ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 1
การศึกษาด้านการบริหารธุรกิจในวันนี้นั้นแย่ลงไปกว่าเดิมที่ว่าแย่อยู่แล้วเสียอีก
พูดง่ายๆ ก็คือห่วยแตกสิ้นดี
ท่านยังภูมิใจกับใบปริญญาของท่านอีกหรือไม่ครับ
ผมไม่ได้มาว่าอะไรนะครับ แต่อยากฟังทรรศนะของท่านบ้างเท่านั้น
ผมว่าเขาพูดได้น่าคิดนะครับ
แล้วทำไมพวกเรายังอยากได้ MBA กันอยู่
พูดง่ายๆ ก็คือห่วยแตกสิ้นดี
ท่านยังภูมิใจกับใบปริญญาของท่านอีกหรือไม่ครับ
ผมไม่ได้มาว่าอะไรนะครับ แต่อยากฟังทรรศนะของท่านบ้างเท่านั้น
ผมว่าเขาพูดได้น่าคิดนะครับ
แล้วทำไมพวกเรายังอยากได้ MBA กันอยู่
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 2
ผมเรียน mba อยู่ครับ ที่เรียนก็ไม่ได้หวังปริญญา แต่หวังความรู้จากวิชาต่างๆที่เรียนครับ ถึงแม้หลายวิชาผมรู้สึกว่าอ่านเองก็เข้าใจ แต่ผมเป็นคนขี้เกียจครับ ต้องมีอะไรบังคับถึงจะยอมทำ 
ว่าแต่ที่เค้าว่าแย่นั้นแย่ยังไงหรือครับ ...

ว่าแต่ที่เค้าว่าแย่นั้นแย่ยังไงหรือครับ ...
It's earnings that count
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 3
ขอคิดด้วยคนในฐานะคนที่เคยเรียน 1 ปี
ผมคิดว่าดีกว่าไม่เรียนนะครับ เพราะเวลาทำธุรกิจก็ต้องคิด ในกรอบคล้ายๆที่ MBA สอนไว้ อย่างน้อยเราก็มีหลักยึดในระดับหนึ่ง ไม่ต้องมานั่งคลำทางทั้งหมด
ยกตัวอย่างเรื่อง บัญชี MBA ก็มีสอน ซึ่งในการทำธุรกิจ ในการลงทุน ถ้าไม่รู้บัญชีบ้างเลย มันก็เหนื่อยนะครับ เพราะแก่แล้วกว่าจะมาฟังเด็กๆอธิบาย โดยไม่มีพื้นฐานเลย
อีกวิชาคือพวก เศรษฐศาสตร์จุลภาค เศรษฐศาสตร์มหภาค พวกนี้ ก็ทำให้เราได้เห็นภาพใหญ่ ภาพเล็กในระดับหนึ่ง ก็ดีนะครับ
การตลาดก็เป็นเรื่องที่น่าเรียน ทำให้เห็นภาพอีกเหมือนกันว่า ตลาดคืออะไร กลไกตลาดเป็นอย่างไร ตลาดมืดเกิดจากอะไรเป็นต้น ผมก็ว่าน่าเรียน
จริงๆแล้ว ในปีแรก เห็นเพื่อนๆบอกว่าก็คล้ายๆ ตอนเรียนตรี แต่ต่างกันตรง เพื่อนๆที่มาเรียนก็แก่ๆและมีประสบการณ์มากขึ้น ทำให้ได้สังคมอีกแบบ อันนี้ก็เป็นข้อดี
ด้วยส่วนตัวคิดว่า มีผลดีมากกว่าผลเสีย
และโดยส่วนใหญ่คนที่เข้ามาเรียนก็น่าจะเรียนเพื่อความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานในแง่ การบริหารงานในองค์กรใหญ่ ซึ่งตรงนี้ก็น่าจะตรงกับการที่ได้เข้ามาเรียน
ส่วนคนที่ต้องการเข้ามาเรียนเพื่อเป็นเจ้าของกิจการ ที่เริ่มจากขนาดเล็กไปใหญ่
ผมคิดว่าเรียนได้ก็ดี แต่จะให้ดี ไปเรียนกับคนที่ประสบความสำเร็จในวงการนั้นๆจะดีกว่า
เมื่อได้ทำธุรกิจประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว ก็ค่อยกลับมาเรียนเพื่อเป็นการขยายกิจการแบบมืออาชีพ ซึ่งอาจจะเข้าเรียนในระดับ Executive ก็ได้
สรุปคือ ได้มากกว่าเสีย ถ้ามีปัญญาเรียนให้จบ
