สวัสดีครับ ผมเป็นน้องใหม่มาขอคำแนะนำพี่ๆครับ
พอดีผมเพิ่งเริ่มศึกษาเรื่องการลงทุนน่ะครับ
ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือตามคำแนะนำของพี่ๆในห้องนี้เก็บความรู้ไปเรื่อยๆ
ผมอยากทราบว่า ชาว VI นิยมถือหุ้นกลุ่ม Blue Chip หรือเปล่าครับ
เท่าที่เข้าใจคือชาว VI เน้นการพิจารณาธุรกิจ ด้วยงบหลักทั้งสามตัว
ความถูกแพงของหุ้น โอกาสในการแข่งขันและเจริญเติบโตในอนาคต
เรียกได้ว่า เฟ้นหา ของถูกแบกะดินอย่างที่หนังสือของ ดร.นิเวศน์เขียนไว้
หุ้นกลุ่ม Blue Chip นี่เป็นหุ้นที่ผมเข้าใจว่าค่อนข้างดีกว่าหุ้นเกร็งกำไร (เล่นไปตัวเกร็งไป)
และน่าจะเป็นที่ชอบใจของชาว VI มากกว่า แต่การเป็นที่รู้จักในวงกว้างหมดแล้ว
จึงเป็นไปไม่ได้ที่ราคาต้นทุนจะถูกตามหลักเลือกหุ้น VI
หมายถึงมันคงไม่เปิดช่องทางให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนมากมายนัก
เมื่อเทียบกับหุ้นแบกะดินที่ไม่มีใครรู้จักที่ชาว VI ไปสรรหามาได้
ถ้าเป็นอย่างนั้น ชาว VI มีสัดส่วนในการครอบครองหุ้น Blue Chip มากน้อยแค่ไหนกันบ้างครับ ด้วยเหตุผลอะไรครับ
ชาว VI นิยมถือหุ้นกลุ่ม Blue Chip หรือเปล่าครับ
- Packky
- Verified User
- โพสต์: 856
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI นิยมถือหุ้นกลุ่ม Blue Chip หรือเปล่าครับ
โพสต์ที่ 2
ขออนุญาตนำบทความของอาจารย์มาให้อ่านนะครับ
ขึ้นอยู่กับว่าหุ้นนั้นเป็นหุ้นที่มีคุณภาพที่เราพอใจจะลงทุนรึเปล่าครับ
:8) :8)
สำหรับผมแล้วไม่ได้จำเพาะว่าจะต้องมีหุ้น Blue Chip สัดส่วนเท่าไหร่ครับโลกในมุมมองของ Value Investor 21 มี.ค. 52
พูดถึงเรื่องของการซื้อขายหุ้นแล้ว ผมคิดว่ามีเทคนิคหรือมีกฎต่าง ๆ มากมายที่มีการคิดค้นและนำเสนอ วิธีการหรือกลยุทธ์ที่ใช้ในแต่ละเรื่องนั้นมีหลากหลายแนวทางขึ้นอยู่กับว่าคนที่เสนอเป็นนักลงทุนแนวไหน กลยุทธ์เหล่านั้นบ่อยครั้งขัดกันเอง เช่น ถ้าเป็นนักเก็งกำไร พวกเขาอาจจะบอกว่าการเล่นหุ้นต้องเล่น ตามกระแส แต่ถ้าเป็นแบบ Value Investor บางพวกเขาจะให้ซื้อขาย สวนกระแส วันนี้ผมขอนำเสนอหลักสำคัญบางประการของการซื้อขายหุ้นที่ผมเชื่อและใช้ เรียกให้เท่ว่า บัญญัติ 10 ประการของการเล่นหุ้น
ข้อ 1 ศึกษาข้อมูลหุ้นให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อหุ้น อย่าซื้อหุ้นโดยใช้อารมณ์ อย่าโลภ อย่ารีบด่วนตัดสินใจซื้อหุ้นโดยเฉพาะในกรณีที่หุ้นกำลังวิ่ง อย่าลืมว่ามีหุ้นที่กำลัง วิ่ง ทุกวัน ถ้าเราซื้อ เราก็จะเป็นนักเล่นหุ้นรายวันที่มีโอกาสถูกผิด 50-50 ถ้าเราทำแบบนี้ในระยะยาวเราจะขาดทุนเสมอ
ข้อ 2 อย่าสนใจข่าวลือหรือ หุ้นเด็ด ที่เราได้ยินมาไม่ว่าจะมาจากเซียน คนในหรือ Insider ของบริษัท หรือจากคนแปลกหน้าในงานเลี้ยง เชื่อเถอะว่าถ้าเราได้ยินก็คงมีคนอีกไม่น้อยที่ได้ยิน ข่าวหรือข้อมูลแบบนี้ไม่มีความหมายอะไรนอกจากจะทำให้เราเสียเงิน
ข้อ 3 ให้ความสำคัญกับตัวกิจการหรือตัวหุ้นมากกว่าสภาพตลาดหรือเศรษฐกิจโดยทั่วไป เพราะถึงแม้ว่าสภาพทางเศรษฐกิจอาจจะไม่ดีแต่ตัวบริษัทก็อาจจะดีได้ นอกจากนั้น ถึงกิจการอาจจะไม่ดีนักแต่ราคาหุ้นก็อาจจะต่ำกว่าพื้นฐานมาก ดังนั้น อย่าให้ภาพของตลาดหรือเศรษฐกิจมาหันเหการตัดสินใจซื้อหุ้นของเรา
ข้อ 4 หุ้นนั้นมักจะดูแย่กว่าที่คิดในช่วงที่ตลาดตกต่ำถึงพื้นในช่วงตลาดหมี และดูดีกว่าที่คิดในช่วงที่ตลาดวิ่งถึงจุดสูงสุดในช่วงตลาดกระทิง มีความกล้าหาญที่จะซื้อเมื่อทุกอย่างดูเลวร้าย และขายเมื่อทุกอย่างดูดีจนไม่น่าเชื่อ
ข้อ 5 จำไว้ว่า มันเป็นเรื่องยากที่เราจะสามารถซื้อหุ้นที่พื้นพอดีและขายหุ้นได้ที่จุดสูงสุด ในยามที่ตลาดเลวร้ายมาก ๆ นั้น หุ้นอาจจะตกต่ำลงไปเกินกว่ามูลค่าพื้นฐานจริงได้มาก เช่นเดียวกัน ในยามที่ทุกคนกำลังมองโลกในแง่ดีมาก ๆ หุ้นอาจจะขึ้นไปเกินพื้นฐานได้มากเหมือนกัน ดังนั้น อย่าคาดหวังว่าเมื่อซื้อหุ้นแล้วราคาจะต้องขึ้นทันที หรือขายหุ้นแล้วก็หวังว่ามันจะลงถึงแม้ว่าเราจะเชื่อมั่นกับการวิเคราะห์หามูลค่าของเรา
ข้อ 6 ถ้ามั่นใจว่าบริษัทที่เราลงทุนมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีอนาคตในการเติบโตที่ดีมาก อย่าขายเพียงเพราะว่าราคาหุ้นอาจจะดูเหมือนว่าสูงเกินไปหรือหุ้นวิ่งขึ้นมาเร็วเกินไปชั่วคราว เพราะถ้าเราพลาด เราอาจจะไม่สามารถซื้อมันกลับมาและทำให้เราพลาดที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมในอนาคต
ข้อ 7 อย่า หลงรักหุ้น จน ตาบอด เพราะมันจะทำให้เราไม่สามารถวิเคราะห์กิจการได้อย่างเป็นกลางไม่มีความลำเอียง หุ้นนั้นรักได้แต่อย่าหลง เราจะต้องตรวจสอบและประเมินดูฐานะและความคุ้มค่าอยู่ตลอดเวลา และเมื่อถึงเวลาเราก็อาจจะต้องมีความ โหดร้าย พอที่จะ ตัดรัก หรือขายทิ้งได้ถ้าพิจารณาดูแล้วว่ามัน หมดเสน่ห์ แล้ว
ข้อ 8 อย่าสนใจว่าหุ้นเคยอยู่ที่จุดไหนมาก่อน จงสนใจว่าหุ้นจะไปที่ไหน กิจการอาจจะเคยกำไร 100 ล้านบาท ราคาหุ้นอาจจะเคยอยู่ที่ 10 บาทต่อหุ้น แต่ขณะนี้กำไรเหลือเพียงหลัก 10-20 ล้านบาท ราคาหุ้นตกลงมาเหลือเพียง 2 บาทต่อหุ้น อย่าไปคิดว่ากิจการและหุ้นจะต้องกลับไปที่เดิมหรือใกล้ ๆ กับที่เดิม อย่าลืมว่าของเดิมอาจจะเป็นปรากฏการณ์ที่ผิดปกติก็ได้ ตัวเลขใหม่คือของจริง ดังนั้น ลืมตัวเลขเก่าแล้วมองไปข้างหน้า หุ้นราคา 2 บาทอาจจะยังแพงเกินไปก็ได้
ข้อ 9 เน้นการลงทุนในหุ้นคุณภาพสูง หุ้นคุณภาพต่ำนั้นบางครั้งอาจจะให้ผลตอบแทนที่ดีและเร็วมาก แต่ความสำเร็จในระยะยาวนั้นมีโอกาสสูงกว่าที่จะเกิดกับพอร์ตของหุ้นที่เน้นการลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงเป็นหลัก Value Investor จำนวนมากหลีกเลี่ยงหุ้นดีประเภทซุปเปอร์สต็อกและชอบเล่นหุ้นคุณภาพต่ำที่มีโอกาสทำกำไรหวือหวารวดเร็ว การทำแบบนี้ถ้าทำเป็นครั้งคราวก็คงไม่เสียหายอะไรนัก แต่ถ้าเริ่มต้นก็ทำแล้วจนในที่สุดติดเป็นนิสัย โอกาสที่เขาจะประสบความสำเร็จในระยะยาวก็จะยาก พอร์ตที่ประกอบไปด้วยหุ้นของกิจการที่มีคุณภาพต่ำนั้นยากที่จะทำให้เรารวย ตรงกันข้าม พอร์ตของกิจการที่มีคุณภาพสูงนั้น สามารถทำให้เรารวยได้และด้วยความเสี่ยงที่ต่ำกว่ามาก
ข้อ 10 ใช้เวลากับการลงทุน ตรวจสอบกิจการและหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไป เราต้องปรับการลงทุนเพื่อให้สะท้อนกับการเปลี่ยนแปลง ตัดหุ้นที่อ่อนแอลงออก ซื้อหุ้นที่ดีกว่าเข้ามา แต่นี่ไม่ใช่การเทรดหรือซื้อขายหุ้นรายวัน รายเดือน หรือแม้แต่รายปี มันขึ้นกับสถานการณ์และตัวหุ้น โดยเฉลี่ยแล้วถ้าเราซื้อหุ้นแล้วถือไม่ถึงปี วิธีการลงทุนของเราคงไม่ใช่การเน้นหุ้นคุณภาพในการลงทุนเป็นหลัก
ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงบางส่วนของกฎในการซื้อขายหุ้นลงทุนที่ผมคิดว่าดีและสอดคล้องกันเป็นชุด แน่นอน มีกฎอื่น ๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วนและอาจจะตรงกันข้ามกับที่ผมพูดถึง นักลงทุนคงต้องเลือกเองว่าจะเชื่อแนวความคิดหรือวิธีไหน แต่ขอบอกว่านี่คือวิธีการที่นักลงทุนเอกของโลก อาทิ วอเร็น บัฟเฟตต์ ใช้อยู่และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
ขึ้นอยู่กับว่าหุ้นนั้นเป็นหุ้นที่มีคุณภาพที่เราพอใจจะลงทุนรึเปล่าครับ
:8) :8)
-
- Verified User
- โพสต์: 983
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI นิยมถือหุ้นกลุ่ม Blue Chip หรือเปล่าครับ
โพสต์ที่ 3
สำหรับผมคิดว่า หุ้นบลู เนี่ยเหมือนถูกส่องด้วยสปอตไลท์ แล้วอะครับ
จากที่อ่านหนังสือมาบ้าง ชาวvi จะหาหุ้นประเภท ที่นักวิเคราะห์ยังไม่มองครับ (แต่ต้องเป็นหุ้นที่ดีด้วยนะครับ ฮ่าๆๆ) แล้วรอครับ
ผมคิดว่าหุ้นพวกนี้จะทำกำไรให้กับ นลท. ได้มากกว่าหนะครับ
ส่วนที่ผมถืออยู่ ไม่รู้ว่ามันเป็น blue รึป่าวนะสิครับ ฮ่าๆ
จากที่อ่านหนังสือมาบ้าง ชาวvi จะหาหุ้นประเภท ที่นักวิเคราะห์ยังไม่มองครับ (แต่ต้องเป็นหุ้นที่ดีด้วยนะครับ ฮ่าๆๆ) แล้วรอครับ
ผมคิดว่าหุ้นพวกนี้จะทำกำไรให้กับ นลท. ได้มากกว่าหนะครับ
ส่วนที่ผมถืออยู่ ไม่รู้ว่ามันเป็น blue รึป่าวนะสิครับ ฮ่าๆ