หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
nuttagan
Joined: เสาร์ เม.ย. 21, 2007 3:19 pm
57
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - nuttagan
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)
กำลังตามไปอย่างช้าช้าครับ
โดย
nuttagan
อาทิตย์ ต.ค. 12, 2014 8:59 pm
0
2
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
ยินดีด้วยกับทุกๆท่าน ที่ประสพความสำเร็จตามที่หวัง เห็นพอร์ต คุณ nuttagan ดูดีมาก อยากถาม คุณnuttagan ถึง วันเวลา สถานะการณ์ อะไรที่เหมาะในการซื้อหุ้น หรือ ขายหุ้น หลังจากเลือกหุ้นได้แล้ว อยากได้คำตอบแบบที่ปฎิบัติจริงๆครับ ยินดีรับรับความรู้จากท่านอื่นๆด้วยครับ แต่ที่เน้น คุณnuttagan เพราะ เห็นอัตรากำไรแล้วน่าสนใจ ซื้อตอนเกิดเหตุการวิกฤตครับ (ราคาหุ้นลงไปมากกว่า 30 เปอร์เซนต์ ต้องอดใจรอครับ) และ ขายตอนราคาหุ้นเกินมูลค่ามากมากครับ หุ้นที่จะซื้อส่วนใหญ่ เป็นหุ้นที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ 1-3 ของอุตสหกรรมนั้น โอกาสที่คู่แข่งจะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดยาก และ เป็นหุ้นที่คิดว่ามีอนาคต อันสุดท้าย จะไม่ซื้อหุ้นที่มี market cap ใหญ่ จะเน้น ขนาดกลาง กลับเล็ก เพราะว่า มันสามารถโตเป็นหลายเท่าตัวได้
โดย
nuttagan
อาทิตย์ ต.ค. 05, 2014 6:29 pm
0
3
Re: ถือเงินสดกันกี่เปอเซนต์ ในสถานะการแบบนี้
ความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าถือหุ้น 100 เปอร์เซนต์อันตรายมากครับ เพราะ ตัวที่พื้นฐานดี หลายตัวก็ลงมาครับ ถ้าตลาดเป็นช่วงตลาดหมีที่กินเวลานานหลายปี (ซึ่งไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้) และ เกิดมีความจำเป็นต้องใช้เงิน และ ถ้าโชคร้ายอีก รายได้เดิม จากธุรกิจ หรือ งานประจำ เกิดสะดุด จะหายนะเลยล่ะครับ ยกเว้น กรณีพอรต์ใหญ่มาก ที่มีปันผลเพียงพอที่ดำรงชีวิตอยู่แล้ว
โดย
nuttagan
เสาร์ ม.ค. 11, 2014 9:10 pm
0
1
Re: เพื่อนชาว vi มีใคร cutloss หุ้น เนื่องจากเหตุการทางการเม
ผมคิดว่าการลงทุนแบบ vi บางครั้ง การ cut loss อาจจะเจ็บหนัก เพราะเมื่อรู้ว่าพื้นฐานเปลี่ยนราคาก็ลงไปเยอะแล้วกว่านักเก็งกำไรทีมีวินัยตั้งจุด stop loss ไว้
โดย
nuttagan
เสาร์ ม.ค. 04, 2014 7:26 pm
0
3
Re: ถ้า PE ของหุ้นส่วนใหญ่ในตลาด เกิน 60 เท่า VI จะเลือกถือเ
มองตามในแง่เหตุผล ยังไงผมก็ขายครับ อาจจะขายออกไปตั้งแต่ pe 30 ซะด้วยครับ ผมถือหลักที่ว่า ไม่กลัวตกรถครับ เป็นเรื่องปกตินะเพราะผมเห็นหุ้นในตลาดตอนนี้ที่ pe 30กว่า มีหลายตัวที่มีเซียนหุ้น VI ถือเป็นผู้ถือหุ่นรายใหญ่ด้วย
โดย
nuttagan
จันทร์ ก.ค. 29, 2013 12:25 pm
0
0
Re: เพื่อนๆ ชาว VI ทำกิจกรรมอะไรกันครับเพื่อผ่อนคลายความเครี
แสดงว่า vi ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำงานประจำหรือเปล่าครับ VI ส่วนใหญ่น่าจะมีอิสระภาพทางการเงินแล้ว ส่วนใหญ่ มีพอร์ตประมาณ 8 หลักขึ้น
โดย
nuttagan
ศุกร์ ก.ค. 12, 2013 12:12 pm
0
1
Re: อย่าลืม
เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ตลาดปรับฐานรอบนี้เพราะ ที่ผ่านมาขึ้นเร็วและแรงเพราะการเก็งกำไรและเงินท่วมโลก จนหลายคนมองว่าเกินปัจจัยพื้นฐาน กอปรกับกระแสเงินทุนกลับทิศไหลออกทำให้ต่างชาติและกองทุนปรับพอร์ตล็อกกำไร ตลาดไม่ได้crashเพราะเกิดcrisis ที่ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและของโลก และทำให้พื้นฐานกิจการของหุ้นที่ถืออยู่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะ หรือว่าผมเข้าใจผิด ตลาดกำลังcrashหรือ?? มี crisis อะไรซ่อนอยู่หรือ??? ผมคิดว่าการคาดคะเนทิศทางตลาด เป็นเรื่องยากมากบางครั้งมันอยู่เหนือเหตุผล
โดย
nuttagan
พุธ ก.ค. 10, 2013 7:55 pm
0
0
Re: อย่าลืม
ผมว่าตลาดอาจจะลงลึกกว่านี้อีกได้ครับ ถ้ารีบซื้อโดยที่เงินที่มาซื้อไม่ใช่เงินเย็นอาจเจ็บตัวได้ครับ
