ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 2
ไม่ใช่หมอนะครับ
แต่เคยผ่าน รร.กวดวิชามา
เท่าที่ควรไปเรียนในความเห็นผมก็
เคมี อาจารย์อุ๊ พิมพ์นิยม ไม่เรียนไม่ได้
physic neo physic center จะเหนื่อยกว่าเรียน applied physic มาก
แต่โจทย์มาแบบไหนจะแก้ได้เกือบหมดจริงๆ
math อาจารย์เจี๋ย สำหรับคนเก่งเลข เพราะสอนได้เร็วทันใจมาก
อังกฤษ ถ้ามีเวลาเหลือพอ อาจารย์สงวน course toefl
ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการปูพื้นฐาน vocabulary
แต่เรียนเยอะชั่วโมงมากและ อาจจะน่าเบื่อในความเห็นหลายๆท่าน
แต่ผลที่ได้คุ้มมากพอที่จะดันคะแนนให้ทะลุ 90/100 ขึ้นไปได้
แต่เคยผ่าน รร.กวดวิชามา
เท่าที่ควรไปเรียนในความเห็นผมก็
เคมี อาจารย์อุ๊ พิมพ์นิยม ไม่เรียนไม่ได้
physic neo physic center จะเหนื่อยกว่าเรียน applied physic มาก
แต่โจทย์มาแบบไหนจะแก้ได้เกือบหมดจริงๆ
math อาจารย์เจี๋ย สำหรับคนเก่งเลข เพราะสอนได้เร็วทันใจมาก
อังกฤษ ถ้ามีเวลาเหลือพอ อาจารย์สงวน course toefl
ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการปูพื้นฐาน vocabulary
แต่เรียนเยอะชั่วโมงมากและ อาจจะน่าเบื่อในความเห็นหลายๆท่าน
แต่ผลที่ได้คุ้มมากพอที่จะดันคะแนนให้ทะลุ 90/100 ขึ้นไปได้
bid please!!
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 7
ผมไม่ได้เรียนน่ะครับ 2วิชานั้นรวมถึงชีววิทยาด้วย เลยตอบคำถามไม่ได้
ลองตามๆเพื่อนในห้องเขาเรียนที่ไหน เขาว่าที่ไหนสอนดี
ก็ลองไปดูครับ ถ้าไม่ jackpot จริงๆ หลายๆที่ถึงจะไม่ดัง แต่ก็สอนใช้ได้ครับ
คะแนนทันตแพทย์
จะเข้าได้ถ้าเป็นเมื่อก่อนเอาชัวร์ๆก็เฉลี่ยที่ 64-65 จาก100
เน้น physic 90+
chemistry 85+
math 65+
english 85+
biology 70+ ผมเคยอ่านๆข้อสอบ ent แต่ไม่ได้สอบจริง
ก็ไม่ยากมากนะลองทำข้อสอบเก่าดู
ไม่ต้องอ่านอะไรมากก็ได้50กว่าๆแล้ว
สังคมพยายามรักษาระดับที่ 55-60
ภาษาไทยไปวัดดวงวันสอบ :lol:
เข้าได้แล้วครับสบายๆ
ลองตามๆเพื่อนในห้องเขาเรียนที่ไหน เขาว่าที่ไหนสอนดี
ก็ลองไปดูครับ ถ้าไม่ jackpot จริงๆ หลายๆที่ถึงจะไม่ดัง แต่ก็สอนใช้ได้ครับ
คะแนนทันตแพทย์
จะเข้าได้ถ้าเป็นเมื่อก่อนเอาชัวร์ๆก็เฉลี่ยที่ 64-65 จาก100
เน้น physic 90+
chemistry 85+
math 65+
english 85+
biology 70+ ผมเคยอ่านๆข้อสอบ ent แต่ไม่ได้สอบจริง
ก็ไม่ยากมากนะลองทำข้อสอบเก่าดู
ไม่ต้องอ่านอะไรมากก็ได้50กว่าๆแล้ว
สังคมพยายามรักษาระดับที่ 55-60
ภาษาไทยไปวัดดวงวันสอบ :lol:
เข้าได้แล้วครับสบายๆ
bid please!!
