คืนนี้ดูฝนดาวตกกันนะ

[121]

เตรียมพบกับ ปรากฎการณ์ฝนดาวตก เที่ยงคืนวันที่ 18 พ.ย. นี้ .*.


นักดาราศาสตร์ระบุ เกิดปรากฏการณ์ฝนดาวตกลีโอนิดส์บนท้องฟ้า
พร้อมดาวตกเทาลิบ ในเมืองไทยเห็นได้ 30 ดวงต่อ ช.ม. ตั้งแต่เที่ยง
คืนวันที่ 18 พ.ย. ต่อเนื่องถึงเช้า แจงช่วงเวลาปะทะดาวตกสูงสุดในเวลา
06.03 น. เห็นได้ดีที่สุดในแถบตะวันออกกลางและอินเดีย


นายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต กรรมการบริหารสมาคมดาราศาสตร์ไทย
เปิดเผยว่า จะเกิดปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่น่าสนใจให้ชม
บนท้องฟ้าในกลางดึกของวันที่ 18 พ.ย.50 เวลา 24.00 น.
ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 19 พ.ย.50 คือ ปรากฏการณ์ฝนดาวตก
ลีโอนิดส์ โดยฝนดาวตกลีโอนิดส์นี้จะเห็นได้ทั่วท้องฟ้าในประเทศ
ไทยด้วยตาเปล่า หลัง 24.00 น. วันที่ 18 พ.ย.เป็นต้นไป โดยการชม
ให้หันหน้าไปทางด้านทิศตะวันออกประมาณ 45 องศา ตัดกับขอบฟ้า
ทางกลุ่มดาวสิงโต และหลังเวลา 03.00 น.เป็นต้นไปวันที่ 19 พ.ย.50
จะเห็นฝนดาวตกมากมาจากทุกทิศทางให้นอนราบรอชมมองไปทางด้าน
ทิศตะวันออก คาดว่าในประเทศไทยจะมีจำนวนประมาณ 30 ดวงต่อ ช.ม.


นายวรวิทย์ยังกล่าวต่อไปว่า ช่วงเวลาการปะทะฝนดาวตกสูงสุด คือ
ช่วง 06.03 น.นั้น จะไม่สามารถชมได้ในประเทศไทย แต่เห็น
ได้ดีที่สุดในแถวประเทศอินเดียและตะวันออกกลาง อีกทั้งในช่วง
วันดังกล่าว นอกจากชมฝนดาวตกลีโอนิดส์แล้ว ยังจะได้ชมดาวเทาลิบ
พร้อมกันไปด้วย ที่มาจากกลุ่มดาววัว มีประมาณ 5 ดวงต่อ ช.ม. ความเร็ว
29 ก.ม.ต่อวินาที เกิดจากดาวหาง 2 P/Encke


"ฝนดาวตกลีโอนิดส์ชุดนี้ เป็นชุดฝนดาวตกที่เข้าทิ้งเศษซากไว้เมื่อปี ค.ศ.1932
โดยในปีที่แล้วพบเป็นไฟบอลขนาดใหญ่สีเหลืองเห็นได้สวยงามบนท้องฟ้า
โดยมักเรียกกันว่าราชาแห่งฝนดาวตก มีความเร็ว 71 ก.ม.ต่อวินาที
เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติไม่กระทบต่อโลกแต่อย่างใด" นายวรวิทย์กล่าว


สำหรับฝนดาวตกลีโอนิดส์เกิดจากในทุกๆ คาบ 33.2 ปี ที่ดาวหางเทมเพล
-ทัตเทิล (55 P/Tempel-Tuttle) โคจรเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์ แล้ววกกลับ
มาผ่านวงโคจรของโลก เคลื่อนไกลออกไป ทิ้งเศษซากดาวหางไว้เป็นทาง
ยาว เมื่อโลกเคลื่อนที่ผ่านใกล้กระแสซากวัตถุเหล่านั้น จึงดึงดูดให้เศษวัต
ถุตกเข้ามาเสียดสีกับบรรยากาศโลก ลุกไหม้เป็นลูกไฟตกลงมาให้เห็นเป็น
ดาวตกจำนวนมาก มีทิศทางคล้ายกับพุ่งมาจากกลุ่มดาวสิงโต (Leo) จึงเรียก
ว่าฝนดาวตกจากกลุ่มดาวสิงโตหรือลีโอนิดส์ (Leonids) ซึ่งในบางปีมีปริมาณ
ดาวตกหนาแน่นมากเป็นพิเศษ จึงเรียกว่าพายุฝนดาวตกลีโอนิดส์


โดยดาวหางเทมเพล-ทัตเทิล เป็นดาวหางดวงเล็ก มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
หัวดาวหางประมาณ 1.9 กิโลเมตร อันดับความสว่างประมาณ 9 ไม่สามารถ
มองเห็นด้วยตาเปล่า แต่เห็นได้จากกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก หรือกล้องสอง
ตาขนาดใหญ่ส่องสังเกต เนื่องจากเศษซากวัตถุที่ดาวหางเทมเพล-ทัตเทิลสลัด
ไว้กระจายเป็นสายธารยาว เมื่อโลกเคลื่อนที่ในเส้นทางโคจรรอบดวงอาทิตย์มา
ถึงเดือนพฤศจิกายน ได้ผ่านใกล้กระแสธารที่ดาวหางสลัดทิ้งไว้ จึงเริ่มสังเกต
ดาวตกในช่วงวันที่ 15-20 พฤศจิกายนเป็นประจำทุกปี และตกชุกคืนวัน
ที่ 17-18 พฤศจิกายน สำหรับปีทั่วๆ ไปที่สภาพท้องฟ้าดีเยี่ยม นับดาวตก
ได้เพียง 8 ดวง 10 ดวง หรือ 15 ดวงต่อชั่วโมงเท่านั้น และล่าสุดโคจรผ่านโลก
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1998.

[Dech]

เคยไปดูตอนเขาเห่อๆ กันครับ แต่ไม่ใช่ในกรุง
ดูในกรุง มันจะเห็นหรือครับ