล่าวในปี 2005 ถึงอย่างไรก็ตามยอดการเข้ายึดทรัพย์โดยธนาคารพานิชย์ปรับตัวลดลงในเดือน กันยายน จากเดือนสิงหาคม หลังรัฐบาลท้องถิ่นออกมาตรการช่วยเหลือผู้กู้บ้าน อาทิ รัฐแคลิฟอร์เนีย บังคับให้ผู้ปล่อยกู้ต้องเจรจากับผู้กู้ก่อนเข้าสู่กระบวนการยึดทรัพย์ ส่งให้ยอดการเตือนเพื่อยึดทรัพย์ลดลงกว่า 23% 24 oct 2008
โดย
choochart
ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 6:53 pm
0
0
เปิดแผนกู้วิกฤต เวอร์ชั่น USA
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศแผนการเข้าช่วยเหลือระบบสถาบันการเงิน โดยดำเนินผ่านทางกระทรวงการคลัง และบรรษัทประกันเงินฝากแห่งชาติ ต่อไปนี้คือบทบาทของทั้งสองหน่วยงานตามที่ประกาศไว้ กระทรวงการคลัง รัฐบาลตั้งวงเงินในการเข้าซื้อ หุ้นบุริมสิทธิ์จากสถาบันการเงินเป็นวงเงิน 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยสถาบันที่เข้าร่วมต้องเป็นสถาบันที่รับฝากเงิน ไม่อยู่ในการควบคุมของบริษัทนึง บริษัทใด และเป็นสถาบันที่จัดตั้งในสหรัฐอเมริกา เข้าถือหุ้นที่ไม่มีสิทธิออกเสียงในสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการไม่เกิน 2.5 หมื่นเหรียญสหรัฐ หรือไม่เกิน 3% ของมูลค่าทรัพย์สินถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง ต่อสถาบันการเงิน ทั้งนี้สถาบันต้องตอบรับเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 14 พฤศจิกายน โดยแหล่งข่าวรายงานว่ามี 9 สถาบันการเงินที่ตอบรับข้อเสนอ ได้แก่ แบงค์ ออฟ อเมริกา เวล ฟาร์โก้ ซีตี้กรุ๊ป เจพี มอร์แกน เชส โกลด์แมนด์ แซค มอร์แกน สแตนลีย์ แบงค์ ออฟ นิวยอร์ค สเตทสตรีท และเมอริล ลินซ์ เงินที่ใช้ในการเข้าซื้อหุ้นจะมาจาก วงเงิน 7 แสนล้านที่ได้รับอนุมัติจากรัฐสภาภายใต้ พรบ.รักษาเสถียรภาพในสถาบันการเงิน สถาบันการเงินไม่สามารถ ซื้อคืนหุ้นบุริมสิทธิที่ออกให้แก่กระทรวงการคลัง เป็นเวลาสามปี โดยสามปีแรก สถาบันต้องจ่ายดอกเบี้ยให้รัฐบาลในอัตรา 5% ต่อปี ส่วนปีถัดไปให้จ่าย 9% จนกว่าสถาบันการเงินสามารถซื้อคืนหุ้บุริสิทธิจากกระทรวงการคลังได้หมด ในระยะสามปีสถาบันการเงินต้องขออนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก่อนที่จะประกาศจ่ายปันผลเพิ่มได้ สถาบันการเงินต้องออก ใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้น (วอร์แรนท์) ในจำนวนไม่เกิน 15% ของมูลค่าหุ้นบุริมสิทธิที่รัฐบาลเข้าซื้อ โดยราคาใช้สิทธิจะคิดโดยใช้ราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 20 วัน นับจากวันที่กระทรวงการคลังต้องการใช้สิทธิ สถาบันการเงินต้องจำกัดอัตราผลตอบแทนต่อคณะผู้บริหารบริษัท โดยสถาบันไม่สามารถนำผลตอบแทนต่อคณะผู้บริหารในส่วนที่สูงกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐ มาคิดเป็นค่าใช้จ่ายได้ อัตราผลตอบแทนต้องไม่ส่งเสริมให้เกิดการเสี่ยงโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้เงินโบนัสที่จ่ายให้แก่ผู้บริหารอาจถูกเรียกคืนในกรณีที่มีการพิสูจน์ได้ว่า ผลการดำเนินงานที่ประกาศในปีนั้นๆ ไม่เป็นไปตามความเป็นจริง มาตรการจำกัดผลตอบแทนคณะกรรมการตามข้อ 7 ให้มีผลต่อสถาบันการเงินที่ขายทรัพย์สินให้แก่กระทรวงฯ ในจำนวนที่มากกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐด้วย บรรษัทประกันเงินฝากแห่งชาติ บรรษัทประกันเงินฝากแห่งชาติ (FDIC) เข้ารับประกันตราสารหนี้แบบไม่มีหลักประกันที่ออกโดยสถาบันการเงินที่รับฝากเงินที่จัดตั้งในสหรัฐอเมริกาก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 2552 ซึ่งรวมถึงตราสารหนี้ระยะสั้น เงินกู้ระหว่างธนาคาร เป็นจำนวนไม่เกิน 125% ของหนี้สินที่สถาบันการเงินมี ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 บรรษัทรับประกันตราสารหนี้เหล่านี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2555 ถึงแม้ตัวตราสารจะมีอายุยาวกว่านั้นก็ตาม บรรษัทรับประกันบัญชีเงินฝากประเภทไม่จ่ายดอกเบี้ย อาทิบัญชีเพื่อจ่ายเงินเดือน จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2552 ทั้งจำนวน สถาบันการเงินต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นจำนวน 0.75% ของมูลค่าตราสารหนี้ สำหรับการรับประกันตราสารหนี้ และ 0.10% ของมูลค่าเงินฝากที่สูงกว่าจำนวน 2.5 แสนเหรียญสหรัฐต่อบัญชีของลูกค้า
โดย
choochart
ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 10:30 pm
0
0
เหตุที่น่าจะทำให้หุ้นขึ้นวันนี้ ( 13 ต.ค. 2551 )
เงิน...กำลังจะหมุนไป...กำลังจะหมุนไป...ให้นายแบงค์ ผมเชื่อว่าหลายคนยังคงจำกันได้กับ โฆษณาของธนาคารกรุงไทย ที่มีเพลงประกอบประมาณว่า เงินกำลังจะหมุนไป กำลังจะหมุนไป ให้ชุมชน ผมว่าเพลงนี้เหมาะกับสถานการณ์ในช่วงนี้เป็นอย่างดี เพียงแต่เงินไม่ได้จะหมุนไปให้ชุมชน แต่หมุนไปสู่มือนายแบงค์ มาตรการที่ออกมาในช่วงสุดสัปดาห์จากประเทศในกลุ่มยุโรป และออสเตรเลียที่จะเข้าไปค้ำประกันเงินกู้ระหว่างธนาคาร ในตลาด Interbank และการที่จะเข้าไปอัดฉีดเงินทุนก้อนใหม่สู่ระบบสถาบันการเงินผ่านการซื้อหุ้นเพิ่มทุน ถือเป็นก้าวสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ และที่น่ายินดียิ่งไปกว่านั้นคือ ความรวดเร็วของรัฐบาลในกลุ่มประเทศยุโรป และออสเตรเลีย ที่จะดำเนินตามมาตรการที่ประกาศ ส่งผลให้นักลงทุนและสถาบันการเงินต่างๆ เริ่มมีความเชื่อมั่นต่อระบบการเงินอีกครั้ง อันดูได้จากอัตราดอกเบี้ย LIBOR ในตลาดออสเตรเลีย ระยะยาวกว่า 1 เดือนขึ้นไปที่ปรับลดลงมาอย่างมาก ขณะเดี่ยวกันรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังจะได้ฤกษ์เริ่มใช้เงินในกองทุน 7 แสนล้านซึ่งได้รับอนุมัติจากรัฐสภาเมื่อสองสัปดาห์ก่อน โดยมีการเปลี่ยนแนวการใช้เงินจาก