EGM IEC 20 OCT 17
บรรยากาศการประชุมครั้งสำคัญของIEC
คราวนี้มีผู้ถือหุ้นพร้อมใจกันมาประชุมกันอย่างคับครั่ง จนทำให้ผ่านขั้นต่ำ 33% ไปได้อย่างสบาย
ด้วยจำนวนที่เข้าประชุมถึง 128,257 ล้านเสียง กำหนดการประชุมเริ่มขึ้น ประมาณ บ่ายสองนิดๆ
เนื่องจากด้านนอกยังมีผู้ประชุมทยอยเข้ามาไม่ขาดสาย ผู้ถือหุ้นมาจากทุกทิศทั่วไทยเพื่อมาฟังและร่วมโหวต
การเพิ่มทุนและเลือกกรรมการเข้าไปทำงาน
คุณพงศ์กวิน หรือ คุณโฟม ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่อายุเพียง38ปีแต่จบตรีทางด้านวิศวกรรมโยธา และ จบโทMBA มารับภาระใหญ่พร้อมกับคุณพ่อ คือคุณโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ
ช่วงที่เข้ามารับตำแหน่ง 2 เดือน ได้พูดในที่ประชุมถึงรายละเอียดในแต่ละส่วนว่ามีปัญหาอะไรบ้าง มีการแก้ไขอะไรไปบ้าง
1.โรงไฟฟ้าขยะชุมชน หรือ จีเดดที่หาดใหญ่ มีปัญหาเรื่องขยะมีความชื้นสูง ทำงานไม่ได้เต็มกำลังการผลิต มีการร้องเรียนจากชาวบ้าน ขาดเงินซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักร
การแก้ไข เงินจากการเพิ่มทุนมาปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อให้ผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2.IEC สระแก้ว เป็นโรงไฟฟ้าจากชีวมวล ต้นทุนเชื้อเพลิงราคาแพงและหาเชื้อเพลิงไม่ได้
รวมถึงเชื้อเพลิงไม่ได้คุณภาพ ขาดเงินซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักร
การแก้ไข ปรับปรุงเรื่องวัตถุดิบ มีบทลงโทษsupplierที่มาส่งวัตถุดิบ
3.โรงไฟฟ้าsolar ที่แม่ทา และ แม่แตง ผลิตไฟฟ้าได้ลดลงมาตลอดในช่วง2ปี
การแก้ไขปัญหา ปรับปรุงคุณภาพน้ำที่นำมาล้างแผงโซลาร์ ช่วงสองเดือนที่ผ่านมาผลิตไฟได้มากขึ้น
4.โรงไฟฟ้าหนองรี ผลิตก๊าซชีวภาพ ปัญหา ก่อสร้างยังไม่เสร็จ และยังมีเวลาแค่ถึงกลางปีหน้าที่ต้องสร้างให้เสร็จ
ไม่เช่นนั้นจะผลิตไฟขายไม่ได้ รวมถึง บ่อหมักแก๊สมีปัญหาน้ำซึม
การแก้ไข เงินจากการเพิ่มทุนมาสร้างต่ออีกครึ่งนึง
แก้ไขปัญหาการรั่วซึม
5.โรงไฟฟ้าขยะที่ระยอง มีปัญหาไม่สามารถผลิตขายเชิงพาณิชย์ได้ เนื่องจากวัตถุดิบไม่เพียงพอ
ต้นทุนค่าเช่าสูง จำนวนพนักงานมากเกินไป ขาดเงินทุนหมุนเวียน
การแก้ไข เงินจากการเพิ่มทุนมาปรับปรุงเครื่องจักร จัดหาวัตถุดิบเพิ่มเติม
ลดพนักงานลง อบรมพนักงานให้เชี่ยวชาญกับงานที่ทำ
6. 0ffice มีการเช่า3ส่วน ค่าเช่าสูงเกินไป ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดสูงเกินไป ค่าแรงสูง
แก้ไข ยุบเหลือแค่ชั้นเดียว ค่าเช่าลดลงมาเหลือสองแสนบาทต่อเดือน
ลดเงินเดือนพนักงานลงเดือนละสี่ล้านบาท
ลดค่าน้ำมันรถจาก 2 แสนบาทต่อเดือน เป็น 3หมื่นบาทต่อเดือน
ค่าเครื่องบินไปเยี่ยมสาขา เปลี่ยนเป็น ไปเยี่ยมสาขาและอยู่ที่นั่น 1 เดือน เพื่อค่าใช้จ่ายไปกลับบ่อย
ส่วนสภาพคล่องของบริษัท
คุณโกมลได้ให้เงินกู้ยืมไปสองครั้งประมาณ 35 ลบ เพื่อประคองบริษัทรอเพิ่มทุน
วาระการเพิ่มทุน RO 1:1 สามารถผ่านได้ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 87.12%
ส่วนวาระการเลือกกรรมการ ระหว่าง ทีมคุณโกมล และ คุณ ทิศชวน ซึ่งถือหุ้นไม่ต่างกันเท่าไหร่
ทีมคุณโกมลได้เปรียบที่ลูกชายเข้าไปนั่งเป็นประธาน และ ชี้แจงผลงาน จึงชนะไปค่อนข้างขาดทั้ง 6 คน
ประเด็นที่ผมสงสัยคือ เงินเพิ่มทุนเฉพาะแก้ไขปัญหาน่าจะไม่เกิน 500 ลบ แต่ที่เหลือเป็นการลงทุนในproject
ใหม่อีก เป็น 1,000ลบ ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีปัญหาในอนาคตหลังจากซื้อมาหรือเปล่า ทำไมเจ้าของเดิมที่จะขาย
มีปัญหากับFinanceจนต้องมาขาย ถ้าธุรกิจดีจริง
ก็เป็นการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นแต่ละคนว่าจะตัดสินใจเพิ่มทุนตามหรือไม่