พบ ดร.นิเวศน์ ใน MicroTrend และกลยุทธ์หุ้น เสาร์ 20 พย ค่าห้องแพงแต่ก็น่าจะดีกว่าหอประชุม มศว. จริงมั๊ยครับ :wink: โดย bbendum ศุกร์ พ.ย. 19, 2010 12:09 am

กำลังสนใจซื้อ LTF ครับ ต้องพิจารณาอะไรบ้างครับ Sharp Ratio คืออัตราผลตอบแทนต่อความเสี่ยง ค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนย้อนหลัง / ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Sharp ratio จะช่วยเรากรองพวกที่มีผลตอบแทนดีแต่ผันผวนมากออกไป โดย bbendum พฤหัสฯ. มิ.ย. 24, 2010 9:14 pm

กำลังสนใจซื้อ LTF ครับ ต้องพิจารณาอะไรบ้างครับ ผมใช้ Sharp ratio แต่ถ้าอยากลดภาษีอย่างเดียว ไม่อยากเสี่ยงกะหุ้นแนะนำ 1Smart โดย bbendum อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2010 12:12 pm

แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี) [email protected] ขอด้วยครับ ขอบคุณครับ โดย bbendum พุธ มี.ค. 10, 2010 5:01 pm

แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี) ขอ version 2007 ด้วยครับ [email protected] ขอบคุณครับ โดย bbendum เสาร์ ม.ค. 09, 2010 3:06 pm

นริศสอนน้อง พี่นริศเก็บเบาๆหน่อยครับ เดี๋ยวน้องๆตกรถหมด  :lol:  :lol: โดย bbendum อังคาร ธ.ค. 08, 2009 5:38 pm

นริศสอนน้อง ส่วนเรื่องการทำธุรกิจประเภทนี้ พี่อาศัยความรู้สึกเอานะครับว่าพี่มีคนที่รู้จักอยู่ในแวดวงขนส่งนี้หลายคนและขนส่งหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นขนส่งทั่วไปให้ร้านแบบพี่รายใหญ่ของประเทศ ขนส่งสินค้าพิเศษ(นมสด)รายใหญ่ของประเทศ ขนส่งรถทัวร์รายใหญ่ในอิสาน พี่เห็นคนทำธุรกิจนี้รวยถึงรวยมากและมีรายได้อย่างมั่นคง(แต่ก็เห็นในส่วนที่ไม่มืออาชีพ เจ๊งมาก็มาก) โดยจุดสำคัญของธุรกิจนี้คือหลักการบริหารคนและรถ โดยยึดหลักความปลอดภัย สูญเสียและรั่วไหลให้น้อยที่สุด โดยการคัดคน ถ้าวัฒนธรรมองค์กรอยู่ตัวแล้ว และผู้บริหารไม่ปล่อยวาง ก็ไม่น่าห่วงอะไร ไม่ทราบว่าคุณbbundumเห็นด้วยไหมครับ ส่วนจุดอ่อนที่ว่า จะกำไร2-3ปีหลังผ่อนหมด เมื่อเทียบกับ7ปีที่ทำฟรีนั่นไม่ทราบว่า กำไรที่ขายรถหลัง10ปีได้รวมด้วยไหมครับ ถ้ายังพี่ก็ว่าเป็นกำไรที่สูงพอควร เพราะราคารถได้ตัดค่าเสื่อมหมดแล้ว ถ้ามีการขายรถก็กำไรล้วนๆ และราคารถเมื่อสิบปีก่อนกับขายตอนนี้ หลายๆครั้งราคารถหัวลากลดลงน้อยมาก ส่วนสัญญาทำใหม่นั้น ถ้าการแข่งขันไม่สูง โดยเฉพาะเป็นสินค้าพิเศษ พี่ว่าราคารถเขาก็เอาราคารถใหม่ที่ซื้อมาคำนวณเป็นต้นทุนเช่นเดิมครับ คุณbbundumมีความเห็นในเรื่องนี้เป็นอย่างไรครับ ปล.อยากให้มาแจมบ่อยๆนะครับ ช่วยแชร์ความรู้ในกลุ่มนี้ให้พี่ด้วยนะครับ ปกติได้แต่แอบอ่านที่พี่นริศวิเคราะห์ เพราะว่าตัวเองไม่ค่อยรู้จักธุรกิจอะไร ขนส่งเป็นธุรกิจที่พอมีความรู้อยู่บ้างเล็กน้อย ยินดีมากครับที่ได้ร่วมแสดงความเห็นกับพี่นริศ คนทำธุรกิจนี้ที่ผมรู้จักส่วนมากจะดูรวยครับ  :lol:  แต่มีทั้งรวยจริงและรวยไม่จริง ผมเคยต้องทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้ารายหนึ่ง เป็นรายใหญ่ระดับประเทศในธุรกิจขนส่ง ทำมานานแล้ว ซึ่งดูภายนอกไม่มีทางรู้ว่า เค้าเป็นหนี้มากมายและผ่อนไม่ไหว เพราะยังออกสื่อ ให้สัมภาษณ์ ขับเบนซ์ป้ายแดงอยู่เลย :evil:  :evil: จุดที่ต้องดูนอกจากเรื่องการบริหารรถและคน ก็มีดังนี้ครับ 1.บริหารไม่เป็นมืออาชีพ ขนส่งของไทยเติบโตมาจากระบบเถ้าแก่หรือบางรายโตมาจากเป็นคนขับรถเอง การบริหารรถ 10-20 คัน ต่างจากบริหารรถ 100 คันมาก ต้องมีการวางระบบที่ดีพอ จะยึดถือในความสามารถเฉพาะตัวบุคคลไม่ได้ต้องเน้นไปที่ระบบ 2. Over expansion ยกตัวอย่างเช่น เดิมมีรถอยู่ 60 คัน ติดผ่อนอยู่ 10 คัน เหลือกำไร 2.5 ล้าน/เดือน แล้วไปประมูลงานใหม่ได้ ต้องออกรถเพิ่มอีก 50 คัน มีหนี้เพิ่มขึ้นมา 5 เท่า ค่างวดเดือนละ 2.3 ล้าน หากงานใหม่มีกำไรเลี้ยงตัวเองได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากเป็นงานที่กำไรบางหรือขาดทุนในบางเดือน กระแสเงินสดจะเป็นปัญหา หรือ บางคนทำธุรกิจขนส่งมีกำไรอยู่ดีๆ เกิดไปลงทุนทำหมู่บ้านจัดสรรแล้วขาดสภาพคล่อง ก็จะดึงเงินออกไปสุดท้ายก็เสียหายไปทั้งหมด 3.พึ่งพิงลูกค้ารายใหญ๋แค่ 1-2 ราย เนื่องจากรถมักจะผ่อนนานกว่าสัญญางานขนส่ง เมื่อหมดสัญญาถ้าหาลูกค้ารายใหม่ไม่ได้หรือหาได้ไม่ทัน ก็ไม่มีเงินส่งงวดได้ 4.ธรรมาภิบาลผู้บริหาร/เจ้าของ  :twisted:  เจอคนขี้โกงนี่ไม่ว่าจะธุรกิจดีขนาดไหน ก็ไม่ไหวครับ พวกนี้ดูออกยากเสียด้วย เพราะเจอกันวันแรกที่ขอกู้ก็ดูเป็นคนดีแทบทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยเงินกู้ให้ ส่วนเรื่องกำไรค่าซากรถ และ การคำนวณรวมต้นทุนรถใหม่เข้าไปในราคาค่าขนส่งทุกเจ้าทำอยู่แล้วครับ ถ้าเป็นรถขนส่งน้ำมันหัวลากเฉลี่ยจะได้ IRR 25-30%ต่อปี หักดอกเบี้ย 7-8% ส่วนรถขนส่งก๊าซผมไม่มีข้อมูลแต่คาดว่าน่าจะได้สูงกว่านี้ ธุรกิจขนส่งที่ผมเห็นว่าทำกำไรได้สูงมากๆตัวหนึ่งเลยคือธุรกิจรถโดยสารจากกทม.ไปต่างจังหวัด พวกรถร่วม บขส.นี่แหละครับ ดูภายนอกมันดูเป็นธุรกิจพื้นๆ แต่กำไรท่วมจริงๆ ธุรกิจสัมปทานนี่เสือนอนกินมากครับ โดย bbendum เสาร์ ธ.ค. 05, 2009 3:29 pm

