เชื่อหรือไม่ว่าความพยายามชนะทุกสิ่ง

[boybbcom]

ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น / where there a will there are a way / you success if you really try / ถ้า เอดิสันเลิกความพยายาม 1000 ครั้งแม้สักครั้งในการทดลองหลอดไฟฟ้า เราก็จะไม่มีหลอดไฟใช้ในทุกวันนี้ (เอดิสันทดลองล้มเหลว เป็น 1000 ครั้ง แต่ไม่ล้มเลิกความพยายาม)
หรือ ถ้า พี่น้องวิลเลี่ยม ยอมแพ้ตั้งแต่คนหาว่าบ้า เราก็จะไม่มีเครื่องบินใช้(พี่น้องคู้นี้ฝันว่าคนน่าจะบินได้ แต่ทุกคนหาว่าบ้า) ทั้งหมดข้างต้น เป็นข้อสนับสนุนของความเชื่อที่ว่าความพยายามชนะทุกสิ่ง

แต่ก็มีความเชื่ออีกฝ่ายว่า เรื่องบางเรื่องแม้พยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางสำเร็จ เช่น เชื่อว่าเป็นเพราะโชคชะตาเป็นต้น ไม่ทราบว่ามีความเห็นเรื่องนี้อย่างไรครับ

ท่านเชื่อความคิดไหนมากกว่า?

[CK]

ไม่เชื่อเด็ดขาดครับ ผมคิดอย่างนี้ครับ ว่า

"God, grant me the serenity
to accept the things I cannot change,
courage to change the things I can,
and wisdom to know the differences."

[jaychou]

ไม่เชื่อครับ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุปัจจัย

ที่ว่า "ความพยายามชนะทุกสิ่ง" เป็นประโยคให้กำลังใจคนเท่านั้น

ในอดีต ผู้ที่ใช้ความพยายามชนะทุกสิ่ง พวกหนึ่งเรียกตัวเองว่า Alchemist นักเล่นแร่แปรธาตุ (หนังสือเล่มโปรดของผม) จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่ปรากฏว่าทำตะกั่วให้กลายเป็นทองได้แต่อย่างใด

การแยกแยะให้ออกว่า
สิ่งใดใช้ความพยายามก็เกิดได้
สิ่งใดใช้ความพยายามไปก็เกิดไม่ได้
เป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิต

ท่านประธานยกมาจากบทไหนข้อความที่เท่าไหร่ครับ ผมเคยอ่านแต่หาไม่เจออะ

[boybbcom]

ขออณญาติถามแย้งนะครับ แต่ยืนยันว่าไม่ได้หมายความว่าผมเห็นขัดแย้ง คุณ เจย์ โชวว์ ที่ว่าแยกแยะว่าสิ่งไหนความพยายามทำให้เกิดได้จริงน่ะ เครื่องบิน โทรศัพท์ หลอดไฟ โลกกลม สมัยนั้นไม่น่าจะมีใครคิดนะครับว่าใช้คาวมพยายามแล้วจะสำเร็จ ผมไม่มีเจตนาแย้งนะครับขอโทษจริงๆ เป็นแค่การถามแย้งไม่ใช่การเห็นแย้งนะครับ ต้องขอโทษหากทำให้เข้าใจผิด

[CK]

เป็นข้อเขียนของคนมีชื่อเสียงคนนึงครับ อยู่ในภาพวาด

จำคนเขียนไม่ได้แล้ว (ตั้งกะสมัยมัธยม) แต่ประทับใจในปรัชญาที่ซ่อนอยู่

[CK]

บางอย่าง พยายามให้ตายก็ทำไม่ได้ครับ

บางอย่าง ต้องใช้ความพยายามเท่านั้นถึงจะทำได้

และไม่ใช่ทุกคนทำได้ทุกอย่าง

[คัดท้าย]

โหวดไปแล้วครับ "ไม่เชื่อ" ... ครับ

ความพยายามเอาชนะได้เกือบทุกสิ่ง แต่ไม่ใช่ทุกสิ่ง

[jaychou]