ผมคิดว่าดีกว่าไม่เรียนนะครับ เพราะเวลาทำธุรกิจก็ต้องคิด ในกรอบคล้ายๆที่ MBA สอนไว้ อย่างน้อยเราก็มีหลักยึดในระดับหนึ่ง ไม่ต้องมานั่งคลำทางทั้งหมด
ยกตัวอย่างเรื่อง บัญชี MBA ก็มีสอน ซึ่งในการทำธุรกิจ ในการลงทุน ถ้าไม่รู้บัญชีบ้างเลย มันก็เหนื่อยนะครับ เพราะแก่แล้วกว่าจะมาฟังเด็กๆอธิบาย โดยไม่มีพื้นฐานเลย
อีกวิชาคือพวก เศรษฐศาสตร์จุลภาค เศรษฐศาสตร์มหภาค พวกนี้ ก็ทำให้เราได้เห็นภาพใหญ่ ภาพเล็กในระดับหนึ่ง ก็ดีนะครับ
การตลาดก็เป็นเรื่องที่น่าเรียน ทำให้เห็นภาพอีกเหมือนกันว่า ตลาดคืออะไร กลไกตลาดเป็นอย่างไร ตลาดมืดเกิดจากอะไรเป็นต้น ผมก็ว่าน่าเรียน
จริงๆแล้ว ในปีแรก เห็นเพื่อนๆบอกว่าก็คล้ายๆ ตอนเรียนตรี แต่ต่างกันตรง เพื่อนๆที่มาเรียนก็แก่ๆและมีประสบการณ์มากขึ้น ทำให้ได้สังคมอีกแบบ อันนี้ก็เป็นข้อดี
ด้วยส่วนตัวคิดว่า มีผลดีมากกว่าผลเสีย
และโดยส่วนใหญ่คนที่เข้ามาเรียนก็น่าจะเรียนเพื่อความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานในแง่ การบริหารงานในองค์กรใหญ่ ซึ่งตรงนี้ก็น่าจะตรงกับการที่ได้เข้ามาเรียน
ส่วนคนที่ต้องการเข้ามาเรียนเพื่อเป็นเจ้าของกิจการ ที่เริ่มจากขนาดเล็กไปใหญ่
ผมคิดว่าเรียนได้ก็ดี แต่จะให้ดี ไปเรียนกับคนที่ประสบความสำเร็จในวงการนั้นๆจะดีกว่า
เมื่อได้ทำธุรกิจประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว ก็ค่อยกลับมาเรียนเพื่อเป็นการขยายกิจการแบบมืออาชีพ ซึ่งอาจจะเข้าเรียนในระดับ Executive ก็ได้
สรุปคือ ได้มากกว่าเสีย ถ้ามีปัญญาเรียนให้จบ
แก้ไขล่าสุดโดย Jeng เมื่อ ศุกร์ ม.ค. 07, 2005 12:03 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 7
ดูจากสำนวนเหรอครับ หรือว่าจากประสบการณ์วัยหนุ่มน้อยJeng เขียน:ท่าน CEO นี่วัยรุ่นแน่ๆเลย
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 8
ทอม ปีเตอร์เคยเรียนวิชาบัญชีขั้นสูงกับ โรเบิร์ต แจติก ประธานกรรมการตรวจสอบ ของ Enron ตอนล้มนะครับ
และ พี่โรเบิร์ต แกก็ปฎิเสธความรับผิดชอบในความล้มเหลวของ Enron
ทอม ปีเตอร์เขียนไว้ ในหนังสือ Re-imagine ครับ ว่าแกโมโหอาจารย์แกมากๆเลย
และ พี่โรเบิร์ต แกก็ปฎิเสธความรับผิดชอบในความล้มเหลวของ Enron
ทอม ปีเตอร์เขียนไว้ ในหนังสือ Re-imagine ครับ ว่าแกโมโหอาจารย์แกมากๆเลย
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 9
จริงๆแล้วจะว่าMBAสมัยนี้นั้นห่วยแตกก็เห็นว่าคงไม่สมควรหรือด้อยคุณภาพลงผมก็คิดว่ายังไม่น่าจะฟันธงขนาดนั้น จริงๆแล้วหากเราแยกประเด็นและปัจจัยออกมาอย่างละเอียดสักหน่อยจะดีกว่าไหมครับ
อันดับแรกการที่เรารู้สึกว่าMBAด้อยลงเพราะเราดูที่อะไรครับ ผลลัพธ์ของมันรึเปล่า ถ้าเราให้ผลลัพธ์ประกอบไปด้วยปัจจัย หลักสูตร และ สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ โดยสมมุติให้ปัจจัยอื่นๆเป็นปัจจัยคงที่
