11 มีนาคม 2008
ค่าระวางเรือพุ่งยาว18%
--------------------------------------------------------------------------------
หุ้นเดินเรือ TTA-PSLร่วงสวนทางดัชนีค่าระวางเรือพุ่ง 1 สัปดาห์กว่า 18% ขึ้นไปถึง 8,536 จุด จากก่อนหน้าที่ 7,299 จุด วิ่งขึ้นตามความต้องการใช้ถ่านหินในจีน และการเร่งสต็อคสินแร่เหล็กก่อนกำหนดใช้ราคาใหม่ในเดือนเมษายนนี้ หนุนรายได้ TTA ไตรมาส 2/2550-2551 คาดดัชนีค่าระวางเรือเฉลี่ยเดือนมกราคา-มีนาคมอยู่เหนือ 7,500 จุด จากใน 2 เดือนแรกที่เฉลี่ย 6,996 จุด ขณะที่ราคาหุ้นร่วงลงตามตลาดทั้งคู่ ได้จังหวะช้อนรอลุ้นรีบาวด์
จากการสำรวจการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีค่าระวางเรือในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว 18.07% จากระดับ 7,299 จุด จนถึงปัจจุบันที่ระดับ 8,536 จุดเพิ่มขึ้น 133 จุด หรือ 1.58% จากการฟื้นตัวของการเดินเรือในจีน และการเปิดใช้ท่าเรือในบราซิลได้ รวมทั้งการเร่งขนส่งสินแร่เหล็กเพิ่มสูงขึ้นส่งผลดีต่อกลุ่มเดินเรืออย่าง TTA และ PSL
ส่วนราคาหุ้น TTA วานนี้ (11 มี.ค.)ปิดตลาดที่ 46.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 4.17% มูลค่าซื้อขายรวม 464.88 ล้านบาท ส่วน PSL ปิดตลาดที่ 25.25 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 5.61% มูลค่าซื้อขายรวม 37.47 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยหนุนที่ทำให้ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นติดต่อกันถึง 1 สัปดาห์มาอยู่ที่ 8,536 จุด นั้น ถือว่าเป็นการฟื้นตัวในช่วงสั้น หลังจากที่ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายปี 2550 ส่งผลให้ดัชนีค่าระวางเรือเฉลี่ยในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์อยูที่ระดับ 6,996 จุด และอาจจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7,500 จุด ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ของ TTA ปรับตัวดีขึ้น แต่อาจจะไม่ดีเท่าไตรมาสก่อนก็ตาม
ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้น คือ ความต้องการใช้จากจีนเริ่มกลับอีกครั้ง หลังจากชะลอตัวจากช่วงวันหยุดยาวประกอบกับภาวะอากาศที่แปรปรวน ทำให้ความต้องการถ่านหินและสินแร่เหล็กจากจีนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่ง 60%ของสินค้าทั้งหมดจะต้องขนส่งโดยเรือ
นอกจากนี้ท่าเรือขนส่งสินแร่เหล็กรายใหญ่ที่สุดของบราซิล ก็สามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ หลังจากหยุดซ่อมแซมนาน 2 เดือน รวมทั้งผู้ผลิตเหล็กในประเทศจีนบางราย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินแร่เหล็ก ได้ตกลงปรับเพิ่มราคาสินแร่เหล็กกับผู้ส่งออกเรียบร้อยแล้ว ทำให้การนำเข้าสินแร่จะกลับมาคึกคักอีกครั้งก่อนที่จะมีการบังคับใช้ราคาใหม่ในช่วงเดือนเมษายนนี้ จึงทำให้ดัชนีระวางเรือเทกองปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแค่ช่วงสั้น เพราะในช่วงเมษายนถึงพฤษภาคมเป็นช่วงโลซีซันของการขนส่งทางเรือ ซึ่งอาจจะทำให้ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวลงมาอีกครั้งได้ ประกอบกับในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้เรือใหม่จะเริ่มทยอยส่งมอบ จึงทำให้จำนวนกองเรือเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าดัชนีค่าระวางเรือเฉลี่ยในปีนี้อยู่ในระดับ 7,373 จุด ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับปีก่อน
สำหรับในปี 2551 คาดว่าอุตสาหกรรมเดินเรือในจะเพิ่มขึ้น 8.50% และจะเพิ่มสูงขึ้นในปีถัดไป โดยคาดว่าในปีนี้จะเริ่มส่งมอบเรือได้ประมาณ 54% ของกองเรือทั้งหมดที่ระวางประมาณ 390 ล้านเดทเวทตัน ส่วนในปี 2552 จะส่งมอบลดลงเหลือ 13% และอีก 20% ที่จะเริ่มทยอยส่งมอบในปี 2553
ดังนั้นจึงแนะนำ