FUND TALK:กองทุนรวม มองหุ้นไทย H2 แกว่งขึ้น

[vichit]

FUND TALK:กองทุนรวม มองหุ้นไทย H2 แกว่งขึ้น-เน้นเทรด, ลดอายุบอนด์รับดบ.ขึ้น

โดย สะตะวสิน สถาพรชาญชัย


กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--รอยเตอร์


ผู้จัดการกองทุนรวม 4 แห่ง จากทั้งหมด 5 แห่ง มองตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลัง

จะอยู่ในทิศทางแกว่งตัวขึ้น หลังจากปรับลงมามากในช่วงไตรมาส 2 อีกทั้งแรงกดดันจาก

การเมืองในประเทศ ปัญหาหนี้ในยุโรป และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เบาบางลงไป

ขณะที่ ผู้จัดการกองทุนอีกรายหนึ่ง เห็นว่า ตลาดหุ้นในครึ่งหลังปีนี้ ยังคงไม่มี

ทิศทางที่ชัดเจน และสามารถแก่วงตัวได้ทั้งขาขึ้นและลง ตามแต่ทิศทางการเปลี่ยนแปลง

ของปัจจัยต่างๆ ที่ปกคลุมตลาดอยู่

"ผมมองว่า risky asset โดยเฉพาะหุ้น ในครึ่งปีหลังจะยังผันผวนอยู่ แต่ว่า

ก็ยังน่าจะผันผวนในช่วง sideways up ขึ้นไป...ผมยังเชื่อ fundamental เพราะฉะนั้น

ผมยังคง overweight หุ้น" นายศุภกร สุนทรกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี

กล่าวกับ "รอยเตอร์"

ด้าน นางสาวแสงจันทร์ ลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บลจ.

กรุงไทย มองว่า หุ้นไทยในครึ่งปีหลัง มีทิศทางไม่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นทางขึ้นหรือลง

โดยจะแกว่งตัวผันผวน ทำให้ไม่สามารถใช้กลยุทธ์ซื้อแล้วถือยาว หรือลดสัดส่วนหุ้นในพอร์ต

ลงไปมากๆ เพื่อรอซื้อหุ้นในราคาต่ำได้

เขา เชื่อว่า กลยุทธ์ที่เหมาะสม คือ การวางพอร์ตหลักไว้ส่วนหนึ่ง ขณะที่

หุ้นที่เหลืออีกส่วนหนึ่ง กันไว้สำหรับซื้อขายทำกำไรเป็นรอบๆ

แม้มุมมองต่อทิศทางตลาดหุ้นจะแตกต่างกัน แต่ผู้จัดการกองทุนรวม ที่คาดการณ์

ว่าตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง ต่างก็ระบุว่า จะใช้กลยุทธ์การเทรดเล่นรอบ

และสลับกลุ่มหุ้นหรือตัวหุ้นที่ลงทุนอยู่เป็นระยะเช่นกัน

โดย นางสาวโศภนา เจนบวร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน

บลจ.กสิกรไทย เน้นว่า ด้วยสภาพการแกว่งตัวของตลาดหุ้นในครึ่งปีหลัง ทำให้กลยุทธ์ใน

เรื่องของการคัดเลือกหุ้น และจัดวางน้ำหนักหุ้น ถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการลงทุนใน

ช่วงที่เหลือของปีนี้

สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม ที่ บลจ.กสิกรไทย มองว่า มีความน่าสนใจลงทุน

ได้แก่ กลุ่มอาหาร, ปิโตรเคมี และ โรงกลั่น

สอดคล้องกับมุมมองของ นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และ

หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.แอสเซท พลัส ที่เชื่อว่า หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการ

ฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อย่าง กลุ่มพลังงาน และโรงกลั่น ตลอดจนกลุ่มส่งออก อย่าง

อาหาร และ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ น่าจะทำผลงานได้ดีในช่วงครึ่งปีหลัง

แต่กลุ่มอุตสาหกรรมที่ผู้จัดการกองทุนรวมทุกราย เห็นตรงกันว่า ยังไม่น่าสนใจ

หรือควรหลีกเลี่ยงการลงทุนไว้ก่อน คือ กลุ่มโรงแรม และท่องเที่ยว เพราะถูกกระทบจาก

ทั้งเหตุการณ์การเมืองในประเทศ และเศรษฐกิจโลก ที่ยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเต็มที่


**ลดอายุบอนด์


ด้านการบริหารพอร์ตตราสารหนี้ ผู้จัดการกองทุนรวมส่วนใหญ่ มีแผนจะลดอายุ

ตราสารหนี้ในพอร์ตลงมาเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเพื่อลดความเสี่ยงจากการปรับขึ้นของดอกเบี้ย

นโยบาย ที่คาดว่าจะเริ่มทยอยขึ้นในกลางไตรมาส 3 หรือ ต้นไตรมาส 4 ปีนี้

อีกส่วนหนึ่ง เป็นการลดผลกระทบจากกรณีที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนฟื้นขึ้น และ

อาจทำให้เกิดการโยกเงินออกจากตลาดตราสารหนี้ ไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า

"ดีมานด์ (ความต้องการซื้อตราสารหนี้) ยังค่อนข้างเยอะ แต่ถึงจุดนึง เงินทุน

เคลื่อนย้าย อาจจะเริ่มขึ้น ก็ต้องตั้งรับให้ดี" นายวีระ วุฒิคงศิริกูล รองกรรมการผู้จัดการ

บลจ.กรุงไทย กล่าว

นอกจากการลดอายุตราสารหนี้ในพอร์ตแล้ว ผู้จัดการกองทุนรวมส่วนมาก ยังจะ

ใช้การซื้อขายทำกำไร ตามรอบการปรับตัวของราคาและผลตอบแทนพันธบัตรเช่นกัน โดย

นายประเสริฐ ขนบธรรมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย มองว่า ช่วงอายุ

ตราสารหนี้ที่เหมาะในการเทรด จะอยู่ที่ 5-7 ปี เพราะผลตอบแทนคุ้มกับความเสี่ยงที่มีอยู่

ขณะที่นายศุภกร เห็นว่า ตราสารหนี้อายุ 2-3 ปี จะเป็นช่วงที่น่าเทรดมากที่สุด

แต่เป็นการเทรดระยะสั้น เพื่อรอจังหวะหมุนเงินเข้าลงทุนในหุ้น หรือสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้น

ผู้จัดการกองทุนรวม ยังมีความต้องการตรงกัน ในการเพิ่มสัดส่วนหุ้นกู้ในพอร์ต

เพื่อเสริมผลตอบแทนโดยรวมให้สูงขึ้น แต่ทั้งหมด ยอมรับว่า ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา

หาหุ้นกู้เข้าลงทุนได้ยาก เพราะปริมาณหุ้นกู้ที่เข้าสู่ตลาด มีไม่มาก และส่วนต่างดอกเบี้ย

จากพันธบัตรรัฐบาล ก็ขยับแคบลงมาเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม จากการที่ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น และบริษัทต่างๆ แข็งแรง

มากขึ้น ทำให้บลจ.หลายๆ แห่ง ผ่อนคลายเกณฑ์เรื่องอันดับเครดิตของหุ้นกู้ที่จะลงทุน

เช่นกัน อย่างเช่น บลจ.กรุงไทย ที่บางกองทุนซึ่งสามารถรับความเสี่ยงได้ ก็จะลงทุน

หุ้นกู้ได้ถึง ระดับ BBB จากค่าเฉลี่ยเดิมอยู่ที่ A-

ด้าน นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง กล่าวถึง

การลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศว่า ตราสารหนี้ภาครัฐของเกาหลีใต้ ยังเป็นตัวเลือกที่

น่าสนใจ แต่ให้เน้นพันธบัตรเกาหลีใต้ ที่อายุไม่เกิน 1 ปี เพื่อลดความเสี่ยงจากแนวโน้ม

ดอกเบี้ยขาขึ้น และปัญหาความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ที่อาจเกิดขึ้นได้--จบ--


(โดย สะตะวสิน สถาพรชาญชัย รายงานและเรียบเรียง--ฉก--)

[VI Wannabe]

พี่ Vichit ครับ พี่เอาข่าวของ รอยเตอร์ มาจากไหนหรือครับ (Biznews หรือเปล่าครับ ?)

ขอบคุณครับ