ปัจจัยแรกคุณคิดว่าเนื้อหาในหลักสูตรปัจจุบันด้อยกว่าในอดีตหรือไม่ หากไม่ มันพัฒนาขึ้น หรือคงที่
มาดูปัจจัยที่สอง คุณคิดว่าสภาพแวดล้อมทางธุรกิจมีการแข่งขันที่รุนแรงกว่าในอดีตหรือไม่
แล้วลองเอาปัจจัยทั้งสองมาเทียบดูนะครับ คุณคิดว่าพัฒนาการของหลักสูตร กับสภาพการแข่งขัน ปัจจัยไหนมีอัตราการพัฒนาที่สูงกว่ากันครับ
แน่นอนครับมันแม้จะมีตัวแปรอื่นๆ เช่น ตัวนักศึกษาเอง ความสามารถในการวิเคราะห์ อาจารย์ผู้สอน ฯลฯ แต่การที่เราจะประเมินว่า หลักสูตรดีหรือไม่ดีนั้นเราน่าจะพิจารณาและประเมินแบบhorizontalมากกว่าที่จะดูจากผลลัพธ์สุดท้ายโดยขาดการประเมินตัวแปรอย่างถี่ถ้วน

อันดับแรกการที่เรารู้สึกว่าMBAด้อยลงเพราะเราดูที่อะไรครับ ผลลัพธ์ของมันรึเปล่า ถ้าเราให้ผลลัพธ์ประกอบไปด้วยปัจจัย หลักสูตร และ สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ โดยสมมุติให้ปัจจัยอื่นๆเป็นปัจจัยคงที่
ปัจจัยแรกคุณคิดว่าเนื้อหาในหลักสูตรปัจจุบันด้อยกว่าในอดีตหรือไม่ หากไม่ มันพัฒนาขึ้น หรือคงที่
มาดูปัจจัยที่สอง คุณคิดว่าสภาพแวดล้อมทางธุรกิจมีการแข่งขันที่รุนแรงกว่าในอดีตหรือไม่
แล้วลองเอาปัจจัยทั้งสองมาเทียบดูนะครับ คุณคิดว่าพัฒนาการของหลักสูตร กับสภาพการแข่งขัน ปัจจัยไหนมีอัตราการพัฒนาที่สูงกว่ากันครับ






แน่นอนครับมันแม้จะมีตัวแปรอื่นๆ เช่น ตัวนักศึกษาเอง ความสามารถในการวิเคราะห์ อาจารย์ผู้สอน ฯลฯ แต่การที่เราจะประเมินว่า หลักสูตรดีหรือไม่ดีนั้นเราน่าจะพิจารณาและประเมินแบบhorizontalมากกว่าที่จะดูจากผลลัพธ์สุดท้ายโดยขาดการประเมินตัวแปรอย่างถี่ถ้วน





- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 10
เรียนเป็นเรื่องของ ความรู้ ทักษะ ประสบการณื รวมทั้งเหตุผลทางสังคมด้วย หากที่เราเรียนตอบสนองสิ่งเหล่านี้ได้ ผมว่าการศึกษาก็ถือว่าเป็นประโยชน์ครับ เรื่องหลักสูตร หรือกระบวนการเป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้น ต้องดูว่าตรงไหนที่ไม่ดีบ้างอย่างไร มีวิธีแก้ที่เค้านำเสนอไหม หรือว่าพูดออกมางั้นๆ ระวัง เค้าจะโดนฟ้องกลับนะนี่นะ
- Golden Stock
- Verified User
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 11
MBA ในปัจจุบัน ก็เปิดกันเต็มไปหมด มีเกือบจะทุกมหาวิทยาลัย
คุณภาพเทียบกับสมัยก่อนได้หรือไม่นั้น ผมว่าก็ไม่ทราบนะครับ
แต่ว่าเมื่อเปิดกันเยอะขนาดนี้ ก็จำเป็นที่ว่าจะต้องหาผู้เรียนมา
เรียน ไม่อย่างนั้นก็ขาดทุนได้ ดังนั้นขั้นตอนการคัดเลือก อาจ
จะไม่เข้มเหมือนเมื่อสมัยก่อน
แต่ผมก็ยังภูมิใจในใบปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัญฑิต (MBA) ครับ
ไม่ว่าใครจะกล่าวโจมตีอย่างไร
คุณภาพเทียบกับสมัยก่อนได้หรือไม่นั้น ผมว่าก็ไม่ทราบนะครับ
