หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
อนุบาลVI
Joined: เสาร์ เม.ย. 24, 2004 2:31 am
11
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - อนุบาลVI
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี)
:wink: Share Table.xls ผมขาดตัวนี้ครับ และยังงง ๆ :( กะคำสั่งเอา เครื่องหมายออก <XD> รบกวนอธิบายนิดหนึ่งนะครับ
[email protected]
ผมหาคำสั่ง ที่พี่บอกให้ทำไม่เจอ :cry: "แต่มันจะมี อักษรที่ไม่ต้องการ เช่น <XD>,<H>,<SP>เราก็ใช้คำสั่ง (แทนที่) :cry: <---- อยู่ไหนครับ ในช่อง สิ่งที่ค้นหา ให้ใส่ <*> ในช่องไหนครับ :cry: พอเลือกวางแบบพิเศษแล้วก็ไม่เห็นจะเจอ แทนที่อะไรเลย งง :cry: รบกวนขอ Share Table.xls และรายละเอียดการอับเดทราคาปิดด้วนครับขอบคุณครับ :wink:
โดย
อนุบาลVI
พฤหัสฯ. ก.ค. 07, 2005 5:04 pm
0
0
ท่านผู้อวุโสช่วยชี้แนะ
ขอบคุณพี่ chatchai ที่ให้ความเห็นรวมทั้งท่านอื่น ๆ ด้วยครับ คำถามตรง ๆ ของผมเลยก็คือผมอ่านที่ ปู่ท่านว่าไว้ ก็เลยนึกเอาว่า อย่างนั้นตลาดในUs จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าบ้านเราไหม ประเด็นที่ว่า ใกล้เราเราย่อมตรวจสอบรู้จักสนามผมก็เห็นด้วยกับพี่ chatchai ครับ เลยสงสัยต่ออีกแล้วว่าทีฝรั่งมาเล่น(ลงทุน)ในบ้านเราทำไมถึงมาได้ง่ายและมาไม่มาเปล่าจูงแพะติดมือไปด้วยเสมอเลย สู้ ๆ นักลงทุนไทย...! --------------------------------------- :wink: The right attitude :roll: Margin of safety :!: Intrinsic value
โดย
อนุบาลVI
ศุกร์ ก.ค. 09, 2004 9:30 pm
0
0
ท่านผู้อวุโสช่วยชี้แนะ
พี่ Chatchai ยังไม่ผ่านมาแฮะว้า...แย่จังเราส่งสัยต้องตั้งกระทู้ถามใหม่ --------------------------------------- :wink: The right attitude :roll: Margin of safety :!: Intrinsic value
โดย
อนุบาลVI
ศุกร์ ก.ค. 09, 2004 4:14 am
0
0
ท่านผู้อวุโสช่วยชี้แนะ
โอ้โห..! สงสัยชาว VI หลาย ๆ ท่านก็เล่น(ลงทุน)หุ้นในต่างประเทศเหมือนกันนะเนี่ยเข้าใจว่าส่วนมากก็เล่นแค่ในบ้านเราเอง...ผมอยากรู้จังท่าน ดร.นิเวศน์เองจะเล่นหุ้นในบ้านเราหรือต่างประเทศมากกว่ากัน ไม่ทราบพี่ chatchai ได้ผ่าน ๆ มาในกระทู้ผมเปล่า..คือผมอ่านวาทะคนแถวหน้า วอร์เรน บัฟเฟทท์ หน้าเท่าไหร่จำไม่ได้ "โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า สังคมนี้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อรายได้ของผมถ้าคุณพาผมไปทำงานในบังคลาเทศ หรือเปรู หรือ ที่อื่น ๆ คุณคงจะได้เห็นว่าความสามารถของผมจะเกิดดอกออกผลเท่าใด ในดินผิดประเภท ผมจะต้องกระเสือกกระสนอยู่อีกสัก 30 ปี" ครับต้องขออนุญาตพี่ Chatchai ที่เอ่ยนาม เพราะเคยจำได้ว่าพี่ก็อ่านเล่มที่ผมยกอ้างข้อความมาให้พี่ท่านชาวเรา VI ได้ทราบคือผมคิดเอาว่าไอ้ดินผิดประเภท หรือ บริษัท100ปีดีระดับโลกนะบ้านเรามีไหมครับ จะเป็นอย่างที่ปู่ท่านว่าไว้หรือเปล่า อย่างท่านว่าถ้าผิดประเภทท่านอาจใช้เวลาถึง 30 ปี อย่างเรานี่ฮะ ๆ สงสัยจะถูกฝังไปแล้วไม่รู้จะทำผลตอบแทนดี ๆ ได้อย่างปู่หรือเปล่า...!พี่ ๆ ท่านใดมีความคิดเห็นสูงส่งโปรดชี้แนะร่วย..! --------------------------------------- :wink: The right attitude :roll: Margin of safety :!: Intrinsic value
