SearchMedia Holdings - IDI
-
- Verified User
- โพสต์: 454
- ผู้ติดตาม: 0
SearchMedia Holdings - IDI
โพสต์ที่ 1
ผมคิดว่า จะเขียนถึง หุ้นของบริษัทนี้นานแล้ว แต่ก็ คิดอยู่นานสองนาน ว่าเขียนอย่างไรดี เพราะว่า Story ค่อนข้างจะ Complex ซักหน่อย กล้วว่าถ้าเขียนยาวไปแล้วจะไม่มีคนอ่าน ยังไงก็แล้วแต่ วันนี้มีเวลาว่าง ก็เลยจะขอเขียนหน่อย หลังจากเขียน ฉบับ ภาษาอังกฤษไปเมื่อปีที่แล้วใน Blog ของ SA แล้ว ว่าทำไมผมถึงคิดว่าบริษัทนี้น่าสนใจครับ
เว็บบริษัท http://idi.irpage.net/
เว็บบริษัทลูกในเครือ : wzrigao.com , rz-cm.com , ad-icon.com
บริษัท SearchMedia (SM) เป็น บริษัท ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ สื่อโฆษณา Out of home media บริษัทนึง ที่จดทะเบียน ใน ตลาด AMEX มีขนาดเล็ก และ เป็น บริษัท ที่ทำธุรกิจอยู่ใน เมืองจีน ซึ่งในช่วง 1-2 ปี หลังนี้ มีเรื่อง Fraud มาบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอะ ทำให้ ราคาตกต่ำอย่างมาก แต่ว่า ตัว SM นี้ ผมมีเหตุผลที่ทำให้่ค่อนข้างแน่ใจว่าไม่ใช่ Fraud แน่ๆ แล้วก็ ถ้าหากความมั่นใจในพวก Chinese Companies กลับมา หุ้นตัวนี้ น่าจะเป็นตัวแรกๆ ที่ราคาน่าจะตอบสนองความมั่นใจของนักลงทุนที่ USA ได้ และผู้ถือหุ้นใหญ่ ของบริษัทคือ นักลงทุน ชื่อดังที่ อเมริกา ที่ผม เคยเขียนถึงไปแล้วDr.Philip Frost ครับ และ Chairman ก็เป็น ญาติของ Dr.Frost รวมไปถึง CEO - Paul Conway ก็เป็นคนที่ Frost เลือกมาบริหารงานเองด้วย
ความเป็นมา
ชื่อเก่าของ SM คือ Ideation ซึ่งเป็นที่มา ของ Ticker ที่ชื่อ IDI ซึ่งเป็นเป็น บริษัท SPAC ที่ตั้งขึ้นมาในปี 2008 โดยมีแต่เงินสด วัตถุประสงค์ คือเพื่อไป Takeover บริษัทอื่น นั้นเองซึ่งเป็น Model ที่ Dr.Frost ใช้ทำหุ้นหลายๆตัว ราคาตอน IPO เมื่อ ตอนนั้น และเป็น ต้นทุนของ Frost ด้วย คือ ประมาณ $7
ปี 2009 ทาง Ideation ได้ตกลง แลกหุ้น กับ SearchMedia เพื่อทำการควบรวมกิจการ โดย ตอนแรก IDI มีหุ้นประมาณ 12 ล้านหุ้น และได้ตกลง ออกหุ้นเพิ่มอีกประมาณ 8.5 ล้านหุ้น เพื่อออกหุ้น IDI ให้กับ SM เดิม เพื่อรวมสองกิจการเข้าด้วยกัน ซึ่งตอน ปี 2009 นั้น ตลาดของหุ้นจีน ที่ US นั้น หอมหวลมาก ทางกลุ่มของ Dr.Frost จึงไม่รีรอ ที่จะแลกหุ้นกับ SearchMedia ในช่วงเวลานั้น
เมือปี 2009 นั้น SearchMedia เป็นบริษัท OOH ที่กำลังจะเตรียม จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อเมริกา มีผู้บริหารคือ Qinying Liu และมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น Venture Capital ต่างๆ เช่น Deutsche Bank และ China Seed Venture เป็นต้น ซึ่งตัว SearchMedia เอง ธุรกิจหลักคือ โฆษณาบน Elevator (In-elevator platform) ในเมือง เซียงไฮ้ และ มีบริษัทลูกในเครือ ซึ่งเกิดจากการไป Takeover กิจการมาในปี 2008 ซึ่งจะมีธุรกิจ OOH ใน Platform อื่นๆ คื่อ Outdoor Advertising และ In-transit Advertising ซึ่งได้มาจากการไป Take กิจการอื่นๆ ในเมืองอื่นๆ มา (Profileของ SM ฉบับภาษาจีนดูได้ที่นี่ http://baike.baidu.com/view/2117465.htm)
ทางกลุ่ม Frost เล็งเห็นว่า หลังจาก แลกหุ้นกับเจ้าของเดิม ก็จะร่วมกันบริหารบริษัทต่อไป และสถานะการเป็นบริษัทจดทะเบียน ก็จะสามารถ Takeover บริษัทอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น เพื่อสร้าง Advertising Network ของบริษัทให้ใหญ่ขึ้น ก็จะทำให้ กำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวได้สูงขึ้น จากอำนาจต่อรอง กับผู้ซื้อโฆษณา และผู้ให้เช่าพื้่นที่ โฆษณาที่มากขึ้น เป็น Business Model ใกล้เคียงกับ Focus Media (FMCN) ซึ่งเป็น รายใหญ่สุดของ ตลาด OOH ในขณะนั้น ในเมืองจีน จนถึงปัจจุบันนี้
เมื่อ ออกหุ้นใหม่ ประมาณ 8.5 ล้านหุ้นแล้ว ทางกลุ่ม Frost ได้ส่งผู้บริหารชาว อเมริกันเข้าไป ดูแล คือเปลี่ยน CEO เป็น Paul Conway ซึ่ง งานเก่าคือ เป็น Investment Banker คอยทำ Deal เกี่ยวกับธุรกิจ OOH ที่ US และ China แต่แล้ว ทาง ผู้บริหารใหม่ ก็พบว่า งบการเงิน ของ SM ที่อ้างว่า มีรายได้ใน ปี 2008-2009 ที่ $80-90 ล้าน นั้น เชื่อถือไม่ได้ เพราะว่าส่วนใหญ่เป็น ลูกหนี้ทางการค้า ทำให้รู้ว่างานนี้ ทางกลุ่ม Dr.Frost โดยผู้ถือหุ้น SM เก่า ต้มแล้ว ดังนั้น ทางกลุ่ม Frost จึงได้ ระงับการ Register หุ้นของ ผู้ถือหุ้นเก่า เท่าให้ ถึงจะมีหุ้น แต่ก็ไม่สามารถขายในตลาดได้ และไล่ทีมบริหารชุดเก่าออกหมด (สัญญาตอนแลกหุ้นทำให้ Frost สามารถมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการบริหาร จนถึง October 2012)
ปี 2010
ช่วงต้นปี มีการเปลี่ยนผู้บริหารออกไป เหลือแต่ เพียงสองคน ซึ่ง ทางกลุ่ม Frost ไม่สามารถ เอาออกได้ คือตัว Qinying Liu และ Garbo Lee แต่ทาง CEO และ CFO เป็นคนของทาง Frost แล้ว ที่เอาเข้าไปบริหารใหม่ โดยขณะนั้น ทางผู้บริหารเก่าที่เหลือ สองคน ก็ไม่ได้มี อำนาจบริหารอะไรแล้ว
