SSI จะ Stock ของไปถึงเมื่อไร
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
SSI จะ Stock ของไปถึงเมื่อไร
โพสต์ที่ 2
ก็ผลิตออกมา แล้วขายไม่ได้ไง ก็เลยต้องStock
แย่จริงๆ ไตรมาส1 ราคาดี ก็ปิดเครื่องผลิตซะนี่
พอมาไตรมาส2ผลิตได้ ราคาขายก็ไม่ดีซะแล้ว
ไตรมาส3จะมีผลขาดทุนรึเปล่าจากสต๊อควัตถุดิบราคาสูง
คอยดูไปแล้วกัน ขี้เกียจคิดให้เสียเวลา
ปล.ราคาเหล็กคงขึ้นไปยากเหมือนที่ผ่านมา
แย่จริงๆ ไตรมาส1 ราคาดี ก็ปิดเครื่องผลิตซะนี่
พอมาไตรมาส2ผลิตได้ ราคาขายก็ไม่ดีซะแล้ว
ไตรมาส3จะมีผลขาดทุนรึเปล่าจากสต๊อควัตถุดิบราคาสูง
คอยดูไปแล้วกัน ขี้เกียจคิดให้เสียเวลา
ปล.ราคาเหล็กคงขึ้นไปยากเหมือนที่ผ่านมา
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
-
- ผู้ติดตาม: 0
SSI จะ Stock ของไปถึงเมื่อไร
โพสต์ที่ 3
สต๊อกจนต่ำบาทมั้งคับ ถ้าโชคร้ายคงต่ำสลึง :lovl:
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
SSI จะ Stock ของไปถึงเมื่อไร
โพสต์ที่ 6
แม้ Q2 มีกำไรแต่คาด Q3 สหวิริยาฯอาจพลิกขาดทุน นักวิเคราะห์ลดเป้ากำไรปีนี้ลง 53%
นักวิเคราะห์ปรับคำแนะนำ SSI เป็นขาย พร้อมลดเป้ากำไรปีนี้ลง 53% ระบุ
ไตรมาส 3/48 อาจพลิกเป็นขาดทุนเกิน 100 ลบ. เนื่องจากมีปริมาณสำรองวัตถุดิบจำนวน
มากในราคาที่ถูกจะเป็นปัจจัยที่กดดันให้ Spread ในไตรมาส 3/48 ลดเหลือเพียง 54
เหรียญ/ตัน อีกทั้งดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้น
ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ซีมิโก้ ออกบทวิเคราะห์ SSI ภายหลังประกาศผลประกอบการ
โดยระบุว่ากำไรไตรมาส 2/48 ดีตามคาด แต่ด้วยปริมาณวัตถุดิบที่บริษัทมีอยู่จำนวนมากกว่า 6
เดือนในราคาที่สูง ทำให้แนวโน้ม Spread ในครึ่งหลังปี 48 ไม่สดใส โดยเราคาดว่าไตรมาส 3/48
บริษัทจะมีขาดทุน 123 ล้านบาท ดังนั้นเราปรับลดประมาณการกำไรปี 48 และ 49 ลงจากดิม
53% และ 42% เป็น 2.11 พันล้านบาท (-59%) และ 2.85 พันล้านบาท (+35%) ตามลำดับ และ
ปรับมูลค่าพื้นฐานเป็น 1.13 บาท/หุ้น (PER 7 เท่า) จึงปรับลดคำแนะนำเป็น 'ขาย'
บทวิเคราะห์ระบุว่ากำไรสุทธิ 1.16 พันล้านบาท แต่เป็นผลขาดทุนรายการพิเศษ 95
ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษนี้จะมีกำไรจากการดำเนินงานสุทธิ 1.25พันล้านบาท ลด 14%
จากช่วงเดียวกันปีก่อนเพราะ Spread ที่ลดจาก 158 เหรียญ/ตันในไตรมาส 2/47 เป็น 135
เหรียญ/ตันในไตรมาส 2/48 แต่ดีขึ้นจาก 131 เหรียญ/ตันในไตรมาส 1/48 โดยปริมาณขายเพิ่ม
20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและ 49% จากไตรมาสที่แล้วเป็น 4.63 แสนตัน (เกรดพิเศษ 42%
และเกรดทั่วไป 58%) ภายหลังติดตั้งเครื่องจักรขยายกำลังผลิตแล้วเสร็จในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา
และมีปริมาณผลิต 5.34 แสนตัน คิดเป็นอัตราใช้กำลังการผลิต 53% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการ
ผลิตเพิ่ม (สัดส่วนอัตราสูญเสียในการผลิตเพิ่มจาก 20% เป็น 25% ของค่าใช้จ่ายในการผลิต
เพราะต้นทุน Slab เพิ่ม) ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดจาก 25% ในไตรมาส 2/47 เป็น 15% ในไตรมาส
2/48 แต่ดีขึ้นจาก 12.6% ในไตรมาส 1/48 นอกจากนี้มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มจาก
ปกติ 1.5% ของยอดขายเป็น 2.5% ตามปริมาณส่งออกที่เพิ่ม ภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่ม 82% จาก
ไตรมาสที่แล้ว เพราะมีสินเชื่อระยะสั้นเพื่อการสำรองวัตถุดิบเพิ่มขึ้น
สำหรับอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนเพิ่มจาก 1.1 เท่า ณ มี.ค.48 เป็น 1.38 เท่า ณ มิ.ย.
โดยมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มจาก 21.63 พันล้านบาท เป็น 28.25 พันล้านบาท ซึ่งเป็น
การเพิ่มขึ้นของสินเชื่อระยะสั้นจาก 8.0 พันล้านบาท เป็น 13.62 พันล้านบาท เพื่อการสำรอง
วัตถุดิบเพิ่มขึ้นจาก 6.8 แสนตัน ณ มี.ค.48 เป็น 9.0 แสนตัน ณ มิ.ย.48 ด้วยต้นทุนเฉลี่ย 464
เหรียญ/ตัน (สูงกว่าราคาตลาดโลกปัจจุบันที่ 350 เหรียญ/ตัน) ไว้สำหรับการผลิตในครึ่งหลังปี 48
นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบที่อยู่ระหว่างทางอีก 3.0 แสนตัน
เราคาดว่าปริมาณสำรองวัตถุดิบจำนวนมากในราคาที่ถูกจะเป็นปัจจัยที่กดดันให้ Spread
ในไตรมาส 3/48 ลดเหลือเพียง 54 เหรียญ/ตัน และดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น จึงประมาณการเบื้องต้น
ว่าจะมีขาดทุนจากการดำเนินงานสุทธิ 123 ล้านบาท
ด้วยต้นทุนวัตถุดิบที่บริษัทสำรองไว้จำนวนมากกว่า 6 เดือน ในขณะที่ราคา HRCs ใน
ตลาดโลกยังไม่สดใส และการปรับลดแผนการผลิตจากเดิม 1.35 ล้านตัน เป็น 1.2 ล้านตันในครึ่ง
หลังปี 48 รวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายที่คาดว่าจะเพิ่มตามหนี้สินระยะสั้นเพื่อการสำรองวัตถุดิบ เราจึงปรับ
ลดประมาณการกำไรปี 48 ลงจากเดิม 53% เป็น 2.11 พันล้านบาท และปี 49 ลงจากเดิม 42%
เป็น 2.85 พันล้านบาท
นักวิเคราะห์ปรับคำแนะนำ SSI เป็นขาย พร้อมลดเป้ากำไรปีนี้ลง 53% ระบุ
ไตรมาส 3/48 อาจพลิกเป็นขาดทุนเกิน 100 ลบ. เนื่องจากมีปริมาณสำรองวัตถุดิบจำนวน
มากในราคาที่ถูกจะเป็นปัจจัยที่กดดันให้ Spread ในไตรมาส 3/48 ลดเหลือเพียง 54
เหรียญ/ตัน อีกทั้งดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้น
ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ซีมิโก้ ออกบทวิเคราะห์ SSI ภายหลังประกาศผลประกอบการ
โดยระบุว่ากำไรไตรมาส 2/48 ดีตามคาด แต่ด้วยปริมาณวัตถุดิบที่บริษัทมีอยู่จำนวนมากกว่า 6
เดือนในราคาที่สูง ทำให้แนวโน้ม Spread ในครึ่งหลังปี 48 ไม่สดใส โดยเราคาดว่าไตรมาส 3/48
บริษัทจะมีขาดทุน 123 ล้านบาท ดังนั้นเราปรับลดประมาณการกำไรปี 48 และ 49 ลงจากดิม
53% และ 42% เป็น 2.11 พันล้านบาท (-59%) และ 2.85 พันล้านบาท (+35%) ตามลำดับ และ
ปรับมูลค่าพื้นฐานเป็น 1.13 บาท/หุ้น (PER 7 เท่า) จึงปรับลดคำแนะนำเป็น 'ขาย'
บทวิเคราะห์ระบุว่ากำไรสุทธิ 1.16 พันล้านบาท แต่เป็นผลขาดทุนรายการพิเศษ 95
ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษนี้จะมีกำไรจากการดำเนินงานสุทธิ 1.25พันล้านบาท ลด 14%
จากช่วงเดียวกันปีก่อนเพราะ Spread ที่ลดจาก 158 เหรียญ/ตันในไตรมาส 2/47 เป็น 135
เหรียญ/ตันในไตรมาส 2/48 แต่ดีขึ้นจาก 131 เหรียญ/ตันในไตรมาส 1/48 โดยปริมาณขายเพิ่ม