การเข้าไปซื้อทรัพย์สินประเภทตราสารจำนองบ้าน มาเป็นเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนจากธนาคารโดยตรง และเข้าประกันเงินกู้ในตลาด interbank เช่นเดียวกันแนวทางของประเทศในยุโรป และออสเตรเลีย โดยแผนการอย่างเป็นทางการน่าจะออกมาภายในสอง ถึงสามวันข้างหน้า ถึงตอนนี้หลายท่านอาจถามว่า การกระทำดังกล่าวจะช่วยวิกฤตการทางการเงินครั้งนี้ได้อย่างไร นโยบายชุดใหม่ที่ออกมาจะเป็นการเข้าไปแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ก็คือความไม่มั่นใจในระบบสถาบันการเงิน กล่าวคือ 1) การเข้าไปค้ำประกันเงินกู้ระหว่างธนาคาร ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทาง PKNMoney ได้นำเสนอข่าวสารในตลาด Interbank และอัตราดอกเบี้ย LIBOR อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพราะความเคลื่อนไหวในตลาด Interbank ส่งผลถึงภาวะสภาพคล่องทางการเงินของสถาบันการเงินต่างๆโดยตรง เพราะตลาด Interbank คือตลาดที่ธนาคารพานิชย์ในแต่ละประเทศ เข้าไปทำธุรกรรมเพื่อกู้เงินในกรณีที่ธนาคารขาดสภาพคล่องชั่วคราว หรือเข้าไปปล่อยเงินกู้ต่อธนาคารอื่นในกรณีที่ธนาคารมีสภาพคล่องล้นชั่วคราว โดยการปล่อยกู้มักจะเป็นในระยะ 1 วัน 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ย LIBOR พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากธนาคารต่างๆไม่ยอมปล่อยกู้ สภาพคล่องส่วนเกินในตลาด และเลือกที่จะฝากสภาพคล่องส่วนเกินเหล่านั้นไว้กับธนาคารกลางแทนเพื่อความปลอดภัย เหตุที่ธนาคารไม่ยอมปล่อยกู้ก็เพราะว่า ไม่มั่นใจว่าธนาคารที่กู้เงินไปจะสามารถจ่ายเงินคืนได้ หรือที่เรียก ความกลัวอันเนื่องมาจากความเสี่ยงของคู่สัญญา (Counterparty Risks) เมื่อเกิดภาวะเช่นนี้ขึ้น ธนาคารที่พึ่งพาสภาพคล่องระหว่างวันจากตลาด Interbank ก็ไม่สามารถหาเงินสดมาหมุนได้ เมื่อสัญญาเงินกู้ฉบับเก่าหมดอายุลง หรือสถาบันการเงินที่ถูกเรียกให้นำเงินสดมาวางหลักประกันเพิ่ม ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่สามารถหาเงินมาจากตลาดนี้ได้ การเข้าค้ำประกันเงินกู้ระหว่างธนาคาร จะเป็นการลดความเสี่ยงของคู่สัญญาไปเกือบหมด เนื่องจากรัฐบาลสัญญาว่า รัฐบาลจะจ่ายเงินกู้คืนให้แก่ธนาคารผู้ให้กู้ ในกรณีที่ธนาคารผู้กู้ประสบภาวะล้มละลาย เมื่อเป็นดังนี้แล้ว ธนาคารต่างๆน่าจะนำสภาพคล่องส่วนเกินมาปล่อยกู้อีกครั้งในตลาด เนื่องจากความเสี่ยงที่หมดไป เมื่อตลาดนี้กลับมาทำงานอีกครั้ง ก็จะเป็นการสร้างสภาพคล่องในระบบ ทำให้ความเสี่ยงของการอยู่รอดของสถาบันการเงินต่างๆ ลดลงไป เพราะความเสี่ยงด้านสภาพคล่องจะเริ่มลดลง สัญญาณที่เราต้องจับตามองคือ อัตราดอกเบี้ย LIBOR โดยเฉพาะประเภทระยะ 3 เดือน ซึ่งถ้ายิ่งลงมาใกล้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางของแต่ละสกุลเงิน ยิ่งแสดงถึงความมั่นใจต่อระบบสถาบันการเงิน 2) การเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนจากสถาบันการเงิน ปัญหาถัดมาหลังจากปัญหาสภาพคล่องก็คือ ปัญหาขาดเงินทุน เนื่องจากสถาบันการเงินต่างๆ ต้องทำการตัดด้อยค่าทรัพย์สินประเภทซับไพรม์ และตราสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับซับไพรม์ จนทำให้ส่วนของทุนลดลงไปจำนวนมาก โดยทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ คาดว่าสถาบันการเงินต้องตัดด้อยค่าทรัพย์สินทั้งหมดกว่า 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดย ณ ปัจจุบัน สถาบันการเงินทำการบันทึกขาดทุนไปแล้วจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าว เมื่อส่วนของทุนลดลง ธนาคารก็จะประสบกับปัญหาในการปล่อยกู้เพิ่ม เพราะตามมาตรฐานบัญชีของธนาคารแบบ บาเซิล 2 (BASEL II) ที่ได้ถูกประกาศใช้แล้วนั้น บังคับให้ธนาคารต้องมีส่วนของทุนเพียงพอที่จะดำรงสภาพเป็นธนาคาร ถ้าธนาคารมีส่วนของทุนต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดก็จะไม่สามารถปล่อยเงินกู้ได้ แม้จะมีเงินสดอยู่ในมือก็ตาม ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว การที่รัฐบาลเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนจากสถาบันการเงินโดยตรง จะทำให้ธนาคารมีส่วนของทุน และเงินสำรองเพียงพอ ที่จะกลับมาปล่อยเงินกู้อีกครั้ง ซึ่งจะเป็นอีกแนวทางเพื่อลดความเสี่ยงของคู่สัญญา โดยในกรณีนี้คือการดำรงอยู่ของสถาบันการเงิน และจะสามารถทำให้ธนาคารเริ่มปล่อยเงินกู้สู่ภาคธุรกิจได้อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยคลี่คลายแรงกดดันต่อภาคธุรกิจ ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจไม่ถดถอยเกินควบคุม 3) การเข้าซื้อตราสารหนี้ระยะสั้น จากบริษัทผู้ออกโดยตรง ตามที่เคยได้เล่าถึงผลกระทบ เมื่อตลาดตราสารหนี้ระยะสั้นสำหรับภาคธุรกิจเป็นอัมพาตไปแล้วใน PKN Zoom! บทที่ผ่านมา การที่ธนาคารกลางสหรัฐ จะเข้าไปซื้อตราสารหนี้ระยะสั้น โดยตรงจากบริษัทผู้ออก ภายในสัปดาห์นี้ จะช่วยลดแรงกดดันในภาคธุรกิจในการหาเงินกู้มาหมุนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะป้องกันไม่ให้เกิดภาวะที่บริษัทต่างๆ ถูกกดดันให้ลดขนาดของบริษัทลงมา เพื่อให้มีเงินสดเพียงพอในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจะทำให้บริษัทต้องปลดคนเงินเพิ่มขึ้น สั่งสินค้าน้อยลง ซึ่งจะยื่งทำให้สภาวะเศรษฐกิจแย่ลงไปอีก ผลดีต่อภาวะการลงทุนในหุ้น จากมาตรการทั้งสามมาตรการนี้คือ จะช่วยลดแรงกดดันในหมู่สถาบันการเงิน ที่จะต้องหาเงินสดมาไว้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือถูกเรียกหลักประกันเพิ่ม ซึ่งน่าจะช่วยลดแรงขายในตลาดหุ้น จากต่างชาติลงได้ อีกทั้งจะช่วยชะลอการถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออก อาทิ ประเทศไทย ไม่ให้ถดถอยลงไปมากนัก