แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี) รบกวน version 2008 ด้วยครับพี่ [email protected] โดย house อาทิตย์ มิ.ย. 21, 2009 7:39 pm

ขอแสดงความยินดีกับท่าน ที่ผ่านบททดสอบสำคัญ ก็ถืออยู่นะครับ แต่ผมจะถือว่าผมสอบผ่านก็คืออีกห้าปีมองย้อนกลับมา เงินในกระเป๋าผมเพิ่มขึ้น นี่แค่จุดเริ่มต้น :? โดย house ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 5:32 pm

กลยุทธ เล่นหุ้นปี2551 ตอนนี้หนีไปติดดาบครับ ขอออกไปเติมเขี้ยวเล็บซักระยะก่อน วันอาทิตย์พึี่่งได้ Financial Statement Analysis ของ John J Wild มา เล่มที่คุณ WEB โฆษณาว่าอ่านจบแล้วพอจะสบตากับคุณฉัตรชัยได้ระยะสั้นๆน่ะครับ :lol: อ่านไปสามบทแล้ว หนทางยังอีกยาวไกล :8) โดย house ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:39 am

โอกาสทองในรอบทศวรรษ ลงชื่อด้วย เลเวลจะพอมั้ยน้อ บอสตัวนี้เก่งเหลือเกิน :lol: โดย house พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:59 pm

คุณเคยถือหุ้นจนราคาเพิ่ม ๑ เด้งกี่ตัวและถือจนเจ๊งมากี่ตัว ? ได้เป็นเด้ง ก็ SAFE, BOL ครับ SNC เกือบๆเด้งแต่ไม่ขายแล้วมันก็หล่น ถ้านับจากจุดเข้าซื้อจนถึงราคาปล่อยก็จะได้ HMPRO เพิ่มมาอีกตัว(ถ้านับทุนฉัวเฉลี่ย ได้นิดเดียวครับ) แต่พอร์ตกระจิ๋วหลิวครับ จับบ่วงนี่คงอีกหลายปี :lol: โดย house อังคาร มิ.ย. 10, 2008 5:59 pm

โทรทัศน์ LCD อยากเปลี่ยนเหมือนกัน  แต่ โทรทัศน์เครื่องเดิมไม่ยอมเสียซักที  ใช้เป็นสิบปีแล้ว และ  ยังลังเลอยู่ว่า  จอ LCD เวลาดูช่องธรรมดา  ภาพจะชัดน้อยลงแค่ไหน  และสัดส่วนที่เพี้ยนไปจะมากแค่ไหน คิดไป  คิดมา  ก็เลยรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่จะซื้อ  ไม่มีความเหมาะสมที่จะซื้อ แล้วคนส่วนใหญ่ที่ซื้อ LCD มีสาเหตุใด อาจเป็นเพราะ  ต้องการจอใหญ่ๆ  (แต่รุ่นที่ขายได้ก็จอเล็กซะส่วนใหญ่)  หรือคงดู DVD มากกว่า ช่องธรรมดา หรือ เป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับห้อง จอคอมเจ๊งครับพี่ ผมเลยซื้อจอใหม่ ห้าพัน  ติด tv tuner อีก 800 มีทีวีดูทันยูโรพอดี :D โดย house ศุกร์ มิ.ย. 06, 2008 1:18 pm

รบกวนถามพี่ๆ น้องๆ เพื่อนในนี้ว่าในการที่เราจะเป็นนักลงทุน ผมคิดว่าราคาที่เหมาะสมของแต่ละคนไำม่เท่ากันครับ คุณใช้ DCF,DDM  ที่คิดลดเท่าไหร่? คุณใช้ PEG หรือเปล่า? คุณต้องการผลตอบแทนแค่ไหนกับหุ้นตัวนี้? พวกนี้ลงท้ายแล้วมีผลกับราคาเข้าซื้อหมดเลย แตกต่างจากการคุยเรื่องแนวโน้มธุรกิจ การวิเคราะห์ความแข็งแกร่ง ฯลฯ ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีความแน่นอนกว่า ที่จะเอามาคุยแลกเปลี่ยนกัน ผมคิดว่าราคาสุดท้ายคิดเองดีแล้วครับ ถ้าบอกราคาออกมาเป๊ะๆ เดี๋ยวผมจะเลิกคิดรอลอก พี่นริศ,โยโย่, Blueblood , etc แล้วสมองผมจะฝ่อหมด :twisted: แค่ตอนนี้ก็ฝ่อจะแย่แล้ว :oops: โดย house ศุกร์ พ.ค. 23, 2008 9:35 am

บริษัทประกันนี่เขาฉลาดจริง ๆ ตอนผมไปอบรมเกี่ยวกับประกัน(ไม่ใช่อลิแอนซ์) ก็มีคล้ายๆแบบนี้ครับ จ่ายห้าหมื่น-ธันวา-มีนา ลดหย่อนภาษี ปีหน้ารับคืนสองหมื่นห้า(มั้ง-จำไม่ได้) เงินที่คืนก่อน เป็นเงินคืนตามสัญญา ที่เด็ดกว่า คือประกันตัวนี้มีมูลค่้าเงินสดเป็นบวกหลังพ้นปีแรกครับ คือปีแรกจ่ายห้าหมื่น มีนา ลดหย่อนภาษี แล้วแคนเซิลสัญญาทิ้งเลย สำหรับคนฐานภาษี 30% จะได้กำไรจากเครดิตภาษีประมาณ 5000 บาท(ห้าหมื่น ลดภาษีได้ 15000 เสียมูลค่าเนื่องจากยกเลิกก่อนอายุกรมธรรม์ราวๆหนึ่งหมื่น) เป็นกรมธรรม์ที่ขายดีมากช่วงปลายปีครับ บริษัทประกันได้ค่าต๋งแบบกินหนเดียวหมื่นนึง ลูกค้าลดภาษีไปห้าพัน สรรพากรได้น้ำใบบัวบกไปกินแก้ช้ำใจหนึ่งแก้ว :8) โดย house อังคาร พ.ค. 20, 2008 4:25 pm

กลัวเสียฟอร์ม จริงๆแล้วต้องถือเป็นพอร์ตด้วยมังครับ beammy ถ้าไม่ฉมังจริงๆ ถือหุ้นปันผลโดดๆ ตัวเ้ดียวนี่เสี่ยงไม่น้อย ช่วงตลาดขาลงเดี๋ยวจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ โดย house พฤหัสฯ. พ.ค. 15, 2008 9:19 pm

มีธุรกิจ อะไร "มีดี" เหมือน BOL ไหมครับ ผมว่าทรู ไม่ใช่ BOL ตัวถัดไปแน่ๆ(ลินท์บอกให้ระวัง Next of something แบบนี้แปลว่าซื้อได้  :lol: ) บริษัทที่ต้องลงเงินเพิ่มอีกเยอะ หนี้มหาศาล คงไม่ใช่เครื่องปั๊มแบงค์แบบ BOL แน่ๆ นอกจากนั้น ผมยังไม่เห็นความชัดเจนว่าการเหมาขายยกแพ็คของเขา จะแย่งลูกค้าในระดับมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการได้ในอนาคต ผมสน AS มากกว่า รอดูราคาอยู่ :D โดย house จันทร์ พ.ค. 12, 2008 9:50 am

มือใหม่มาก มีเงินทุน 500,000 อยากได้ผลตอบแทน 20% ต่อปี ผมชอบปอดแบบที่4 ครับเป็นปอดแบบเน้นการเติบโต ระดับความเสี่ยงค่อนข้างสูง - ระยะเวลาลงทุน 10-15 ปี - ลงทุนหุ้น 60% แบ่งเป็นหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ 30% ขนาดเล็ก 15% ต่างชาติ 15% - ตราสารหนี้ 30% - เงินสด 10% - ผลตอบแทนก่อน/หลังหักภาษี 11.31%/ปี  หลังปรับเงินเฟ้อ 9.31 %/ปี ลองถามตัวเองต่อครับ ทำไม ต้องหุ้น 60% ไม่ใช่ 100% ทำไม เป็น ใหญ่ เล็ก ต่างชาติ 30 15 15? ใหญ่ คืออะไร? เล็ก คืออะไร? แล้วใหญ่ๆก็มีตั้งหลายบริษัท จะซื้อตัวไหน? แล้วซื้อเมื่อไหร่ ขายเมื่อไหร่? ของพวกนี้มันมีเหตุผลของมันอยู่ เราต้องศึกษาจนเข้าใจว่า ทำไมมันจึงเป็นอย่างนั้น ถ้าเราเข้าใจ เราก็ปรับเปลี่ยนมันได้ เพราะเรารู้ผลกระทบว่า ปรับตรงไหน จะกระเทือนตรงไหน ลงทุนมาสี่ปี ตอนนี้ผมก็พึ่งชั้นอนุบาลครับ ยังต้องอ่านอีกเยอะ โดย house อังคาร พ.ค. 06, 2008 4:07 pm

ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด เอาตามนิสัย จอมยุทธหอม ชอลิ้วเฮียง คงนำลิ่วมากับ อึ้งเอี๊ยซือครับ คนแรกนี่หัวการค้ามากอยู่แล้ว(แบบไม่มีต้นทุนด้วย)ยิ่งหนึ่งในสามสาวสะคราญข้างกาย ได้ฉายาว่าพจนานุกรมบู๊ลิ้ม เรื่อง inside trade คงไม่มีตัวจับ อึ้งเอี๊ยซือ นี่รู้กว้างรู้ลึก น่าจะอ่าน mega trend แม่นยำ ทำกำไรได้โดยไม่ขาดทุน(มีบารมีลูกชายลูกสาวไว้ข่มอีกต่างหาก) จะว่าไป เซียวมีมี่ก็น่าจะกำไรไม่น้อย เซียนๆทั้งหลายน่าจะทำกำไรมาสยบแทบเท้าเธอ(รายนี้ไม่ต้องเล่นเอง) โดย house อังคาร เม.ย. 01, 2008 4:13 pm

สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ -*- แรกสุด ผมว่าผมเป็นน้องนะ ถัดมา ผมพิมพ์ชื่อหนังสือผิดครับ :oops: เล่มนี้ครับ กฏการตลาด 22 ข้อ ของอัลรีส กับแจ็คเทราซ์ http://www.ericsink.com/laws/Immutable_Laws_Marketing.html โดย house ศุกร์ มี.ค. 28, 2008 5:42 pm

สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ บาดเจ็บไปสามพันเศษๆครับ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะไปรอบสอง ผมซื้อ long tail กับ 22 immuble laws ติดมาด้วย ซีเอ็ด ลด 15% :lol: สำหรับวรรณกรรมแฟนตาซี แนะนำไตรภาคบาติเมอัส ของเนชั่นครับ มันส์กว่าแฮรี่เยอะั(dark กว่าด้วย) อ้อ His dark material ของนานมีก็ดีนะ หนังมันทำเสียไปหมดแล้ว น่าเสียดาย :8) โดย house ศุกร์ มี.ค. 28, 2008 9:14 am

ธุรกิจอะไรที่ ไม่หวั่น แม้วันมามากคับ... เอาจริงๆ ผมก็ยังยันอยู่ที่ลอริเอะ อยู่ดีแหละครับ 1. ศก ตกต่ำ ผู้หญิงอาจลดค่ากระเป๋า เครื่องสำอาง แต่จะยอมเลิกซื้อผ้าอนามัย? ยากส์(แต่อาจเปลี่ยนยี่ห้อ) 2. มันไม่ใช่ want แต่มัน need ยังไงๆก็ขายได้ 3. จำนวนผู้หญิงไม่ได้แปรผันตามสภาพเศรษฐกิจ ศก ตก จำนวนคนก็เท่าเดิม ศก ดี ก็ยังเท่าเดิม ปริมาณบริโภคต่อคนก็น่าจะยังเท่าเดิม 4. เป็นธุรกิจกับรายย่อย ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ไม่ได้ !!! รวมๆแล้ว บริษัท น่าจะมียอดขายค่อนข้างคงที่ แต่อาจมีการย้ายจากการใช้รุ่นที่แพงไปรุ่นที่ถูกกว่า โดย house อังคาร มี.ค. 18, 2008 6:05 pm

ธุรกิจอะไรที่ ไม่หวั่น แม้วันมามากคับ... ธุรกิจขายของจำเป็นครับ ลดการใช้ไม่ได้ ต้องซื้อซ้ำ ลอลิเอะ ด้วยคน :oops: โดย house อังคาร มี.ค. 18, 2008 2:18 pm

ถามหน่อยครับ ข้อพิจารณาในการเข้าร่วมวงธุรกิจ กลับมาที่ FCF แหะ โดย house ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 5:25 pm

ถามหน่อยครับ ข้อพิจารณาในการเข้าร่วมวงธุรกิจ ถ้าจำไม่ผิด Buffettology บอกว่า ธุรกิจที่ดีคือมี Net Profit Margin สูง หรือไม่ก็ Turn Over สูงครับ ดังนั้น ถ้ามองเห็นชัดๆว่าขายดีมากๆ(คือ Market size　ไปได้อีกมาก) NPM　น้อยหน่อยก็โอเค หรือถ้าขายได้ปีละไม่กี่ชิ้น แต่ราคาดีมากๆ มันก็น่าสนอีก ที่เห็นในปัจจุบันจะเป็นเึคสแรกมากกว่าที่เกิดแรงจูงใจให้คนอื่นแห่เข้าไปทำ เพราะ ตลาดใหญ่ๆ นั้นมีอยู่แล้ว NPM ในช่วงเริ่มแรกก็คงสูงพอประมาณ แต่ละคนก็คงคิดว่า เฉือนลดราคานิดหน่อยก็คงโอเคน่ะ ส่วนเคสหลัง ถ้าโวลุ่มน้อย คนโดยมากน่าจะมองไม่ค่อยเห็น และถ้ามันต่ำๆ แต่กำไรดี แปลว่างานต้องเฉพาะเจาะจงมาก และน่าจะใช้ Know　how เยอะเป็นพิเศษ ไม่รู้นะครับ นี่ตอบแบบลูกจ้าง ไม่เคยทำเอง โดย house ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 4:09 pm