20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและ 49% จากไตรมาสที่แล้วเป็น 4.63 แสนตัน (เกรดพิเศษ 42%
และเกรดทั่วไป 58%) ภายหลังติดตั้งเครื่องจักรขยายกำลังผลิตแล้วเสร็จในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา
และมีปริมาณผลิต 5.34 แสนตัน คิดเป็นอัตราใช้กำลังการผลิต 53% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการ
ผลิตเพิ่ม (สัดส่วนอัตราสูญเสียในการผลิตเพิ่มจาก 20% เป็น 25% ของค่าใช้จ่ายในการผลิต
เพราะต้นทุน Slab เพิ่ม) ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดจาก 25% ในไตรมาส 2/47 เป็น 15% ในไตรมาส
2/48 แต่ดีขึ้นจาก 12.6% ในไตรมาส 1/48 นอกจากนี้มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มจาก
ปกติ 1.5% ของยอดขายเป็น 2.5% ตามปริมาณส่งออกที่เพิ่ม ภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่ม 82% จาก
ไตรมาสที่แล้ว เพราะมีสินเชื่อระยะสั้นเพื่อการสำรองวัตถุดิบเพิ่มขึ้น
สำหรับอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนเพิ่มจาก 1.1 เท่า ณ มี.ค.48 เป็น 1.38 เท่า ณ มิ.ย.
โดยมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มจาก 21.63 พันล้านบาท เป็น 28.25 พันล้านบาท ซึ่งเป็น
การเพิ่มขึ้นของสินเชื่อระยะสั้นจาก 8.0 พันล้านบาท เป็น 13.62 พันล้านบาท เพื่อการสำรอง
วัตถุดิบเพิ่มขึ้นจาก 6.8 แสนตัน ณ มี.ค.48 เป็น 9.0 แสนตัน ณ มิ.ย.48 ด้วยต้นทุนเฉลี่ย 464
เหรียญ/ตัน (สูงกว่าราคาตลาดโลกปัจจุบันที่ 350 เหรียญ/ตัน) ไว้สำหรับการผลิตในครึ่งหลังปี 48
นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบที่อยู่ระหว่างทางอีก 3.0 แสนตัน
เราคาดว่าปริมาณสำรองวัตถุดิบจำนวนมากในราคาที่ถูกจะเป็นปัจจัยที่กดดันให้ Spread
ในไตรมาส 3/48 ลดเหลือเพียง 54 เหรียญ/ตัน และดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น จึงประมาณการเบื้องต้น
ว่าจะมีขาดทุนจากการดำเนินงานสุทธิ 123 ล้านบาท
ด้วยต้นทุนวัตถุดิบที่บริษัทสำรองไว้จำนวนมากกว่า 6 เดือน ในขณะที่ราคา HRCs ใน
ตลาดโลกยังไม่สดใส และการปรับลดแผนการผลิตจากเดิม 1.35 ล้านตัน เป็น 1.2 ล้านตันในครึ่ง
หลังปี 48 รวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายที่คาดว่าจะเพิ่มตามหนี้สินระยะสั้นเพื่อการสำรองวัตถุดิบ เราจึงปรับ
ลดประมาณการกำไรปี 48 ลงจากเดิม 53% เป็น 2.11 พันล้านบาท และปี 49 ลงจากเดิม 42%
เป็น 2.85 พันล้านบาท
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
-
- ผู้ติดตาม: 0
SSI จะ Stock ของไปถึงเมื่อไร
โพสต์ที่ 8
ผมก็ชอบ ..............
แต่ต้องรอรอบใหม่
แต่ต้องรอรอบใหม่