ศึกษาการลงทุนมาพักหนึ่งแล้วครับ
เริ่มซื้อขายได้สักสองสามปีแล้ว
แรก ๆ ก็งู ๆ ...ตอนนี้ก็เริ่มปลา ๆแล้ว
อีกสักสี่ห้าปีคงจะเริ่มใช้ได้
ปีที่แล้วศึกษาหุ้นเอาไว้ตัวหนึ่ง
ดูจากผลประกอบการแล้วน่าสนใจจริง ๆ
ราคาตกลงมาจากปีก่อนที่เคยอยู่แถวสามสิบบาท
ซื้อเก็บเอาไว้ราคา .....หุ้นละยี่สิบบาท ..
ต่อมานักวิเคราะห์ไม่เชียร์ แถมยังออกรายงานให้ขายอีก
อ้างตัวเลขเต็มไปหมด... โบรกไหนก็โบรกนั้น
จิตใจก็เริ่มหวั่นไหว... เอ.. เราคิดผิดหรือเปล่า?
กลับไปดูข้อมูลใหม่.. มั่นใจว่าไม่ผิด... แต่หุ้นยังร่วงลงไปอีก
รู้สึกใจเสีย ตกลงนี่เราโง่หรือเปล่าเนี่ย
ราคาหุ้นหล่นลงไปเหลือสิบแปด... ยังกัดฟันสู้
สิบห้าบาท... อะไรกันเนี่ย
หลังจากนั้นสองเดือนตลาดเริ่มมีทิศทางที่ดี
ราคาค่อย ๆ ขยับตัวขึ้น อยู่ที่สิบแปดถึงสิบเก้าบาท
คาอยู่ตรงนี้อีกเป็นเดือน... ยังขาดทุนอยู่หลายตังค์นะเนี่ย
พอตลาดเริ่มคลี่คลาย ราคาขึ้นมาอยู่ที่ยี่สิบสามบาท
บทวิเคราะห์ทั้งหลายบอกเป้าหมายที่ยี่สิบหกก็สูงแล้ว
พอถึงยี่สิบหกบาท ก็มีนักวิเคราะห์พูดถึงอีกว่าเต็มมูลค่าแล้ว
นักลงทุนก็ขายกันจนน่ากลัว
ด้วยความที่ไม่มั่นใจในแนวคิดว่าเราคิดแบบ "Value" ถูกหรือยัง
ผมเลยตัดสินใจทยอยขายที่ยี่สิบสี่-ยี่สิบห้าบาท
ราคาหล่นลงไปอยู่ที่ยี่สิบสองบาท
หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์... มันวิ่งขึ้นไปที่สามสิบบาท
นักวิเคราะห์คนที่เคยออกรีพอร์ทอ้างตัวเลขมากมายเพื่อให้ขาย...
เปลี่ยนเป้าหมายเป็นสามสิบเจ็ดบาท...
หลังจากนั้นเดือนเดียว วิ่งขึ้นไปที่ห้าสิบบาท
ก่อนสิ้นปีไม่นาน ... ปรับเป้าหมายอีกแล้ว เป็นเจ็ดสิบกว่าบาท
ยังไม่ทันไรปีใหม่ราคาหุ้นอยู่ที่หลักร้อย...
......
ได้แต่มองตาค้าง น้ำตาร่วง
เจ็บใจตัวเองจริง ๆ ที่หวั่นไหวไปกับอารมณ์
เจ็บใจที่ไม่เชื่อตัวเอง
เจ็บใจและสับสนจริง ๆ ครับ
......
ขออภัยจริง ๆ ที่กระทู้ยาวเกินไป
แค่บทเรียนแรกก็รู้สึกหวั่นไหว
-
- ผู้ติดตาม: 0
แค่บทเรียนแรกก็รู้สึกหวั่นไหว
โพสต์ที่ 3
ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเราเจอแล้ว นั่นคือตัวเราเอง
มีใครพูดไว้ไม่รู้
มีใครพูดไว้ไม่รู้