บล.เอเซียพลัสระบุ 36หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ปันผลงวดปี"52 ให้อัตราผลตอบแทนเกินระดับ 5% พบส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
นักวิเคราะห์บล.เอ เซียพลัส กล่าวว่าในช่วง ม.ค.-ก.พ. 2553 เป็นช่วงประกาศจ่ายเงินปันผล ทำให้หุ้นปันผลจะกลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุน ทั้งนี้จากการศึกษาหุ้นปันผลที่ฝ่ายวิจัยศึกษาพบว่าหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง เกิน 5% และมีคำแนะนำซื้อ 36 บริษัท โดยฝ่ายวิจัยคัดเลือก 20 อันดับแรกที่น่าสนใจได้แก่ บริษัทปริญสิริ(PRIN)คาดให้ผลตอบแทน 9.5% บริษัท ค้าเหล็กไทย(TMT)8.8% บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC)7.1%
บริษัท เอ็ม.ซี.เอส.สตีล(MCS)6.9%บริษัทบางจาก (BCP)6.8% บริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม (CPI)6.6%บริษัท โรงพยาบาลนนทเวช (NTV)บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO)6.2% บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS)5.9%บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA)5.8% บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE)5.8%บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW)5.4%
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF)4.3% บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD)4.1%บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร เซอร์วิส(ADVANC)4% บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ (THRE)3.8% บริษัท ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF)3.8% บริษัท น้ำมันพืชไทย (TVO)3.4% บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN)3.4% และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง(RATCH)3.1%
นักวิเคราะห์บล.คันทรี กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทได้ให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มที่อยู่อาศัยเท่ากับตลาด เนื่องจากผลประกอบการ 9 เดือนทีผ่านมา มีอัตราการเติบโของกำไรสุทธิเกินเป้าหมาย และภาพรวมธุรกิจปี 52 นั้นประเมินว่าจะมีการรับรู้รายได้จากการขายอยู่ที่ 1.1 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ามากถึง 23%
ทั้งนี้ มาจากองค์ประกอบที่สำคัญได้แก่ ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับต่ำกว่า 1% ขณะที่ดอกเบี้ยเงินกู้ไม่สูงมากนัก เป็นแรงจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาซื้อที่อยู่อาศัยแทนการฝากเงิน ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศไม่ทรุดตัวตามภาวะ Subprime มากนัก โดยภาคอสังหายังคงเติบโตแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับภาคการผลิตการส่งออกที่ ผันผวนตามภาวะในต่างประเทศ ทั้งนี้เนื่องจากภาคอสังหาฯ ของไทยเกิดจากการบริโภคภายใน และพฤติกรรมผู้บริโภคยังคงยึดติดกับการมีบ้าน จึงทำให้อุตสาหกรรมอสังหาฯ สามารถเติบโตไปได้ด้วยตัวของมันเอง
ส่วนมาตรการลดหย่อนภาษีทั้ง 3 ส่วนไปถึงเดือนมีนาคม 53 ได้แก่ ภาษีการโอน ภาษีการจดจำนอง และภาษีธุรกิจเฉพาะ ลดลงเหลือประเภทละ 0.01% ทำให้ผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายน้อยลง ผู้ผลิตประหยัดภาษีลงกว่า 4% ทำให้เป็นตัวเร่งทั้งด้านการบริโภค และการผลิตอย่างได้ผล จากปัจจัยหลักๆ ทั้ง 3 ทำให้ยอดขายในปี 52 เติบโตขึ้น 20.5% (ประเมินจาก 12 บริษัท) ขณะที่กำไรสุทธิขยายตัว 24.8% แต่ในปี 53กลับประเมินแนวโน้มของยอดขายที่
ชะลอ ตัวอันเนื่องมาจากการสิ้นสุดมาตรการภาษีทำให้การเร่งโอนลดลง และต้นทุนดำเนินงานที่สูงขึ้นเมื่อกลับมาใช้ภาษีในอัตราเดิมจะทำให้กำไร สุทธิเติบโตแบบชะลอตัวต่ำกว่า 2%
ดังนั้นการเลือกลงทุนหุ้นในปี 53 จึงต้องระมัดระวัง โดยกำหนดกลยุทธ์ในการเลือกหุ้นไว้โดยเลือกหุ้นที่มี PE ต่ำ เนื่องจากราคาหุ้นยังไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน แต่ผลประกอบการเติบโตดี หุ้นที่มีปันผลเด่นทั้งในรอบครึ่งปีหลัง และผลประกอบการทั้งปี 53โดยเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง
Tags : 36 หุ้นปันผลต้นปีเกิน 5%
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :lol:
36 หุ้นปันผลต้นปีเกิน 5% อสังหาฯแชมป์
-
- Verified User
- โพสต์: 769
- ผู้ติดตาม: 0
36 หุ้นปันผลต้นปีเกิน 5% อสังหาฯแชมป์
โพสต์ที่ 2
ระวัง tmt เพราะ กำไรไม่เหมือนปีที่แล้วครับ ก่อนซื้อดุงบด้วยนะครับเพราะ สภาพแวดล้อมมันเปลี่ยน เร็ว ASP ก็เชียร์ tmt อยู่ตลอดเลยครับ
ปีที่แล้ว 9 เดือน 1.56 ปีนี้ .48 บาทต่อหุ้น แล้วจะจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 1 บาทเหมือนปีที่แล้วได้ไม ยากจริงๆ หรือจะจ่าย .40 ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ
ปีที่แล้ว 9 เดือน 1.56 ปีนี้ .48 บาทต่อหุ้น แล้วจะจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 1 บาทเหมือนปีที่แล้วได้ไม ยากจริงๆ หรือจะจ่าย .40 ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