ยกตัวอย่างเรื่องเครื่องบินครับ

ก่อนที่พี่น้องตระกูลไรท์ ที่เป็นช่างซ่อมจักรยานจะประดิษฐ์เครื่องบินจนสำเร็จ ในปี 1903 มีเหตุปัจจัยสำคัญที่ทำให้เครื่องบินบินได้ นั่นคือเครื่องยนต์สันดาปภายใน ที่นิโคลัส ออกุส อ๊อตโต้ ได้ประดิษฐ์ขึ้นในปี 1869 เครื่องยนต์นี้มีแรงม้าต่อน้ำหนักสูงพอที่จะทำให้ปีกและใบพัดที่พี่น้องตระกูลไรท์ออกแบบ สร้างแรงขับและแรงยกได้

หากอ๊อตโต้ไม่ประดิษฐ์เครื่องยนต์นี้ขึ้นมา ลำพังความพยายามของพี่น้องตระกูลไรท์คงไม่ทำให้เครื่องบินบินได้ครับ

เหตุนี้เองครับ ในวงการวิชาการจึงสนับสนุนการวิจัยพื้นฐาน (Basic Research) ให้กว้างขวางออกไปอย่างมาก เพื่อที่จะได้มีองค์ความรู้พื้นฐาน "เผื่อเอาไว้" ที่จะนำมาประกอบเป็นสิ่งประดิษฐ์ต่อไปครับ (แม้จริงๆจะเอามาใช้น้อยมากก็ตาม)

.....ในเรื่องพระมหาชนก พระมหาชนกว่ายน้ำอยู่ 7 วัน 7 คืน ท่านว่ายน้ำอยู่ด้วยความจริงที่ว่า โลกเรามีทั้งน้ำและแผ่นดิน หากกำหนดทิศสักทิศแล้ว ว่ายน้ำตรงไป อย่างไรก็เจอแผ่นดิน ถ้าไม่จมไปเสียก่อน

การแยกแยะให้ออก สรุปได้ว่าต้องใช้ปัญญาไตร่ตรองครับ เป็นเรื่องปัจเจกบุคคลอย่างแน่นอน

[CK]

where there is a will there is a way

but they didn't say which way

[yoyo]

ผมว่าคำว่าทุกสิ่งทำให้การ vote ยากขึ้นครับ
ผมเลยเลือกว่าไม่เชื่อ

[Jeng]

เชื่อว่า ให้พยายามทำ ในสิ่งที่ไม่ต้องพยายามมาก จะสำเร็จ
เช่น พยายามจีบผู้หญิงที่เขารักเรา
พยายาม สอบเข้าวิดวะ ในขณะที่เรียนแล้ว top คณิตศาสตร์
พยายาม สอบเข้าหมอ ในขณะที่ top ชีวะ
หาก เราสอบชีวะ ตก แล้วดันพยายามเข้าหมอ อาจจะเข้าได้ก็จริง แต่เวลาเรียนจะซึมไปเลย เป็นต้น

จงพยายามทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้ดี

[ลุงขวด]

ผมเชื่อครับ คนส่วนใหญ่ ถ้าพยายาม แล้ว ก็ จะชนะทุกสิ่ง......แต่นิยามของ คำว่า พยายาม นี่ พยายามแค่ไหน.......ให้ความรัก ความเข้าใจ แค่ไหน

และสิ่งที่สำคัญ ที่สุด คือ ปัญญา ของคนที่พยายาม.........ถ้าไม่มีปัญญา และ ความพยายามก็ไร้ ค่า..........เชื่อว่า ทุกคน มี ปัญญา แต่จะ ใฝ่คว้า ได้แค่ไหน

[tenkafubu]

ขอบคุณครับ..ผมไม่เคยได้ยินได้อ่านแบบนี้มาก่อนเลย..
แตกต่าง...แตกต่างครับ

[ปรัชญา]

