ทุกคนน่าจะรู้จักไมโครซอฟท์ในฐานะหนึ่งในยักษ์ใหญ่ไอทีในปัจจุบันด้วยผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานกันทุกวันอย่าง Microsoft Windows 10 และ Office 2016 รวมทั้งการให้บริการ Cloud Computing หรือการให้บริการดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์แบบครบวงจร
วันนี้เราจะมองย้อนหลังกลับไปตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทในปี 1975 โดย Bill Gates และ Paul Allen เพื่อดูว่าบริษัทผ่านช่วงสำคัญๆอะไรมาบ้างแล้วบริษัทสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างไรด้วยผู้นำคนล่าสุดอย่าง Satya Nadella
ในยุคเริ่มต้นผู้ก่อตั้งทั้งสองคนต่างมีวิสัยทัศน์ที่มองว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องบนโลกใบนี้จะต้องมีการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows
บริษัทจึงออกผลิตภัณฑ์ MS-Dos เป็นตัวแรกแล้วพัฒนาต่อมาเป็น Windows 1.0 ในปี 1985 หลังจากนั้นก็ออก Microsoft Office ในปี 1990 และพัฒนา Windows มาเป็น Windows 95 ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด (เวอร์ชั่นแรกที่มีปุ่ม Start อยู่ด้านล่างซ้ายมือ) จนมาเป็น Windows 10 ในปัจจุบัน
ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องจนปี 2000 Bill Gates ได้ส่งมอบงานต่อให้ Steve Ballmer เข้ามาดำรงตำแหน่ง CEO ในช่วงที่ Ballmer บริหารงาน 14 ปีราคาหุ้นของไมโครซอฟท์ไม่เติบโตอย่างที่นักลงทุนคาดหวังไว้เนื่องจากเหตุผลดังนี้
- บริษัทขยับมาทำ Search Engine ช้าไปทั้งที่เป็นเจ้าของ Internet Explorer ที่มีคนใช้งานมากที่สุดในโลก ณ ตอนนั้นจน Google เข้ามาครองตลาดแม้ว่าจะออก BING มาแต่ก็ไม่สามารถกินส่วนแบ่งการตลาดได้เท่าที่ควร ในส่วนของ Cloud Computing ก็เริ่มให้บริการค่อนข้างช้ากว่า Amazon ทั้งที่เป็นเจ้าระบบเซิร์ฟเวอร์มาก่อน
- มองตลาดสมาร์ทโฟนผิดไปแถมยังเคยบอกว่า iPhone ไม่มีทางที่จะเป็นที่นิยมน่าจะมีคนใช้งานแค่ 2-3% ทั่วโลกแต่ iPhone ครับขายดีแบบถล่มทลายจนทำให้ Apple ขึ้นมาเป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ที่สุดในโลก
- ซื้อธุรกิจโนเกียเข้ามาด้วยเงิน 7.9 พันล้านดอลล่าร์ในปี 2013 แต่ไม่สามารถทำให้โนเกียกลับมาขายดีอีกครั้งด้วยระบบปฎิบัติการ Windows Phone เนื่องจากตลาดถูกครอบงำด้วยผู้เล่นอย่าง Apple และ Google ไปหมดแล้ว
จุดเปลี่ยนที่สำคัญของ Microsoft คือ
Satya Nadella ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงาน Cloud & Enterprise เข้ามาเป็น CEO แทน Ballmer ในปี 2014
Satya เข้ามาด้วยแนวความคิดที่จะทำให้บริษัทเปลี่ยนแปลงดีขึ้นดังนี้
- มุ่งหน้าทำธุรกิจ Cloud Computing อย่างเต็มตัวเพราะเชื่อว่าเป็นธุรกิจที่มีประโยชน์ต่อลูกค้าในการบริหารจัดการไอที แนวโน้มองค์กรทั่วโลกจะต้องโยกย้ายไปใช้งานระบบ Cloud ในอนาคตอันใกล้ ตลาดเป็นเมกะเทรนด์
- ยกเลิกการปิดกั้นการใช้งานผลิตภัณฑ์หลักเช่น Office กับแพลตฟอร์มอื่นอย่าง iOS และแอนดรอยด์พร้อมทั้งเปิดรับระบบปฎิบัติการณ์ Opensouce ให้สามารถใช้งานบนระบบ Cloud ของบริษัทได้อย่างไร้รอยต่อ
- สร้างวัฒนธรรม Growth Mindset กับพนักงานในองค์กรให้พนักงานมีความมุ่งมั่นคิดอะไรนอกกรอบเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร
ราคาหุ้น:
ตั้งแต่ Satya เข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2014 ราคาหุ้นขึ้นจาก 35 ดอลล่าร์มาที่ 92 ดอลล่าร์ ณ ปัจจุบัน หลักๆถูกขับเคลื่อนด้วยการเติบโตของธุรกิจ Cloud ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดโดยเฉพาะ Microsoft Azure ที่เติบโตถึง 97% ในไตรมาสล่าสุด
ด้วยการเติบโตดังกล่าวทุกวันนี้ไมโครซอฟท์จึงเป็นบริษัทที่มีรายได้จากการขาย Cloud Computing สูงที่สุดในโลกด้วยยอดขายแบบ Recurring มากถึง 20,000 ล้านดอลล่าร์ต่อปี #Microsoft #พลิกฟื้นธุรกิจ
สุดยอดจริงๆครับ
CR: Billionaire VI