Fw: mail เตือนภัย และ เรื่องที่น่าสนใจ.....

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

Fw: mail เตือนภัย และ เรื่องที่น่าสนใจ.....

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมได้รับ Fw: mail  เตือนภัย หรือ เรื่องน่าสนใจอยู่บ่อย ๆ จึงขอนำลงมาเล่าสู่กันฟังครับ...

ระวัง ภัยจาก ห้องน้ำปั๊ม!!



ระวังห้องน้ำในปั้มและรถที่ขับตามมา
ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใย โปรด Fw:
ต่อให้กับคนที่ท่านรักและห่วงใยต่อไป
สัตว์โลกทั้งหลายพึงตั้งอยู่บนความไม่ประมาท
ความตายอยู่รอบตัว
เขาเคยคิดว่าภาพข่าวอาชญากรรมที่มีให้เห็นบนน.ส.พทุกวันเป็นเรื่องไกลตัว
จนกระทั่งกลางดึกคืนหนึ่ง
ในห้องน้ำของปั๊มน้ำมันที่เปิดไฟฟ้าสว่างไสว
วิชชุ เศรษฐกนก ศิลปินฝึกหัดของบริษัท
Aratist ในเครือแกรมมี่กรุ๊ป
จึงตระหนักว่า  ไม่ว่าใครก็มีโอกาสตกเป็นเหยื่อของอาชญากรได้พอๆกัน


