ระหว่างดู Clip น้อง Jelly ผมก็อ่านอารมณ์ตัวเองครับ อิจฉาขึ้นมาก่อนเลย ผมอิจฉาเด็กคนนี้มาก โอ้โห มีความเข้าใจขนาดนี้เลย แล้วเราอายุเท่านี้ทำอะไรอยู่ อ้อ น้าเขานั่นเอง ผมก็เพิ่มความอิจฉาน้องเขาที่มีน้าคอยแนะนำตั้งแต่เด็กเข้าไปอีก ผมยอมรับครับ ผมอิจฉาจริงๆ แต่ผมก็ยิ้มนะครับ ผมดีใจที่มีเด็กเก่งๆ อย่างนี้ ผมเชื่อว่าลูกหลาน VI ยังมีอีกมาก แต่ยังไม่ออกมา
ขอบคุณมากครับ เป็นกำลังใจให้น้องครับ ผมภูมิใจแทนตัวคุณน้า ขอบคุณคุณน้าด้วยครับ
ขอบคุณมากๆ เลยครับ ผมก็มีลูกสาว 11 ขวบ ผมสอนเขาเรื่องการลงทุนเหมือนกันครับ ผมสอนแบบที่บัฟเฟตสอนพวกเราเลย กฎสามข้อหลัก ๆ คือ นายตลาด ส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย และรู้จักธุรกิจ สิ่งเหล่านี้มันฝืนธรรชาตินิสัยของคนมาก เหมือนศาสนาพุทธเลย ผมเป็นนักลงทุนที่มีวินัยมากขึ้น ผมอ่านตัวเองมากขึ้น ผมเป็นคนที่ดีมากขึ้น ผมก็เห็นว่าดีก็เลยเอาไปสอนลูก มันเป้นปรากฏการณ์ที่ใหม่ในระบบการศึกษาเลย แต่ที่จีนเขาทำมาหลายปีแล้ว เขาเอาหลักของเบน แกรมและบัฟเฟตไปสอนในโรงเรียนประถมมาสี่ห้าปีแล้ว
หนึ่ง นายตลาด ผมจะสอนเรื่องการชนะอคติตนเอง ผมจะสอนเรื่องนี้เรื่องเดียว โดยเฉพาะเมื่อเขาอยู๋ในอารมณ์โลภและกลัว เอาความอดทนเรื่องนี้เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด ผมสอนเขาฝึกสมาธิและการอ่านลมหายใจของตนเอง เวลาเขามีทักษะการอดทน การเรียนรู็สิ่งอื่นๆ มันก็ง่ายขึ้นเอง แต่คนมักไม่ค่อยอดทน หลงไปตามอารมณ์คนอื่น ข้อนี้ก็ปูพื้นฐานให้เขามีความหนักแน่นในอารมณ์ของตนเอง ผมถือว่าสำคัญที่สุด ถ้าไม่มีข้อนี้ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ
สองส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย ผมจะสอนเรื่องความไม่แน่นอน ผมจะยกสถานการณ์ขึ้นมาแล้วให้เขาลองตัดสินใจดูว่าจะทำอย่างไร ผิดหรือถูกไม่สำคัญ สำคัญที่เมื่อผิดแล้วต้องเตรียมใจและวางแผนเผื่อทางออกอื่นเสมอ ข้อนี้สำคัญมากเช่นกัน เขาต้องยอมรับเรื่องความไม่แน่นอนในสิ่งต่างๆ ตั้งแต่เด็ก พ่อของพระพุทธเจ้าปกปิดความจริงข้อนี้จากพระพุทธเจ้าตอนท่านเป็นเด็กหมดเลย ข้อสองนี้สอนเรื่องเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ ให้ได้ และ สาม รู้จักธุรกิจ นี้ก็สำคัญไม่แพ้กันครับ ผมจะสอนให้เขามองภาพในมุมกว้างหลายๆ มุม ผมยกตัวอย่าง ถ้าเราขับรถอยู๋คงมองเห็นข้างหน้าได้ไม่ไกลเท่ากับเราไปยืนมองรถตัวเองจากมุมตึกข้างบนลงมา ข้อนี้ทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนเพราะเราเข้าใจมุมมองของคนอื่นมากขึ้น แทนที่จะมองจากความคิดตนเอง การปรับตัวเข้ากับสังคมก็ง่ายขึ้น
สำรับท่านอื่นๆ ที่ต้องการสอนลูกให้เป้นนักลงทุนอย่างพ่อแม่เหมือนเรา สอนเถอะครับ แต่สอนให้เป็น ผมติดบทความของอาจารย์เฉลิมชัยมาฝาก ท่านเป้นศิลปิน แต่ท่านมีทุกอย่างของความเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่าครับ
Cover Story: เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ : ลงทุนทั้งชีวิตเพื่อเป็นศิลปินเบอร์ 1
เราอาจหาญกล้าในการปฏิวัติงานศิลปะทั้งหมดในประเทศไทย ให้คนหันมาสนใจศิลปะไทย มันเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เด็ก ปรารถนาและเป็นนักปฏิวัติตัวยง เมื่อเป็นนักศึกษาอยู่นั้น มันปฏิวัติงานศิลปะที่เขาเรียนกันอยู่ คนที่ได้รางวัลงานศิลปะแห่งชาติเป็นงาน abstract หมด ทีนี้เราไม่พอใจ เราถือว่างานประจำชาติเราต้องมีการพัฒนา หันไปมองงานศิลปะประจำชาติแล้วเชยมาก ไม่มีคนสนใจ ในความเป็นสมัยใหม่เขาไม่สนใจงานศิลปะโบราณ เพราะว่ามันเชย เขาชอบงานศิลปะฝรั่งกัน เรามีความสำนึกว่าความเป็นชาติเป็นเรื่องใหญ่ ศิลปะประจำชาติเป็นเรื่องใหญ่ แต่เขาไม่สนใจกัน เราทุ่มเทกับการรื้อฟื้นงานศิลปะประจำชาติขึ้นมาใหม่ ก้าวขึ้นมาสู่ความร่วมสมัย ให้ทัดเทียมกับศิลปะสากล
คิดอย่างนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว ยังมาถามอีก มนุษย์โง่ๆมันเป็นแบบนี้ สังคมไทยมันโง่ เรียนจบปริญญาโทยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรแ-ก ประเทศชาติเราจึงมีคนโง่เต็มบ้านเต็มเมือง เพราะมันไม่มีความมุ่งมั่น ไม่มีปณิธาน
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งหมดนั้น มีแววมาตั้งแต่เด็กแล้ว เขาสนใจตั้งแต่เด็ก ... แล้วรู้ไหมว่าตั้งแต่เด็ก กูยังคิดเป็นศิลปินใหญ่ของแผ่นดิน กูต้องเป็นหนึ่งในแผ่นดิน รู้ไหม เขาคิดตั้งแต่เขาเป็นเด็ก ไม่ใช่ว่าเฉลิมชัยนี่ฟลุ้ค อ๋อ ทุกอย่างนี่ฟลุ้ค มันไม่ฟลุ้ค (พูดเสียงดังราวตะโกน – ผู้เขียน) คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตนั้นมันไม่มีฟลุ้ค เขาคิดเตรียมการของเขามาตั้งแต่เด็ก เขามีขบวนการจัดการของเขาตั้งแต่เด็ก มีการก้าวเดินของเขา เห็นแสงสว่างอยู่ข้างหน้าทั้งหมด เขาเดินตามทางแห่งแสงสว่างของเขาเอง โดยไม่เบี่ยงเบน นี่คือสิ่งที่นำมาสู่ความสำเร็จของมนุษย์ที่เหนือมนุษย์
ดังนั้นในอาชีพใดก็ตาม หากคนๆนั้นมีความรู้จักอาชีพนั้นตั้งแต่เด็ก มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในอาชีพนั้น ไม่รอดแม้แต่คนเดียว คนๆนั้นต้องเป็นหนึ่งอย่างแน่นอน ประสบความสำเร็จ นี่คือสัจจธรรม นี่คือของจริง นี่คือความจริงที่เป็นไปได้ แต่มนุษย์พ่ายแพ้ต่อตัวมันเอง ความมุ่งมั่นและความอดทนของมันนั้นถูกเบี่ยงเบนด้วยอามิส เบี่ยงเบนด้วยอาชีพอื่น มันไม่อดทน ไม่ขยันหมั่นเพียร ความไม่รอคอย มนุษย์ที่ประสบความสำเร็จนั้น เขารู้จักรอคอย เขาไม่ใช่คนที่เห็นอะไรก็แ-ก กูเป็นสิงโต กูไม่ใช่หมาป่ากระจอก กูไม่กินตัวเล็กๆเสียเวลา กูรอคอยหลายวันก็ได้ ไม่ต้องกิน กูไม่ใช่หมาป่ากระจอก ไล่แ-กจิ้งหรีด ไม่มีอะไรจะแ-ก ไล่แ-กไส้เดือน เป็นคนโง่ ไม่มีสมอง คนที่เป็นสุดยอดนั้น เป็นสิงโตหมด รอจังหวะของการกิน รู้ว่าจะกินอย่างไร เหมือนตกปลาใหญ่กับปลาเล็ก คนโง่ก็ตกปลาเล็กน้ำตื้น คนฉลาดตกน้ำลึก วันหนึ่งได้ตัวเดียวพอ หรือ 3 วันได้ตัวเดียว เข้าใจไหม
ในวิธีคิดและการปฏิบัติ คิดแล้วต้องปฏิบัติ ตั้งเป้าแล้วต้องฏิบัติ ชีวิตไม่เคยมีอะไรที่เบี่ยงเบนตัวเอง แม้กระทั่งความตาย เป็นคนแข็งแรงมากดังนั้นจะไม่เบี่ยงเบน มนุษย์ผู้อื่นไม่มีสามารถบังคับใจกูได้ ต่อให้เป็นพ่อหรือแม่ ก็ไม่ได้ นี่คือมนุษย์ที่เกิดมาเพื่อเป้าหมายของตัวเอง ดังนั้นพ่อแม่เบี่ยงเบนลูกตลอดเวลา พ่อแม่ในสังคมไทยเป็นพ่อแม่ที่ใช้ไม่ได้ เป็นพ่อแม่ที่บล็อคความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของเด็ก สังคมไทยเป็นสังคมที่ยากที่จะเจริญก้าวหน้าเพราะไม่ให้อิสระในความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก
ดังนั้นแม้พี่จะเป็นคนที่เกิดบ้านนอก เป็นครอบครัวเด็กต่างจังหวัด แต่เป็นคนที่ไม่เชื่อเลย กูไม่เคยเชื่อพ่อแม่เลย จะเป็นคนที่ไม่เชื่อเลย เพราะถือว่าชีวิตกูเดินทางด้วยตัวกูเอง ไม่ต้องมาชี้นำ และไม่สนใจในการชี้นำ เพราะไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองชอบ ดังนั้นก็จะไม่เชื่อ เป้าหมายอะไรคือตรงนั้นเลย และเวลาที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต คนจะดูถูกเรา แต่ไม่เคยมีความเสียใจ ไม่เคยมีความพยาบาทอาฆาต หรืออยากจะกระทืบคนที่เคยดูถูก ไม่มี กูรู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งข้างหน้าพวกมึงต้องสยบ เพราะเวลาของกูยังมาไม่ถึง ดังนั้นกูเชื่อแน่ในความมุ่งมั่นของกูว่า กูไม่มีทางที่จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่วันหนึ่งข้างหน้าเวลาของกูจะมาถึง
อันนี้คือสิ่งที่สังคมไทยไม่มี เด็กไทยไม่มี ล้มเหลวครั้งเดียวก็ถอดใจแล้ว ครั้งที่สองก็ไม่เอาแล้ว ครั้งที่สามหนีไปทำอาชีพอื่นแล้ว ไปไม่รอด นี่คือสิ่งที่ไร้เป้าหมาย คนที่มีเป้าหมายนั้นต้องหนักแน่นมั่นคงต่อเป้าหมายของตัวเอง พี่เป็นคนที่เข้าใจธรรมะดีตั้งแต่เด็ก รู้ดีว่าทุกอย่างในโลกนี้ มีความสำเร็จหมด มันมีความสำเร็จของมันเห็นอยู่แล้ว เป็นตัวอย่าง เป็นสัจจธรรมของความสำเร็จของผู้ที่มุ่งมั่น ในสายอาชีพของเราๆก็เห็นความสำเร็จของคนเก่ามันเดินรอเราอยู่ข้างหน้าแล้ว แล้วทำไมเราจะไม่ประสบความสำเร็จบ้าง หากในโลกนี้ไม่มีคนที่ประสบความสำเร็จเลย แล้วเราจะไปอย่างไร มนุษย์เราต้องเห็นสิ่งที่มนุษย์ทำอยู่ข้างหน้าแล้ว และทุกอาชีพมีความสำเร็จและทุกอาชีพมีเบอร์หนึ่ง”
credit: http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Tra ... fault.aspx