ผมก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่

เคยพยายามแล้วไม่สำเร็จก็มี
แบบที่ไม่ได้พยายามแค่ทำเล่นๆสำเร็จก็มี

เลย50/50ครับ


แต่ทุกคนควรลองดูก่อน

[sirivajj]

ผมว่า หากจะเอาข้อสรุปยุติแบบฟันธง
คงต้องกลับมาให้นิยาม (Definition) คำว่า ชนะทุกสิ่ง ก่อนนะครับ

แต่ถ้าเอาแค่ เชื่ออย่างไหนแล้วน่าจะสร้างพลังสรรค์
ให้ต่อสู้ เพื่อเอาชนะล่ะก้อ คงต้องเชื่อไว้จะดีกว่า

เพราะความพยายามอยู่ที่ไหน โอกาสแห่งความสำเร็จ (ที่มากกว่าไม่พยายาม)
ก็อยู่ที่นั่น

กลับมาเรื่องโหวต ผมไม่เชื่อว่าเป็นจริง 100% ครับ
ทุกสิ่งมีข้อยกเว้นได้

[สามัญชน]

:lol: :lol: :lol: :lol:

ผมว่าความพยายามเป็นปัจจัยที่สำคัญมากตัวหนึ่งที่จะก่อให้เกิดผลสำเร็จ แต่ก็ต้องใช้ปัจจัยอื่นๆร่วมด้วยอย่างที่คุณเจย์โชว์ว่าครับ

ความพยายามตัวเดียวไม่มีทางชนะทุกสิ่งหรอกครับ ธรรมชาติไม่ได้เป็นอย่างนั้น

พุทธศาสนาสอนว่า ผลย่อมเกิดแต่เหตุ เหตุที่พอเหมาะ พอสม พอดีด้วยนะครับมากไปก็ไม่สำเร็จ น้อยไปก็ไม่สำเร็จ

การที่จะเกิดผลคือ ความสำเร็จขึ้นได้ ก็จะต้องมีเหตุซึ่งเป็นองค์ประกอบที่เหมาะสมที่สามรถทำให้เกิดผลสำเร็จขึ้นได้ ธรรมชาติเป็นอย่างนี้เอง คงต้องยอมรับครับ

ถ้าทุกคนพยายามทรมานร่างกายตัวเอง ( บำเพ็ญทุกกกิริยา ) อย่างหนักแล้วได้เป็นอรหันต์ ป่านนี้เราก็คงได้อรหันต์ที่เชี่ยวชาญเรื่องการทรมานตนเองอย่างเดียว แต่ไม่รู้จะสอนอะไรให้ชาวโลกในด้านปัญญา พระพุทธเจ้าท่านจึงเลิกบำเพ็ญทุกกกิริยา ( ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกหรือเปล่า ) ท่านจึงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้

เคยได้ยินมาว่า ความพยายาม ( หรือวิริยะ หรือความเพียร ความหมายอาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย เราจึงมักใช้คู่กันว่า ความเพียรพยายาม) ก็เป็นปัจจัยรองๆนะครับไม่ใช่ปัจจัยอันดับหนึ่งที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ

ปัจจัยที่มีคามสำคัญเป็นอันดับหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบนำไปสู่ความสำเร็จ คือ ?????????

:lol: :lol: :lol: :lol:

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

คือ ????????? 

ตอบไปแล้วครับ ให้พยายามทำในสิ่งที่ทำได้ง่าย

เชื่อผมเถอะ

คนส่วนใหญ่มักชอบและชื่นชมกับสิ่งที่ยาก

กรรมเวรจริงๆ

[AnotherPerfectDay]

ไม่เชื่อ เพราะทุกอย่างมันเป็นไปตามกฎของธรรมชาติ
ถ้าฝืนกฎธรรมาชาติ พยายามไปมันก็เท่านั้นเอง

[itti_peak]

ไม่เชื่อ ทุกสิ่ง บางอย่างยังไงก็ยังทำไม่ได้
แต่คนอาจจะไม่สามารถเอาชนะสิ่งใดได้เลย ถ้าไม่มีความพยายาม

(มีโชคช่วยก็เป็นอีกเรื่องนะคร้าบ )

[M149]

จริงๆแล้วผมว่าเราต้องแยกเสียก่อนนะครับระหว่างคำว่า "พยายาม" กับ "ดันทุรัง" ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตฯนิยามไว้ว่า พยายามคือการทำโดยมานะบากบั่น ในขณะที่ ดันทุรังคือดื้อดึงไม่ยอมแพ้, ดื้อดึงไม่เข้าเรื่อง, ดัน ก็ว่า.