โดย
อนุบาลVI
อังคาร ก.ค. 06, 2004 3:48 am
0
0
ท่านผู้อวุโสช่วยชี้แนะ
พี่ ayethebing ข้อแม้คือการลงทุนใน US อย่าพยายามขายนะครับ ต้องซื้อเพื่อเก็บยาวๆ เท่านั้น อันนี้ก็ตรงหลักเราชาวVIไม่ใช้หรือครับ ผมก็ไม่กล้าซื้อตามหรอกครับ การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรพิจรณาให้รอบคอบ ขอบคุณพี่ CK ด้วยครับตกลงก็คือคล้าย ๆ บ้านเราอย่างนี้มีเพื่อนอยู่ US อยู่ เบอลิน ตอนนี้เงินยูโร มากกว่าดอล อยู่ 8-9 เหรียญ ถ้างั้นเราก็มีโอกาศเป็นนักลงทุนได้ใช่ไหมครับ คือเรื่องของเรื่องที่ถามคำถามธรรมดาแบบนี้ก็เพราะมีเพื่อน เขาบอกว่าญาติ เขาไปทำงานอยู่ Us มีเงินเก็บเยอะ แต่พอทราบว่าประเทศเขาไม่ให้คนนอกเข้าไปทำงานดี ๆ ในบ้านเค้าได้ง่าย ให้วีซ่ายากเดี๋ยวนี้ Green Card ก็รอไปเป็น10 ๆ ปี เลย ไอ้เราก็นึกส่งสัยว่าถ้าจะไม่ไปทำงานไม่ไปเป็นลูกจ้างเค้า จะใช้เงินทำงานแทนโดยเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทดี ๆ มันจะทำได้ไหมตกลงว่าผมเข้าใจถูกแล้วใช่ไหมครับว่า ไม่มีอะไรมาขวางการเป็น VI ได้ใช่ไหมครับ...... :wink: --------------------------------------- :wink: The right attitude :roll: Margin of safety :!: Intrinsic value
โดย
อนุบาลVI
ศุกร์ ก.ค. 02, 2004 5:37 pm
0
0
อนุบาลVIฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ
สวัสดี เราก้อเพิ่งเข้าเรียน อย่าลืมให้เราลอกการบ้านนะ . :wink: เอาการบ้านมาให้ลอกครับผม..แต่คงจะชำนาญกว่าผมอยู่แล้ว...ท่านอื่น ๆ สนใจก็ลอกได้เลยนะครับผมก็ไปลอกมา :idea: เมื่อวานผมได้รับการร้องขอจากนักธุรกิจท่านหนึ่ง แกถามผมว่าจะมีวิธีการอย่างไรในการเล่นหุ้นให้รวย ผมก็ขอสรุปให้ท่านลำดับการวิเคราะห์แบบนี้ 1) ท่านควรเล่นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี คำว่าปัจจัยพื้นฐานดีหมายความว่า 1.1) หุ้นนั้นมีอนาคต คือ ทำธุรกิจและมีรายได้มากกว่าค่าใช้จ่าย ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นกำไรสุทธิ 1.2) หุ้นที่มีกำไรสุทธิตามข้อ 1.1) จะจ่ายเงินปันผลได้ แต่ต้องระวังข้อ 1.3) 1.3) ต้องใส่ใจดูว่าหุ้นนั้นมีขาดทุนสะสมหรือไม่ ในกรณีมีขาดทุนสะสม และเกิดกำไรสุทธิในปีปัจจุบัน แต่กำไรยังไม่มากพอ หุ้นนั้นก็ยังคงขาดทุนสะสมอยู่ ไม่สามารถจะจ่ายเงินปันผลได้ 1.4) ยกตัวอย่างข้อ 1.3) หุ้นนั้นมีขาดทุนสะสม 100 ล้านบาท มีกำไรสุทธิในปีนี้ 20 ล้านบาท หุ้นนี้ยังมีขาดทุนสะสมอีก 80 ล้านบาท แต่การดูแค่นี้ไม่ได้หมายความว่า หุ้นนี้จะไม่น่าลงทุน ท่านยังต้องดูข้อ 1.5) ต่อ 1.5) หุ้นนี้มีส่วนเกินมูลค่าหุ้นหรือไม่ ส่วนเกินมูลค่าหุ้น คือ ตอนที่หุ้นนี้ถูกขายให้ประชาชนในราคา 30 บาท/หุ้น ในขณะที่มูลค่าที่กำหนดอยู่ที่ 10 บาท/หุ้น เกิดส่วนเกินมูลค่าหุ้น หุ้นละ 20 บาท จำนวนส่วนเกินมูลค่าหุ้นทั้งหมดนี้ท่านสามารถดูได้จากงบดุลตรงส่วนทุน หากดูแล้วปรากฏว่าเป็นตัวเลข 150 ล้านบาท งานนี้หุ้นจะวิ่งขึ้นพอสมควรครับ เพราะมีความหมายว่าขาดทุนสะสมจะหมดไปได้ หากบริษัทนั้นลงมติโดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้นำส่วนเกินมูลค่าหุ้น 150 ล้านบาทนั้นมาล้างขาดทุนสะสมจำนวน 80 ล้านบาท 1.6) บริษัทเลยมีกำไรสะสมทันที 70 ล้านบาท สามารถจ่ายเงินปันผลได้ (การล้างขาดทุนสะสม ด้วยส่วนล้ำมูลค่าหุ้นเป็นไปตาม พ.ร.บ.บริษัทมหาชน) 1.7) นอกจากมีกำไรและไม่มีขาดทุนสะสมแล้ว หุ้นนั้นยังเติบโตได้เรื่อยๆ พูดง่ายๆ ก็คือ บริษัทสามารถขยายกิจการและสร้างรายได้ได้ต่อไป มีกำไรโดยตลอด นี่แหละหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี 2) ท่านควรเล่นหุ้นที่มีลักษณะของการทำธุรกิจแบบผูกขาด หรือเป็นผู้นำในตลาด ดำเนินธุรกิจในตลาดแบบผูกขาด แบบผู้ขายน้อยราย แบบกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด ไม่ใช่ดำเนินธุรกิจในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ เพราะหุ้นแบบที่กล่าวไปจะมีกำไรสุทธิต่อยอดขายสูง มีปันผลในอัตราสูง หรือหากปัจจุบันยังไม่มีเงินปันผล แต่หากในอนาคตไม่มีใครจะเข้ามาแข่งขัน (ผูกขาด) ก็หมายความว่าหุ้นนี้จะราคาสูง ถึงแม้ว่าจะได้ปันผลต่ำ แต่ในระยะยาวจะได้กำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้น และจะได้ปันผลสูงในอนาคต อย่าง PTT, PTTEP เป็นต้น 3) ถ้าเป็นผม ผมจะเล่นหุ้นที่เตรียมตัวจะทะยานขึ้น ผมมักจะเล่นหุ้นที่มีลักษณะตามข้อ 1) คืออาจจะขาดทุนแต่เริ่มกำไร จากกำไรแล้วเริ่มเติบโตอย่างมั่นคง หุ้นลักษณะแบบนี้จะราคาถูกในตอนต้น หากถือไว้จะได้กำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้นเป็นอย่างมาก 4) นอกจากการเล็งหุ้นตามข้อ 3) ผมยังรู้ว่าหุ้นทุกตัวนั้นจะมีวงจรชีวิต ดังนั้นผมจะซื้อหุ้นตอนที่หุ้นฟื้นคืนชีพจากจุดต่ำสุด คือธุรกิจเริ่มฟื้นตัว มีกำไร แต่ยังขาดทุนสะสม หุ้นลักษณะนี้ราคาจะต่ำ เหมาะแก่การลงทุนในระยะกลาง ท่านจะได้กำไรมาก 5) เนื่องจากจำนวนหุ้นมีมากมายหลายร้อยตัว ผมจึงเฝ้าดูการซื้อขายของหุ้นแต่ละตัวในทุกวัน โดยดูจากข้อมูลในหนังสือพิมพ์ หรือจากแหล่งอื่นใด ผมจะดูให้รู้ว่า มีใครแอบไปเก็บหุ้นเอาไว้ในหน้าตักของตัวเองบ้าง เพราะก่อนการขึ้นของราคาหุ้นจะมีไอ้โม่งมาแอบเก็บของเสมอ 6) จากข้อ 5) เมื่อผมเริ่มเอะใจกับหุ้นตัวใด ผมจะเข้าไป Print งบการเงินและสารสนเทศของบริษัทนั้นๆ ใน www.sec.or.th เอามาอ่านให้หนำใจ เพื่อที่จะได้จินตนาการโอกาสทางธุรกิจของหุ้นตัวนั้นออกว่า มีอนาคตหรือไม่อย่างไร 7) ขั้นตอนข้อ 6) จะทำให้ผมเกิดความรู้สึกว่าหุ้นนี้น่าซื้อหรือไม่อย่างไร และยังนำมาพิจารณาเทียบเคียงกับเหตุการณ์ในข้อ 5) ทำให้ผมมั่นใจในการตัดสินใจมากขึ้นอีกมาก 8) ก่อนจะไปในขั้นตอนต่อไป ผมคงบอกกับท่านว่า พอผมเอะใจว่ามีคนเก็บหุ้นตัวนี้ ผมจะเริ่มดูว่าหุ้นนี้มีใครเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่บ้าง รายย่อยถือจำนวนเท่าใด งานนี้ผมต้องรู้ให้ได้ว่ารายใหญ่จะเก็บของกันวันละเท่าไร และเก็บนานกี่วัน อย่างหุ้น 300 ล้านหุ้น หากมีรายย่อยถือ 30 ล้านหุ้น อาจมีปริมาณการซื้อขาย 2 ล้านหุ้น/วัน โดยที่ราคายังไม่เปลี่ยนแปลง ไอ้ปริมาณ 2.0 ล้านหุ้นที่ซื้อขายกันต่อวัน รายใหญ่อาจเก็บของ (หุ้น) ได้ประมาณซัก 30% ของ 2 ล้านหุ้น ท่านก็ลองคำนวณดูซิครับว่า จะต้องเก็บของกันกี่วัน ท่านเห็นว่ามีสัญญาณแบบนี้ ท่านก็กระโดดเข้าไปซื้อเลยครับ 9) การกระโดดเข้าไปซื้อเป็นเพราะ 1) มีสัญญาณการเก็บของชัดเลย + 2) หุ้นมีพื้นฐานดี + 3) หุ้นมีโอกาสกำไรสะสม + 4) หุ้นมีโอกาสปันผลสูง 10) หลังจากซื้อแล้ว รอเวลาให้หุ้นขึ้น แล้วขายในราคาที่ท่านพอใจ 11) ราคาหุ้นขึ้นเท่าไรจึงจะขายเป็นปัญหาของนักลงทุนทุกคน เพราะส่วนใหญ่มักจะขายเร็วไป หุ้นยังวิ่งขึ้นไปต่อ งานนี้ขอแนะนำให้ทดลองทวนกระแสนักวิเคราะห์หุ้นดู ถ้านักวิเคราะห์บอกว่าให้ขาย ลองไม่ขาย อาจจะรวยได้ แต่ถ้าขายก็อาจจะเจ็บใจนักวิเคราะห์ (สาเหตุเป็นเพราะ กราฟที่แสดงข้อมูลทางเทคนิค รายใหญ่สามารถสร้างได้ จะให้เป็นเส้นอะไร บอกสัญญาณอะไร เป็นเรื่องที่หมูเหลือเกิน) ทั้งหมดที่ผมเขียนอธิบาย เป็นกรณีของหุ้นที่เข้าสู่การเปลี่ยนฐานราคาคือ จาก 4 บาทเป็น 10 บาท จาก 20 บาทเป็น 26 บาท แบบนี้เป็นต้น จำเอาไว้ว่า หุ้นขึ้นได้เพราะมีคนบงการ สำหรับวิธีการเล่นหุ้นก็คงขอเขียนอธิบายเอาไว้เท่านี้ ปล.ที่มาhttp://www.fpmconsultant.com ผู้เขียน ชาย กิตติคุณาภรณ์ E-mail:
[email protected]
--------------------------------------- :wink: The right attitude :roll: Margin of safety :!: Intrinsic value
โดย
อนุบาลVI
จันทร์ เม.ย. 26, 2004 9:25 pm
0
0
อนุบาลVIฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ
พี่ ayethebing ก็.... ผมชื่อโยครับซ้ำกับพี่ yoyo ก็เลยตั้งอะไรที่ดูสมกับความรู้และประสพการณ์ที่มีนะครับพี่ayethebingบอกพี่เตรียมอนุบาลไม่จริงหรอกครับทัศนะของพี่ก็ให้แง่คิดดี ๆ กับผมเหมือนกันนะครับขอเป็นผู้น้อยดีกว่าครับพี่ ayethebing :wink: ยินดีและดีใจครับที่ทักทาย :P --------------------------------------- :wink: The right attitude :roll: Margin of safety :!: Intrinsic value
โดย
อนุบาลVI
เสาร์ เม.ย. 24, 2004 8:46 pm
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
อนุบาลVI
เสาร์ เม.ย. 24, 2004 4:53 am
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
อนุบาลVI
เสาร์ เม.ย. 24, 2004 4:29 am
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
Verified User
ชื่อล็อกอิน:
อนุบาลVI
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
เสาร์ เม.ย. 24, 2004 2:31 am
ใช้งานล่าสุด:
พฤหัสฯ. พ.ย. 02, 2006 2:01 pm
โพสต์ทั้งหมด:
11 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.00 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว