บทเรียนการสิ้นชาติเขมรสำหรับประเทศไทย
-
- Verified User
- โพสต์: 96
- ผู้ติดตาม: 0
บทเรียนการสิ้นชาติเขมรสำหรับประเทศไทย
โพสต์ที่ 1
บทเรียนการสิ้นชาติเขมรสำหรับประเทศไทย
ดร.โสภณ พรโชคชัย ([email protected])
เขมรมีคำทำนายว่า วันหนึ่งประเทศไทยจะต้องบ้านแตกสาแหรกขาดยิ่งกว่าที่พวกเขาเคยประสบมาเสียอีก นี่อาจเป็นแค่คำทำนาย คำสาป คำขู่ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมไม่ได้เชื่อไสยศาสตร์ที่ผู้คนมักนำมาข่มขู่ว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ผมมักจะตอกกลับคนเหล่านั้นว่า ไม่รู้จริง ก็อย่างมงาย (นักเลยครับ)
ผมไม่ใช่นักประวัติศาสตร์ ผมเป็นเพียงที่ปรึกษากระทรวงการคลัง รัฐบาลเวียดนาม และได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลัง ราชอาณาจักรกัมพูชาให้ไปบรรยายหรือร่วมกันจัดงานประชุม-สัมมนาเป็นระยะ ๆ จึงได้รับรู้เรื่องราวและเห็นร่องรอยของบทเรียนการสิ้นชาติเขมร ซึ่งคนไทยควรได้รับทราบ
ผมจำได้ว่าเมื่อครั้งที่เขมรสิ้นชาติเมื่อ 30 ปีก่อนนั้น ประชาชนย้ายหนีตายมาตามตะเข็บชายแดนไทย พวกที่พอมีฐานะต้องเอาทองมาแลกข้าวประทังชีวิต อาคารบ้านเรือน ไร่นาสาโทที่ตัวเองเคยเป็นเจ้าของก็ล้วนไร้ค่า
ชาวเขมรในกรุงพนมเปญเล่าให้ผมฟังเมื่อสัปดาห์ก่อนตอนที่ผมไปสอนหนังสือที่เขมรว่า หลังยุคเขมรแดงแล้ว จึงปรากฏว่ามีชาวเขมรอพยพกลับเข้าไปอยู่ในกรุงพนมเปญอีกครั้งหนึ่ง เมื่อย้ายเข้ามาใหม่ ๆ ราคาบ้านและที่ดินในกรุงพนมเปญแทบไม่มีค่า ประชาชนต่างมาจับจองอาคารตึกแถวที่ถูกทิ้งร้างไว้ในใจกลางเมืองโดยเจ้าของเดิมคงตายหรือไม่ก็ย้ายไปประเทศอื่นแล้ว ครอบครัวที่กลับมาก่อน จะอาศัยอยู่ชั้นบนสุดของตึกแถว 3-4 ชั้น ทั้งนี้เพราะมักมีการปล้นชิงทรัพย์สินอยู่เสมอ การอยู่อาศัยในชั้นบนสุดย่อมปลอดภัยกว่า
ครอบครัวที่ครอบครองตึกแถวร้างอยู่ มักจะเชิญชวนแกมขอร้องครอบครัวที่กลับมาจากชนบทในภายหลังให้มาอยู่ชั้นล่างจากตน เผื่อมีโจรมาปล้น ก็จะต้องผ่านครอบครัวที่มาภายหลังและอยู่ชั้นล่าง ๆ ก่อน ครอบครัวที่มาหลังสุดจะได้ครอบครองชั้นล่างสุดที่มีความเสี่ยงในการถูกปล้นสูงสุด
จะเห็นได้ว่าในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาดนั้น ไม่มีใครเห็นอนาคต ไม่มีใครสามารถจะเชื่อได้ว่าบ้านเมืองจะกลับมาสงบสุขอีกครั้งหนึ่งเช่นทุกวันนี้ ที่สำคัญในห้วงเวลานั้นมูลค่าของที่ดินและอาคารแทบจะไม่มีเหลือต่างจากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสมบัติสุดล้ำค่า แต่พอบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ มูลค่าของทรัพย์สินจึงกลับคืนมาใหม่ พวกที่อยู่ชั้นล่างสุดของตึกแถวกลับโชคดีเพราะเป็นทำเลดีมีราคามากกว่า
เขมรสิ้นชาติเพราะอะไร คงต้องไปถามผู้รู้ทางประวัติศาสตร์ แต่ก็อีกนั่นแหละ ข้อสรุปของแต่ละคนก็คงเป็นแบบ สองคนยลตามช่อง แล้วแต่มุมมอง อาจเกี่ยวเนื่องตั้งแต่จักรวรรดินิยม คอมมิวนิสต์ สงครามเย็น สงครามตัวแทน ฯลฯ
แต่ที่แน่ ๆ ก็คือเขมรสิ้นชาติเพราะการต่อสู้ของผู้นำประเทศ จนหญ้าแพรกแหลกลาญ ฝ่ายแพ้ก็หนีตายไปอยู่ประเทศลูกพี่คือสหรัฐอเมริกา ผู้นำประเทศไม่เห็นหัวชาวบ้านอยู่แล้ว เขาพร้อมที่จะกำจัดฝ่ายตรงข้ามให้ได้ แม้ต้องแลกด้วยชีวิตของชาวบ้านตาดำ ๆ นับหมื่นนับแสนก็ตาม
ชาวเขมรที่รวย ๆ หรือพอมีฐานะและเป็นพวกที่มีวิชาความรู้ก็กลายสภาพเป็นเขมรอพยพได้รับการคัดให้ไปอยู่ไปยุโรปและอเมริกา แต่หลายคนที่มีคุณสมบัติต่ำกว่าหรือมีโอกาสน้อยกว่าก็ตายไปในแผ่นดินเขมรหรือไม่ก็ตายกลางทะเลในฐานะมนุษย์เรือผู้อพยพที่หนีไม่รอดนั่นเอง
ส่วนชาวบ้านชาวช่อง ตาสีตาสา คนธรรมดา สามัญชนก็ต้องอยู่เผชิญชะตากรรมอันโหดร้ายร่วมกับประเทศชาติในภาวะตกต่ำสุดขีด แต่คนเหล่านี้แหละคือผู้สร้างชาติตัวจริง เขมรที่ฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ อาจเป็นเพราะผู้นำส่วนหนึ่ง แต่ทรัพยากรสำคัญก็คือพวก ฝุ่นเมือง หรือพวก ไพร่ ที่ไร้ที่ไปนั่นเอง พอพวกเขาได้มีโอกาสทำมาหากินตามปกติสุข เศรษฐกิจก็เดินหน้าต่อไป
นอกจากนี้เขมรยังมีทรัพยากรมากมาย มีประชากรจำนวนมากพอที่จะกลายเป็นแรงงานราคาถูกให้กับนายทุนข้ามชาติที่มาลงทุน จึงทำให้ประเทศเจริญขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด และเมื่อฝุ่นจางลงแล้ว เหล่าชาวเขมรปัญญาชน-กฎุมพีที่ตอนนี้กลายเป็นอเมริกันชนไปแล้ว ก็ได้ทีกลับมาทำมาหากินในประเทศเกิดอีกครั้งหนึ่ง
กฎุมพีเขมรเหล่านี้ก็คือ พวกชนชั้นสูงที่มีฐานะดี ผู้มีการศึกษาที่ดี รวมทั้งชนชั้นกลางที่มีโอกาสดีกว่าคนอื่น อาจกล่าวได้ว่าคนเหล่านี้จำนวนมากได้วีซ่า ได้กรีนการ์ด หรือแม้แต่ได้สัญชาติอเมริกัน ก่อนเขมรแตกจริง ๆ เสียอีก พวกนี้ไม่ได้มีส่วนสร้างชาติใด ๆ เลย อย่างไรก็ตามก็ยังมีกฎุมพีปัญญาชนส่วนหนึ่งที่มีส่วนสร้างชาติ พวกนี้คงเป็นพวกผู้มีอุดมการณ์อันแรงกล้าที่อยู่กับกลุ่มผู้นำที่ชนะจนถึงวันนี้ และไม่ได้หนีไปไหน แต่ก็ถือเป็นกฎุมพีส่วนน้อยนิด
ผมจำได้ว่าสมัยที่ผมเรียนปี 1 อยู่ธรรมศาสตร์เมื่อปี 2519 ก็ได้ข่าวว่านายแบงค์ เจ้าของกิจการใหญ่โตก็ทำวีซาเตรียมตัวหนีไปต่างประเทศเช่นกัน โชคดีที่ประเทศไทยไม่ได้ประสบชะตากรรมเลวร้ายเช่นประเทศอื่นในคาบสมุทรอินโดจีนนี้
ถ้าวันหน้าประเทศไทยเกิดสงครามกลางเมือง ผมว่าพวกกฎุมพีไทยก็คงเริ่มผ่องถ่ายขายทรัพย์สินเพื่อเตรียมตัวไปตั้งหลักแห่งอยู่เมืองนอกกันตั้งแต่เริ่มมีเค้าลางร้ายแล้ว จนเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ ประชาชนก็จะมาร่วมกันสร้างชาติขึ้นมาใหม่บนซากปรักหักพังของประเทศ
แม้ชาติจะยืนขึ้นมาใหม่ได้อย่างแน่นอน แต่ก็เสียเวลาไปอย่างน่าเสียดาย ทุกวันนี้กว่าประเทศลาว เขมร เวียดนาม พม่า จะมีระดับรายได้ประชาชาติต่อหัวเท่ากับไทย ก็คงยังกินเวลาอีกหลายปี โดยเฉพาะพม่า ที่บ้านเมืองยุ่งเหยิงก็เพราะพวกผู้ปกครองโดยแท้ ส่วนเวียดนามคงจะมีโอกาส หายใจรดต้นคอ ไทยในไม่ช้าเพราะความเข้มแข็งทางการเมือง ความกลมเกลียวของคนในชาติ และคุณสมบัติที่ขยัน อดทนของประชาชนนั่นเอง
ในท้ายที่สุดนี้ ผมสังหรณ์ว่าคำทำนายเขมรอาจเป็นจริง เพราะสมัยก่อนเราขัดแย้งเรื่องลัทธิการเมือง ก็ยังไม่เกิดความแตกแยกในสังคมมากเช่นทุกวันนี้ที่มีการตอกลิ่ม ใส่ร้ายป้ายสีกันมาตั้งแต่ปี 2547 จนทำให้ประชาชที่เชื่อต่างกันรู้สึกจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้วอีกต่อไปแล้ว การแตกแยกเช่นนี้เมื่อทำให้ไทยล้าหลังลง วันหนึ่งแผ่นดินไทยก็อาจถูกแบ่งแยก เหมือนภาคใต้ที่หากวันนี้มาเลเซียยังด้อยกว่าไทยเช่นพม่าคู่อาฆาตในประวัติศาสตร์ ก็คงไม่มีปัญหา 3 จังหวัดชายแดน แต่อาจมีปัญหาการทะลักของแรงงานราคาถูกเช่นกรณีพม่าก็ได้
อย่าให้ไทยต้องเข้าสู่กลียุคเพราะสงครามกลางเมืองเลย พวกชนชั้นนำอย่ามัวเข่นฆ่าทำลายกันจนลืมคิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติเลยครับ พวกคุณล้วนไม่ใช่เจ้าของประเทศหรือผู้สร้างชาติตัวจริง
ดร.โสภณ พรโชคชัย ([email protected])
เขมรมีคำทำนายว่า วันหนึ่งประเทศไทยจะต้องบ้านแตกสาแหรกขาดยิ่งกว่าที่พวกเขาเคยประสบมาเสียอีก นี่อาจเป็นแค่คำทำนาย คำสาป คำขู่ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมไม่ได้เชื่อไสยศาสตร์ที่ผู้คนมักนำมาข่มขู่ว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ผมมักจะตอกกลับคนเหล่านั้นว่า ไม่รู้จริง ก็อย่างมงาย (นักเลยครับ)
ผมไม่ใช่นักประวัติศาสตร์ ผมเป็นเพียงที่ปรึกษากระทรวงการคลัง รัฐบาลเวียดนาม และได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลัง ราชอาณาจักรกัมพูชาให้ไปบรรยายหรือร่วมกันจัดงานประชุม-สัมมนาเป็นระยะ ๆ จึงได้รับรู้เรื่องราวและเห็นร่องรอยของบทเรียนการสิ้นชาติเขมร ซึ่งคนไทยควรได้รับทราบ
ผมจำได้ว่าเมื่อครั้งที่เขมรสิ้นชาติเมื่อ 30 ปีก่อนนั้น ประชาชนย้ายหนีตายมาตามตะเข็บชายแดนไทย พวกที่พอมีฐานะต้องเอาทองมาแลกข้าวประทังชีวิต อาคารบ้านเรือน ไร่นาสาโทที่ตัวเองเคยเป็นเจ้าของก็ล้วนไร้ค่า
ชาวเขมรในกรุงพนมเปญเล่าให้ผมฟังเมื่อสัปดาห์ก่อนตอนที่ผมไปสอนหนังสือที่เขมรว่า หลังยุคเขมรแดงแล้ว จึงปรากฏว่ามีชาวเขมรอพยพกลับเข้าไปอยู่ในกรุงพนมเปญอีกครั้งหนึ่ง เมื่อย้ายเข้ามาใหม่ ๆ ราคาบ้านและที่ดินในกรุงพนมเปญแทบไม่มีค่า ประชาชนต่างมาจับจองอาคารตึกแถวที่ถูกทิ้งร้างไว้ในใจกลางเมืองโดยเจ้าของเดิมคงตายหรือไม่ก็ย้ายไปประเทศอื่นแล้ว ครอบครัวที่กลับมาก่อน จะอาศัยอยู่ชั้นบนสุดของตึกแถว 3-4 ชั้น ทั้งนี้เพราะมักมีการปล้นชิงทรัพย์สินอยู่เสมอ การอยู่อาศัยในชั้นบนสุดย่อมปลอดภัยกว่า
ครอบครัวที่ครอบครองตึกแถวร้างอยู่ มักจะเชิญชวนแกมขอร้องครอบครัวที่กลับมาจากชนบทในภายหลังให้มาอยู่ชั้นล่างจากตน เผื่อมีโจรมาปล้น ก็จะต้องผ่านครอบครัวที่มาภายหลังและอยู่ชั้นล่าง ๆ ก่อน ครอบครัวที่มาหลังสุดจะได้ครอบครองชั้นล่างสุดที่มีความเสี่ยงในการถูกปล้นสูงสุด
จะเห็นได้ว่าในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาดนั้น ไม่มีใครเห็นอนาคต ไม่มีใครสามารถจะเชื่อได้ว่าบ้านเมืองจะกลับมาสงบสุขอีกครั้งหนึ่งเช่นทุกวันนี้ ที่สำคัญในห้วงเวลานั้นมูลค่าของที่ดินและอาคารแทบจะไม่มีเหลือต่างจากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสมบัติสุดล้ำค่า แต่พอบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ มูลค่าของทรัพย์สินจึงกลับคืนมาใหม่ พวกที่อยู่ชั้นล่างสุดของตึกแถวกลับโชคดีเพราะเป็นทำเลดีมีราคามากกว่า
เขมรสิ้นชาติเพราะอะไร คงต้องไปถามผู้รู้ทางประวัติศาสตร์ แต่ก็อีกนั่นแหละ ข้อสรุปของแต่ละคนก็คงเป็นแบบ สองคนยลตามช่อง แล้วแต่มุมมอง อาจเกี่ยวเนื่องตั้งแต่จักรวรรดินิยม คอมมิวนิสต์ สงครามเย็น สงครามตัวแทน ฯลฯ
แต่ที่แน่ ๆ ก็คือเขมรสิ้นชาติเพราะการต่อสู้ของผู้นำประเทศ จนหญ้าแพรกแหลกลาญ ฝ่ายแพ้ก็หนีตายไปอยู่ประเทศลูกพี่คือสหรัฐอเมริกา ผู้นำประเทศไม่เห็นหัวชาวบ้านอยู่แล้ว เขาพร้อมที่จะกำจัดฝ่ายตรงข้ามให้ได้ แม้ต้องแลกด้วยชีวิตของชาวบ้านตาดำ ๆ นับหมื่นนับแสนก็ตาม
ชาวเขมรที่รวย ๆ หรือพอมีฐานะและเป็นพวกที่มีวิชาความรู้ก็กลายสภาพเป็นเขมรอพยพได้รับการคัดให้ไปอยู่ไปยุโรปและอเมริกา แต่หลายคนที่มีคุณสมบัติต่ำกว่าหรือมีโอกาสน้อยกว่าก็ตายไปในแผ่นดินเขมรหรือไม่ก็ตายกลางทะเลในฐานะมนุษย์เรือผู้อพยพที่หนีไม่รอดนั่นเอง
ส่วนชาวบ้านชาวช่อง ตาสีตาสา คนธรรมดา สามัญชนก็ต้องอยู่เผชิญชะตากรรมอันโหดร้ายร่วมกับประเทศชาติในภาวะตกต่ำสุดขีด แต่คนเหล่านี้แหละคือผู้สร้างชาติตัวจริง เขมรที่ฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ อาจเป็นเพราะผู้นำส่วนหนึ่ง แต่ทรัพยากรสำคัญก็คือพวก ฝุ่นเมือง หรือพวก ไพร่ ที่ไร้ที่ไปนั่นเอง พอพวกเขาได้มีโอกาสทำมาหากินตามปกติสุข เศรษฐกิจก็เดินหน้าต่อไป
นอกจากนี้เขมรยังมีทรัพยากรมากมาย มีประชากรจำนวนมากพอที่จะกลายเป็นแรงงานราคาถูกให้กับนายทุนข้ามชาติที่มาลงทุน จึงทำให้ประเทศเจริญขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด และเมื่อฝุ่นจางลงแล้ว เหล่าชาวเขมรปัญญาชน-กฎุมพีที่ตอนนี้กลายเป็นอเมริกันชนไปแล้ว ก็ได้ทีกลับมาทำมาหากินในประเทศเกิดอีกครั้งหนึ่ง
กฎุมพีเขมรเหล่านี้ก็คือ พวกชนชั้นสูงที่มีฐานะดี ผู้มีการศึกษาที่ดี รวมทั้งชนชั้นกลางที่มีโอกาสดีกว่าคนอื่น อาจกล่าวได้ว่าคนเหล่านี้จำนวนมากได้วีซ่า ได้กรีนการ์ด หรือแม้แต่ได้สัญชาติอเมริกัน ก่อนเขมรแตกจริง ๆ เสียอีก พวกนี้ไม่ได้มีส่วนสร้างชาติใด ๆ เลย อย่างไรก็ตามก็ยังมีกฎุมพีปัญญาชนส่วนหนึ่งที่มีส่วนสร้างชาติ พวกนี้คงเป็นพวกผู้มีอุดมการณ์อันแรงกล้าที่อยู่กับกลุ่มผู้นำที่ชนะจนถึงวันนี้ และไม่ได้หนีไปไหน แต่ก็ถือเป็นกฎุมพีส่วนน้อยนิด
ผมจำได้ว่าสมัยที่ผมเรียนปี 1 อยู่ธรรมศาสตร์เมื่อปี 2519 ก็ได้ข่าวว่านายแบงค์ เจ้าของกิจการใหญ่โตก็ทำวีซาเตรียมตัวหนีไปต่างประเทศเช่นกัน โชคดีที่ประเทศไทยไม่ได้ประสบชะตากรรมเลวร้ายเช่นประเทศอื่นในคาบสมุทรอินโดจีนนี้
ถ้าวันหน้าประเทศไทยเกิดสงครามกลางเมือง ผมว่าพวกกฎุมพีไทยก็คงเริ่มผ่องถ่ายขายทรัพย์สินเพื่อเตรียมตัวไปตั้งหลักแห่งอยู่เมืองนอกกันตั้งแต่เริ่มมีเค้าลางร้ายแล้ว จนเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ ประชาชนก็จะมาร่วมกันสร้างชาติขึ้นมาใหม่บนซากปรักหักพังของประเทศ
แม้ชาติจะยืนขึ้นมาใหม่ได้อย่างแน่นอน แต่ก็เสียเวลาไปอย่างน่าเสียดาย ทุกวันนี้กว่าประเทศลาว เขมร เวียดนาม พม่า จะมีระดับรายได้ประชาชาติต่อหัวเท่ากับไทย ก็คงยังกินเวลาอีกหลายปี โดยเฉพาะพม่า ที่บ้านเมืองยุ่งเหยิงก็เพราะพวกผู้ปกครองโดยแท้ ส่วนเวียดนามคงจะมีโอกาส หายใจรดต้นคอ ไทยในไม่ช้าเพราะความเข้มแข็งทางการเมือง ความกลมเกลียวของคนในชาติ และคุณสมบัติที่ขยัน อดทนของประชาชนนั่นเอง
ในท้ายที่สุดนี้ ผมสังหรณ์ว่าคำทำนายเขมรอาจเป็นจริง เพราะสมัยก่อนเราขัดแย้งเรื่องลัทธิการเมือง ก็ยังไม่เกิดความแตกแยกในสังคมมากเช่นทุกวันนี้ที่มีการตอกลิ่ม ใส่ร้ายป้ายสีกันมาตั้งแต่ปี 2547 จนทำให้ประชาชที่เชื่อต่างกันรู้สึกจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้วอีกต่อไปแล้ว การแตกแยกเช่นนี้เมื่อทำให้ไทยล้าหลังลง วันหนึ่งแผ่นดินไทยก็อาจถูกแบ่งแยก เหมือนภาคใต้ที่หากวันนี้มาเลเซียยังด้อยกว่าไทยเช่นพม่าคู่อาฆาตในประวัติศาสตร์ ก็คงไม่มีปัญหา 3 จังหวัดชายแดน แต่อาจมีปัญหาการทะลักของแรงงานราคาถูกเช่นกรณีพม่าก็ได้
อย่าให้ไทยต้องเข้าสู่กลียุคเพราะสงครามกลางเมืองเลย พวกชนชั้นนำอย่ามัวเข่นฆ่าทำลายกันจนลืมคิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติเลยครับ พวกคุณล้วนไม่ใช่เจ้าของประเทศหรือผู้สร้างชาติตัวจริง
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
บทเรียนการสิ้นชาติเขมรสำหรับประเทศไทย
โพสต์ที่ 2
ความเข้าใจ
ความเห็นใจ
ความใส่ใจ
ระหว่างคนในชาติ จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นครับ
แต่ถ้า ขาดความเข้าใจ ขาดความเห็นใจ ขาดความใส่ใจ ระหว่างคนในชาติ ก็เดือดร้อนครับ
ถ้าคนที่สถานะดีกว่า หันหลังมามองคนใกล้ๆ ที่ไม่มี แล้วยื่นมือ เอื้อมอืม ให้เขาหน่อย ทั้งทางด้านรายได้ ( ผ่านระบบภาษี ) ทั้งทางด้านสังคม ผ่านเครือข่ายทางสังคม
ถ้าปริมาณคนที่ทำแบบนี้ มีมาก ทุกอย่างจะง่ายครับ
ประเทศไทยมีความแตกต่างทางด้านรายได้ และความยุติธรรม มากเกินไปครับ
มีใครไม่รู้บ้างว่า มีเงินทำอะไรไม่ผิด ในประเทศนี้ ......
ปี 252X เกิดกรณี ขายเกรด ใน มหาวิทยาลัยของรัฐ ใน กทม 4000 ได้ A
ผม เป็นคนนึงที่ลงชื่อกล่าวโทษ..... ต่อทบวง......
จบครับ ทำอะไรไมได้
เพื่อนผมเองแหล่ะครับ ที่มันไปจ่าย เลยรู้กัน เพราะว่ามันทำไม่ได้ C ก็ดีแล้ว แต่มันดันได้ A ความเลยแตก
เรื่องนี้ประสพการณ์โดยตรงครับ ไม่ใช่ปากต่อปาก
ผ่านมาใกล้ครบ 30 ปี แล้วคงพูดได้มังครับ
16 19 35 49 กลุ่มที่ออกมาประท้วงบนถนน เปลี่ยนไปในแต่ละยุค
บ้านเรายังล้าหลังอยู่เลยครับ ในเรื่องของสิทธิของประชาชน ไปดูบ้านนอกสิครับ
ไปดูการเอา จนท ที่ไม่ดีออกจากราชการ เป็นเรื่องที่ยากมากๆ ยากจริงๆ
ผมส่ายหัวจริงๆ เมื่อรถคนใกล้ตัว โดนจับด้วยข้อหา .....รถสกปรก
สู้ได้ เถียงได้ แต่ จนท ยื้อเหลือเกิน
จนเจ้าของรถ..... จ่ายก็จ่ายว่ะ ไม่รู้จะทำยังไง ยื้อต่อไปก็ไม่คุ้ม
จนท บางคนไม่ได้จับบนพื้นฐานกติกา ของความผิดความถูก
แต่จับบนพื้นฐานของกำลังความแข็งแรง ความอ่อนแอ กำลังที่จะต่อสู้ ไม่มี
หลายเรื่องครับ
การปกครองที่ไม่ได้ให้ทางออกที่ดีแก่ประชาชน ในแง่ของการปฏิบัติก็แบบนี้แหล่ะครับ
หลายคนไปชุมนุม ไม่ได้ตังครับ
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่นอนครับ ตราบใดที่ ประชากรส่วนใหญ่ ยังอยู่ในสภาพอย่างนี้
แต่ว่าพัฒนาการ ก็น่าจะดีขึ้น เพราะว่าประชาชนหลายส่วนรู้ถึงสิทธิของตัวเองมากขึ้นในการดำรงอยู่เป็นส่วยหนึ่งของประเทศ
หวังว่าประเทศของเราจะพัฒนาได้ดีขึ้นในทุกๆด้าน เมื่อประชาชนกำลังเรียนรู้สิทธิของตัวเองและสิทธิของผู้อื่น ไปพร้อมๆกัน กำลังเรียนรู้ในชั้นเรียนของจริงกันอยู่ครับ รวมทั้งผลประโยชน์ที่ทับซ้อน แฝงมาด้วย
จากปี 16 จนถึง....ปีนี้ จนถึง.... ตายไป ในบ้านเราสิทธิของประชาชน จะมีมากขึ้นแค่ไหนหว่า.....
ความเห็นใจ
ความใส่ใจ
ระหว่างคนในชาติ จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นครับ
แต่ถ้า ขาดความเข้าใจ ขาดความเห็นใจ ขาดความใส่ใจ ระหว่างคนในชาติ ก็เดือดร้อนครับ
ถ้าคนที่สถานะดีกว่า หันหลังมามองคนใกล้ๆ ที่ไม่มี แล้วยื่นมือ เอื้อมอืม ให้เขาหน่อย ทั้งทางด้านรายได้ ( ผ่านระบบภาษี ) ทั้งทางด้านสังคม ผ่านเครือข่ายทางสังคม
ถ้าปริมาณคนที่ทำแบบนี้ มีมาก ทุกอย่างจะง่ายครับ
ประเทศไทยมีความแตกต่างทางด้านรายได้ และความยุติธรรม มากเกินไปครับ
มีใครไม่รู้บ้างว่า มีเงินทำอะไรไม่ผิด ในประเทศนี้ ......
ปี 252X เกิดกรณี ขายเกรด ใน มหาวิทยาลัยของรัฐ ใน กทม 4000 ได้ A
ผม เป็นคนนึงที่ลงชื่อกล่าวโทษ..... ต่อทบวง......
จบครับ ทำอะไรไมได้
เพื่อนผมเองแหล่ะครับ ที่มันไปจ่าย เลยรู้กัน เพราะว่ามันทำไม่ได้ C ก็ดีแล้ว แต่มันดันได้ A ความเลยแตก
เรื่องนี้ประสพการณ์โดยตรงครับ ไม่ใช่ปากต่อปาก
ผ่านมาใกล้ครบ 30 ปี แล้วคงพูดได้มังครับ
16 19 35 49 กลุ่มที่ออกมาประท้วงบนถนน เปลี่ยนไปในแต่ละยุค
บ้านเรายังล้าหลังอยู่เลยครับ ในเรื่องของสิทธิของประชาชน ไปดูบ้านนอกสิครับ
ไปดูการเอา จนท ที่ไม่ดีออกจากราชการ เป็นเรื่องที่ยากมากๆ ยากจริงๆ
ผมส่ายหัวจริงๆ เมื่อรถคนใกล้ตัว โดนจับด้วยข้อหา .....รถสกปรก
สู้ได้ เถียงได้ แต่ จนท ยื้อเหลือเกิน
จนเจ้าของรถ..... จ่ายก็จ่ายว่ะ ไม่รู้จะทำยังไง ยื้อต่อไปก็ไม่คุ้ม
จนท บางคนไม่ได้จับบนพื้นฐานกติกา ของความผิดความถูก
แต่จับบนพื้นฐานของกำลังความแข็งแรง ความอ่อนแอ กำลังที่จะต่อสู้ ไม่มี
หลายเรื่องครับ
การปกครองที่ไม่ได้ให้ทางออกที่ดีแก่ประชาชน ในแง่ของการปฏิบัติก็แบบนี้แหล่ะครับ
หลายคนไปชุมนุม ไม่ได้ตังครับ
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่นอนครับ ตราบใดที่ ประชากรส่วนใหญ่ ยังอยู่ในสภาพอย่างนี้
แต่ว่าพัฒนาการ ก็น่าจะดีขึ้น เพราะว่าประชาชนหลายส่วนรู้ถึงสิทธิของตัวเองมากขึ้นในการดำรงอยู่เป็นส่วยหนึ่งของประเทศ
หวังว่าประเทศของเราจะพัฒนาได้ดีขึ้นในทุกๆด้าน เมื่อประชาชนกำลังเรียนรู้สิทธิของตัวเองและสิทธิของผู้อื่น ไปพร้อมๆกัน กำลังเรียนรู้ในชั้นเรียนของจริงกันอยู่ครับ รวมทั้งผลประโยชน์ที่ทับซ้อน แฝงมาด้วย
จากปี 16 จนถึง....ปีนี้ จนถึง.... ตายไป ในบ้านเราสิทธิของประชาชน จะมีมากขึ้นแค่ไหนหว่า.....
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
บทเรียนการสิ้นชาติเขมรสำหรับประเทศไทย
โพสต์ที่ 3
เรื่องเอาทองมาแลกข้าว นี่ของจริงครับ ปี 18-19
ที่ชายฝั่งด้านตะวันออกของภาคใต้
refugee น่าสงสารครับ
เอาทองมา เอาข้าวไป แล้วลากออกไป
ชาวเวียดนามหลายคนที่รอดแล้วไปอยู่ usa มีความทรงจำที่ไม่ดีเกี่ยวกับคนบ้านเรามากมายครับ
ที่ชายฝั่งด้านตะวันออกของภาคใต้
refugee น่าสงสารครับ
เอาทองมา เอาข้าวไป แล้วลากออกไป
ชาวเวียดนามหลายคนที่รอดแล้วไปอยู่ usa มีความทรงจำที่ไม่ดีเกี่ยวกับคนบ้านเรามากมายครับ
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
บทเรียนการสิ้นชาติเขมรสำหรับประเทศไทย
โพสต์ที่ 4
เกิดมาก็แค่ตัวเปล่า ตายไปก็ตัวเปล่าๆ
อยู่ให้เป็นสุขดีกว่าครับ
พี่ป้อมเคยสอนแนะนำ เล่าให้ฟังผ่านเวบว่า .......ศีลย่อมรักษาผู้รักษาศีล........
คิดแบบนี้ได้ ก็มีความสุขแล้วครับ ต่อให้หุ้นตกครับ
555
หัวเราะแบบนี้ ทีไร มีความสุขทุกที
วันนี้เสียงหัวเราะ 555 ทำให้ผมคิดถึงบุหรี่ ยี่ห้อนึง นะครับ ยี่ห้อ 555 ครับ
ไปซื้อให้พ่อครับ พ่อผมแกคนจนครับ แกสูบเกร็ดทอง แต่ถ้าแกได้สูบ 555 เมื่อไร แกอารมณ์ดีเสมอ
สงสัยแกคงคิดว่าสูบ 555 แล้วแกคงจะเปลี่ยนจากจนเป็นรวยมังครับ
แกรวยอารมณ์ขันครับ 555
อยู่ให้เป็นสุขดีกว่าครับ
พี่ป้อมเคยสอนแนะนำ เล่าให้ฟังผ่านเวบว่า .......ศีลย่อมรักษาผู้รักษาศีล........
คิดแบบนี้ได้ ก็มีความสุขแล้วครับ ต่อให้หุ้นตกครับ
555
หัวเราะแบบนี้ ทีไร มีความสุขทุกที
วันนี้เสียงหัวเราะ 555 ทำให้ผมคิดถึงบุหรี่ ยี่ห้อนึง นะครับ ยี่ห้อ 555 ครับ
ไปซื้อให้พ่อครับ พ่อผมแกคนจนครับ แกสูบเกร็ดทอง แต่ถ้าแกได้สูบ 555 เมื่อไร แกอารมณ์ดีเสมอ
สงสัยแกคงคิดว่าสูบ 555 แล้วแกคงจะเปลี่ยนจากจนเป็นรวยมังครับ
แกรวยอารมณ์ขันครับ 555
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
บทเรียนการสิ้นชาติเขมรสำหรับประเทศไทย
โพสต์ที่ 6
[quote="por_jai"][
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
บทเรียนการสิ้นชาติเขมรสำหรับประเทศไทย
โพสต์ที่ 7
มันเป็นกฏไตรลักษณ์อยู่แล้วนี่ครับ ....
แล้วแต่ก่อน ชาติไทย มาจากไหน เขมรมาจากไหน...
คงจะเป็นพัฒนาการของโลกปกติแหละ
แล้วแต่ก่อน ชาติไทย มาจากไหน เขมรมาจากไหน...
คงจะเป็นพัฒนาการของโลกปกติแหละ
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี