โรงพยาบาลจุฬารัตน์จะขาย IPO 220 ล้านหุ้น เข้า SET ใช้ขยายกิจการรพ.
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 ธันวาคม 2555 17:54:33 น.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ ได้ยื่น Filing version แรก เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2555 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชน(IPO)จำนวน 220 ล้านหุ้น โดยบริษัทฯมีความประสงค์จะนำหุ้นสามัญของบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทฯมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ลงทุนขยายกิจการโรงพยาบาล และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยมีบล.ธนชาต เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ มีบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจให้บริการรักษาพยาบาลเช่นเดียวกับบริษัท 2 แห่ง ซึ่งบริษัทถือหุ้นทั้งหมด ได้แก่ บริษัท คอนวีเนียนซ์ฮอสพิทอล จำกัด และบริษัท บางปะกงเวชชกิจ จำกัด และ ณ วันที่ 30 ก.ย.2555 บริษัทฯมีโรงพยาบาลให้บริการ 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 และโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 โดยมีห้องตรวจรักษาผู้ป่วยนอก 87 ห้อง และมีเตียงรองรับผู้ป่วย 386 เตียง
ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2555 บริษัทฯมีรายได้ 1,345.48 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 186.15 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 ก.ย.2555 บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 1,100 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1,100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนเรียกชำระแล้ว 880 ล้านบาท หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทฯจะมีทุนชำระแล้ว 1,100 ล้านบาท
ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของบริษัทฯ ณ วันที่ 21 พ.ย.2555 คือ กลุ่มพลัสสินทร์ ถือหุ้น 447,622,320 หุ้นหรือคิดเป็น 50.87% หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 40.69% และบริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯหลังจากหักเงินสำรองตามกฎหมายและเงินสำรองอื่น ๆ แล้ว
อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: [email protected]--
CH
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: CH
โพสต์ที่ 2
IPO Focus:"รพ.จุฬารัตน์"คาดขายหุ้น IPO ราว Q2/56 ระดมทุนรองรับ AEC
Source - รอยเตอร์ ข่าวภายในประเทศ (Th)
Thursday, April 11, 2013 11:13
โดย วิรัช บูรณกนกธนสาร
กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--รอยเตอร์
บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ คาดจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชน ทั่วไปครั้งแรก(IPO) ได้ราวไตรมาส 2/56 โดยราคาหุ้นที่เสนอขายจะมีการสำรวจ ความต้องการซื้อจากนักลงทุนสถาบัน(Book Building) ประมาณปลาย เม.ย.นี้
ผู้บริหาร เผยการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อที่จะระดมทุนไปขยายศักยภาพการให้บริการของโรงพยาบาล เพื่อรองรับ ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
"ก.ล.ต.ได้ไป visit เรียบร้อยแล้ว คงจะเหลืออีกไม่มาก เบื้องต้น คาดว่าจะ(ขายหุ้น)เป็นไตรมาส 2"นายพายุพัด มหาผล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจวาณิชธนกิจ บล.ธนชาต ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการ จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวกับ"รอยเตอร์"
รพ.จุฬารัตน์ เป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันออก จังหวัดสมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 220 ล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท โดยหุ้นจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์(SET)
นายพายุพัด กล่าวว่า มูลค่าระดมทุนยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจาก ต้องรอให้กำหนดราคาหุ้น IPO ก่อน โดยจะใช้วิธี Book Building เพราะ ที่ผ่านมาพบว่านักลงทุนสถาบันในประเทศ เช่น กองทุนในประเทศให้ความสนใจ เป็นอย่างมาก เนื่องจากมองว่าธุรกิจโรงพยาบาลกำลังมีทิศทางเติบโตที่ดี
เขา คาดว่าจะสามารถทำ Book Building ได้ประมาณปลายเดือน เม.ย.นี้ อย่างไรก็ตามก็จะต้องรอให้ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. ก่อน โดยราคาที่จะเสนอขาย คาดว่าจะมีส่วนลดให้กับนักลงทุนประมาณ 15-20% เหมือนกับหุ้น IPO ที่เสนอขายไปก่อนหน้านี้
เขากล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้บริหาร รพ.จุฬารัตน์ ได้มีการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์)ให้กับนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ไปแล้ว ซึ่งจะต้องรอดูราคาหุ้นที่นักวิเคราะห ประเมินว่า ระดับที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานอยู่ในระดับใด
ด้านนายแพทย์กำพล พลัสสินทร์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มโรงพยาบาล จุฬารัตน์ กล่าวกับ"รอยเตอร์"ว่า สาเหตุที่นำหุ้นเข้าจดทะเบียน เพราะมองว่าเป็นช่วง เวลาที่เหมาะสม
โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน ไปเพิ่มศักยภาพของโรงพยาบาล ทั้งการ เพิ่มเตียงคนไข้ ซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ในการรักษาโรคเฉพาะทาง เพื่อเป็นการรองรับ AEC ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เขากล่าวว่า หากมีการเปิด AEC จะทำให้จำนวนประชากร ที่มาใช้บริการ เพิ่มมากขึ้น เพราะจะรวมประเทศในกลุ่มอาเซียนเข้ามาด้วย โดยมองว่าประเทศไทย มีความได้เปรียบ ในแง่ของทำเลที่ตั้งที่เป็นจุดศูนย์กลาง รวมถึงความเจริญในด้านการ ดูแลรักษา และปัจจัยที่สำคัญค่ารักษาพยาบาลในไทย ก็ถูกกว่าประเทศอื่นๆ
นายแพทย์กำพล กล่าวว่า ปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยที่เป็นคนต่างชาติ มารับการ รักษากับรพ.จุฬารัตน์ ประมาณ 5% ซึ่งเชื่อว่าเมื่อเปิด AEC แล้วจะทำให้สัดส่วน ของผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
เขากล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน ไปต่อขยายในรพ. จุฬารัตน์ 3 ซึ่งอยู่ในพื้นที่เทพารักษ์ โดยจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/58 และ รพ.จุฬารัตน์ 11 ที่บางปะกง ซึ่งส่วนต่อขยายจะแล้วเสร็จในกลางปี 57
นอกจากนี้ จะนำเงินไปขยายสถานพยาบาลแห่งใหม่เพิ่ม ที่รพ. จุฬารัตน์ 9 ที่ถนนกิ่งแก้ว โดยจะเพิ่มศักยภาพการรักษาผู้ป่วยเฉพาะทาง เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง โรคหัวใจ เป็นต้น คาดว่าจะแล้วเสร็จในครึ่งปีหลังของปี 59
จากข้อมูลไฟลิ่ง ระบุว่าโครงการขยายรพ.จุฬารัตน์ 3 และ 11 จะมีมูลค่าการลงทุนแห่งละประมาณ 300 ล้านบาท ส่วนโครงการสาขาสถาน พยาบาลแห่งใหม่ ในพื้นที่รพ.จุฬารัตน์ 9 จะใช้เงินลงทุนราว 350 ล้านบาท
นายแพทย์กำพล กล่าวอีกว่า ทั้ง 3 โรงพยาบาลดังกล่าว ถือเป็น โรงพยาบาลที่มีเตียง 100 เตียงขึ้นไป และตามแผนจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นใกล้เคียง 200 เตียงในแต่ละแห่ง
นอกจากนี้ กลุ่มรพ.จุฬารัตน์ ก็ยังมีรพ.จุฬารัตน์ 1 ซึ่งอยู่ที่ บางนา-ตราด และรพ.จุฬารัตน์ 5 ที่เคหะบางพลี จะมีเตียงน้อยกว่า 50 เตียง ที่เหลือเป็นสถานพยาบาลที่เป็นคลินิก โดยจะอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และใกล้เคียงกับสนามบินสุวรรณภูมิ
ปัจจุบันนี้ กลุ่มรพ.จุฬารัตน์ มีเตียงคนไข้ทั้งหมด 386 เตียง และจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 150 เตียง จะทำให้มีเตียงทั้งหมดกว่า 500 เตียง ถือเป็นโรงพยาบาลขนาดกลาง
**มั่นใจหุ้นไม่มีปัญหาขาดสภาพคล่อง
นายแพทย์กำพล กล่าวอีกว่า หากหุ้นรพ.จุฬารัตน์ เข้าซื้อขาย ในตลาดหลักทรัพย์ ก็ไม่กังวลว่าจะมีปัญหาขาดสภาพคล่อง เพราะการที่นำหุ้น เข้าจดทะเบียน เพราะต้องการที่จะขยายธุรกิจ และหวังจะใช้เครื่องมือด้านต่างๆ ในตลาดหุ้น ช่วยในการระดมทุนในอนาคต
เขา กล่าวว่า รพ.จุฬารัตน์ ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพราะคาดว่าเมื่อเปิด AEC แล้ว ความต้องการใช่บริการโรงพยาบาลเอกชนจะมี มากขึ้น ประกอบกับขณะนี้ความนิยมโรงพยาบาลเอกชนยังมีมาก เนื่องจาก ให้บริการได้รวดเร็ว และสะดวกกว่าโรงพยาบาลของรัฐ
ด้านนายพายุพัด คาดว่าการระดมทุนในรอบนี้ จะสามารถรองรับการ ขยายงานได้ราว 3 ปี หากเป็นไปตามแผนการที่กำหนดไว้
เขากล่าวว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มรพ.จุฬารัตน์ มีการเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 53-55 มีกำไรสุทธิ 118.86 ล้านบาท, 171.48 ล้านบาท และ 335.01 ล้านบาท ตามลำดับ และคาดว่าในปี 56 นี้จะยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอีก--จบ--
(โดย วิรัช บูรณกนกธนสาร รายงานและเรียบเรียง--วพ--)
(([email protected];โทร.0-2648-9756;
ReutersMessaging:wirat.buranakanokthanasan.thomsonreuters.com@
reuters.net))
Copyright 2013 Reuters.
Source - รอยเตอร์ ข่าวภายในประเทศ (Th)
Thursday, April 11, 2013 11:13
โดย วิรัช บูรณกนกธนสาร
กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--รอยเตอร์
บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ คาดจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชน ทั่วไปครั้งแรก(IPO) ได้ราวไตรมาส 2/56 โดยราคาหุ้นที่เสนอขายจะมีการสำรวจ ความต้องการซื้อจากนักลงทุนสถาบัน(Book Building) ประมาณปลาย เม.ย.นี้
ผู้บริหาร เผยการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อที่จะระดมทุนไปขยายศักยภาพการให้บริการของโรงพยาบาล เพื่อรองรับ ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
"ก.ล.ต.ได้ไป visit เรียบร้อยแล้ว คงจะเหลืออีกไม่มาก เบื้องต้น คาดว่าจะ(ขายหุ้น)เป็นไตรมาส 2"นายพายุพัด มหาผล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจวาณิชธนกิจ บล.ธนชาต ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการ จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวกับ"รอยเตอร์"
รพ.จุฬารัตน์ เป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันออก จังหวัดสมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 220 ล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท โดยหุ้นจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์(SET)
นายพายุพัด กล่าวว่า มูลค่าระดมทุนยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจาก ต้องรอให้กำหนดราคาหุ้น IPO ก่อน โดยจะใช้วิธี Book Building เพราะ ที่ผ่านมาพบว่านักลงทุนสถาบันในประเทศ เช่น กองทุนในประเทศให้ความสนใจ เป็นอย่างมาก เนื่องจากมองว่าธุรกิจโรงพยาบาลกำลังมีทิศทางเติบโตที่ดี
เขา คาดว่าจะสามารถทำ Book Building ได้ประมาณปลายเดือน เม.ย.นี้ อย่างไรก็ตามก็จะต้องรอให้ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. ก่อน โดยราคาที่จะเสนอขาย คาดว่าจะมีส่วนลดให้กับนักลงทุนประมาณ 15-20% เหมือนกับหุ้น IPO ที่เสนอขายไปก่อนหน้านี้
เขากล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้บริหาร รพ.จุฬารัตน์ ได้มีการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์)ให้กับนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ไปแล้ว ซึ่งจะต้องรอดูราคาหุ้นที่นักวิเคราะห ประเมินว่า ระดับที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานอยู่ในระดับใด
ด้านนายแพทย์กำพล พลัสสินทร์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มโรงพยาบาล จุฬารัตน์ กล่าวกับ"รอยเตอร์"ว่า สาเหตุที่นำหุ้นเข้าจดทะเบียน เพราะมองว่าเป็นช่วง เวลาที่เหมาะสม
โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน ไปเพิ่มศักยภาพของโรงพยาบาล ทั้งการ เพิ่มเตียงคนไข้ ซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ในการรักษาโรคเฉพาะทาง เพื่อเป็นการรองรับ AEC ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เขากล่าวว่า หากมีการเปิด AEC จะทำให้จำนวนประชากร ที่มาใช้บริการ เพิ่มมากขึ้น เพราะจะรวมประเทศในกลุ่มอาเซียนเข้ามาด้วย โดยมองว่าประเทศไทย มีความได้เปรียบ ในแง่ของทำเลที่ตั้งที่เป็นจุดศูนย์กลาง รวมถึงความเจริญในด้านการ ดูแลรักษา และปัจจัยที่สำคัญค่ารักษาพยาบาลในไทย ก็ถูกกว่าประเทศอื่นๆ
นายแพทย์กำพล กล่าวว่า ปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยที่เป็นคนต่างชาติ มารับการ รักษากับรพ.จุฬารัตน์ ประมาณ 5% ซึ่งเชื่อว่าเมื่อเปิด AEC แล้วจะทำให้สัดส่วน ของผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
เขากล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน ไปต่อขยายในรพ. จุฬารัตน์ 3 ซึ่งอยู่ในพื้นที่เทพารักษ์ โดยจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/58 และ รพ.จุฬารัตน์ 11 ที่บางปะกง ซึ่งส่วนต่อขยายจะแล้วเสร็จในกลางปี 57
นอกจากนี้ จะนำเงินไปขยายสถานพยาบาลแห่งใหม่เพิ่ม ที่รพ. จุฬารัตน์ 9 ที่ถนนกิ่งแก้ว โดยจะเพิ่มศักยภาพการรักษาผู้ป่วยเฉพาะทาง เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง โรคหัวใจ เป็นต้น คาดว่าจะแล้วเสร็จในครึ่งปีหลังของปี 59
จากข้อมูลไฟลิ่ง ระบุว่าโครงการขยายรพ.จุฬารัตน์ 3 และ 11 จะมีมูลค่าการลงทุนแห่งละประมาณ 300 ล้านบาท ส่วนโครงการสาขาสถาน พยาบาลแห่งใหม่ ในพื้นที่รพ.จุฬารัตน์ 9 จะใช้เงินลงทุนราว 350 ล้านบาท
นายแพทย์กำพล กล่าวอีกว่า ทั้ง 3 โรงพยาบาลดังกล่าว ถือเป็น โรงพยาบาลที่มีเตียง 100 เตียงขึ้นไป และตามแผนจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นใกล้เคียง 200 เตียงในแต่ละแห่ง
นอกจากนี้ กลุ่มรพ.จุฬารัตน์ ก็ยังมีรพ.จุฬารัตน์ 1 ซึ่งอยู่ที่ บางนา-ตราด และรพ.จุฬารัตน์ 5 ที่เคหะบางพลี จะมีเตียงน้อยกว่า 50 เตียง ที่เหลือเป็นสถานพยาบาลที่เป็นคลินิก โดยจะอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และใกล้เคียงกับสนามบินสุวรรณภูมิ
ปัจจุบันนี้ กลุ่มรพ.จุฬารัตน์ มีเตียงคนไข้ทั้งหมด 386 เตียง และจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 150 เตียง จะทำให้มีเตียงทั้งหมดกว่า 500 เตียง ถือเป็นโรงพยาบาลขนาดกลาง
**มั่นใจหุ้นไม่มีปัญหาขาดสภาพคล่อง
นายแพทย์กำพล กล่าวอีกว่า หากหุ้นรพ.จุฬารัตน์ เข้าซื้อขาย ในตลาดหลักทรัพย์ ก็ไม่กังวลว่าจะมีปัญหาขาดสภาพคล่อง เพราะการที่นำหุ้น เข้าจดทะเบียน เพราะต้องการที่จะขยายธุรกิจ และหวังจะใช้เครื่องมือด้านต่างๆ ในตลาดหุ้น ช่วยในการระดมทุนในอนาคต
เขา กล่าวว่า รพ.จุฬารัตน์ ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพราะคาดว่าเมื่อเปิด AEC แล้ว ความต้องการใช่บริการโรงพยาบาลเอกชนจะมี มากขึ้น ประกอบกับขณะนี้ความนิยมโรงพยาบาลเอกชนยังมีมาก เนื่องจาก ให้บริการได้รวดเร็ว และสะดวกกว่าโรงพยาบาลของรัฐ
ด้านนายพายุพัด คาดว่าการระดมทุนในรอบนี้ จะสามารถรองรับการ ขยายงานได้ราว 3 ปี หากเป็นไปตามแผนการที่กำหนดไว้
เขากล่าวว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มรพ.จุฬารัตน์ มีการเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 53-55 มีกำไรสุทธิ 118.86 ล้านบาท, 171.48 ล้านบาท และ 335.01 ล้านบาท ตามลำดับ และคาดว่าในปี 56 นี้จะยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอีก--จบ--
(โดย วิรัช บูรณกนกธนสาร รายงานและเรียบเรียง--วพ--)
(([email protected];โทร.0-2648-9756;
ReutersMessaging:wirat.buranakanokthanasan.thomsonreuters.com@
reuters.net))
Copyright 2013 Reuters.