ในช่วงปีนั้น หุ้นของ IDI ได้ร่วงลงมา จากระดับ $7 ไป อยู่แถว $3-4 เนื่องจากนักลงทุนตื่นกลัว และทาง บริษัท หยุดออกรายการ Quarterly Report เพราะต้องกลับมาจัดการ งบเก่าๆ ในเรียบร้อยก่อน และทำการเช็คว่า นอกจาก ธุรกิจของตัว SM ที่โดน ผู้บริหารทำงบ แล้ว บริษัทลูกอื่นๆ จะมีโดย ทำงบด้วยหรือไม่ (ขณะนั้นบริษัทลูกมี ประมาณ 7-8 บริษัท) โดยเปลี่ยน Auditor ใหม่ ด้วย และ ทาง IDI ได้ยื่นฟ้องต่อ ศาลที่ สหรัฐ ให้ทำการเพิกถอนหุ้น 8.5 ล้านหุ้น ที่ออกให้ ผู้ถือหุ้นเก่าไป ด้วยข้อหา ฉ้อโกง
ปลายปี 2010 สุดท้าย งบปี 2008-2009 ที่ถูกแก้ไขแล้ว ก็ออกมา ปรากฎว่า รายได้ หายไป ครึ่งนึง ส่งผลให้ งบปี 2008-2009 ที่ปรับปรุงแล้ว บริษัท ขาดทุนมโหฬาร จากการตัด ลูกหนี้ทางการค้า(ปลอม) ทิ้ง และนอกจากนั้น บริษัทยังตัด Goodwill ของสองบริษัทลูก ทิ้งเป็นศูนย์ ผมเข้าใจว่าคงเพราะงบปลอมเหมือนกัน แต่ในโชคร้ายก็ยังมี ความหวังเหลืออยู่บ้าง เพราะบริษัทลูกอื่นๆ รวมทั้งธุรกิจส่วนนึงของบริษัทแม่ ก็มี รายได้จริงๆ
ในระหว่างปี 2010 ทาง IDI ได้ไป Takeover บริษํท Continental ซึ่งเป็น เจ้าของ Billboard โฆษณา ที่เมือง Zhejiang มาใน ราคา $19 ล้าน (take มา 6.5 เท่าของกำไรสุทธิ) ซึ่งบริษัทนี้เนื่องจากมีบทเรียนแล้ว ทำให้ ผู้บริหารใช้ความรอบคอบมากขึ้น นอกจากนั้น ปี 2010 IDI ก็ต้องจ่ายเงินสดออกจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ บริษัทลูกในเครือ เนื่องจาก สัญญาตอนซื้อกิจการ ต้องทะยอยจ่ายเงินให้ บริษัทลูกด้วย และส่วนนึงของการซื้อกิจการก็คือจ่ายเป็นหุ้น IDI (จ่ายไปแล้วเมื่อปลายปี 2011) ซึ่ง ทางผู้บริหาร ตัดสินใจว่าจะจ่าย เพราะเห็นว่า กิจการของบริษัทลูก ที่เค้ายอมจ่ายเงิน เพื่อรักษาความเป็นเจ้าของไว้นั้น มี Operation จริงๆ และมีศักยภาพ
เว็บบริษัท http://idi.irpage.net/
เว็บบริษัทลูกในเครือ : wzrigao.com , rz-cm.com , ad-icon.com
บริษัท SearchMedia (SM) เป็น บริษัท ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ สื่อโฆษณา Out of home media บริษัทนึง ที่จดทะเบียน ใน ตลาด AMEX มีขนาดเล็ก และ เป็น บริษัท ที่ทำธุรกิจอยู่ใน เมืองจีน ซึ่งในช่วง 1-2 ปี หลังนี้ มีเรื่อง Fraud มาบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอะ ทำให้ ราคาตกต่ำอย่างมาก แต่ว่า ตัว SM นี้ ผมมีเหตุผลที่ทำให้่ค่อนข้างแน่ใจว่าไม่ใช่ Fraud แน่ๆ แล้วก็ ถ้าหากความมั่นใจในพวก Chinese Companies กลับมา หุ้นตัวนี้ น่าจะเป็นตัวแรกๆ ที่ราคาน่าจะตอบสนองความมั่นใจของนักลงทุนที่ USA ได้ และผู้ถือหุ้นใหญ่ ของบริษัทคือ นักลงทุน ชื่อดังที่ อเมริกา ที่ผม เคยเขียนถึงไปแล้วDr.Philip Frost ครับ และ Chairman ก็เป็น ญาติของ Dr.Frost รวมไปถึง CEO - Paul Conway ก็เป็นคนที่ Frost เลือกมาบริหารงานเองด้วย
ความเป็นมา
ชื่อเก่าของ SM คือ Ideation ซึ่งเป็นที่มา ของ Ticker ที่ชื่อ IDI ซึ่งเป็นเป็น บริษัท SPAC ที่ตั้งขึ้นมาในปี 2008 โดยมีแต่เงินสด วัตถุประสงค์ คือเพื่อไป Takeover บริษัทอื่น นั้นเองซึ่งเป็น Model ที่ Dr.Frost ใช้ทำหุ้นหลายๆตัว ราคาตอน IPO เมื่อ ตอนนั้น และเป็น ต้นทุนของ Frost ด้วย คือ ประมาณ $7
ปี 2009 ทาง Ideation ได้ตกลง แลกหุ้น กับ SearchMedia เพื่อทำการควบรวมกิจการ โดย ตอนแรก IDI มีหุ้นประมาณ 12 ล้านหุ้น และได้ตกลง ออกหุ้นเพิ่มอีกประมาณ 8.5 ล้านหุ้น เพื่อออกหุ้น IDI ให้กับ SM เดิม เพื่อรวมสองกิจการเข้าด้วยกัน ซึ่งตอน ปี 2009 นั้น ตลาดของหุ้นจีน ที่ US นั้น หอมหวลมาก ทางกลุ่มของ Dr.Frost จึงไม่รีรอ ที่จะแลกหุ้นกับ SearchMedia ในช่วงเวลานั้น
เมือปี 2009 นั้น SearchMedia เป็นบริษัท OOH ที่กำลังจะเตรียม จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อเมริกา มีผู้บริหารคือ Qinying Liu และมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น Venture Capital ต่างๆ เช่น Deutsche Bank และ China Seed Venture เป็นต้น ซึ่งตัว SearchMedia เอง ธุรกิจหลักคือ โฆษณาบน Elevator (In-elevator platform) ในเมือง เซียงไฮ้ และ มีบริษัทลูกในเครือ ซึ่งเกิดจากการไป Takeover กิจการมาในปี 2008 ซึ่งจะมีธุรกิจ OOH ใน Platform อื่นๆ คื่อ Outdoor Advertising และ In-transit Advertising ซึ่งได้มาจากการไป Take กิจการอื่นๆ ในเมืองอื่นๆ มา (Profileของ SM ฉบับภาษาจีนดูได้ที่นี่ http://baike.baidu.com/view/2117465.htm)
ทางกลุ่ม Frost เล็งเห็นว่า หลังจาก แลกหุ้นกับเจ้าของเดิม ก็จะร่วมกันบริหารบริษัทต่อไป และสถานะการเป็นบริษัทจดทะเบียน ก็จะสามารถ Takeover บริษัทอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น เพื่อสร้าง Advertising Network ของบริษัทให้ใหญ่ขึ้น ก็จะทำให้ กำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวได้สูงขึ้น จากอำนาจต่อรอง กับผู้ซื้อโฆษณา และผู้ให้เช่าพื้่นที่ โฆษณาที่มากขึ้น เป็น Business Model ใกล้เคียงกับ Focus Media (FMCN) ซึ่งเป็น รายใหญ่สุดของ ตลาด OOH ในขณะนั้น ในเมืองจีน จนถึงปัจจุบันนี้
เมื่อ ออกหุ้นใหม่ ประมาณ 8.5 ล้านหุ้นแล้ว ทางกลุ่ม Frost ได้ส่งผู้บริหารชาว อเมริกันเข้าไป ดูแล คือเปลี่ยน CEO เป็น Paul Conway ซึ่ง งานเก่าคือ เป็น Investment Banker คอยทำ Deal เกี่ยวกับธุรกิจ OOH ที่ US และ China แต่แล้ว ทาง ผู้บริหารใหม่ ก็พบว่า งบการเงิน ของ SM ที่อ้างว่า มีรายได้ใน ปี 2008-2009 ที่ $80-90 ล้าน นั้น เชื่อถือไม่ได้ เพราะว่าส่วนใหญ่เป็น ลูกหนี้ทางการค้า ทำให้รู้ว่างานนี้ ทางกลุ่ม Dr.Frost โดยผู้ถือหุ้น SM เก่า ต้มแล้ว ดังนั้น ทางกลุ่ม Frost จึงได้ ระงับการ Register หุ้นของ ผู้ถือหุ้นเก่า เท่าให้ ถึงจะมีหุ้น แต่ก็ไม่สามารถขายในตลาดได้ และไล่ทีมบริหารชุดเก่าออกหมด (สัญญาตอนแลกหุ้นทำให้ Frost สามารถมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการบริหาร จนถึง October 2012)
ปี 2010
ช่วงต้นปี มีการเปลี่ยนผู้บริหารออกไป เหลือแต่ เพียงสองคน ซึ่ง ทางกลุ่ม Frost ไม่สามารถ เอาออกได้ คือตัว Qinying Liu และ Garbo Lee แต่ทาง CEO และ CFO เป็นคนของทาง Frost แล้ว ที่เอาเข้าไปบริหารใหม่ โดยขณะนั้น ทางผู้บริหารเก่าที่เหลือ สองคน ก็ไม่ได้มี อำนาจบริหารอะไรแล้ว
ในช่วงปีนั้น หุ้นของ IDI ได้ร่วงลงมา จากระดับ $7 ไป อยู่แถว $3-4 เนื่องจากนักลงทุนตื่นกลัว และทาง บริษัท หยุดออกรายการ Quarterly Report เพราะต้องกลับมาจัดการ งบเก่าๆ ในเรียบร้อยก่อน และทำการเช็คว่า นอกจาก ธุรกิจของตัว SM ที่โดน ผู้บริหารทำงบ แล้ว บริษัทลูกอื่นๆ จะมีโดย ทำงบด้วยหรือไม่ (ขณะนั้นบริษัทลูกมี ประมาณ 7-8 บริษัท) โดยเปลี่ยน Auditor ใหม่ ด้วย และ ทาง IDI ได้ยื่นฟ้องต่อ ศาลที่ สหรัฐ ให้ทำการเพิกถอนหุ้น 8.5 ล้านหุ้น ที่ออกให้ ผู้ถือหุ้นเก่าไป ด้วยข้อหา ฉ้อโกง
ปลายปี 2010 สุดท้าย งบปี 2008-2009 ที่ถูกแก้ไขแล้ว ก็ออกมา ปรากฎว่า รายได้ หายไป ครึ่งนึง ส่งผลให้ งบปี 2008-2009 ที่ปรับปรุงแล้ว บริษัท ขาดทุนมโหฬาร จากการตัด ลูกหนี้ทางการค้า(ปลอม) ทิ้ง และนอกจากนั้น บริษัทยังตัด Goodwill ของสองบริษัทลูก ทิ้งเป็นศูนย์ ผมเข้าใจว่าคงเพราะงบปลอมเหมือนกัน แต่ในโชคร้ายก็ยังมี ความหวังเหลืออยู่บ้าง เพราะบริษัทลูกอื่นๆ รวมทั้งธุรกิจส่วนนึงของบริษัทแม่ ก็มี รายได้จริงๆ
ในระหว่างปี 2010 ทาง IDI ได้ไป Takeover บริษํท Continental ซึ่งเป็น เจ้าของ Billboard โฆษณา ที่เมือง Zhejiang มาใน ราคา $19 ล้าน (take มา 6.5 เท่าของกำไรสุทธิ) ซึ่งบริษัทนี้เนื่องจากมีบทเรียนแล้ว ทำให้ ผู้บริหารใช้ความรอบคอบมากขึ้น นอกจากนั้น ปี 2010 IDI ก็ต้องจ่ายเงินสดออกจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ บริษัทลูกในเครือ เนื่องจาก สัญญาตอนซื้อกิจการ ต้องทะยอยจ่ายเงินให้ บริษัทลูกด้วย และส่วนนึงของการซื้อกิจการก็คือจ่ายเป็นหุ้น IDI (จ่ายไปแล้วเมื่อปลายปี 2011) ซึ่ง ทางผู้บริหาร ตัดสินใจว่าจะจ่าย เพราะเห็นว่า กิจการของบริษัทลูก ที่เค้ายอมจ่ายเงิน เพื่อรักษาความเป็นเจ้าของไว้นั้น มี Operation จริงๆ และมีศักยภาพ
-
- Verified User
- โพสต์: 454
- ผู้ติดตาม: 0
Re: SearchMedia Holdings - IDI
โพสต์ที่ 2
ปี 2011
ราคาหุ้นของบริษัท ช่วงต้นปี กลับมาอยู่ แถุวๆ $3 แต่ ประมาณ มีนาคม ก็ร่วงลงมา แถวๆ 1 ปลาย ถึง 2 ใหม่ บริษัท ประกาศงบ ปี 2010 ซึ่ง ขาดทุนมโหฬาร อยู่ที่ ติดลบ $46 ล้าน มาจากการตัด Goodwill ในระหว่างปี 2010 ที่ $39.5 ล้าน แต่ว่า ถ้ามาดูเฉพาะงบของบริษัทลูก บริษัทจะมีกำไร $9 ล้าน (http://idi.irpage.net/documents/SearchM ... 0Final.pdf)
ซึ่งทาง CEO อธิบายว่า เป็นเพราะ ขาดทุนส่วนใหญ่ มาจากพวกค่า Forensic Accounting ที่ทำเพื่อแก้ไขงบปี 2008-2009 และค่า Legal Fee พวกกับ ค่า Terminate สัญญาเช่าพื้นที่ ที่ไม่ทำกำไรต่างๆ ที่ผู้บริหารชุดเดิมได้ทำเอาไว้
ปี2011 นี้ ผมได้มีโอกาส ไปประชุมประจำปีของบริษัท ในช่วงเดือน October แล้วก็ได้ พูดคุยกับ Paul Conway ซึ่งเป็น CEO ของบริษัทนี้ ซึ่งหลังจากกลับมา ไม่กี่วัน บริษัทก็ได้ประกาศ งบ ครึ่งปี 2011 ต่อ ซึ่งงบ ก็ดีขึ้นครับ คือ บริษัทหยุด ขาดทุนสุทธิแล้ว และ รายได้เติบโตประมาณ 37% เทียบกับครึ่งปี 2010 ด้วยกัน ซึ่ง การที่พลิกกลับมา กำไรนิดหน่อยนี่ ก็ถือว่าดีแล้ว เพราะว่าส่วนใหญ่ต้นทุนของบริษัท OOH นี้ เป็น ต้นทุนคงที่ ดังนั้น ถ้ารายได้เพิ่มต่อไป ส่วนใหญ่ก็จะมาตก ที่กำไรซะเยอะแล้ว (ลองดูงบของ Maco หรือว่า JCDecaux ประกอบ ธุรกิจ OOH สามารถทำ Gross Margin ได้ใน ระดับ 40% กว่าๆด้วยซ้ำ)
Paul Conway ให้ ความเห็นว่า ปัญหา ต่างๆ ของ IDI คือในเรื่องของ การเคลียร์กับ ผู้ถือหุ้นรายเดิมกำลังจะจบลง และบริษัท จะสามารถ Focus on Growth ได้ เพราะว่า Growth in China is real และนอกจากนั้น สถานการณ์ ของ Fraud ในตลาด USA ทำให้ ธุรกิจ OOH ที่อยากจะเข้ามา List ในตลาด USA ไม่สามารถ ทำได้ จะเข้าไป List ที่ตลาด Shanghai ก็ ทำได้ยาก สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หรือว่ากำไร ยังไม่เยอะ และ ตลาด USA ใน Valuation ของธุรกิจ OOH ที่สูงกว่า ตลาดจีน (ในกรณีที่ นักลงทุนเชื่อว่า เป็นธุรกิจที่ไม่ใช่ Fraud ) อย่าง FMCN ที่โดน Muddy กล่าวหาว่าเป็น Fraud ราคาร่วงไป แต่ตอนนี้กลับมาที่เดิมแล้ว ก็ Trade ที่ Valuation สูง (market capt =3.5x ของรายได้) ดังนั้น ทางหาก IDI สามารถ Proof ตัวเองกับนักลงทุนได้ ว่าเป็นบริษัท ที่น่าเชื่อถือ จากการที่เป็น บริษัทของ Dr.Frost ซึ่งป็นนักลงทุนที่มีชือเสียง กอรปกับ มีทีมบริหาร ที่มีความน่าเชื่อถือ (เป็นชาวอเมริกัน) IDI ก็จะ Trade ที่ Valuation สูงๆ ได้ และจะสามารถ ไป Acquisition บริษัทอื่นๆ ซึ่ง ในช่วง 1-2 ปีให้หลังนี้ ตลาด OOH เข้าถึง Capital Market ได้ยากขึ้น ดังนั้น บริษัทอื่นๆ ก็ Likely ที่จะอยากจะเข้ามา รวมกับ IDI โดย วิธีการ Acquisition ของ IDI จะจ่าย Upfront Cash เป็นจำนวน ประมาณ 5-10% ของมูลค่าดีล แล้วที่เหลือจะจ่ายเป็นหุ้น ภายใน 2-3 ปี ของการซื้อกิจการ ทำให้ กิจการที่ซื้อมา ก็ต้อง Perform ไม่อย่างนั้น ถ้ากำไรน้อยแล้ว ราคาหุ้น IDI ไม่สูง ทางบริษัทเหล่านั้นก็ได้ผลตอบแทนน้่อยลง อย่างเช่น IDI ไปซื้อกิจการมา ถ้าในสถานการณ์เมื่อ 3-4 ปีก่อน อาจจะต้องยอมจ่าย 8-10x ของกำไร แต่ว่า ปัจจุบััน ก็จะจ่ายได้ถูกลง กลายเป็น 4-6x ซะด้วยซ้ำ และพอกำไรเข้ามา Bottom Line ของ IDI หุ้นก็จะขึ้นไป เป็นต้น
ช่วงปลายปี 2011 หุ้น IDI ราคาลงเละเทะครับ เพราะว่า ทางบริษัทไม่ยอมประกาศความคืบหน้าในเรื่อง ผู้ถือหุ้นรายเดิมซะที รวมถึง งบ Q3 ก็ไม่ประกาศ เหมือนกับว่าทาง บริษัท Black ไปช่วงนั้น ประกอบกับ มีทาง Muddy Water ออกมาโจมตี FMCN ทำให้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่มีกับหุ้นกลุ่ม OOH Advertising และ หุ้น China นั้น ยิ่งต่ำไปหนัก
ปี 2012
ในที่สุดก็มี ข่าวดี ก็คือว่า สามารถ Cancel หุ้นของ ผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิม จากการ Settle กันนอก ศาลได้แล้ว จำนวนนึง และจำนวนนึง ทาง IDI ใช้ราคาหุ้นในขณะนั้นๆ (ประมาณ $0.50) ในการต่อรอง ขอซื้อหุ้นคืน จากผู้ถือหุ้น เดิม
http://idi.irpage.net/details.php?id=50385
ตอนนี้เรื่องเคลียร์กับผู้ถือหุ้นเก่า เกือบจบแล้ว เพราะเหลือรายที่ไม่ยอมคือ Vervian ซึ่งถือหุ้นอยู่ ไม่กี่แสนหุ้นเท่านั้นเอง และก็เหลือ ทาง Deustch Bank ที่ถือหุ้นอยู่ 2.2 ล้านหุ้น ที่ในประกาศ ว่าก็เคลียร์กันได้แล้ว แต่รอ Condition อะไรบางอย่างอยู่ จากรายงานถือหุ้นของ DB ทาง DB ได้เข้าซื้อหุ้น ของ IDI เพิ่มใน Q4-2011 ที่ผ่านมาอีกด้วย ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณที่ดี
http://whalewisdom.com/stock/idi
ตอนนี้ ทาง IDI ทำ Press Release ออกมา สองข่าว คือ
การ Terminate VIE Structure ซึ่งเป็น โครงสร้างบริษัท ที่ทำให้ นักลงทุน US ไม่กล้าซื้อหุ้นจีนกัน เนื่องจาก VIE นั้น ไม่ใช่เจ้าของ ของหุ้นนั้นๆ จริง แต่เป็นเพียง Contract ทำนั้นเอง (Baidu ก็มีโครงสร้างแบบ VIE ) ทาง Paul Conway เห็นว่า VIE นั้น ในอนาคตน่าจะมีปัญหาเยอะ ดังนั้น จึง เปลี่ยนโครงสร้างความเป็นเจ้าของในบริษํทลูก แบบ VIE ให้มาเป็นแบบ Equity ให้หมด ซึ่ง ใน Ad-icon ซึ่งเป็น บริษัทที่ IDI ถือหุ้นโดยตรงใน Hong Kong เข้าไปถือหุ้นในบริษัทลูกต่างๆแทน ซึ่ง Paul ได้ทำตั้งแต่ปี 2011 แล้ว และพึ่งมาแล้วเสร็จในช่วงปีนี้นั้นเอง
http://idi.irpage.net/details.php?id=50723
อีกข่าวก็คือ การที่ IDI ชนะได้โครงการ โฆษณา Tourism Promotion ของเมือง Hangzhou มูลค่า $2 ล้าน ซึ่งงานนี้มูลค่าไม่เยอะ แต่น่าจะได้กำไรกล้บมาดี เพราะว่าเป็นเหมือนงานAgency มากกว่า และยังแสดงให้เห็นถึง Performance ของ COO คนใหม่ คุณ Johny Lo ที่ Paul ดึงมาร่วมงานได้ในปีที่แล้ว http://idi.irpage.net/details.php?id=50759
ดูประวัติ Johny Lo ได้ที่นี่ http://www.glgresearch.com/Council-Memb ... 61847.html
ราคาหุ้นของบริษัท ช่วงต้นปี กลับมาอยู่ แถุวๆ $3 แต่ ประมาณ มีนาคม ก็ร่วงลงมา แถวๆ 1 ปลาย ถึง 2 ใหม่ บริษัท ประกาศงบ ปี 2010 ซึ่ง ขาดทุนมโหฬาร อยู่ที่ ติดลบ $46 ล้าน มาจากการตัด Goodwill ในระหว่างปี 2010 ที่ $39.5 ล้าน แต่ว่า ถ้ามาดูเฉพาะงบของบริษัทลูก บริษัทจะมีกำไร $9 ล้าน (http://idi.irpage.net/documents/SearchM ... 0Final.pdf)
ซึ่งทาง CEO อธิบายว่า เป็นเพราะ ขาดทุนส่วนใหญ่ มาจากพวกค่า Forensic Accounting ที่ทำเพื่อแก้ไขงบปี 2008-2009 และค่า Legal Fee พวกกับ ค่า Terminate สัญญาเช่าพื้นที่ ที่ไม่ทำกำไรต่างๆ ที่ผู้บริหารชุดเดิมได้ทำเอาไว้
ปี2011 นี้ ผมได้มีโอกาส ไปประชุมประจำปีของบริษัท ในช่วงเดือน October แล้วก็ได้ พูดคุยกับ Paul Conway ซึ่งเป็น CEO ของบริษัทนี้ ซึ่งหลังจากกลับมา ไม่กี่วัน บริษัทก็ได้ประกาศ งบ ครึ่งปี 2011 ต่อ ซึ่งงบ ก็ดีขึ้นครับ คือ บริษัทหยุด ขาดทุนสุทธิแล้ว และ รายได้เติบโตประมาณ 37% เทียบกับครึ่งปี 2010 ด้วยกัน ซึ่ง การที่พลิกกลับมา กำไรนิดหน่อยนี่ ก็ถือว่าดีแล้ว เพราะว่าส่วนใหญ่ต้นทุนของบริษัท OOH นี้ เป็น ต้นทุนคงที่ ดังนั้น ถ้ารายได้เพิ่มต่อไป ส่วนใหญ่ก็จะมาตก ที่กำไรซะเยอะแล้ว (ลองดูงบของ Maco หรือว่า JCDecaux ประกอบ ธุรกิจ OOH สามารถทำ Gross Margin ได้ใน ระดับ 40% กว่าๆด้วยซ้ำ)
Paul Conway ให้ ความเห็นว่า ปัญหา ต่างๆ ของ IDI คือในเรื่องของ การเคลียร์กับ ผู้ถือหุ้นรายเดิมกำลังจะจบลง และบริษัท จะสามารถ Focus on Growth ได้ เพราะว่า Growth in China is real และนอกจากนั้น สถานการณ์ ของ Fraud ในตลาด USA ทำให้ ธุรกิจ OOH ที่อยากจะเข้ามา List ในตลาด USA ไม่สามารถ ทำได้ จะเข้าไป List ที่ตลาด Shanghai ก็ ทำได้ยาก สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หรือว่ากำไร ยังไม่เยอะ และ ตลาด USA ใน Valuation ของธุรกิจ OOH ที่สูงกว่า ตลาดจีน (ในกรณีที่ นักลงทุนเชื่อว่า เป็นธุรกิจที่ไม่ใช่ Fraud ) อย่าง FMCN ที่โดน Muddy กล่าวหาว่าเป็น Fraud ราคาร่วงไป แต่ตอนนี้กลับมาที่เดิมแล้ว ก็ Trade ที่ Valuation สูง (market capt =3.5x ของรายได้) ดังนั้น ทางหาก IDI สามารถ Proof ตัวเองกับนักลงทุนได้ ว่าเป็นบริษัท ที่น่าเชื่อถือ จากการที่เป็น บริษัทของ Dr.Frost ซึ่งป็นนักลงทุนที่มีชือเสียง กอรปกับ มีทีมบริหาร ที่มีความน่าเชื่อถือ (เป็นชาวอเมริกัน) IDI ก็จะ Trade ที่ Valuation สูงๆ ได้ และจะสามารถ ไป Acquisition บริษัทอื่นๆ ซึ่ง ในช่วง 1-2 ปีให้หลังนี้ ตลาด OOH เข้าถึง Capital Market ได้ยากขึ้น ดังนั้น บริษัทอื่นๆ ก็ Likely ที่จะอยากจะเข้ามา รวมกับ IDI โดย วิธีการ Acquisition ของ IDI จะจ่าย Upfront Cash เป็นจำนวน ประมาณ 5-10% ของมูลค่าดีล แล้วที่เหลือจะจ่ายเป็นหุ้น ภายใน 2-3 ปี ของการซื้อกิจการ ทำให้ กิจการที่ซื้อมา ก็ต้อง Perform ไม่อย่างนั้น ถ้ากำไรน้อยแล้ว ราคาหุ้น IDI ไม่สูง ทางบริษัทเหล่านั้นก็ได้ผลตอบแทนน้่อยลง อย่างเช่น IDI ไปซื้อกิจการมา ถ้าในสถานการณ์เมื่อ 3-4 ปีก่อน อาจจะต้องยอมจ่าย 8-10x ของกำไร แต่ว่า ปัจจุบััน ก็จะจ่ายได้ถูกลง กลายเป็น 4-6x ซะด้วยซ้ำ และพอกำไรเข้ามา Bottom Line ของ IDI หุ้นก็จะขึ้นไป เป็นต้น
ช่วงปลายปี 2011 หุ้น IDI ราคาลงเละเทะครับ เพราะว่า ทางบริษัทไม่ยอมประกาศความคืบหน้าในเรื่อง ผู้ถือหุ้นรายเดิมซะที รวมถึง งบ Q3 ก็ไม่ประกาศ เหมือนกับว่าทาง บริษัท Black ไปช่วงนั้น ประกอบกับ มีทาง Muddy Water ออกมาโจมตี FMCN ทำให้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่มีกับหุ้นกลุ่ม OOH Advertising และ หุ้น China นั้น ยิ่งต่ำไปหนัก
ปี 2012
ในที่สุดก็มี ข่าวดี ก็คือว่า สามารถ Cancel หุ้นของ ผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิม จากการ Settle กันนอก ศาลได้แล้ว จำนวนนึง และจำนวนนึง ทาง IDI ใช้ราคาหุ้นในขณะนั้นๆ (ประมาณ $0.50) ในการต่อรอง ขอซื้อหุ้นคืน จากผู้ถือหุ้น เดิม
http://idi.irpage.net/details.php?id=50385
ตอนนี้เรื่องเคลียร์กับผู้ถือหุ้นเก่า เกือบจบแล้ว เพราะเหลือรายที่ไม่ยอมคือ Vervian ซึ่งถือหุ้นอยู่ ไม่กี่แสนหุ้นเท่านั้นเอง และก็เหลือ ทาง Deustch Bank ที่ถือหุ้นอยู่ 2.2 ล้านหุ้น ที่ในประกาศ ว่าก็เคลียร์กันได้แล้ว แต่รอ Condition อะไรบางอย่างอยู่ จากรายงานถือหุ้นของ DB ทาง DB ได้เข้าซื้อหุ้น ของ IDI เพิ่มใน Q4-2011 ที่ผ่านมาอีกด้วย ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณที่ดี
http://whalewisdom.com/stock/idi
ตอนนี้ ทาง IDI ทำ Press Release ออกมา สองข่าว คือ
การ Terminate VIE Structure ซึ่งเป็น โครงสร้างบริษัท ที่ทำให้ นักลงทุน US ไม่กล้าซื้อหุ้นจีนกัน เนื่องจาก VIE นั้น ไม่ใช่เจ้าของ ของหุ้นนั้นๆ จริง แต่เป็นเพียง Contract ทำนั้นเอง (Baidu ก็มีโครงสร้างแบบ VIE ) ทาง Paul Conway เห็นว่า VIE นั้น ในอนาคตน่าจะมีปัญหาเยอะ ดังนั้น จึง เปลี่ยนโครงสร้างความเป็นเจ้าของในบริษํทลูก แบบ VIE ให้มาเป็นแบบ Equity ให้หมด ซึ่ง ใน Ad-icon ซึ่งเป็น บริษัทที่ IDI ถือหุ้นโดยตรงใน Hong Kong เข้าไปถือหุ้นในบริษัทลูกต่างๆแทน ซึ่ง Paul ได้ทำตั้งแต่ปี 2011 แล้ว และพึ่งมาแล้วเสร็จในช่วงปีนี้นั้นเอง
http://idi.irpage.net/details.php?id=50723
อีกข่าวก็คือ การที่ IDI ชนะได้โครงการ โฆษณา Tourism Promotion ของเมือง Hangzhou มูลค่า $2 ล้าน ซึ่งงานนี้มูลค่าไม่เยอะ แต่น่าจะได้กำไรกล้บมาดี เพราะว่าเป็นเหมือนงานAgency มากกว่า และยังแสดงให้เห็นถึง Performance ของ COO คนใหม่ คุณ Johny Lo ที่ Paul ดึงมาร่วมงานได้ในปีที่แล้ว http://idi.irpage.net/details.php?id=50759
ดูประวัติ Johny Lo ได้ที่นี่ http://www.glgresearch.com/Council-Memb ... 61847.html
-
- Verified User
- โพสต์: 454
- ผู้ติดตาม: 0
Re: SearchMedia Holdings - IDI
โพสต์ที่ 3
ุถ้าไปดูงบ ล่าสุดของ IDI ใน H1-2012 แล้ว
จะมี Concern อยู่ ตรงที่ว่า Net Working Capital ติดลบ ซึ่งทำให้น่าห่วงว่าบริษัทจะมีปัญหาสภาพคล่้องได้
แต่ว่า ส่วนนึงของ Current Liabilities เป็น ยอด ตั้งสำรองไว้จ่าย ภาษี $9.5 ล้าน ซึ่งดูว่าเยอะมาก แต่จากการ สอบถามของผม ก็คือ $4.5 ล้าน เป็นยอด สำรอง เพราะว่า Local Tax Rate ในแต่ละเมืองนั้น National Tax Rate ซึ่ง ทาง IDI ได้รับ Certificate ให้จ่ายภาษีใน National Tax Rate แล้ว ดังนั้น ยอดตรงนี้ยังสูงกว่า ความจริงอยู่ และอีกก้อนคือ $5 ล้าน เป็นยอดจาก CoGs ที่เป็นรายการระหว่างกัน คือตั้งสำรองไว้ กรณีที่ Tax Authorities ไม่ยอมให้ ลงต้นทุนตรงนั้น เป็นรายจ่าย ซึ่งก็น่าจะลงได้อีก เพราะเป็นบริษัทในเครือ ไม่อย่างนั้นจะเสียภาษีซ้ำซ้อน
นอกจากนั้นยังมี Consideration Liabilities คือ เป็นหนี้ ที่ต้องจ่ายให้ เจ้าของ ของบริษัทลูก ซึ่งตรงส่วนนี้ $9.6 ล้าน จะต้องจ่ายให้ บริษัทเดิมที่เจ้าของเดิมไป Takeover มา ซึ่ง จ่ายเป็นหุ้น ที่ราคา Convert ที่ $7.4 ทำให้่ หนี้จริงๆ ก็น้อยกว่านี้เช่นกันครับ
มีหนี้อีกก้อน คือ ประมาณ $19 ล้าน ต้องจ่ายให้ Continental บริษัท Billboard ที่ผู้บริหารชุดไป ซื้อมาตอนปี 2010 คือ ตามสัญญา ต้องจ่ายเป็นหุ้น โดยใช้ ราคาเฉลี่ย 30 วัน หลังจาก งบปี 2011 ของ IDI ออก ซึ่งตรงนี้ ถ้าจ่ายจริง ผู้ถือหุ้น ที่ติดหุ้นที่ราคาสูงๆ โดยเฉพาะ Dr.Frost จะโดย Dilute เยอะ เพราะราคาตอนนี้ $1.1 เท่าันั้นเอง ทาง Paul Conway พูดถึงตรงนี้ว่า ทางผู้บริหารจะต่อรองขอเปลี่ยน Term ของสัญญาใหม่ ซึ่งผมคิดว่า น่าจะต่อรองได้ เพราะทาง เจ้าของ ของ Continental คงไม่อยากได้หุ้น มามากขนาดนั้น เพราะจำนวนหุ้นมากขนาดนั้น อยากขายในตลาดทิ้งก็ขายยาก สู้ยอม ปรับ Term ให้ไป Execute ปีถัดๆไป ซึ่งราคาหุ้น น่าจะปรับตัวสูงกว่านี้ไป จะดีกว่า หรือว่า กรณี เลวร้ายสุด ทาง Continental ขอ ออกจากกลุ่ม SearchMedia ไป ผมว่า ก็ยังไม่กระทบกระเืืทือน เท่าไหร่ เข้าใจว่า รายได้จาก Continental ปี 2010 ประมาณ $9-10 ล้าน ซึ่ง ถ้าต้อง ออกหุ้นให้ถึง $19 ล้าน ( มากกว่า Market Capt ปัจจุบัน ของ IDI ซึ่งอยู่ที่ $19 ล้านพอดี) เพื่อแลกกับ รายได้ ประมาณ 1/5 ของบริษัท อย่างนี้ สู้ขอ Terminate สัญญา ยังดีกว่า
ผมทำ Valuation ไว้คร่าว เมื่อปีก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้กลับไปแก้ไข แต่ก็ไม่ได้ต่างอะไรมากครับ ลองไปดู เล่นๆกันได้ที่
http://messages.finance.yahoo.com/Stock ... &frt=2#549
นักลงทุนฝรั่ง ท่านอื่น ที่ซื้อ IDI ซึ่งผมเคยคุยด้วย แลกเปลี่ยนทาง email ก็คือ คุณ Peter Delgado ซึ่งเป็นคนดูแล Threshold Capital ซึ่งเป็น กองทุนขนาดเล็ก ที่ New York ซึ่งเคยซื้อหุ้น CYD ซึ่งเป็นหุ้นจีน แล้วก็ทำกำไรไปได้ 5-6 เท่า ก็ถือ IDI ด้วยเช่นกัน และทุนน่าจะสูงกว่าปัจจุบันค่อนข้างมาก ช่วงเดือน มกราคม งาน Investor Meeting ของกองทุนเค้า เค้าก็ได้เชิญ Paul Conway ไปพูดที่งานด้วยเ่ช่นกัน อันนี้ คือ Presentation ในงานที่ New York
http://thresholdcapitalcorp.com/LinkCli ... 80&mid=922
จะมี Concern อยู่ ตรงที่ว่า Net Working Capital ติดลบ ซึ่งทำให้น่าห่วงว่าบริษัทจะมีปัญหาสภาพคล่้องได้
แต่ว่า ส่วนนึงของ Current Liabilities เป็น ยอด ตั้งสำรองไว้จ่าย ภาษี $9.5 ล้าน ซึ่งดูว่าเยอะมาก แต่จากการ สอบถามของผม ก็คือ $4.5 ล้าน เป็นยอด สำรอง เพราะว่า Local Tax Rate ในแต่ละเมืองนั้น National Tax Rate ซึ่ง ทาง IDI ได้รับ Certificate ให้จ่ายภาษีใน National Tax Rate แล้ว ดังนั้น ยอดตรงนี้ยังสูงกว่า ความจริงอยู่ และอีกก้อนคือ $5 ล้าน เป็นยอดจาก CoGs ที่เป็นรายการระหว่างกัน คือตั้งสำรองไว้ กรณีที่ Tax Authorities ไม่ยอมให้ ลงต้นทุนตรงนั้น เป็นรายจ่าย ซึ่งก็น่าจะลงได้อีก เพราะเป็นบริษัทในเครือ ไม่อย่างนั้นจะเสียภาษีซ้ำซ้อน
นอกจากนั้นยังมี Consideration Liabilities คือ เป็นหนี้ ที่ต้องจ่ายให้ เจ้าของ ของบริษัทลูก ซึ่งตรงส่วนนี้ $9.6 ล้าน จะต้องจ่ายให้ บริษัทเดิมที่เจ้าของเดิมไป Takeover มา ซึ่ง จ่ายเป็นหุ้น ที่ราคา Convert ที่ $7.4 ทำให้่ หนี้จริงๆ ก็น้อยกว่านี้เช่นกันครับ
มีหนี้อีกก้อน คือ ประมาณ $19 ล้าน ต้องจ่ายให้ Continental บริษัท Billboard ที่ผู้บริหารชุดไป ซื้อมาตอนปี 2010 คือ ตามสัญญา ต้องจ่ายเป็นหุ้น โดยใช้ ราคาเฉลี่ย 30 วัน หลังจาก งบปี 2011 ของ IDI ออก ซึ่งตรงนี้ ถ้าจ่ายจริง ผู้ถือหุ้น ที่ติดหุ้นที่ราคาสูงๆ โดยเฉพาะ Dr.Frost จะโดย Dilute เยอะ เพราะราคาตอนนี้ $1.1 เท่าันั้นเอง ทาง Paul Conway พูดถึงตรงนี้ว่า ทางผู้บริหารจะต่อรองขอเปลี่ยน Term ของสัญญาใหม่ ซึ่งผมคิดว่า น่าจะต่อรองได้ เพราะทาง เจ้าของ ของ Continental คงไม่อยากได้หุ้น มามากขนาดนั้น เพราะจำนวนหุ้นมากขนาดนั้น อยากขายในตลาดทิ้งก็ขายยาก สู้ยอม ปรับ Term ให้ไป Execute ปีถัดๆไป ซึ่งราคาหุ้น น่าจะปรับตัวสูงกว่านี้ไป จะดีกว่า หรือว่า กรณี เลวร้ายสุด ทาง Continental ขอ ออกจากกลุ่ม SearchMedia ไป ผมว่า ก็ยังไม่กระทบกระเืืทือน เท่าไหร่ เข้าใจว่า รายได้จาก Continental ปี 2010 ประมาณ $9-10 ล้าน ซึ่ง ถ้าต้อง ออกหุ้นให้ถึง $19 ล้าน ( มากกว่า Market Capt ปัจจุบัน ของ IDI ซึ่งอยู่ที่ $19 ล้านพอดี) เพื่อแลกกับ รายได้ ประมาณ 1/5 ของบริษัท อย่างนี้ สู้ขอ Terminate สัญญา ยังดีกว่า
ผมทำ Valuation ไว้คร่าว เมื่อปีก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้กลับไปแก้ไข แต่ก็ไม่ได้ต่างอะไรมากครับ ลองไปดู เล่นๆกันได้ที่
http://messages.finance.yahoo.com/Stock ... &frt=2#549
นักลงทุนฝรั่ง ท่านอื่น ที่ซื้อ IDI ซึ่งผมเคยคุยด้วย แลกเปลี่ยนทาง email ก็คือ คุณ Peter Delgado ซึ่งเป็นคนดูแล Threshold Capital ซึ่งเป็น กองทุนขนาดเล็ก ที่ New York ซึ่งเคยซื้อหุ้น CYD ซึ่งเป็นหุ้นจีน แล้วก็ทำกำไรไปได้ 5-6 เท่า ก็ถือ IDI ด้วยเช่นกัน และทุนน่าจะสูงกว่าปัจจุบันค่อนข้างมาก ช่วงเดือน มกราคม งาน Investor Meeting ของกองทุนเค้า เค้าก็ได้เชิญ Paul Conway ไปพูดที่งานด้วยเ่ช่นกัน อันนี้ คือ Presentation ในงานที่ New York
http://thresholdcapitalcorp.com/LinkCli ... 80&mid=922
-
- Verified User
- โพสต์: 454
- ผู้ติดตาม: 0
Re: SearchMedia Holdings - IDI
โพสต์ที่ 4
ข่าวใหม่วันนี้น่าสนใจครับ
Paul Conway ลงจากตำแหน่ง CEO แล้ว โดย Peter Tan ซึ่งเข้ามาเป็น Director เมื่อปีที่แล้ว ขึ้นมาเป็น CEO แทน และตั้ง Corporate Advisor ชาวจีนเพิ่มอีกตำแหน่ง
พร้อมกับประกาศได้รับ Convertible Notes ดอกเบี้ย 10% ที่สามารถแปลงเป็นหุ้นได้ที่ราคา $1.25 (สูงกว่าราคาตลาด) มูลค่า $3,000,0000 โดยผู้ซื้อ Note ก็คือ Dr Frost ,Peter Tan (CEOคนใหม่)และ Chien Lee (Advisor ที่พึ่งแต่งตั้ง)
http://www.businesswire.com/news/home/2 ... -Executive
สำหรับการที่ Paul Conway ลงจากตำแหน่ง ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะว่า CEO ท่านนี้ เป็นคนที่ทาง Frost Group ส่งเข้ามา เพื่อจัดการแก้่ปัญหา ที่เกิดจากการถูกผู้ถือหุ้นเก่าโกง หลังจาก เคลียร์งบการเงิน Restructure บริษัท เรียบร้อย ก็ถึงเวลา ที่จะให้ CEO คนใหม่ที่เป็นคนจีน มาก Connection และประสบการณ์เข้ามาบริหารต่อไป
Paul Conway ลงจากตำแหน่ง CEO แล้ว โดย Peter Tan ซึ่งเข้ามาเป็น Director เมื่อปีที่แล้ว ขึ้นมาเป็น CEO แทน และตั้ง Corporate Advisor ชาวจีนเพิ่มอีกตำแหน่ง
พร้อมกับประกาศได้รับ Convertible Notes ดอกเบี้ย 10% ที่สามารถแปลงเป็นหุ้นได้ที่ราคา $1.25 (สูงกว่าราคาตลาด) มูลค่า $3,000,0000 โดยผู้ซื้อ Note ก็คือ Dr Frost ,Peter Tan (CEOคนใหม่)และ Chien Lee (Advisor ที่พึ่งแต่งตั้ง)
http://www.businesswire.com/news/home/2 ... -Executive
สำหรับการที่ Paul Conway ลงจากตำแหน่ง ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะว่า CEO ท่านนี้ เป็นคนที่ทาง Frost Group ส่งเข้ามา เพื่อจัดการแก้่ปัญหา ที่เกิดจากการถูกผู้ถือหุ้นเก่าโกง หลังจาก เคลียร์งบการเงิน Restructure บริษัท เรียบร้อย ก็ถึงเวลา ที่จะให้ CEO คนใหม่ที่เป็นคนจีน มาก Connection และประสบการณ์เข้ามาบริหารต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 454
- ผู้ติดตาม: 0
Re: SearchMedia Holdings - IDI
โพสต์ที่ 6
Update ข่าว อาทิตย์ก่อนซะหน่อยครับ
SearchMedia Update ข่าวการทำโครงการ Integration Program ใหม่
http://www.marketwatch.com/story/search ... 2012-05-04
สรุปจากข่าวก็คือว่า บริษัทมี Earnout Liabilities คือ หนี้ที่ต้องจ่ายใน บริษัทลูกที่ไปซื้อกิจการมา จำนวน $39.2 ล้านเหรียญ โดยส่วนมากจะเป็นการชำระให้เป็นหุ้น
Integration Program
1. Integration Program จะออกหุ้นใหม่ 7 ล้านหุ้น
2.บริษัทจะตกลงกับบริษัทลูกคือ Zhejiang Continental Advertising ว่าจะยกเลิกการซื้อกิจการ พร้อมกับ ชดเชยโดยการออกหุ้นฟรีให้เจ้าของเก่า จำนวน 1 ล้านหุ้น ซึ่งจำทำให้บริษัทเคลียร์ Earnout Liabilities ไปได้ $17 ล้านเหรียญ
3. ใน Q4 บริษัทได้ออกหุ้น จำนวน 0.8 ล้านหุ้น ให้กับ บริษัทลูกอื่นๆ ซึ่งทำให้ Settle Earnout Liabities ไปได้ $5.2 ล้านเหรียญ ( ข้อมูลตรงนี้บริษัทเคยบอกแล้ว คือ Settle ได้เยอะ เพราะคิดที่หุ้นละ $6.9 )
4.จากข้อสองและข้อสาม บริษัทจะเคลียร์ ได้ $22.2 ล้านเหรียญ แต่ตาม ประกาศจะประกาศเป็น $23.2 เพราะอีก $1 ล้านเหรียญ มาจากการที่ บริษัทย่อยจ่ายปันผล ทางSearchMedia จึงนำปันผลนั้นไปหักลบกับ หนี้ที่จะต้องจ่ายให้ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทย่อยเลย
4. Earnout ที่เหลืออีก $16 ล้านเหรียญ น่าจะกลายเป็นศูนย์ จากการออกหุ้นใหม่ 3-4 ล้านหุ้น
5. โดยสรุป หุ้นที่เหลือจำนวนน้อยลง จากการ Settle ในศาลกับผู้ถือหุ้น SearchMedia International กลุ่มเก่า ทำให้เหลือหุ้นทั้งหมดเป็น 17.4 ล้านหุ้น จะมีหุ้นออกใหม่จาก Integration Program นี้ ที่ใช้หักล้างกับ Earnout Liabilities ให้หมดไป ทำให้มีหุ้นเป็น 21-22 ล้านหุ้น (กลับไปเท่าๆเดิม)
นอกจากนี้ Peter Tan ,CEO คนใหม่ ได้พูดถึงว่า "these milestone corporate actions allow us to better position the Company for new significant nationwide, traditional and new media concessions, which we expect to announce later this quarter"
ผมก็หวังว่าจะมีข่าวดีจริงๆ ตามที่ Peter Tan บอกไว้
นอกจากนี้ ตอนนี้บริษัทยังไม่ได้ส่งงบ Audit 2011 ซึ่งผมได้ email ไปถามตอนเมษา เค้าว่ากำลังเร่งทำอยู่ครับ ตามกำหนดที่ขอเลื่อนกับ SEC ไป ต้องส่งก่อน 15 พ.ค. นี้ และผมได้ Email คุยกับคุณ Peter Tan คุณ Peter Tan จะมากรุงเทพหลังจากส่งงบ Audit เสร็จ เพื่อมาทำอะไรทางธุรกิจซักอย่าง ซึ่งแกบอกว่า บอกไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของบริษัท IDI ผมก็หวังว่าจะมาทำ Deal ทางธุรกิจที่สำคัญๆครับ
SearchMedia Update ข่าวการทำโครงการ Integration Program ใหม่
http://www.marketwatch.com/story/search ... 2012-05-04
สรุปจากข่าวก็คือว่า บริษัทมี Earnout Liabilities คือ หนี้ที่ต้องจ่ายใน บริษัทลูกที่ไปซื้อกิจการมา จำนวน $39.2 ล้านเหรียญ โดยส่วนมากจะเป็นการชำระให้เป็นหุ้น
Integration Program
1. Integration Program จะออกหุ้นใหม่ 7 ล้านหุ้น
2.บริษัทจะตกลงกับบริษัทลูกคือ Zhejiang Continental Advertising ว่าจะยกเลิกการซื้อกิจการ พร้อมกับ ชดเชยโดยการออกหุ้นฟรีให้เจ้าของเก่า จำนวน 1 ล้านหุ้น ซึ่งจำทำให้บริษัทเคลียร์ Earnout Liabilities ไปได้ $17 ล้านเหรียญ
3. ใน Q4 บริษัทได้ออกหุ้น จำนวน 0.8 ล้านหุ้น ให้กับ บริษัทลูกอื่นๆ ซึ่งทำให้ Settle Earnout Liabities ไปได้ $5.2 ล้านเหรียญ ( ข้อมูลตรงนี้บริษัทเคยบอกแล้ว คือ Settle ได้เยอะ เพราะคิดที่หุ้นละ $6.9 )
4.จากข้อสองและข้อสาม บริษัทจะเคลียร์ ได้ $22.2 ล้านเหรียญ แต่ตาม ประกาศจะประกาศเป็น $23.2 เพราะอีก $1 ล้านเหรียญ มาจากการที่ บริษัทย่อยจ่ายปันผล ทางSearchMedia จึงนำปันผลนั้นไปหักลบกับ หนี้ที่จะต้องจ่ายให้ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทย่อยเลย
4. Earnout ที่เหลืออีก $16 ล้านเหรียญ น่าจะกลายเป็นศูนย์ จากการออกหุ้นใหม่ 3-4 ล้านหุ้น
5. โดยสรุป หุ้นที่เหลือจำนวนน้อยลง จากการ Settle ในศาลกับผู้ถือหุ้น SearchMedia International กลุ่มเก่า ทำให้เหลือหุ้นทั้งหมดเป็น 17.4 ล้านหุ้น จะมีหุ้นออกใหม่จาก Integration Program นี้ ที่ใช้หักล้างกับ Earnout Liabilities ให้หมดไป ทำให้มีหุ้นเป็น 21-22 ล้านหุ้น (กลับไปเท่าๆเดิม)
นอกจากนี้ Peter Tan ,CEO คนใหม่ ได้พูดถึงว่า "these milestone corporate actions allow us to better position the Company for new significant nationwide, traditional and new media concessions, which we expect to announce later this quarter"
ผมก็หวังว่าจะมีข่าวดีจริงๆ ตามที่ Peter Tan บอกไว้
นอกจากนี้ ตอนนี้บริษัทยังไม่ได้ส่งงบ Audit 2011 ซึ่งผมได้ email ไปถามตอนเมษา เค้าว่ากำลังเร่งทำอยู่ครับ ตามกำหนดที่ขอเลื่อนกับ SEC ไป ต้องส่งก่อน 15 พ.ค. นี้ และผมได้ Email คุยกับคุณ Peter Tan คุณ Peter Tan จะมากรุงเทพหลังจากส่งงบ Audit เสร็จ เพื่อมาทำอะไรทางธุรกิจซักอย่าง ซึ่งแกบอกว่า บอกไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของบริษัท IDI ผมก็หวังว่าจะมาทำ Deal ทางธุรกิจที่สำคัญๆครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 454
- ผู้ติดตาม: 0
Re: SearchMedia Holdings - IDI
โพสต์ที่ 7
http://www.marketwatch.com/story/search ... 2012-05-15
งบปี 2011 ประกาศแล้ว งบไม่ค่อยดีครับ เพราะมีตัด Goodwill เยอะ แต่ว่า ถ้า Adjust พวกรายจ่ายและรายได้ ที่เป็น Non-cash แล้ว ก็ขาดทุน ประมาณ $2 ล้านเหรียญ ก็พอทนครับ อนาคตอยู่ที่ว่า ทางผู้บริหารหลังจาก Divest ธุรกิจ ที่ไม่ทำกำไรออกไปแล้ว จะสามารถพลิกมาเป็นกำไรได้ขนาดไหนครับ
หุ้น Us-listed Chinese Companies เล่นยากจริงๆ ครับ หุ้นตัวที่กำไรดีก็เป็น Fraud หุ้นที่ไม่น่าเป็นFraud ก็กำไรไม่สู้ดีอีกต่างหาก
งบปี 2011 ประกาศแล้ว งบไม่ค่อยดีครับ เพราะมีตัด Goodwill เยอะ แต่ว่า ถ้า Adjust พวกรายจ่ายและรายได้ ที่เป็น Non-cash แล้ว ก็ขาดทุน ประมาณ $2 ล้านเหรียญ ก็พอทนครับ อนาคตอยู่ที่ว่า ทางผู้บริหารหลังจาก Divest ธุรกิจ ที่ไม่ทำกำไรออกไปแล้ว จะสามารถพลิกมาเป็นกำไรได้ขนาดไหนครับ
หุ้น Us-listed Chinese Companies เล่นยากจริงๆ ครับ หุ้นตัวที่กำไรดีก็เป็น Fraud หุ้นที่ไม่น่าเป็นFraud ก็กำไรไม่สู้ดีอีกต่างหาก