ความกลัว ความกล้า
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ความกลัว ความกล้า
โพสต์ที่ 1
ผมมานั่งนึกเล่นเล่นว่า
ตอนเรากลัว นี่
หุ้นลง ก็ไม่อยากซื้อ เพราะกลัวมันจะลงต่อ
หุ้นอยู่นิ่งๆ ก็กลัวมันลง เพราะมันอยู่นิ่งๆมานาน
หุ้นที่กำลังขึ้น ก็กลัวมันขึ้นมากไปแล้ว สงสัย เตรียมตัวลง
ตอนเรากล้า นี่
หุ้นลง ซื้อเพิ่ม
หุ้นอยู่นิ่งๆ ดี ซื้อเพิ่ม
หุ้นที่กำลังขึ้น ยิ่งดี ซื้อเพิ่ม
เห็นทีต้องเล่นหุ้น โดย ไม่มี ความกลัว ความกล้า เข้ามาเกี่ยวข้อง ซะแล้ว
ตอนเรากลัว นี่
หุ้นลง ก็ไม่อยากซื้อ เพราะกลัวมันจะลงต่อ
หุ้นอยู่นิ่งๆ ก็กลัวมันลง เพราะมันอยู่นิ่งๆมานาน
หุ้นที่กำลังขึ้น ก็กลัวมันขึ้นมากไปแล้ว สงสัย เตรียมตัวลง
ตอนเรากล้า นี่
หุ้นลง ซื้อเพิ่ม
หุ้นอยู่นิ่งๆ ดี ซื้อเพิ่ม
หุ้นที่กำลังขึ้น ยิ่งดี ซื้อเพิ่ม
เห็นทีต้องเล่นหุ้น โดย ไม่มี ความกลัว ความกล้า เข้ามาเกี่ยวข้อง ซะแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ความกลัว ความกล้า
โพสต์ที่ 3
เห็นด้วยครับท่านมน
ขอเสริมต่อว่า
หุ้นไม่ดี หรือ ราคาเกินพื้นฐานไปมาก ด้วยความโลภ ทำให้คนไม่ยอมขาย แต่กลับซื้อเพิ่ม ทำให้ตัวเอง มีโอกาสติดดอย
หุ้นที่ดี หรือ ราคาต่ำกว่าพื้นฐานมากๆ ด้วยความกลัว ไม่กล้าเข้าซื้อ เพราะกลัวว่ามันจะลงไปอีก ทำให้เสียโอกาส ในการเป็นเจ้าของหุ้นที่ดีในราคาต่ำ
ขอเสริมต่อว่า
หุ้นไม่ดี หรือ ราคาเกินพื้นฐานไปมาก ด้วยความโลภ ทำให้คนไม่ยอมขาย แต่กลับซื้อเพิ่ม ทำให้ตัวเอง มีโอกาสติดดอย
หุ้นที่ดี หรือ ราคาต่ำกว่าพื้นฐานมากๆ ด้วยความกลัว ไม่กล้าเข้าซื้อ เพราะกลัวว่ามันจะลงไปอีก ทำให้เสียโอกาส ในการเป็นเจ้าของหุ้นที่ดีในราคาต่ำ
-
- ผู้ติดตาม: 0
ความกลัว ความกล้า
โพสต์ที่ 5
http://www.set.or.th/th/isc/education/r ... ds_p8.html
รู้จักอารมณ์ความรู้สึก และขีดความกล้าได้กล้าเสียของตน โดยไม่ปล่อยให้มันเป็นนาย แต่ก็ไม่เก็บกดมันไว้
รู้จักเรียนรู้และใช้มันให้เกิดประโยชน์ตามสถานการณ์
รู้จักอารมณ์ความรู้สึก และขีดความกล้าได้กล้าเสียของตน โดยไม่ปล่อยให้มันเป็นนาย แต่ก็ไม่เก็บกดมันไว้
รู้จักเรียนรู้และใช้มันให้เกิดประโยชน์ตามสถานการณ์
-
- ผู้ติดตาม: 0
ความกลัว ความกล้า
โพสต์ที่ 6
ตามความคิดเห็นผม ผมว่า นักลงทุน มีความจำเป็นในการที่จะต้องปรับ Attitude ให้ถูกต้อง อยู่เสมอ ด้วยการอ่านหนังสือและบทความดีๆ เพื่อเตือนสติตัวเอง
ไม่งั้นเราจะติดกับดัก อารมณ์ ของเราเองง่ะ อิอิ..
อิอิ ดีมากครับ ..เอาจากที่ Link มา post เลยละกันง่ะ
คำแนะนำเบื้องต้นบางประการ (Basic Investment Advice)
ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะ ถ้ามีจริง ผู้ที่ค้นพบหรือรู้จริงก็คงไม่อยากบอกใคร
เพราะการบอกให้คนอื่นรู้ จะทำให้คนเหล่านั้นเปลี่ยนพฤติกรรมมาลงทุนในแบบที่เขาเป็นอยู่ ซึ่งจะทำให้
สูตรสำเร็จนั้นไม่มีความหมายไปโดยปริยาย คำกล่าวที่ว่า "ผู้รู้ไม่พูด ผู้พูดไม่รู้" จึงใช้ได้ดีสำหรับ
การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ เป็นผลจากการตัดสินใจและ
การกระทำของผู้ลงทุนแต่ละคนที่เข้ามาลงทุน ซึ่งมีเป้าหมาย ความคาดหวัง วิธีการลงทุน ทัศนคติต่อความเสี่ยง
และจิตวิทยาเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน วิธีการและแผนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่เหมาะกับผู้ลงทุนรายหนึ่ง
อาจไม่เหมาะกับผู้ลงทุนรายอื่น ๆ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าสถานการณ์แวดล้อม
ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกวินาที
อย่างไรก็ตาม ในบทนี้เราอยากให้ข้อแนะนำเบื้องต้นบางประการให้คุณทราบเพื่อประกอบการพิจารณาลงทุน
ในตลาดหลักทรัพย์ คำแนะนำเหล่านี้รวบรวมจากประสบการณ์ของผู้ลงทุนชั้นนำหลายท่าน อาจไม่ได้บอกว่า
คุณควรจะซื้อหรือขายหลักทรัพย์อะไร เมื่อไร อย่างไร แต่อาจบอกคุณได้ว่าพฤติกรรมการลงทุนที่มีแนวโน้ม
นำคุณไปสู่ความสำเร็จมีอะไรบ้าง และอะไรคือพฤติกรรมการลงทุนที่คุณพึงหลีกเลี่ยง
ผู้ลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักจะ
ตั้งเป้าหมาย กำหนดระยะเวลา แนวทางการลงทุนและวาง เค้าโครงพอร์ตการลงทุนไว้อย่างชัดเจน
เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ใช่เพราะอัตตาแห่งตน แต่เพราะมีคุณสมบัติตามข้อ 1 อย่างครบถ้วน
และยึดถือเป็นแนวทางในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
มีความอดทนพอที่จะค้นพบด้วยตัวเองว่าแนวทางการลงทุนที่ตนวางไว้ ถูกหรือผิดอย่างไร
ยอมรับความถูกต้องและความผิดพลาดในการตัดสินใจของตนอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่โยนความผิดให้ใคร
กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจสิ่งใหม่ และพร้อมที่จะปรับทิศทางการลงทุน หลังจากได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว
มีเวลาให้กับการลงทุนของตนเพียงพอ เหมาะสมกับลักษณะและวิธีการลงทุนที่ตัวเองเลือกใช้
มี "แผนสอง" ไว้รองรับอยู่เสมอ หากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ จะมีแผนที่ชัดเจนว่า
ควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนของตนอย่างไร
รู้จักอารมณ์ความรู้สึก และขีดความกล้าได้กล้าเสียของตน โดยไม่ปล่อยให้มันเป็นนาย แต่ก็ไม่เก็บกดมันไว้
รู้จักเรียนรู้และใช้มันให้เกิดประโยชน์ตามสถานการณ์
ละเอียดรอบคอบในการบันทึก ติดตามข้อมูล เก็บรักษา เอกสารและหลักฐานต่าง ๆ
คำนึงถึงการขาดทุน การสูญเสีย ความผิดพลาด อันอาจเกิดจากการตัดสินใจแต่ละครั้งพอ ๆ
กับที่เห็นลู่ทางของผลตอบแทนและความสำเร็จ
และ สิ่งที่ผู้ลงทุนที่ดีพึงหลีกเลี่ยง ได้แก่
ไม่ตื่นตูมตามข่าวลือ แม้ว่าในบางครั้ง ข่าวลือจะมีมูลความจริงอยู่บ้างก็ตาม
ไม่โอ้อวด หรือเปิดเผยแผนการลงทุนของตนให้ผู้อื่นทราบ
ไม่ฝากการลงทุนของตนให้ใครดูแลตัดสินใจ หรือทำการแทน (ยกเว้นในกรณีที่ให้โบรกเกอร์
หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน รวมช่วยดูแลตามจำนวนเงินลงทุนและระยะเวลาที่ได้ตกลงกันไว้)
ไม่นำเอาอคติหรือความพอใจหรือไม่พอใจส่วนตัวใด ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการลงทุนมาประกอบการตัดสินใจ
เช่น เลือกถือหุ้นบางตัวไว้เพราะบริษัทนั้นสนับสนุนพรรคการเมืองที่ตนชอบ
ไม่ลงทุนแบบ "ทุ่มสุดตัว" หรือ "เทหมดหน้าตัก" ให้กับการลงทุนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
หรือการตัดสินใจครั้งใดครั้งหนึ่ง
ขวนขวายหาความรู้ และไม่หลงเชื่อสูตรสำเร็จ ไม่ว่าจะมาจากมืออาชีพ นักเศรษฐศาสตร์
หรือนักโหราศาสตร์ก็ตาม
ต้องไม่คิดว่าการลงทุนแบบใด หรือหุ้นตัวใดเป็น "ของแน่" โดยเฉพาะในระยะเวลาที่ยาวนานออกไป
ไม่นำผลการลงทุนของตนไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นในลักษณะพิสูจน์ความเก่งกล้า
ไม่ยึดติดกับรูปแบบหรือวิธีการลงทุนที่เคยทำให้ตนเองพลาดพลั้งหรือสูญเสีย
ไม่ลงทุนในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจ ก็ต้องพร้อมที่จะ ยอมรับว่าไม่รู้ และกล้าซักถาม
จนเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้
ในท้ายที่สุด เรามีคติพจน์ในภาษาละตินบทหนึ่ง ซึ่งผู้รู้และนักลงทุนชั้นนำในระดับสากลจำนวนมาก
ยอมรับและถึงกับแนะนำให้เขียนติดไว้ในที่เก็บเอกสารหรือที่ทำงานของผู้ลงทุนทั้งหลายว่า
Caveat emptor.
(Let the buyer beware.)
เราอยากปิดท้ายหนังสือเล่มนี้ด้วยคติพจน์ข้อนี้ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยสำหรับผู้ลงทุนชาวไทยว่า นักลงทุน ต้องไม่ประมาท
ไม่งั้นเราจะติดกับดัก อารมณ์ ของเราเองง่ะ อิอิ..
อิอิ ดีมากครับ ..เอาจากที่ Link มา post เลยละกันง่ะ
คำแนะนำเบื้องต้นบางประการ (Basic Investment Advice)
ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะ ถ้ามีจริง ผู้ที่ค้นพบหรือรู้จริงก็คงไม่อยากบอกใคร
เพราะการบอกให้คนอื่นรู้ จะทำให้คนเหล่านั้นเปลี่ยนพฤติกรรมมาลงทุนในแบบที่เขาเป็นอยู่ ซึ่งจะทำให้
สูตรสำเร็จนั้นไม่มีความหมายไปโดยปริยาย คำกล่าวที่ว่า "ผู้รู้ไม่พูด ผู้พูดไม่รู้" จึงใช้ได้ดีสำหรับ
การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ เป็นผลจากการตัดสินใจและ
การกระทำของผู้ลงทุนแต่ละคนที่เข้ามาลงทุน ซึ่งมีเป้าหมาย ความคาดหวัง วิธีการลงทุน ทัศนคติต่อความเสี่ยง
และจิตวิทยาเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน วิธีการและแผนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่เหมาะกับผู้ลงทุนรายหนึ่ง
อาจไม่เหมาะกับผู้ลงทุนรายอื่น ๆ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าสถานการณ์แวดล้อม
ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกวินาที
อย่างไรก็ตาม ในบทนี้เราอยากให้ข้อแนะนำเบื้องต้นบางประการให้คุณทราบเพื่อประกอบการพิจารณาลงทุน
ในตลาดหลักทรัพย์ คำแนะนำเหล่านี้รวบรวมจากประสบการณ์ของผู้ลงทุนชั้นนำหลายท่าน อาจไม่ได้บอกว่า
คุณควรจะซื้อหรือขายหลักทรัพย์อะไร เมื่อไร อย่างไร แต่อาจบอกคุณได้ว่าพฤติกรรมการลงทุนที่มีแนวโน้ม
นำคุณไปสู่ความสำเร็จมีอะไรบ้าง และอะไรคือพฤติกรรมการลงทุนที่คุณพึงหลีกเลี่ยง
ผู้ลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักจะ
ตั้งเป้าหมาย กำหนดระยะเวลา แนวทางการลงทุนและวาง เค้าโครงพอร์ตการลงทุนไว้อย่างชัดเจน
เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ใช่เพราะอัตตาแห่งตน แต่เพราะมีคุณสมบัติตามข้อ 1 อย่างครบถ้วน
และยึดถือเป็นแนวทางในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
มีความอดทนพอที่จะค้นพบด้วยตัวเองว่าแนวทางการลงทุนที่ตนวางไว้ ถูกหรือผิดอย่างไร
ยอมรับความถูกต้องและความผิดพลาดในการตัดสินใจของตนอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่โยนความผิดให้ใคร
กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจสิ่งใหม่ และพร้อมที่จะปรับทิศทางการลงทุน หลังจากได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว
มีเวลาให้กับการลงทุนของตนเพียงพอ เหมาะสมกับลักษณะและวิธีการลงทุนที่ตัวเองเลือกใช้
มี "แผนสอง" ไว้รองรับอยู่เสมอ หากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ จะมีแผนที่ชัดเจนว่า
ควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนของตนอย่างไร
รู้จักอารมณ์ความรู้สึก และขีดความกล้าได้กล้าเสียของตน โดยไม่ปล่อยให้มันเป็นนาย แต่ก็ไม่เก็บกดมันไว้
รู้จักเรียนรู้และใช้มันให้เกิดประโยชน์ตามสถานการณ์
ละเอียดรอบคอบในการบันทึก ติดตามข้อมูล เก็บรักษา เอกสารและหลักฐานต่าง ๆ
คำนึงถึงการขาดทุน การสูญเสีย ความผิดพลาด อันอาจเกิดจากการตัดสินใจแต่ละครั้งพอ ๆ
กับที่เห็นลู่ทางของผลตอบแทนและความสำเร็จ
และ สิ่งที่ผู้ลงทุนที่ดีพึงหลีกเลี่ยง ได้แก่
ไม่ตื่นตูมตามข่าวลือ แม้ว่าในบางครั้ง ข่าวลือจะมีมูลความจริงอยู่บ้างก็ตาม
ไม่โอ้อวด หรือเปิดเผยแผนการลงทุนของตนให้ผู้อื่นทราบ
ไม่ฝากการลงทุนของตนให้ใครดูแลตัดสินใจ หรือทำการแทน (ยกเว้นในกรณีที่ให้โบรกเกอร์
หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน รวมช่วยดูแลตามจำนวนเงินลงทุนและระยะเวลาที่ได้ตกลงกันไว้)
ไม่นำเอาอคติหรือความพอใจหรือไม่พอใจส่วนตัวใด ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการลงทุนมาประกอบการตัดสินใจ
เช่น เลือกถือหุ้นบางตัวไว้เพราะบริษัทนั้นสนับสนุนพรรคการเมืองที่ตนชอบ
ไม่ลงทุนแบบ "ทุ่มสุดตัว" หรือ "เทหมดหน้าตัก" ให้กับการลงทุนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
หรือการตัดสินใจครั้งใดครั้งหนึ่ง
ขวนขวายหาความรู้ และไม่หลงเชื่อสูตรสำเร็จ ไม่ว่าจะมาจากมืออาชีพ นักเศรษฐศาสตร์
หรือนักโหราศาสตร์ก็ตาม
ต้องไม่คิดว่าการลงทุนแบบใด หรือหุ้นตัวใดเป็น "ของแน่" โดยเฉพาะในระยะเวลาที่ยาวนานออกไป
ไม่นำผลการลงทุนของตนไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นในลักษณะพิสูจน์ความเก่งกล้า
ไม่ยึดติดกับรูปแบบหรือวิธีการลงทุนที่เคยทำให้ตนเองพลาดพลั้งหรือสูญเสีย
ไม่ลงทุนในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจ ก็ต้องพร้อมที่จะ ยอมรับว่าไม่รู้ และกล้าซักถาม
จนเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้
ในท้ายที่สุด เรามีคติพจน์ในภาษาละตินบทหนึ่ง ซึ่งผู้รู้และนักลงทุนชั้นนำในระดับสากลจำนวนมาก
ยอมรับและถึงกับแนะนำให้เขียนติดไว้ในที่เก็บเอกสารหรือที่ทำงานของผู้ลงทุนทั้งหลายว่า
Caveat emptor.
(Let the buyer beware.)
เราอยากปิดท้ายหนังสือเล่มนี้ด้วยคติพจน์ข้อนี้ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยสำหรับผู้ลงทุนชาวไทยว่า นักลงทุน ต้องไม่ประมาท