Re: แจก EPS16YEAR (งบดุล,ราคา,19ปี,Ratio ต่างๆ,แบบเครดิตภาษี รบกวนขอด้วยน่ะครับ [email protected] ขอบพระคุณมากๆครับ โดย rotero จันทร์ เม.ย. 30, 2012 8:38 pm

... ขอบคุณพี่มากๆครับ โดย rotero อาทิตย์ ธ.ค. 02, 2007 5:03 pm

... ขอบคุณครับ สำหรับคำแนะนำ โดย rotero พุธ พ.ย. 14, 2007 7:42 pm

... ขอบคุณครับ  สำหรับคำแนะนำ โดย rotero อังคาร พ.ย. 06, 2007 9:32 pm

... สนับสนุนเต็มที่ครับ โดย rotero ศุกร์ พ.ย. 02, 2007 2:54 am

.. งานที่ผมไปมาสรุปคร่าวๆก็คือ เป็นปรีวิวที่แนะนำคอร์สอบรมการเทรดออปชั่น แบบกลยุทธ์ของ ดร.เครเมน เชียง และเค้าก็นำผลงานมาแสดงโชว์คนที่ ประสบความสำเร็จจากการนำกลยุทธ์ของเค้าไปใช้(แต่ไม่เห็นโชว์คนที่ประสบความล้มเหลวเลย) ผมลองวิเคราะห์ดูแล้ว ผมว่ามันได้กำไรเวอร์ไปหรือป่าวก็ไม่รู้ แต่ผมก็เชื่อหูไว้หูน่ะครับแต่ก็เห็นหลายๆท่านที่ไปสัมนาก็สนใจหลายคน เลยทีเดียว แต่คอร์สอบรมท่าจะแพงน่าดูครับ โดย rotero ศุกร์ ต.ค. 26, 2007 2:01 pm

... ไปมาแล้วครับ  ผมว่าไม่มีอะไรเลย(ฟังไม่รุเรื่อง) ผมว่ามันเวอร์ๆยังไงไม่รุ  อะไรมันจะได้กำไร ง่ายขนาดนั้น ผิดธรรมชาติ โดย rotero พฤหัสฯ. ต.ค. 25, 2007 7:12 pm

... อ้าว ออปชั่นเหรอครับ ผมก็นึกว่าหุ้น แป่ว แต่ก็น่าลองไปดูน่ะครับไม่เสียหาย งานนี้เห็นที่สอบถามไป เขาบอกว่าฟรี โดย rotero พุธ ต.ค. 24, 2007 11:09 am

... WACC เป็นการถ่วงน้ำหนักระหว่างต้นทุนเงินทุนของเจ้าหนี้ และต้นทุนของส่วนเจ้าของ สูตรคือ WACC = Kd*Wd + Ke*We          ซึ่ง Kd = อัตราผลตอบแทนที่คาดหวังขั้นต่ำที่เจ้าหนี้ต้องการ               Wd= สัดส่วนของหนี้สิน               Ke  =  อัตราผลตอบแทนที่คาดหวังขั้นต่ำที่เจ้าของต้องการ               We = สัดส่วนของเจ้าของ ลองไปซื้อหนังสือวัดมูลค่าของพี่สุมาอี้ดูครับ พี่เค้าจะอธิบายวิธีหาได้ละเอียดมาก โดย rotero อังคาร ต.ค. 16, 2007 3:44 pm

... การเก็งกำไรคือการอ้างอิงสินค้า 1 ชนิด ระยะเวลาต่างกัน     เช่นการซื้อหุ้น เอ ที่20บาท ณ ปี50 และไปขายที่25ณปี51 ส่วนการอาร์บิทาจคือการอ้างอิงสินค้าชนิดเดียวหรือหลายชนิด ณ เวลาเดียวกัน     เช่นซื้ออัตราแลกเปลี่ยนในประเทศไทยในเวลาเดียวกันนำไปขายใน ต่างประเทศเราจะได้รับส่วนต่าง โดย rotero เสาร์ ต.ค. 13, 2007 1:46 pm

.. ไม่รู้ว่าพวกพี่เคยเจอแบบผมสมัยเรียนมหาลัยหรือเปล่า แบบคือว่าผมเป็นคน ที่สนใจในการลงทุนมากๆ(ไม่ใช่เก็งกำไรน่ะ)โดยเฉพาะแนวคิดแบบแนวVI และผมก็พยายามชวนเพื่อนหันมาสนใจเกี่ยวกับการลงทุนหลายทางแต่เพื่อน มันก็บอกว่าเรียนอย่างเดียวน่ะแหละพอแล้ว จบไปหางานทำเงินเดือนดี เหมือนกับว่าเรียนเพื่อเกรดอย่างเดียวอ่ะครับ ประมาณว่าไม่ได้สนใจในสิ่งที่ เรียนไป บ้างก็ว่าผมเพ้อเจ้อ ไร้สาระ  แย่ยิ่งกว่านั้นเมื่อผมพูดถึงการลงทุน หลายๆคนก็บอกว่าผมดีแต่ปาก จนบางครั้งก็ท้อเหมือนกัน แต่ผมยังมุ่งมั้นที่จะให้เพื่อนสนใจในด้านการลงทุนน่ะครับ เพราะหลายๆคนก็มีความคิดที่ดีเหมือนกัน โดย rotero ศุกร์ ต.ค. 12, 2007 4:18 pm

เห็นด้วยอย่างยิ่ง เห็นด้วยกับพี่เลยครับ ตอนนี้ผมก็ใกล้จะจบปี 4 แล้วครับ(กำลังจะเข้าสู่วัยทำงานแว้ววว) ใจผมจริงๆก็ไม่อยากไปเป็นลูกจ้างเลยครับ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าเพื่อนผมแต่ละคนเรียนกันจะเป็นจะตายเพื่อมาเป็นลูกจ้าง แต่ผมก็อยากออกมาทำงานอิสระเองครับ และทำกิจการเอง (บ้าบิ่นไปหรือป่าวไม่รุ) แต่ถึงยังไงผมก็อยากเป็นลูกจ้างก่อนครับเพื่อหาประสบการณ์ให้ตัวผมเอง ซึ่งก็จะหาทำบริษัทเล็กๆ อ่ะครับ เพื่อที่จะได้เข้าไปคลุกคลีในวงการให้มากที่สุด (สั่งสมประสบการณ์โดยตรง)หลังจากนั้นก็คงจะออกมาทำกิจการเองอ่ะครับ โดย rotero พุธ ก.ย. 19, 2007 4:52 pm

ยินดีต้อนรับครับ ยินดีต้อนรับสู่การลงทุนแนว VI ครับ สำหรับหนังสือ The Intelligent Investor สามารถสั่งจองได้ใน WEB นี้ครับ ในบอร์ด ร้อยคนร้อยเล่มครับ โดย rotero อังคาร ก.ค. 24, 2007 5:26 pm

เด็ก ม.ช. เป็นนักศึกษาอยู่เหมือนกันครับ(ปี4แล้วว..) เรียนมาทางสายการเงินการลงทุนโดยเฉพาะครับ หนังสือที่น่าอ่าผมว่าก็มีหลายเล่มน่ะครับ โดยเฉพาะของ ดร.นิเวศน์  และ บัฟเฟต พยายามอ่านเยอะๆน่ะครับ แล้วจะรู้เองว่าการลงทุนไม่ยากอย่างที่คิด โดย rotero เสาร์ ก.ค. 21, 2007 4:08 pm

tong กำลังจะจบ ป.ตรี  การเงินการธนาคาร  ม.ช. ครับ พอมีความรู้ด้านการเงินพอสมควร โดย rotero อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 10:27 pm

ขอแบบฟอร์ม รบกวนด้วยครับ [email protected] ขอบคุณครับ โดย rotero เสาร์ มิ.ย. 23, 2007 9:47 pm

พิจารณาดูครับ เอ่อ...ความเป็นจริงควรสะสางเรื่องหนี้ก่อนน่ะครับ(ควรกันเงินไว้ส่วนนึงในการชำระหนี้) และอีกส่วนไว้สำหรับการลงทุนต่างหาก แต่ถ้าคุณลงทุนในหุ้นแล้วไดกำไร คุณก็ลองคำนวณต้นทุนของหุ้นเราซื้อไว้ว่ามีราคาเท่าไหร่ สมมติว่าถ้าเราขายหุ้น ออกไปส่วนนึงแต่เราก็ยังมีกำไรอยู่ถ้าคิดจากต้นทุนหุ้นที่เราซื้อ เราก็ควรขาย เพื่อเอาเงินมาชำระหนี้   หรือมีอีกวิธีแต่ก็บ้าระห่ำไปหน่อย  คือ ไม่ต้องจ่ายเงินคืนเลยสามเดือน ปล่อยให้ธนาคารฟ้องร้องไปเลย ซึ่งเมื่อเรื่องขึ้นศาลไปแล้วก็ต้องใช้เวลาร่วมๆ 5ปีเลยทีเดียวกว่าจะปิดคดีได้ และตอนช่วงเรื่องขึ้นศาลอยู่นั้นธนาคารก็ไม่ คิดดอกเบี้ยคุณด้วย ซึ่งในช่วงห้าปีคุณต้องมั่นใจน่ะว่าคุณจะสามารถลงทุนและนำกำไรที่เกิดจากการลงทุน มาชำระหนี้ได้ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งชี้ขาด ก็ลองพิจารณาดูครับ โดย rotero จันทร์ มิ.ย. 04, 2007 1:13 am

ศึกษาอยู่ครับ เอ่อ...  จะว่าไปก็มองในแง่ร้ายไปนิดนึงน่ะครับ  เผอิญผมก็ศึกษาอยู่เหมือนกัน บริษัทที่ว่ามาข้างต้น  โดยผมได้ลงไปดูสวนเองเลยครับที่ปราจีนบุรี (เผอิญจังหวัดอยู่ใกล้ๆ) สวนของเค้าใหญ่มากเลยน่ะครับมีระบบจัดการที่เข้าขั้นว่าดีเลยทีเดียว มีทั้งโรงกลั่นไม้ ระบบจัดการน้ำ ฝายเก็บน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงต้นไม้ โดยในสวนสองพันกว่าไร่ ทางบริษัทก็ได้จ้างคนในหมู่บ้านเป็นคนดูแลเกือบสามร้อยคน และในกลางปีหน้า บริษัทกำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ครับ นอกจากนั้นในสัญญาเค้าจะรับประกันต้นไม้เราไว้สามกรณีคือ 1 น้ำท่วม 2 ไฟไหม้ 3 โจรกรรม โดยทางบริษัทจะหาต้นไม้ที่อายุเท่ากันมาปลูกแทน  แต่ในกรณีที่ต้นไม้เสียหาย ทั้งสองพันไร่จนไม่มีต้นไม้ทดแทนทางบริษัทก็ยังรับซื้อต้นไม้ในราคาขั้นต่ำอยู่(แต่ก็ยังมีกำไร) ซึ่งผมก็ลองคิดดูว่าเค้าจะโกงเราโดยวิธีไหน ผมก็คิดไม่ออก แต่ผมก็สงสัยอยู่เรื่องนึงว่าทำไมถ้าได้กำไรแบบนี้บริษัทถึงได้ให้ประชาชนร่วมทุน ซึ่งเค้าก็บอกว่าถ้ากู้เงินจะก่อให้เกิดต้นทุนจมถึงหกปี (เพราะต้นไม้ชุดนึงจะใช้เวลาหกปี) ผมว่าบริษัทอย่านี้เค้าจะได้ส่วนต่างจากที่เค้ารับซื้อต้นไม้จากเราเพราะว่า เค้ารับซื้อต้นไม้ของเราในอัตราคงที่คือ10000บาท แต่เค้าคงขายได้มากกว่า10000แน่นอน ผมก็เล่าเท่าที่ผมรู้ล่ะครับ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ซื้อเลยครับ เพราะมันต้องใช้เงินเย็น ของเราจริงๆครับ(โหตั้งหกปีน่ะ) ซึ่งผมก็พึ่งอายุ21 ก็ยังต้องใช้เงินอีกเยอะไว้ใช้จ่าย ค่าเล่าเรียน  แต่ตอนนี้ก็มองไว้ล่ะครับเผื่ออนาคตตัวเองไว้ ถ้ามีอะไรก็เมลล์มาคุยกันได้ครับ [email protected] โดย rotero จันทร์ มิ.ย. 04, 2007 12:58 am

หนังสือดีๆ จะรออยู่ที่เชียงใหม่ครับ โดย rotero ศุกร์ พ.ค. 11, 2007 1:29 am

รบกวนครับ รบกวนครับ [email protected] ขอบคุณครับ โดย rotero พุธ พ.ค. 09, 2007 1:37 am