พระสติจะช่วยการลงทุนหุ้นได้หรือ

[avatar2009]

ได้เห็นอจ.ไพบูลย์มานำเสนอ พระสติองค์พระที่ไม่ได้ปลุกเสก
มาใช้ในชีวิตประจำวัน ผมอยากทราบว่าจะนำมาใช้ในการลงทุนได้หรือไม่ครับ

[Pnattbuffettology]

สติ และลมหายใจ เป็นอาวุธ ที่สำคัญที่สุดในการลงทุน
พระสติ ช่วยเจริญ วิปัสนาให้กลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะให้ทราบว่ากำลังทำอะไรอยู่
จะซื้อ ขาย ถือ ก็ใช้สติเนี่ยแหละในการ ตัดสินใจ ขอสนับสนุน
หากสามารถ คิดว่าตนแขวนพระสติอยุ่ตลอดก็ไม่ต้องแขวน
แต่หากเป้นการฝึกแรกแรกหลวงพ่อสติ ขิงอาจารย์จะช่วยท่านได้

หลัก ไตรลักษณ์ ธรรมมะที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้สามารถ ใช้ พิจาณาการลงทุน

อนิิจจัง ----- ความไม่แน่นอน เราคิดว่าราคานี้ถูกแล้ว ,แต่ก็มีถูกกว่า
ทุกขัง ------ ความทุกข์ เมื่อติดดอย , เมื่อซื้อไม่ทันแล้วมันขึ้น
อนัตตา ------- ไม่มีอัตตา ไม่มีตัวตน มิใช่อัตตา มิใช่ตัวตน หรือ สภาพที่บังคับบัญชาไม่ได้ นายตลาดเราบังคับมันไม่ได้
เพราะมันไม่มีตัวตน

[picatos]

พระสติอาจจะช่วย หรืออาจจะไม่ช่วยในการลงทุนก็ได้ครับ...

แต่พระสติช่วยในการฝึกการเจริญสติ...

วันๆ หนึ่ง... มันจะมีอาการเผลออยู่เรื่อยๆ มันจะฟุ้งคิดนู้นนี่ ไปโดยไม่มีสติอยู่เรื่อยๆ... ไม่อยู่กับปัจจุบันอารมณ์สักเท่าไหร่...

การมีพระสติช่วยเตือน ให้เราดึงสติตัวเองกลับมาที่ปัจจุบัน ก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง...

ของผมไม่ได้ใช้พระสติ... แต่ผมจะใช้ iphone ผมเตือนทุกๆ 1 ชั่วโมง... เวลาทำงาน พอนาฬิกาดัง... ถ้าไม่ติดพันอะไรจริงๆ ผมจะดึงสติ ทิ้งงานที่ทำอยู่ กลับมากำหนดฐานกายสักระยะหนึ่ง แล้วก็ค่อยๆ กลับมาดูว่ากำลังทำอะไรอยู่ แล้วควรที่จะทำอะไรต่อไป แล้วค่อยๆ ทำงาน หรือทำสิ่งที่ต้องทำต่อไป...

แต่ถ้าฝึกจนสามารถเจริญสติได้อย่างต่อเนื่อง... พอสติขาดไป... สักพักหนึ่ง... สติมันจะดึงสติให้กับมาเจริญสติต่อเองโดยอัตโนมัติครับ...

อยากทำได้จัง... ผมรู้สึกว่า...​ วันๆ นึง... ตัวเองมีสติน้อยมาก... ต้องพยายามให้มากกว่านี้...

[miracle]

สติ เป็นสิ่งสำคัญ

ผมเคยเห็นสติ๊กเกอร์ท้ายรถบรรทุกว่า
สติคือสตางค์ ไม่มีสติก็ไม่มีสะตังค์

[happymom]

คุณ picatos
กรุณาขยายความ "กำหนดฐานกาย" สักนิดค่ะ
และหากจะเป็นกำหนดลมหายใจแทน จะเหมือนกันมั๊ยคะ (กำลังเริ่มปฏิบัติค่ะ)
ขอบคุณค่ะ

[picatos]

คุณ picatos
กรุณาขยายความ "กำหนดฐานกาย" สักนิดค่ะ
และหากจะเป็นกำหนดลมหายใจแทน จะเหมือนกันมั๊ยคะ (กำลังเริ่มปฏิบัติค่ะ)
ขอบคุณค่ะ

จริงๆ ผมก็ แบเบาะเหมือนกันนะครับ... เอาเท่าที่ผมเข้าใจละกันนะครับ...

การเจริญสติตามแนวทาง สติปัฏฐาน 4 ประกอบด้วย 4 ฐาน คือ 1) กาย 2) เวทนา 3) จิต และ 4) ธรรม

การ "กำหนดฐานกาย" ของผม หมายถึง เอาสติไป ระลึก รู้ ว่าขณะนั้นกายเราเป็นอย่างไร เช่น หากนั่งอยู่ ก็เอาสติไประลึกรู้การนั่ง สัมผัสของร่างกายกับเก้าอี้ หรือ การเคลื่อนไหวของท้องที่พองยุบ หรือ เอาสติไประลึกรู้การเคลื่อนไหวของร่างกาย ฯลฯ

กำหนดเป็นลมหายใจนี่ ทำยังไง ผมก็ทำไม่เป็นเหมือนกันครับ... เพราะ วิชาที่ผมเรียนมาจะเป็นสาย ยุบหนอ พองหนอ... แต่เข้าใจว่าคงจะเป็นฐานกายเหมือนกันมั้งครับ...

ทั้งนี้แนวทางปฎิบัติของผม เค้าจะให้กำหนดฐานกายก่อน เพราะว่ามันง่ายสุด เพราะ ร่างกายมันมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าใจ กำหนดกายมันเลยง่ายกว่า และบางที ใจของเราเป็น อสุขอทุกขเวทนา (อุเบกขา) อารมณ์กรรมฐานไม่ชัด ก็ให้ไปกำหนดฐานกายเอา ป้องกันนิวรณ์เข้าแทรก

อย่างไรก็ตาม ถ้าอารมณ์ที่ปรากฎขึ้นทางใจ (เวทนา จิต ธรรม) มันชัดเจน ก็ให้กำหนดไปตามอารมณ์ที่เด่นชัดครับ...

สรุปก็คือ... เวลาโทรศัพท์ผมร้องเตือน... ผมจะระลึกรู้การได้ยินเสียงของโทรศัพท์ และจะระลึกรู้อาการอยากที่จะไปกดปิดโทรศัพท์ และตามไประลึกรู้การยกมือขึ้นไปจับโทรศัพท์ ไปจนกระทั่งกดโทรศัพท์ปิดเสียงเสร็จ และระลึกรู้การเอามือกลับมาอยู่กับที่ จากนั้นหากนั่งอยู่ก็ระลึกรู้อาการนั่ง และระลึกรู้อาการพองยุบของท้องสักระยะ หลังจากนั้นก็จะกลับมาระลึกรู้ว่าขณะนั้นกำลังทำงานอยู่ ถ้ากำลังเครียด กำลังกังวล หรือความรู้สึกทางใจอะไรเด่นชัด ก็กำหนดในอารมณ์นั้นๆ จนอารมณ์นั้นเบาบางลง หรือดับไป ก็ค่อยๆ กลับมาพิจารณางานที่ทำอยู่ แล้วค่อยๆ ทำงานต่อไปโดยมีสติกำหนดรู้ในกิจกรรมการทำงาน ต่อไปๆ ๆ ๆ ๆ จนกระทั่ง สติหลุดไปอีกครั้ง...

ถ้ารู้ตัวว่าสติหลุด ก็กำหนด "เผลอหนอ" แล้วก็ประคองสติกลับมาระลึกรู้ในรูป-นามของตัวเองต่อไป...

ไม่รู้ว่าจะช่วยตอบคำถามคุณ happymom ได้รึเปล่าเนี่ย... หวังว่าจะเป็นประโยชน์... แต่ถ้ามึนงง... ผมว่าน่าจะลองปรึกษาอาจารย์ หรือ เพื่อนที่ปฎิบัติธรรมในสาย อาณาปานสติ น่าจะได้ประโยชน์มากกว่านะครับ...

[happymom]

ขอบคุณค่ะ ตัวอย่างเข้าใจง่ายดีค่ะ

[warrant_buffer]

สติมา...ปัญญาเกิด