โดย
nuttagan
พุธ ก.ค. 10, 2013 7:37 pm
0
0
Re: เพื่อนๆ ชาว VI ทำกิจกรรมอะไรกันครับเพื่อผ่อนคลายความเครี
เพื่อนๆ ชาว VI ทำกิจกรรมอะไรกันครับเพื่อผ่อนคลายความเครียสเวลาหุ้นตกหนัก
โดย
nuttagan
พุธ ก.ค. 10, 2013 7:32 pm
0
0
Re: VI เวลาหุ้นตก เอาเงินทีทไหนมาซ้ือ ครับ
ยืม เพื่อน พ่อ แม่ ญาติ พี่น้อง เอาทรัพย์สิน ไปจำนอง ขายทรัพย์สิน บางอย่าง กู้เงิน และ สุดท้าย มาร์จิ้นครับ
โดย
nuttagan
พฤหัสฯ. มิ.ย. 13, 2013 7:55 pm
0
1
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
ล้านแรกมาแล้วครับ เริ่มต้นด้วยทุน 20000 เติมไปเรื่อยๆ ซื้อๆขายๆไปด้วย ใข้เวลาเกือบ 4 ปี ก็ได้มา เป้าที่ 2 คือล้านที่สองน่าจะเร็วขึ้น ยินดีด้วยนะครับ ก้าวไปสู่ล้านที่ 2 ด้วยกันครับ สู้ๆ :D :D :D ขอบคุณครับ
โดย
nuttagan
พุธ พ.ค. 08, 2013 6:54 pm
0
1
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
ล้านแรกมาแล้วครับ เริ่มต้นด้วยทุน 20000 เติมไปเรื่อยๆ ซื้อๆขายๆไปด้วย ใข้เวลาเกือบ 4 ปี ก็ได้มา เป้าที่ 2 คือล้านที่สองน่าจะเร็วขึ้น
โดย
nuttagan
พุธ พ.ค. 08, 2013 7:33 am
0
69
Re: 100 ล้านบาทแรกในชีวิต
เมื่อมี 1แล้ว ต่อมาก็มี10 ต่อไปก็จะต้องมี100ล้าน ยังไงผมขอตั้งไว้ก่อนนะครับ ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่ถึงแต่ ผมอยากให้คนที่มีประสบการณ์มาแชร์กันหน่อยว่ารู้สึกยังไง ชีวิตเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน ใครเอาเงินที่ได้ไปซื้ออะไรบ้าง ส่วนตัวผมตั้งเป้า 100 ล้าน ไปไว้ก่อนอายุ 28ครับ นับจากตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกประมาณ 4 ปีกว่าๆครับ ชีวิต ไม่เปลี่ยนครับ ต้อง กิน ขี้ นอน เหมือนเดิม ป่วยเหมือนเดิม ต้องตายเหมือนเดิม เวลาชีวิต ก็ลดลงเหมือนเดิม
โดย
nuttagan
จันทร์ ก.พ. 25, 2013 4:09 pm
0
31
Re: จุดแข็ง จุดอ่อน ของ Value Invetment
ถ้ามีเงินหลักแสนอยากรวยเร็ว ใช้เวลาไม่ถึง 10 ปี ทำธุรกิจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการลงทุนแบบ VI
โดย
nuttagan
อาทิตย์ ก.ค. 15, 2012 9:40 am
0
0
Re: จุดแข็ง จุดอ่อน ของ Value Invetment
จุดอ่อน 1) รวยช้าในช่วงเริ่มต้น ถ้าเทียบกับเก็งกำไรอสังหาบางชนิดอาจทำกำไร 10 เท่าในเวลาไม่ถึงปี (ซื้อมาขายไปเรื่อยเรื่อย) หรือ ทำธุรกิจบางอย่างถ้ามีไอเดียดีดี (มีอีกหลายวิธีที่ทำเงิน 10ล้านถึงร้อยล้าน เพียงใช้ต้นทุนไม่ถึงสนบาท ในเวลาไม่ถึง 5 ปี) 2) เงินที่ต้องลงทุนต้องเป็นเงินเย็นและถ้าเงินไม่มากพอก็ยังไม่สามารถเลี้ยงชีพด้วยเงินปันผลได้ (อิสระภาพหน้าจะ 7 หลักปลายปลาย ) 3) จังหวะที่ดีในการลงทุนมีไม่บ่อยนัก ถ้ามีก็คงทำผลตอบแทนสู้ตอนดัชนีลงไป 300 จุดไม่ได้ จุดแข็ง 1) ถ้ามีเงินเยอะพอสามารถให้เงินทำงานได้โดยเราไม่ต้องทำอะไรเลย 2) ความเสี่ยงตำถ้าเลือกกิจการที่ดี
โดย
nuttagan
อาทิตย์ ก.ค. 15, 2012 9:36 am
0
0
Re: Greece ครั้งนี้ เลวร้ายขนาดไหน หาพื้นไม่เจออีกแล้ว
กลัวอะไร เต็มพอร์ทตลอดเวลา ผมก็ไม่กลัวครับ เต็มพอร์ต มาตลอดหลายปีไม่เคยขาดทุน เพราะไม่เคยขาย
โดย
nuttagan
จันทร์ พ.ค. 21, 2012 7:25 am
0
0
Re: ธรรมชาติกับวิกฤติ
หุ้นกำลัง ปรับฐาน ครับ น่าจะไปได้อีกไกลครับ
โดย
nuttagan
จันทร์ พ.ค. 21, 2012 7:21 am
0
0
Re: แจก EPS16YEAR (งบดุล,ราคา,19ปี,Ratio ต่างๆ,แบบเครดิตภาษี
รบกวนด้วยนะครับพี่ครรชิต
[email protected]
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ
โดย
nuttagan
พฤหัสฯ. เม.ย. 19, 2012 8:25 pm
0
0
Re: ตอนนี้เศรษฐกิจ ไทยแข็งแกร่งมาก โอกาสที่ตลาดจะลงมาก มีโอก
ตอนนี้เศรษฐกิจ ไทยแข็งแกร่งมาก โอกาสที่ตลาดจะลงมาก มีโอกาศน้อย แล้วที่ลงมาเหลือ 380 จุดตอนปลายปี 2008 นี่ประเทศไทยหรือเปล่าครับ ........... แล้วก่อนจะดิ่งเศรษฐกิจไทยอ่อนแอหรือเน่าหรือครับ ......... ผมอยากให้มันลงมาอีกตอน นี้ ซัก 380 จุด จะหาหุ้นตำ่กว่า 1 เหรียญ อัดมาร์จิ้น หมดหน้าตักเลย ปัญหาคือมันไม่ลงอ่ะดิ
โดย
nuttagan
ศุกร์ ก.ย. 30, 2011 5:02 pm
0
0
Re: ตอนนี้เศรษฐกิจ ไทยแข็งแกร่งมาก โอกาสที่ตลาดจะลงมาก มีโอก
ฝากข่าว · ติดต่อลงโฆษณา ข่าวออนไลน์ต่างประเทศเศรษฐกิจหุ้น-การเงินการเมืองผลสำรวจบันเทิงกีฬาท่องเที่ยวเทคโนโลยีอสังหายานยนต์ทั่วไป ประเด็นร้อน »กระทรวงพาณิชย์ธนาคารแห่งประเทศไทยราคาทองราคาน้ำมันเงินเฟ้อค่าเงินบาทตลาดหุ้นเอเชียตลาดหุ้นนิวยอร์กGDP รายงานประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2554 และ 2555 ข่าวเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง -- พฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2554 08:40:00 น. รายงานประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2554 และ 2555 “เศรษฐกิจไทยปี 2554 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง เนื่องจาก เศรษฐกิจโลกขยายตัวต่ำกว่าคาด แต่คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในปี 2555” นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แถลงข่าวประมาณการเศรษฐกิจไทย ณ เดือนกันยายน 2554 ว่า “เศรษฐกิจไทยในปี 2554 คาดว่าจะขยายตัวในอัตราร้อยละ 4.0 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.8 — 4.3 ชะลอลงจากปีก่อนหน้าตาม อุปสงค์ภายในประเทศ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่คาดว่าจะชะลอลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและต้นทุนที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณการส่งออกสินค้าและ บริการคาดว่าจะยังคงขยายตัวในระดับสูง เนื่องจากการขยายตัวของการส่งออกสินค้าและบริการที่สูงเกินคาดในช่วงครึ่งปีแรก อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจากปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์และการจ้างงานในสหรัฐฯ และปัญหาหนี้สาธารณะในกลุ่ม ประเทศยุโรป ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อแนวโน้มอุปสงค์โลกที่อาจชะลอตัวลงมากกว่าที่คาด และส่งผลกระทบให้ภาคการส่งออกสินค้าและ บริการในปี 2554 ขยายตัวในอัตราชะลอลงจากปีก่อน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง เพื่อรองรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในช่วง ครึ่งปีหลัง ภายหลังจากที่ชะลอลงเนื่องจากได้รับผลกระทบของภัยพิบัติในญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2554 สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภาย ในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2554 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.8 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.6 — 4.1) เร่งตัวขึ้นจากทั้งต้นทุน ในหมวดอาหารสดที่ได้รับแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตที่สูงและอากาศแปรปรวน และต้นทุนในหมวดพลังงานที่เร่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน ในตลาดโลกเป็นสำคัญ สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2555 สำนักงานเศรษฐกิจการคลังคาดว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 4.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.0 — 5.0) โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากทั้งอุปสงค์ภายในประเทศและอุปสงค์จากต่างประเทศที่คาดว่าจะยังคง ขยายตัวได้ ตามการจ้างงานที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูง และนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนการใช้จ่าย เช่น มาตรการปรับเพิ่มรายได้ แรงงานรายวันและเงินเดือนข้าราชการ ขณะที่แรงสนับสนุนจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มว่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ โดยได้รับอานิสงส์จากการ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นภายหลังเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิ แม้ว่าจะยังคงได้รับความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ในด้านเสถียรภาพภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2555 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.3 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.8 — 3.8) ตาม อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกที่คาดว่าจะชะลอลง” ตารางสรุปสมมติฐานและผลการประมาณการเศรษฐกิจปี 2554 และ 2555 (ณ เดือนกันยายน 2554) 2553 2554 f 2555 f (ณ กันยายน 2554) (ณ กันยายน 2554) เฉลี่ย ช่วง เฉลี่ย ช่วง สมมติฐานหลัก สมมติฐานภายนอก 1) อัตราการขยายตัวเฉลี่ย 14 ประเทศคู่ค้าหลัก (ร้อยละต่อปี) 4.8 3.2 3.0 — 3.5 3.5 3.0 — 4.0 2) ราคาน้ำมันดิบดูไบ (ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล) 78.2 101 96.0 — 106.0 115 110.0 — 120.0 3) ราคาสินค้าส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐ (ร้อยละต่อปี) 9.1 7 6.5 — 7.5 7.5 6.5 — 8.5 4) ราคาสินค้านำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐ (ร้อยละต่อปี) 8.1 10 9.5 — 10.5 4.5 3.5 — 5.5 สมมติฐานด้านนโยบาย 5) อัตราแลกเปลี่ยน (บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) 31.7 30.5 30.3 — 30.8 30 29.0 — 31.0 6) อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ณ สิ้นปี (ร้อยละต่อปี) 2 3.5 3.25 — 3.75 3.75 3.25 — 4.00 7) รายจ่ายภาคสาธารณะตามปีงบประมาณ (ล้านล้านบาท) 2.52 2.81 2.80 — 2.82 2.95 2.93 — 2.96 ผลการประมาณการ 1) อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (ร้อยละต่อปี) 7.8 4 3.8 — 4.3 4.5 4.0 — 5.0 2) อัตราการขยายตัวของการบริโภครวม (ร้อยละต่อปี) 5.1 3.7 3.2 — 4.2 4.2 3.7 — 4.7 - การบริโภคภาคเอกชน (ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) 4.8 3.9 3.4 — 4.4 4.4 3.9 — 4.9 - การบริโภคภาครัฐ (ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) 6.4 2.7 2.2 — 3.2 2.8 2.3 — 3.3 3) อัตราการขยายตัวของการลงทุนรวม (ร้อยละต่อปี) 9.4 7.4 6.9 — 7.9 8.3 7.8 — 8.8 - การลงทุนภาคเอกชน ( ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) 13.8 11.3 10.8 — 11.8 10.9 9.9 — 11.9 - การลงทุนภาครัฐ (ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) -2.2 -1.4 -1.9 ถึง -0.9 5.5 4.5 — 6.5 4) อัตราการขยายตัวปริมาณส่งออกสินค้าและบริการ (ร้อยละต่อปี) 14.7 13.2 12.7 — 13.7 5.5 4.5 — 6.5 5) อัตราการขยายตัวปริมาณนำเข้าสินค้าและบริการ (ร้อยละต่อปี) 21.5 15.0 14.5 — 15.5 10.3 9.3 — 11.3 6) ดุลการค้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) 14.0 9.5 8.5 — 10.5 6.0 5.0 — 7.0 - สินค้าส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐ (ร้อยละต่อปี) 28.5 22.3 21.8 — 22.8 13.7 12.7 — 14.7 - สินค้านำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐ (ร้อยละต่อปี) 36.8 26.6 26.1 — 27.1 15.8 14.8 — 16.8 7) ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) 14.8 13.5 12.1 — 13.9 9.0 6.9 — 10.9 - ร้อยละของ GDP 4.6 3.7 3.5 — 4.0 2.2 1.7 — 2.7 8) อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (ร้อยละต่อปี) 3.3 3.8 3.6 — 4.1 3.3 2.8 — 3.8 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ร้อยละต่อปี) 0.9 2.5 2.3 — 2.8 2.3 1.8 — 2.8 9) อัตราการว่างงาน (ร้อยละของกำลังแรงงานรวม) 1.0 0.7 0.6 — 0.8 0.7 0.6 — 0.8 