หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
BPT
Joined: จันทร์ มี.ค. 17, 2003 2:15 pm
143
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - BPT
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
มาอีกตัวแล้ว หุ้นจ่ายปันผลหนัก CVD สนใจมั้ยครับ
ใครสนใจก็ลองศึกษาดู ใครคิดว่าไม่น่าสนใจก็ตามใจนะครับ ปีที่แล้วรับซื้อคืนที่ราคาสูงกว่าตลาดมาก แต่ซื้อแค่ 10% คนที่อ่านข่าวไม่ละเอียดไปซื้อหุ้นในตลาดก็ต้องขาดทุน แต่คนที่มีหุ้นอยู่แล้ว (เช่น บีอีซี) ถ้าเสนอขายไปทั้งหมดก็จะได้รับซื้อ 10% เมื่อคำนวณแล้วใกล้เคียงกับการจ่ายปันผลราวๆ 2 บาทกว่า จำรายละเอียดตัวเลขที่แท้จริงไม่ได้ ใครมีเวลาช่วยค้นก็ขอขอบคุณด้วย อาจจะนิสัยไม่ค่อยดีตรงชอบออกข่าวก่อน แต่ถ้าพูดจริงทำจริง บอกว่าจะจ่าย 2.50 แล้วตอนนนี้ราคาแค่ 20 บาท ก็ได้ 12.5% แล้ว ส่วนจะจ่ายสม่ำเสมอหรือเปล่า ต้องไปดูงบกันเองละกัน รู้สึก TTA ก็นิสัยเดียวกันนะ มีข่าวลือเรื่องจ่ายปันผล แล้วก็ปฏิเสธข่าว แล้วก็จ่าย แต่จำไม่ได้ว่าจ่ายตามข่าวลือหรือเปล่า คุณ Minesweeper ดูเหมือนจะทำการศึกษาไปแล้ว มีอะไรแชร์กันบ้างมั้ยครับ
โดย
BPT
พุธ ธ.ค. 22, 2004 1:06 pm
0
0
CEI จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 แล้ว
ผมขอเดามั่งนะครับ 1. เขาบอกว่าบริษัท "ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 54.9 ล้านบาท เนื่องจากการใช้ตราสารอนุพันธ์ทางการเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ สำหรับสินทรัพย์และหนี้สินส่วนที่เป็นเงินตราต่างประเทศ " ผมจึงเดาว่าเขา hedge เงินลงทุนในเมืองจีน ถึงทำให้ยอดขาดทุนมันสูงขนาดนี้ คงไม่ใช่ hedge รายการซื้อขายทั่วไปมั้ง 2. เขาบอกว่า บริษัท "มียอดคงเหลือของสัญญาขายสิทธิที่จะขายเงินตราต่างประเทศในอนาคต (Option agreements)" น่าจะแปลว่าบริษัท ขาย put option ไป นั่นคือถ้าคนที่ซื้อ option ต้องการใช้สิทธิ ก็สามารถเอาดอลล่าร์มาขาย และ CEI ต้องรับซื้อในราคาที่กำหนดไว้ อันนี้ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า นั่นคือถ้าราคาตลาดต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ เช่นตอนนี้ 39 บาท คนที่ซื้อ option ไป ก็สามารถซื้อเงินในตลาดและเอามาขายให้ CEI ในราคาใช้สิทธิที่สูงกว่า ถ้าถึงกำหนดการใช้สิทธิแล้ว 3. เขาบอกว่า "เป็นวงเงินจำนวนโดยประมาณ 51.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่อัตราแลกเปลี่ยนตามสัญญาระหว่าง 39.15-41.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ" หรือประมาณ 2,057.3 ล้านบาท" ค่าเงินวันที่ 31 ตุลาคม น่าจะอยู่ในราวเกือบ ๆ 41 บาท ก็ไม่น่าจะขาดทุนนะ 4. เขาบอกว่า "ซึ่งมีวันครบกำหนดสัญญาระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2547 ถึงวันที่ 10 ตุลาคม 2548" ดังนั้นวันที่ปิดงบคือ 31 ตุลาคม มันก็ยังไม่ถึงกำหนดใช้สิทธินี่นา มันควรจะเป็นขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด แต่อย่างที่คุณ chatchai บอก ในงบกระแสเงินสด มันบอกว่าขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงมีแค่ 3 ล้านกว่าบาทเอง อันนี้ก็ไม่ค่อยเข้าใจ สรุปแล้ว อ่านไปอ่านมารู้สึกมันขัดแย้งกันในตัว ขอกลับไปคิดเพิ่มก่อน ใครมีความเห็นอะไร ก็เพิ่มเติมได้นะครับ ช่วยกันคิด ช่วยกันขบปัญหา อย่าไปคิดเรื่องหุ้นเลย คิดว่าเป็นการฝึกสมองกันละกัน
โดย
BPT
จันทร์ ธ.ค. 20, 2004 10:40 am
0
0
CEI จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 แล้ว
มีใครช่วยอธิบายหน่อยได้มั้ยครับว่า CEI เขาทำอะไรบ้าง จากคำชี้แจง และรายละเอียดงบการเงินนี้ คำชี้แจงผลการดำเนินงาน 3. บริษัท ฯ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 54.9 ล้านบาท เนื่องจากการใช้ตราสารอนุพันธ์ทางการเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตรา แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ สำหรับสินทรัพย์และหนี้สินส่วนที่เป็นเงินตราต่างประเทศ หมายเหตุประกอบงบการเงิน 13.3 ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2547 บริษัทฯมียอดคงเหลือของสัญญาขายสิทธิที่จะขายเงินตราต่างประเทศในอนาคต (Option agreements) เป็นวงเงินจำนวนโดยประมาณ 51.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่อัตราแลกเปลี่ยนตามสัญญาระหว่าง 39.15-41.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2,057.3 ล้านบาท ซึ่งมีวันครบกำหนดสัญญาระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2547 ถึงวันที่ 10 ตุลาคม 2548 ตกลงขาดทุนจริงๆ หรือขาดทุนทางบัญชีเฉยๆเนี่ย
โดย
BPT
พฤหัสฯ. ธ.ค. 16, 2004 11:30 pm
0
0
มาแล้วครับ CEI ได้เวลารออีกต่อไป
ขาดทุน 80 กว่าล้าน เป็นขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 50 กว่าล้าน ทั้งที่ยอดขายก็เพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้วอีก น่าเสียดายจริงๆ ปีที่แล้วตอนที่ขาดทุน Q2 ยังไม่ขาดทุนมากเท่านี้เลย ทำอะไรกันเนี่ย
โดย
BPT
พฤหัสฯ. ธ.ค. 16, 2004 1:08 pm
0
0
CEI จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 แล้ว
มีใครมีริเสิรช์ของโบรคไหนบ้างมั้ยครับ ขออ่านเป็นข้อมูลหน่อย แต่โดยส่วนตัว ผมมองว่าโอกาสลงกว่านี้มีน้อยกว่าโอกาสขึ้น และถ้าลงคงลงไม่มาก แต่ถ้าขึ้นน่าจะขึ้นเยอะกว่า ผมคิดว่า แค่ขอให้ผลประกอบการเท่าเดิมและจ่ายปันผลเท่าเดิม (ไม่รวมปันผลพิเศษ) คือ 1.10 บาท ก็สุดคุ้มแล้ว กับราคา 9 บาทกว่าๆ ถ้าได้มากกว่านี้ ผมว่าเป็นโบนัส
โดย
BPT
จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 11:06 am
0
0
CEI และ FANCY
CEI ผลงานน่าผิดหวังมาก คาดว่าน่าจะเกิดจากราคาเหล็กที่ขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง และตอนนี้ราคาเหล็กทั้งในประเทศและในตลาดโลกก็ยังอยู่ในระดับสูง ถ้าเป็นอย่างนี้ ทางที่จะรอดได้ก็คือ CEI ต้องขอปรับราคาขายกับลูกค้า คือ Hunter และ Honeywell ถ้าราคาขายถูกบังคับไว้ละก้อ ไตรมาส 3 แย่แน่ ไม่อยากจะคิดเลย จากทีแรกคิดว่าแถวๆ 12 บาทน่าจะเป็นจุดที่น่าสนใจ ตอนนี้คงต้องขอกลับไปคิดใหม่ก่อน
โดย
BPT
พฤหัสฯ. มี.ค. 18, 2004 7:15 pm
0
0
หุ้นที่ราคาลงมาแล้วมากกว่า 60 % จากที่เคยทำได้สูงสุด !!!
DOI จากเกือบ 3 บาท เหลือ 1.20 บาท
โดย
BPT
พฤหัสฯ. มี.ค. 18, 2004 7:09 pm
0
0
เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI
No Pain No Gain. ไม่ว่าคุณจะเลือกเดินบนเส้นทาง VI หรือ VS หรือผสมผสาน หรือไม่ใช่สักอย่าง หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ คุณต้องเรียนรู้ ทำงานอย่างหนัก และแน่นอนต้องยอมรับความผิดพลาดกับความเจ็บปวด และนำไปเป็นบทเรียน พ่อแม่ยังไม่สามารถเลี้ยงเราให้สุขสบายได้ทุกวันเลย ต้องมีวันเจ็บ วันหกล้ม เป็นเรื่องธรรมดา แล้วคุณจะหวังให้คนที่รู้จักกันแค่ผิวเผินมาคอยดูแล เป็นห่วงเป็นไยกันสักขนาดไหน เท่าที่ผมเห็น Motto ของคุณพี่ครรชิต ครบถ้วนและสมบูรณ์มาก แต่ก็เช่นกัน คนที่ต่อว่า หรือคนที่ลงทุนแล้วขาดทุนนั้น มักจะเป็นผู้ที่อ่านไม่ครบ หรือเข้าใจไม่ถึงแก่น ทั้งนี้ เป็นเพราะธรรมชาติของมนุษย์ จะเลือกเสพเฉพาะสิ่งที่ตัวเองต้องการ พอตัวเองรู้สึกว่าอยากซื้อหุ้นตัวนั้นตัวนี้ ก็เอาสารพัดเหตุผลมาอ้าง ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานดี เทคนิคดี อะไรก็ตาม พอหุ้นตกก็หาแพะ การให้ถือเป็นทาน แต่คงไม่ถึงกับต้องไปตามดูแลคนรับให้สุขกายสบายใจมั้งครับ อาจจะฟังดูใจร้ายไปหน่อย แต่ผมว่าการมีคนเจ็บตัวเป็นเรื่องปรกติ แม้แต่การสอนในห้องเรียน ได้ยินพร้อมกัน บางครั้งนักเรียนยังเข้าใจไม่เหมือนกันเลยครับ ไม่ว่าจะเดินสาย VI หรือ VS ย่อมมีคนที่เก่งและคนที่ไม่เก่ง ซึ่งถ้าเข้าใจไม่กระจ่างก็แน่นอนต้องเสียตังครับ
โดย
BPT
ศุกร์ ก.พ. 06, 2004 12:50 pm
0
1
ข่าวJAS เชิญคุณ มน ช่วยวิเคราะห์
ถ้าผู้ถือ JAS-W2 พร้อมใจมาแปลงสภาพทั้งหมดตั้งแต่ครั้งแรกคือ 31 มีนาคม 2547 ละก้อ แน่นอน EPS จะต้องถูกไดลูท และจะทำให้มูลค่าที่แท้จริงต่อหุ้นตกลงไป แต่การที่คนถือวอร์แรนท์จะแปลงสภาพก็น่าจะเกิดจาก 2 สาเหตุคือ 1.จะหมดอายุ หรือ 2.หุ้นสามัญจะจ่ายปันผล สำหรับ JAS-W2 นี้ มีอายุถึงปี 2551 หรืออีก 4 ปี ดังนั้นก็ไม่น่าจะเข้าข่าย ส่วนปันผล JAS ก็พึ่งจะผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ไม่น่าจะสามารถจ่ายปันผลได้มากๆ นอกจากนั้น ที่ราคาแปลงสภาพที่ 0.50 บาท ถ้าหากราคา JAS ยังคงเป็นอย่างปัจจุบันคือ 1.40 บาทโดยประมาณ ราคาที่จะเทรดก็น่าจะอยู่ในราว 0.90 บาท+time value ซึ่งก็เรียกได้ว่ายังสามารถ leverage ได้พอสมควร ดังนั้นย่อมเป็นแรงจูงใจให้ผู้ถือวอร์แรนท์ไม่แปลงสภาพ แต่เลือกที่จะซื้อขายตัววอร์แรนท์ในตลาดแทน ดังนั้นในใจผมคิดว่าไม่น่าจะมีการแปลงสภาพมากนัก ดังนั้น effect ต่อ EPS ในปีสองปีนี้คิดว่าคงไม่เยอะ ขอโทษด้วยถ้าหลักการของผมไม่ค่อยเข้ากับ VI เท่าไรนัก
โดย
BPT
พุธ ก.พ. 04, 2004 3:44 pm
0
0
เราจะทราบได้อย่างไรว่าใคครจะประกาศผลประกอบกาณวันไหน
ปรกติตลาดจะกำหนดให้บริษัทจดทะเบียนส่งงบสิ้นปีภายใน 60 วัน และงบไตรมาสภายใน 45 วัน แบงค์ตกลงกันเองว่าจะนัดกันแจ้งผลพร้อมๆกันประมาณ 30 วัน แต่วันที่จะส่งออกมาเป็นวันไหนนั้นก็แล้วแต่บริษัทครับ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในสัปดาห์สุดท้ายก่อนเดดไลน์ตามนิสัยคนไทย บริษัทที่ใหญ่ๆหน่อย มีความพร้อมทางบัญชีมากหน่อย ก็อาจจะประกาศก่อน บริษัทที่ผลประกอบการดีก็อยากประกาศเร็ว บริษัทที่ประกาศช้า แกล้งดึงจนถึงวันเสาร์อาทิตย์ ส่วนใหญ่ออกมาจะขาดทุน หรือผลประกอบการแย่ลง (อันนี้เป็นข้อสังเกตุนะครับ)
โดย
BPT
พุธ ม.ค. 28, 2004 1:56 pm
0
0
อยากขอแรงเหล่ากูรูในที่นี้ ร่วมกันวิจารณ์ ทางออกของ tpi
นี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่าปัญหาใหญ่ก็คือคุณประชัยกับแบงค์กรุงเทพนั้นเกลียดกันชนิดไม่เผาผีกันแล้ว เพราะนิสัยของคุณประชัยนั้นก็เป็นที่ทราบกันดีกว่า หาคนที่จะรองรับอารมณ์ของแกได้ยาก ยิ่งแกไปลุยกับคุณชาตรี-ชาติศิริ ซึ่งก็เป็นเจ้าสัวใหญ่ไม่เป็นที่สองรองใคร เลยกลายเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ไม่มีใครยอมใคร ดังนั้น ที่แบงค์กรุงเทพต้องการไม่ใช่แค่ปรับโครงสร้างหนี้อย่างเดียว แต่ต้องปรับคุณประชัยออกไปจากการบริหารด้วย ไม่ว่าวิธีใดก็ตาม ส่วนเรื่องการบริหารบริษัททีพีไอนั้น แบงค์กรุงเทพคงคิดว่าสามารถบริหารได้ คุณชาติศิริเองก็จบมาด้านปิโตรเคมีด้วย