-
- Verified User
- โพสต์: 306
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 8
ตอบน้องธิชา
พี่อโนไม่เคยเข้าค่ายกะเค้าหรอกค่ะ แต่ทราบว่ามีที่
- รพ.ศิริราชมีจัดค่ายนี้ ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ ลอง search ดูก็ได้นะคะ
- ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ก็มีค่ายแนวๆนี้นะคะ จัดโดย นร.แพทย์ ของ มศว. 3 วัน 2 คืน ปีที่แล้วจัดเดือน ธค.50 ชื่อค่าย " สู่ฝันวันเป็นหมอค่ะ" http://www.suanboard.net/view.php?p=view&kid=41124
- รพ.จุฬาก็มี แต่ไม่ทราบชื่อค่าย
จริงๆก็คงมีหลายค่ายทีเดียว แต่ที่ รพ.ศิริราชเค้าให้ นร.ม.ปลายไปฝึกงานนั่น รู้สึกจะหลายวัน ไม่ใช่แนวค่ายน่ะค่ะ เค้าจะเอาเราไปปล่อยตามวอร์ดและก็อยู่กะพยาบาลซะมากกว่า ถ้าใครผ่านการฝึกงานถึงจะมีสิทธิสอบโควต้า ประมาณนั้น เดี๋ยวรอน้องหมอนิวมาช่วยเสริมข้อมูลของ รพ.ศิริราชดีกว่า
ส่วนเรื่อง รร.กวดวิชา พี่เฉยๆค่ะ สมัยมัธยมแทบไม่ได้เรียนเลย คงเป็นเพราะขี้เกียจด้วย ไปเรียนก็ไปนั่งหลับ ถ้าการเรียนพิเศษที่มากเกินไปทำให้เราไม่มีเวลามาทบทวนด้วยตัวเอง ไม่มีเวลามารวบรวมความคิด ประมวลและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ อย่างงี้ก็ไม่มีประโยชน์นะคะ แต่อีกนั่นแหละเรียนไม่เรียน อยู่ที่ตัวบุคคล บางคนเรียนแล้วดี ได้อะไรจากการกวดวิชา บางคนเรียนแล้ว ไม่ได้อะไรเท่าไหร่(อย่างพี่) รู้สึกเสียเวลาไปนั่งในห้องเรียน ก็ไม่ควรเรียนตามกระแสค่ะ
โชคดีนะคะ ขอให้ได้เรียนในวิชาชีพที่ชอบค่ะ
พี่อโนไม่เคยเข้าค่ายกะเค้าหรอกค่ะ แต่ทราบว่ามีที่
- รพ.ศิริราชมีจัดค่ายนี้ ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ ลอง search ดูก็ได้นะคะ
- ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ก็มีค่ายแนวๆนี้นะคะ จัดโดย นร.แพทย์ ของ มศว. 3 วัน 2 คืน ปีที่แล้วจัดเดือน ธค.50 ชื่อค่าย " สู่ฝันวันเป็นหมอค่ะ" http://www.suanboard.net/view.php?p=view&kid=41124
- รพ.จุฬาก็มี แต่ไม่ทราบชื่อค่าย
จริงๆก็คงมีหลายค่ายทีเดียว แต่ที่ รพ.ศิริราชเค้าให้ นร.ม.ปลายไปฝึกงานนั่น รู้สึกจะหลายวัน ไม่ใช่แนวค่ายน่ะค่ะ เค้าจะเอาเราไปปล่อยตามวอร์ดและก็อยู่กะพยาบาลซะมากกว่า ถ้าใครผ่านการฝึกงานถึงจะมีสิทธิสอบโควต้า ประมาณนั้น เดี๋ยวรอน้องหมอนิวมาช่วยเสริมข้อมูลของ รพ.ศิริราชดีกว่า
ส่วนเรื่อง รร.กวดวิชา พี่เฉยๆค่ะ สมัยมัธยมแทบไม่ได้เรียนเลย คงเป็นเพราะขี้เกียจด้วย ไปเรียนก็ไปนั่งหลับ ถ้าการเรียนพิเศษที่มากเกินไปทำให้เราไม่มีเวลามาทบทวนด้วยตัวเอง ไม่มีเวลามารวบรวมความคิด ประมวลและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ อย่างงี้ก็ไม่มีประโยชน์นะคะ แต่อีกนั่นแหละเรียนไม่เรียน อยู่ที่ตัวบุคคล บางคนเรียนแล้วดี ได้อะไรจากการกวดวิชา บางคนเรียนแล้ว ไม่ได้อะไรเท่าไหร่(อย่างพี่) รู้สึกเสียเวลาไปนั่งในห้องเรียน ก็ไม่ควรเรียนตามกระแสค่ะ
โชคดีนะคะ ขอให้ได้เรียนในวิชาชีพที่ชอบค่ะ

- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 10
ขอนอกเรื่องนิดนะครับ
เข้ามาขัดคอครับ เห็นด้วยกัยพี่เรฯ และพี่อโน
อยากให้แน่ใจจริงๆ ก่อน
-ฝึกงานที่ศิริราช ไม่ได้เห็นอะไรเลยจริงๆครับ ในความเห็นผม
-การเข้าค่ายต่างๆ ก็เป็นภาพลวง บิดเบือน ไปบ้าง ส่วนมากจัดเสาร์อาทิตย์และก็เป็น งานสนุกๆ มากกว่า
แต่ถ้าไป ก็ได้อะไรบ้างครับ
ฝึกงานที่ศิริราช หรือ รพ อื่น อย่างน้อยก็ได้คิดว่าทนได้มั้ย ถ้าพยาบาลใช้งานเรา
ได้เห็นเลือดเล็กๆน้อยๆ ทนไหวมั้ย
การเข้าค่ายก็จะเพิ่มไปอีกระดับ ได้เห็นหมอตัวเป็นๆ มาเล่าให้ฟัง ว่าเรียน ทำงานอะไรบ้าง (แต่ไม่ได้เห็นการตรวจจริงๆ เท่าไหร่ ว่าตรวจวันละเท่าไหร่ ความเสี่ยง ฯลฯ)
ถ้าไปทั้งสองแล้ว ลูกของพี่ยังคิดว่าอยากเป็น แนะนำถ้ารู้จักหมอ ต่างจังหวัด หรือ รพ ไม่ใหญ่มาก ให้ตามไปเลยครับ
อยู่เวรกับเค้า ไม่ต้องทำงาน แต่ หมอโดนตาม ตามไปด้วย ไปดู โดนปลุกก็ไปด้วย ดูว่าทนไหวมั้ย
ถ้ายังทนไหว ให้อ่านข่าวเรื่องการฟ้องร้องทั่วไป แล้วไป discuss กับหมอ ว่าความจริงเป็นอย่างไร (ส่วนใหญ่) ถึงจะมีหมอที่ทำผิดจริงบ้าง แต่ถ้าได้รู้ว่ามีที่ทำดีที่สุดแล้วแต่ยังโดน บลาๆๆ
ถ้าให้ผ่านอีก
ก็เอาเลยครับ และยินดีด้วยครับ
เข้ามาขัดคอครับ เห็นด้วยกัยพี่เรฯ และพี่อโน
อยากให้แน่ใจจริงๆ ก่อน
-ฝึกงานที่ศิริราช ไม่ได้เห็นอะไรเลยจริงๆครับ ในความเห็นผม
-การเข้าค่ายต่างๆ ก็เป็นภาพลวง บิดเบือน ไปบ้าง ส่วนมากจัดเสาร์อาทิตย์และก็เป็น งานสนุกๆ มากกว่า
แต่ถ้าไป ก็ได้อะไรบ้างครับ
ฝึกงานที่ศิริราช หรือ รพ อื่น อย่างน้อยก็ได้คิดว่าทนได้มั้ย ถ้าพยาบาลใช้งานเรา
ได้เห็นเลือดเล็กๆน้อยๆ ทนไหวมั้ย
การเข้าค่ายก็จะเพิ่มไปอีกระดับ ได้เห็นหมอตัวเป็นๆ มาเล่าให้ฟัง ว่าเรียน ทำงานอะไรบ้าง (แต่ไม่ได้เห็นการตรวจจริงๆ เท่าไหร่ ว่าตรวจวันละเท่าไหร่ ความเสี่ยง ฯลฯ)
ถ้าไปทั้งสองแล้ว ลูกของพี่ยังคิดว่าอยากเป็น แนะนำถ้ารู้จักหมอ ต่างจังหวัด หรือ รพ ไม่ใหญ่มาก ให้ตามไปเลยครับ
อยู่เวรกับเค้า ไม่ต้องทำงาน แต่ หมอโดนตาม ตามไปด้วย ไปดู โดนปลุกก็ไปด้วย ดูว่าทนไหวมั้ย
ถ้ายังทนไหว ให้อ่านข่าวเรื่องการฟ้องร้องทั่วไป แล้วไป discuss กับหมอ ว่าความจริงเป็นอย่างไร (ส่วนใหญ่) ถึงจะมีหมอที่ทำผิดจริงบ้าง แต่ถ้าได้รู้ว่ามีที่ทำดีที่สุดแล้วแต่ยังโดน บลาๆๆ
ถ้าให้ผ่านอีก
ก็เอาเลยครับ และยินดีด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1822
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 11
ฐานะคนนอกไม่เกี่ยวกับหมอ
ถ้ามีโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้การทำงานของอาชีพนั้นได้ก่อน ก็ย่อมดีแน่นอนครับ แต่ตอนนี้กับเมื่อจะเอ็นจริงๆ ความคิดอาจเปลี่ยนก็ได้
ส่วนเรื่องติว จากที่เคยคุยกับคนเอ็นติด มันไม่เห็นติวเลย มันอ่านเอง ตั้งใจเรียนในห้องเรียน เอาโจทย์ที่เค้าทำขายเป็นเล่มมาหัดทำเรื่อยๆ มันยังได้จุฬา มธ เลย
ถ้ามีโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้การทำงานของอาชีพนั้นได้ก่อน ก็ย่อมดีแน่นอนครับ แต่ตอนนี้กับเมื่อจะเอ็นจริงๆ ความคิดอาจเปลี่ยนก็ได้
ส่วนเรื่องติว จากที่เคยคุยกับคนเอ็นติด มันไม่เห็นติวเลย มันอ่านเอง ตั้งใจเรียนในห้องเรียน เอาโจทย์ที่เค้าทำขายเป็นเล่มมาหัดทำเรื่อยๆ มันยังได้จุฬา มธ เลย
- gradius173
- Verified User
- โพสต์: 198
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 12
ผมเห็นด้วยเป็นอย่างมากเลยครับPn3um0n1a เขียน: -ฝึกงานที่ศิริราช ไม่ได้เห็นอะไรเลยจริงๆครับ ในความเห็นผม
-การเข้าค่ายต่างๆ ก็เป็นภาพลวง บิดเบือน ไปบ้าง ส่วนมากจัดเสาร์อาทิตย์และก็เป็น งานสนุกๆ มากกว่า
แต่ถ้าไป ก็ได้อะไรบ้างครับ
ฝึกงานที่ศิริราช หรือ รพ อื่น อย่างน้อยก็ได้คิดว่าทนได้มั้ย ถ้าพยาบาลใช้งานเรา
ได้เห็นเลือดเล็กๆน้อยๆ ทนไหวมั้ย
การเข้าค่ายก็จะเพิ่มไปอีกระดับ ได้เห็นหมอตัวเป็นๆ มาเล่าให้ฟัง ว่าเรียน ทำงานอะไรบ้าง (แต่ไม่ได้เห็นการตรวจจริงๆ เท่าไหร่ ว่าตรวจวันละเท่าไหร่ ความเสี่ยง ฯลฯ)
ถ้าไปทั้งสองแล้ว ลูกของพี่ยังคิดว่าอยากเป็น แนะนำถ้ารู้จักหมอ ต่างจังหวัด หรือ รพ ไม่ใหญ่มาก ให้ตามไปเลยครับ
อยู่เวรกับเค้า ไม่ต้องทำงาน แต่ หมอโดนตาม ตามไปด้วย ไปดู โดนปลุกก็ไปด้วย ดูว่าทนไหวมั้ย
ถ้ายังทนไหว ให้อ่านข่าวเรื่องการฟ้องร้องทั่วไป แล้วไป discuss กับหมอ ว่าความจริงเป็นอย่างไร (ส่วนใหญ่) ถึงจะมีหมอที่ทำผิดจริงบ้าง แต่ถ้าได้รู้ว่ามีที่ทำดีที่สุดแล้วแต่ยังโดน บลาๆๆ
ถ้าให้ผ่านอีก
ก็เอาเลยครับ และยินดีด้วยครับ
ต้องถามตัวเองก่อนว่าทำไมถึงอยากเป็น บางคนยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิชาชีพนี้วันนี้ผมอ่านข่าวเด็กอายุ16 Entติดแพทย์จุฬา ที่อยากเป็นแพทย์เพราะพ่อแม่เป็นหมอ อยากช่วยเหลือคนไข้เกี่ยวกับโรคทางสมอง และคิดค้นยามารักษา แต่พอเรียนจบมาจริงๆจะรู้ว่าการคิดค้นยาเป็นเรื่องของเภสัชกร แพทย์มีบทบาทน้อยยกเว้นจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ไม่มีเรียนในเมืองไทย(แพทย์ที่คิดค้นยา)
ส่วนที่เรียนพิเศษผมว่าตามคุณReminiscence of 3 Dogsได้เลยครับพิมพ์นิยมจริงๆ แตไม่จำเป็นต้องเรียนทุกตัวเอาเฉพาะที่เราขาดจริงๆ เรียนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ อย่ายึดเป็นสรณะ การEntเป็นแค่การเริ่มต้นของชีวิต ชีวิตคนจริงๆไม่มีทางลัดเหมือนเรียนพิเศษ
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 13
เอ ผมกลับคิดตรงกันข้ามแฮะ
ถ้าไม่ได้สมองดีจริงๆ หรือเป็นคนมีวินัยจริงๆ
ซึ่งคนร้อยละ 90 ไม่ได้ขยันและสมองดี
เรียนพิเศษจะช่วยให้เราให้เรา maximize คะแนน
ได้ด้วยทรัพยากรสมองและความขยันที่มีจำกัดครับ
แต่ความลำบากจะไปตกตอนเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย
ถ้าสมองไม่ถึงขั้นหรือความขยันไม่ถึงขั้น ก็จะเรียนแล้วตกเอง
ถึงตอนนั้นไม่มีอะไรช่วยได้
หรืออีกนัยหนึ่งผมหมายถึงว่า เราไม่ควรขยันเกินไปตอน Ent.
เพราะเราจะทำคะแนนได้สูงเกินสภาพความเป็นจริง
ซึ่งเราไม่สามารถเคี่ยวตัวเองให้ขยันแบบนั้นติดต่อกัน4-6ปีได้
เหมือนตอน Ent ที่กินเวลาเพียง3-4เดือนก็พอจะ cover เนื้อหาหมดแล้ว
ถ้ากลับไปเลือกใหม่ได้ ผมก็จะเรียนสบายๆ
ถ้าความสามารถผมอำนวยให้ไปถึงได้แค่ไหน ก็จะไปแค่นั้นครับ
ไม่ดิ้นรนหาทางไปลำบากเป็นหมูสนามตลอด4ปี
แบบที่เกิดขึ้นกับตัวเองตอนเรียน ป.ตรี
ถ้าไม่ได้สมองดีจริงๆ หรือเป็นคนมีวินัยจริงๆ
ซึ่งคนร้อยละ 90 ไม่ได้ขยันและสมองดี
เรียนพิเศษจะช่วยให้เราให้เรา maximize คะแนน
ได้ด้วยทรัพยากรสมองและความขยันที่มีจำกัดครับ
แต่ความลำบากจะไปตกตอนเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย
ถ้าสมองไม่ถึงขั้นหรือความขยันไม่ถึงขั้น ก็จะเรียนแล้วตกเอง
ถึงตอนนั้นไม่มีอะไรช่วยได้
หรืออีกนัยหนึ่งผมหมายถึงว่า เราไม่ควรขยันเกินไปตอน Ent.
เพราะเราจะทำคะแนนได้สูงเกินสภาพความเป็นจริง
ซึ่งเราไม่สามารถเคี่ยวตัวเองให้ขยันแบบนั้นติดต่อกัน4-6ปีได้
เหมือนตอน Ent ที่กินเวลาเพียง3-4เดือนก็พอจะ cover เนื้อหาหมดแล้ว
ถ้ากลับไปเลือกใหม่ได้ ผมก็จะเรียนสบายๆ
ถ้าความสามารถผมอำนวยให้ไปถึงได้แค่ไหน ก็จะไปแค่นั้นครับ
ไม่ดิ้นรนหาทางไปลำบากเป็นหมูสนามตลอด4ปี
แบบที่เกิดขึ้นกับตัวเองตอนเรียน ป.ตรี
bid please!!
-
- Verified User
- โพสต์: 1296
- ผู้ติดตาม: 1
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 14
ผมเห็นด้วยกับคุณ Rem of 3 Dogs ที่ว่าการเรียนพิเศษ
ทำให้ตอน Ent จะทำคะแนนได้ดีขึ้น ยังจำได้สมัย
ตนเอง Ent ตอนนั้นเรียนพิเศษ อย่างเดียวคือภาษา
อังกฤษ (กับอาจารย์ สงวน) พอคะแนน Ent ออกมาก็ได้
น้อยกว่าเพื่อนหลายๆคนซึ่งเรียนพิเศษหลายๆวิชา
(ซึ่งเพื่อนเหล่านั้นเวลาสอบธรรมดาจะได้คะแนนน้อย
กว่า)
แต่ที่สำคัญที่สุดต้องทำแบบฝึกหัดมากๆ
อีกประการหนึ่งในปีหลังๆคณะทันตะสูงขึ้นมาก
เข้าใจว่าเข้าใกล้ 7000 ผมว่าคณะทันตะเหมาะกับผู้หญิง
งานสบาย ไม่ต้องอยู่เวร ถูกฟ้องน้อย รายได้มากกว่า
แพทย์ รับราชการไปได้เร็วกว่าแพทย์(ได้ C9 ก่อน
แพทย์)
ทำให้ตอน Ent จะทำคะแนนได้ดีขึ้น ยังจำได้สมัย
ตนเอง Ent ตอนนั้นเรียนพิเศษ อย่างเดียวคือภาษา
อังกฤษ (กับอาจารย์ สงวน) พอคะแนน Ent ออกมาก็ได้
น้อยกว่าเพื่อนหลายๆคนซึ่งเรียนพิเศษหลายๆวิชา
(ซึ่งเพื่อนเหล่านั้นเวลาสอบธรรมดาจะได้คะแนนน้อย
กว่า)
แต่ที่สำคัญที่สุดต้องทำแบบฝึกหัดมากๆ
อีกประการหนึ่งในปีหลังๆคณะทันตะสูงขึ้นมาก
เข้าใจว่าเข้าใกล้ 7000 ผมว่าคณะทันตะเหมาะกับผู้หญิง
งานสบาย ไม่ต้องอยู่เวร ถูกฟ้องน้อย รายได้มากกว่า
แพทย์ รับราชการไปได้เร็วกว่าแพทย์(ได้ C9 ก่อน
แพทย์)
-
- Verified User
- โพสต์: 1289
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 15
เห็นด้วยครับ คนส่วนมากไม่สามารถอ่านหนังสือเป็นหมื่นๆหน้า ทุกวันๆเป็น พันๆ ชม.ได้ ..แต่ถ้าใครเป็นส่วนน้อยที่ทำได้ และใช้วิธีเรียนแบบอ่านๆๆเยอะๆๆนี้มาหลายปีแล้ว ก็ประหยัดค่าเรียนได้ ไม่ว่ากันReminiscence of 3 Dogs เขียน:เอ ผมกลับคิดตรงกันข้ามแฮะ
ถ้าไม่ได้สมองดีจริงๆ หรือเป็นคนมีวินัยจริงๆ
ซึ่งคนร้อยละ 90 ไม่ได้ขยันและสมองดี
เรียนพิเศษจะช่วยให้เราให้เรา maximize คะแนน
ได้ด้วยทรัพยากรสมองและความขยันที่มีจำกัดครับ
แต่ความลำบากจะไปตกตอนเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย
ถ้าสมองไม่ถึงขั้นหรือความขยันไม่ถึงขั้น ก็จะเรียนแล้วตกเอง
ถึงตอนนั้นไม่มีอะไรช่วยได้
หรืออีกนัยหนึ่งผมหมายถึงว่า เราไม่ควรขยันเกินไปตอน Ent.
เพราะเราจะทำคะแนนได้สูงเกินสภาพความเป็นจริง
ซึ่งเราไม่สามารถเคี่ยวตัวเองให้ขยันแบบนั้นติดต่อกัน4-6ปีได้
เหมือนตอน Ent ที่กินเวลาเพียง3-4เดือนก็พอจะ cover เนื้อหาหมดแล้ว
ถ้ากลับไปเลือกใหม่ได้ ผมก็จะเรียนสบายๆ
ถ้าความสามารถผมอำนวยให้ไปถึงได้แค่ไหน ก็จะไปแค่นั้นครับ
ไม่ดิ้นรนหาทางไปลำบากเป็นหมูสนามตลอด4ปี
แบบที่เกิดขึ้นกับตัวเองตอนเรียน ป.ตรี
แนะเสริม ที่เรียนนยอดฮิต
ไทย-สังคม ของดาวองค์ ดีเลยนะ ผมเคยเรียน คอร์ส turbo สองวัน 18ชม. พัฒนาการคะแนนดีมาก วิชาสองอันนี้ เน้นท่อง เค้าจะเลือกส่วนที่ควรท่องมาให้เรา ถ้าไปอ่านเอง ไม่รู้ตรงไหนเน้น ก็ท่องกันอ่วมเลย 5 5 5
ไทย ที่ใช้ได้ อีกที่ ก็ Pinnacle ครูลิลลี่ สนุกดี ไม่เบื่อครับ
และ ไปฝึกงสน ไปลองงาน ก็ต้องทำครับ เพราะถ้าพลาดเลือกไปแล้วไม่ชอบ จะเสียโอกาส เสียเวลามากๆ...ฝึกรพ.ไหนก็ได้ บังคับพ่อให้หาให้ก็ได้ :lol:
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 92
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 16
ถึงหนูธิชา
เอาจากประสบการณ์เลยนะครับ การเรียนพิเศษนั้นดีในแง่ที่มีคนเอาโจทย์ต่างๆมารวบรวมและสอนเราทำ อาจมีเทคนิคที่ถ้าเราอ่านเองเราจะไม่รู้
แต่ที่สำคัญที่สุดคือเราเองต้องมีเวลาฝึกซ้อมทำโจทย์ให้มากๆ แต่ละบทเรียนนี่อย่างน้อยต้องเป็น1,000 ข้อนะครับ อย่าเอาแต่อ่านอย่างเดียว ทำโจทย์มากๆก็จะเกิดทักษะ เห็นโจทย์ก็ทำได้เลย ความประหม่าหรือลุกลนเวลาสอบทำอะไรเราไม่ได้เลยครับ
ทีนี้มาถึงเรื่องอาชีพที่หนูอยากเป็น การมีจุดมุ่งหมายในชีวิตเป็นเรื่องที่ดีมากครับ น้อยคนนักที่จะรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ก็เราไม่เคยทำงานแถมประสบการณ์ชีวิตก็น้อยนิดจะไปรู้ได้อย่างไรใช่ไหมครับ พ่อแม่เองผมว่าก็ไม่ทราบจริงๆหรอกว่าลูกอยากเป็นอะไร ก็ได้แต่แนะนำอาชีพที่ดี มีเกียรติ มีรายได้ที่ดีเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ น้องอยากเป็นอะไรก็เอาอย่างนั้นนั่นแหละดีที่สุด อย่าไปคิดมาก โลเลแล้วจะไปไม่ถึงฝันนะครับ เพราะการสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆนั้นต้องเตรียมตัวนาน มัวคิดโน่นคิดนี่ ฟังคนโน้นคนนี้จะสอบไม่ได้เอานะครับ
สมมติน้องจบหมอหรือหมอฟันมาแล้ว ทำงานไปสักพักรู้สึกว่าไม่ใช่ เราก็รวบรวมทุนไปทำอย่างอื่นได้ ชีวิตคนนอกจากความสามารถแล้วยังขึ้นอยู่กับโอกาส บุญเก่ากรรมเก่าอีกสารพัด โลกใบนี้หนึ่งบวกหนึ่งไม่เท่ากับสองหรอก
เอาคณะที่ดีๆและตัวเองอยากเข้าก่อน ดีที่สุดครับ
คุณพระคุณเจ้าอวยพรนะลูก
เอาจากประสบการณ์เลยนะครับ การเรียนพิเศษนั้นดีในแง่ที่มีคนเอาโจทย์ต่างๆมารวบรวมและสอนเราทำ อาจมีเทคนิคที่ถ้าเราอ่านเองเราจะไม่รู้
แต่ที่สำคัญที่สุดคือเราเองต้องมีเวลาฝึกซ้อมทำโจทย์ให้มากๆ แต่ละบทเรียนนี่อย่างน้อยต้องเป็น1,000 ข้อนะครับ อย่าเอาแต่อ่านอย่างเดียว ทำโจทย์มากๆก็จะเกิดทักษะ เห็นโจทย์ก็ทำได้เลย ความประหม่าหรือลุกลนเวลาสอบทำอะไรเราไม่ได้เลยครับ
ทีนี้มาถึงเรื่องอาชีพที่หนูอยากเป็น การมีจุดมุ่งหมายในชีวิตเป็นเรื่องที่ดีมากครับ น้อยคนนักที่จะรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ก็เราไม่เคยทำงานแถมประสบการณ์ชีวิตก็น้อยนิดจะไปรู้ได้อย่างไรใช่ไหมครับ พ่อแม่เองผมว่าก็ไม่ทราบจริงๆหรอกว่าลูกอยากเป็นอะไร ก็ได้แต่แนะนำอาชีพที่ดี มีเกียรติ มีรายได้ที่ดีเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ น้องอยากเป็นอะไรก็เอาอย่างนั้นนั่นแหละดีที่สุด อย่าไปคิดมาก โลเลแล้วจะไปไม่ถึงฝันนะครับ เพราะการสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆนั้นต้องเตรียมตัวนาน มัวคิดโน่นคิดนี่ ฟังคนโน้นคนนี้จะสอบไม่ได้เอานะครับ
สมมติน้องจบหมอหรือหมอฟันมาแล้ว ทำงานไปสักพักรู้สึกว่าไม่ใช่ เราก็รวบรวมทุนไปทำอย่างอื่นได้ ชีวิตคนนอกจากความสามารถแล้วยังขึ้นอยู่กับโอกาส บุญเก่ากรรมเก่าอีกสารพัด โลกใบนี้หนึ่งบวกหนึ่งไม่เท่ากับสองหรอก
เอาคณะที่ดีๆและตัวเองอยากเข้าก่อน ดีที่สุดครับ
คุณพระคุณเจ้าอวยพรนะลูก
-
- Verified User
- โพสต์: 1647
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 17
การเรียนพิเศษ จำเป็นสำหรับคนขี้เกียจอ่านเองครับ เป็นการทบทวนไปในตัว ถ้าขี้เกียจ ก็ต้องเสียตังค์
ผมเป็นคนขี้เกียจครับ เลยเรียนพิเศษ ก็เรียนทุกที่ที่เขียนมาแล้วครับ
ส่วนหมอนี่ ผมไม่ชอบเลือดครับ เลยตัดหมอจากชอยส์ก่อนเลย เคยไปงาน จุฬาวิชาการ ห้องที่มีอาจารย์ใหญ่เต็มไปหมดนี่ผมไม่เข้าเลย ทนกลิ่นก็ไม่ได้ ไม่อยากมองเลย
ผมว่าหาให้เจอว่า passion อยู่ตรงไหนอ่ะครับ เรียนมาจะได้รัก และอยู่กับมันตลอดไป
พวกงาน open house นี่ควรไปบ่อยๆครับจะได้รู้จริงๆ
ผมเป็นคนขี้เกียจครับ เลยเรียนพิเศษ ก็เรียนทุกที่ที่เขียนมาแล้วครับ
ส่วนหมอนี่ ผมไม่ชอบเลือดครับ เลยตัดหมอจากชอยส์ก่อนเลย เคยไปงาน จุฬาวิชาการ ห้องที่มีอาจารย์ใหญ่เต็มไปหมดนี่ผมไม่เข้าเลย ทนกลิ่นก็ไม่ได้ ไม่อยากมองเลย
ผมว่าหาให้เจอว่า passion อยู่ตรงไหนอ่ะครับ เรียนมาจะได้รัก และอยู่กับมันตลอดไป
พวกงาน open house นี่ควรไปบ่อยๆครับจะได้รู้จริงๆ
. . .
-
- Verified User
- โพสต์: 689
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 18
เห็นด้วยอย่างยิ่ง...สมัยผมอยู่มัธยม พวกคนเก่งๆ จะเลือกเรียน หมอ หรือ ไม่ก็วิดวะกันเกือบทั้งนั้น...แต่พอได้เรียนๆไป หรือ จบออกมาถึงได้รู้ว่า มันไม่ใช่สิ่งตัวเองต้องการ...เห็นมาเยอะมากครับอุตส่าห์ ลำบากลำบน เรียนหมอ เรียนวิดวะมา สุดท้ายชีวิตได้ผันแปรไปทำอาชีพอื่น...ถ้าจะโทษคงต้องระบบการศึกษา และค่านิยมด้านการศึกษาของสังคมไทย ที่ปลูกฝังให้เด็กไม่ รู้จักคิดด้วยตัวเอง...เพราะตอน ม ปลายนี่บอกได้ว่าจริงๆแล้ว ถามว่าชอบอะไร อยากทำงานอะไร จริงๆแล้วตอบยากครับ เพราะ ไม่ได้เห็นงานจริงๆ ไม่รู้หรอกว่า วิศวะ หมอ สถาปานิก เค้าทำงานอะไรกันบ้าง
อย่างผมตอนแรกม ปลาย เรียนสายสถาปัตน่ะ ครับ ตอนแรกอยากเรียนหมอเหมือนกันแต่ไปฝึกงานแล้วรู้ว่ามันไม่ใช่ ไม่เข้ากับตัวเอง ก็เลยเปลี่ยน แต่ไปๆมาก่อนจะ Ent ไม่นานก็เปลี่ยนใจอีกเข้า วิศวะแทน สุดท้ายจบมารุ้สึกว่ามันไม่ใช่อีก ก็เรียน IT ต่อแทน ตอนนี้เพิ่งรู้ว่าชอบทางนี้มากกว่า ชอบเป็น consult
แล้วก็มีเพื่อนผมหลายคนที่จบวิศวะแล้วเปลี่ยนสายเยอะครับ ไปเป็นนักบินบ้าง ทำ Finance บ้าง
ปล...เคมี อาจารย์ อุ๊ นี่สุดยอดที่สุดแล้วครับ ผมก็เคยเรียนกับแกมา ตะก่อนแก เป็นอาจารย์อยู่ที่ ร.ร. สามเสนวิทยาลัย เด็กๆรักกันทั้งนั้น


-
- Verified User
- โพสต์: 689
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 19
ปล...อีกที...ตะก่อน วิชาเคมีนี่วิชาถนัดของผมเลย เคยสอบได้ คะแนนท็อปของห้องด้วย ก็เพราะได้เรียนกับแกนี่แหละ <เสียดาย ไปเรียนได้แค่คอร์สเดียว เพราะไม่มีตังเรียนต่อ...คอร์สนึงแพงเหมือนกันครับ>
ตอนนั้นยังคิดเลยว่า ถ้าเลือกเอนทรานส์ จะเลือก chem eng หรือไม่ก็ chem sci เป็นหนึ่งในตัวเลือก...แต่ถ้าถามผมตอนนี้...บอกได้ว่าดีใจมากครับที่ไม่ได้สอบติดคณะนี้ เพราะจิงๆแล้วมันไม่สิ่งที่ผมต้องการ หรือ เป็นอาชีพที่ผมอยากทำเลยซักนิด... :lol: :lol: :lol: :lol:
ตอนนั้นยังคิดเลยว่า ถ้าเลือกเอนทรานส์ จะเลือก chem eng หรือไม่ก็ chem sci เป็นหนึ่งในตัวเลือก...แต่ถ้าถามผมตอนนี้...บอกได้ว่าดีใจมากครับที่ไม่ได้สอบติดคณะนี้ เพราะจิงๆแล้วมันไม่สิ่งที่ผมต้องการ หรือ เป็นอาชีพที่ผมอยากทำเลยซักนิด... :lol: :lol: :lol: :lol:


-
- Verified User
- โพสต์: 242
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 20
มา เชียร์ อ อุ๊ ด้วยอีกคนครับ
เห็น ด้วยว่าการเรียนพิเศษ เป็นการ maximize ทรัพยากรสมองของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ที่เรียน อื่นๆ ก็มีคนอืนแนะนำเยอะแล้ว ทั้ง ดาวองค์ , ฟิสิกข์ apply , เลข jia
แต่อยากเสริมอีกอย่างหนึ่งครับ สำหรับการทำคะแนนได้ดี คือ ต้อง ขยัน และเชื่อมั่นว่าตัวเองทำได้
เพราะอันนี้เจอมากลับตัวเองเลย เพื่อน เรียนมาห้องเดียว กัน
ผมเรียนเก่งกว่านิดหน่อย เวลา เอน เรา ขี้เกียจอ่านหนังสือ เลยอ่านที่ละ 2 วิชา (สมัยผมเค้าให้สอบได้ 2 ครั้ง) ครั้งแรกเลขกับเคมี ครั้งที่สอง เลขกับฟิสิกข์ เพราะคิดตลอดว่าใครจะอ่านจบหมด ตั้ง 7 วิชา
แต่ปรากฏว่าจริงๆ สมองคนเราทำได้ครับ ถ้าพยายาม เพื่อนอ่านได้ทั้ง 7 วิชา เราอ่านได้แค่ 3 วิชา คะแนนก็เลย 3 วิชา ครับ
ยังดี(หรืออาจโชคไม่ดี) ที่เอนติดได้ตามแผนครับ
ซึ่งพอมาคิดทบทวนแล้วรุ้สึกว่าเป็นเพราะว่าเราไม่เคยเชื่อมั่นว่าทำได้ ก็เลยไม่เคยทำได้ครับ
เห็น ด้วยว่าการเรียนพิเศษ เป็นการ maximize ทรัพยากรสมองของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ที่เรียน อื่นๆ ก็มีคนอืนแนะนำเยอะแล้ว ทั้ง ดาวองค์ , ฟิสิกข์ apply , เลข jia
แต่อยากเสริมอีกอย่างหนึ่งครับ สำหรับการทำคะแนนได้ดี คือ ต้อง ขยัน และเชื่อมั่นว่าตัวเองทำได้
เพราะอันนี้เจอมากลับตัวเองเลย เพื่อน เรียนมาห้องเดียว กัน
ผมเรียนเก่งกว่านิดหน่อย เวลา เอน เรา ขี้เกียจอ่านหนังสือ เลยอ่านที่ละ 2 วิชา (สมัยผมเค้าให้สอบได้ 2 ครั้ง) ครั้งแรกเลขกับเคมี ครั้งที่สอง เลขกับฟิสิกข์ เพราะคิดตลอดว่าใครจะอ่านจบหมด ตั้ง 7 วิชา
แต่ปรากฏว่าจริงๆ สมองคนเราทำได้ครับ ถ้าพยายาม เพื่อนอ่านได้ทั้ง 7 วิชา เราอ่านได้แค่ 3 วิชา คะแนนก็เลย 3 วิชา ครับ
ยังดี(หรืออาจโชคไม่ดี) ที่เอนติดได้ตามแผนครับ
ซึ่งพอมาคิดทบทวนแล้วรุ้สึกว่าเป็นเพราะว่าเราไม่เคยเชื่อมั่นว่าทำได้ ก็เลยไม่เคยทำได้ครับ
เป็น VI มันไม่ง่าย
VI ถือยาว ก็ลงได้
VI ขาดทุนได้
และจะเป็น VI ที่ดี ต้อง "รอ" ให้เป็น
VI ถือยาว ก็ลงได้
VI ขาดทุนได้
และจะเป็น VI ที่ดี ต้อง "รอ" ให้เป็น
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 22
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ผมเห็นด้วยเป็นอย่างมากเลยครับ
ต้องถามตัวเองก่อนว่าทำไมถึงอยากเป็น บางคนยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิชาชีพนี้วันนี้ผมอ่านข่าวเด็กอายุ16 Entติดแพทย์จุฬา ที่อยากเป็นแพทย์เพราะพ่อแม่เป็นหมอ อยากช่วยเหลือคนไข้เกี่ยวกับโรคทางสมอง และคิดค้นยามารักษา แต่พอเรียนจบมาจริงๆจะรู้ว่าการคิดค้นยาเป็นเรื่องของเภสัชกร แพทย์มีบทบาทน้อยยกเว้นจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ไม่มีเรียนในเมืองไทย(แพทย์ที่คิดค้นยา)
เร็วๆ นี้ก็มีแพทย์ ที่ค้นคิดอาหารเสริมรูปแบบใหม่ ของโลก ผมคิดว่า ทุกอย่างอยู่ที่ความรัก ความชอบ ที่จะทำ ณ เวลานั้นๆ
อยากทำอะไรก็ทำไปเถิด ปัจเจกบุคคล ไม่สามารถให้คำแนะนำกันได้
การให้เห็นภาพดี ไม่ดี ในมุมที่กว้างขึ้น สำหรับเด็กที่ วุฒิภาวะในการคิด การตัดสินใจ ยังไม่มากพอ จะดีจริงหรือไม่
ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ว่า ภาพที่เห็น จะบิดเบือนขนาดไหน ในมุมของเด็กๆ
เช่น มีหลายคนไปฝึกงาน แล้วเห็น เลือด เห็นหนอง ก็เลย เลิกเรียนไปเลย จริงๆ แล้วในมุม ที่คนไข้ หาย แล้วรู้ซาบซึ้ง ขอบคุณ เด็กที่ไปฝึกงานจะเห็นหรือไม่ เทียบสัดส่วนเวลาที่เห็น ว่ามีแต่เรื่อง น่าเบื่อ กับ ผลจากความน่าเบื่อ ความน่าเบื่อน่าจะมีมากกว่ามากครับ
ยกตัวอย่างต่อว่า หมอเค๊าต้องการเอาเข็มไปแทงให้คนไข้เจ็บ หรือว่า หมอเค๊าต้องการ เอายา ใส่ให้คนไข้ ให้เร็วที่สุด และก็เลยจำเป็นต้องฉีด ทั้งๆที่รู้ว่าคนไข้เจ็บ
หมอเค๊ารู้ว่า ยานั้นคืออะไร แล้วต้องฉีดแค่ไหน แต่ในมุมของเด็กๆ ที่ไปเห็น ก็เห็นว่า คนไข้ หน้าบูดหน้าเบี่ยว
-
- Verified User
- โพสต์: 51
- ผู้ติดตาม: 0
ขอรายชื่อรร.กวดวิชา
โพสต์ที่ 23
ก็ถ้าคณิตผมแนะนำ sup'k นะครับ สอนโอเคเลยหละครับ ส่วนอังกฤษก็มีอาจารย์สมศรีหรือจะเป็ฯ enconcept ก็ได้ ภาษาไทย-สังคม แนะนำ da' vance ของ อ. ปิงครับ เคมี ก็ อ.อุ๊ แน่นอนครับ ฟิสิกส์ก็มี 2 ที่ คือ apply กับ neo ทั้งหมดที่บอกมานี่ เข้าเว็บของเค้าดูได้เลยครับ