เอกสารแนบ รายงานประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2554 และ 2555 1. เศรษฐกิจไทยในปี 2554 1.1 ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจไทยในปี 2554 คาดว่าจะขยายตัวในอัตราร้อยละ 4.0 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.8 — 4.3 ซึ่งเป็นการขยายตัว ชะลอลงจากปีก่อนหน้าตามอุปสงค์ภายในประเทศ โดยการบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.9 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.8 — 4.8) ชะลอลงจากปีก่อนหน้า เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ จากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและต้นทุนที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี ภาวะการจ้างงานและรายได้ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งในส่วนของรายได้ เกษตรกรที่คาดว่าจะปรับสูงขึ้นตามราคาพืชผลสำคัญ รวมถึงรายได้จากภาคท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ขยายตัวในระดับสูง คาดว่าจะยังคงมีส่วนช่วยสนับสนุนการบริโภคภาคเอกชนให้ขยายตัวได้ ขณะที่ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการในปี 2554 คาดว่าจะยังคงขยายตัวในระดับสูง ที่ร้อยละ 13.2 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 12.7 — 13.7) เนื่องจากการขยายตัวของการส่งออกสินค้า และบริการที่สูงเกินคาดในช่วงครึ่งปีแรก โดยขยายตัวสูงถึง ร้อยละ 13.9 อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก จากปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์และการจ้างงานในสหรัฐฯ และปัญหาหนี้สาธารณะในกลุ่มประเทศยุโรป ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อแนวโน้ม อุปสงค์โลกที่อาจชะลอตัวลงมากกว่าที่คาด และส่งผลกระทบให้ภาคการส่งออกสินค้าและบริการในปี 2554 ขยายตัวในอัตราชะลอลงจากปีก่อน ส่วนปริมาณการนำเข้าสินค้าและบริการ คาดว่าจะขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 15.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 14.5 — 15.5) ขณะที่ การลงทุนภาคเอกชนในปี 2554 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 11.3 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ ร้อยละ 10.8 — 11.8) โดยได้รับปัจจัยสนับสนุน จากการเร่งตัวขึ้นอย่างมากของการลงทุนภาคเอกชนในครึ่งแรกของปี 2554 ที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 10.5 ประกอบกับความเชื่อมั่นของภาค ธุรกิจที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี คาดว่าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อขยายกำลังการผลิตให้สามารถรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นได้ สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐในปี 2554 คาดว่าการบริโภคภาครัฐจะขยายตัวร้อยละ 2.7 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.2 — 3.2) ชะลอลง เล็กน้อยจากปีก่อนหน้า เนื่องจากความล่าช้าในการจัดทำงบประมาณประจำปี 2555 จะส่งผลให้การเบิกจ่ายในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เป็นไป อย่างล่าช้า ขณะที่การลงทุนภาครัฐคาดว่าจะหดตัวร้อยละ -1.4 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ -1.9 ถึง —0.9) เนื่องจากการเบิกจ่ายงบ ประมาณรายจ่ายลงทุนในไตรมาสที่ 2 ปี 2554 มีการเบิกจ่ายชะลอตัวลงมาก โดยเฉพาะจากรัฐบาลท้องถิ่นที่หดตัวกว่าร้อยละ -35.2 ทำให้ ในช่วงครึ่งปีแรกการลงทุนภาครัฐหดตัวกว่าร้อยละ -5.9 1.2 ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ ในด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2554 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ ร้อยละ 3.8 ต่อปี (ช่วง คาดการณ์ที่ร้อยละ 3.6 — 4.1 