ทำให้มีความรู้ในธุรกิจนี้เป็นอย่างดี ยิ่งตอนนี้ธุรกิจปิโตรเคมีเป็นขาขึ้นด้วย แทบไม่มีอะไรน่าห่วง ความจริงรัฐบาล CEO อุตส่าห์เข้ามาเป็นตัวกลางโดยการตั้ง 5 อรหันต์มาเป็นผู้บริหารแผนแล้ว แต่พอคุณประชัยระแวงว่ากลุ่มชินจะเข้ามาเป็นตาอยู่คว้าพุงปลาไปกิน ก็ออกมาโวยวาย แฉกันไปกันมาอีก ทั้งคุณบุญคลี ทั้งคุณศิริ ก็เลยหน้านิ่วคิ้วขมวด คราวนี้ก็เลยกลายเป็นคุณประชัยเปิดศึก 2 ด้าน เพราะถ้าผมเป็นผู้บริหารแผน ผมก็คงจะเริ่มเหม็นขี้หน้าคุณประชัยแล้วละ แล้วก็คงเริ่มหันมาหอมขี้หน้าแบงก์กรุงเทพดีกว่า ความจริงถ้าคุณประชัยยอมงอเหมือนคุณสวัสดิ์ NSM ละก้อ เรื่องคงจะจบง่ายกว่านี้ คือยอมถือหุ้นน้อยลงหน่อย และเก็บตัวเงียบ โลว์โพรไฟล์ ไม่สร้างศัตรูเพิ่ม ต้องทำใจว่าตัวเองจะไม่ได้ถือหุ้นใหญ่ในทีพีไออีกต่อไปแล้ว แต่หาทางต่อรองเพื่อเอา TPIPL ออกไปบริหารเองจะดีกว่า แต่นี่สร้างศัตรูไปจนทั่ว เขาก็เลยต้องตัดหญ้าถอนโคน ผมคิดว่าโอกาสถูกลดทุนมีค่อนข้างสูง เพียงแต่ว่าตอนนี้ที่รัฐบาลกำลังหาวิธีคือ ทำอย่างไรไม่ให้รายย่อยเดือดร้อน และแน่นอนคุณประชัยก็รู้ดีว่านี่คือตัวประกันชั้นดี ดังนั้น ด้านคุณประชัยก็ต้องทำทุกวิถีทางให้รายย่อยเข้ามือถือหุ้นทีพีไอให้เยอะที่สุด เพื่อจะให้รัฐบาลพะว้าพะวัง จะลงดาบก็กลัวโดนรายย่อยโวยวาย รัฐบาลก็ออกมาเตือนแบบอ้อมๆหลายๆครั้งแล้ว ทั้งในรูปการห้ามมาร์จิน ห้ามเนทเซท การเตือนการปั่นหุ้น การพูดถึงหุ้นรีแฮบ หุ้นที่มีพีอีเกินร้อยเท่า ผมคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นการไล่รายย่อยให้ออกไปให้มากที่สุด ส่วนที่เหลือก็คงจะต้องเจ็บตัวไป เพียงแต่รัฐบาลอาจมีมาตรการบรรเทาทุกข์ให้บ้าง แบบฟาร์มเลี้ยงไก่ไงครับ ถ้าใครยอมฆ่าไก่เองจะได้ชดเชย 40 บาท+แม่ไก่ ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ถูกลดทุนอาจจะได้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน แต่ถัวออกมาแล้ว เชื่อว่าไม่มีกำไรหรอก เหมือนกับเจ้าของฟาร์มไก่ ที่ไม่ได้กำไรจากมาตรการชดเชยหรอก เพียงแต่ลดการเจ็บตัวลงหน่อยเท่านั้นเอง ดังนั้นในความเห็นผม หุ้นมีตั้ง 400 กว่าตัว ไม่เล่นทีพีไอ จะเป็นอะไรไป ถ้าเล่นต้องการผลตอบแทนสักเท่าไร ตอนนี้ 11-12 บาท กะว่ามันจะไปสักเท่าไรครับ ถ้าหวังแค่ 15-16 บาทละก้อ ซื้อตัวอื่นๆก็มีโอกาสได้เหมือนกัน แล้วจะไปเสี่ยงกับเรื่องเสียวๆแบบนี้ทำไม ขอย้ำอีกครั้ง นี่เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่มีอินไซด์ ไม่มีพวก ไม่ได้อยู่ฝ่ายใด และไม่ได้ถือหุ้นทีพีไอด้วย จะพูดว่าทั้งหมดเดาเอาเองก็ได้ จะมองว่าเป็นจินตนาการ เพ้อฝันไปเองก็ตามใจ โปรดใช้วิจารณญานของท่านเอง
โดย
BPT
พุธ ม.ค. 28, 2004 1:47 pm
0
0
CEI ยังคงมีพื้นฐานดีอยู่หรือไม่ครับ
ผมรอดูหลังไตรมาส 2 ออกครับ ถ้าดีค่อยซื้อ ถ้าไม่ดีก็เลิกดูไปเลย ไตรมาส 2 ของ CEI จะปิดเดือน 1 กว่าจะประกาศก็เดือน 3 กลางเดือน ตอนนี้ ไม่ซื้อ ไม่สะสม
โดย
BPT
พุธ ม.ค. 07, 2004 2:27 pm
0
0
ถ้าเจอเหตุการณ์อย่างนี้ คนที่เป็นvalue investorจะทำอย่างไรดี
คำตอบของคุณ chatchai แสดงให้เห็นถึงการตกผลึกทางความคิดอย่างแท้จริง ผมเชื่อว่าความคิดอันนี้ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ รับรองได้ว่าคุณ chatchai จะต้องลองผิดลองถูก และต้องเสียค่าเล่าเรียนในตลาดหุ้นนี้มาพอสมควร จึงสามารถค้นพบสัจจธรรม และการดำรงชีวิตในตลาดหุ้นอันเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนนี้ได้ ผมขอแสดงความชื่นชมครับ
โดย
BPT
อังคาร ธ.ค. 23, 2003 9:22 pm
0
2
ไทยรุ่ง ทำอย่างนี้ได้อย่างไร
ปรกติเขาให้ทั้งผู้บริหาร และให้ผู้ถือหุ้นด้วย ก็เลยไม่มีใครโวยวาย แต่นี่ให้เฉพาะผู้บริหารอย่างเดียว นอกจากนั้นเมื่อมาดูรายชื่อผู้ที่ได้รับ ปรากฏว่าให้แต่กลุ่มครอบครัวเผอิญโชคทั้งนั้นคือ คุณปราณี คุณสมพงษ์ คุณวุฒิชัย คุณแก้วใจ รวมกัน 22.3 ล้านหน่วย จาก 24.99 ล้านหน่วย ที่เหลือให้พอเป็นกระษัย คนละแสนสองแสน เท่ากับเป็นการแจกเงินคืนให้แก่ครอบครัว ผมไม่ได้ถือไทยรุ่งเลยนะครับ เพียงแต่เห็นแล้วรู้สึกว่าคนที่ถือหุ้นเขาไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ
โดย
BPT
ศุกร์ ธ.ค. 19, 2003 5:02 pm
0
0
ได้เวลาเก็บ fancy ????
ตอนนี้ราคาน้ำยางดี ชาวสวนไม่อยากตัดต้นยาง ราคาวัตถุดิบเลยสูง โครงการปลูกยางภาคอีสานกำลังเริ่ม กว่าจะได้เห็นผล คงต้องรอให้ต้นยางโตพอที่จะกรีดยางได้ ผมไม่รู้ว่ากี่ปี แต่เมื่อถึงตอนนั้น ราคายางคงลดลง รวมทั้งราคาไม้ยางด้วย ผมว่าช่วงนี้ยังไม่ใช่ช่วงที่ดีของ FANCY ถ้าใครจะซื้อเก็บ คงต้องเก็บยาวๆ อย่าไปหวังอะไรสั้นๆ
โดย
BPT
ศุกร์ ธ.ค. 19, 2003 12:47 pm
0
0
ลุงขวด LTX มาตรงเวลา.. LTX :แจ้งมติจ่ายเงินปันผล 1.25 บาท
มั่นคงแน่นอน ยังกะฝากธนาคาร
โดย
BPT
ศุกร์ ธ.ค. 19, 2003 9:51 am
0
0
ได้เวลาเก็บ fancy ????
ลุงขวดครับ TAF ไงครับจ่ายปันผลสม่ำเสมอเหมือนกัน ประมาณ 5 บาททุก 6 เดือน ถ้าดักซื้อที่ราคาต่ำๆหน่อย ก็ได้ปันผลมากกว่า 10% เหมือนกันนะครับ ซื้อเสร็จแล้วก็ลืมไปเลย รอรับปันผลอย่างเดียว ผมเก็บมาตั้งแต่ปีที่แล้ว นี่รับปันผลไป 2-3 งวดแล้ว
โดย
BPT
ศุกร์ ธ.ค. 19, 2003 9:48 am
0
0
CEI ใครรู้งบการเงินแล้วหรือ เห็นมีเด้งวันนี้
เห็นด้วยครับ น่าผิดหวังจริงๆ อุตส่าห์ทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้ตั้งขนาดนี้ กำไรดันลดลงเฉยเลย ต้องรอไปลุ้นไตรมาสหน้าซะแล้ว
โดย
BPT
อังคาร ธ.ค. 16, 2003 12:26 pm
0
0
CEI ใครรู้งบการเงินแล้วหรือ เห็นมีเด้งวันนี้
กำไรไตรมาสแรกน่าจะสูงกว่าไตรมาสแรกปีที่แล้ว ไม่ต่ำกว่า 25 เปอร์เซนต์ ราคาขึ้นตอนนี้แค่สองบาทยังน้อยไป ถ้าเทียบจากราคาต่ำสุด 18.30 บาท น่าจะขึ้นได้อีก เปิดกระชากแล้วตกลง ตอนบ่ายไล่ไปอีก ทำให้โอกาสวันจันทร์เปิดแรงต่อได้
โดย
BPT
ศุกร์ ธ.ค. 12, 2003 10:17 pm
0
0
แฟน TNITY ลองอ่านข่าวนี้แล้วตีความดูหน่อยสิครับ
ขายหุ้นเพิ่มทุนตั้ง 28,000 ล้าน ค่าอันเดอร์ไรท์ 2% ก็ 560 ล้านแล้ว แบ่งกัน 5 ราย แต่ผมสงสัยจังว่าทำไมทรินีตี้ถึงได้เข้าไปหยิบชิ้นปลามันกับเขาด้วย ทั้งที่ไม่ใช่บริษัทลูกของ BBL ซักกะหน่อย และก็ไม่ได้มีคอนเนคชั่นกับต่างประเทศอย่าง เมอร์ริล ภัทร น่าสงสัยมั้ยครับ ว่าเขามีอะไรดี
โดย
BPT
อังคาร ธ.ค. 09, 2003 12:19 pm
0
0
แฟน TNITY ลองอ่านข่าวนี้แล้วตีความดูหน่อยสิครับ
"บัวหลวง"เทขายหุ้นเพิ่มทุนให้ตปท.50% Source - เว็บไซต์มติชน (Th) Tuesday, December 09, 2003 10:14 27024 XTHAI XECON ECO V%NETNEWS P%WMTC เคาะราคาขาย12ธ.ค.-คาดอยู่ที่65-75บ. เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา นายธีระ อภัยวงศ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ แจ้งตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับรายละเอียดการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 28,000 ล้านบาท ว่าผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และผู้ซื้อหุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ(Initial Purchaser) อาจพิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนเกินเป็นจำนวนไม่เกิน 15% ของจำนวนหุ้นที่จะเสนอขายในครั้งนี้ โดยราคาเสนอขายหุ้นต่อนักลงทุนในประเทศจะอ้างอิงกับราคาหุ้นของธนาคารในกระดานซื้อขายหลัก และราคาเสนอขายนักลงทุนในต่างประเทศจะอ้างอิงกับราคาหุ้นในกระดานซื้อขายต่างประเทศคาดว่าจะสามารถประกาศจำนวนและราคาหุ้นที่เสนอขาย ในวันที่ 12 ธันวาคม 2546 นายธีระกล่าวว่า การเสนอขายหุ้นครั้งนี้ จะขายให้กับนักลงทุนสถาบัน 30% เสนอขายให้นักลงทุนในต่างประเทศ 50% และเสนอขายต่อบุคคลทั่วไป 20% เปิดให้จองซื้อวันที่ 1516 ธันวาคม 2546 โดยสามารถจองซื้อได้ที่ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และตัวแทนจำหน่าย ได้แก่บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทรีนีตี้ จำกัด บล.บัวหลวง จำกัด ธนาคารกรุงเทพ บล.แอสเซท พลัส จำกัด (มหาชน) บล.ภัทร จำกัด อนึ่ง ปัจจุบัน ธนาคารกรุงเทพมีผู้ถือหุ้นต่างประเทศ 48% ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บล.กรุงศรีอยุธยา ออกบทวิเคราะห์การขายหุ้นธนาคารกรุงเทพ โดยคาดว่าช่วงราคาเสนอขายหุ้นน่าจะอยู่ระหว่าง 65-75 บาทต่อหุ้น ซึ่งหากขายที่ราคาหุ้นละ 65 บาทต่อหุ้น จะต้องขายหุ้นรวม 431 ล้านหุ้น และทำให้ราคาหุ้นในกระดานลดลง 8.36 บาท หากขายราคา 70 บาท จำนวน 400 ล้านหุ้น ราคาในกระดานจะลดลง 8.50 บาท หากขาย 75 บาท จำนวน 373 ล้านหุ้น ราคาในกระดานจะลดลง 8.62 บาท โดยปี 2547 คาดว่าธนาคารจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 35% เนื่องจากการไถ่ถอนตราสารหนี้กึ่งทุน(แคปส์) ทำให้ประหยัดดอกเบี้ย 3,795 ล้านบาท และมีการขยายสินเชื่อ 3% เป็น 2.33% ในปี 2547
โดย
BPT
อังคาร ธ.ค. 09, 2003 12:16 pm
0
0
CEI
ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผลประกอบการไตรมาส 1 ปีนี้ น่าจะดีกว่าผลประกอบกรไตรมาส 1 ปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 25% เพียงแต่ที่จะต้องคิดก็คือว่า ราคา 18-19 บาท เหมาะสมหรือไม่
โดย
BPT
เสาร์ ธ.ค. 06, 2003 11:45 am
0
0
GFPT น่าสงสารจัง
อุตส่าห์ฟื้นกลับมาในไตรมาส 3 แค่งวดเดียว ปิดงบสิ้นปีคงไม่สวย ปันผลปีนี้คงสู้ปีก่อนไม่ได้ รอราคาตกแล้วค่อยเก็บสำหรับผลประกอบการปีหน้าละกัน
โดย
BPT
พฤหัสฯ. ธ.ค. 04, 2003 12:18 pm
0
0
CNS หุ้นที่มีอะไรดีๆซ่อนอยู่
อาจจะขยับตัวช้ากว่าคนอื่น แต่ก็เริ่มๆมาแล้ว
โดย
BPT
พฤหัสฯ. ธ.ค. 04, 2003 12:15 pm
0
0
แฟน TNITY ลองอ่านข่าวนี้แล้วตีความดูหน่อยสิครับ
อ่านคำชี้แจงดีๆนะครับ "อาจได้ไม่ถึงจำนวนดังกล่าว" แปลว่า ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงหรือเปล่าน้า ถ้าสมมุติว่าได้สัก 100 ล้านก็พอ รายได้ปีนี้จะเป็นเท่าไรลองคิดกันดูเล่นๆดีมั้ย
โดย
BPT
จันทร์ ธ.ค. 01, 2003 4:28 pm
0
0
CNS หุ้นที่มีอะไรดีๆซ่อนอยู่
ปิดสมุดบัญชีผู้ถือหุ้น เพื่อรับปันผลวันที่ 1 ธันวา ก็ต้อง XD 3 วันล่วงหน้า พยายามเข้าไปดูใน www.set.or.th แต่เข้าไม่ได้เลย แต่ก็น่าจะเป็นวันพุธนี้ หลัง xd ราคาคงตกลงไปตามจำนวนคือ 1.70 บาท แต่ถ้าราคาไม่ตกก็เท่ากับรับปันผลมาฟรีๆ
โดย
BPT
อังคาร พ.ย. 25, 2003 11:55 am
0
0
CNS หุ้นที่มีอะไรดีๆซ่อนอยู่
แหม ช่วยๆกันดูงบหน่อยสิครับ เล่นถามลูกเดียว คนไปค้นข้อมูลก็เหนื่อยแย่สิครับ เรื่องหนี้สินนั้นในงบสิ้นปี (สิงหา) มีแต่ securities payable กับ account with securities companies ซึ่งเป็นรายการปรกติที่จะต้องมีในการเป็นโบรกเกอร์ ซึ่งฝั่งสินทรัพย์ก็จะมีรายการแบบเดียวกันคือ securites receivable สองรายการนี้เกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนอย่างเราๆสั่งซื้อแต่ยังไม่จ่ายเงินไงละ่ครับ กว่าจะจ่ายเงินก็วันที่ 3 ดังนั้นก็เลยมีรายการเจ้าหนี้ ลูกหนี้เกิดขึ้น ซึ่งผมมองว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ดังนั้นส่วนของเงินสดและเงินลงทุนจึงเป็นส่วนที่ปลอดหนี้ ซึ่งแน่นอนบางส่วนคงต้องเก็บไว้เป็นสภาพคล่อง แต่เมื่อดูจากเปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับโบรกอื่นๆ แล้ว ผมค่อนข้างมั่นใจว่า CNS มีเงินสดและเงินลงทุนมากกว่าที่จะใช้ในการดำเนินธุรกิจปรกติ เรื่องวอลุ่มเทรด เมื่อปีที่แล้วมีวอลุ่ม 7-8 พันล้าน ก็ดีใจกันแย่แล้ว มาช่วงครึ่งหลังปีนี้ เห็นวอลุ่ม 3 หมื่นล้านกันเป็นว่าเล่น บางวันเข้าไปตั้ง 5-6 หมื่นล้าน พอหุ้นตกไป 2-3 อาทิตย์ วอลุ่มตกไปเป็น 2 หมื่นกว่าล้านกลับเริ่มห่วงว่าวอลุ่มน้อยแล้วธุรกิจจะแย่ ผมว่า 2 หมื่นล้านก็พอแล้วครับ อิ่มหมีพีมันแล้ว ยิ่งบริษัทที่มีฐานลูกค้าแน่น จะยิ่งได้เปรียบ ที่สำคัญขอให้มีวอลุ่ม รายย่อยจะขาดทุนหรือกำไร โบรกไม่เกี่ยว รับลูกเดียว ส่วนเรื่องที่ว่าเงินลงทุนลงในอะไรบ้างนั้น ผมยังไม่ได้ไปดูรายละเอียดงบ แต่เข้าใจว่าหากเป็นการลงทุนระยะสั้น ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยว่า่ถืออะไรบ้าง แต่ก็มักจะ mark to market คือลงตามราคาซื้อขายในตลาด และอย่าลืมว่าช่วงสิงหาถึงพฤศจิกามานี้ set ขึ้นไปเท่าไร แม้ว่าอาทิตย์ที่แล้วจะตกลงมาเยอะ แต่ถ้าเทียบกับเมื่อเดือนสิงหาก็ยังนับว่าขึ้นมามากอยู่ดี ดังนั้นมูลค่าเงินลงทุนน่าจะเพิ่มขึ้นพอสมควร หากใครมีรายละเอียดเรื่องเงินลงทุน ก็เชิญเข้ามาแชร์กันนะครับ จะได้เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย
โดย
BPT
อาทิตย์ พ.ย. 23, 2003 10:55 pm
0
0
CNS หุ้นที่มีอะไรดีๆซ่อนอยู่
อีกอย่างหนึ่งคือ CNS ไม่มีพวก warrant ให้สับสนในการคำนวณด้วย ในขณะที่ KGI มี warrant ซึ่งจะทำให้มูลค่าต่อหุ้นไดลูทลงได้อีก
โดย
BPT
เสาร์ พ.ย. 22, 2003 3:38 pm
0
0
บทเรียนการปรับฐานครั้งนี้ อยากให้ VI หน้าใหม่ดูเป็นกรณีศึกษา
เป็นกระทู้ที่ดีจริงๆครับ ผมลงทุนค่อนข้างจะเน้นที่เงินปันผลเป็นหลัก เพราะมันเป็นสิ่งที่จับต้องได้ บริษัทที่ทำกำไรดี แต่ไม่ค่อยยอมจ่ายปันผลนั้น ถ้าหากไม่มีคนเห็นมูลค่าแล้วเข้ามาซื้อ ก็จะเกิดอาการราคานิ่ง ต้องคอยโฆษณาให้คนเห็นดีเห็นงามด้วย ต่างกับบริษัทที่จ่ายปันผล สมมุติว่าราคาปัจจุบันเมื่อเทียบกับเงินปันผลแล้วเท่ากับผลตอบแทน 8% ผมก็จะไม่ห่วงว่าราคาจะตกลงไปเท่าไร ตราบใดที่ผมมั่นใจว่าธุรกิจในปีนี้และปีต่อๆไปน่าจะมีผลประกอบการที่ไม่แย่ไปกว่าเดิม ยิ่งราคาตกยิ่งต้องไปหาเงินมาซื้อ เช่น ถ้าราคาตกไป 20% จะเท่ากับผลตอบแทนขึ้นเป็น 10%(8%/80%) ถ้าหากว่าเผอิญมีคนเข้ามาไล่ราคาจนสูง ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องยึดมั่นในอุดมการณ์ว่าจะไม่ขาย เพราะถึงกิจการดีแต่มีคนให้ราคาสูง ผมก็จะขายแล้วไปหากิจการดีที่ราคายังต่ำอยู่มาถือต่อไป อย่าง GFPT ผมก็ติดพร้อมๆกับคุณประจวบเหมือนกัน แต่หลังจากเพิ่มทุนแล้ว ก็รอและสามารถขายไปพร้อมได้กำไรใกล้เคียงกัน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้ขายที่พีค อย่างปีนี้เนื่องจากไตรมาส 1 และ 2 ค่อนข้างจะไม่ดี มาได้ไตรมาส 3 ช่วยไว้ คิดว่ากำไรรวมทั้งปีคงต่ำกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย ปีที่แล้วจ่ายปันผล 5 บาท ปีนี้คงอยู่ในราว 4-4.5 บาท แต่เนื่องจากมีการเพิ่มทุน เงินปันผลต่อหุ้นจึงน่าจะอยู่ราว 2.0-2.25 บาท ถ้าซื้อได้ที่ราคา 25 บาทก็น่าจะปลอดภัย ถ้าซื้อสูงกว่านั้นก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่ก็พอจะรู้ว่าฐานอยู่ตรงไหน อย่างตอนนี้ราคาอยู่ราวๆ 27.50 บาท อย่างมากก็ขาดทุน 2.50 บาทถ้าตลาดแย่มากๆ แต่ถ้าเกิดปลายปีกำไรออกมาดีจ่ายปันผลสัก 2.75-3.00 บาทละก็ คงจะได้กำไรเพิ่มจากทั้งปันผลและราคาที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้ผมก็มองๆอยู่ ผมคิดว่าการเป็นนักลงทุนก็ต้องดูจังหวะเหมือนกัน แต่จังหวะมันจะไม่ใช่รอบแบบเดียวกับนักเก็งกำไร มันจะเป็นตามวงจรธุรกิจมากกว่าวงจรหุ้น
โดย
BPT
พุธ พ.ย. 19, 2003 1:34 pm
0
2
แค่ไหนถึงเรียกว่าเป็น VI
คนไม่เจ็บ ไม่มีใครเข้าใจหรอกครับ ลองถามบรรดา VI ทั้งหลายในห้องนี้สิครับ มีใครไม่เคยเจ็บจากการเก็งกำไรมาก่อนบ้าง ถ้าไม่เคยเจ็บหนักๆ คงยากที่จะทนความเย้ายวนของการเก็งกำไรลำบาก ทีสำคัญคืออธิบายให้ฟัง ก็ไม่เข้าใจว่าความเสี่ยงจากการผันผวนของราคามันเป็นอย่างไร และความสุขของการได้ซื้อหุ้นแล้วไม่ต้องเลือดสูบฉีด เสี่ยงกับหัวใจวายในทุกๆวันมันเป็นอย่างไร เรื่องนี้ไม่ต้องไปคาดหวังหรอกครับ สำหรับนักลงทุนมือใหม่ มันเป็นสัจจธรรมของโลก ที่แมงเม่าต้องบินเข้ากองไฟ
โดย
BPT
พุธ พ.ย. 12, 2003 10:46 pm
0
1
ผู้แพ้เห็นปัญหาในโอกาส คนชนะเห็นโอกาสในปัญหา
เรื่องประกันนี่น่าสนใจนะครับ ผมเคยไปไล่ดูงบการเงินของกลุ่มประกันภัยมา เท่าที่จำได้รู้สึกว่า บริษัทที่มีพอร์ตลงทุนขนาดใหญ่ และจะได้รับผลดีจากภาวะตลาดหลักทรัพย์ขณะนี้อย่างเต็มๆ ก็มีอยู่ 3 ตัวคือ BKI, PHA, และ AYUD ตอนนี้ PHA ประกาศผลการดำเนินงานไปแล้วและก็เป็นอย่างที่คิดคือกำไรจากพอร์ตมาตั้ง 100 กว่าล้าน ซึ่งในบรรดา 3 ตัวนี้ PHA เป็นตัวที่ลงทุนในตลาดหุ้นน้อยกว่าเพื่อน คือไปลงทุนในพวกหุ้นกู้ และตราสารหนี้ซะเยอะ เมื่อเทียบกับ AYUD และ BKI ดังนั้น ทั้งสองตัวที่เหลือ เมื่อประกาศผลประกอบการ น่าจะยิ้มได้กว้างๆ ยิ่งพี่ครรชิตเอาพอร์ตมาให้ดูก็ฉุกคิดขึ้นมาได้อีกว่า AYUD เป็นบริษัทในเครือ BAY น่าจะได้จองหุ้นเพิ่มทุนพร้อมวอร์แรนท์มาอีกพอสมควร ถ้าคิดจากราคาตอนนี้บวกราคาวอร์แรนท์ ก็กำไรบานเบอะแล้ว ส่วนราคาที่พี่ครรชิตบอกนั้น ขอเพิ่มนิดนึงว่า AYUD ที่ 110 บาทนั้นเป็นที่พาร์ 10 เมืื่อสิงหา 03 ได้แตกพาร์เหลือ 1 บาทที่ราคาประมาณ 190 หรือเท่ากับ 19 บาท
โดย
BPT
พุธ พ.ย. 12, 2003 10:33 pm
0
0
แบงค์ชาตินี่แหละเป็นคนบังคับให้ต่างชาติเทขาย
เมื่อวานรายย่อยตกใจ เทขายกันอุตลุด วันนี้ซื้อกลับ แต่ก็ยังเจอว่าต่างชาติยังคงขายอีก ถ้าพรุ่งนี้ตกใจอีก ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
โดย
BPT
พุธ พ.ย. 12, 2003 7:07 pm
0
0
แบงค์ชาตินี่แหละเป็นคนบังคับให้ต่างชาติเทขาย
โดนบีบไปเรื่อยๆ จะทำแบบเก่าๆ ก็ไม่สำเร็จ เพราะเดี๋ยวนี้แบงค์ชาติฉลาดขึ้นมาก ขนาดจะหนีออกไปทำธุรกรรมในสิงคโปร์ ก็ยังโดนแบงค์ชาติใช้อำนาจในประเทศจัดการทางอ้อมได้อีก ทำถึงขนาดนี้คงถอดใจไปแล้ว สัญญาที่ทำไว้ ไม่มีวิธีจะส่งมอบ ก็ต้องขายหุ้นทิ้งในตลาดนี่แหละ ขายไม่ได้ราคาก็ต้องเอา สมน้ำหน้า
โดย
BPT
พุธ พ.ย. 12, 2003 6:35 pm
0
0
ดัชนีตลาดเกือบ 700 จุดทำให้เพื่อนๆหาหุ้นเก็บยากมั้ยครับ
บอกเลยก็ได้ครับ ไม่ได้เป็นความลับอะไร เพราะสตางค์ก็มีไม่มาก กว่าจะเก็บตังค์ได้แต่ละเดือนค่อยซื้อ ราคาก็ไม่เปลี่ยน ว่าแต่คุณเอกกับคุณ Jeng จะทนถือได้หรือเปล่า เพราะราคามันไม่ค่อยวิ่งเลยนะ ตัวที่ผมซื้อก็มี TAF เพราะจ่ายปันผลดีจ่ายปีละ 10 บาทแต่จ่ายกลางปีไปแล้ว 5 บาท ถ้าถือทั้งปี จากราคาที่ผมเริ่มซื้อคือ 83 บาท ก็ได้ผลตอบแทน 12% โดยประมาณ ผลประกอบการก็ค่อนข้างคงที่ ยังไงปลายปีก็คงจ่ายเหมือนเดิม มีเงินเหลือก็ซื้อเก็บไปเรื่อยๆ ช่วงตลาดซบเซา ซื้อไม่ค่อยได้หรอกครับ ช่วงตลาดบูม มีคนปล่อยออกมาให้ทีละนิดละหน่อย ก็เก็บไปตามประสาคนเบี้ยน้อยหอยน้อย อีกตัวก็ F&D ตัวนี้ปรับโครงสร้างหนี้ไป 2-3 ปีแล้ว และปีที่แล้วก็เริ่มจ่ายปันผลได้ 3 บาท ปีนี้ผลการดำเนินงานค่อนข้างฉวัดเฉวียน ไตรมาส 1 ดี ไตรมาส 2 ไม่ค่อยดี ต้องรอดูไตรมาส 3 แต่ถ้าจ่ายปันผลเท่าเดิมคือ 3 บาทก็ได้ 7.5% แต่ผมหวังไว้มากกว่านั้นคือสัก 3.50-4.00 บาท คือราวๆ 10% ที่รอซื้อเก็บอีกตัวก็คือ DELTA แต่รอให้ effect จากผลประกอบการไตรมาส 3 จางซะก่อน ต้องดูดีๆ เพราะ DELTA เดิมจ่ายปันผล 2.75 บาท ถ้าจำไม่ผิด ผลการดำเนินงานปีนี้คงลดลงเพราะค่าเงิน แต่ที่ขาดทุนมากเพราะงบของบริษัทที่ไปซื้อมา ไอ้ที่ขาดทุนนั้นมันเป็นเรื่องของเจ้าของเดิม แต่เนื่องจากงบต้อง conso ตั้งแต่ต้นปี ก็เลยติดขาดทุนมาด้วย ถ้าราคาตกมากๆ ก็น่าซื้อได้ พวก export ไก่ กุ้ง ตอนนี้ผมเลิกดูไปเลย เพราะค่าเงินขนาดนี้ สงสัยจะลำบากกันหมด แต่ตอนนี้กำลังทะยอยออกงบไตรมาส 3 เห็นวันนี้กลุ่มเกษตรขึ้นแรง ดูน่าหวาดเสียวจัง หุ้นที่ผมซื้อ จะ set 500 หรือ set 700 ราคามันก็อย่างงี้แหละ ถุกใจมั้ยครับ
โดย
BPT
จันทร์ พ.ย. 10, 2003 9:18 pm
0
0
ดัชนีตลาดเกือบ 700 จุดทำให้เพื่อนๆหาหุ้นเก็บยากมั้ยครับ
ไม่ยากเลยครับ ยิ่งตลาดหุ้นขึ้นแบบนี้ หุ้นที่ผมเก็บไม่ค่อยมีคนสนใจ แถมเผลอๆยังมีการขายลดราคาล้างสต๊อกลงมาอีก ที่ยากคือหาเงินมาซื้อครับ ไม่ใช่หาหุ้น ตอนนี้ผมตั้งหน้าตั้งตาเก็บอยู่ 2-3 ตัวเท่านั้นแหละครับ
โดย
BPT
จันทร์ พ.ย. 10, 2003 12:36 pm
0
0
พี่ๆ ช่วยวิเคราะห์ F&D หน่อยครับ
คุณ CK ราคามันเริ่มไหลๆกลับมาแล้ว คุณจะตั้งซื้อก็เชิญนะครับ ตอนนี้ผมขอพักก่อน ติดพันตัวอื่นอยู่ แต่ผมว่ารออีกสักเดือนสองเดือน ให้ตลาดเงียบๆก่อน ราคาน่าจะไหลลงมาได้ แต่ความจริงตอนที่ผมได้ ผมก็ตกใจนะ เพราะตั้งรอไว้เล่นๆ โดนเคาะทีเดียวทั้งล๊อตเลย
โดย
BPT
อังคาร ส.ค. 19, 2003 1:13 pm
0
0
ท่านเจ๋งครับ อยากทราบโครงการคนร้อยหุ้นมี หุ้น STA มั๊ยครับ
ผมก็คิดเหมือนคุณลูกอีสานเหมือนกัน แต่ยังไม่คัตลอส ความจริงคิดว่าผลประกอบการจะออกมาดีตั้งแต่ไตรมาสแรก ปรากฎว่ารายได้เพิ่ม กำไรลง ราคาร่วงจาก 36 บาทเป็น 28 บาท ก็ไม่ขายคิดว่าไตรมาส 2 จะพลิกกลับมาตามที่คุณมือใหม่บอก เห็นข่าวเพิ่มทุนก็ยังคิดว่าคงจะมีข่าวดีตามหลังถึงกล้าออกข่าวเพิ่มทุนก่อน พอผลประกอบการออกแทบเป็นลม ราคาร่วงจาก 34 บาทเหลือ 27 บาท ตอนนี้ค่อยตีตื้นขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังไม่ได้ขายออกไปเลย ถ้าคุณ milkshaq จะซื้อตอนนี้ ผมว่ายังไงก็ยังได้เปรียบคนที่ซื้อก่อนเพราะต้นทุนจะอยู่ในราว 30 กว่าบาท ความเห็นของคุณมือใหม่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้มีความหวังขึ้นมาบ้าง
โดย
BPT
อังคาร ส.ค. 19, 2003 1:09 pm
0
0
เรียนถามเรื่องหุ้น CEI
ไม่ต้องใช้ข้อมูลภายในหรอกครับ ใช้ข้อมูลภายนอกก็พอแล้ว งบที่ผ่านมา 9 เดือนก็บอกค่อนข้างชัดเจนว่ากำไรจะลดลงมาก อาจจะ 40-50% ปีที่แล้วจ่ายปันผล 35 บาท (พาร์ 10) ปีนี้ก็อาจจะเหลือ 1.40-1.75 บาท คุณก็ลองคำนวณดูเองว่าคุณจะให้ราคาเท่าไร สำหรับผลตอบแทนระดับนี้
โดย
BPT
พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2003 9:24 pm
0
0
ผิดไหมถ้าคิดจะเก็งกำไร
คนเราอย่าไปยึดติดครับ ไม่ว่าจะเป็น VS หรือ VI ขอให้เชี่ยวชาญ ล้วนแต่มีประโยชน์ อยู่ในตลาดหุ้นไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด ที่สำคัญต้องรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ เช่นถ้าคุณบอกว่าจะเก็งกำไร BT คุณคิดว่าราคามันควรจะเป็นเท่าไร เพราะอะไร เพราะพื้นฐานมันควรจะเป็น xx บาท หรือเพราะเทคนิเคิลบอกอะไรคุณ แต่หวังว่าคงไม่ใช่เพราะเห็นว่าราคามันต่ำ เพราะนั่นไม่ได้เป็นการบอกว่าคุณกำลังเก็งกำไร อาจจะเก็งขาดทุนก็ได้ ถ้าคุณไม่รู้ว่าเพราะอะไรคุณถึงจะมีกำไร ขอให้โชคดีกับตลาดหุ้นครับ
โดย
BPT
พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2003 9:20 pm
0
0
เป็น Buffet จะทำไงครับกับ CPL พี่ๆช่วยคิดหน่อย
ผมซื้อตัวนี้ตั้งแต่ปี 01 ที่ 27-28 บาท เพราะเห็นว่า EPS สูง กะว่าจะจ่ายปันผลได้เยอะ (กะไว้ 3 บาทตอนนั้น) ที่ไหนได้จ่ายแค่ 2 บาทเท่านั้น เพราะเอาเงินสดไปซื้อวัตถุดิบสต๊อกไว้ ก็เลยขายไปด้วยความไร้เดียงสา พอปี 02 คือปีที่แล้วผลของการเก็บสต๊อกในราคาต่ำก็ส่งผล เพราะกำไรเพิ่มขึ้นปรู๊ดปร๊าด แล้วก็จ่ายปันผลตั้ง 4 บาท ซึ่งความจริงมีข่าวลือตั้งแต่ Q2 แล้วเรื่องว่าจะจ่ายปันผลมากนี้ พอปี 03 ผมจึงไม่แปลกใจที่ผลประกอบการจะแย่ลง เพราะสต๊อกต้นทุนต่ำหมดไปแล้ว แต่ตลาดใช้เวลาปรับตัวนานมาก ผมว่าจะกลับไปดูตัวนี้อีกที ก็ต่อเมื่อราคากลับไปแถวๆ 27-28 บาท หรือต่ำกว่านั้นแต่สำหรับคุณเจ้าของกระทู้ ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เพราะซื้อไปแล้ว ตัวผมเองยังไม่ซื้อ จึงสามารถเขียนอย่างนี้ได้ คือถ้าไม่ลงก็ไม่ซื้อ แต่ไม่ได้หมายความว่าราคาจะต้องลงแน่ๆ เพราะหุ้นคือความไม่แน่นอน
โดย
BPT
พุธ ส.ค. 13, 2003 5:32 pm
0
0
TAF :การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 5.00 บาท
มิน่า จากหุ้นไม่มีสภาพคล่อง ช่วง 2-3 อาทิตย์ก่อนซื้อขายกันคึกคักเชียว ปีที่แล้วจายกลางปี 3 บาท ปลายปีอีก 7 บาท ปีนี้เริ่มจาก 5 บาท ปลายปีจะมีอีกเท่าไร ยินดีกับผู้ที่ถือไว้ด้วยครับ แต่ผมสงสัยกับคุณผ่านมาว่าทำไมหุ้นจ่ายปันผลเยอะ คุณถึงรู้สึกว่ารับไม่ได้ ขายทิ้งหมด ถ้าผมมี ผมจะเก็บรอรับปันผลไปเรื่อยๆเลย
โดย
BPT
อังคาร ส.ค. 12, 2003 8:37 pm
0
0
BROOK :สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และบริษัทย่อยไตรมาสที่ 2
แค่ขาดทุนน้อยลง หุ้นขึ้นกระจุยกระจาย เฮ้อ มันก็ยังขาดทุนอยู่นะเนี่ย แถมยังมีวอร์แรนท์อีก พี่ไทยเราใจสู้จริงๆ
โดย
BPT
อังคาร ส.ค. 12, 2003 8:33 pm
0
0
CPF จ่ายเงินปันผล 0.05 บาท ( เย...เบาๆ )
GFPT หรือครับ อย่าลืมว่าจำนวนหุ้นเบิ้ลขึ้นมาเท่าหนึ่งจากการเพิ่มทุนนะครับ
โดย
BPT
อังคาร ส.ค. 12, 2003 8:29 pm
0
0
DCC กำไร 0.26 บาท/หุ้น รวมครึ่งปี 0.49 บาท/หุ้น
ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว
โดย
BPT
อังคาร ส.ค. 12, 2003 8:26 pm
0
0
พี่ๆ ช่วยวิเคราะห์ F&D หน่อยครับ
ผมตั้งรอตั้งแต่ 2-3 อาทิตย์ที่แล้ว แถวๆ 35 บาท ได้มาสามพันหุ้นเอง แล้วใครก็ไม่รู้มาแย่งซื้อตลอดเลย จนขึ้นไป 39 บาทแล้ว เลยเลิกตามเลย กะว่าได้แค่นี้ก็เอาแค่นี้
โดย
BPT
ศุกร์ ส.ค. 08, 2003 10:54 pm
0
0
เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น
วันก่อนผมพยายาม sort หุ้นที่มี dividend yield สูงๆมาดู ยังทำได้ไม่หมดทุกตัว แต่เอามาให้ดูกันก่อนก็ได้ Securities Close %Change P/E P/B Dividend Yeild (%) TWFP 95 2.15 9.93 1.41 16.84 TAF 92 10.84 8.93 3.51 11.96 ASIAN 8.4 1.2 8.1 0.97 10.32 CPI 4.8 0.42 8.51 1.66 9.58 MAKRO 38.5 0 9.78 1.01 9.09 SSF 3.2 0 1,748.98 0.78 8.85 IRCP 6.9 -2.13 0 0 8.3 T-LUXE 14.5 0.69 9.48 0.73 8.28 ดูๆแล้วก็ยังมีตัวที่น่าสนใจอยู่เหมือนกันนะเนี่ย
โดย
BPT
อังคาร ส.ค. 05, 2003 9:28 pm
0
0
TMB วิกฤติคือโอกาส
จริงๆแล้ว หุ้นแบงค์ผมชอบ KBANK เป็นอันดับหนึ่ง เพราะทันสมัยดี พนักงานเก่ง และหัวสมัยใหม่ มีแต่หนุ่มๆสาวๆเป็นผู้บริหารทั้งนั้น ที่สำคัญต้นปีหน้าก็จะรีไฟแนนซ์ slips แล้ว กำไรจะเพิ่มอีกเป็นพันล้าน ตอนนี้กำลังรอเก็บอยู่ แต่ยังไม่ได้จังหวะดีๆสักที อันดับสองผมชอบ SCB เพราะตั้งแต่ได้อัพเกรดมา ราคายังไม่ค่อยได้ขยับเท่าไร แต่ก็ไม่ได้รีบ เพราะคิดว่าคงมีอ่อนตัวลงมาให้เก็บได้ นอกจากนั้น ผมก็มี DTDB-W1 เพราะปีหน้าก็จะรีไฟแนนซ์ slips เหมือนกัน แต่รู้สึกจะเป็นกลางๆปี ถ้ากำไรเพิ่มขึ้น ราคาวอร์แรนท์คงไปเร็ว และตัวนี้รู้สึกจะหมดอายุปี 2005 ซึ่งน่าจะพอทัน แต่ตัวนี้ผมเองก็ระวังอยู่เหมือนกัน ถ้าใกล้หมดอายุ (คือเหลือสัก 9 เดือน ผมคงต้องปล่อยไป)
โดย
BPT
จันทร์ ส.ค. 04, 2003 6:33 pm
0
0
หุ้นปั่น KGI-w4 ดูออกไหม
หุ้นพวกนี้ ถ้าคุณเป็นนักลงทุน อย่าเข้าไปยุ่งด้วยเป็นดีที่สุด แต่ถ้าคุณมีดวงในเชิงการพนัน เช่นมักจะเล่นไพ่ได้อยู่เสมอ มีซิกเซ้นส์ ซื้อหวย ล๊อตเตอรี่ก็ถูกบ่อย พนันบอลก็มีกำไรเป็นกอบเป็นกำ คุณอาจจะเหมาะสมกับหุ้นพวกนี้ แต่ที่ผมเห็นส่วนใหญ่จะหมดตัวกันซะมาก แต่แปลกที่ไม่มีใครเข็ด ไม่มีใครกลัว ตัวนี้ KGI-W4 รอดูตอนหมดอายุนะครับ จะมีคนคร่ำครวญกันเต็มไปหมด
โดย
BPT
จันทร์ ส.ค. 04, 2003 6:21 pm
0
0
ถามจริงๆ ตอนนี้มีใครออนไลน์กี่คน
ผมพึ่งเข้ามาครับ
โดย
BPT
จันทร์ ส.ค. 04, 2003 6:13 pm
0
0
พี่ครรชิตครับ ข่าวนี้อาจมีผลกับ TWFP ครับ
ถ้าเจ้าหนี้ถือหุ้นหนึ่งในสามของไทยวา ตัวไทยวาฟูดส์จะยังคงจ่ายปันผล 90% เหมือนเดิมหรือไม่ ผมยังไม่มีคำตอบนะครับ เพราะยังคิดไม่ออกเหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าของเดิมรีบจ่ายปันผลให้เยอะๆก่อนที่เจ้าหนี้จะเข้ามา หรือถูกเจ้าหนี้บังคับให้จ่ายปันผลเยอะๆเพื่อคืนหนี้
โดย
BPT
จันทร์ ส.ค. 04, 2003 3:49 pm
0
0
108 โพสต์
of 3
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
BPT
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
จันทร์ มี.ค. 17, 2003 2:15 pm
ใช้งานล่าสุด:
จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:01 pm
โพสต์ทั้งหมด:
143 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.02 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว