พี่หมอประจวบครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
พี่หมอประจวบครับ
โพสต์ที่ 3
ผมอ่านจบไปซัก2รอบครับ เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นแนวของgrahamครับ
แต่มีอยู่2-3จุดที่อ่านแล้วบวกกับความรู้เดิมๆทำให้ได้ข้อสรุป(ส่วนตัว)
ในเรื่องการหาintrinsic valueคือ
ประกอบด้วย2ส่วนครับคือ
1.qualitative คือเลือกบริษัทที่ดี มีปันผลดีสม่ำเสมอ หนี้น้อยๆ ผู้บริหารซื่อสัตย์(คล้ายๆของอจ.นิเวศน์)
2.quantitativeคือ
-------ถ้าบริษัทมีeconomic goodwill คือกำไรมากกว่าปกติของอุตสาหกรรม ใช้dcf
--------ถ้าบริษัทมีกำไรตามปกติของอุตสาหกรรม ใช้book value ที่มีการปรับปรุงให้เหมาะสมแล้วครับ
---------ถ้าบริษัทใกล้เจ๊ง ใช้ liquidation value ครับ
ของgraham มีข้อที่น่าสนใจอีกคือ
--------เค้าว่า working cap.จะมีค่าใกล้เคียงกับ liquidation value แบบหยาบๆ.
--------book value ที่ปรับปรุงแล้วจะเป็นค่าต่ำสุดของintrinsic value
--------p/e เฉลี่ย10ปี เอามาคำนวณกับearning ใหม่คิดค่าp ออกมาเป็นupper limit ของintrinsic value
และถ้าใช้discount ที่เหมาะสมก็จะออกมาเป็นราคาที่มีsafety of margin ครับ
อันนี้เป็นตามหนังสือนะครับ ถ้าเพื่อนๆมีข้อคิดยังไงก็เสริมเข้ามาเลยครับ
แต่มีอยู่2-3จุดที่อ่านแล้วบวกกับความรู้เดิมๆทำให้ได้ข้อสรุป(ส่วนตัว)
ในเรื่องการหาintrinsic valueคือ
ประกอบด้วย2ส่วนครับคือ
1.qualitative คือเลือกบริษัทที่ดี มีปันผลดีสม่ำเสมอ หนี้น้อยๆ ผู้บริหารซื่อสัตย์(คล้ายๆของอจ.นิเวศน์)
2.quantitativeคือ
-------ถ้าบริษัทมีeconomic goodwill คือกำไรมากกว่าปกติของอุตสาหกรรม ใช้dcf
--------ถ้าบริษัทมีกำไรตามปกติของอุตสาหกรรม ใช้book value ที่มีการปรับปรุงให้เหมาะสมแล้วครับ
---------ถ้าบริษัทใกล้เจ๊ง ใช้ liquidation value ครับ
ของgraham มีข้อที่น่าสนใจอีกคือ
--------เค้าว่า working cap.จะมีค่าใกล้เคียงกับ liquidation value แบบหยาบๆ.
--------book value ที่ปรับปรุงแล้วจะเป็นค่าต่ำสุดของintrinsic value
--------p/e เฉลี่ย10ปี เอามาคำนวณกับearning ใหม่คิดค่าp ออกมาเป็นupper limit ของintrinsic value
และถ้าใช้discount ที่เหมาะสมก็จะออกมาเป็นราคาที่มีsafety of margin ครับ
อันนี้เป็นตามหนังสือนะครับ ถ้าเพื่อนๆมีข้อคิดยังไงก็เสริมเข้ามาเลยครับ