จับตาประกันภัยรถยนต์
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
จับตาประกันภัยรถยนต์
โพสต์ที่ 1
ปีหน้า วันที่ 1/01/2552 มีการเปลี่ยนแปลง พรบ ผู้ประสบภัยจากรถยนต์ ฉบับ ปี 2535 แก้ไข ฉบับที่ 5
เปลี่ยนแปลงเรื่องการเรียกเก็บเบี้ยและการคุ้มครอง
การเรียกเก็บเบี้ยเมื่อก่อน คุ้มครองให้ก่อนแล้วค่อยตามเก็บเบี้ย
ทำให้มีบ้างครั้งคนที่เป็นเจ้าของรถยังไม่ได้จ่ายเบี้ย แต่มีเหตุการณ์ขึ้น
ทำให้บริษัทประกันภัยกับเจ้าของรถมีปัญหา
รอบนี้ เปลี่ยนแปลงเป็น ต้องจ่ายก่อนแล้วคุ้มครอง
แต่คนที่จ่ายไปแล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าไม่คุ้มครองน่าครับ มันยังคุ้มครองอยู่
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอีกอย่างคือ เมื่อก่อนมีพรบ แล้วก็มี ประกันภัยชั้นสามหรือชั้นสองหรือชั้นหนึ่ง หรือชั้นสามพลัส ควบคูด้วย
แต่เมื่อฉบับแก้ไขออกบังคับแล้ว จุดนี้เปลี่ยนแปลงว่า มีประกันภัยที่ครอบคลุมแล้วไม่ต้องทำพรบอีกต่อไป
จุดเปลี่ยนแปลงนี้เป็นจุดสำคัญน่าครับ
เพราะ ว่าบริษัทประกันภัยไหนทำตัวน่าเชื่อถือ สามารถเข้าหาผู้ซื้อประกันภัยได้ง่าย เป็นผู้ได้เปรียบ
บริษัทประกันภัยก็โปร่งแสงขึ้น เพราะว่า ไม่ต้องทำเบี้ยรอเบี้ยค้างชำระ
มีเงินสดไหลเข้ามาบริษัท เห็นกันง่ายกว่าแต่ก่อนครับ
เป็นหุ้นหมวดที่ไม่ค่อยมีใครสนใจแต่ผมสนใจน่าครับ
จุดเปลี่ยนอันนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงแวดวงประกันภัยในเมืองไทยครั้งหนึ่งน่าครับ
เปลี่ยนแปลงเรื่องการเรียกเก็บเบี้ยและการคุ้มครอง
การเรียกเก็บเบี้ยเมื่อก่อน คุ้มครองให้ก่อนแล้วค่อยตามเก็บเบี้ย
ทำให้มีบ้างครั้งคนที่เป็นเจ้าของรถยังไม่ได้จ่ายเบี้ย แต่มีเหตุการณ์ขึ้น
ทำให้บริษัทประกันภัยกับเจ้าของรถมีปัญหา
รอบนี้ เปลี่ยนแปลงเป็น ต้องจ่ายก่อนแล้วคุ้มครอง
แต่คนที่จ่ายไปแล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าไม่คุ้มครองน่าครับ มันยังคุ้มครองอยู่
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอีกอย่างคือ เมื่อก่อนมีพรบ แล้วก็มี ประกันภัยชั้นสามหรือชั้นสองหรือชั้นหนึ่ง หรือชั้นสามพลัส ควบคูด้วย
แต่เมื่อฉบับแก้ไขออกบังคับแล้ว จุดนี้เปลี่ยนแปลงว่า มีประกันภัยที่ครอบคลุมแล้วไม่ต้องทำพรบอีกต่อไป
จุดเปลี่ยนแปลงนี้เป็นจุดสำคัญน่าครับ
เพราะ ว่าบริษัทประกันภัยไหนทำตัวน่าเชื่อถือ สามารถเข้าหาผู้ซื้อประกันภัยได้ง่าย เป็นผู้ได้เปรียบ
บริษัทประกันภัยก็โปร่งแสงขึ้น เพราะว่า ไม่ต้องทำเบี้ยรอเบี้ยค้างชำระ
มีเงินสดไหลเข้ามาบริษัท เห็นกันง่ายกว่าแต่ก่อนครับ
เป็นหุ้นหมวดที่ไม่ค่อยมีใครสนใจแต่ผมสนใจน่าครับ
จุดเปลี่ยนอันนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงแวดวงประกันภัยในเมืองไทยครั้งหนึ่งน่าครับ

-
- Verified User
- โพสต์: 1088
- ผู้ติดตาม: 0
จับตาประกันภัยรถยนต์
โพสต์ที่ 2
คุณ miracle ครับ
ช่วยอธิบายให้เด็กใหม่หน่อยได้ไหมครับว่าธุรกิจประกันนี่มีกลไกอย่างไร
พอดีผมเพิ่งรับพอร์ทของญาติมาแล้วในพอร์ทมีหุ้น TK อยู่ซึ่่งราคาตกไปเยอะมากเมื่อนานมาแล้ว ผมก็พยายามหาข้อมูลและทำการเข้าใจกับธุรกิจนี้แต่ค่อนข้างยากมากเพราะข้อมูลหุ้นบ้านเราไม่ค่อยจะหาง่ายเหมือนของอเมริกา
รบกวนช่วยแนะแนวด้วยครับ
ขอบคุณครับ
(มีเวปที่ดูกราฟราคาหุ้นย้อนหลังไกลๆได้ไหมครับ ผมอยากจะทราบว่าช่วงปัญหาของบริษัทนี้มันอยู่ปีไหนก็หาไม่ได้เลยครับ)
ช่วยอธิบายให้เด็กใหม่หน่อยได้ไหมครับว่าธุรกิจประกันนี่มีกลไกอย่างไร
พอดีผมเพิ่งรับพอร์ทของญาติมาแล้วในพอร์ทมีหุ้น TK อยู่ซึ่่งราคาตกไปเยอะมากเมื่อนานมาแล้ว ผมก็พยายามหาข้อมูลและทำการเข้าใจกับธุรกิจนี้แต่ค่อนข้างยากมากเพราะข้อมูลหุ้นบ้านเราไม่ค่อยจะหาง่ายเหมือนของอเมริกา
รบกวนช่วยแนะแนวด้วยครับ
ขอบคุณครับ
(มีเวปที่ดูกราฟราคาหุ้นย้อนหลังไกลๆได้ไหมครับ ผมอยากจะทราบว่าช่วงปัญหาของบริษัทนี้มันอยู่ปีไหนก็หาไม่ได้เลยครับ)
- eskimo
- Verified User
- โพสต์: 111
- ผู้ติดตาม: 0
จับตาประกันภัยรถยนต์
โพสต์ที่ 3
เห็นว่าตรงกับงานที่ทำ ขออนุญาติออกความเห็นนะครับ
ธุรกิจประกันภัย ลักษณะธุรกิจก็อย่างที่เรียกครับ คือรับประกันความเสี่ยง หรือความเสียหาย ส่วนจะรับประกันอะไรก็มีร้อยแปดอย่างครับ ที่เห็นบ่อยๆในประเทศไทยคงเป็น ประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัย อุบัติภัย รับประกันความเสียหายของสินค้าระหว่างขนส่ง ประกันชีวิต และอื่นๆ
รายได้ของธุรกิจ จริงๆแล้วมาจากสองทางครับ ทางแรกคือ เบี้ยประกันที่รับจากลูกค้า เบี้ยจะสูงต่ำยังไง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างครับ เช่นรถยนต์ ก็ขึ้นกับประเภทรถยนต์ กำลังเครื่อง ลักษณะการใช้งาน เพศของคนขับ อายุ ลักษณะการใช้งาน ซึ่งการรับประกันโดยดูเงื่อนไขต่างๆเหล่านี้ประกอบ มีึคำเรียกรวมๆว่า underwriting
รายได้ อีกทางนึงของธุรกิจประกันภัย ก็มาจากการนำเบี้ยไปลงทุนต่อครับ อาจจะเป็นพันธบัตร หุ้นกู้ หุ้น
ดังนั้น กำไรของธุรกิจประกันภัย จะมาจาก สูตร
กำไร = เบี้ยประกันรับ + รายได้จากการลงทุน - เคลม - ค่าใช้จ่ายในการรับประกัน
เคลม ก็คือ ในกรณีที่เกิดความเสียหายกับสิ่งที่รับประกัน ทางฝ่ายรับประกัน ก็ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ ซึ่งเงินตรงนี้อาจจะน้อยกว่า เบี้ยประกัน (บริษัทกำไร) หรือมากกว่าเบี้ยประกันก็ได้ (บริษัทขาดทุน)
ค่าใช้จ่ายในการรับประกัน ก็เช่น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ ค่าจ้างพนักงาน ค่า คอมมิชชั่น
ฉะนั้น บริษัทประกัน จะกำไรมากน้อย หรือ ขาดทุนก็ขึ้นอยู่กับว่า จะทำให้รายรับเบี้ยประกัน บวกกับรายได้จากการลงทุนมากกว่า ค่าเคลม และค่าใช้จ่าย ได้เท่าไหร่
การคำนวนหารเบี้ยประกันที่เหมาะสม เป็นหัวใจหลักของธุรกิจประกันภัย ตรงนี้มีทั้งทฤษฏี และสูตรคำนวนมากมายในการหาเบี้ยประกัน ที่เหมาะสมกับความเสี่ยง เสี่ยงน้อยเบี้ยถูก เสี่ยงมากเบี้ยแพง เสี่ยงสุดๆ ไม่รับประกันก็มี
ข้อมูลลึกๆให้พี่ๆมาเล่าต่อละกันครับ
ธุรกิจประกันภัย ลักษณะธุรกิจก็อย่างที่เรียกครับ คือรับประกันความเสี่ยง หรือความเสียหาย ส่วนจะรับประกันอะไรก็มีร้อยแปดอย่างครับ ที่เห็นบ่อยๆในประเทศไทยคงเป็น ประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัย อุบัติภัย รับประกันความเสียหายของสินค้าระหว่างขนส่ง ประกันชีวิต และอื่นๆ
รายได้ของธุรกิจ จริงๆแล้วมาจากสองทางครับ ทางแรกคือ เบี้ยประกันที่รับจากลูกค้า เบี้ยจะสูงต่ำยังไง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างครับ เช่นรถยนต์ ก็ขึ้นกับประเภทรถยนต์ กำลังเครื่อง ลักษณะการใช้งาน เพศของคนขับ อายุ ลักษณะการใช้งาน ซึ่งการรับประกันโดยดูเงื่อนไขต่างๆเหล่านี้ประกอบ มีึคำเรียกรวมๆว่า underwriting
รายได้ อีกทางนึงของธุรกิจประกันภัย ก็มาจากการนำเบี้ยไปลงทุนต่อครับ อาจจะเป็นพันธบัตร หุ้นกู้ หุ้น
ดังนั้น กำไรของธุรกิจประกันภัย จะมาจาก สูตร
กำไร = เบี้ยประกันรับ + รายได้จากการลงทุน - เคลม - ค่าใช้จ่ายในการรับประกัน
เคลม ก็คือ ในกรณีที่เกิดความเสียหายกับสิ่งที่รับประกัน ทางฝ่ายรับประกัน ก็ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ ซึ่งเงินตรงนี้อาจจะน้อยกว่า เบี้ยประกัน (บริษัทกำไร) หรือมากกว่าเบี้ยประกันก็ได้ (บริษัทขาดทุน)
ค่าใช้จ่ายในการรับประกัน ก็เช่น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ ค่าจ้างพนักงาน ค่า คอมมิชชั่น
ฉะนั้น บริษัทประกัน จะกำไรมากน้อย หรือ ขาดทุนก็ขึ้นอยู่กับว่า จะทำให้รายรับเบี้ยประกัน บวกกับรายได้จากการลงทุนมากกว่า ค่าเคลม และค่าใช้จ่าย ได้เท่าไหร่
การคำนวนหารเบี้ยประกันที่เหมาะสม เป็นหัวใจหลักของธุรกิจประกันภัย ตรงนี้มีทั้งทฤษฏี และสูตรคำนวนมากมายในการหาเบี้ยประกัน ที่เหมาะสมกับความเสี่ยง เสี่ยงน้อยเบี้ยถูก เสี่ยงมากเบี้ยแพง เสี่ยงสุดๆ ไม่รับประกันก็มี
ข้อมูลลึกๆให้พี่ๆมาเล่าต่อละกันครับ
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
จับตาประกันภัยรถยนต์
โพสต์ที่ 11
ในกรณีรถเสียหายจากเหตุจราจล ประกันก็ไม่ต้องจ่ายครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
จับตาประกันภัยรถยนต์
โพสต์ที่ 12
ถูกต้อง
สินทรัพย์ที่ประกันไว้ ไล่ตั้งแต่รถยนต์ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล อาคารบ้านเรือน
ที่ได้รับความเสียหาย หรือ ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการจราจล ไม่สามารถเครมประกันภัย จากบริษัทประกันภัยได้
อ่านในเอกสารที่ส่งให้ผู้ทำประกันภัย ดีๆๆน่าครับ
มีบอกแต่ตัวเล็กนิดหน่อย

สินทรัพย์ที่ประกันไว้ ไล่ตั้งแต่รถยนต์ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล อาคารบ้านเรือน
ที่ได้รับความเสียหาย หรือ ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการจราจล ไม่สามารถเครมประกันภัย จากบริษัทประกันภัยได้
อ่านในเอกสารที่ส่งให้ผู้ทำประกันภัย ดีๆๆน่าครับ
มีบอกแต่ตัวเล็กนิดหน่อย