คิดว่า อนาคต ของพวกพลาสติกจะเป็นไงครับ รณรงค์ แต่ไม่มีผลประโยชน์ให้ก็เปล่าประโยชน์ครับ ถ้าลองออกประกาศมาซิครับ ใครแยกขณะให้รถเก็บขยะตามที่กำหนดไม่ต้องเสียค่าเก็บขยะ เดี๋ยวแต่ละบ้านก็แยกให้ครับ ของญี่ปุ่น ไม่แยกไม่เก็บครับ บ้านไหนไม่ยอมแยกขยะ มันก็จะสุมกองหน้าบ้าน ลงท้ายเจ้าของก็ต้องแยกเอง โดย house อังคาร มี.ค. 04, 2008 10:17 pm

เมื่อ คนเรียนสูงๆ เงินเดือนดีๆ มีลูกไม่มาก/ไม่แต่งงาน http://en.wikipedia.org/wiki/Idiocracy หนังเรื่องนี้เลยครับ ทุกอย่างที่พี่อยากรู้ :8) โดย house จันทร์ มี.ค. 03, 2008 9:45 pm

แต่ละไตรมาสอ่านงบการเงินกันกี่บริษัทค่ะ หุ้นของน้อง house เค้ามีเยอะนี่นา น้องเค้าเลยต้อง ทำการบ้าน หนักหน่อย แซวเล่นนะครับผม  :D ชะอ้าว พึี่งเห็นว่าโดนแซว :oops: ผมปรับพอร์ต เน้นรับแล้วครับพี่ ปีนี้ เผื่อไว้ว่าอาจไม่มีเวลาตาม :? โดย house จันทร์ มี.ค. 03, 2008 4:01 pm

เครดิตภาษี เงินปันผล ปีนี้ช้ากว่าทุกปี??? มีเพื่อนอยู่สรรพากรเคยถามเรื่องนี้ เค้าตอบแบบนี้ครับ 1. พวกมีรายได้ทางเดียว 15 วันแน่นอน 2. พวกรายได้หลายทาง ขอคืนน้อย อาจจะเรียก/ไม่เรียก เอกสารแล้วแต่ดุลพินิจ 2. พวกขอคืนเยอะ รายได้หลายทาง เรียกเอกสารทุกราย พวกที่ต้องแนบเอกสารเพิ่ม 90 วันครับ ถ้าเสร็จก่อน คือเจ้าหน้าที่ว่าง หรือเอาของเรามาทำก่อน เพราะเพื่อนผมบอกว่า ปกติพวกนี้จะตกไปคิวสุดท้าย คือกองๆไว้ก่อน :cry: โดย house จันทร์ มี.ค. 03, 2008 2:50 pm

แต่ละไตรมาสอ่านงบการเงินกันกี่บริษัทค่ะ แค่ที่ถือนี่ก็แย่แล้วครับ :oops: แต่ถ้า 56-1 อยู่ว่างๆไม่มีไรทำ ผมก็โหลดมาอ่านเรื่อยๆนะ ส่วนหุ้นน่าสนใจถ้ามีใครถามผมก็ตอบแต่ตัวในพอร์ท :8) โดย house พฤหัสฯ. ก.พ. 28, 2008 4:33 pm

ลงทุนแบบ VI หรือ เก็งกำไรดี ผมว่าพี่ๆไม่้มีใครโกรธครับ เพียงแต่สมมติฐานคุณผิด ุถ้าจะเปรียบ VI เหมือนการวางแผนกา่รโจมตีแบบดักหน้า คือรู้เขา รู้เรา รู้เป้าหมาย รู้ความเสี่ยง รู้ทุกอย่างเท่าที่เราจะสามารถรู้ได้ หลังจากนั้นหาชัยภูมิที่ไม่แพ้พ่าย แล้วออกรบเอาชัยครับ ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องสะกดรอยคู่ต่อสู้ทุกย่างก้าว เพราะ VI จะรบเพื่อชนะในสมรภูมิ(หรือราคา)ที่เรากำหนดเท่านั้น ดังนั้นปัญหาของ VI ไม่ได้อยู่ที่ไม่มีเวลาเฝ้าหุ้น(เพราะไม่คิดจะเฝ้า) แต่ปัญหาอยู่ที่เรากำหนดสถานการณ์และวิเคราะห์ได้ขาดขนาดไหน จำนวนข้อมูลและเวลาที่ต้องศึกษา ไม่ได้น้อยกว่า VS เฝ้าตลาดหรอกครับ เพียงแต่พวกเราเลื่อนไปอ่าน ไปศึกษาหลังตลาดปิดก็ได้ ยิ่งทักษะนี่ ยิ่งสั่งสมกันไม่รู้จบ 3-4ปีแล้วผมว่าผมยังวนๆไม่พ้นอนุบาล 1 เล้ย :8) โดย house พฤหัสฯ. ก.พ. 28, 2008 2:59 pm

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200 ขอรายชื่อด้วยคนครับพี่ริว :oops: โดย house พุธ ก.พ. 06, 2008 9:46 am

ไปสอบสัมภาษณ์ MBA ที่ จุฬา มาแล้ว ดีใจด้วยครับ ขอให้ได้แฟน เอ้ย.. เรียนจบไวๆ  :roll: ไม่ด้าย พี่ทรีดอท อวยพรแล้วอวยพรเลย ห้ามแก้ ห้ามเอาคืน :twisted:   ผมยอมจบตามเวลาได้ ไม่ต้องจบเร็ว :lol: ขอคำ​แนะนำ​ใน​การตอบคำ​ถามหน่อยครับ​ ​เผื่อว่า​จะ​โดนคล้ายๆ​กัน ผมว่าตามพี่พอใจเลยครับ "talk in term of other's interest" แล้วในนี้ http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=30088 ของคุณ sunrise กับคุณจิวยี่ นั่นหละ มาเป๊ะๆเลย พี่ อลาสทอร์ เรียน YX 15 ครับ โดย house อังคาร ก.พ. 05, 2008 10:41 pm

หลักของซิกมันด์ ฟรอยด์ ยากจัง :oops: ผมมีแนวโน้มจะจัดการกับอะไรใกล้ๆมือก่อน(OK เด็กเป็นความสำัคัญสูงสุด) เช่น ถ้าโทรศัพท์อยู่ข้างมือ ผมจะยกหูพูดไปคำเดียวว่าให้โทรมาใหม่ หรือถ้าอยู่ใกล้ประตู ก็จะตะโกนบอกไปก่อนว่าเดี๋ยวไปเปิดให้(ส่วนเท้าจ้ำไปหาเด็ก) ถ้าอยู่ในครัว ก็ปิดน้ำก่อน(ไม่ถึง 10 วิน่า) ถ้าอยู่ที่ราวตากผ้าก็รวบทั้งกอง โยนเข้าบ้านไป ถ้าเยอะมากก็หยิบใกล้ๆมือติดไป ระหว่างเดินไปหาเด็ก ถ้าอยู่ข้างเด็ก ที่เหลือทิ้งหมด ผมเลยสงสัยว่า แล้วอย่างนี้จะตีความยังไงเนี่ย :roll: โดย house อังคาร ก.พ. 05, 2008 3:40 pm

ไปสอบสัมภาษณ์ MBA ที่ จุฬา มาแล้ว ผมสอบติดแล้วครับ :D หมดช่วงลุ้นระทึกอันน่าทรมานเสียที ความรู้ในบอร์ดนี้กับการเป็น VI นี่ช่วยได้เยอะจริงๆตอนสัมภาษณ์ ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่แบ่งปันประสบการณ์และความรู้ครับ โดย house จันทร์ ก.พ. 04, 2008 1:57 pm

ไปสอบสัมภาษณ์ MBA ที่ จุฬา มาแล้ว อืม คะแนน best พี่ teetotal กับผมใกล้ๆกัน สองสัมภาษณ์แปดวัน ถ้าพี่ได้ที่สองของรอบที่พี่สอบ ถ้าการกระจายตัวมาตรฐาน ผมก็ควรอยู่ใน top 20 ของคนสมัครทั้งหมด :D เวลาน้อยจริงๆแหละครับ ที่อยากพูดก็ยังไม่ทันได้พูด ตอนกรรมการตอบขอบคุณ ผมยังงงๆ ถามกลับไปว่า "หมดแล้วเหรอครับ" เลย :oops: โดย house อาทิตย์ ม.ค. 27, 2008 11:43 am

ถ้าคุณมีเพื่อน หรือลูกน้องชอบดูราคาหุ้นเวลาทำงาน ควรทำอยางไร แล้วผมติด thaivi เวลาทำงานนี่ต้องแก้ยังไงครับ :oops: โดย house พุธ ม.ค. 23, 2008 9:51 am