นริศสอนน้อง ถ้าฟังในรายการ MTD ผู้บริหารเค้าบอกว่าสามารถดูแลส่วนหัวรถให้ัขับได้ถึง 20-30 ปี ซึ่งรถที่ซื้อมาตั้งแต่เริ่มต้นยังใช้อยู่เลยครับ และก็ได้รับการชื่นชมจากเจ้าของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น ซึ่งมีการจัดงานเลี้ยงให้ด้วยครับ จริงครับที่ว่าถ้าดูแลรักษาดี รถจะใช้ได้นานเป็น 10 ปี แต่ค่าบำรุงรักษาจะเพิ่มมากขึ้นกว่ารถใหม่ รวมทั้งอัตราการใช้น้ำมันจะมากกว่ารถใหม่ จนถึงจุดหนึ่งที่ซื้อรถใหม่จะคุ้มกว่าครับ และที่ผมบอกว่าอายุการใช้งานของรถเป็น 7+1 ปี คือ สัญญาของปตท.ต้องใช้รถที่อายุไม่เกิน 7 ปี ถ้าจะใช้ต่อในปีที่ 8 ค่าขนส่งจะโดนปรับลดลง และห้ามใช้รถที่อายุมากกว่า 8 ปี ซึ่งตรงนี้ต่างจากของบางจาก ซึ่งอนุญาตให้ใช้ได้จน 11 ปี แต่ค่าขนส่งจะลดลงเรื่อยๆ หลังจากปีที่ 7 เหมือนกัน เหตุผลที่ต้องใช้รถใหม่ตลอดเวลาหลักๆคือเรื่องความปลอดภัย (โอกาสเกิดอุบัติเหตุรถเก่ามีมากกว่า) รองลงมาคือเรื่องภาพลักษณ์ของ ปตท. และ service level (รถเก่ามีโอกาสเสียเยอะกว่า ทำให้ขนส่งไม่ได้ตามแผน) โดย bbendum ศุกร์ ธ.ค. 04, 2009 2:05 pm

นริศสอนน้อง ในความเห็นของพี่นะ อาจจะผิดก็ได้ ตอนนี้ฐานรายได้ปีนี้ของKIATอยู่ที่600ล้านบาท กำไรสุทธิราวๆ140ล้าน ส่วนที่จะโตไปได้ก็มีในส่วนของการขนก๊าซNGVที่ยังมีโอกาสโตได้อีกมากกว่า1000ล้านต่อปี จากข้อกำหนดลูกค้า1รายต้องไม่มากกว่า250คัน รายได้ต่อคันตีขั้นต่ำไว้5ล้านบาท ถ้าเพิ่มได้อีก100คัน จากตอนนี้มีราวๆ30คัน ในอีก2ปีข้างหน้า จะมีรายได้เฉพาะในส่วนนี้อีก500ล้านบาท ตอนนี้KIATมีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่940ล้าน(ราคา4.7)PE ณ.ปีนี้อยู่ราวๆ6.7เท่า และมีโอกาสโตดับเบิ้ลภายในสองปี PEเหลือ3กว่าครับ หรือถ้าเขาไม่โตมากๆ โตพียงปีละ10-15%พี่ก็ยังว่าราคานี้ก็ถูกอยู่ เพียงแต่ปัจจัยเสี่ยงไม่ได้อยู่ที่รายได้ แต่อยู่ที่GPMมากกว่าว่าอนาคตเขาจะสามารถรักษาGPMไว้ได้ในระดับใดครับ พี่นริศมองโอกาสของธุรกิจนี้ขาดเลยครับ คือ มีมาร์จิ้นสูงกว่ากลุ่มอุตสาหกรรม และยังมีโอกาสโตได้อีกมากๆ เรื่องผู้บริหารข้อนี้ผมไม่ได้ไปฟังเขาพูดเลยไม่ขอออกความเห็นครับ จุดที่ผมเห็นต่างจากพี่คือเรื่องเป็นธุรกิจที่คนอื่นเข้าได้ยาก เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้รับจ้างขนส่งน้ำมันอยู่ค่อนข้างมาก (ที่ได้สัญญาตรงจากทาง ปตท.มีประมาณสิบกว่าราย) ซึ่งผมคิดว่าเป็นกลุ่มที่มีโอกาสจะเข้ามาแข่งขันในธุรกิจขนก๊าซได้ง่าย เนื่องจากเป็นผู้รับเหมาที่ทาง ปตท. รู้จักอยู่แล้ว แต่ตราบใดที่ยังมีการขยายปั๊ม NGV นอกแนวท่อก๊าซก็คงต้องเพิ่มปริมาณการขนส่งอีก ปัญหาถูกแย่งงานคงไม่เกิดในระยะ 2-3 ปีนี้แน่ นอกเสียจากว่ารถของ KIAT เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ซึ่งจะทำให้ทาง ปตท.ต้องยกเลิกสัญญากับ KIAT และหาผู้รับเหมารายใหม่ สงสัยอีกข้อครับว่ารายได้ต่อคันที่พี่ประมาณไว้ที่ 5 ล้านบาท/ปี มีที่มายังไงครับ เอารายได้ทั้งปีมาหารด้วยจำนวนรถ หรือเปล่า เนื่องจาก KIAT น่าจะมีรายได้จากการขายรถเก่าออกไปด้วย และ อีกส่วนจากการส่งคนขับไปรับจ้างขับให้ ปตท. ส่วนค่าหัวคิวรถร่วมอาจมีในธุรกิจขนสารเคมีแต่คงไม่มีในธุรกิจขนก๊าซ ที่สงสัยเรื่องรายได้ เพราะว่ารายได้เฉลี่ยของรถหัวลาก 1 คัน ในธุรกิจขนส่งน้ำมันตกประมาณ 1-2 แสนบาท/คัน/เดือน ธุรกิจขนก๊าซไม่น่าจะต่างกันเป็นเท่าตัวนะครับ จุดอ่อนสำคัญที่ทำให้ผม ลังเลในธุรกิจนี้คือ เป็นธุรกิจที่สร้างหนี้ตลอด เพราะรถมีอายุการใช้งานจำกัดอยู่ที่ไม่เกิน 7+1 ปี หลังจากนั้นต้องขายแล้วซื้อใหม่ เป็นวงจรอย่างนี้ตลอด ราคารถใหม่ก็แพงขึ้นเรื่อยๆด้วย ทำให้รถ 1 คัน มีเวลาทำกำไรอย่างเต็มที่แค่ในช่วงหลังผ่อนหมดประมาณ 2-3 ปีเท่านั้น พี่นริศมองจุดอ่อนนี้ว่าเป็นอย่างไรครับ โดย bbendum พฤหัสฯ. ธ.ค. 03, 2009 11:50 pm

จิบเบียร์คิวสอง 28สค.09 ณ.จันทร์เพ็ญ ถ.พระราม4 (กระทู้สอง) ไปสายหน่อยได้มั๊ยครับ พอดีเจองานด่วนตอน 19.00  :(  :( โดย bbendum ศุกร์ ส.ค. 28, 2009 12:41 pm

ธุรกิจอพาร์ทเม้นต์ หลักประกัน 19 ลบ. ตามปกติแบงค์ให้กู้ประมาณ 70-80% ของราคาประเมินหลักประกัน กู้ได้ประมาณ 8 ปี เสียดอกเอาแค่ MLR เฉยๆก็พอ เฉพาะส่งค่างวดกรณีกู้ 70% ก็ประมาณ 170,000 ยังไม่รวมภาษีโรงเรือน โดย bbendum ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 9:41 am

จิบเบียร์คิวสอง 28สค.09 ณ.จันทร์เพ็ญ ถ.พระราม4 (กระทู้สอง) พี่"มิ" ครับ ผมว่าใครมาช้า สั่งไก่ย่างมาเติมท่าจะดีนะครับ "ไก่ย่างจันทร์เพ็ญ"ที่นี่ เค้าขึ้นชื่ออยู่ นอกจากนี้ อาหารในตำนานที่นี่ก็มีหลายอย่างอยู่ เผลอๆมาช้าน่าจะได้กินอาหารนอก SET ที่น่าสนไม่น้อยไปกว่ากันนะครับ มาช่วยยืนยันว่า "ไก่ย่าง" อร่อยมาก อาหารอย่างอื่นที่ขึ้นชื่อก็ สุกี้ทะเลแห้ง กับ ทอดมันกุ้ง ครับ ข้อเสียของที่นี่คือที่จอดรถน้อยและอยู่ในซอยแคบๆ ถ้ามารถไฟใต้ดิน หรือ แท๊กซี่ได้จะสะดวกกว่ามากครับ โดย bbendum ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 9:00 am

จิบเบียร์คิวสอง 28สค.09 ภัตตาคารจันทร์เพ็ญ ถ.พระราม4 คอนเฟิร์มครับ  :lol:  :lol: เดาธงว่า TPOLY มีคนตอบไปหรือยัง  :roll:  :roll: โดย bbendum อังคาร ส.ค. 04, 2009 8:37 am

จิบเบียร์คิวสอง 28สค.09 ภัตตาคารจันทร์เพ็ญ ถ.พระราม4 ไม่กินเบียร์ ไปด้วยได้มั๊ยครับ  :lol: โดย bbendum จันทร์ ส.ค. 03, 2009 1:29 pm

+Dividend Stock+ KKC     28.57 % ZMICO 24.36 % CSL     23.97 % TMT     23.47 % STPI    23.08 % PSL     20.25 % JTS     20.20 % AI       19.53 % HFT    18.52 % PICO  18.10 % UP     17.24 % STEEL 17.20 % PATO  16.52 % UPOIC  16.26 % AIT      15.80 % UVAN   15.38 % ASK      15.34 % ASIMAR 15.24 % PAP      14.81 % BSBM    14.75 % SFP       14.29 % SECC     14.28 % MJD       14.15 % CSP       14.13 % EPCO    14.09 % โดย bbendum พุธ ก.ค. 22, 2009 12:45 pm

ผลกระทบ ถ้าไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบาดในไทยในวงกว้าง มีบริษัมในตลาดที่ผลิตพวก หน้ากากป้องกัน กับพวกแอลกอฮอล์ที่ใช้ล้างมือแบบไม่ใช้น้ำไหมครับ ช่วงนี้น่าจะขายดี โดย bbendum อังคาร มิ.ย. 16, 2009 8:22 am

แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี) รบกวนขอ Version 2007 ด้วยครับ ขอบคุณครับ [email protected] โดย bbendum อังคาร มิ.ย. 02, 2009 8:29 am

แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล ขอด้วยครับ [email protected] ขอบคุณครับ โดย bbendum พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 9:26 am

แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี) ขอตัว V.2007 ครับ [email protected] ขอบคุณครับ โดย bbendum อังคาร เม.ย. 22, 2008 12:59 pm