ซึ่งความพยายามจะต้องมีการตั้งจิตในการที่ต้องการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ โดยการตั้งจิตนั้นอยู่บนพื้นฐานของสัมมาทิฐิหรือตั้งจิตอยู่ในทางที่ถูกต้อง สมควร มีเหตุมีผล

ในขณะที่ดันทุรังกลับเป็นการดื้อดึงดัน มุแต่จะทำโดยมิได้ไตร่ตรองถึงเหตุถึงผลหรือมีจิตใจที่เป็นมิจฉาทิฐิ

ถ้าเป็นนิยามตามนี้ผมเชื่อครับ(แต่เมื่อกี้ดันใจไวไปคลิ๊กไม่เชื่อซะนี่แย่จัง )

[Saran]

ผมไม่เชื่อนะครับ แต่มีคำสุภาษิตจีนประโยคหนึ่งอาจารย์ผมเคยสอนไว้ว่า

"ความพยายามนั้น อาจไม่สำเร็จก็ได้ แต่ถ้าไม่พยายามเลย ก็จะไม่มีวันที่จะสำเร็จ"

[Knott]

เป็นข้อเขียนของคนมีชื่อเสียงคนนึงครับ อยู่ในภาพวาด

จำคนเขียนไม่ได้แล้ว (ตั้งกะสมัยมัธยม) แต่ประทับใจในปรัชญาที่ซ่อนอยู่

ชอบเหมือนกันครับ ข้อมูลแหล่งที่มา

God, give us grace to accept with serenity the things that cannot be changed, courage to change the things which should be changed, and the wisdom to distinguish the one from the other.
Reinhold Niebuhr, in a sermon in 1943
US Protestant theologian (1892 - 1971)

[Knott]

ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น / where there a will there are a way / you success if you really try / ถ้า เอดิสันเลิกความพยายาม 1000 ครั้งแม้สักครั้งในการทดลองหลอดไฟฟ้า เราก็จะไม่มีหลอดไฟใช้ในทุกวันนี้ (เอดิสันทดลองล้มเหลว เป็น 1000 ครั้ง แต่ไม่ล้มเลิกความพยายาม)
หรือ ถ้า พี่น้องวิลเลี่ยม ยอมแพ้ตั้งแต่คนหาว่าบ้า เราก็จะไม่มีเครื่องบินใช้(พี่น้องคู้นี้ฝันว่าคนน่าจะบินได้ แต่ทุกคนหาว่าบ้า) ทั้งหมดข้างต้น เป็นข้อสนับสนุนของความเชื่อที่ว่าความพยายามชนะทุกสิ่ง

รู้สึกว่า พวกวงการนักขายทั้งหลายจะใช้วิธีการนี้ปลุกปลอบใจทีมขายกันเยอะ ให้มีความกล้าที่จะเอาชนะตัวเองแล้วออกไปลุยขายให้มียอดเยอะๆ แต่ในความเป็นจริงก็ไม่ใช่ว่าไปหาทุกคนแล้วจะขายได้ทั้ง 100% มีที่ได้และไม่ได้อยู่ดี

แต่ก็มีความเชื่ออีกฝ่ายว่า เรื่องบางเรื่องแม้พยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางสำเร็จ เช่น เชื่อว่าเป็นเพราะโชคชะตาเป็นต้น ไม่ทราบว่ามีความเห็นเรื่องนี้อย่างไรครับ

ท่านเชื่อความคิดไหนมากกว่า?

ผมเชื่อว่าเรื่องบางเรื่องแม้พยายามแค่ไหนก็ไม่สำเร็จ แต่ไม่ใช่เพราะโชคชะตา แต่เพราะทุกอย่างมีเหตุปัจจัยที่ส่งให้เกิดผล อย่างไรก็ตาม ผมก็เชื่อเช่นเดียวกันว่า ก่อนที่จะยอมแพ้ก็ขอให้พยายามอย่างเต็มที่ก่อน เพราะทุกๆความสำเร็จที่แท้จริงล้วนเกิดจากความพยายาม แต่ทุกๆความพยายามอาจไม่ได้นำไปสู่ความสำเร็จเสมอไป

[CK]

ก่อนที่จะยอมแพ้ก็ขอให้พยายามอย่างเต็มที่ก่อน

อันนี้เห็นด้วย 100% นะคร๊าบ


วินสตั้น เชอร์ชิล -- "Success if not final, Failure is not fatal."
ชอบมากเลยครับ (แต่แปลเป็นภาษาไทยไม่ถูก)

[โป้ง]

ไม่เชื่อครับ มีปัจจัยอื่นๆอีก

[nanchan]

ถ้าสิ่งที่พยายามไม่ฝืนธรรมชาติ และพยายามอย่างผิดๆ

และก่อนคุณจะพยายาม คุณต้องเชื่อด้วยว่าจะสำเร็จ

บางครั้งความเชื่อ ยังสำคัญกว่าความพยายามด้วยซ้ำ

แค่คุณเชื่อ และมีศรัทธา คุณอาจจะชนะอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องพยายามมาก


อังคุลีมาร พยายามจะลอบทำร้ายพระพุทธ มากี่ชาติ ยังไม่สำเร็จเลย

[สามัญชน]

:lol: :lol: :lol: :lol:

น้องเจนนี่ว่า

จริงๆแล้วผมว่าเราต้องแยกเสียก่อนนะครับระหว่างคำว่า "พยายาม" กับ "ดันทุรัง" ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตฯนิยามไว้ว่า พยายามคือการทำโดยมานะบากบั่น ในขณะที่ ดันทุรังคือดื้อดึงไม่ยอมแพ้, ดื้อดึงไม่เข้าเรื่อง, ดัน ก็ว่า.

ซึ่งความพยายามจะต้องมีการตั้งจิตในการที่ต้องการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ โดยการตั้งจิตนั้นอยู่บนพื้นฐานของสัมมาทิฐิหรือตั้งจิตอยู่ในทางที่ถูกต้อง สมควร มีเหตุมีผล

ในขณะที่ดันทุรังกลับเป็นการดื้อดึงดัน มุแต่จะทำโดยมิได้ไตร่ตรองถึงเหตุถึงผลหรือมีจิตใจที่เป็นมิจฉาทิฐิ

อืม....เยี่ยมครับ ถ้าพจนานุกรมเขียนว่าอย่างนี้ทั้งหมด ก็แปลว่า ผมตีความคำว่าพยายามตามที่ใช้กันจนคุ้นนั่นเอง

คุณเจนนี่เก่งนะครับ อนาคตรุ่งครับ

:lol: :lol: :lol: :lol:

[M149]

กล่าวชมเกินไปแล้วครับ ข้าน้อยขอน้อมรับ และคาระวะหนึ่งจอก

[M149]

อืม ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมนะครับ ถ้าพูดถึงความพยายามมันจะมีประเด็นที่สำคัญตรงที่ต้องประกอบด้วย สติ ปัญญา และ มีเหตุผล ซึ่งการที่สองพี่น้องตระกูลไรท์สร้างเครื่องบินก็ดี เอดิสันผลิตหลอดไฟก็ดี จะเห็นได้ว่าคนเหล่านี้ ได้ใช้ความพยายามกอปรด้วย สติ ปัญญา และหาเหตุผลในการพินิจพิเคราะห์เหตุปัจจัยต่างๆ และนำเหตุปัจจัยเหล่านั้นมาประกอบเข้าด้วยกันจึงเกิดเป็นความสำเร็จ ซึ่งต่างกับพวกดันทุรังพวกนี้มิได้ใส่ใจหรือพินิจพิเคราะห์ถึง เหตุ ผล หรือ ปัจจัยในการที่จะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้สำเร็จ ในทางตรงกันข้ามกลับใช้อารมณ์ ความมุทะลุบ้าเลือด อีกทั้งไม่อดทนพอที่จะพินิจพิเคราะห์เหตุปัจจัยต่างๆ แล้วพูดว่า "กูพยายามแล้ว" เช่นเดียวกันกับนักลงทุนในตลาดหุ้น นักลงทุนบางคนใส่ใจในรายละเอียด บากบั่นในการหาข้อมูล อดทนที่จะใจเย็นรอคอยโอกาส นักลงทุนประเภทนี้ย่อมได้รับความสำเร็จจากความพยายามของเขา ในขณะที่อีกคนดันทุรัง กูจะลงทุน กูจะลงทุน แต่ไม่เคยเลยที่จะศึกษาหาความรู้ความเข้าใจ กลับกันหากแต่ประกอบไปด้วยมิจฉาทิฐิ พึ่งโชค พึ่งดวง และอาศัยดันทุรังเอาเงินมาเทในตลาดแล้วบอกว่า กูพยายามแล้วแต่ไม่สำเร็จ ซึ่งคนอย่างหลังน่าเรียกว่าเป็นคนมีความพยายามหรือดันทุรังดีครับ นอกจากนี้ความดันทุรังมักจะประกอบด้วยจริตที่เป็น โลภะ โมหะ หรือ โทสะ

จากทั้งหมดอาจกล่าวได้ว่า ความพยายามนอกเสียจากจะต้องประกอบด้วยจิตใจที่เป็นสัมมาทิฐิแล้ว ยังต้องมีปัญญาที่รู้แจ้งเห็นจริงในเหตุปัจจัยที่อยู่ตรงหน้า แล้วตั้งใจมุ่งมั่นกระทำในสิ่งที่ปัญญาเห็นให้สัมฤทธิ์ผล จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นความพยายาม

[สามัญชน]

:lol: :lol: :lol: :lol:

อิอิอิ....ผมโดนคุณเจนนี่ต้มซะเปื่อยเลย

วรรคนี้

จริงๆแล้วผมว่าเราต้องแยกเสียก่อนนะครับระหว่างคำว่า "พยายาม" กับ "ดันทุรัง" ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตฯนิยามไว้ว่า พยายามคือการทำโดยมานะบากบั่น ในขณะที่ ดันทุรังคือดื้อดึงไม่ยอมแพ้, ดื้อดึงไม่เข้าเรื่อง, ดัน ก็ว่า.

มีในพจนานุกรม เขียนเหมือนกันเป๊ะเลย

วรรคนี้

ซึ่งความพยายามจะต้องมีการตั้งจิตในการที่ต้องการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ โดยการตั้งจิตนั้นอยู่บนพื้นฐานของสัมมาทิฐิหรือตั้งจิตอยู่ในทางที่ถูกต้อง สมควร มีเหตุมีผล

ในขณะที่ดันทุรังกลับเป็นการดื้อดึงดัน มุแต่จะทำโดยมิได้ไตร่ตรองถึงเหตุถึงผลหรือมีจิตใจที่เป็นมิจฉาทิฐิ

ไม่มีเลยครับ สงสัยเป็นการตีความโดยคุณเจนนี่แหงๆ เพราะไม่ปรากฏที่ไหนเลยว่าความพยายามจะต้องมีสัมมาทิฐิร่วมด้วยเสมอ มีแค่ทำโดยมานะบากบั่นเท่านั้นเอง อาจจะเป็นสัมมา หรือมิจฉาก็ได้เพราะไม่ได้ระบุไว้ แต่ผมอาจจะตีความผิดก็ได้

แต่ยังไงก็ขอชื่นชมแนวคิดในการแก้ปัญหาครับ เยี่ยมครับ

:lol: :lol: :lol: :lol: