สรุปสภาวะตลาดปี 2551 (ข่าวตัวจริงยังไม่ออกจาก www.set.or.th)

[miracle]

http://www.posttoday.com/stockmarket.php?id=25578
หุ้นไทยปี51เจ๊ง3ล้านล.

หุ้นปีหนูเสียหายหนักดัชนีร่วง 47% มาร์เก็ตแคปวูบ 3.04 ล้านล้าน ต่างชาติเทกระจาด 1.61 แสนล้านบาท ด้านบจ. ทุ่มเงิน 1.51 หมื่นล้านบาท พยุงราคาหุ้น

ปิดฉากตลาดหุ้นไทยปี 2551 หรือปีหนูไฟ ดัชนีปิดที่ระดับ 449.96 จุด ซึ่งดิ่งลงแรงถึง 408.04 จุด หรือติดลบ 47.55% เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปี 2540 ดัชนีปิดที่ 858 จุด กดให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) หายไป 3.04 ล้านล้านบาท โดยมาร์เก็ตแคปสิ้นปีนี้อยู่ที่ 3.56 ล้านล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 6.63 ล้านล้านบาท

สาเหตุหลักที่ทำให้ดัชนีลดลงหนักเพราะวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ของสหรัฐ ฉุดตลาดหุ้นทั้งโลกติดลบถ้วนหน้า เพราะต่างชาติขายหุ้นทั่วโลกนำเงินกลับไปแก้ไขปัญหา ซึ่งในส่วนของหุ้นไทยนั้นต่างชาติขายสุทธิ 1.62 แสนล้านบาท พลิกจากปีก่อนซึ่งซื้อสุทธิอยู่ 5.50 หมื่นล้านบาท ขณะที่สถาบันในประเทศกลายเป็นผู้ซื้อสุทธิ 4.47 หมื่นล้านบาท

ส่วนราคาหุ้นที่ลดลงอย่างหนักทำให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) รวม 36 แห่ง ได้ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนจากตลาดหลักทรัพย์คิดเป็นเม็ดเงินรวม 1.51 หมื่นล้านบาท เพื่อพยุงราคาหุ้นและบริหารเงินสด

ขณะที่มีหลักทรัพย์ทุกประเภทเข้าจดทะเบียนในตลาดรวมทั้งสิ้น 16 รายการ ซึ่งรวมทั้งบริษัทเข้าใหม่ ทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดเอ็ม เอ ไอ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอที่ 7.91 หมื่นล้านบาท และ ณ สิ้นปีลดลงมาเหลือ 5.31 หมื่นล้านบาท


น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นปี 2551 ติดลบทุกตลาด เพราะวิกฤตซับไพรม์ที่ ลุกลามไปทั้งโลก และยังจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงปีหน้า โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีแรก 2552 ดัชนีจะยังผันผวนและยังอยู่ในช่วงขาลง ซึ่งได้ประเมินกรอบดัชนีปีหน้าไว้ที่ 300-550 จุด

น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไซรัส กล่าวว่า เปิดตลาดช่วงเปิดต้นเดือนม.ค. หุ้นน่า จะขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง เพราะขานรับนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลและทั่วโลกมีปัจจัยบวกจากประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่นำเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบฉุกเฉินเร่งด่วนเพิ่มเติม