แต่ว่าเมื่อเปิดกันเยอะขนาดนี้ ก็จำเป็นที่ว่าจะต้องหาผู้เรียนมา
เรียน ไม่อย่างนั้นก็ขาดทุนได้ ดังนั้นขั้นตอนการคัดเลือก อาจ
จะไม่เข้มเหมือนเมื่อสมัยก่อน
แต่ผมก็ยังภูมิใจในใบปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัญฑิต (MBA) ครับ
ไม่ว่าใครจะกล่าวโจมตีอย่างไร
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 12
มากว่าครึ่ง ที่จบ ป.โทในไทย คือ MBA
เรียนมันดีแน่ครับ แต่ก็คงต้องกลับมาคิดว่า โดยมากเรียนแล้วได้ปริญญามา มากกว่าจะนำมาใช้จริงๆได้ (หมายถึงเฉพาะ MBA)
เรียนมันดีแน่ครับ แต่ก็คงต้องกลับมาคิดว่า โดยมากเรียนแล้วได้ปริญญามา มากกว่าจะนำมาใช้จริงๆได้ (หมายถึงเฉพาะ MBA)
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 13
หลักสูตร โดยรวมก็ดีอยู่แล้ว
ขอเสริมว่า น่าจะมีอาวุธทางความคิดบางอย่างเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ก่อนที่จะไปเจอในสถานการณ์จริง เช่น
1. เรื่องคน เช่น การเลือกคน การลงโทษ การให้อภัย เรื่องเกี่ยวกับคน ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอนแบบสูตรสำเร็จ แต่ต้องเรียนให้รู้ไว้ก่อน เวลาเจอมือขวา มือซ้าย เพื่อนรัก หรือ ภรรยา โกง จะได้ไม่เจ็บใจ จนกระทั่งทำอะไรไม่ถูก หรือเสียหายจนกระทั่งต้องปิดกิจการ เสียหายทุกอย่างจนยากจะเยียวยา
2. บริษัท หรือ ประเทศที่เขาประสบความสำเร็จ เขามีปรัชญาอย่างไร เขามีแนวทางในการวางเป้าหมาย และปรับเปลี่ยน เมื่อเกิดปัญหาที่หนักๆอย่างไร เรื่องนี้ตอนปี 2 น่าจะมี แต่เท่าที่ทราบ รู้สึกมีน้อยไป ไม่ลึกซึ้ง ส่วนใหญ่ยังไปเน้นที่ตำราเป็นหลัก อยากให้เน้นที่ เคสมากๆ และต้องเป็นเคสที่เรียนเพื่อรู้ ไม่ใช่เรียนเพื่อสอบ รีบๆทำให้เสร็จ
3. เรื่องคู่แข่ง รัฐบาล ภัยพิบัติธรรมชาติ และความเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ มีอะไรบ้าง เก็บรวบรวมแล้วนำมาสอน อย่าบอกว่าเมืองไทยไม่เปิดเผยข้อมูล ท่านอาจารย์ทั้งหลาย ก็ค่อยๆเก็บแล้วกัน อย่าง สึนามิ นี่ถ้าเราทุ่มสุดตัวไปเป็นเจ้าของโรงแรม โดยเราไม่เคยนึกเลยว่า มันจะเกิดขึ้นในเมืองไทย ถ้าเราหมดตัว หมดครอบครัว แบบนี้ ถ้าเรารอด เราอาจจะอยากฆ่าตัวตายก็ได้ ทำอย่างไร จะให้มีตัวอย่าง ของบริษัทต่างๆ ที่เคยล้มไปจากสาเหตุอะไรก็ตาม แล้วนำมาเป็นคติเตือนใจ อย่างน้อยๆต้องมี safty factor ในระดับหนึ่ง จำได้ว่า เคยมีผู้ใหญ่ 2 ท่าน จากสองประเทศสอนไว้ว่า อย่าเอาบ้านไปกู้เงิน เพราะหากธุรกิจล้ม ยังเหลือบ้านไว้พักใจ หรือ อีกกรณี ผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จอีกท่าน บอกว่า คนที่ล้มเหลว ไม่ว่าจะโง่หรือฉลาด สาเหตุหลักที่ล้มเหลว คือโตเร็วเกินไป เมื่อปัญหาต่างๆ ทั้งเล็กทั้งใหญ่ ประดังเข้ามาพร้อมๆกัน บริษัทก็ล้ม เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆได้ทัน เนื่องจากโตเร็วเกินไป