"...วันที่เกิดเหตุผมไปคุยเรื่องงานดนตรีกับพวกเพื่อน ๆ และพี่ ๆ
ที่พรีเมียร์พระราม 9 คุยเสร็จเกือบตีสาม
ปกติก็ไม่ได้กลับดึกขนาดนั้น
แต่วันนั้นคุยกันค่อนข้างซีเรียสเลยใช้เวลานาน
คุยเสร็จต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน
ผมขับรถเกือบจะถึงบ้านแล้ว
ผ่านปั๊มแห่งหนึ่งก็เลยแวะเข้าไป จริง ๆ
แล้วไม่ถึงกับอยากเข้าห้องน้ำขนาดทนไม่ได้
แต่อยากซื้อขนมกับ ไอศกรีมไปกินที่บ้านมากกว่า
ตอนนั้นไม่มีรถคันอื่นเข้ามาเติมน้ำมันเลย
ผมขับไปจอดหน้ามินิมาร์ทเข้าไปซื้อของเสร็จ
คิดว่าเข้าห้องน้ำล้างหน้าหน่อยดีกว่า
ก่อนจะเข้าห้องน้ำ ก็เดินไปล็อครถก่อน
ห้องน้ำของปั๊มอยู่ข้างหลังมินิมาร์ท
ไม่มีใครในห้องน้ำเลย
แต่ไฟสว่างมากเพราะเป็นไฟนีออน
กำลังจะรูดซิปกางเกงก็ได้ยินเสียงตึง...
เป็นเสียงคนเดินเข้ามา
พอเอี้ยวตัวไปมองก็เห็นปืนจ่ออยู่ตรงหน้า
ความรู้สึกแรกคือไม่อยากเชื่อว่าถูกปล้น
แต่พอได้สติก็รู้ว่านี่ของจริง...
จังหวะนั้นมันเร็วมาก
พอผมเอี้ยวตัวไป
เห็นคนเดินตามหลังมาอีกสองคน
คนถือปืนก็ขึ้นลำปืน
แล้วพูดด้วยเสียงดุ ๆ
ว่า... ถ้ามึงไม่อยากตายหันหลังไป พอผมหันกลับ
เขาก็ผลักผมกระเด็นไปติดกำแพงห้องน้ำ
แล้วเอาด้ามปืนตบที่ท้ายทอยซ้อนกันหลายครั้ง
ผมบอกเขาว่า....พี่อยากได้อะไร..เอาไปเลยหวังว่าเขาคง
จะไม่ทำอะไรร้ายแรง
แต่ปรากฎว่าเขาไม่สน  ทุบเอาอีก...
แล้วอีกคนก็เข้ามาจับมือผมไปไพล่หลัง
ได้ยินเสียงแกะเทปกาวดังแควกก่อนจะเอาเทปนั้นมัดมือผมไว้พอมัดเสร็จ
ก็จับตัวผมหันมา
จากนั้นก็ต่อยที่ท้องผมอย่างแรง
หมัดเดียวแต่จุกมาก
จนผมทรุดลงไปนอนตัวงออยู่กับพื้น
ต่อจากนั้นเขาก็จับขาผมรวบให้นั่งบนพื้น
แล้วทำท่า เหมือนจะเอาเทปมามัดที่เท้า
แต่เปลี่ยนใจเป็นมาพันที่หน้าก่อน
เริ่มจากปิดตา ปิดปาก
ตอนปิดปากเขาปิดจมูกไปด้วย
ผมพยายามร้องว่าหายใจไม่ออก
แต่เสียงมันดังออกมาแค่อือๆเท่านั้น
โชคดีว่าพันไม่แน่นมากยังมีช่องเหลือให้หายใจได้
หลังจากนั้นมันก็เอาเทปมามัดเท้าต่อ
ก่อนค้นตัวเอากุญแจรถไป
แล้วทุกอย่างก็เงียบ
ตอนแรกผมคิดว่าพวกเขาคงทิ้งผมไว้
เอาแต่รถไปอย่างเดียวรออีกเดี๋ยวค่อย ๆ
กลิ้งออกไปหาคนช่วยก็ได้
แต่ยังไม่ทันจะโล่งใจเลย
ก็รู้สึกว่าตัวเองถูกยกลอยขึ้น
ตอนนั้นตกใจสุดขีดเลย
ตกใจกว่าตอนเห็นปืนอีก
เพราะคิดว่าคราวนี้คงต้องถูกเอาไปยิงทิ้งแน่
ผมดิ้นสุดชีวิตเลยโดนอัดหรือเตะไม่รู้แน่เข้า
หลังจากนั้นมันไม่เชิงว่ามีสติตลอด
มันกึ่งรู้สึกตัวกับไม่รู้สึกตัว
เนื่องจากถูกมัดตาเอาไว้
ทำให้ไม่รู้ว่าเค้าอุ้มไปไหน
รู้สึกว่าหลังแตะอะไรสักอย่าง
คิดว่าน่าจะเป็นรถเพราะพอวางเสร็จรถก็ออกตัวตอนนั้นนึกถึงพ่อแม่....
ท่านจะอยู่อย่างไร
เพราะผมเป็นลูกคนเดียว
แล้วก็นึกถึงพระปลงว่าท่าจะไม่รอดรถวิ่งไปได้ซักพักก็หยุด
รู้สึกตัวว่าถูกยกลอยขึ้น
ก่อนจะถูกโยนโครมลงไปที่หญ้าคาดว่าคงเป็นข้างทางที่ไหนซักแห่ง
กลั้นใจว่าจะโดนอะไรอีกไหม
รู้สึกว่าจะถูกเตะเข้าที่กลางลำตัวอีกสองครั้ง
จากนั้นก็ได้ยินเสียงรถขับออกไป.. "

เขาคอยจนแน่ใจว่าพวกนั้นไปแล้ว
แล้วก็พยายามแกะเทปแล้วตะกายไปขอความช่วยเหลือ
มีคนขับรถผ่านมา ช่วยเขาพาไปส่ง
ร.พ. ไปนอนไอ.ซี.ยู 1 คืน
เค้าบอกว่าพ่อแม่เคยเตือนแล้วว่าการขับรถกลับบ้านดึก
ให้ระวังคนขับรถมาชนอาจเป็นโจร.............
คน
ๆนี้โชคดีกว่าหลายคนที่เค้ายังกลับไปหาพ่อแม่ของเค้าได้...โลกนี้มันม
ีทั้ง
เรื่องที่ดีงาม แล้วก็เรื่องที่ไม่ดี
มันเป็นโลกแห่งความจริง
ขอให้ระวังตัวอย่าชะล่า
หลาย ๆ คนคิดว่า... ไม่เป็นไรแค่นี้เอง แต่แค่นี้เองนั้น
มันเท่ากับเราได้เอาตัวของเราทั้งชีวิตเข้าไปเสี่ยง
ซะแล้วถึงแม้จะไม่ห่วงตัว
ก็ขอให้คิดถึงคนที่บ้านคนที่เป็นห่วงเราด้วยละกัน.
ป.ล. ถ้าเป็น ญ.ก็อาจจะเสีย ทั้งกายทั้งใจ
ส่งต่อให้คนดีๆด้วย
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

Fw: mail เตือนภัย และ เรื่องที่น่าสนใจ.....

โพสต์ที่ 2

โพสต์

              ภัยร้าย..จากอาหาร & เครื่องดื่ม..

Subject: Fw: ผู้หญิงควรอ่าน(แม็คโดนัล... ที่โตคิวเอง)


> > >
> > > ผู้หญิงควรอ่าน(แม็คโดนัล... ที่โตคิวเอง)]
> > >
> > >
> > > >ส่งต่อมาอีกที
> > > >
> > > > >> ใกล้ตัวนะเนี่ย
> > > > >>
> > > > >>
> > > > >> ผู้หญิงควรอ่าน(แม็คโดนัล... ที่โตคิวเอง)
> > > > >>
> > > > >> อันนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับแฟนผมเองครับ
> > > > >> คือเมื่อวานนี้ผมกับแฟนได้นัดเจอที่ร้าน mc' donaleสาขา Tokyu
> > > > >> (บอกชื่อร้านคิดว่าน่าจะไม่เป็นอะไรครับ)
> > > > >> แฟนผมก็ได้สั่งแฮมเบอร์เกอร์ และชามะนาวมา
> > > > >> แฟนผมได้หยิบหลอดจากในกล่อง" ออกมา
> > > > >> จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตากิน
> > > > >> บวกกับอ่านหนังสือไปด้วย (เธอยังยืนยันอีกด้วยว่า
> > > > >>ไม่ได้ลุกจากที่ไปไหน)
> > > > >> เมื่อผมไปถึงก็สังเกตว่ามีคนนั่งข้างๆ ถัดไปอีกสองตัว  
>>>>>>>>(ที่นั่งเป็นโต๊ะยาวแบบนั่งรวม) ก็ไม่ได้ติดใจอะไร
> > > >>>>ผมก็กินน้ำที่เหลืออยู่ในแก้วสองอึก
> > > > >> จากนั้นผมก็พาแฟนผมไปกินพิซซ่า

>>>> > > >เมื่อจะออกจากร้านผมก็สังเกตว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ หายไปไหน
> > > > > >ทั้งๆที่ก่อนหน้าที่ผมเข้าร้านไป
> > > > > >แฮมเบอร์เกอร์ของพวกนี้เค้ายังเหลือเต็มชิ้น
> > > > >>
> > > > >> และระหว่างทางผมก็ดุเธอว่าทำไมเดิน
> > > > >> ไม่ตรง เดินเอียงไปเอียงมา คล้ายคนเมา
> > > > >> เค้าเลยบอกกับผมว่าคงเป็นความดันต่ำ
> > > > >> เอ้า..
> > > > > >ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเดี๋ยวก็คง หาย เลยไปทานพิซซ่ากัน
> > > > >> ทานไปได้ไม่ถึงครึ่งแฟนผมไม่ไหวแล้วครับ
> > > > >> น็อกไป(สลึมสลือ)
> > > >ส่วนตัวผมเองก็มึนๆนิดหน่อย
> > > > >> แต่ก็ยังรู้ตัวเองดี ก็ได้แต่คิดในใจว่าเกิดอะไรกับเรา
> > > > >> หลังจากผมปั่นการกินเสร็จ (เสียดาย)
> > > > >> ก็หิ้วปีกแฟนผมไปขึ้น taxi กลับบ้านทันที
> > > > >> เมื่อถึงบ้านแม่เค้าซักว่ามีอะไรแปลกๆไหม
> > > > >> แฟนผมก็เล่าว่า
> > > >ก่อนหน้าที่ผมจะไปถึง
> > > > >> มีพนักงานแม็คเดินมาถามว่า
> > > > >>
> > > > >> "รออะไรอยู่หรือครับ" เน้น นะครับว่าถามว่า
> > > >"รออะไร" ไม่ใช่
> > > > >> "อาหารที่สั่งครบหรือยัง"
> > > > >> ซึ่งผมว่านี่เป็นอีก 1จุดที่
> > > > >> ผิดปกติจากร้าน
> > > >Mc'donale เพราะผมจำได้ว่าจะ
> > > > >> ไม่เคยมีใครมาถามอะไรเช่นนี้
> > > > >> แฟนผมก็เล่าต่อว่า
> > > > >> เค้าตอกกลับอะไรไปซักอย่างไป
> > > >
> > > > >> พนักงานคนนั้นก็หายไป
> > > > >> เมื่อแฟนผมตื่นมาเช้า
> > > > >> เลยตั้งแต่ร้านพิซซ่า แค่จำได้ลางๆว่าขึ้น taxi ไป
> > > > >> ตื่นมาก็เช้าแล้ว
> > > > >> ขณะนี้กำลังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้น้ำเกลือขับไล่สารกล่อมประสาทที่
> > > >ได้รับครับ
> > > > >>
> > > >อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องเตือนใจเพื่อนๆครับ
> > > > >> ว่าปัจจุบันนี้สังคมช่างน่ากลัวเหลือเกิน
> > > > >>
> > > > >> ผู้หญิงทุกคนครับ
> > > >ถ้าเป็นไปได้จะไปไหน
> > > > >> กินอะไรต้องระวังตัว
> > > > >> หรือไม่ก็มีเพื่อนที่ไว้ใจได้ไปด้วยนะครับ
> > > > >>
> > > >ผมยังไม่ทราบเลยว่าถ้าผมไปช้ากว่านี้
> > > > >> จะเกิดอะไรขึ้น
> > > > >> ขอบคุณครับ...
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

Fw: mail เตือนภัย และ เรื่องที่น่าสนใจ.....

โพสต์ที่ 3

โพสต์

                                ภัย..จากการ  เติมน้ำมัน

> >>>>> >> >> >> > > ถูกต้องแล้วครับ ไม่ใช่เฉพาะปั๊ม JET เท่านั้น หลายๆ
> >>>>> >> >> >> > > ปั๊มก็เป็นเหมือนกัน
> >>>>> >> >> >> > > วิธีการเติมโดยไม่ให้ถูกโกง
> >>>>> >> >> >> > > 1. อย่าขี้เกียจ
> >>>>> >>ถ้าเป็นไปได้ให้ลงไปดูด้วยทุกครั้ง
> >>>>> >> >> >> > > 2. ถ้าขี้เกียจลงก็จงจอดในลักษณะที่เราเห็นตัวเลขชัดเจน
> >>>>> >> >> >> > > 3. ถึงแม้ว่าเด็กปั๊มรีเซตแล้วก็ตาม
> >>>>> >> >>ก็ยังมีเทคนิคขี้โกงตามมาอีก
> >>>>> >> >> >> > > 4. วิธีโกงที่ว่าคือ ถ้าเบิ้ลงวงจ่ายน้ำมันติดกันเร็วๆ 2
> >>>>> >> >>ครั้ง
> >>>>> >> >> >> > > ตัวเลขจะกระโดดขึ้นไปประมาณ 30-50
> >>>>>บาท
> >>>>> >> >> >> > >
> >>>>> >> >> >> >
> >>>>> >> >> > ดังนั้นจงอย่าละสายตาจนกว่าตัวเลขเริ่มวิ่งแล้ว
> >>>>> >> >> >> > >
> >>>>> >> >> >> > > ใครที่ชอบเติมน้ำมันปั๊ม
> >>>>> >> >> >>JET โปรดอ่านทางนี้.. นี่คือเรื่องจริง
> >>>>> >> >> >> > > ที่เกิดขึ้น ปั๊มน้ำมัน JET สาขาประตูน้ำพระอินทร์
> >>>>> >> >> >>(ข้างบริษัทมินิแบ)
> >>>>> >> >> >> > > ดิฉันกำลังจะเดินทางไปต่างจังหวัด
> >>>>> >> >> >> > > แต่เผอิญว่าน้ำมันในถังเหลือน้อยเต็มที
> >>>>> >>จึงเลือกปั๊มน้ำมัน
> >>>>> >> >>JET
> >>>>> >> >> >> > > สาขาประตูน้ำพระอินทร์ (ข้างบริษัทมินิแบ)
> >>>>> >> >> >> > > เพราะมั่นใจในคุณภาพอย่างที่โฆษณาว่าเป็นระดับสากล
> >>>>> >> >> >> > > เมื่อมาถึงปั๊มน้ำมัน จึงแจ้งเด็กปั๊มว่า
> >>>>>เติมดีเซล 500
> >>>>> >>บาท
> >>>>> >> >> >> > > เวลาผ่านไปไม่ถึง 2 นาที
> >>>>> >> >> >> > > เด็กปั๊มบอกเสร็จแล้วครับ พร้อมกับขอรับเงิน ตอนนั้นเรา
> >>>>> >> >> >>(ดิฉันกับแฟน)
> >>>>> >> >> >> > > ก็สงสัยว่าทำไมถึงไวมาก
> >>>>> >> >> >> > > แต่ก็จ่ายผ่านบัตรเครดิต เมื่อเด็กปั๊มนำบัตรมาคืน
> >>>>> >> >> >>
> >>>>> >> >> > > พร้อมกับเซ็นเรียบร้อยแล้ว
> >>>>> >> >> >> > > พอจะออก สตาร์ทรถ ปรากฏว่าน้ำมันไม่มี
> >>>>> >> >> >>น้ำมันในถังยังตกเกเหมือนเดิม
> >>>>> >> >> >> > > เราโมโหมาก
> >>>>> >> >> >> > > ลงจากรถไปเรียก ปรากฏว่า เด็กปั๊มคนเดิม (ตัวเล็ก
> >>>>>ๆเตี้ยค่อนข้างดำ)
> >>>>> >> >> >> > >
> >>>>> >> >> >>มาอธิบายว่าทำไมไม่มีน้ำมัน
> >>>>> >> >> >> > > ทั้งที่จ่ายเงินไปแล้ว
> >>>>>ไม่มีคำอธิบายจากเด็กปั๊ม
> >>>>> >>บอกเพียงว่า
> >>>>> >> >> >> > > "ผมเติมแล้ว"จึงให้เด็กปั๊มคนเดิมไปเรียกผู้จัด
> >>>>> >> >> >> > > การมาคุย
> >>>>> >> >> >> > > แต่เด็กปั๊มไปเรียกคนเก็บเงิน (คิดว่าน่าจะเป็นหัวหน้า)
> >>>>> >> >> >>อีกคนมาคุย
> >>>>> >> >> >> > > เขาถามทางเราว่า "เกวัดน้ำมันไม่ขึ้นหรือครับ"
> >>>>> >> >>เราก็เลยตอบไปว่า
> >>>>> >> >> >> > > "เรื่องเกวัดน้ำมันเป็นไปไม่ได้ แต่เรากลัวว่าเติมน้ำมัน
> >>>>>500 แล้วไม่ได้น้ำมันสักหยดมากกว่า"และถ้าไม่เคลียร์
> >>>>> >> >> >> > > เรื่องคงถึงตำรวจ
> >>>>> >> >>เพราะเรามั่นใจว่ารถเรามีน้ำมันเหลือน้อยมาก
> >>>>> >> >> >> > > แฟนที่นั่งรถอยู่กดเครื่องคิดเลข แล้วถามว่า
> >>>>>"เติม500 จะได้น้ำมันกี่ลิตร"
> >>>>> >> >> >> > > เด็กปั๊มตอบว่า ประมาณ 38
> >>>>>ลิตร
> >>>>> >> >> >>แต่ที่แป้นที่เด็กปั๊มจะต้องเคลียร์ก่อน
> >>>>> >> >> >> > > แล้วถึงป้อนข้อมูลเข้าไปใหม่ มันโชว์ เติม 500 บาท แต่ได้
> >>>>>34ลิตร
> >>>>> >> >> >> > > แสดงว่า รถคันก่อนหน้านี้ เติม 500 บาท เหมือนกัน
> >>>>> >> >> >>แต่เติมน้ำมันเบนซิน
> >>>>> >> >> >> > > เลยได้ 34
> >>>>> >> >> >>ลิตร แสดงว่าเด็กปั๊มไม่ได้เคลียร์โปรแกรม
> >>>>> >> >> >> > > แต่ที่น่าสงสัยคือ ทำไมเอาสายเข้าไปที่ถังน้ำมันแล้ว
> >>>>> >> >> >>แต่ไม่มีน้ำมัน
> >>>>> >> >> >> > > แล้วบอกว่าเติมเสร็จแล้ว
> >>>>> >> >> >> > > จุดประสงค์คืออะไร?ถ้ารถของดิฉันมีน้ำมันประมาณครึ่งถัง
> >>>>> >> >> >> > > ใครจะบอกได้ว่าเป็นของใหม่หรือของเก่า
> >>>>> >> >> >>คงต้องจ่ายเงินฟรี?แต่สุดท้าย
> >>>>> >> >>
> >>>>> >>
> >>>>> >> > > เรื่องก็เลยสรุป
> >>>>> >> >>เด็กปั๊มเติมน้ำมันให้ใหม่ 500 บาท แต่โดยดี
> >>>>> >> >> >> > > ไม่งั้นเรื่องคงยาวถึงตำรวจ ปั๊มก็คงเสียชื่อมากกว่านี้
> >>>>> >> >> >> > > มีอีกเรื่องที่คุยกับเพื่อน ๆ หลังเหตุการณ์นี้
> >>>>> >> >> >>บางกรณีที่จ่ายเงินสด
> >>>>> >> >> >> > > มีรถคันก่อนหน้าเรามา สมมติเขาเติม 200 บาท พอเราไปต่อ
> >>>>> >> >> >>เราบอกเติม 300
> >>>>> >> >> >> > > ถ้าไม่สังเกต บางทีเด็กปั๊มไม่เคลียร์โปรแกม เติมต่อจาก
> >>>>>200เป็น300
> >>>>> >> >> >> > > เราจะได้น้ำมันแค่ 100 บาท ประเภทอย่างนี้ ถ้าเป็นเงินสด
> >>>>> >> >> >> > > เข้ากระเป๋าเด็กปั๊มทันที
> >>>>> กรุณาส่งต่อไปหาเพื่อนของคุณ เพื่อจะได้ทันกับคนพวกนี้
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

Fw: mail เตือนภัย และ เรื่องที่น่าสนใจ.....

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ต้องขอระบาย พี่แม็กซ์ครับ :pray:


เรื่องปั๊มผมโดนมา 2 ครั้งแล้ว
อย่างที่พี่แม็กซ์เล่าเลย
พอกลับไปถามก็ทำหน้าไม่รู่ไม่ชี้
ถ้าเขาขอดีๆผมจะให้ อย่ามาโกงกัน
ทุกวันนี้ต้องลงไปดูทุกครั้ง..........คนไทยสมัยนี้.....เฮ้อ......

แต่ผมเคยเจอโกงแบบหน้าหนาเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก
ผมให้เงิน200ก่อนเติมน้ำมัน...พอเติมเสร็จก็เดินมาขอตังค์อีก
คนเดิมละครับ...ผมก็ไม่ยอม......ผู้จัดการก็มาเคลียร์
สุดท้ายตรวจ record รอเกือบชั่วโมง.....มีการเติมจริง
แต่เด็กยืนยันว่าไม่รับตังค์.............ผมก็ยอมๆไป
แต่ผู้จัดการไม่ยอมครับ....เล่นกันเป็นคณะ.....ทำเป็นว่าจะไล่เด็กออก
ผมไม่อยากดูละครต่อ..........ให้ไป200ก็รีบไปและไม่เคยกลับไปอีกเลย

บางคนเดือดร้อนเรื่องเงิน........นิดๆหน่อยๆ200อาจมีค่าสำหรับเขามาก
ไปซื้อยาให้แม่ที่ป่วยก็เป็นได้................ใครจะไปรู้

เรื่องกินข้าวนอกบ้านก็อีกอย่างครับ
พอเก็บบิล........โกงได้โกงดี....ผมจะตรวจทุกครั้ง
ให้น้องอ่านให้ฟัง.....เพราะอ่านไม่ออก
โดนแทบทุกครั้ง..........เกินมาทุกครั้ง
โต๊ะข้างๆมองผมทุกครั้งเหมือนกัน.....ผมไม่อาย
อาหารแพงไม่ว่ากัน.......มีราคาติดอยู่
แต่จับไอ้โน้นไอ้นี่มาใส่...........ไม่ไหว
ทำไมคนเราสมัยนี้เป็นอย่างนี้เนอะ

ผมไม่ได้กินหญ้าครับท่าน.......ฮ่า
:roll:
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

Fw: mail เตือนภัย และ เรื่องที่น่าสนใจ.....

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เกิดมากระเป่าเงินไม่เคยหาย ไม่เคยโดนโกงเล็กโกงน้อยๆไม่เคยโดนอะไรเลย

ที่เจอ ล้วนแล้ว แต่โกงใหญ่ๆ 3 ครั้ง ในรอบ 17 ปี แต่ละครั้งที่โดน แต่งหนังสือได้เลย

ใหญ่มาก ใหญ่จริง

เคยได้ยิน คนพูดคล้ายๆ กับว่า เสียน้อยๆ หนะดีแล้ว

อืม
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

Fw: mail เตือนภัย และ เรื่องที่น่าสนใจ.....

โพสต์ที่ 6

โพสต์

           ภัย..จาก..  การทอนเงิน..


     ที่ซอยละลายทรัพย์พ่อค้าเสกแบงค์พันกลายเป็นแบงค์ร้อยได้


> เรื่องจริงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2549 เวลาประมาณ 11
> โมงกว่าๆ ที่ซอยละลายทรัพย์ แหล่ง
> ชอปปิ้งข้างธนาคารกรุงเทพฯ ที่ใครๆรู้จักดี เหตุเกิดที่ร้านขายเสื้อผ้า
> เด็ก ช่อง B-2 ติดทางเดินห้อง
> แรก วันนั้นเราไปกับพี่ระหว่างเดินอยู่เห็นร้านขายเสื้อผ้าเด็กและมี
> เสื้อเหลืองด้วย จึงจะซื้อไปให้ลูก
> ชาย เมื่อเราเลือกเสื้อได้เสร็จต่อรองราคากัน ถามราคาเท่าไร มัน
> บอกว่า 159 ลดให้ 150 บาท
> เราก็เลยหยิบเงินให้เป็นแบงค์พันหนึ่งใบอยู่ข้างล่างแบงค์ 20 บาท2
> ใบวางทับข้างบนกับเหรียญ10
> บาท ...(ในใจคิดว่าจะให้ทอน 900 บาทพอดีๆ ไม่ต้องมีเศษ...) พอ
> เราส่งให้ไป มันหยิบเงินใส่
> กระเป๋าทันที  แล้วส่งของให้เรา เราเลยบอกมันว่า พี่ๆเงินทอนล่ะ
> มันมองหน้าเราแล้วบอกว่า
> เงินทอนอะไร คุณให้ผมมา 150 บาทพอดีนี่  โอ้โห เรานี่มึนตึบ
> ปวดหัวจี๊ดเลย บอกมันว่า ไม่ใช่
> ฉันให้แบงค์พันกับเศษ 50บาท ก็รอเงินทอนอยู่นี่ไง  มันก็บอก
> ว่า คุณอย่ามั่วน่า ผมคนค้าขาย ไม่ทำ
> อย่านั้นหรอก  เราเลยบอกว่า ใครกันแน่ที่มั่ว ให้ไปชัดๆเมื่อกี้นี้เปิด
> ดูซิ  แล้วมันหยิบเงินออกมาให้
> เราดู ในนั้นมีแบงค์อื่นๆวางซ้อนกันอยู่แต่มีแบงค์พันอยู่ ใบเดียว ซึ่ง
> เราคิดว่าเป็นเงินเราแน่ๆ ....(
> เหมือนมีลางสังหรณ์ เรานับเงินในกระเป๋าก่อนที่จะเข้าร้านเสื้อเด็ก
> นี้...เราจำแม่นเลยว่าในกระเป๋า
> มีแบงค์พัน 5 ใบ กับแบงค์ 20 อีก 3 ใบ ไม่แบงค์อื่นอีก..)...สรุปมัน
> ไม่คืนเงินให้เรา เราเลยบอก
> พี่ว่า ช่างมันคิดซะว่าให้หมามันกิน มันก็ยังทำเฉยทำท่าทองไม่รู้
> ร้อน เราเลยโกรธมากด่าแช่งไปว่า
> ใครเอาเงินฉันไป ขอให้มันฉิบหาย !!! มันยังกล้าตอบกลับมาว่า
> ใครทำมันก็ขอให้ฉิบหายเหมือนกัน
> ...  ดูซิมันยังมีหน้ามาแช่งคนอื่นกลับอีก..เรากับพี่จึงเดินออกกมาเจอ
> กับเทศกิจ เมื่อเราเล่าเรื่องให้
> เค้าฟังจบเทศกิจบอกว่าร้านนี้มีปัญหาประจำเลย..แสดงว่าเราก็ไม่ใช่
> เหยื่อรายแรก..และคงไม่เหยื่อ
> รายสุดท้ายแน่นอน ถามเทศกิจว่าจะเอาเรื่องและทำอะไรได้บ้าง เทศ
> กิจบอกว่าทำอะไรไม่ได้เพราะ
> ไม่มีหลักฐาน....เสียเงินเราเสียดาย..ไม่เท่าเสียรู้เล่ห์กลคนเลวพวก
> นี้  ...ทำอะไรไม่ได้นอกจาก
> ส่งเรื่องนี้มาบอกทุกๆ.ว่าอย่าไปซื้อของร้านนี้อีก..ต้องช่วยกันประนาม
> ขยะสังคมเหล่านี้ให้หมดไป..
> เราคงไม่ใช่เหยื่อรายแรก..แต่อยากให้เราเป็นเหยื่อรายสุดท้ายของ
> ร้านอุบาท์นี้ก็พอแล้ว...
โพสต์โพสต์