เรียงความวันเด็ก http://phuphu.exteen.com/20080117/entry คนเขียนเนียนเอาฮาครับ ผมเป็นแฟนผลงานคุณภูภู่เลยนะ งานแต่ละชิ้นนี่ขำก๊าก :lol:  :lol:  :lol: โดย house จันทร์ ม.ค. 21, 2008 2:23 pm

เว็ปตลาดหลักทรัพย์เปลื่ยนอีกแล้ว เซ็ง... มีใครแกะ data format ที่ดึงจาก servlet ออกมั่งมั้ยครับ ผมเขียน script ดูดมาแล้ว parse ไม่ออก  :cry: โดย house อังคาร ม.ค. 08, 2008 11:22 pm

ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย กระทู้ในตำนานของ รักลูกแฟมิลี่กรุ๊ปครับ หกขวบน่าจะยังทัน http://www.raklukefamilygroup.com/webboard/viewtopic.php?t=59125&sid=9593aebd0347d52f29812ecd3c637dd3 แนวคิดในการสอนเลขกระัทู้นี้สุดยอดที่สุดตั้งแต่ผมเคยอ่าน :D โดย house อังคาร ม.ค. 08, 2008 2:51 pm

มีใคร เรียน MBA chula บ้างครับ มันยังต้องกินต้องใช้อะึครับ แฮรี่ :lol: ถ้าเรียนภาคปกติ ก็ต้องถอนเงินในพอร์ตมาใช้ เรียน y-exec ก็แค่ไม่มีเงินเข้าพอร์ตระหว่างเรีัยนเท่านั้นเอง อีกอย่างคือผมติด contract ปีนี้ลาออกไม่ได้ครับ :? โดย house ศุกร์ ม.ค. 04, 2008 8:31 am

มีใคร เรียน MBA chula บ้างครับ พี่ teetotal เห็นกำหนดสัมภาษณ์ยังครับ ของผมเสาร์ 19 ชักปอดๆแหะ :oops: โดย house พุธ ม.ค. 02, 2008 4:39 pm

ผลตอบแทนปีนี้เป็นเท่าไหร่กันบ้างครับ โอ้ พี่ๆอลังการณ์กันจัง ผมชนะตลาดนิดๆหน่อยๆ ก็ happy แล้วคร้าบ  :lol: โดย house ศุกร์ ธ.ค. 28, 2007 9:17 pm

'ฉาย บุนนาค' เซียนหุ้น 'รุ่นจูเนียร์' กับพอร์ตหุ้น 200 ล้าน ตอนนี้ผมก็ยัง ไม่เคยซื้อไม่ถึงล้าน เหมือนเดิม  :lovl: :shock:  :shock:  :shock:  :shock: โดย house พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2007 3:56 pm

Liverpool FC, แฟนหงส์ The Kop ทั้งหลายมาทางนี้ แล้วแต่คนคิดมั้งครับ ราฟาคงคิด เหลือ 20 นาที ตามสองลูก การเสี่ยงความฟิตของนักเตะเพื่อแต้มอาจจะแต้มเดียว แล้วไม่เต็มร้อยนัดเจอมาเซย์มันไม่คุ้มเสี่ยง :? โดย house พุธ ธ.ค. 12, 2007 9:12 pm

มีโจทย์เศรษฐศาสตร์มาท้าทาย VI เล่นๆ จะมีใครทำได้มั่งนะ? ผมไม่แน่ใจว่าเฉลยข้อสองของคุณ house จะต้องเอา q ไปคูณที่พจน์ต้นทุนก่อนมาดิฟสมการกำไรหรือเปล่าครับ แล้วก็โจทย์ข้อสองของคุณ ForrestGump หน่วยของต้นทุนขายต่อหน่วยเป็นหน่วยและค่าขนส่งเป็นหน่วย บาท หรือ 100 บาท ครับ เอิ๊ก พลาด :oops: โดย house พุธ ธ.ค. 12, 2007 9:15 am

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย ไม่ใช่หมอครับ แต่เข้าใจว่าคล้ายๆกัน ผมว่าหมอพยายามจะตัดตัวบุคคลออกไปในการสนทนาครับ เคสในที่นี้แปลตรงๆคือ กรณี หมอจะได้มีสมาธิอยู่กับอาการ มากกว่า ทำนองว่ากรณีนั้น แก้ยังไง กรณีนี้แก้ยังไง ผมว่าที่หมอกับคนไข้ไม่ค่อยเข้าใจกันก็เรื่องเดียวครับ คนทั่วไปไม่เข้าใจว่า ในทางการแพทย์ ทำดีแบบสุดๆ คนไข้มันก็ตายได้อยู่ดี น่าเศร้านะ แต่มันธรรมดาโลก :cry: โดย house อังคาร ธ.ค. 11, 2007 5:56 pm