คุณฉัตรชัย ตอนเรียนปีที่สอง ที่ธรรมศาสตร์ มีการแยก major ใช่หรือไม่ ช่วยบอกเนื้อหาที่เรียนหน่อยซิครับ
ขอเสริมว่า น่าจะมีอาวุธทางความคิดบางอย่างเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ก่อนที่จะไปเจอในสถานการณ์จริง เช่น
1. เรื่องคน เช่น การเลือกคน การลงโทษ การให้อภัย เรื่องเกี่ยวกับคน ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอนแบบสูตรสำเร็จ แต่ต้องเรียนให้รู้ไว้ก่อน เวลาเจอมือขวา มือซ้าย เพื่อนรัก หรือ ภรรยา โกง จะได้ไม่เจ็บใจ จนกระทั่งทำอะไรไม่ถูก หรือเสียหายจนกระทั่งต้องปิดกิจการ เสียหายทุกอย่างจนยากจะเยียวยา
2. บริษัท หรือ ประเทศที่เขาประสบความสำเร็จ เขามีปรัชญาอย่างไร เขามีแนวทางในการวางเป้าหมาย และปรับเปลี่ยน เมื่อเกิดปัญหาที่หนักๆอย่างไร เรื่องนี้ตอนปี 2 น่าจะมี แต่เท่าที่ทราบ รู้สึกมีน้อยไป ไม่ลึกซึ้ง ส่วนใหญ่ยังไปเน้นที่ตำราเป็นหลัก อยากให้เน้นที่ เคสมากๆ และต้องเป็นเคสที่เรียนเพื่อรู้ ไม่ใช่เรียนเพื่อสอบ รีบๆทำให้เสร็จ
3. เรื่องคู่แข่ง รัฐบาล ภัยพิบัติธรรมชาติ และความเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ มีอะไรบ้าง เก็บรวบรวมแล้วนำมาสอน อย่าบอกว่าเมืองไทยไม่เปิดเผยข้อมูล ท่านอาจารย์ทั้งหลาย ก็ค่อยๆเก็บแล้วกัน อย่าง สึนามิ นี่ถ้าเราทุ่มสุดตัวไปเป็นเจ้าของโรงแรม โดยเราไม่เคยนึกเลยว่า มันจะเกิดขึ้นในเมืองไทย ถ้าเราหมดตัว หมดครอบครัว แบบนี้ ถ้าเรารอด เราอาจจะอยากฆ่าตัวตายก็ได้ ทำอย่างไร จะให้มีตัวอย่าง ของบริษัทต่างๆ ที่เคยล้มไปจากสาเหตุอะไรก็ตาม แล้วนำมาเป็นคติเตือนใจ อย่างน้อยๆต้องมี safty factor ในระดับหนึ่ง จำได้ว่า เคยมีผู้ใหญ่ 2 ท่าน จากสองประเทศสอนไว้ว่า อย่าเอาบ้านไปกู้เงิน เพราะหากธุรกิจล้ม ยังเหลือบ้านไว้พักใจ หรือ อีกกรณี ผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จอีกท่าน บอกว่า คนที่ล้มเหลว ไม่ว่าจะโง่หรือฉลาด สาเหตุหลักที่ล้มเหลว คือโตเร็วเกินไป เมื่อปัญหาต่างๆ ทั้งเล็กทั้งใหญ่ ประดังเข้ามาพร้อมๆกัน บริษัทก็ล้ม เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆได้ทัน เนื่องจากโตเร็วเกินไป
คุณฉัตรชัย ตอนเรียนปีที่สอง ที่ธรรมศาสตร์ มีการแยก major ใช่หรือไม่ ช่วยบอกเนื้อหาที่เรียนหน่อยซิครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 14
พี่เจ๋งครับ ที่ธรรมศาสตร์ไม่มีการแยกสาขาครับ ใครอยากเรียนวิชาทางสาขาไหนก็เลือกได้ตามใจชอบครับ ซึ่งผมก็เลือกเรียนเกี่ยวกับการเงินเป็นหลักนะครับ เช่น Inter Finance Future&Option Financial Analysis ทำนองเนี่ยครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 15
ผมตอบในฐานะที่กำลังเลือกเรียนโท
ผมก็อยากเรียน mba แต่สำหรับผมแล้ว จากที่เห้น ผมว่าทำให้เรารู้อะไรมากมายหลายอย่างเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ บางทีถ้าเรียนป.ตรี ก็อาจรู้ไม่ห่างจากป.โทก็ได้ ไม่แน่ใจครับ
ส่วนผมได้ตัดสินใจเลือกเรียนโทเสดสาด เพราะผมชอบการมอง การวิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจบ้านเมืองครับ เลยอยากเรียนด้านนี้ ส่วน mba ไว้ให้อายุ 30 ก่อนค่อยไปเรียนพวก executive ครับ
ผมก็อยากเรียน mba แต่สำหรับผมแล้ว จากที่เห้น ผมว่าทำให้เรารู้อะไรมากมายหลายอย่างเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ บางทีถ้าเรียนป.ตรี ก็อาจรู้ไม่ห่างจากป.โทก็ได้ ไม่แน่ใจครับ
ส่วนผมได้ตัดสินใจเลือกเรียนโทเสดสาด เพราะผมชอบการมอง การวิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจบ้านเมืองครับ เลยอยากเรียนด้านนี้ ส่วน mba ไว้ให้อายุ 30 ก่อนค่อยไปเรียนพวก executive ครับ
Expecto Patronum!!!!!!
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 16
tom peter แกปากร้ายอยู่แล้วครับ ... อย่าไปคิดมาก 

การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 17
ผมจบมาสามปีกว่าๆแล้วครับ
เมื่อก่อนนิยมกันมาก เรียนกันมาก
เพื่อนๆผมหลายคนเรียนเพื่อปรับสถานะ ส่วนผมเรียนเพื่อรู้
ผมเคยไปบรรยายครั้งหนึ่งให้ นักศึกษาMBAของสองมหาวิทยาลัย แต่มาฟังผมร่วมกัน เพราะอาจารย์ท่านเดียวกันสอน ปรากฎว่า รุ่นน้องของผมเอง(มหาวิทยาลัยเอกชน) มาเรียนน้อยกว่ามหาวิทยาลัยที่มาร่วมฟัง และนักศึกษาที่ซักถามผมมากที่สุดคือพวกที่มาจากที่อื่น
เห็นแล้วว่าคนที่มุ่งมั่นเรียนเอาความรู้จริงๆจังๆ นั้นน้อยกว่าพวกเอาปริญญาไปปรับฐานะ ปัจจุบันไม่ค่อยต่างกันเท่าไรแล้วครับ การเลื่อนตำแหน่งไม่ได้อยู่ที่วุฒิการศึกษามากแต่เน้นไปที่ความสามารถในการรวบรวมความรู้ทั้งหมดและการประยุกต์ใช้มากกว่า
เรียนให้รู้และประยุกต์ใช้ให้เป็นดีที่สุดครับ
เมื่อก่อนนิยมกันมาก เรียนกันมาก
เพื่อนๆผมหลายคนเรียนเพื่อปรับสถานะ ส่วนผมเรียนเพื่อรู้
ผมเคยไปบรรยายครั้งหนึ่งให้ นักศึกษาMBAของสองมหาวิทยาลัย แต่มาฟังผมร่วมกัน เพราะอาจารย์ท่านเดียวกันสอน ปรากฎว่า รุ่นน้องของผมเอง(มหาวิทยาลัยเอกชน) มาเรียนน้อยกว่ามหาวิทยาลัยที่มาร่วมฟัง และนักศึกษาที่ซักถามผมมากที่สุดคือพวกที่มาจากที่อื่น
เห็นแล้วว่าคนที่มุ่งมั่นเรียนเอาความรู้จริงๆจังๆ นั้นน้อยกว่าพวกเอาปริญญาไปปรับฐานะ ปัจจุบันไม่ค่อยต่างกันเท่าไรแล้วครับ การเลื่อนตำแหน่งไม่ได้อยู่ที่วุฒิการศึกษามากแต่เน้นไปที่ความสามารถในการรวบรวมความรู้ทั้งหมดและการประยุกต์ใช้มากกว่า
เรียนให้รู้และประยุกต์ใช้ให้เป็นดีที่สุดครับ
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
- Meeja
- Verified User
- โพสต์: 333
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 18
ถ้าไม่ตั้งใจเรียน จบที่ไหนก็ไม่รู้วิชาเหมือนกันครับ
ถ้าไม่ตั้งใจจะไปเรียน คงเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังๆ ไม่ได้ครับ
ผมว่าการศึกษาไม่ได้แย่ลง จริยธรรมต่างหากที่เสื่อมลง
ผมยังอยากเรียน MBA อยู่เต็มเปี่ยม เพราะอยากรู้ครับ
ถ้าไม่ตั้งใจจะไปเรียน คงเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังๆ ไม่ได้ครับ
ผมว่าการศึกษาไม่ได้แย่ลง จริยธรรมต่างหากที่เสื่อมลง
ผมยังอยากเรียน MBA อยู่เต็มเปี่ยม เพราะอยากรู้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 19
หลายๆ คนไปหา connection ครับ เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 22
แหม พี่ เจย์ โชว์ก็จบมาสูงพอแล้วครับ อย่างนี้ยังไม่มีโอกาสอีกเหรอพี่ หรือบ่นไปเล่นๆ
- วัวแดง
- Verified User
- โพสต์: 1429
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 23
ถ้ามีโอกาส คงต้องเรียนครับ
แต่ถ้าคิดว่าเอาเวลาที่เรียนมาคิดทำอย่างอื่นดีกว่าคงไม่เรียน
เอาไงดีนะ
แต่ถ้าคิดว่าเอาเวลาที่เรียนมาคิดทำอย่างอื่นดีกว่าคงไม่เรียน
เอาไงดีนะ

ถ้าผมคิดเหมือนคนทั่วๆไป ผลตอบแทนผมก็เหมือนคนทั่วๆไป
ใจผมคงละลาย ถ้าผมคิดตามคนอื่น
ผู้ชนะไม่แน่ว่าจะต้องเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุด...แต่เป็นผู้ที่อดทนที่สุดต่างหาก
ใจผมคงละลาย ถ้าผมคิดตามคนอื่น
ผู้ชนะไม่แน่ว่าจะต้องเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุด...แต่เป็นผู้ที่อดทนที่สุดต่างหาก
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 25
[quote="Jeng"]หลักสูตร โดยรวมก็ดีอยู่แล้ว
ขอเสริมว่า น่าจะมีอาวุธทางความคิดบางอย่างเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ก่อนที่จะไปเจอในสถานการณ์จริง เช่น
1. เรื่องคน เช่น การเลือกคน การลงโทษ การให้อภัย เรื่องเกี่ยวกับคน ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอนแบบสูตรสำเร็จ แต่ต้องเรียนให้รู้ไว้ก่อน เวลาเจอมือขวา มือซ้าย เพื่อนรัก หรือ ภรรยา โกง จะได้ไม่เจ็บใจ จนกระทั่งทำอะไรไม่ถูก หรือเสียหายจนกระทั่งต้องปิดกิจการ เสียหายทุกอย่างจนยากจะเยียวยา
โดนใจจริงๆครับ
ที่ผมเคยโดนมาก็เป็นที่ผมยังบริหารความเสี่ยงด้านการเงินไม่เป็น
ขอเสริมว่า น่าจะมีอาวุธทางความคิดบางอย่างเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ก่อนที่จะไปเจอในสถานการณ์จริง เช่น
1. เรื่องคน เช่น การเลือกคน การลงโทษ การให้อภัย เรื่องเกี่ยวกับคน ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอนแบบสูตรสำเร็จ แต่ต้องเรียนให้รู้ไว้ก่อน เวลาเจอมือขวา มือซ้าย เพื่อนรัก หรือ ภรรยา โกง จะได้ไม่เจ็บใจ จนกระทั่งทำอะไรไม่ถูก หรือเสียหายจนกระทั่งต้องปิดกิจการ เสียหายทุกอย่างจนยากจะเยียวยา
โดนใจจริงๆครับ
ที่ผมเคยโดนมาก็เป็นที่ผมยังบริหารความเสี่ยงด้านการเงินไม่เป็น
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 26
วันนี้ได้แวบๆอ่านคำนำของre-imageของนายtom peterนี่แหละ รู้สึกว่าความที่แกด่าๆMBAมีความหลังมาจากตัวอาจารย์ของแกที่ปฏิเสธความรับผิดชอบในกรณีEnronนะ แต่ผมยังไม่ได้อ่านในรายละเอียดเลย 

- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 28
ประเด็นผมคือว่า
ใครที่ซื้อหุ้นโดยดูที่ผู้บริหาร ดี เด่น ดัง อาจจะเจอแบบ enron ก็ได้นะครับ
ประเภท ไปเชิญ มาเป็นประธานกรรมการตรวจสอบ เพื่อสร้างเครดิต
แต่ขอโทษครับ เจ้าตัวเขางานยุ่งจนไม่มีเวลามาดูละเอียด ก็ได้แต่เซ็นต์ๆไป
ใน ตลท ก็มีแบบนี้ด้วย
อิอิ
ใครที่ซื้อหุ้นโดยดูที่ผู้บริหาร ดี เด่น ดัง อาจจะเจอแบบ enron ก็ได้นะครับ
ประเภท ไปเชิญ มาเป็นประธานกรรมการตรวจสอบ เพื่อสร้างเครดิต
แต่ขอโทษครับ เจ้าตัวเขางานยุ่งจนไม่มีเวลามาดูละเอียด ก็ได้แต่เซ็นต์ๆไป
ใน ตลท ก็มีแบบนี้ด้วย
อิอิ
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
- มือเก่าหัดขับ
- Verified User
- โพสต์: 1112
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับคนที่จบ MBA มา TOM PETER เขาด่าว่า
โพสต์ที่ 29
อยู่ที่คนกระมังครับ
เราพัฒนาตัวของเราให้ดี ให้เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ก็ไม่ต้องไปสนใจใครนัก
แต่ถ้าเราทำตัวไม่ดี แล้วใครเขาว่าเอา ก็ถือว่าเป็นกระจกส่องตัวเอง (ก็ต้องดูอีกทีด้วยว่าเขาว่ามานั้นจริงหรือไม่)
การเรียน ป.โท นั้นก็น่าจะเพื่อความรู้และสนองความอยากรู้ของผู้เรียนมากกว่า ไม่อย่างนั้นจะเรียนเอาดี (ให้ได้ดี ให้เข้าใจ สามารถนำไปใช้) ไม่ได้หรอก
ยิ่งการนำไปใช้ เป็นเรื่องของศิลป์ มากกว่าศาสตร์ ซึ่งมักจะสอนกันไม่ได้จริงๆ ขึ้นกับประสบการณ์มากกว่าวิชาการในห้องเรียน
เราพัฒนาตัวของเราให้ดี ให้เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ก็ไม่ต้องไปสนใจใครนัก
แต่ถ้าเราทำตัวไม่ดี แล้วใครเขาว่าเอา ก็ถือว่าเป็นกระจกส่องตัวเอง (ก็ต้องดูอีกทีด้วยว่าเขาว่ามานั้นจริงหรือไม่)
การเรียน ป.โท นั้นก็น่าจะเพื่อความรู้และสนองความอยากรู้ของผู้เรียนมากกว่า ไม่อย่างนั้นจะเรียนเอาดี (ให้ได้ดี ให้เข้าใจ สามารถนำไปใช้) ไม่ได้หรอก
ยิ่งการนำไปใช้ เป็นเรื่องของศิลป์ มากกว่าศาสตร์ ซึ่งมักจะสอนกันไม่ได้จริงๆ ขึ้นกับประสบการณ์มากกว่าวิชาการในห้องเรียน
คนอื่นเขาสะสมอย่างอื่น เราขอสะสมความดี, ความรู้, ประสบการณ์, เงินทอง, กับหุ้นก็แล้วกัน
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