มาถึงตอนขึ้นชั้นแล้วครับ
ขึ้นทีนึงเท่าตัวเลยครับ จาก10กม. ขึ้นไปเป็นฮาล์ฟ มาราธอน 21กม.ครับ
ว่าไปแล้วดูยากนะจาก10ไป21กม.
ตามสูตรก็ต้องซ้อม 2ใน3 ของระยะทาง ให้ได้แบบแข็งแรงๆซัก3-4ครั้งก่อนแข่ง
แปลว่าต้องซ้อมให้ได้ 15-16โล ทีเดียว
ถ้านึกไม่ออกว่าระยะทางเท่าไหร่
ก็จตุจักร รอบใหญ่ หรือ สวนลุมรอบใหญ่ก็ได้ครับ 5 รอบครับ แฮ่....
จะไหวไม่เนี่ย
เรื่องนี้เล่าแล้วอายเหมือนกันครับ
ไปบนไว้ครับ ถ้าลูกสาวสอบเอ็นเข้าธรรมศาสตร์ได้
จะไปวิ่งแก้บนให้ที่พัทยา21กม.นี่แหละครับ
แต่จะว่าไป บนอย่างนี้ก็มีแต่ วิน-วิน
เพราะเราเองก็แรงขับดันให้ซ้อม ซึงในใจเราเองก็อยากทำได้อยู่แล้ว
แล้วอีหนู ก็สอบได้วารสารที่มธ.ตามตั้งใจ
ผมก็ไปสมัครเลยครับ
ตอนนั้นปี2000 พอดี
ประสบการณืก็ไม่มีไม่เคยไปวิ่งที่นีเลย
ไปพักถึง แอมบาสเดอร์ ซึงไกลออกไปจากเมือง เลยหาดจอมเทียนไปอีก
แต่พอไปถึงก็ไปเซอร์เวย์จุดสตาร์ท
แฮ่..เขาปล่อยตัวกันหัวถนนพัทยาเหนือเลยครับ
ต้องไปถึงจุดสตาร์ทตี4 เขาปล่อยตัวฮาล์ฟ ตี5
เราจะได้มีเวลาวอร์ม
ต้องตื่นตั้งกะตีสาม เพื่อแต่งตัวแล้วขับรถไปหาที่จอดแถวนั้น ซึงก็ไม่ได้หาง่ายเลยครับ
ที่คิดว่าจะไปนั่งจิบเบียร์ ฟังเพลง กะอาซ้อ เป็นอันพับไป
(ผมไปวิ่งตจว.นี่ไปกันทั้งแฟมิลี่ ถือโอกาสไปเที่ยวด้วยเลย หลังจากวิ่งเสร็จ)
ต้องนอนตั้งกะหัวค่ำ เพื่อให้สดชื่นมีแรงวิ่ง ตอนเช้าวันจริง
เช้าวันแข่ง คนเป็นหนอนเลยครับ
ยั้วเยี้ยยุบยับไปหมด
เพราะเป็นรายการใหญ่ประจำปี
เงินรางวัล น้อยกว่า กท.มาราธอนรายการเดียว
ต่างชาติมากันเพียบ
สตาร์ทจากพัทยาเหนือ วิ่งออกมาบางนา-ตราด
วิ่งยาวไปหาดจอมเทียนแล้ววกกลับไปทางพัทยาใต้
โดยต้องวิ่งขี้น-ลงเขา ตรงที่เชื่อม หาดจอมเทียนกับพัทยาใต้
จุดนี้ทารุณที่สุด เพราะเราเคยแต่ซ้อมบนพื้นราบแล้วต้องไปวิ่งขึ้นเขา
เล่นเอาที่ซ้อมมาหมดเกลี้ยง
แต่พอลงเขามาได้ ตอนนี้ดีมากครับเพราะเขาจะให้เราวิ่งเลียบหาด จนถึงเข้าเส้นชัย
แล้วคนเชียร์นี่เพียบ ทั้งไทยทั้งบักสีดา
แรงกลับมาเลยครับ สองก๊อกที่หมดไปแล้วไม่เป็นไร เปิดก๊อกสามวิ่งเลยครับ
เวลาที่ทำได้แย่มากครับ 2ชั่วโมง45นาที
เสียเวลาไปแยะตอนขึ้นเขา เพราะบางจุดชันมากวิ่งไม่ไหว ต้องเดินครับ
แต่ทำได้แล้วครับ 21กม. ครั้งแรกในชีวิต
ตอนอายุ44ปี
เสื้อยืดที่เตรียมไปใส่ซับเหงื่อ ตอนวิ่งเสร็จ เอาไปตัวเดียว
ไม่พอซับเหงื่อเลยครับ
ไม่รู้มันไหลมาเทมาจากไหน
งานวิ่งทุกงานที่ผมไปนี่ต้องขอบคุณเครื่องดื่มชนิดนึง
ไม่เคยไม่เห็น ว่าเขาไม่ไปงานไหนเลยครับ
กินฟรี ด้วยครับ กินเท่าไหร่ก็ได้ ไม่มีหวงไม่มีห้าม
แต่พนักงานเขาจะเปิดจุกให้ทุกกระป๋อง แบบไม่ให้เอากลับบ้านได้
เจอพวกเหนือชั้น
เอาขวดใสๆมาเทใส่ ผมก็ไม่เห็นเขาว่าไร
เอ็งไม่อาย ข้าก้ให้ได้ ทำนองนั้น
สปอนเซอร์ ครับ ยกนิ้วให้เลยครับ ในความมีน้ำใจ เขาก็คงได้ประโยชน์จากการโฆษณาแหละ
แต่ไม่เห็นเจ้าอื่น อย่างเอ็มหรือเกเตอเรด จะเอาใจนักแข่ง ขนาดนี้
ผมมีเกร็ดเล่าเรื่องเหนือธรรมดาให้ฟัง
ในทริปนี้ ไอ้หนุ่มคนเล็กของผม ปวดท้องก่อนออกเดินทาง
ขนาดต้องไปหาหมอที่รพ.รามคำแหงก่อนเดินทาง ถึงจะไปไหว
ถามเจ้าตัวว่าจะอยู่บ้านไหม เขาว่าไม่เอา จะไปด้วย ตอนนั้นเขาเพิ่งอายุ12เองครับ
เห็นใครไปไหนก็อยากตามไป
ยิ่งกินอาหารทะเล ไอ้หนุ่มไม่ยอมพลาด อยู่แล้ว
มันก็ร้องครวญครางเป็นระยะ ตั้งแต่บ่ายๆที่ออกเดินทางไป
เดี๋ยวปวด เดี๋ยวหาย เป็นอย่างนี้
จนผมคิดว่างานนี้ผมอดวิ่งแน่เลย ได้ขับรถกลับพามันไปนอน รพ.แน่ๆ
ช่วงเย็นที่ไปถึง ก็ไปส่งอาซ้อ กะเด็กๆลงที่แอมบาสเดอร์ก่อน
แล้วผมก็วิ่งไปเซอร์เวย์จุดสตาร์ทที่พัทยาเหนือ
ขากลับเส้นในสาย2ที่ขนานกับเส้นริมทะเล
ตาเหลือบไปเห็นพระรูปพระพรหม อยู่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ผมจำชื่อไม่ได้
ผมไม่รู้นึกไง จอดรถ ลงไปไหว้บูชา
ขอให้ไอ้หนู ผมหายปวดท้องทีเถอะ
มันจะได้ไม่เป็นไรและได้กินอาหารทะเลสมใจมัน
ผมก็จะได้วิ่งด้วย ขับรถมาถึงแล้ว
ไม่วายบนครับ อายจัง จะบนเรื่องวิ่งก็ไม่ได้เพราะไปบนกับพระพรหมที่กรุงเทพไว้แล้ว
ผมก็ไม่แน่ใจว่าที่นี่เป็นสาขาของท่านด้วยหรือเปล่า
ก็เลยบนไปด้วย ไก่ทอด เค เอฟ ซี ครับ
ไม่ใช่ผมไม่ทราบนะว่า ต้องบนด้วยดอกไม้ แต่ผมว่าท่านคงเบื่อแล้ว
ของผมต้องไม่มีใครเคยบนแน่ๆ ผมก็คิดในใจว่าท่านต้องชอบ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ
กลับไปถึงไอ้หนุ่มผมนั่งเล่นเกมปร๋ออยู่ในห้องที่โรงแรม
ถามผมว่า พ่อเมื่อไหร่ไปกินข้าวกัน หิวแล้ว
ผมก็ถามซ้อว่าหายมานานหรือยัง
ซ้อเขาว่า ครึ่งชั่วโมงได้ เวลาก็พอดีกัน
แล้วหายแบบหายจริงๆเลยนะครับ
ตลอดงานนั้นทั้งซีฟู๊ด ทั้งซิซสเล่อร์ มันฟาดเกลี้ยง
ได้ไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์ Believe it or not เป็นครั้งแรกก็งานนี้แหละ
ก่อนกลับผมก็แวะซื้อ ไก่ทอด เคเอฟซ๊ ชุดใหญ่
ไปแก้บน พระพรหมท่าน ตามที่ได้ตกลงกันไว้ทุกประการ
ทุกครั้งที่ผมไปพัทยา
ผมต้องแวะไปบูชาท่านทุกครั้งไป แม้จนเดี๋ยวนี้
กลายเป็นพระประจำครอบครัวไป
