ตำนานความรักที่ทรงพลังของ "นนทิยา พุทธาโภคาทรัพย์" กับ
>>> >"ดีเจโจ้-อัครพล
>>> >ธนะวิทวิลาส"
>>> >ใกล้ดำเนินมาถึงบทที่ทั้งคู่เริ่มต้นชิตครอบครัวอย่างมีความสุข
>>> >แต่เพียงไม่กี่เดือน รอยยิ้มถูกแทนที่ด้วยคราบน้ำตา
>>> >งานมงคลกลายเป็นงานศพ
>>> >ความฝันของผู้หญิงคนหนึ่งพังทลายลงชั่วพริบตา
>>> >
>>> >"แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปีแล้วก้อตาม
>>> >แต่จุ๊บยังจำวันแรกที่เจอกับพี่โจ้ได้ไม่ลืม
>>> >เราเจอกันในงานคอนเสิร์ตของนาวินต้าร์ เขาหันมามองจุ๊บ
>>> >ยังจำดวงตาคู่นั้นได้เลยว่าสวยมาก เพื่อนแอบให้เบอร์จุ๊บกับพี่โจ้
>>> >ซึ่งสมัยนั้นเป็นเพจเจอร์ เขาส่งข้อความมาหลายครั้ง
>>> >กระทั่งจุ๊บยอมไปทานข้าวด้วย""แล้วจุ๊บก้อหลงรักเขาโดยไม่มีเงื่อนไขว่า
>>> >แฟนฉันต้องหล่อหรือรวย เพราะจุ๊บรักทุกอย่างที่เป็นพี่โจ้ รักเสียง
>>> >รักรอยยิ้ม
>>> >รักดวงตาคู่นั้น เขาเรียกจุ๊บว่าหนู จุ๊บก้อเรียกเขาว่าที่รัก
>>> >แม้ตอนแรก
>>> >คุณพ่อคุณแม่จะไม่ชอบ
>>>แต่ความจริงใจที่เขามีให้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
>>> >ประกอบกับเป็นคนมีจิตใจดี
>>> >พี่โจ้จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวจุ๊บโดยปริยาย"
>>> >"เราตกลงกันว่าจะเก็บเงินซื้อบ้านเป็นเรือนหอ
>>> >ช่วงนั้นอะไรประหยัดได้ก้อช่วยกันประหยัด
>>> >เวลาพี่โจ้มารับที่บ้านคุณแม่ทำข้าวใส่กล่องเตรียมไว้ให้
>>> >ระหว่างทางจุ๊บจะป้อนข้าวพี่โจ้
>>> >หรือเสื้อผ้าพี่โจ้ก้อจะเอามาซักที่บ้านจุ๊บ
>>> >จะได้ประหยัดค่าซักรีด กินข้าวนอกบ้านเรียกว่านับครั้งได้
>>> >เพราะแค่ซื้อน้ำส้มสักแก้วยังคิดแล้วคิดอีก
>>> >กระทั่งพี่โจ้เริ่มมีชื่อเสียงและเข้าหุ้นกับพี่เอก-กฤษณา วารินทร์
>>> >เปิดบริษัท
>>> >มหัศจรรย์งานโชว์ แม้รายรับมากขึ้น
>>> >แต่ก้อมีปัญหาจุกจิกให้แก้ไขตลอดเวลา
>>> >แต่เราจับมือสู้ไปด้วยกัน เขามักบอกให้จุ๊บชื่นใจเสมอว่า
>>> >หนูเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พี่มีวันนี้"
>>> > "ในที่สุดความฝันก้อเป็นจริง
>>>
>>> >เราซื้อบ้านด้วยเงินสดที่พยายามอดออมกันมา
>>> >ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขกับการเลือกเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน
>>> >ตกแต่งบ้านด้วยกัน วาดโครงการว่าปลายปี 49 แต่งานแล้วจะมีลูกทันที
>>> >ตั้งชื่อไว้เสร็จสรรพ
>>>ซึ่งจุ๊บหวังว่าจะเป็นเจ้าสาวของพี่โจ้ตลอดเวลา
>>> >รอคอยวันนั้นอย่างตื่นเต้น ซื้อหนังสือแต่งงานทุกฉบับ
>>> >เราสองคนช่วยกันเลือกชุดเจ้าสาวเจ้าบ่าว เลือกแหวน เลือกสถานที่
>>> >เตรียมงานมาเป็นระยะ"
>>> > "จนเมื่อปลายปีที่แล้วเราตั้งใจไว้ว่า ทำงานเหนื่อยมาทั้งปี
>>> >ไปเที่ยวฮ่องกงกันดีกว่า แต่พี่โจ้มีอาการท้องเสียไม่หยุด
>>> >ร่างกายอ่อนเพลียมาก
>>> >จุ๊บพาพี่โจ้ไปหาหมอ หมอคลำที่ท้อง ปรากฏว่าตับโต พออัตราซาวนด์
>>> >พบก้อนเนื้อที่ตับประมาณ 10 เซนติเมตร
>>>ถ้าเทียบกับเนื้อที่ตับที่มีอยู่
>>> >16
>>> >เซนติเมตร ถือว่าค่อนข้างใหญ่
>>> >หมอบอกว่าเป้นมะเร้งอยู่ในระยะที่ไม่มากไปไม่น้อยไป
>>>
>>> >สันนิษฐานว่าเป็นมาเกือบปี
>>> >แต่ไม่ถึงกับต้องให้คีโม
>>>ซึ่งพี่โจ้ไม่อยากรักษาด้วยคีโมบำบัดอยู่แล้ว
>>> >ความที่เขาเป็นโรคตับอักเสบอยู่ก่อนแล้ว
>>> >หมอจึงไม่กล้าเสี่ยงตัดตับให้ทันที
>>> >กลัวอาการจะทรุดหนักกว่าเดิม
>>> >ต้องสกัดตัวมะเร็งให้ฝ่อลงก่อนจึงค่อยตัดชิ้นเนื้อที่เสียออก"
>>> > "เราทั้งสองคนยืนรับฟังประโยคนั้นด้วยกัน ใจพี่โจ้สุดยอดมาก
>>> >ถามหมอเลยว่าผมจะอยู่ได้อีกกี่เดือน ถ้าอยู่ได้ไม่นาน
>>> >ผมจะใช้ชีวิตอยู่กับแฟนให้เต็มที่ หมอบอกว่า "สู้ได้ครับคุณโจ้"
>>> >ขณะที่จุ๊บร้องไห้ รับไม่ได้ พี่โจ้กอดจุ๊บ บอกว่าห่วงหนู
>>> >จุ๊บบอกว่าไม่ต้องห่วง "เราจะอยู่ด้วยกันจนวันตาย ถ้าที่รักตาย
>>> >หนูจะตายตามไปด้วย เราจะจับมือเดินไปด้วยกัน" พี่โจ้ร้องไห้ บอกว่า
>>> >"ชีวิตจริงทำอย่างนั้นไม่ได้ อยู่เพื่อสานฝันให้พี่
>>> >ถ้าหนูบอกว่าพี่ไม่เป็นอะไร
>>> >พี่ก้อจะไม่เป็นอะไร"
>>> > "พี่โจ้อยู่โรงพยาบาล
>>>3
>>> >วันจากบ้านที่เตรียมไว้เป็นเรือนหอก้อใช้เป็นที่พักฟื้นของพี่โจ้
>>> >ตอนนั้นจุ๊บย้ายมาอยู่ด้วย ไม่แคร์แล้วว่าต้องแต่งก่อนไหม
>>> >คุณพ่อคุณแม่พี่โจ้มาจากเชียงใหม่อยู่ดูแลด้วย
>>> >เอฟเฟ็คท์จากฤทธิ์ยาทำให้พี่โจ้ผอมลง เหนื่อยง่าย ผมร่วงเล็กน้อย
>>> >แม้อากู๋-ไพบูลย์ พี่ฉอด-สายทิพย์ และพี่ไก่-สมพล
>>> >จะให้หยุดรักษาตัวก่อน
>>> >แต่ความที่เขาทำงานมาตลอดก้อแอบไปอัดสปอตสั้นๆบ้าง
>>>อัดเกมวัดดวงบ้าง
>>> >ยังขำๆฮาๆได้ ทุกคนจึงเชื่อว่าเขาต้องหาย"
>>> > "ระหว่างนั้นพี่โจ้ไปตรวจเช็คอาการและทานยาตามปกติ
>>> >เขาบอกว่าอย่างไรมะเร็งก้อไม่เล็กลงหรอก
>>> >ขณะที่จุ๊บยังหวังว่าพี่โจ้ต้องหายอยู่ทุกเวลา ทุกนาที
>>> >หมอทางเลือกที่ไหนดี
>>> >จุ๊บพาไปรักษาทุกที่
>>> >ขณะเดียวกันเราก้อใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
>>> >พระที่ไหนศักดิ์สิทธิ์ จุ๊บตามไปไหว้อีก ตระเวนทำบุญ 9
>>>วัดเกือบทุกวัน
>>> >ปล่อยปลาเยอะมาก แต่ความที่พี่โจ้เป็นมาก
>>>พอเข้าเดือนที่สอง
>>> >อาการเริ่มทรุดลง
>>> >แน่นท้องทานข้าวได้น้อยลง เพราะตับทำงานแย่ลง
>>> >มีภาวะน้ำท่วมปอดและหัวใจร่วมด้วย
>>> >ต้องไปให้หมอเจาะเอาน้ำออก เขาเริ่มเดินไม่ถนัด
>>> >จากที่เคยไปทำบุญด้วยกันก้อเริ่มอยู่บ้านดูทีวี
>>> >จุ๊บไม่อยากให้เขาดูทีวีมาก
>>> >เพราะถ้าสมองรับคลื่นกระแสไฟฟ้ามากๆ จะไม่ดีกับคนเป็นมะเร็ง
>>> >เขาก้ออ่านหนังสือ
>>> >"เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน" บอกอ่านแล้วจะได้ปลง"
>>> > "จุ๊บไหว้พระทุกวัน ขอให้สิ่งศักดิ์คุ้มครอง
>>> >ถ้าหากถึงวันที่ที่ต้องแลกชีวิตกันจริงๆ ก้อขอให้เอาจุ๊บไปแทน
>>> >เพราะถ้าพี่โจ้อยู่ยังทำอะไรให้กับคนรอบข้างอีกเยอะ จุ๊บยอมเสียสละ
>>>แขน
>>> >ขา
>>> >หัวใจ ตับ หรืออะไรก้อได้ ขออย่างเดียวให้ได้มองหน้าพี่โจ้
>>> >ได้กอดเขาไปนานๆ
>>> >พยายามม่ร้องไห้ให้พี่โจ้เห็น แต่...บางครั้งก้อห้ามใจตัวเองไม่ได้
>>> >เขามักบอกว่า...ร้องไห้อีกแล้ว
>>>เดี๋ยวก้อร้องด้วยเลย
>>> >จุ๊บบอกว่าร้องเพราะ...ความปลื้มปิติว่าที่รักจะหายแล้ว....ดีใจว่าสิ่งมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้"
>>> > "ไม่มีปาฏิหาริย์.....ไม่มีความมหัศจรรย์....ล่วงเข้าเดือนที่สาม
>>> >พี่โจ้เริ่มทานข้าวไม่ได้ ตัวซีด เหนื่อยหอบ จุ๊บพาไปหาหมอ
>>> >คิดว่าให้เลือด
>>> >น้ำเกลือแล้วก้อกลับบ้าน แต่....หมอส่งตัวพี่โจ้เข้าห้องไอซียู
>>> >สวนท่อเพื่อฟอกเลือด เอาของเสียออก สามวันแรกพี่โจ้ยังร่าเริง
>>> >พยาบาลบอกว่าพี่โจ้สุภาพมาก ไม่เอะอะ โวยวายหรืออาละวาดดึงสายออก
>>> >จากวันนั้นด้วยฤทธิ์ยา พี่โจ้มีอาการ สะลึมสะลือ พูดได้เป็นคำๆ
>>> >จนกระทั่ง..ไม่รู้สึกตัวเลย
>>>จุ๊บขออนุญาตหมอเข้าไปนอนเฝ้าในห้องไอซียู
>>> >จับมือเขาไว้ตลอดเวลา...กอด...หอม....สวดมนต์ให้ฟัง
>>> >เพราะอย่างไรก้อมีความหวังว่าพี่โจ้ต้องหาย...ตกค่ำความดันพี่โจ้ค่อยๆตกจาก
>>> >100
>>> >มาอยู่ที่ 68 ขณะที่ระดับของออกซิเจนในเลือดอยู่ที่ 68
>>>
>>> >ซึ่งถือว่าโคม่าแล้ว
>>> >แต่หัวใจเขายังเต้นอยู่"
>>> > "ขณะนั้น พวกญาติๆ เริ่มลูบหัวพี่โจ้สั่งลากัน
>>> >จุ๊บทนเห็นภาพนั้นไม่ได้...
>>> >"อย่าพูดแบบนั้น...อย่าพรากคนรักไปจากจุ๊บ..." จุ๊บกอดพี่โจ้แน่น
>>> >กราฟหัวใจของพี่โจ้กลับเต้นขึ้นมาใหม่ถึง 300
>>>แต่หลังจากนั้นแป๊ปเดียว
>>> >กราฟหัวใจก้อตกไปที่ศูนย์........จุ๊บกรี๊ดเหมือนคนบ้า...ไม่ยอมกลับบ้าน...ร้องไห้จะตามไปนอนกับพี่โจ้ในห้องเย็น
>>> >พี่สาวบอกว่ากลับบ้านเถอะ เรียกโจ้กลับบ้านด้วย
>>> >แม้ตัวไม่อยู่แต่วิญญาณเขายังอยู่
>>>ก่อนเข้าบ้านจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทาง
>>> >ขอให้พี่โจ้เข้าบ้านด้วย"
>>> > "วันรดน้ำศพ จุ๊บร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด
>>> >ผู้ใหญ่เข้าใจถึงความรักเรา
>>> >แนะนำว่าให้เอาขี้เถ้าทำตำหนิไว้ เผื่อเจอหน้ากันจะได้จำหน้าได้
>>> >จุ๊บทำตามแล้วสวมแหวนให้ จับมือพี่โจ้ขึ้นพนมร่วมกัน บอกว่า
>>> >"สัญญาน่ะว่าชาติหน้าเกิดมาจะรักกันอีก
>>>และอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า
>>> >อย่าให้โรคภัยไข้เจ็บมาพรากเราจากกันอีก" วันเผาศพ
>>>จุ๊บร้องไห้จนตาช้ำ
>>> >วินาทีที่ไปส่งพี่โจ้ไม่รู้จะมีคำพูดอะไรบรรยายความรู้สึกได้มากกว่าคำว่า
>>> >"สาหัสทรมาน" พี่ฉอดกอดจุ๊บบอก "พี่เขาไปดีแล้ว"
>>> >จุ๊บตะโกนไปอย่าไม่รู้ตัวว่า
>>> >"อย่าให้เขาเอาพี่โจ้ของเราไป" แล้วก้อเป็นลม ถึงเวลาเก็บกระดูก
>>> >สียงพระสวดบังสุกุลตายแล้วต่อด้วยบังสุกุลเป็นดังอยู่ข้างๆ
>>>จิตใจดีขึ้น
>>> >ไม่ร้องไห้ รู้สึกว่าพี่โจ้ตายไปเดี๋ยวก้อมาเกิดใหม่"
>>> > "ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้
>>> >ความทรงจำทุกอย่างที่มีกับพี่โจ้กำลังฆ่าจุ๊บ....เพราะทุกอย่างที่เคยมีพี่โจ้ทั้งนั้น
>>> >ออกจากบ้านไปได้แค่หน้าปากซอย
>>> >ยิ่งเห็นพี่สาวกับพี่เขยไปเที่ยวกันแล้วยิ่งสะเทือนใจ
>>> >เพราะเมื่อก่อนพี่โจ้พาจุ๊บไปกินข้าว เสาร์อาทิตย์ไปเดินจตุจักร
>>> >ทุกวันจุ๊บทำกับข้าวรอพี่โจ้กลับจากที่ทำงาน ทานข้าวเสร็จไปดูหนัง
>>> >แต่ตอนนี้เหมือนรออะไรอยู่ไม่รู้
>>>ไม่มีจุดหมาย"
>>> > "ทุกคืนจุ๊บต้องกินยานอนหลับอย่างแรง แต่ทุกๆตีสามต้องตื่น
>>> >มีความรู้สึกเหมือนถูกสัมผัสเบาๆที่ปลายเท้า
>>> >เชื่อว่าต้องเป็นพี่โจ้แน่ๆ
>>> >เพราะเขาชอบตื่นมาดูบอลแล้วก้อหอมแก้มบอกรักน่ะ
>>> >ตั้งแต่นั้นความทุกข์จึงกลายเป็นความสุข...กับการตื่นตีสามและรอคอยตอนเช้า
>>> >เพื่อจะได้ใส่บาตรให้พี่โจ้
>>> >สิ่งเหล่านี้ช่วยเยียวยาจิตใจให้รู้ว่าพี่โจ้ยังอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา
>>> >ทุกวินาทีที่จุ๊บทำอะไรจะเรียกพพี่โจ้ตลอด
>>> >มีบอลก้อเอาอัฐิมาตั้งดูทีวีด้วยกัน
>>> >บางทีก้อคิดว่าทำไมต้องทำแบบนี้ นั่งคุยกับรูป..กับอัฐิ...
>>> >แต่นี้คือความจริงที่ต้องเผชิญ แม้ขณะนี้ญาติๆ
>>>จะมาอยู่เป็นเพื่อน
>>> >แต่สักวันทุกคนต้องแยกย้ายกับไปดำเนินชีวิตตามปกติ
>>> >เหลือจุ๊บที่ต้องอยู่บ้านนี้เพียงคนเดียว
>>> >เพราะฉะนั้นต้องพยายามทำตัวให้ชินกับการใช้ชีวิตแบบนี้
>>> >แต่จะไม่พยายามทำใจเด็ดขาดว่าพี่โจ้ไม่อยู่แล้ว"
>>> > "ตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่โจ้ไม่คิดว่าตัวเองจะไปเร็วขนาดนี้
>>> >จนไม่ทันได้เตรียมอะไรไว้ให้ มีแต่บ้านหลังนี้กับคอนโด และรถ
>>> >ระหว่างเราจะเป็นความฝันที่ร่วมสร้างด้วยกันเสียส่วนมาก
>>> >ซึ่งจุ๊บต้องสานต่อ
>>> >พี่โจ้รักพ่อแม่มาก ตั้งใจว่าจะรับหน้าที่เลี้ยงดูพ่อแม่พี่โจ้แทน
>>> >โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัท มหัศจรรย์งานโชว์
>>> >แม้จุ๊บจะทำได้ไม่ดีเท่าที่ตอนที่พี่โจ้อยู่....แต่ต้องทำต่อไป..."
>>> >
>>> >
>>> >"ไม่อยากให้พี่โจ้เป็นแค่ความทรงจำแล้วสักวันก้อจางหาย....อยากให้พี่โจ้เป็นความรู้สึกดีๆที่อยู่ใกล้ๆทุกๆคน...ตลอดไป......"
ตำนานความรัก..ดีเจโจ้
-
- Verified User
- โพสต์: 2032
- ผู้ติดตาม: 0
ตำนานความรัก..ดีเจโจ้
โพสต์ที่ 3
อืมอ่านดู
ด้านนึงก็ซึ้งดีนะ โรแมนติคลิซิ่ม
อีกด้านก็น่าสงสาร ทานน้ำต้มผักหวานๆจนเลี่ยน
คนดีๆ ทำไมจากไปเร็วจัง
สะท้อนกลับตัว ถ้าต้นปีผมไม่ได้ป่วยเป็น ตับอักเสบชนิดไม่ร้ายแรง
ป่านนี้ ก็คงไม่ได้มานั่งพิมพ์คอมแล้ว
สาธุ นี่แหละชีวิต
ด้านนึงก็ซึ้งดีนะ โรแมนติคลิซิ่ม
อีกด้านก็น่าสงสาร ทานน้ำต้มผักหวานๆจนเลี่ยน
คนดีๆ ทำไมจากไปเร็วจัง
สะท้อนกลับตัว ถ้าต้นปีผมไม่ได้ป่วยเป็น ตับอักเสบชนิดไม่ร้ายแรง
ป่านนี้ ก็คงไม่ได้มานั่งพิมพ์คอมแล้ว
สาธุ นี่แหละชีวิต