มาคราวนี้เป็นโอกาสที่ได้เขียนเรื่องราวที่ได้พบเจอมาจากการไปรับประทานอาหารกับเพื่อนที่เรียนด้วยกัน
โดยคราวนี้ได้มีโอกาสไปทานอาหารแบบบุฟเฟ่ ไม่ได้เดินไปตักทานเอง แต่มีคนมาเสิร์ฟตามที่เราสั่งไป
เสิร์ฟถึงโต๊ะอาหาร การทานอาหารแบบนี้เป็นการทานอาหารแบบปิ้งบนเตาถ่านแดงร้อนๆ
ตอนที่ผมไปถึงที่ร้านแรก มีคนนั่งคอยที่หน้าร้านจำนวนหนึ่ง เพื่อนก็เดินเข้าไปของบัตรคิว พบว่า
รอคิวในการทานอหารจนถึงเวลาประมาณ 2200 น.ถึงได้รับประทานอหารได้ พนักงานก็บอกให้ไปอีกร้านในเครือเดียวกัน
แต่ไปทานอาหารแถวสีลมแทน เมื่อเป็นดังนั้น พวกเรา(ไปกันสามคนรวมตัวผมด้วย) ก็นั่งรถแท็กซี่ไปตามที่พนักงานในร้านบอก เมื่อถึงร้านที่สองซึ่งเป็นร้านเครือร้านแรก ก็พบว่ามีคนนั่งคอยหน้าร้านเหมือนร้านแรกเหมือนกัน เพื่อนคนเดิมก็เข้าไปขอคิว ก็ได้คิวที่สาม ก็นั่งคอยจนถึงเวลาประมาณ สามทุ่มนิดหน่อย ก็ได้ โต๊ะ พอดีเจ้าหน้าที่ภายในร้านเรียกสองโต๊ะพร้อมกัน เราเดินไปพร้อมกัน แต่สุดท้ายทางเราไม่ได้โต๊ะเพราะเจอมือดีได้โต๊ะไป ต้องคอยโต๊ะว่างต่อไป แต่พนักงานก็แก้ไขด้วยการให้เราสั่งรายการอาหารไปก่อน พวกเราก็สั่งไปจากนั้นก็รอให้โต๊ะเช็คบิล ซึ่งพนักงานก็ให้เราคอยในร้านอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่ามองเท่าไร ราวกับร้านนี้เหมือนร้านข้้างทางเลย ต้องยืนคอยประมาณอีก 15-20 นาทีเห็นจะได้ก็ได้โต๊ะนั่งทานอาหาร
จากนั้นพนักงานก็เริ่มเสิร์ฟอาหาร แต่ทว่า อาหารที่เราสั่งครั้งแรกได้มาแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ขาดหายไปหลายอย่าง พวกเราก็ทานไปบ้างแล้ว ก็เรียกพนักงานเสิร์ฟมาบอกว่า อาหารที่สั่งไปได้ไม่ครบ มีการจดรายการอาหารไปอีกครั้งหนึ่งในรายการที่ขาดหายไปจากการสั่งครั้งแรก เมื่ออาหารชุดแรกหมดลง ตอนนี้เราสั่งและตามพนักงานภายในร้านไปห้าหกรอบเห็นจะได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วจตัดสินใจสั่งใหม่อีกรอบหนึ่ง จึงได้อาหารครบในชุดแรก ในช่วงนี้บรรยายภายในร้านเริ่มไม่มีคนแล้ว คนที่ใช้บริการเบาบางไปมากแล้ว แต่ละโต๊ะเช็คบิลไปจนมีผู้ใช้บริการร้านน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเจนเลย
เืรื่องนี้เปรียบได้เหมือนการซื้อหลักทรัพย์ได้ดังนี้
เมื่อพวกเราเจอหุ้น เป็นกิจการที่ดี แต่ไม่สามารถซื้อได้เพราะ เจอคำแนะนำที่ขัดแย้งกับเรา แต่คำแนะนำนั้นให้เรารอ ว่าราคามันลงมาต่ำกว่าราคาที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ แต่สุดท้ายแล้วราคามันทะยานเพิ่มขึ้นจากคำดังกล่าว เราก็รอแล้วรอเรา จนกระทั่งได้ราคาที่เราตั้งไว้ แต่คราวนี้เมื่อได้แล้ว เราก็เจอว่าราคาของหลักทรัพย์ืที่เราตั้งใจซื้อนั้นลดลงไป ไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ คราวนี้ต้องอดทนและอดทนค่อยให้ได้ราคาที่เราคาดหวังไว้ จนกระทั่งมาถึงเราที่เราคาดหวังว่าต้องขายแล้ว แต่คนที่ซื้อนั้นซื้อไม่ถึงจำนวนที่เราตั้งขายไว้ (ไม่ถึงคิวของเรา) คนสนใจกันอย่างล้นหลาม โทรไปหามาร์ก็ไม่ติดหรือวางไว้ในด้าน offer ก็คอยนาน ราคาหลักทรัพย์ก็มีคนสนในกันมากขึ้นกว่าเดิมอย่างมากมาย แบบว่า ติดหน้าแรกของกระดานการซื้อขายเลย (leader board) คนก็แย่งกันซื้อแย่งกันขาย จนเราไม่รู้ว่าหลักทรัพย์ตัวนี้ดีหรือไม่ดีละ สุดท้ายเมื่อเรารู้ว่าดีหรือไม่ดี ปริมาณการซื้อขายก็ลดลงแล้ว หมอกและควันก็ได้จางหายไปแล้ว
เมื่อเรารู้สึกตัวก็ตอนที่ทุกคนหันหลังให้กับหลักทรัพย์นั้นเสียแล้ว หาเป็นคนแรกสุดท้ายก็ออกเป็นคนสุดท้าย นอนดอยอีกต่างหาก
เอวังด้วยประการ ฉะนี้
ปล. เอามาเล่าสู่กันฟัง ห้ามนำไปตีความเป็นชื่อหุ้นต่างๆเด็ดขาด
