ซื้อเป็นขายไม่เป็น

[aviruth]

ทำไงดีครับรู้ว่าตัวใหนถูกก็เลยซื้อ pe ต่ำ เห็นกำไรมันโตเมื่อเทียบปีที่แล้ว แต่พอมันขึ้นมาไม่รู้ว่ามันแพงหรือยัง ใครมีเทคนิคที่ใช้แล้วได้ผลประจำมั่งครับ
เช่น เทียบกับตัวอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือ เทียบ pe ในอดีต หรือ เกิน 10 ก็แพงแล้ว หรือไม่ขายถ้าไม่ถึงเป้า แบ่งขายบ้าง อะไรบ้าง

[tradtrae]

ถ้าซื้อเพราะ PE ต่ำ เวลาจะขายก็ต้องขายตอน PE สูง

PE ต่ำ ตัวเลขไหนที่ต่ำ คุณกำหนดเองได้
PE สูง สูงแค่ไหน ทำไมกำหนดเองไม่ได้แล้วละครับ

ชิมิ ชิมิ

[picatos]

เห็นด้วยว่าขาย ยากกว่าซื้อ...

มันยาก เพราะ กลัวขายหมูบ้าง กลัวถือต่อแล้วจะติดดอยบ้าง... ทั้งนี้ เพราะ มูลค่าที่แท้จริงมันไม่มีอยู่จริง มูลค่าที่เหมาะสมที่เราคำนวณได้ก็เป็นกรอบอยู่ในช่วง ไม่ได้เป็นค่าตายตัว ดังนั้นการขายจึงยาก

เรื่องมันจะง่ายเข้า ถ้าเราคิดตอนซื้อว่าจะถือและตั้งใจจะไม่ขาย... เลยทำให้นักลงทุนบางคนเลือกหุ้นที่ไม่ต้องขาย เลือกหุ้นที่ดีจริงๆ ที่ถือได้เป็นสิบปี

เรื่องมันก็ง่ายรองลงมา ถ้าเรามีหุ้นตัวอื่นมาเปรียบเทียบ แล้วเราเจอหุ้นตัวอื่นที่มี Upside มากกว่าหุ้นที่เราถือมากๆ ซึ่งความโลภใหม่ที่เกิดขึ้นจะทำให้เราขายหุ้นเก่าที่เราถืออยู่ทิ้งได้ง่ายๆ เพื่อไปเข้าหุ้นใหม่ที่ดีกว่า

เราอาจจะลำบากใจนิดๆ เวลาเราคิดผิด ประเมินมูลค่ากิจการผิด แล้วต้องขาย เพื่อ Cut Loss เพื่อยอมรับความเป็นจริง ว่าเราผิด เพื่อหยุดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากแผลเล็กๆ ที่กำลังลามเป็นแผลที่ใหญ่ขึ้นๆ

แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการที่บอกว่าขาย เพราะ ได้กำไรไปแล้ว เท่านู้นเท่านี้เปอร์เซ็นต์ เท่านู้นเท่านี้บาท เนื่องจากผมเชื่อว่า การลงทุนที่ดีต้องอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับ Upside หรือ MOS ณ ขณะนี้ ไม่ใช่อยู่กับกำไรที่เกิดขึ้นจากการกระทำในอดีต เพราะ ถึงแม้ว่าเราจะกำไรมาแล้ว 50% แต่ถ้า Upside ยังเหลืออีกเป็น 100% สมควรแล้วหรือ ที่เราจะขายหุ้นตัวนั้นทิ้ง

แล้วจะง่ายที่สุด ถ้าเรารู้จักพอ รู้จักที่จะปล่อยวางอดีตที่เกิดขึ้นไปแล้ว... ไม่ว่าจะขาย จะถือ หรือจะซื้อ ก็สามารถอยู่กับปัจจุบันได้โดยไม่ต้องมาโทษตัวเองถึงอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว โดยไม่ต้องเป็นทุกข์

ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ...

[ส.สลึง]

อะไรคือความหมายของคำว่า...
การขายที่ใช้ได้ผล ?

[wisut]

เห็นด้วยว่าขาย ยากกว่าซื้อ...

มันยาก เพราะ กลัวขายหมูบ้าง กลัวถือต่อแล้วจะติดดอยบ้าง... ทั้งนี้ เพราะ มูลค่าที่แท้จริงมันไม่มีอยู่จริง มูลค่าที่เหมาะสมที่เราคำนวณได้ก็เป็นกรอบอยู่ในช่วง ไม่ได้เป็นค่าตายตัว ดังนั้นการขายจึงยาก

เรื่องมันจะง่ายเข้า ถ้าเราคิดตอนซื้อว่าจะถือและตั้งใจจะไม่ขาย... เลยทำให้นักลงทุนบางคนเลือกหุ้นที่ไม่ต้องขาย เลือกหุ้นที่ดีจริงๆ ที่ถือได้เป็นสิบปี

เรื่องมันก็ง่ายรองลงมา ถ้าเรามีหุ้นตัวอื่นมาเปรียบเทียบ แล้วเราเจอหุ้นตัวอื่นที่มี Upside มากกว่าหุ้นที่เราถือมากๆ ซึ่งความโลภใหม่ที่เกิดขึ้นจะทำให้เราขายหุ้นเก่าที่เราถืออยู่ทิ้งได้ง่ายๆ เพื่อไปเข้าหุ้นใหม่ที่ดีกว่า

เราอาจจะลำบากใจนิดๆ เวลาเราคิดผิด ประเมินมูลค่ากิจการผิด แล้วต้องขาย เพื่อ Cut Loss เพื่อยอมรับความเป็นจริง ว่าเราผิด เพื่อหยุดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากแผลเล็กๆ ที่กำลังลามเป็นแผลที่ใหญ่ขึ้นๆ

แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการที่บอกว่าขาย เพราะ ได้กำไรไปแล้ว เท่านู้นเท่านี้เปอร์เซ็นต์ เท่านู้นเท่านี้บาท เนื่องจากผมเชื่อว่า การลงทุนที่ดีต้องอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับ Upside หรือ MOS ณ ขณะนี้ ไม่ใช่อยู่กับกำไรที่เกิดขึ้นจากการกระทำในอดีต เพราะ ถึงแม้ว่าเราจะกำไรมาแล้ว 50% แต่ถ้า Upside ยังเหลืออีกเป็น 100% สมควรแล้วหรือ ที่เราจะขายหุ้นตัวนั้นทิ้ง

แล้วจะง่ายที่สุด ถ้าเรารู้จักพอ รู้จักที่จะปล่อยวางอดีตที่เกิดขึ้นไปแล้ว... ไม่ว่าจะขาย จะถือ หรือจะซื้อ ก็สามารถอยู่กับปัจจุบันได้โดยไม่ต้องมาโทษตัวเองถึงอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว โดยไม่ต้องเป็นทุกข์

ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ...

สุดยอดจริงๆ

[VI Wannabe]

เห็นด้วยว่าขาย ยากกว่าซื้อ...

มันยาก เพราะ กลัวขายหมูบ้าง กลัวถือต่อแล้วจะติดดอยบ้าง... ทั้งนี้ เพราะ มูลค่าที่แท้จริงมันไม่มีอยู่จริง มูลค่าที่เหมาะสมที่เราคำนวณได้ก็เป็นกรอบอยู่ในช่วง ไม่ได้เป็นค่าตายตัว ดังนั้นการขายจึงยาก

เรื่องมันจะง่ายเข้า ถ้าเราคิดตอนซื้อว่าจะถือและตั้งใจจะไม่ขาย... เลยทำให้นักลงทุนบางคนเลือกหุ้นที่ไม่ต้องขาย เลือกหุ้นที่ดีจริงๆ ที่ถือได้เป็นสิบปี

เรื่องมันก็ง่ายรองลงมา ถ้าเรามีหุ้นตัวอื่นมาเปรียบเทียบ แล้วเราเจอหุ้นตัวอื่นที่มี Upside มากกว่าหุ้นที่เราถือมากๆ ซึ่งความโลภใหม่ที่เกิดขึ้นจะทำให้เราขายหุ้นเก่าที่เราถืออยู่ทิ้งได้ง่ายๆ เพื่อไปเข้าหุ้นใหม่ที่ดีกว่า

เราอาจจะลำบากใจนิดๆ เวลาเราคิดผิด ประเมินมูลค่ากิจการผิด แล้วต้องขาย เพื่อ Cut Loss เพื่อยอมรับความเป็นจริง ว่าเราผิด เพื่อหยุดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากแผลเล็กๆ ที่กำลังลามเป็นแผลที่ใหญ่ขึ้นๆ

แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการที่บอกว่าขาย เพราะ ได้กำไรไปแล้ว เท่านู้นเท่านี้เปอร์เซ็นต์ เท่านู้นเท่านี้บาท เนื่องจากผมเชื่อว่า การลงทุนที่ดีต้องอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับ Upside หรือ MOS ณ ขณะนี้ ไม่ใช่อยู่กับกำไรที่เกิดขึ้นจากการกระทำในอดีต เพราะ ถึงแม้ว่าเราจะกำไรมาแล้ว 50% แต่ถ้า Upside ยังเหลืออีกเป็น 100% สมควรแล้วหรือ ที่เราจะขายหุ้นตัวนั้นทิ้ง

แล้วจะง่ายที่สุด ถ้าเรารู้จักพอ รู้จักที่จะปล่อยวางอดีตที่เกิดขึ้นไปแล้ว... ไม่ว่าจะขาย จะถือ หรือจะซื้อ ก็สามารถอยู่กับปัจจุบันได้โดยไม่ต้องมาโทษตัวเองถึงอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว โดยไม่ต้องเป็นทุกข์

ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ...

สุดยอดจริงๆ

ตกผลึกสุดๆ

[ส.สลึง]

ถ้าดูหุ้นถูกเป็น
ผมคิดว่าสิ่งที่ควรทำคือ
ขายเมื่อเจอหุ้นที่ถูกกว่า

[jajam]

picatos

ขอบคุณครับ

[Dekfaifah]

ถ้าดูหุ้นถูกเป็น
ผมคิดว่าสิ่งที่ควรทำคือ
ขายเมื่อเจอหุ้นที่ถูกกว่า

หุ้นถูกธรรมดาไม่กลัวครับพี่ ส.สลึง กลัวเจอถูกเรื้อรังครับ

[Hisoka]

เห็นด้วยว่าขาย ยากกว่าซื้อ...

มันยาก เพราะ กลัวขายหมูบ้าง กลัวถือต่อแล้วจะติดดอยบ้าง... ทั้งนี้ เพราะ มูลค่าที่แท้จริงมันไม่มีอยู่จริง มูลค่าที่เหมาะสมที่เราคำนวณได้ก็เป็นกรอบอยู่ในช่วง ไม่ได้เป็นค่าตายตัว ดังนั้นการขายจึงยาก

เรื่องมันจะง่ายเข้า ถ้าเราคิดตอนซื้อว่าจะถือและตั้งใจจะไม่ขาย... เลยทำให้นักลงทุนบางคนเลือกหุ้นที่ไม่ต้องขาย เลือกหุ้นที่ดีจริงๆ ที่ถือได้เป็นสิบปี

เรื่องมันก็ง่ายรองลงมา ถ้าเรามีหุ้นตัวอื่นมาเปรียบเทียบ แล้วเราเจอหุ้นตัวอื่นที่มี Upside มากกว่าหุ้นที่เราถือมากๆ ซึ่งความโลภใหม่ที่เกิดขึ้นจะทำให้เราขายหุ้นเก่าที่เราถืออยู่ทิ้งได้ง่ายๆ เพื่อไปเข้าหุ้นใหม่ที่ดีกว่า

เราอาจจะลำบากใจนิดๆ เวลาเราคิดผิด ประเมินมูลค่ากิจการผิด แล้วต้องขาย เพื่อ Cut Loss เพื่อยอมรับความเป็นจริง ว่าเราผิด เพื่อหยุดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากแผลเล็กๆ ที่กำลังลามเป็นแผลที่ใหญ่ขึ้นๆ

แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการที่บอกว่าขาย เพราะ ได้กำไรไปแล้ว เท่านู้นเท่านี้เปอร์เซ็นต์ เท่านู้นเท่านี้บาท เนื่องจากผมเชื่อว่า การลงทุนที่ดีต้องอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับ Upside หรือ MOS ณ ขณะนี้ ไม่ใช่อยู่กับกำไรที่เกิดขึ้นจากการกระทำในอดีต เพราะ ถึงแม้ว่าเราจะกำไรมาแล้ว 50% แต่ถ้า Upside ยังเหลืออีกเป็น 100% สมควรแล้วหรือ ที่เราจะขายหุ้นตัวนั้นทิ้ง

แล้วจะง่ายที่สุด ถ้าเรารู้จักพอ รู้จักที่จะปล่อยวางอดีตที่เกิดขึ้นไปแล้ว... ไม่ว่าจะขาย จะถือ หรือจะซื้อ ก็สามารถอยู่กับปัจจุบันได้โดยไม่ต้องมาโทษตัวเองถึงอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว โดยไม่ต้องเป็นทุกข์

ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ...

ตรงๆเน้นๆ เข้าประเด็นทุกข้อ

[ส.สลึง]

ถ้าดูหุ้นถูกเป็น
ผมคิดว่าสิ่งที่ควรทำคือ
ขายเมื่อเจอหุ้นที่ถูกกว่า

หุ้นถูกธรรมดาไม่กลัวครับพี่ ส.สลึง กลัวเจอถูกเรื้อรังครับ

ดีสิครับ จะได้ไม่กุ้ม ว่าจะต้องขายออกไปเมื่อไหร่ และขายยังไง ?

[The Simple]

ซื้อเมื่อ Under value

ขายเมื่อ Over value

ศึกษาให้เข้าใจในตัวกิจการ จะช่วยได้มากครับ

[aviruth]

ขอบคุณที่เข้ามาแชร์ครับ บางครั้งผมรู้สึกว่าลงทุนอยู่คนเดียว เข้าใจอยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อนคุยเรื่องหุ้น เพราะคนรอบๆตัวไม่มีใครสน กลัวหลงทางเสียเวลา

[newbie_12]

ถ้าจะยากกว่านั้นอีกต้องเป็น

"ขายไปแล้ว จะรับกลับเท่าไหร่ดี"

เนื่องจากมันยากเกินปัญญาของผม ผมเลยไม่ค่อยทำ SAP ครับ

[sukit2020]

เห็นด้วยว่าขาย ยากกว่าซื้อ...

มันยาก เพราะ กลัวขายหมูบ้าง กลัวถือต่อแล้วจะติดดอยบ้าง... ทั้งนี้ เพราะ มูลค่าที่แท้จริงมันไม่มีอยู่จริง มูลค่าที่เหมาะสมที่เราคำนวณได้ก็เป็นกรอบอยู่ในช่วง ไม่ได้เป็นค่าตายตัว ดังนั้นการขายจึงยาก

เรื่องมันจะง่ายเข้า ถ้าเราคิดตอนซื้อว่าจะถือและตั้งใจจะไม่ขาย... เลยทำให้นักลงทุนบางคนเลือกหุ้นที่ไม่ต้องขาย เลือกหุ้นที่ดีจริงๆ ที่ถือได้เป็นสิบปี

เรื่องมันก็ง่ายรองลงมา ถ้าเรามีหุ้นตัวอื่นมาเปรียบเทียบ แล้วเราเจอหุ้นตัวอื่นที่มี Upside มากกว่าหุ้นที่เราถือมากๆ ซึ่งความโลภใหม่ที่เกิดขึ้นจะทำให้เราขายหุ้นเก่าที่เราถืออยู่ทิ้งได้ง่ายๆ เพื่อไปเข้าหุ้นใหม่ที่ดีกว่า

เราอาจจะลำบากใจนิดๆ เวลาเราคิดผิด ประเมินมูลค่ากิจการผิด แล้วต้องขาย เพื่อ Cut Loss เพื่อยอมรับความเป็นจริง ว่าเราผิด เพื่อหยุดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากแผลเล็กๆ ที่กำลังลามเป็นแผลที่ใหญ่ขึ้นๆ

แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการที่บอกว่าขาย เพราะ ได้กำไรไปแล้ว เท่านู้นเท่านี้เปอร์เซ็นต์ เท่านู้นเท่านี้บาท เนื่องจากผมเชื่อว่า การลงทุนที่ดีต้องอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับ Upside หรือ MOS ณ ขณะนี้ ไม่ใช่อยู่กับกำไรที่เกิดขึ้นจากการกระทำในอดีต เพราะ ถึงแม้ว่าเราจะกำไรมาแล้ว 50% แต่ถ้า Upside ยังเหลืออีกเป็น 100% สมควรแล้วหรือ ที่เราจะขายหุ้นตัวนั้นทิ้ง

แล้วจะง่ายที่สุด ถ้าเรารู้จักพอ รู้จักที่จะปล่อยวางอดีตที่เกิดขึ้นไปแล้ว... ไม่ว่าจะขาย จะถือ หรือจะซื้อ ก็สามารถอยู่กับปัจจุบันได้โดยไม่ต้องมาโทษตัวเองถึงอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว โดยไม่ต้องเป็นทุกข์

ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ...

+1 เยี่ยมมากครับ

[zen000]

คำแนะนำของคุณ picatos ดีมากครับ
ผมเองก็มีปัญญาแบบเดียวกันว่าควรขายตอนไหน โดยเฉพาะเวลาหุ้นขาขึ้น
ส่วนมากเราจะไม่มีเวลาวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันของธุรกิจของหุ้นนั้นๆอย่างลึกซึ้งมากกว่า
โดยเฉพาะถ้าเรามีหุ้นมากตัว ทำให้ไม่รู้ว่าราคาปัจจุบันได้ overvalued โดย Mr. Market หรือยัง

การแบ่งชนิดของหุ้นก็น่าจะมีส่วนช่วยนะครับ
อย่างที่คุณ picatos ว่าเป็นหุ้นดีถือได้เป็นสิบปี ก็น่าจะเป็นประเภทพวกห่านทองคำ
ถ้าเป็นหุ้น growth ก็ต้องดูสภาวะการแข่งขันของธุรกิจนั้นๆ ณ เวลานี้ว่าจะยังโตได้ดีเหมือนที่ผ่านมาได้ไหม
ถ้าเป็นหุ้น cyclical ก็ต้องประเมินปัจจุบันกับอนาคตอันใกล้ว่าเป็นขาขึ้นหรือขาลง
ปัญหาจะง่ายถ้าเราเข้าใจในวงจรธุรกิจและหุ้นตัวนั้นอย่างแท้จริงครับ

บางทีเราก็ต้องลงทุนเรียนรู้ด้วยการลองเหมือนกันนะครับ
พลาดก็จำไว้เป็นบทเรียน
No pain no gain ครับ

ดีใจที่มีเพื่อนที่มีปัญหาคล้ายๆกัน และที่ดีใจยิ่งกว่าก็คือมีคนใจดีที่มีประสบการณ์มา
ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์มากๆ อย่างคุณ picatos และอีกหลายๆท่านครับ

[Skyforever]

คนจำนวนมากสนใจแต่กลยุทธ์ ในการเข้า ไม่เตรียมกลยุทธ์ ในการออกไว้
ถ้าทุกครั้งที่ซื้อหุ้นแล้วเราคิดไว้อย่างรอบคอบแล้วว่าจะขายกรณีไหน เมื่อไหร่บ้าง ก็คงไม่มีปัญหาในการขาย
เหมือนกับเราเข้าไปในตึกสูง ก็ควรมองหาทางหนีไฟไว้
หุ้นบางตัวเราอาจกำหนดกลยุทธ์ไว้ว่าจะถือไปตลอดไม่ว่าราคาจะเป็นเช่นไร ตราบที่กิจการบริษัทยังดีอยู่
หุ้นบางตัวเราอาจกำหนดกลยุทธ์ไว้ว่าจะถือไปจนราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าที่เราคำนวณไว้
หุ้นบางตัวเราอาจกำหนดกลยุทธ์ไว้ว่าเมื่อประกาศข่าว...ออกมา เราจะขายหุ้น

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เราน่าจะคิดได้ตั้งแต่ก่อนซื้อหุ้น เพราะส่วนใหญ่เหตุผลที่เราใช้ในการขาย มักจะเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่เราใช้ตัดสินใจซื้อ

[ส.สลึง]

มาแลกเปลี่ยนบ้าง
เพราะผมคนนึงล่ะ
ที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องหย่า
ในวันแต่งงาน

ประเด็นคือ
ผมไม่สนใจว่า...
ผมควรจะหย่าเมื่อไหร่
ตราบใดที่เธอยังน่ารัก
ดูแลเราดี และดีมากกว่าคนอื่น
ผมก็พร้อมที่จะรักเธอต่อไป

อย่าลืมนะครับ
ว่าหลังการแต่งงาน
เรามีทั้งความสุข
แล้วก็ความทุกข์
ที่รอเราอยู่
คนที่แต่งงานแล้วน่าจะรู้ดี

เพียงแต่...

ผมยังไม่เค๊ย.. ไม่เคย :lol: ...

[วรันศ์ บัฟเฟต]

มาแลกเปลี่ยนบ้าง
เพราะผมคนนึงล่ะ
ที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องหย่า
ในวันแต่งงาน

ประเด็นคือ
ผมไม่สนใจว่า...
ผมควรจะหย่าเมื่อไหร่
ตราบใดที่เธอยังน่ารัก
ดูแลเราดี และดีมากกว่าคนอื่น
ผมก็พร้อมที่จะรักเธอต่อไป

อย่าลืมนะครับ
ว่าหลังการแต่งงาน
เรามีทั้งความสุข
แล้วก็ความทุกข์
ที่รอเราอยู่
คนที่แต่งงานแล้วน่าจะรู้ดี

เพียงแต่...

ผมยังไม่เค๊ย.. ไม่เคย :lol: ...

แย่จัง ลัลล้า อย่างผม ทำไงดี

[วรันศ์ บัฟเฟต]

คนจำนวนมากสนใจแต่กลยุทธ์ ในการเข้า ไม่เตรียมกลยุทธ์ ในการออกไว้
ถ้าทุกครั้งที่ซื้อหุ้นแล้วเราคิดไว้อย่างรอบคอบแล้วว่าจะขายกรณีไหน เมื่อไหร่บ้าง ก็คงไม่มีปัญหาในการขาย
เหมือนกับเราเข้าไปในตึกสูง ก็ควรมองหาทางหนีไฟไว้
หุ้นบางตัวเราอาจกำหนดกลยุทธ์ไว้ว่าจะถือไปตลอดไม่ว่าราคาจะเป็นเช่นไร ตราบที่กิจการบริษัทยังดีอยู่
หุ้นบางตัวเราอาจกำหนดกลยุทธ์ไว้ว่าจะถือไปจนราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าที่เราคำนวณไว้
หุ้นบางตัวเราอาจกำหนดกลยุทธ์ไว้ว่าเมื่อประกาศข่าว...ออกมา เราจะขายหุ้น

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เราน่าจะคิดได้ตั้งแต่ก่อนซื้อหุ้น เพราะส่วนใหญ่เหตุผลที่เราใช้ในการขาย มักจะเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่เราใช้ตัดสินใจซื้อ

ผมถึงขนาดเตรียมร่มชูชีพไปเวลาเข้าตึกสูงเลย

[laohanant]

คนจำนวนมากสนใจแต่กลยุทธ์ ในการเข้า ไม่เตรียมกลยุทธ์ ในการออกไว้
ถ้าทุกครั้งที่ซื้อหุ้นแล้วเราคิดไว้อย่างรอบคอบแล้วว่าจะขายกรณีไหน เมื่อไหร่บ้าง ก็คงไม่มีปัญหาในการขาย
เหมือนกับเราเข้าไปในตึกสูง ก็ควรมองหาทางหนีไฟไว้
หุ้นบางตัวเราอาจกำหนดกลยุทธ์ไว้ว่าจะถือไปตลอดไม่ว่าราคาจะเป็นเช่นไร ตราบที่กิจการบริษัทยังดีอยู่
หุ้นบางตัวเราอาจกำหนดกลยุทธ์ไว้ว่าจะถือไปจนราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าที่เราคำนวณไว้
หุ้นบางตัวเราอาจกำหนดกลยุทธ์ไว้ว่าเมื่อประกาศข่าว...ออกมา เราจะขายหุ้น

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เราน่าจะคิดได้ตั้งแต่ก่อนซื้อหุ้น เพราะส่วนใหญ่เหตุผลที่เราใช้ในการขาย มักจะเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่เราใช้ตัดสินใจซื้อ

ผมถึงขนาดเตรียมร่มชูชีพไปเวลาเข้าตึกสูงเลย

:lovl:

ถ้าตึกสูงไม่พอ ร่มมันจะกางไม่ทันนะผมว่า ถึงมีร่มก็อาจตายได้ อย่างเมืองไทยเนี่ยผมว่าต้อง ตึก ไบหยก2 อย่างเดียว

[Warantact]

ผมเองตั้งแต่ซื้อหุ้นมาก็ยังไม่เคยขายเลยครับ พอร์ทมันเขียวๆก็จริงอยู่แต่หลายครั้งเลยเงื่อนไขที่ตั้งไว้
ว่าจะขายตอนแรกไปแล้วก็ไม่ได้ขาย ดูต่อไปซิถ้าถือต่อมันจะเป็นยังไง

ถ้าบริษัทมันเสื่อมถอยจริงๆคงขาย แต่ตอนซื้อมันก็เสื่อมถอยไปแล้วนะ 5555