บ.ไปรษณีย์ไทยจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ DHL (Dalsey, Hillblom and Lynn) เป็นบริษัทที่แข่งกับ Deutsche Post ถูกแล้วครับ แต่แข่งกันในด้าน international shipping เป็นหลัก ... ตอนนี้กลายเป็นบริษัทลูกของ Deutsche Post เพราะเข้ามา take over ประมาณ 5 ปีก่อน   พอดีเพิ่งเริ่มเข้ามาในวงการนี้เมื่อ 3 ปีก่อนครับ เลยไม่ทราบว่าเดิมเป็นคู่แข่งกัน  :bow:  :bow: โดย bbendum จันทร์ ก.พ. 18, 2008 8:43 pm

บ.ไปรษณีย์ไทยจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ อันที่จริงไปรษณีย์นี่เป็นสัมปทานนะครับ เอกชนห้ามทำแข่ง แต่ที่ปัจจุบันมีทำกันอยู่คือเสียค่าปรับเอาเพราะค่าปรับมันถูก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 50 สตางค์ต่อฉบับมั้ง แต่พวก DHL/FedEx ค่าส่งเป็นร้อยเค้าเลยไม่สนใจค่าปรับ :lol:  :lol: พี่ mprandy ครับ DHL นี่ก็คือ Deutsche Post หละครับ เพราะ Deutsche Post ถือหุ้นใหญ่อยู่ หรือ TNT ก็คือไปรษณีย์เนเธอร์แลนด์นั่นเอง เพราะถือหุ้นใหญ่อยู่ ส่วน FedEx / UPS นี่ผมไม่มีข้อมูล ถ้าในเมืองไทยไม่มีใครสู้ไปรษณีย์ไทยได้แน่ครับ แต่ถ้าส่งไปเมืองนอกนี่บริการยังสู้เอกชนไม่ได้แต่ราคาก็ถูกกว่ากันพอสมควร เห็นหลังๆมีบริการรับของถึงบ้านแล้ว ก็พัฒนามาเทียบชั้นกับของเอกชนมากขึ้นครับ เป็นหุ้นอีกตัวที่น่าสนใจมากครับ อย่างที่พี่ๆหลายคนบอกว่าต้องลงทุนสูง และกำไรขึ้นกับจำนวนชิ้นที่ส่งเป็นหลัก เพราะชิ้นแรกๆนี่ส่งขาดทุนครับ ต้องส่งให้ได้เลยจุดคุ้มทุนถึงจะเริ่มมีกำไร โดย bbendum จันทร์ ก.พ. 18, 2008 12:33 am

แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล ขอด้วยคนครับ [email protected] ขอบคุณครับ โดย bbendum อังคาร ต.ค. 16, 2007 5:56 pm

ธุรกิจขายตรงในไทยเจ้าไหนมียอดขายระดับหมื่นล้านบ้างคับ กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ รายได้ 3200 ล้านบาท กำไร 138 ล้านบาท ลองคำนวณคร่าวๆ ธุรกิจประเภทขายตรงได้กำไรสุทธิหลังหักภาษีประมาณ 4-5% สงสัยเอาไปจ่ายค่าการตลาด MLM หมด  :lol:  :lol: โดย bbendum ศุกร์ ก.ย. 21, 2007 5:38 pm

ธุรกิจขายตรงในไทยเจ้าไหนมียอดขายระดับหมื่นล้านบ้างคับ ตามข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ปี48 แอมเวย์ มีรายได้ 8พันล้าน และกำไรหลังหักภาษีที่ 4ร้อยกว่าล้านครับ[/img] โดย bbendum พุธ ก.ย. 19, 2007 9:43 pm

เครือข่ายการลงทุน ตรี เศรษฐศาสตร์ M.Sc. Transport and Logistic Management อดีต ทำงาน บริษัท Logistic ยักษ์ใหญ่ข้ามชาติแห่งหนึ่ง ปัจจุบัน ทำงานแบงค์เกี่ยวกับปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจ Logistic เพิ่งเริ่มลงทุนเมื่อตอนต้นปี 50 ช่วงหลัง 19ก.ย.ไม่นาน กำลังศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ  :B โดย bbendum พุธ ส.ค. 29, 2007 9:27 pm