มีโจทย์เศรษฐศาสตร์มาท้าทาย VI เล่นๆ จะมีใครทำได้มั่งนะ? กรณี multiple price มันจะเข้ากรณี knapsack ครับ(เป็นชื่อกลุ่มปัญหาหนึ่งในทางคอมพิวเตอร์) ซึ่งไม่สามารถแก้ได้โดยสมการ แต่ต้องแก้โดยการทดลองสร้างกลุ่มแล้วหากลุ่มที่ดีที่สุด [ดูที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Knapsack_problem กรณีของโจทย์ข้อนี้ คือ bound knapsack] กรณีนี้ทำแบบพี่ zeonism ง่ายสุดแล้วครับ ชุดคำตอบที่ดีที่สุดคือ 15,16,18,19 ขายได้ 582000 บาทฮับ :wink: โดย house อังคาร ธ.ค. 11, 2007 5:19 pm

มีโจทย์เศรษฐศาสตร์มาท้าทาย VI เล่นๆ จะมีใครทำได้มั่งนะ? พี่ sattaya ครับ ของพี่ไม่ได้ครับ มีคนต้องการซื้อที่ 18 บาทแค่ 6000 คน ของพี่นี่ซัดไปหมื่นสองแล้วนะ อีกหกพันมันขายไม่หมดชัวร์ๆ โดย house อังคาร ธ.ค. 11, 2007 4:25 pm

มีโจทย์เศรษฐศาสตร์มาท้าทาย VI เล่นๆ จะมีใครทำได้มั่งนะ? แหงะ พี่ zeonism มีแบบ multiple price ด้วย :shock: ถ้าแบบนี้มันจะกลายแบบ knapsack แล้วโหดสุดๆเลยนะครับ  :? โดย house อังคาร ธ.ค. 11, 2007 4:12 pm

มีโจทย์เศรษฐศาสตร์มาท้าทาย VI เล่นๆ จะมีใครทำได้มั่งนะ? ข้อสองใช้วิธีเดียวกัน pi = 30000 - 50qi Ii = piqi = 30000qi-50qi^2 Pi = 30000qi-50qi^2-10000 dPi/dqi = 30000-100qi = 0 ได้ qi = 300 หา pi = 15000 po = 25000 - 70qo Io = poqo = 25000qo-70qo^2 Po = 25000qo-70qo^2-11000 dPo/dqo = 25000-140qo = 0 ได้ qo = 178 หา po = 12540 ซตพ โดย house อังคาร ธ.ค. 11, 2007 3:45 pm

มีโจทย์เศรษฐศาสตร์มาท้าทาย VI เล่นๆ จะมีใครทำได้มั่งนะ? ตอบข้อแรกครับ จาก income = PQ = (60000-3000p)p = 60000p-3000p2 หา maximize โดยหาจุดสูงสุดสัมพัทธ์ dI/dp = 0 ดังนั้น 0 = 60000-6000p จะได้ p = 10 ซตพ. โดย house อังคาร ธ.ค. 11, 2007 3:28 pm

เอาของดีไป ของเน่าอุ้ม สมมติว่า รัฐบาลปล่อยแบงค์ทหารไทยล้ม sentiment การลงทุนจะเป็นยังไงครับ ข่าวจะออกในแนวรัฐบาลไทยปล่อยแบงค์ใหญ่ล้ม แล้วรัฐบาลไม่มีเงินพอจะเพิ่มทุน(หาเงินเพิ่มทุนแบบไม่ต้องกระทบเงินงบประมาณ) ก็ต้องขายหุ้นดีออกมาอุ้มหุ้นไม่ดี มุมมองของรัฐบาลคือต้องเอาประเทศให้รอดอ่ะครับคือแบงค์ล้มไม่ได้ ขายหุ้นดี อุ้มหุ้นเน่า แล้วประเทศรอดก็ต้องยอม ถ้ามุมมองของเรา คงจะ cut loss tmb ก็จบ ผมยังติดใจตรงนี้ครับ เคยได้ยินมาว่า เหตุผลหนึ่งที่รัฐจะตั้งสถาบัน ค้ำประกันเงินฝาก คือ รัฐบอกว่า การที่รัฐอุ้มทำให้แบงค์เคยตัว แล้วเอาเงินไปใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น ควรให้แบงค์เจ็บตัวซะบ้าง ถ้า คำพูดนี้เป็นจริง กรณีนี้เราควรปล่อยให้ TMB ล้มมากกว่าหรือเปล่า? ถ้า TMB ล้มแล้วรัฐมีปัญหา หมายความว่าในอนาคต ถ้าแบงค์จะล้ม รัฐต้องอุ้มอยู่ดี แล้วสถาบันค้ำประกันเงินฝากจะมีค่าอะไร? แล้วต่างประเทศ ไม่มีแบงค์ที่ล้มๆกันบ้างเลยหรือ ? แล้วประเทศเขามีปัญหาหลังจากนั้นมากแค่ไหน? ผมว่าคงเป็นไปได้ยากที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีธนาคารไหนเจ๊งเลย นักเศรษฐศาสตร์ทั้งหลายอธิบายทีครับ :? โดย house ศุกร์ ธ.ค. 07, 2007 4:52 pm

ไม่มีหัวข้อ โดย house เสาร์ ธ.ค. 01, 2007 11:54 pm

มีใคร เรียน MBA chula บ้างครับ หวังว่าจะได้เรียนด้วยกันครับ ผมก็ดำไปแบบดุ่มๆฉุกละหุกเหมือนกัน best ได้ 380 tep 86 ลุ้นหน้ามืด โดย house เสาร์ ธ.ค. 01, 2007 6:31 pm

กรุณาสอนวิธีการตกปลาให้ผมด้วยครับ ขอขอบพระคุณมากครับสำหรับทุกๆกำลังใจ และความกรุณาที่มีให้ หากมีข้อสงสัยอะไรก็ จะขอรบกวนมาเรื่อยๆนะครับ ขอรบกวนพี่ stocksindormด้วยครับ พอจะช่วยแนะนำหนังสือที่ีมีรายละเอี่ยด และอธิบายเกี่ยวกับ ratio ต่างๆที่พี่ให้มา 1]current ratio(อัตราส่วนทุนหมุนเวียน)=ทรัพย์สินหมุนเวียน/หนี้สินหมุนเวียน, 2]quick ratio(อัตราส่วนหมุนเร็ว)=(เงินสด+เงิน่ลงทุนระยะสั้น+ลูกหนี้การค้า)/หนี้สินหมุนเวียน, 3]account receivable turnover(อัตราการหมุนของลูกหนี้)= 2*ยอดขาย/(ลูกหนี้การค้าต้นงวด+ลูกหนี้การปลาย), 4]days receive(ระยะเวลาเก็บหนี้)=365/อัตราการหมุนของลูกหนี้, 5]inventory turnnover(อัตรการหมุนเวียนสินค้าคงเหลือ)=2*ต้นทุนการขาย/(สินค้าคงเหลือต้นงวด+สินค้าคงเหลือปลายงวด), 6]inventory days(ระยะเวลาขายสินค้า)=365/อัตรการหมุนเวียนสินค้าคงเหลือ, 7]interest coverage ratio(ความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย)=กำไรก่อนหักดอกเบี้ย/ดอกเบี้ย, 8]payable turnover(อัตรการหมุนเวียนเจ้าหนี้)=2*ต้นทุนการขาย/(เจ้าหนี้การค้าต้นงวด+เจ้าหนี้การค้าปลายงวด), 9]payable payment period(ระยะเวลาจ่ายหนี้)=365/อัตรการหมุนเวียนเจ้าหนี้, 10]fixed asset turnover(อัตราหมุนเวียนสินทรัพย์ถาวร)=2*รายได้จากการขาย/(ที่ดิน,อาคาร,อุปกรณ์ต้นงวด+ปลายงวด), 11]gross profit margin(อัตรากำไรขั้นต้น)=กำไรขั้นต้น/ยอดขาย, 12]net profit margin(อัตรากำไรสุทธิ)=(กำไรขั้นต้น-ดอกเบี้ย-ผู้ถือหุ้นสว่นน้อย)/ยอดขาย, 13]debt to equity ratio=หนี้สิน/ทุน หลักการลงทุน by ศ. พัชรี ขุมทรัพย์ โดย house ศุกร์ พ.ย. 30, 2007 5:22 pm

โรงเรียน ฮ นกฮูก : บันทึกนิยายสำหรับคนเรียนต่อ สวัสดีครับ ผมไปคอมเมนต์ทางโน้นเพราะไม่แน่ใจว่าคนเดียวกันหรือเปล่า อ่านแล้วได้ข้อคิดเยอะครับ ยิ่งกำลังจะเรียนโทอยู่ด้วยแล้ว :lol: โดย house อังคาร พ.ย. 27, 2007 9:24 am