ทั้งนี้มาตรการทั้งหมดที่กล่าวมา จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาเหมือนเดิมในระยะสั้นๆนี่ได้อย่างแน่นอน เพียงแต่จะช่วยสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน และป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจถดถอยขั้นรุนแรงเท่านั้น ถ้าเรามองจากวิกฤตเศรษฐกิจในไทยครั้งก่อน เราต้องใช้เวลามากกว่า 5-6 ปี กว่าตลาดหุ้นจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่ครั้งนั้นประเทศเราดำเนินนโยบายตาม ไอเอ็มเอฟ ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นความผิดพลาด ดังนั้นผมจึงมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐไม่น่าจะใช้เวลาเท่ากับที่เราต้องใช้ อีกทั้งรัฐบาลสหรัฐยังพร้อมเต็มที่ในการใช้มาตรการทางการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อันดูได้จากแนวทางล่าสุดที่พรรคเดโมแครต เสนอให้มีการลงทุนเพิ่มอีก 1.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่จะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไป อีกทั้งหลายประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะในเอเชีย ยังมีเงินสำรองอีกมากที่พร้อมจะเข้าไปซื้อของถูกจากสหรัฐ อาทิ ญี่ปุ่น (ดีลมอร์แกน สแตนเลย์) หรือจีน หรือแม้แต่สิงคโปร์เองก็ตาม ที่มีการลงทุนเข้าไปก่อนหน้านี้ โดยผมเชื่อว่าประเทศเหล่านี้ยังสนใจที่จะนำเงินสำรองของตนเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ เมื่อมีการลงทุนก็จะช่วยเพิ่มเงินสดในระบบเศรษฐกิจของอเมริกา ซึ่งจะช่วยดึงเศรษฐกิจของอเมริกากลับมาเติบโตอีกครั้งได้ เพราะไม่ว่าเศรษฐกิจอเมริกาจะวิกฤตอย่างไร คนอเมริกันก็ยังจะเป็นคนที่มือเติบ ใช้จ่ายอย่างไม่ยั้งต่อไป เพราะสิ่งนี้มันเหมือนเป็นสิ่งหนึ่งในวัฒนธรรมอเมริกันไปเสียแล้ว สรุป: ทุกคนยังต้องจับตามองภาวะการซื้อขายในตลาดเงินผ่านอัตราดอกเบี้ย LIBOR เมื่ออัตราดอกเบี้ยตัวนี้ปรับตัวลงมา จะเป็นการแสดงถึงเสถียรภาพในระบบการเงินทั่วโลก ท่านสามารถดูข้อมูลดอกเบี้ย LIBOR ได้จากเมนู ข้อมูลตลาดเงิน บนเว็บนี้ และ PKNMoney จะคอยอัพเดทสถานการณ์ตลาดเงินเป็นระยะๆต่อไป
โดย
choochart
จันทร์ ต.ค. 13, 2008 9:30 pm
0
0
จบที่เขียนของปี 2550
ข้างบน post ในweb กระทิงเขียว ส.ค.2550
โดย
choochart
จันทร์ ต.ค. 13, 2008 9:26 pm
0
0
89 โพสต์
of 2
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
choochart
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ที่อยู่:
Chonburi
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
ศุกร์ มิ.ย. 04, 2004 10:48 pm
ใช้งานล่าสุด:
อังคาร ส.ค. 04, 2015 11:58 pm
โพสต์ทั้งหมด:
124 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.02 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว