ร้านหนังสือ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

ร้านหนังสือ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ตอนนี้พอดีมีประเด็นเรื่องของร้านหนังสือเกิดขึ้นคือ
การเก็บค่า DC (ค่ากระจายสินค้า) ของร้านหนังสือชื่อดังสองแห่ง
เก็บเพิ่มขึ้น 1% โดยข้ออ้างที่ใช้ในการปรับราคาขึ้น เนื่องจากค่าแรงของพนักงานประจำร้านที่ปรับเพิ่มขึ้น
แต่หากเมื่อย้อนกลับไป ร้านหนังสือแต่ละแห่งมีการเจริญเติบโต ไม่เกิน 4% ต่อปี แพ้เงินเฟ้อที่เติบโตมากกว่า

คู่แข่งของร้านหนังสือเดี๋ยวนี้คือ สินค้า IT และร้านหนังสือบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่ไม่ต้องมีหน้าร้านที่คอยเก็บหนังสือมาแสดง แต่มีคลังสินค้าแทนในการกระจายสินค้าแทน

ถ้าหากมองในเมืองนอกแล้ว ร้านหนังสือก็ล้มหายตายจากไปมากมายเนื่องการจากมาของสินค้าไอที
ทีเ่ปิดหนังสือได้ง่ายกว่าเดิม

เวลาเปลี่ยนแปลงแล้ว ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง
:)
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 2

Re: ร้านหนังสือ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

เด็กรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้เล่นแต่ ipad และหากหนังสือเรียนต่างๆ เป็น digital 100% หนังสือเล่มๆ ก็คงใกล้สูญพันธุ์ครับ
แต่มองอีกมุมหนึ่ง ผมว่าเก็บ หนังสือการลงทุนที่เป็นเล่มๆ เจ๋งไว้ก็ดีนะครับ ยิ่งมีลายเซ็นต์ด้วยนี่ทีเด็ดเลย เอาไว้ขายต่อเป็นวัตถุโบราณ หายากครับ (อีกซัก 20 ปี) :P
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: ร้านหนังสือ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

หนังสือยังไม่ตาย
แต่ค่อยถอยร่นตามพฤติกรรมของผู้บริโภค
แต่สุดท้ายที่ขายดีเพิ่มคือเครื่องพิมพ์ หมึกและกระดาษ
ไว้พิมพ์หนังสือที่บ้านมากขึ้น
:)
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
anubist
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1369
ผู้ติดตาม: 0

Re: ร้านหนังสือ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมว่าหนังสือยังคงจำเป็นโดยเฉพาะหนังสือเรียนหรือพวกให้ความรู้ และพวกวรรณกรรมทรงคุณค่าทั้งหลาย(เหยื่ออธรรม เจ้าชายน้อย มังกรหยก มังกรคู่สู้สิบทิศฯลฯ) ร้านหนังสือก็ยังคงจำเป็นโดยเฉพาะร้านหนังสือที่เน้นด้านการศึกษา แต่ปจบ.หนังสือออกใหม่มากเกินไป และไม่ค่อยควรค่าแก่การอ่านหรือเก็บสะสมมากนัก เช่นพวกนิยายตาโตทั้งหลาย ฉนั้นe-bookจะมาแทนที่นิตยสารหรือพวกนิยายตาโตที่ออกกันมามากมายแต่ไร้คุณค่าแก่การสะสม ต่างจากหนังสือให้ความรู้เช่น ตีแตกหรือintelligent investor ที่ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอเพราะคุณค่าที่ซ่อนอยู่ภายในตัวอักษรเหล่านั้นมีค่ามากกว่าค่ากระดาษ น้ำหมึกที่ใช้พิมพ์
ตรงนี้แหละครับที่เป็นจุดเปลี่ยนว่าจะเป็นรูปเล่มหรือe-book


ส่วนตัวยังชอบกระดาษมากกว่าจอมอนิเตอร์
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
โพสต์โพสต์