ต่อปี) จากต้นทุนที่สูงขึ้นโดยเฉพาะในหมวดอาหารสดที่ได้รับแรงกกดดันจากต้นทุนการผลิตที่สูงและอากาศแปรปรวน และต้นทุนในหมวดพลังงานที่เร่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกเป็นสำคัญ ส่วนอัตราการว่างงานคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.7 ของกำลังแรงงานรวม (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.6 — 0.8 ของกำลังแรงงานรวม) ในด้านเสถียรภาพภายนอกประเทศ คาดว่าดุลบัญชี เดินสะพัดจะเกินดุลลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 13.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 3.7 ของ GDP (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.5 — 4.0 ของ GDP) เนื่องจากดุลการค้าที่คาดว่าจะเกินดุลลดลงมาอยู่ที่ 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 8.5 — 10.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ) โดยคาดว่ามูลค่านำเข้าสินค้าในปี 2554 จะขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 26.6 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 26.1 — 27.1) ตามราคาสินค้านำเข้าในตลาดโลก ขณะที่มูลค่าส่งออกสินค้าในปี 2554 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 22.3 (โดยมีช่วงคาดการณ์ ที่ร้อยละ 21.8 — 22.8) 2. เศรษฐกิจไทยในปี 2555 2.1 ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจไทยในปี 2555 คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอัตราร้อยละ 4.5 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.0 — 5.0 ซึ่งได้ รับแรงขับเคลื่อนหลักจากทั้งอุปสงค์ภายในประเทศและอุปสงค์จากต่างประเทศที่คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ โดยการบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะ ขยายตัวร้อยละ 4.4 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.9 — 4.9) ตามการจ้างงานที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับนโยบายของ ภาครัฐในการสนับสนุนการใช้จ่าย เช่น มาตรการปรับเพิ่มรายได้แรงงานรายวันและเงินเดือนข้าราชการ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะ ขยายตัวร้อยละ 10.9 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 9.9 — 11.9) โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์จากภายในประเทศและต่างประเทศที่อยู่ ในเกณฑ์ดี ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้นและสนับสนุนให้การลงทุนของเอกชนขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ แรง สนับสนุนจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มว่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ โดยได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นภายหลังเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิ คาดว่าจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าและบริการในปี 2555 ยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ต่างประเทศยังคงได้รับความเสี่ยง จากการเกิดภาวะเศรษฐกิจจากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ทำให้การส่งออกสินค้าและบริการในปี 2555 คาดว่าจะขยายตัวชะลอลงจากปีก่อนมาอยู่ที่ ร้อยละ 5.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.5 — 6.5) ส่วนปริมาณการนำเข้าสินค้าและบริการคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 10.3 (โดยมีช่วง คาดการณ์ที่ร้อยละ 9.3 — 11.3) สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐในปี 2555 คาดว่าการบริโภคภาครัฐจะขยายตัว ร้อยละ 2.8 (โดยมีช่วงคาดการณ์ ที่ร้อยละ 2.3 — 3.3) ตามการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีของรัฐบาลในปี 2555 ที่คาดว่าจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนภาครัฐ คาดว่าจะขยายตัวเร่งขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 5.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.5 — 6.5) 2.2 ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ ในด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2555 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.3 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ ร้อยละ 2.8 — 3.8) ชะลอลงจากปี 2554 อันเป็นผลจากความเปราะบางของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าของไทย โดยเฉพาะ เศรษฐกิจกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่คาดว่าจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกชะลอลง ประกอบกับแนวโน้มการชะลอตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ในตลาดโลก ทั้งนี้ การประมาณการเศรษฐกิจได้คำนึงถึงความเป็นไปได้ที่ภาครัฐจะพิจารณาต่ออายุมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพบางส่วนออกไป อีกหลังครบกำหนด ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 ส่วนอัตราการว่างงานคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.7 ของกำลังแรงงานรวม (โดยมี ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.6 — 0.8 ของกำลังแรงงานรวม) ในด้านเสถียรภาพภายนอกประเทศ คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลลดลงเล็กน้อย มาอยู่ที่ 9.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 2.2 ของ GDP (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.7 — 2.7 ของ GDP) เนื่องจากดุลการค้า ที่คาดว่าจะเกินดุลลดลงมาอยู่ที่ 6.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 5.0 — 7.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ตามมูลค่าสินค้านำเข้าที่ คาดว่าจะขยายตัวในอัตราเร่งกว่ามูลค่าสินค้าส่งออก โดยคาดว่ามูลค่านำเข้าสินค้าในปี 2554 จะขยายตัวร้อยละ 15.8 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ ร้อยละ 14.8 — 16.7) ขณะที่มูลค่าส่งออกสินค้าคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 13.7 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 12.7 — 14.7) สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการการคลัง โทร. 0-2273-9020 ต่อ 3255 http://www.ryt9.com/s/mof/1246463
โดย
nuttagan
พฤหัสฯ. ก.ย. 29, 2011 11:09 am
0
0
Re: ตอนนี้เศรษฐกิจ ไทยแข็งแกร่งมาก โอกาสที่ตลาดจะลงมาก มีโอก
อัตราการว่างงานตำ่ GDP ดี ถึงภายนอกประเทศ จะไม่ค่อยดี ช่วงนี้ถ้าฝรั่งขาย ถือเป็นโอกาส ใครมีความคิดเห็นไงบ้างครับ
โดย
nuttagan
พฤหัสฯ. ก.ย. 29, 2011 10:51 am
0
0
Re: EPS16YEAR อับเดทงบดุล Q1 2011 เสร็จแล้ว ครับ
ถึง คุณครรชิต ไพศาล ผมขอ file ด้วยครับ
[email protected]
ขอบคุณอย่างสูง
โดย
nuttagan
จันทร์ พ.ค. 30, 2011 10:19 pm
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
nuttagan
พุธ ต.ค. 06, 2010 4:11 pm
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
nuttagan
พุธ ต.ค. 06, 2010 3:49 pm
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
nuttagan
พุธ ต.ค. 06, 2010 2:21 pm
0
0
งง
ไม่เข้าใจว่า ทำไมบริษัท ต้องเก็บทรัพย์สินที่ ไม่ทำกำไร ไว้เยอะ ทำให้ ROE ไม่ใช่ ROE ที่แท้จริง ทำให้เวลาคิดว่า บริษัทจะขยายธุรกิจ ทำให้หาทุนที่แท้จริงยาก
โดย
nuttagan
พุธ ต.ค. 06, 2010 11:57 am
0
0
หมอเดา
ผมเดา ว่าปลายปี 2554 set น่าจะอยู่ในช่วง 1200 - 1500 ครับ พอปลายปี 2555 set น่าจะตกมาอยู่ที่ 700-800 แล้ว :lol: :lol:
โดย
nuttagan
อังคาร ต.ค. 05, 2010 10:35 pm
0
0
มือใหม่
ผมเคยเสียโอกาศการลงทุน ไป ครั้งนึง กับหุ้น ssc เมื่อวันที่ 31/12/2551 roe มันเท่ากับ 2.23 ผมเห็นว่ามันน้อยมากเลยไม่สนใจ ซึ่งตอนนั้นมันมีกำไร 0.53 บาท ต่อหุ้น ราคา 7.7 บาท แต่มาวันนี้ กำไรโตไป 3 เท่าเป็น 1.54 บาทต่อหุ้น ส่วนราคาไป 5 เท่า ภายในเวลา2 ปี เป็น 44.25 ส่วน roe ตอนนี้ยัง ตำ่กว่า 10 คือ 6.29 (ผมเป็นมือใหม่มาก กำลังศึกษาแนวทางของ VI) ข้อมูลอ้างอิงตามลิงค์ข้างล่างนี้ ถ้ายังก็ช่วยวิเคราะห์หุ้นตัวนี้ด้วยนะครับ ว่าทำไม roe ตำ่มากแต่ให้ผลตอบแทนสูง http://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=SSC&language=th&country=TH
โดย
nuttagan
อังคาร ต.ค. 05, 2010 8:30 pm
0
0
มั่วเอา
ใช่ครับคุณ kin 55+ ขอโทษที่ทำให้สับสน e/p คือ ผลตอบแทนการลงทุน p/e คือ ระยะเวลาการคืนทุน ROE = e/BV ประสิทธิภาพการทำกำไรของบริษัท ถ้าค่านี้สูงดีเพราะ บอกความสารมารถในการใช้เงินลงทุนสร้างกำไรได้มาก แต่ต้องพิจารณา ร่วมกับ ROA เพราะ จะมีเรื่องของหนี้สินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย บางครั้ง ROE สูงแต่ ราคาซื้อขายหุ้นก็สูงก็ต้อง มาพิจารณา ความสัมพันธ์ ระหว่าง p กับ e ด้วย แต่สิ่งที่สำคัญ คือการคาดการณ์ การเติบโตกำไรในอนาคต ยกตัวอย่าง พวกธุรกิจ เกี่ยวกับการสร้างคอนโด ค่าพวกนี้อาจจะสูง แต่แค่ไม่กี่ปี p/e ก็ไม่เพียงพอในการพิจารณาการซื้อหุ้นได้
โดย
nuttagan
อังคาร ต.ค. 05, 2010 12:09 pm
0
0
มั่วเอา
คิดง่ายง่ายครับ หาผลตอบแทนการลงทุน ROE หาร price/BV ก็จะรู้ว่าหุ้น แพงไม่แพง ตัวอย่าง hmpro กับ oishi ตัวใหนน่าซื้อกว่ากัน สมมุติฐาน ที่กำไรโตคงที่ในอนาคต และ เป็นกำไรที่แท้จริง hmpro ROE = 26.8, P/BV =7.43 จะได้ผลตอบแทนต่อการลงทุน 26.8/7.43 = 3.6 เปอร์เซนต์ต่อปี Oishi ROE = 37.65, P/BV =5.59 จะได้ผลตอบแทนต่อการลงทุน 37.65/5.59 = 6.73 เปอร์เซนต์ต่อปี แสดงว่า โออิชิให้ผลตอบแทนการลงทุนมากกว่า ดังนั้น ก็ซื้อโออิชิเลย
โดย
nuttagan
จันทร์ ต.ค. 04, 2010 11:22 pm
0
0
roe กับ price
หาผลตอบแทนการลงทุน ROE หาร price/BV ก็จะรู้ว่าหุ้น แพงไม่แพง ตัวอย่าง hmpro กับ oishi ตัวใหนถูกกว่า สมมุติฐาน ที่กำไรโตคงที่ในอนาคต hmpro ROE = 26.8, P/BV =7.43 จะได้ผลตอบแทนต่อการลงทุน 26.8/7.43 = 3.6 เปอร์เซนต์ต่อปี Oishi ROE = 37.65, P/BV =5.59 จะได้ผลตอบแทนต่อการลงทุน 37.65/5.59 = 6.73 เปอร์เซนต์ต่อปี แสดงว่า โออิชิให้ผลตอบแทนการลงทุนมากกว่า ดังนั้น ก็ซื้อโออิชิเลย :D :D
โดย
nuttagan
จันทร์ ต.ค. 04, 2010 11:03 pm
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
nuttagan
พุธ ก.ค. 14, 2010 7:13 pm
0
0
ขอ EPS16YEAR Q3 ด้วยครับ
[email protected]
ขอ EPS16YEAR Q3 ด้วยครับ ขอบคุณมากมากครับ
โดย
nuttagan
ศุกร์ ธ.ค. 11, 2009 7:32 pm
0
0
nuttagan
รบกวนพี่ครรชิตอีกครั้งนะครับ
[email protected]
ขอบคุณครับ
โดย
nuttagan
ศุกร์ ก.ค. 13, 2007 9:10 pm
0
0
ช่วยUPDATEด้วยครับ
โอนเงินไปให้แล้วน่ะครับ วันนี้ 17/05/07 1,800 Time 11.58 ครับ ฝากรบกวนช่วยอัปเดตให้ด้วยครับ โดย คุณ ณัฐกานต์ ขอบคุณครับ
โดย
nuttagan
เสาร์ พ.ค. 19, 2007 12:58 pm
0
0
ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
ขอด้วยคนครับพี่ ครรชิต
[email protected]
ขอบคุณครับ
โดย
nuttagan
เสาร์ เม.ย. 21, 2007 4:34 pm
0
0
ขอด้วยคนครับ
ขอด้วยคนครับ พี่ ครรชิต ไพศาล จะเป็นพระคุณกับผมที่จะเลือกบริษัทลงทุนแบบเน้นคุณค่าครับ
[email protected]
โดย
nuttagan
เสาร์ เม.ย. 21, 2007 4:12 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
nuttagan
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
เสาร์ เม.ย. 21, 2007 3:19 pm
ใช้งานล่าสุด:
-
โพสต์ทั้งหมด:
57 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.01 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว