Re: Cloud ไอเดียของ cloud จริงๆก็ตามชื่อคือกลุ่มเมฆแหละครับ เราไม่ต้องสนใจว่าแอปพลิเคชั่นของเรารันอยู่บนเครื่องไหน ข้อมูลถูกเก็บอยู่ที่ไหน รู้แค่ว่าอยู่บน cloud ตัว storage จริงๆอาจจะอยู่ในเมกา เอเชีย กรีนแลนด์ หรืออาจจะกระจายๆกันไป การสร้าง cloud ส่วนใหญ่แล้วก็คือการสร้าง data center ขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยหน่วยประมวลผล และ storage จำนวนมากๆ cloud เองยังแบ่งออกเป็นสามระดับครับ 1. application เช่น gmail, dropbox, saleforce, evernote 2. platform เช่น google app engine 3. infrastructure เช่น EC2 by Amazon ประโยชน์ของมันโดยรวมๆแล้วก็คือช่วยลดต้นทุน (เงิน/เวลา) และหันไปเน้นทำในสิ่งที่เกี่ยวกับตัวธุรกิจจริงๆครับ โดย eskimo ศุกร์ ส.ค. 05, 2011 4:49 am

Re: นักลงทุน VI ต่างแดน อยู่เยอรมันครับ ประมาณแปดปีได้ ลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในไทย เพราะเหตุผลเหมือนพี่ๆท่านอื่นๆ คือผลประโยชน์ด้านภาษี ข้อเสียเปรียบ คือไม่ค่อยมีโอกาสไปคอมพานีวิสิทบ่อยนัก แต่มีข้อได้เปรียบ ตรงที่ได้มุมมองการลงทุนจากต่างชาติ และไม่ค่อยว่อกแว่กไปกับอารมณ์ตลาดครับ โดย eskimo อังคาร ธ.ค. 28, 2010 2:54 am

โปรดระวังค่าเงินยูโร ขอบคุณครับ...นักเศรษฐศาสตร์มีหน้าที่ "เตือนภัย" ทาง ศก.ครับ ระบบ FX ที่ผิดพลาด โดย eskimo ศุกร์ พ.ค. 07, 2010 7:42 pm

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ ขอแซวหน่อย ถ้ากิ๊กคุณฮงคือ สาวที่ไปงาน meeting ที่ผ่านมา ผมยกนิ้วให้ครับ ชั้นหนึ่ง  :oops: โดย eskimo พฤหัสฯ. ก.พ. 04, 2010 10:41 pm

นักลงทุนดันโด:ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ อ่านไปได้นิดหน่อยแล้วครับ ใครมีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ช่วยยืนยันให้ทีว่า ตระกูล พาเทล นี่สะกดยังไง พอดีมีเพื่อนคนอินเดีย นามสกุล Patil ไม่รู้ใช่ตระกูลเดียวกันป่าว แนวทางใช้ชีวิตของเค้าสมถะมาก และกินมังสาวิรัติ โดย eskimo จันทร์ ม.ค. 25, 2010 12:06 am

US subprime vs Dubai world ที่สำคัญกว่าตัวเลขหนี้สิน ของ DW น่าจะเป็นการที่จู่ๆมันก็โผล่มาเหมือนแมลงสาบมากกว่าครับ เชื่อว่าคงสร้างความไม่สบายใจให้นักลงทุนที่ไม่รู้ว่ามันยังมีอีกกี่ตัวที่จะตามๆกันออกมา โดย eskimo อาทิตย์ พ.ย. 29, 2009 11:27 pm

เปิดสอนบัญชี ขอลงชื่อสมัครครับ ถ้าได้ราวๆ เดือน มกรา-กุมภา ก็ดีเลยครับ โดย eskimo อาทิตย์ พ.ย. 22, 2009 9:30 pm

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ [quote="VIB007"][quote="por_jai"]:8) โดย eskimo ศุกร์ พ.ย. 20, 2009 7:53 pm

มีหุ้นดีๆๆ ตัวไหนแนะนำ บอกหน่อยจิครับ กลายเป็นกระทู้ฮาอีกละ  :lol: หุ้นเด็ดไม่มีอ่ะครับ แค่จะบอกว่าก่อนซื้อให้คิดทางหนีทีไล่ไว้ กะว่าผลประกอบการมันจะเป็นยังไง ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่คิดจะทำยังไง ประมาณนั้น โดย eskimo ศุกร์ พ.ย. 06, 2009 4:33 pm

หลักการคัดหุ้นต่างประเทศ พูดถึงGOOGLEตอนแรกก็ว่าจะไม่ซื้อ แต่พอเห็นสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ยังแสดงผลในด้านกำไรก็อีกหลายตัว โดยส่วนตัวผมคิดว่าเขาคงมีแผนอะไรสักอย่างที่รอถึงวันที่เขาพร้อมจะคิดเงิน รายได้กำไรคงจะกระโดดอีกรอบ และยิ่งหันมามองกระแสเงินสดและเงินสดที่อยู่ในมือราวๆ7แสนล้านบาทนี่ ถ้าเขาเอาไปทำอะไรที่มีประโยชน์ต่อกำไรเขาหล่ะคงสนุกน่าดูชม เลยขอติดประดับพอร์ตสักหน่อยครับ สวัสดีครับทุกท่าน เห็นห้องนี้เริ่มคุยกันมันส์ ขอเข้ามาแจมด้วยนะครับ ที่ google เล็งอยู่แต่แรกอาจจะเป็นเจ้านี่ก็ได้นะครับ http://googleblog.blogspot.com/2009/07/introducing-google-chrome-os.html ผมมองว่าพี่กุ๊กเค้าเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับ microsoft ที่สุดเท่าที่จะหาได้ในช่วงเวลาสิบกว่าปีนี้ พี่แกวางแผนมานานแล้วมังครับเริ่มจากก่อร่างสร้างตัวจาก search engine กับธุรกิจโฆษณา สร้างฐานการเิงินไว้รองรับ ก่อนจะเริ่มรุกเข้าสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่ตัวเองยังไม่ได้เปรียบเท่าไหร่ การริเริ่ม cloud computing หรือระบบประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ ถ้าเปรียบกับโกะ ก็คงเป็นหมากตัวนึงที่ส่งผลกระทบไปทั้งกระดาน ตามมาด้วยการออก browser chrome ของตัวเอง และออก google web tool (GWT) ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างเวบที่มี feature ใกล้เคียงกับ desktop ได้โดยไม่ยากนัก บวกกับ android ที่ทำให้ google มี knowhow ของการพัฒนาระบบปฏิบัติการณ์ อันนี้ตัดสินใจได้ดีมากเลย เพราะยังไม่มีใครเป็นจ้าวตลาดด้านนี้อย่างชัดเจน ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นการสร้างสนามแข่งที่ตัวเองถนัด อันได้แก่ web environment ก่อนจะเปิดตัวแผน google chrome os ที่เป็น light weight os หมากตานี้โดนกล่องดวงใจ microsoft เข้าอย่างจังครับ ถ้าให้ลงไปสู้กับ desktop env ที่ทาง microsoft เป็นเจ้าตลาดอยู่ คงยากครับที่จะสู้เค้าได้ ด้วยกระแสของ netbook ที่กำลังมาแรง อนาคตก็ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็น netbook ลง chrome os มาให้เลยก็ได้ แต่ยังอีกนานนะครับ ต้องตามดูว่า cloud computing จะเป็นที่ยอมรับแค่ไหน ทาง microsoft ถือไพ่เหนือกว่าอยู่แล้ว ปกติองค์กรคงไม่ยอมเปลี่ยนไปใช้อย่างอื่นแน่ครับ ถ้ามันไม่ได้มีอะไรที่ดีกว่ากันจริงๆ หรือประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริง อันนี้อาจจะต้องสู้กันอีกเป็นสิบปี ถ้าเปรียบเป็นมวยก็เพิ่งจะผ่านไปสามยก พี่กุ๊ก ทำคะแนนได้ดีเลย แต่แชมป์เก่าก็ัยังไม่พลาด มาดูมุมแดงบ้าง microsoft หลังจากโดนแตะกล่องดวงใจ ก็คงคิดได้ว่า อยากแตะกล่องดวงใจพี่กุ๊กบ้าง ตอนนี้ก็จับมือกับ ยู้ฮู ไปเรียบร้อยแล้ว สัญญาไม่น่าเชื่อเลยนะครับ สิบปี โดยที่สิบปีนี้ microsoft จะต้องเข้าไปแบกรับค่าใช้จ่ายของทางยู้ฮูทั้งหมด แลกกับการดูดเอาเทคโนโลยี กับข้อมูลมาใช้พัฒนาบิง สามยกแรกทั้งคู่แลกหมัดกันได้ดีเลย กลับมาเรื่องหุ้น ผมว่าการประเมินมูลค่าบริษัทน้องกุ๊กทำได้ยากมากๆ เพราะสิ่งที่แพงที่สุดของบริษัทน่าจะเป็น know how, technology และข้อมูล ที่ประเมินราคาไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่า จะเอามาใช้ทำประโยชน์ได้มากแค่ไหนมากกว่า แค่ความเห็นนึงนะครับ โดย eskimo จันทร์ ส.ค. 10, 2009 2:30 am

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ ยินดีด้วยครับ ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ โดย eskimo อาทิตย์ ส.ค. 02, 2009 3:35 am

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ แก้นิดนึงครับ โดย eskimo อาทิตย์ ก.ค. 05, 2009 5:43 pm

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ เพิ่งรู้ว่ามีเว็ป www.bigitshop.com ครับ การโปรโมทอาจจะยังไม่ดีเท่าไหร่ แต่น่ากลัวมากแน่นอนครับ เมื่อวานซืนผมไปซื้อ Print HP 4660 มาครับที่ IT เพราะว่า แกเล่นขายถูกกว่าที่อื่นมาก ที่อื่น 3590 IT ขาย 3090 ประมาณ18% เลยนะครับ งงมากครับว่าใครเป็นคน discount ส่วนนี้ให้ ผมมองว่า เรื่อง website ยังไม่น่ากลัวครับ ด้วยเหตุผลสองข้อ 1. การซื้อสินค้า IT ผ่านทาง website ตอนนี้ในประเทศไทยยังไม่แพร่หลายมากครับ แล้วส่วนมากจะเป็นสินค้าราคาุถูกๆมากกว่า เนื่องด้วยความมั่นใจในระบบความปลอดภัยเกี่ยวกับ credit card ในกรณีที่ซื้อด้วยบัตรเครดิตโดยตรง หรือ ในการ โอนเงิน กรณีใช้วิธีจ่ายโดยการโอนเงินเข้าบัญขี (ได้ของช้ากว่า) ส่วนมากจะใช้ online banking เพราะสะดวกกว่า สองวิธีนี้ยังไงก็เกี่ยวกับการจ่ายเงินออนไลน์ ซึ่งบ้านเราก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลตรงนี้โดยตรง ผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ยังไม่กล้าลอง ดังนั้นการมีเวบไซต์ จะเป็นไปในแง่สำหรับเช็คราคา หรือออกโปรโมชั่นใหม่มากกว่า ซึ่งลูกค้าปกติก่อนจะซื้อ ก็ต้องเทืียบราคากับของที่อื่น เช่น IT City โดยการเดินมาดูที่ IT City (เพราะเวบ IT City โคตรห่วย) ถ้า IT City ถูกกว่าก็อาจจะไม่ต้องคิดแล้ว ซื้อเลย ประมาณนั้น 2. การทำเวบไซต์นั้น มันไม่ได้ใช้เวลานานนัก ถ้า it city อยากทำ ก็สามารถทำให้เสร็จได้ภายในหนึ่งเดือนเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าจะทำจริงๆอยากให้ออกมาให้ดีที่สุด เพราะของ big it ผมว่ามันก็ยังดีซักเท่าไหร่ สรุป เรื่องเวบไซต์ ผมว่ามีก็ดีแต่ถ้าจะมีอยากให้ทำให้ดีที่สุด แต่ถ้ายังไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะสำคัญกว่านั้น คือเรื่องของความหลากหลายของสินค้า ราคา การรับประกัน และบริการหลังการขาย ที่เป็นจุดเด่นของ it city แค่ความเห็นนึงครับ โดย eskimo อาทิตย์ ก.ค. 05, 2009 5:41 pm

พบพี่ Hongvalue พฤหัสนี้ [quote="K o S o L"]มีใครอัดไว้บ้างไหมครับ อยากดูบ้างอะ (พอดีเมื่อวานดูน้องแพนเค๊กเพลินไปหน่อย เลยลืมไปเลย โดย eskimo อาทิตย์ ก.ย. 28, 2008 2:20 pm

จับตาประกันภัยรถยนต์ เห็นว่าตรงกับงานที่ทำ ขออนุญาติออกความเห็นนะครับ ธุรกิจประกันภัย ลักษณะธุรกิจก็อย่างที่เรียกครับ คือรับประกันความเสี่ยง หรือความเสียหาย ส่วนจะรับประกันอะไรก็มีร้อยแปดอย่างครับ ที่เห็นบ่อยๆในประเทศไทยคงเป็น ประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัย อุบัติภัย รับประกันความเสียหายของสินค้าระหว่างขนส่ง ประกันชีวิต และอื่นๆ รายได้ของธุรกิจ จริงๆแล้วมาจากสองทางครับ ทางแรกคือ เบี้ยประกันที่รับจากลูกค้า เบี้ยจะสูงต่ำยังไง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างครับ เช่นรถยนต์ ก็ขึ้นกับประเภทรถยนต์ กำลังเครื่อง ลักษณะการใช้งาน เพศของคนขับ อายุ ลักษณะการใช้งาน ซึ่งการรับประกันโดยดูเงื่อนไขต่างๆเหล่านี้ประกอบ มีึคำเรียกรวมๆว่า underwriting รายได้ อีกทางนึงของธุรกิจประกันภัย ก็มาจากการนำเบี้ยไปลงทุนต่อครับ อาจจะเป็นพันธบัตร หุ้นกู้ หุ้น ดังนั้น กำไรของธุรกิจประกันภัย จะมาจาก สูตร กำไร = เบี้ยประกันรับ + รายได้จากการลงทุน - เคลม - ค่าใช้จ่ายในการรับประกัน เคลม ก็คือ ในกรณีที่เกิดความเสียหายกับสิ่งที่รับประกัน ทางฝ่ายรับประกัน ก็ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ ซึ่งเงินตรงนี้อาจจะน้อยกว่า เบี้ยประกัน (บริษัทกำไร) หรือมากกว่าเบี้ยประกันก็ได้ (บริษัทขาดทุน) ค่าใช้จ่ายในการรับประกัน ก็เช่น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ ค่าจ้างพนักงาน ค่า คอมมิชชั่น ฉะนั้น บริษัทประกัน จะกำไรมากน้อย หรือ ขาดทุนก็ขึ้นอยู่กับว่า จะทำให้รายรับเบี้ยประกัน บวกกับรายได้จากการลงทุนมากกว่า ค่าเคลม และค่าใช้จ่าย ได้เท่าไหร่ การคำนวนหารเบี้ยประกันที่เหมาะสม เป็นหัวใจหลักของธุรกิจประกันภัย ตรงนี้มีทั้งทฤษฏี และสูตรคำนวนมากมายในการหาเบี้ยประกัน ที่เหมาะสมกับความเสี่ยง เสี่ยงน้อยเบี้ยถูก เสี่ยงมากเบี้ยแพง เสี่ยงสุดๆ ไม่รับประกันก็มี ข้อมูลลึกๆให้พี่ๆมาเล่าต่อละกันครับ โดย eskimo อาทิตย์ ส.ค. 31, 2008 5:03 am

แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี) หวัดดีครับ ผมขอเวอร์ชั่น 2003 ครับ [email protected] ขอบคุณมากครับ โดย eskimo ศุกร์ ส.ค. 29, 2008 2:45 am

ผมอยากเล่าเรื่อง ชีวิต ผมกับ ตลาดหุ้นจังเลยครับ เขียนได้น่าติดตามมากครับ หวังว่าคงยังไม่จบนะครับ ถ้าใช้เพจ เล่นการ์ดพลัง คงรุ่นๆเดียวกันมั้ง คุณ areliang โชคดีที่ได้เริ่มเรียนรู้การลงทุนตั้งแต่ยังเรียนมหาลัยอยู่นะครับ (ช่วงนั้นผมก็ว่างๆลอยๆ) พอเริ่มทำงานเหมือนจะมีความกดดันจากงาน เวลาว่างก็ลดน้อยลงครับ โดย eskimo ศุกร์ ส.ค. 29, 2008 1:50 am

"ลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ เน้นมูลค่า แล้วขาดทุน" - สงสัยใน list top loser ของพี่ Ryuga ทำไม่ต้อง highlight TASCO, MSC, TEAM ไว้ด้วยครับ พอดีตัวนึงในนั้นโดนใจจี๊ดๆ เอาเป็นว่าขออนุญาติ สารรูปบ้างครับ ตัดสินใจซื้อหุ้นอะไร TEAM ซื้อเมื่อไหร่ และ ราคาเท่าไหร่ ประมาณเดือน สิงหา กันยา ปีที่แล้ว เหตุผลที่ซื้อ - เราจะโต - นั่งดู presentation ของทางบริษัท เห็นกราฟยอดขายที่เป็นแท่งๆ สูงขึ้นเรื่อย ยิ่งของปี 50 นี่สูงเสียดฟ้า - ขยายโรงงาน รับพนักงานเพิ่มเพียบ โลกสดใสมาก (ตอนนั้น) - MACD เป็นเทือกเขาไม่เคยต่ำกว่าเส้นศูนย์ ตั้งแต่เข้าตลาดมา - ธรรมาภิบาล ก็ยังไม่เห็นอะไรที่ไม่งาม สาเหตุที่ขาดทุน จริงๆกำไรปีที่แล้วก็ไม่ได้ขี้เหร่มาก แต่คงคาดหวังไว้สูงกัน พอไม่ได้ตรงเป้าเลย โดนกระหน่ำขายรัวๆ ยิ่งหลังปันผลหุ้นแล้ว ยิ่งกู่ไม่กลับ แถมดันเข้าตอนใกล้ยอดดอย ไม่มีมอสเลยซักนิด ตอนนี้เลยขาดทุนอยู่ ยี่สิบกว่าเปอร์เซนต์ จริงๆแล้วผมก็ยังมองว่าพื้นฐานมันก็ไม่ได้แย่อะไรนะครับ เพียงแต่ มีปัจจัยหลายอย่างเข้ารุมเร้า เช่น ลูกค้าโดนเทคโอเวอร์ ซับไพรม์ เศรษฐกิจเมกากำลังอ่วม เงินบาทแข็ง บทเรียนที่ได้ มอส สำคัญมั่กๆ อย่ามองโลกในแง่ดีเกินไป โดย eskimo อังคาร เม.ย. 29, 2008 3:24 am

เนื่องในโอกาสวันสงกรานต์นี้ สุขสันต์วันสงการนต์ครับ ขอให้ทุกท่านมีความสุขในเทศการวันสงการนต์ เดินทางเข้าออกปลอดภัยครับ โดย eskimo ศุกร์ เม.ย. 11, 2008 1:52 pm

พูดคุยราคาทองคำกัน เมื่อประมาณปี 44 เคยไปสัมนา คุยเฟื่องเรื่องทอง ที่โรงแรมแถวประตูน้ำ ขออภัยจำชื่อคนที่มาพูดไม่ได้แล้ว เท่าที่จำได้ ก็คือ เป็นไปตาม demand/supply ของโลก supply ก็ตามกำลังผลิตของเหมืองทองทั่วโลก demand สมัยโน้นมาจากหลักๆคือ - ความต้องการเครื่องประดับที่ทำจากทอง - ธนาคารกลางของประเทศต่างๆที่ต้องสำรองทองคำ เพื่อใช้ในการพิมพ์ธนบัตร แต่เดี่ยวนี้พวก hedge fund ก็มาเก็งกำไรทองกันเยอะ ราคาอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับ demand/supply pure ๆ แล้ว สมัยโน้นพอเสร็จจากงานสัมนาก็เคลิ้มเลย ตอนนั้นบาทละห้าพัน เลยพุ่งไปเยาวราชซื้อเลยทองคำแท่ง แล้วก็ถือมาจนถึงตอนนี้  :ep: แต่ดันซื้อแค่แท่งเท่าไม้ขีด  :wall:  โฮ้ยยยย โดย eskimo อาทิตย์ มี.ค. 30, 2008 1:47 am

ขอความฃ่วยเหลือหน่อยครับ ผมจะสร้างอพาทเม้นท์แต่ไม่มีความรู้ ต้องดูว่าที่ตรงนั้นเค้ายอมให้สร้างได้กี่ชั้นด้วยนะครับ อย่างที่พี่ๆว่า กู้หมดเสี่ยงเกินไปครับ อย่าว่าแต่ให้เช่าเต็มทุกหุ้องเลยครัีบ ช่วงครึ่งปีแรกที่เปิดให้เช่าได้ 50% ก็เก่งแล้ว เขียนแผนงานมาแล้วดูเป็นปีๆดีกว่าว่า cash flow เป็นไง โดย eskimo อาทิตย์ มี.ค. 30, 2008 1:33 am

คำนวณอัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรต่อหุ้น อยากถามเพิ่มเติมว่า ถ้าคำนวณอัตราการเติบโตนี้ โดยที่คิดแบบ 1970-1979 กับการคิดแยกเป็นแบบ 1970-1974  กับ 1974-1979 แบบไหนดีกว่าคะถ้าตามตัวอย่างนี้ การคิดแบบ 1970-1979 ได้ 12.43% การคิดแบบ 1970-1974 ได้ 14.39% การคิดแบบ 1974-1979 ได้ 10.89% การวัดแบบนี้จะช่วยให้เรามองแนวโน้มของอัตราการเติบโตออกด้วยครับ เช่น 1970-1979 ได้ 12.43% 1974-1979 ได้ 10.89% แสดงว่ามีแนวโน้มเติบโตในห้าปีท้ายลดลง เราก็ต้องขุดลงไปดูครับว่าเพราะอะไร เริ่มอิ่มตัว หรือว่าเป็นรอบของธุรกิจ โดย eskimo อาทิตย์ มี.ค. 30, 2008 1:26 am

ทองคำ ติดที่กฎหมาย ก้อไม่คิดจะแก้กฎหมาย เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ เขาอาจมองว่าไม่ใช่ผลประโยชน์ของเขากระมังครับ เลยไม่คิดจะทำอะไร นอกจากปรับนู่นนิดปรับนี่หน่อย ไม่สังคายนาซักที  :8)  ... ใจจริงผมคิดว่าเค้าก็อยากจะช่วยชาตินะครับ แต่กลัวโดนผลกระทบจากการที่ทำอะไรใหม่ๆ พูดง่ายๆทำอะไรนอกกรอบ ถ้าสำเร็จก็เสมอตัว ถ้าพลาดคงโดนด่า โดย eskimo ศุกร์ มี.ค. 21, 2008 12:55 pm

ทำไมราคาทองลง คับ งง เงินยูโร ก็มาแบบเดียวกันเลย อาทิตย์นี้ค่อยๆแข็งมาจน 49 กว่าๆ เกือบจะ 50 ละ จู่ๆเมื่อวาน หล่นลงไปอีกแล้ว อาจจะเพราะว่าที่ยุโรปปิด easter สี่วันครับ กองทุนเลยขนเงินกลับช่วงหยุดยาว โดย eskimo ศุกร์ มี.ค. 21, 2008 12:48 pm

ติด TR อยู่ 80 บาท คงได้เป็น VI ยาวแน่ๆ ลองเช็คดูพื้นฐานว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากที่คาดการไว้มั้ย (ถ้าได้คาดการไว้นะ) ถ้าทุกอย่างดี แล้วคิดว่าราคานี้ต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็นของมันก็ซื้อเพิ่มถ้ามีตังค์ หรือไม่ก็ถือครับ ถ้าคำนวนแล้วราคานี้เกินมูลค่าไปมากแล้ว ก็ขายทำกำไรครับ โดย eskimo ศุกร์ มี.ค. 21, 2008 12:45 pm

แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี) ลืมใ้ห้ อีเมลครับ s_kimo_a แอด hotmail.com ครับ ขอบคุณครับ โดย eskimo อาทิตย์ มี.ค. 16, 2008 4:44 pm

แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี) รบกวนขอ EPS15Year V.2007 ด้วยครับ ขอบคุณมากครับพี่ โดย eskimo อาทิตย์ มี.ค. 16, 2008 4:43 pm

หมีกำลังแย่! ฟังที่คุยกันนี่น่าสนใจทีเดียวครับ พี่ไทยเราจะโดนลูกหลงไปด้วยมั้ยเนี่ย เสียวๆแบงค์ของเราๆเหมือนกันว่าไปมีเอี่ยวอะไรกับเค้าบ้างป่าว โดย eskimo อาทิตย์ มี.ค. 16, 2008 12:13 am

แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล ขอด้วยครับ [email protected] ขอบคุณครับ โดย eskimo พุธ มี.ค. 12, 2008 1:26 pm

+TEAM+ สมการต่างๆต้องมีเหตุผลที่ใช้ในการตั้งสมการด้วยครับ  สมมุติเราบอกว่าคนที่ขายหุ้นวันก่อน XD หนึ่งวัน และ ขายวัน XD ควรได้รับผลตอบแทนเท่ากัน เนื่องจากวันต่างกันเพียงวันเดียว มีหุ้นเพียง 1 หุ้นก่อน XD ขายก่อน XD  ได้  = 1x6.85 บาท ขายหลัง XD (สมมุติว่าได้หุ้นปันผลมาขายด้วยเลย) ในราคา B บาท/หุ้น ได้  (1+1/4)B+0.35 จับมาเท่ากัน 5B/4 + 0.35 = 6.85 B = (6.85-0.35)x4/5 = 5.20 พออธิบายด้วยหลักการนี้แล้วเข้าใจง่ายดีครับ โดย eskimo พุธ มี.ค. 12, 2008 1:24 pm

+TEAM+ ผมก็คิดได้ประมาณ 5.2 เหมือนกันครับ โดย eskimo พุธ มี.ค. 12, 2008 12:46 am

ใครดู อิมซังอ๊ก พ่อค้าหัวใจทรนง..... พึ่งจะมานั่งไล่ดูตั้งกะตอนแรก สนุกดีครับ ความเห็นส่วนตัว มีกึง น่ารักสุดครับ  :oops: โดย eskimo จันทร์ มี.ค. 03, 2008 4:03 am

ช่วยคิด ROA & ROE ของ MATI ให้หน่อย คิดแล้วทำไมไม่เหมือน ขอบคุณครับ วันนี้ได้อ่านกระทู้ "ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไร ..." ตาม link นี้ http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=1429 ช่วยให้เข้าใจเรื่อง ROE, ROA ขึ้นอีกเยอะเลย ถ้าดูไปถึงสูตรของ Du Pont นี่อย่างเดือด โดย eskimo เสาร์ ต.ค. 06, 2007 2:14 am

ช่วยคิด ROA & ROE ของ MATI ให้หน่อย คิดแล้วทำไมไม่เหมือน พอดีว่างครับ เลยลองคิดดู จากงบการเงิน Q2/49 - Q2/50)  ของ MATI EBIT (พันบาท) Q3/49 = 65,345 Q4/49 = 26,728 Q1/50 = 35,701 Q2/50 = 104,667 Sum(Q3/49 - Q2/50) = 232,441 Asset (พันบาท) Q2/49 = 1,774,598 Q2/50 = 1,821,021 (Q3/49+Q2/50)/2 = 1,797,809.5 NET Profit (พันบาท) Q3/49 = 50,308 Q4/49 = 19,535 Q1/50 = 19,489 Q2/50 = 74,273 Sum(Q3/49 - Q2/50) = 163,605 Equity (พันบาท) Q2/49 = 1,528,000 Q2/50 = 1,609,072 (Q3/49+Q2/50)/2 = 1,568,536 ROA ของ set.or น่าจะใช้ EBIT/Asset ROA*= 232,441/1,797,809.5 = 12.93% ROE ของ set.or น่าจะใช้ Net Profit/Equity ROE* = 163,605/1,568,536 = 10.43% น่าจะเป็นตามนี้นะครับ อยากทราบว่า ทำไมการคำนวน ROE ถึงไม่ใช้ EBIT แต่ใช้ Net Profit ครับ มันมีผลต่างกันมากมั้ยครับ โดยส่วนตัวผมคิดว่า เวลาจะหา ROE ซึ่งคือกำไรต่อส่วนผู้ถือหุ้นจึงควรที่จะเอาดอกเบี้ยจ่าย(เนื่องจากหนี้สิน) เข้ามาคำนวนด้วย ไม่งั้นกิจการที่หนี้มากกว่าส่วนผู้ถือหุ้นเยอะๆ จะได้ ROE ออกมาสูง ทั้งๆที่เป็นหนี้มากมาย โดย eskimo ศุกร์ ต.ค. 05, 2007 2:44 am

แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี) รบกวนพี่ครรชิตด้วยครับ [email protected] :lol: โดย eskimo อังคาร ส.ค. 21, 2007 2:06 am

อ้าว ใครตกรถ รถถอยมารับแล้ว ถอยมารับ หรือถอยมาทับเนี่ย ขอหลบก่อนเน้อ ถอยมาแรงเหลือเกิน โดย eskimo พฤหัสฯ. ส.ค. 16, 2007 11:03 am

ขอความเห็นเรื่องการพักเงินหน่อยครับ เข้าใจว่าที่โอนจาก ออสเตรเลีย กลับไทยแล้วเสียค่าธรรมเนียมมากขนาดนั้น เพราะคุณเืลือกให้เค้าหักจากทางฝั่งโน้นครับ ผมเคยโอนเงินจากเยอรมันกลับไทย ถ้าเลือกให้หักค่าธรรมเนียมจากทางฝั่งเยอรมันฝั่งเดียวจะโดน 25 euro แต่พอมาถึงฝั่งไทยจะไม่โดนหักอีกครับ เทียบกับโอนอีกครั้งให้หักค่าธรรมเนียมเฉพาะทางฝั่งเยอรมัน ประมาณ 5 euro แล้วไปโดนหักจากทางฝั่งไทยอีก 500 บาท คุ้มกว่าครับ โดย eskimo จันทร์ ส.ค. 13, 2007 1:43 pm

ขอความเห็นเรื่องการพักเงินหน่อยครับ ถ้าจำนวนเงินไม่มาก และกะว่าจะฝากไว้ที่ Australia ไม่นานนัก จะไม่คุ้มค่าโอนครับ ไหนจะอัตราแลกเปลี่ยนอีก ว่าแต่ตอนนี้ธนาคารหลายแห่งเปิดให้ฝากเงินเป็นสกุลต่างประเทศได้ และได้ดอกเบี้ย ตามสกุลเิงินนั้น นอกจาก us dollar ฝากเป็น euro, หรือ aud ได้มั้ย มีใครพอทราบบ้างครับ โดย eskimo อาทิตย์ ส.ค. 12, 2007 3:54 pm

แงๆๆ ขายแล้วขึ้นอีกแล้ว ทำใจครับ สามวันก่อน ผมขาย psl ไปที่ประมาณ 30 แล้วดูตอนนี้ดิ  :( โดย eskimo ศุกร์ ก.ค. 13, 2007 1:13 pm