world economic news
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news18/10/07
โพสต์ที่ 151
ไต้หวันประกาศไม่อนุญาตกองทุนของจีนเข้าลงทุนในตลาดหุ้น-ตลาดทุนไต้หวัน
คณะกรรมการฝ่ายกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ (MAC) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลไต้หวันที่รับหน้าที่กำหนดนโยบายเรื่องการลงทุนในจีน ย้ำว่า ไต้หวันไม่อนุญาตให้กองทุนที่มีเม็ดเงินจำนวนมากหรือกองทุนใดๆของรัฐบาลจีนเข้ามาลงทุนในตลาดทุนของไต้หวัน กฏหมายระบุว่าห้ามไม่ให้กองทุนของจีน ซึ่งรวมถึงกองทุนของรัฐบาลจีน เข้ามาลงทุนในตลาดทุนของเรา ปัจจุบันกองทุนของจีนได้รับอนุญาตให้เข้าลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไต้หวันเท่านั้น กองทุนทุกแห่งของจีนจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวันด้วย
จีนเตรียมควบคุมเม็ดเงินทุนไหลเข้า หวังรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
สำนักงานบริหารเงินตราต่างประเทศ (SAFE) ของจีนเปิดเผยว่า เตรียมควบคุมเงินทุนไหลเข้าประเทศระยะสั้นเพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจ หนึ่งในนโยบายที่สำคัญก็คือ การปกป้องเศรษฐกิจและระบบการเงินของจีนจากผลกระทบกับการไหลเข้าไหลออกของเงินทุนในระยะสั้น โดยเรื่องเงินทุนไหลเข้านั้นจะเป็นประเด็นที่จับตาดูอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าประเทศอย่างต่อเนื่องนั้นได้สร้างแรงกดดันให้กับนโยบายการเงินของจีน เพราะธนาคารกลางจำเป็นต้องระบายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพื่อเป็นการควบคุมเม็ดเงินเข้าประเทศ
ธนาคารกลางจีนคาด CPI ปี 50 เพิ่มกว่า 4%
นายหยี กัง ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางจีนคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ จะเพิ่มขึ้นกว่า 4% ในปี 2550 - ปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนคือ อัตราการลงทุนที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ยอดสินเชื่อที่มากเกินไป และยอดเกินดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ธนาคารกลางอาจตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ CPI ของจีนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี
เวียดนาม-ลิเบีย ได้รับเลือกนั่งเก้าอี้สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น
ประธานที่ประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกแถลงการณ์ว่า ลิเบีย,เบอร์กินา ฟาโซ และ เวียดนาม ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวในคณะมนตรีความมั่นคงแห่ง สหประชาชาติ (ยูเอ็น) สำหรับปี 2008-2009 อย่างไรก็ตาม ยังมีอีก 2 ประเทศในยุโรปตะวันออกที่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา คือ โครเอเชียและสาธารณรัฐเช็ก ส่วนในละตินอเมริกานั้น ยังมี คอสตาริก้า และสาธารณรัฐโดมินิแกน โดยที่ประชุมจะพิจารณาเรื่องนี้ในการประชุมรอบที่สอง ในการลงมติคัดเลือกสมาชิกสำหรับประเทศในโซนแอฟริกาและเอเชียนั้น ลิเบีย, เวียดนาม และเบอร์กินา ฟาโซไม่ได้ถูกคัดค้านตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้น และได้รับเสียงสนับสนุน 2 ใน 3 ในการลงคะแนนรอบแรกจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่ของยูเอ็น ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 192 ประเทศ
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
คณะกรรมการฝ่ายกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ (MAC) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลไต้หวันที่รับหน้าที่กำหนดนโยบายเรื่องการลงทุนในจีน ย้ำว่า ไต้หวันไม่อนุญาตให้กองทุนที่มีเม็ดเงินจำนวนมากหรือกองทุนใดๆของรัฐบาลจีนเข้ามาลงทุนในตลาดทุนของไต้หวัน กฏหมายระบุว่าห้ามไม่ให้กองทุนของจีน ซึ่งรวมถึงกองทุนของรัฐบาลจีน เข้ามาลงทุนในตลาดทุนของเรา ปัจจุบันกองทุนของจีนได้รับอนุญาตให้เข้าลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไต้หวันเท่านั้น กองทุนทุกแห่งของจีนจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวันด้วย
จีนเตรียมควบคุมเม็ดเงินทุนไหลเข้า หวังรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
สำนักงานบริหารเงินตราต่างประเทศ (SAFE) ของจีนเปิดเผยว่า เตรียมควบคุมเงินทุนไหลเข้าประเทศระยะสั้นเพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจ หนึ่งในนโยบายที่สำคัญก็คือ การปกป้องเศรษฐกิจและระบบการเงินของจีนจากผลกระทบกับการไหลเข้าไหลออกของเงินทุนในระยะสั้น โดยเรื่องเงินทุนไหลเข้านั้นจะเป็นประเด็นที่จับตาดูอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าประเทศอย่างต่อเนื่องนั้นได้สร้างแรงกดดันให้กับนโยบายการเงินของจีน เพราะธนาคารกลางจำเป็นต้องระบายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพื่อเป็นการควบคุมเม็ดเงินเข้าประเทศ
ธนาคารกลางจีนคาด CPI ปี 50 เพิ่มกว่า 4%
นายหยี กัง ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางจีนคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ จะเพิ่มขึ้นกว่า 4% ในปี 2550 - ปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนคือ อัตราการลงทุนที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ยอดสินเชื่อที่มากเกินไป และยอดเกินดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ธนาคารกลางอาจตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ CPI ของจีนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี
เวียดนาม-ลิเบีย ได้รับเลือกนั่งเก้าอี้สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น
ประธานที่ประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกแถลงการณ์ว่า ลิเบีย,เบอร์กินา ฟาโซ และ เวียดนาม ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวในคณะมนตรีความมั่นคงแห่ง สหประชาชาติ (ยูเอ็น) สำหรับปี 2008-2009 อย่างไรก็ตาม ยังมีอีก 2 ประเทศในยุโรปตะวันออกที่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา คือ โครเอเชียและสาธารณรัฐเช็ก ส่วนในละตินอเมริกานั้น ยังมี คอสตาริก้า และสาธารณรัฐโดมินิแกน โดยที่ประชุมจะพิจารณาเรื่องนี้ในการประชุมรอบที่สอง ในการลงมติคัดเลือกสมาชิกสำหรับประเทศในโซนแอฟริกาและเอเชียนั้น ลิเบีย, เวียดนาม และเบอร์กินา ฟาโซไม่ได้ถูกคัดค้านตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้น และได้รับเสียงสนับสนุน 2 ใน 3 ในการลงคะแนนรอบแรกจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่ของยูเอ็น ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 192 ประเทศ
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news18/10/07
โพสต์ที่ 152
จีนยังคงเป็นเป้าหมายการลงทุนโดยตรงอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 3 ของโลก
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Thursday, October 18, 2007
องค์การที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) ออกรายงานฉบับล่าสุด ระบุว่า จีนยังคงเป็นเป้าหมายการลงทุนอันดับต้น ๆ ของโลก ถึงแม้เม้ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในปีที่ผ่านมา จะชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้านั้น 4% ก็ตาม
โดยรายงาน ชี้ว่า จีนเป็นแหล่งลงทุนอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐและอังกฤษ โดยมีเงินทุนไหลเข้าตลอดปี 2549 ที่ผ่านมา ประมาณ 69,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หากเปรียบเทียบกับปี 2548 ปริมาณการลงทุนจะปรับลดลง 4% ซึ่งนับเป็นอัตราลดลงครั้งแรกในรอบ 7 ปี แต่ก็มีเหตุลรองรับ เนื่องจากในปี 2548 มีเงินลงทุนไหลเข้าจีนมากเป็นพิเศษ จากกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
ตัวเลขการลงทุนข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่า จีนยังคงเป็นหนึ่งในแหล่งการลงทุนที่น่าดึงดูดที่สุดสำหรับนักลงทุนต่างชาติ โดยปัจจุบันจีนกำลังพยายามดึงดูดเม็ดเงินลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไฮเทคมากขึ้น แทนที่จะเป็นอุตสาหกรรมการผลิตดั้งเดิมที่พึ่งพาแรงงานคน โดยอาศัยได้เปรียบจากขนาดตลาดที่ใหญ่และแรงงานราคาถูก
อย่างไรก็ตาม จีนได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใหม่ และลดการให้สิทธิพิเศษด้านการลงทุนแก่ต่างชาติ โดยนับตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป บริษัททั้งในและต่างประเทศ จะถูกเก็บภาษีรายได้ในอัตราเดียวกัน เพื่อสร้างความเสมอภาคในการแข่งขัน และหันไปสนับสนุนการลงทุนฝั่งตะวันตกของประเทศ
โดยนายชิว ซิน เจ้าหน้าที่จากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จีนพร้อมสนับสนุนบริษัทต่างชาติให้เข้าไปลงทุน และมีส่วนร่วมในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจในตอนกลางและตะวันตกของประเทศ ผ่านการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A)
มันนี่ ชาเนล - วรนนท์ อัศวพิริยานนท์
โทรศัพท์ - 02- 229 - 2000 ต่อ 2616
อีเมล - [email protected]
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Thursday, October 18, 2007
องค์การที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) ออกรายงานฉบับล่าสุด ระบุว่า จีนยังคงเป็นเป้าหมายการลงทุนอันดับต้น ๆ ของโลก ถึงแม้เม้ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในปีที่ผ่านมา จะชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้านั้น 4% ก็ตาม
โดยรายงาน ชี้ว่า จีนเป็นแหล่งลงทุนอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐและอังกฤษ โดยมีเงินทุนไหลเข้าตลอดปี 2549 ที่ผ่านมา ประมาณ 69,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หากเปรียบเทียบกับปี 2548 ปริมาณการลงทุนจะปรับลดลง 4% ซึ่งนับเป็นอัตราลดลงครั้งแรกในรอบ 7 ปี แต่ก็มีเหตุลรองรับ เนื่องจากในปี 2548 มีเงินลงทุนไหลเข้าจีนมากเป็นพิเศษ จากกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
ตัวเลขการลงทุนข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่า จีนยังคงเป็นหนึ่งในแหล่งการลงทุนที่น่าดึงดูดที่สุดสำหรับนักลงทุนต่างชาติ โดยปัจจุบันจีนกำลังพยายามดึงดูดเม็ดเงินลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไฮเทคมากขึ้น แทนที่จะเป็นอุตสาหกรรมการผลิตดั้งเดิมที่พึ่งพาแรงงานคน โดยอาศัยได้เปรียบจากขนาดตลาดที่ใหญ่และแรงงานราคาถูก
อย่างไรก็ตาม จีนได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใหม่ และลดการให้สิทธิพิเศษด้านการลงทุนแก่ต่างชาติ โดยนับตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป บริษัททั้งในและต่างประเทศ จะถูกเก็บภาษีรายได้ในอัตราเดียวกัน เพื่อสร้างความเสมอภาคในการแข่งขัน และหันไปสนับสนุนการลงทุนฝั่งตะวันตกของประเทศ
โดยนายชิว ซิน เจ้าหน้าที่จากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จีนพร้อมสนับสนุนบริษัทต่างชาติให้เข้าไปลงทุน และมีส่วนร่วมในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจในตอนกลางและตะวันตกของประเทศ ผ่านการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A)
มันนี่ ชาเนล - วรนนท์ อัศวพิริยานนท์
โทรศัพท์ - 02- 229 - 2000 ต่อ 2616
อีเมล - [email protected]
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news19/10/07
โพสต์ที่ 153
ก.ล.ต.จีนเผยจำเป็นต้องแทรกแซงตลาดหุ้นเพื่อป้องกัน นักลงทุนเผชิญความเสี่ยง
รายงานวารสารหลักทรัพย์จีนระบุว่า การที่รัฐบาลจีนยื่นมือเข้าแทรกแซงการซื้อขายในตลาดหุ้นจีนนับเป็นเรื่องที่ "หลีกเลี่ยงไม่ได้" ในยามที่ตลาดเผชิญความผันผวนเช่นนี้ ในกรณีที่โครงสร้างตลาดหุ้นยังมีข้อบกพร่องและตลาดยังมีความผันผวน ซึ่งรัฐบาลอาจใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจ หรือใช้มาตรการตามกฎหมายเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นเป็นระบบ และให้การคุ้มครองผลประโยชน์แก่นักลงทุน การให้ความรู้ด้านความเสี่ยงแก่นักลงทุนยังคงเป็นหน้าที่สำคัญ หลังจากที่ตลาดหุ้นจีนเคลื่อนไหวร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง
เมอร์ริล ลินช์เผยผลสำรวจจีนมีเศรษฐีถึง 345,000 คนเหตุตลาดหุ้นร้อนแรง
เมอร์ริล ลินช์ ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลการศึกษาร่วมกับบริษัทที่ปรึกษา แคปเจมินี ชี้ว่า เมื่อปีที่แล้ว จีนมีเศรษฐีถึง 345,000 คน สูงเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชีย รองจากญี่ปุ่น จำนวนเศรษฐีชาวจีนที่เพิ่มขึ้น 7.8% จากปีก่อนหน้านี้นั้น ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากตลาดหุ้นจีนที่มีมูลค่าทะยานขึ้นถึง 130% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ จีนยังมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมาก หรือที่เรียกว่าบุคคลที่มีมูลค่ารายได้สูงมากถึง 4,935 คน ซึ่งมีสินทรัพย์ทางการเงินสูงกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เวียดนามคาดยอดขาดดุลการค้าปีนี้ พุ่งแตะ $9 ล้าน สูงสุดในรอบ 3 ปี
ยอดขาดดุลการค้าของเวียดนามคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ระดับ 9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2550 เวียดนามตั้งเป้ารายจ่ายไว้ที่ระดับประมาณ 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในการนำเข้าสินค้า และกวาดรายได้จากการส่งออกที่ 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2550 ทั้งนี้ ยอดขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากกระแสการลงทุนจากต่างประเทศที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้น นักลงทุนต่างชาติรายใหม่ๆนำเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์และวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิตเพิ่มขึ้น
"ไฟแนนเชียล ไทมส์"ขอโทษ-จ่ายเงินชดเชยคดีหมิ่นอดีตนายกฯสิงคโปร์
หนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียล ไทมส์ ในลอนดอน ยอมขอโทษนาย ลี กวนยู อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้วางรากฐานสร้างชาติสิงคโปร์ รวมทั้งสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ พร้อมทั้งจ่ายเงินชดใช้จากการตั้งข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จ ในประเด็นกองทุนบริหารทุนสำรองของรัฐบาล (Sovereign Wealth Funds) หนังสือพิมพ์รายนี้ยินยอมจ่ายค่าเสียหายแก่ลี และภริยาด้วย ซึ่ง ลี กวนยู ก็ยังคงทรงอิทธิพลในรัฐบาลสิงคโปร์ชุดปัจจุบัน ทั้งนี้ คอลัมน์ของ ซันดีป ทัคเกอร์ มักจะมีเนื้อหามุ่งเน้นไปที่จีนแต่ก็พาดพิงมาถึงสิงคโปร์ด้วยนั้น ได้พูดถึงความท้าทายที่จะแยกกองทุนของรัฐบาลออกไปจากอิทธิพลทางการเมือง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
รายงานวารสารหลักทรัพย์จีนระบุว่า การที่รัฐบาลจีนยื่นมือเข้าแทรกแซงการซื้อขายในตลาดหุ้นจีนนับเป็นเรื่องที่ "หลีกเลี่ยงไม่ได้" ในยามที่ตลาดเผชิญความผันผวนเช่นนี้ ในกรณีที่โครงสร้างตลาดหุ้นยังมีข้อบกพร่องและตลาดยังมีความผันผวน ซึ่งรัฐบาลอาจใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจ หรือใช้มาตรการตามกฎหมายเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นเป็นระบบ และให้การคุ้มครองผลประโยชน์แก่นักลงทุน การให้ความรู้ด้านความเสี่ยงแก่นักลงทุนยังคงเป็นหน้าที่สำคัญ หลังจากที่ตลาดหุ้นจีนเคลื่อนไหวร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง
เมอร์ริล ลินช์เผยผลสำรวจจีนมีเศรษฐีถึง 345,000 คนเหตุตลาดหุ้นร้อนแรง
เมอร์ริล ลินช์ ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลการศึกษาร่วมกับบริษัทที่ปรึกษา แคปเจมินี ชี้ว่า เมื่อปีที่แล้ว จีนมีเศรษฐีถึง 345,000 คน สูงเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชีย รองจากญี่ปุ่น จำนวนเศรษฐีชาวจีนที่เพิ่มขึ้น 7.8% จากปีก่อนหน้านี้นั้น ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากตลาดหุ้นจีนที่มีมูลค่าทะยานขึ้นถึง 130% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ จีนยังมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมาก หรือที่เรียกว่าบุคคลที่มีมูลค่ารายได้สูงมากถึง 4,935 คน ซึ่งมีสินทรัพย์ทางการเงินสูงกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เวียดนามคาดยอดขาดดุลการค้าปีนี้ พุ่งแตะ $9 ล้าน สูงสุดในรอบ 3 ปี
ยอดขาดดุลการค้าของเวียดนามคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ระดับ 9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2550 เวียดนามตั้งเป้ารายจ่ายไว้ที่ระดับประมาณ 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในการนำเข้าสินค้า และกวาดรายได้จากการส่งออกที่ 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2550 ทั้งนี้ ยอดขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากกระแสการลงทุนจากต่างประเทศที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้น นักลงทุนต่างชาติรายใหม่ๆนำเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์และวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิตเพิ่มขึ้น
"ไฟแนนเชียล ไทมส์"ขอโทษ-จ่ายเงินชดเชยคดีหมิ่นอดีตนายกฯสิงคโปร์
หนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียล ไทมส์ ในลอนดอน ยอมขอโทษนาย ลี กวนยู อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้วางรากฐานสร้างชาติสิงคโปร์ รวมทั้งสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ พร้อมทั้งจ่ายเงินชดใช้จากการตั้งข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จ ในประเด็นกองทุนบริหารทุนสำรองของรัฐบาล (Sovereign Wealth Funds) หนังสือพิมพ์รายนี้ยินยอมจ่ายค่าเสียหายแก่ลี และภริยาด้วย ซึ่ง ลี กวนยู ก็ยังคงทรงอิทธิพลในรัฐบาลสิงคโปร์ชุดปัจจุบัน ทั้งนี้ คอลัมน์ของ ซันดีป ทัคเกอร์ มักจะมีเนื้อหามุ่งเน้นไปที่จีนแต่ก็พาดพิงมาถึงสิงคโปร์ด้วยนั้น ได้พูดถึงความท้าทายที่จะแยกกองทุนของรัฐบาลออกไปจากอิทธิพลทางการเมือง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news23/10/07
โพสต์ที่ 154
ประธานแบงก์โลก วอน 185 ชาติสมาชิก หนุนแก้ไขความยากจน
นายโรเบิร์ต โซลลิค ประธานธนาคารโลก กล่าวในการประชุมประจำปี ว่า ต้องการเรียกร้องให้สมาชิกทั้งหมด 185 ประเทศในธนาคารโลก สนับสนุนการทำงานของธนาคารโลก เกี่ยวกับทิศทางการช่วยเหลือความยากจน และให้ความสำคัญกับภาคเอกชนในการบรรเทาปัญหาของประเทศที่ประสบกับความยากจน นอกจากนี้ ประธานธนาคารโลก ยังต้องการให้มีการปรับปรุงภาคบริการของประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ ที่มีการขยายตัวสูง โดยไม่จำเป็นต้องใช้แหล่งเงินกู้อีกต่อไป ทั้งนี้ มี 81 ชาติสมาชิกที่ยากจนที่สุดในโลก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
นายโรเบิร์ต โซลลิค ประธานธนาคารโลก กล่าวในการประชุมประจำปี ว่า ต้องการเรียกร้องให้สมาชิกทั้งหมด 185 ประเทศในธนาคารโลก สนับสนุนการทำงานของธนาคารโลก เกี่ยวกับทิศทางการช่วยเหลือความยากจน และให้ความสำคัญกับภาคเอกชนในการบรรเทาปัญหาของประเทศที่ประสบกับความยากจน นอกจากนี้ ประธานธนาคารโลก ยังต้องการให้มีการปรับปรุงภาคบริการของประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ ที่มีการขยายตัวสูง โดยไม่จำเป็นต้องใช้แหล่งเงินกู้อีกต่อไป ทั้งนี้ มี 81 ชาติสมาชิกที่ยากจนที่สุดในโลก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news23/10/07
โพสต์ที่ 155
ผู้ว่า BOJ เชื่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังขยายตัวต่อเนื่อง แม้ภาพรวมศก.โลกชะลอตัว
นายโตชิฮิโกะ ฟูกูอิ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงเชื่อมั่นว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะขยายตัวต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยด้านราคาสินค้าที่มีเสถียรภาพ ทาง BOJ ยังคงพิจารณาถึงเวลาที่เหมาะสมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีนี้ โดยนายฟูกูอิ กล่าวว่า สถานการณ์ความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงมีอยู่ ขณะที่ปัจจัยบั่นทอนเศรษฐกิจที่ไม่สามารถคาดเดาได้จะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะนี้
จีน-ญี่ปุ่น พร้อมใจลดถือครองพันธบัตรสกุลเงินดอลล์อย่างหนัก
กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ญี่ปุ่น และจีน ได้ลดการถือครองพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐลง โดยเฉพาะจีนที่ลดการถือครองไปแล้วถึง 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 2.2% ซึ่งนับว่ามากที่สุดในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปี 2545 ส่วนญี่ปุ่นนั้น ได้ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐลง 4% เหลือเพียง 586,000 ล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์กล่าวว่า สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ได้รับความสนใจจากต่างชาติน้อยลง อันเนื่องมาจากปัญหาในตลาดซับไพรม์ รวมทั้งการที่เงินดอลลาร์อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
นายโตชิฮิโกะ ฟูกูอิ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงเชื่อมั่นว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะขยายตัวต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยด้านราคาสินค้าที่มีเสถียรภาพ ทาง BOJ ยังคงพิจารณาถึงเวลาที่เหมาะสมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีนี้ โดยนายฟูกูอิ กล่าวว่า สถานการณ์ความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงมีอยู่ ขณะที่ปัจจัยบั่นทอนเศรษฐกิจที่ไม่สามารถคาดเดาได้จะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะนี้
จีน-ญี่ปุ่น พร้อมใจลดถือครองพันธบัตรสกุลเงินดอลล์อย่างหนัก
กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ญี่ปุ่น และจีน ได้ลดการถือครองพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐลง โดยเฉพาะจีนที่ลดการถือครองไปแล้วถึง 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 2.2% ซึ่งนับว่ามากที่สุดในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปี 2545 ส่วนญี่ปุ่นนั้น ได้ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐลง 4% เหลือเพียง 586,000 ล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์กล่าวว่า สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ได้รับความสนใจจากต่างชาติน้อยลง อันเนื่องมาจากปัญหาในตลาดซับไพรม์ รวมทั้งการที่เงินดอลลาร์อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news24/10/07
โพสต์ที่ 156
อลัน กรีนสแปน ชี้ น้ำมันพุ่งเกินกว่า 90 เหรียญ อาจเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของชาวอเมริกัน
อลัน กรีนสแปน กล่าวถึงปัญหาราคาน้ำมันดิบที่ทำลายสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 90.07 เหรียญ ต่อบาร์เรลลว่า ในระยะยาวแล้ว ราคาน้ำมันที่แพงเป็นประวัติการณ์ จะทำให้พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงไป ในขณะเดียวกัน จะเกิดการส่งเสริมให้หันไปใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น ทั้งนี้ อลัน กรีนสแปน เตือนว่า ความพยายามที่จะผลิตเอธานอล เพื่อผสมกับน้ำมันเบนซิน โดยใช้ข้าวโพด ซึ่งกลายเป็นนโยบายทางการเมืองในสหรัฐขณะนี้ จะส่งผลต่อราคาสินค้าเกษตรพุ่งสูงขึ้น เพิ่มเงินเฟ้อในอนาคตที่ไม่ได้มากจากน้ำมัน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
อลัน กรีนสแปน กล่าวถึงปัญหาราคาน้ำมันดิบที่ทำลายสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 90.07 เหรียญ ต่อบาร์เรลลว่า ในระยะยาวแล้ว ราคาน้ำมันที่แพงเป็นประวัติการณ์ จะทำให้พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงไป ในขณะเดียวกัน จะเกิดการส่งเสริมให้หันไปใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น ทั้งนี้ อลัน กรีนสแปน เตือนว่า ความพยายามที่จะผลิตเอธานอล เพื่อผสมกับน้ำมันเบนซิน โดยใช้ข้าวโพด ซึ่งกลายเป็นนโยบายทางการเมืองในสหรัฐขณะนี้ จะส่งผลต่อราคาสินค้าเกษตรพุ่งสูงขึ้น เพิ่มเงินเฟ้อในอนาคตที่ไม่ได้มากจากน้ำมัน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news24/10/07
โพสต์ที่ 157
ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ยอมรับไฟป่า กระทบเศรษฐกิจแคลิฟอร์เนีย
ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย อาร์โนลด์ ชวาสเน็กเกอร์ กล่าวยอมรับว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากไฟป่าทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียจำนวน 16 จุดใหญ่ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแคลิฟอร์เนียอย่างมาก มีพื้นที่ถูกทำลายมากถึง 3.56 แสนเอเคอร์ บ้านที่อยู่อาศัยจำนวนกว่า 6.85 หมื่นหลังถูกทำลาย และธุรกิจห้างร้านกว่า 2.2 หมื่นแห่งเสียหาย มีชาวแคลิฟอร์เนียกว่า 3.21 แสนคนต้องหนีตาย ด้านบริษัท โซนี่ อิเลคทริคส์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโซนี่ คอร์ปอเรชั่น ประกาศปิดบริษัทที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของซานดิอาโก ในแคลิฟอร์เนีย
ธุรกิจประกันวินาศภัยแคลิฟอร์เนีย ชี้ ธุรกิจประกันภัยเสียหายกว่า 1 หมื่นล้านบาท
บริษัท สเตท ฟาร์ม มิวชวล อินชัวร์รานซ์ และบริษัท ฟาร์มเมอร์ อินชัวร์รานซ์ กรุ๊ป เป็น 2 บริษัทประกันภัยบ้านเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่า มูลค่าความเสียหายของบริษัทประกันภัย ที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติไฟป่าทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งลุกลามขึ้นมาถึงเมืองซานดิอาโกเมื่อคืนที่ผ่านมา อาจมีสูงมากถึง 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.75 หมื่นล้านบาท จากการยื่นขอเงินชดเชยของลูกค้าร่วม 1,500 คนในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทั้งนี้ ราคาเฉลี่ยบ้านในพื้นที่ที่เสียหายอยู่ที่หลังละ 17 ล้าน
รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ ชี้ จีนอาจปิดกั้นการค้า การลงทุนมากขึ้น
นายคาร์ลอส กูติเรส รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ในขณะนี้เริ่มมีสัญญาณ และปัจจัยเสี่ยงที่ชัดเจนมากขึ้น เกี่ยวกับท่าทีของจีนแผ่นดินใหญ่ ที่อาจจะเริ่มกลับไปใช้นโยบายการปิดกั้นการค้า และการลงทุนระหว่างประเทศมากขึ้น โดยตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ นโยบายเกี่ยวกับการอุดหนุนเงินไม่ว่าจะเป็นทางทางตรง หรือทางอ้อมให้กับบรรดาบริษัทสัญชาติจีน นโยบายดังกล่าว ทำให้เกิดการแทรกแซงกลไกทางธุรกิจ ลดช่องทางการเข้าถึงตลาดสำคัญ และที่สำคัญ ทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดภายในมากกว่าภายนอก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย อาร์โนลด์ ชวาสเน็กเกอร์ กล่าวยอมรับว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากไฟป่าทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียจำนวน 16 จุดใหญ่ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแคลิฟอร์เนียอย่างมาก มีพื้นที่ถูกทำลายมากถึง 3.56 แสนเอเคอร์ บ้านที่อยู่อาศัยจำนวนกว่า 6.85 หมื่นหลังถูกทำลาย และธุรกิจห้างร้านกว่า 2.2 หมื่นแห่งเสียหาย มีชาวแคลิฟอร์เนียกว่า 3.21 แสนคนต้องหนีตาย ด้านบริษัท โซนี่ อิเลคทริคส์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโซนี่ คอร์ปอเรชั่น ประกาศปิดบริษัทที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของซานดิอาโก ในแคลิฟอร์เนีย
ธุรกิจประกันวินาศภัยแคลิฟอร์เนีย ชี้ ธุรกิจประกันภัยเสียหายกว่า 1 หมื่นล้านบาท
บริษัท สเตท ฟาร์ม มิวชวล อินชัวร์รานซ์ และบริษัท ฟาร์มเมอร์ อินชัวร์รานซ์ กรุ๊ป เป็น 2 บริษัทประกันภัยบ้านเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่า มูลค่าความเสียหายของบริษัทประกันภัย ที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติไฟป่าทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งลุกลามขึ้นมาถึงเมืองซานดิอาโกเมื่อคืนที่ผ่านมา อาจมีสูงมากถึง 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.75 หมื่นล้านบาท จากการยื่นขอเงินชดเชยของลูกค้าร่วม 1,500 คนในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทั้งนี้ ราคาเฉลี่ยบ้านในพื้นที่ที่เสียหายอยู่ที่หลังละ 17 ล้าน
รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ ชี้ จีนอาจปิดกั้นการค้า การลงทุนมากขึ้น
นายคาร์ลอส กูติเรส รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ในขณะนี้เริ่มมีสัญญาณ และปัจจัยเสี่ยงที่ชัดเจนมากขึ้น เกี่ยวกับท่าทีของจีนแผ่นดินใหญ่ ที่อาจจะเริ่มกลับไปใช้นโยบายการปิดกั้นการค้า และการลงทุนระหว่างประเทศมากขึ้น โดยตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ นโยบายเกี่ยวกับการอุดหนุนเงินไม่ว่าจะเป็นทางทางตรง หรือทางอ้อมให้กับบรรดาบริษัทสัญชาติจีน นโยบายดังกล่าว ทำให้เกิดการแทรกแซงกลไกทางธุรกิจ ลดช่องทางการเข้าถึงตลาดสำคัญ และที่สำคัญ ทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดภายในมากกว่าภายนอก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news24/10/07
โพสต์ที่ 158
รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน อินเดียและรัสเซียจะพบเจรจากันทางเหนือของจีน
รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน รัสเซียและอินเดียจะจัดการเจรจากันในเมืองฮาร์บิน ทางเหนือของจีนวันนี้ เพื่อหารือในประเด็นปัญหาต่างๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่รัฐมนตรีทั้ง 3 ชาติจัดการเจรจากัน การจัดการเจรจาดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายคาดว่า จีน รัสเซีย และอินเดีย ต้องการที่จะจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรเพื่อต้านทานอำนาจอิทธิพลของสหรัฐในภูมิภาคนี้ ซึ่งในการเจรจากันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้ง 3 ชาติได้หารือกันเกี่ยวกับความมั่นคงด้านพลังงาน
ตุรกียืนยันจะพยายามใช้ช่องทางทางการทูตก่อนโจมตีกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ด
ตุรกียืนยันจะพยายามใช้ช่องทางทางการทูตทุกวิธี ก่อนที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ดในภาคเหนือของอิรัก นายกรัฐมนตรีไตยึบ แอร์ดวน ของตุรกีระบุว่าเขาจะระงับการโจมตีไว้ก่อน 2 - 3 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้สหรัฐใช้ความพยายามควบคุมกลุ่มกบฎชาวเคิร์ดก่อน ขณะที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้แสดงความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการโจมตีกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดเพราะจะทำให้ภาคเหนือของอิรักที่ถือว่าสงบสุขที่สุดเกิดความไร้เสถียรภาพ
จีนคาดเศรษฐกิจปีนี้โต 11.5% ขณะที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
รัฐบาลจีนระบุว่าเศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะโตที่ระดับประมาณ 11.5% ขณะที่เงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 4.3% นอกจากนี้ จีนจะเกินดุลการค้ากับประเทศต่างๆ ถึง 257,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากการส่งออกขยายตัว ถึง 24% ขณะที่การนำเข้าขยายตัวเพียง 4% ส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้านั้นจีนคาดว่า จะมีอัตราการเติบโตของจีดีพีอยู่ที่ระดับ 11% ขณะที่เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 3.5%
อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่นแข่งขันกันอย่างดุเดือด
โตโยต้ามอเตอร์ ค่ายรถยนต์เบอร์หนึ่งของญี่ปุ่นประกาศว่าจะนำ คาร์บอนไฟเบอร์มาเป็นส่วนประกอบในการผลิตรถยนต์ให้มากขึ้น เพื่อสร้างรถยนต์ที่มีน้ำหนักเบา และประหยัดพลังงาน เพื่อกระตุ้นยอดขายท่ามกลางการแข่งขันกันอย่างดุเดือดในขณะที่ราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ผู้บริหารของนิสสัน ยอมรับว่ายอดขายรถยนต์ในตลาดรถสหรัฐฯ ในปีหน้าจะลดลงมาเหลือแค่เพียง 15.5 - 16 ล้านคัน.
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน รัสเซียและอินเดียจะจัดการเจรจากันในเมืองฮาร์บิน ทางเหนือของจีนวันนี้ เพื่อหารือในประเด็นปัญหาต่างๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่รัฐมนตรีทั้ง 3 ชาติจัดการเจรจากัน การจัดการเจรจาดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายคาดว่า จีน รัสเซีย และอินเดีย ต้องการที่จะจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรเพื่อต้านทานอำนาจอิทธิพลของสหรัฐในภูมิภาคนี้ ซึ่งในการเจรจากันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้ง 3 ชาติได้หารือกันเกี่ยวกับความมั่นคงด้านพลังงาน
ตุรกียืนยันจะพยายามใช้ช่องทางทางการทูตก่อนโจมตีกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ด
ตุรกียืนยันจะพยายามใช้ช่องทางทางการทูตทุกวิธี ก่อนที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ดในภาคเหนือของอิรัก นายกรัฐมนตรีไตยึบ แอร์ดวน ของตุรกีระบุว่าเขาจะระงับการโจมตีไว้ก่อน 2 - 3 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้สหรัฐใช้ความพยายามควบคุมกลุ่มกบฎชาวเคิร์ดก่อน ขณะที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้แสดงความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการโจมตีกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดเพราะจะทำให้ภาคเหนือของอิรักที่ถือว่าสงบสุขที่สุดเกิดความไร้เสถียรภาพ
จีนคาดเศรษฐกิจปีนี้โต 11.5% ขณะที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
รัฐบาลจีนระบุว่าเศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะโตที่ระดับประมาณ 11.5% ขณะที่เงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 4.3% นอกจากนี้ จีนจะเกินดุลการค้ากับประเทศต่างๆ ถึง 257,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากการส่งออกขยายตัว ถึง 24% ขณะที่การนำเข้าขยายตัวเพียง 4% ส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้านั้นจีนคาดว่า จะมีอัตราการเติบโตของจีดีพีอยู่ที่ระดับ 11% ขณะที่เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 3.5%
อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่นแข่งขันกันอย่างดุเดือด
โตโยต้ามอเตอร์ ค่ายรถยนต์เบอร์หนึ่งของญี่ปุ่นประกาศว่าจะนำ คาร์บอนไฟเบอร์มาเป็นส่วนประกอบในการผลิตรถยนต์ให้มากขึ้น เพื่อสร้างรถยนต์ที่มีน้ำหนักเบา และประหยัดพลังงาน เพื่อกระตุ้นยอดขายท่ามกลางการแข่งขันกันอย่างดุเดือดในขณะที่ราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ผู้บริหารของนิสสัน ยอมรับว่ายอดขายรถยนต์ในตลาดรถสหรัฐฯ ในปีหน้าจะลดลงมาเหลือแค่เพียง 15.5 - 16 ล้านคัน.
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news24/10/07
โพสต์ที่ 159
เงินหยวนแข็งทะลุ 7.5 หยวน ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แต่กลุ่มจี 7 ยังไม่พอใจ ระบุ การแข็งค่ายังช้าเกินไป
Posted on Wednesday, October 24, 2007
หลังจากการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 แห่ง หรือกลุ่มจี 7 เสร็จสิ้นลงไป ด้วยการประกาศจุดยืนที่แข็งกร้าว เรียกร้องให้ทางการจีน เร่งดำเนินการปรับขึ้นค่าเงินหยวนให้แข็งค่าเร็วขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อช่วยสร้างสมดุลของเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะช่วยขจัดปัญหาเงินเฟ้อให้ทุเลาลงตามไปด้วย เพราะนับจากทางการจีนประกาศยกเลิกการตรึงค่าเงินหยวนกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2548 เป็นต้นมา ถึงวันนี้ เงินหยวนปรับค่าแข็งขึ้นเพียง 8.0%
ล่าสุด ค่าเงินหยวนแข็งค่าทำนิวไฮต่อเนื่อง 2 วันติดกัน พุ่งทะลุกำแพงจิตวิทยาที่ 7.5 หยวน ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก ในวันนี้ และอาจจะปรับแข็งค่าขึ้นได้อีก เพราะในความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ นักค้าเงิน และนักวิเคราะห์ในตลาดการเงินส่วนใหญ่ ประเมินว่า การที่นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ และนายเจน คราวด์ ทรีเซท์ ผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป เตรียมเดินทางมาเยือนจีนในเร็ว ๆ นี้ กลายเป็นแรงกดดันให้ทางการจัรนต้องปล่อยให้ค่าเงินหยวนปรับแข็งค่าขึ้น
โดยแรงกดดันมีสัญญาณตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา เมื่อนายพอลสัน ออกโรงกระตุ้นจีนให้ปรับขึ้นค่าเงินหยวนให้เร็วขึ้น โดยให้เหตุผลว่า นอกจากจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้เศรษฐกิจโลกได้แล้ว การปรับเพิ่มค่าเงินหยวน ยังสามารถช่วยให้นโยบายการเงินของธนาคารกลางจีน ทำหน้าที่ควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งตัวอย่างร้อนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธที่จะระบุตัวเลขแน่ชัดว่า ต้องการให้เงินหยวนปรับแข็งค่าถึงระดับใด แต่ย้ำว่า เรื่องตัวเลขไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่าการเร่งปรับค่าเงินหยวนให้แข็งค่าเร็วกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ นายคาร์ลอส กูเทียร์เรซ ยังถือโอกาสกระทุ้งทางการจีนด้วยว่า ควรเร่งยกเลิกมาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจของบริษัทอเมริกัน โดยเฉพาะในภาคธุรกิจโทรคมนาคม และธุรกิจหลักทรัพย์อีกด้วย
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
Posted on Wednesday, October 24, 2007
หลังจากการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 แห่ง หรือกลุ่มจี 7 เสร็จสิ้นลงไป ด้วยการประกาศจุดยืนที่แข็งกร้าว เรียกร้องให้ทางการจีน เร่งดำเนินการปรับขึ้นค่าเงินหยวนให้แข็งค่าเร็วขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อช่วยสร้างสมดุลของเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะช่วยขจัดปัญหาเงินเฟ้อให้ทุเลาลงตามไปด้วย เพราะนับจากทางการจีนประกาศยกเลิกการตรึงค่าเงินหยวนกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2548 เป็นต้นมา ถึงวันนี้ เงินหยวนปรับค่าแข็งขึ้นเพียง 8.0%
ล่าสุด ค่าเงินหยวนแข็งค่าทำนิวไฮต่อเนื่อง 2 วันติดกัน พุ่งทะลุกำแพงจิตวิทยาที่ 7.5 หยวน ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก ในวันนี้ และอาจจะปรับแข็งค่าขึ้นได้อีก เพราะในความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ นักค้าเงิน และนักวิเคราะห์ในตลาดการเงินส่วนใหญ่ ประเมินว่า การที่นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ และนายเจน คราวด์ ทรีเซท์ ผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป เตรียมเดินทางมาเยือนจีนในเร็ว ๆ นี้ กลายเป็นแรงกดดันให้ทางการจัรนต้องปล่อยให้ค่าเงินหยวนปรับแข็งค่าขึ้น
โดยแรงกดดันมีสัญญาณตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา เมื่อนายพอลสัน ออกโรงกระตุ้นจีนให้ปรับขึ้นค่าเงินหยวนให้เร็วขึ้น โดยให้เหตุผลว่า นอกจากจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้เศรษฐกิจโลกได้แล้ว การปรับเพิ่มค่าเงินหยวน ยังสามารถช่วยให้นโยบายการเงินของธนาคารกลางจีน ทำหน้าที่ควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งตัวอย่างร้อนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธที่จะระบุตัวเลขแน่ชัดว่า ต้องการให้เงินหยวนปรับแข็งค่าถึงระดับใด แต่ย้ำว่า เรื่องตัวเลขไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่าการเร่งปรับค่าเงินหยวนให้แข็งค่าเร็วกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ นายคาร์ลอส กูเทียร์เรซ ยังถือโอกาสกระทุ้งทางการจีนด้วยว่า ควรเร่งยกเลิกมาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจของบริษัทอเมริกัน โดยเฉพาะในภาคธุรกิจโทรคมนาคม และธุรกิจหลักทรัพย์อีกด้วย
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news25/10/07
โพสต์ที่ 160
วอร์เรน บัฟเฟท เตือนนักลงทุนตลาดหุ้นจีน หลังพุ่งขึ้น 6 เท่าใน 2 ปี
วอเรนต์ บัฟเฟท อัครมหาเศรษฐีดับดับ 3 ของโลกในปีนี้ และยังเป็นประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบิร์กชาย ฮัททะเวย์ กล่าวเตือนนักลงทุนให้ระวังการเข้าไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สำคัญทั้ง 2 แห่งในจีนแผ่นดินใหญ่ หลังพบว่าการขยายตัวของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และตลาดหุ้นเสินเจิ้น ทะยานขึ้นถึงเกือบ 6 เท่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา วอเรนต์ บัฟเฟท ตัดสินใจขายหุ้นทั้งหมดของรัฐวิสาหกิจผลิตน้ำมันชั้นนำของจีนที่มีชื่อว่า ปิโตรไชน่า หลังจากราคาหุ้นของปิโตรไชน่าพุ่งขึ้นถึง 7 เท่าใน 5 ปี
ขุนคลังสหรัฐ หนุนปฏิรูปเศรษฐกิจอินเดีย
นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวในการประชุมกับสภาแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยพร้อมที่จะสนับสนุนให้อินเดีย เร่งการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ เพื่อหนึ่งในเป้าหมายสำคัญ ที่ต้องการผลักดันให้เมืองมุมไบ ซึ่งในปัจจุบันเป็นเมืองสำคัญด้านเศรษฐกิจการเงิน และการลงทุนของอินเดีย ขึ้นไปเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับภูมิภาค นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ย้ำว่า อินเดียต้องลดมูลค่าหนี้สาธารณะลง ปรับปรุงนโยบายการเงิน และอัตราแลกเปลี่ยน ควบรวมกลไลตลาดตราสารหนี้ เน้นทุนนิยม
ไฟป่าแคลิฟอร์เนียเข้าวันที่ 4 เสียหายกว่า 35,000 ล้านบาท
ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากไฟป่าทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียจำนวน 18 จุดใหญ่ เข้าสู่วันที่ 4 ทำให้ความเสียหาย ที่มีต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจแคลิฟอร์เนีย อาจพุ่งขึ้นถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 3.5 หมื่นล้านบาท ทำให้ต้องมีจำนวนชาวแคลิฟอร์เนียต้องอพยบหนีไฟป่าในครั้งนี้พุ่งขึ้นเกือบ 1 ล้านคนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ มีสิ่งก่อสร้างเสียหายทั้งสิ้น 1,664 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นบ้านที่อยู่อาศัยมากถึง 1,436 หลัง ในขณะที่ยังมีที่อยู่อาศัยอีก 2.5 หมื่นแห่งเสี่ยงสูงต่อไฟเผาผลาญ
ไฟป่าแคลิฟอร์เนียปีนี้ เสียหายใกล้เคียงในปี 2534
ล่าสุด ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย เริ่มลุกลามไปยังบริเวณชายแดนประเทศเม็กซิโกกับสหรัฐ สำหรับไฟป่าที่ลุกลามเป็นวันที่ 4 ในรัฐแคลิฟอร์เนียครั้งนี้ มีความเสียหายใกล้เคียง กับเหตุไฟป่าที่เคยเกิดขึ้นในปี 1991 หรือในปี 2534 บนแนวเทือกเขาในเมืองโอ๊คแลนด์ และเบิร์กเล่ย์ ซึ่งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียเช่นกัน โดยในครั้งนั้น สร้างความเสียหายสูงถึง 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 5.95 หมื่นล้านบาท หรือมีมูลค่าเทียบกับ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 8.75 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน
เวเนซูเอล่า เปิดตัวธนบัตร และ เหรียญเงินโบลิวาร์ใหม่
ประธานาธิบดี ฮูโก้ ชาเวส เปิดตัวทั้งธนบัตร และเหรียญเงิน สกุลเงินโบลิวาร์ ของประเทศเวเนซูเอล่าแบบใหม่ โดยจะเริ่มกระจายเข้าไปในระบบการเงินของประเทศในวันที่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นไป ด้านธนาคารกลางแห่งเวเนซูเอล่า กล่าวว่ารูปแบบของธนบัตร และเงินเหรียญสกุลเงินโบลิวาร์ใหม่นี้ จะสร้างความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นให้กับนักลงทุน ที่มีต่อสกุลเงินของประเทศ ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินเหรียญโบลิวาร์อยู่ที่ 2,150 เหรียญโบลิวาร์ ต่อ 1 เหรียญสหรัฐ แต่ในตลาดมืดที่ซื้อขายทั่วไป กลับมีค่าอ่อนลงที่ระดับ 6,000 เหรียญโบลิวาร์ต่อเหรียญสหรัฐ
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
วอเรนต์ บัฟเฟท อัครมหาเศรษฐีดับดับ 3 ของโลกในปีนี้ และยังเป็นประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบิร์กชาย ฮัททะเวย์ กล่าวเตือนนักลงทุนให้ระวังการเข้าไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สำคัญทั้ง 2 แห่งในจีนแผ่นดินใหญ่ หลังพบว่าการขยายตัวของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และตลาดหุ้นเสินเจิ้น ทะยานขึ้นถึงเกือบ 6 เท่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา วอเรนต์ บัฟเฟท ตัดสินใจขายหุ้นทั้งหมดของรัฐวิสาหกิจผลิตน้ำมันชั้นนำของจีนที่มีชื่อว่า ปิโตรไชน่า หลังจากราคาหุ้นของปิโตรไชน่าพุ่งขึ้นถึง 7 เท่าใน 5 ปี
ขุนคลังสหรัฐ หนุนปฏิรูปเศรษฐกิจอินเดีย
นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวในการประชุมกับสภาแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยพร้อมที่จะสนับสนุนให้อินเดีย เร่งการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ เพื่อหนึ่งในเป้าหมายสำคัญ ที่ต้องการผลักดันให้เมืองมุมไบ ซึ่งในปัจจุบันเป็นเมืองสำคัญด้านเศรษฐกิจการเงิน และการลงทุนของอินเดีย ขึ้นไปเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับภูมิภาค นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ย้ำว่า อินเดียต้องลดมูลค่าหนี้สาธารณะลง ปรับปรุงนโยบายการเงิน และอัตราแลกเปลี่ยน ควบรวมกลไลตลาดตราสารหนี้ เน้นทุนนิยม
ไฟป่าแคลิฟอร์เนียเข้าวันที่ 4 เสียหายกว่า 35,000 ล้านบาท
ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากไฟป่าทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียจำนวน 18 จุดใหญ่ เข้าสู่วันที่ 4 ทำให้ความเสียหาย ที่มีต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจแคลิฟอร์เนีย อาจพุ่งขึ้นถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 3.5 หมื่นล้านบาท ทำให้ต้องมีจำนวนชาวแคลิฟอร์เนียต้องอพยบหนีไฟป่าในครั้งนี้พุ่งขึ้นเกือบ 1 ล้านคนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ มีสิ่งก่อสร้างเสียหายทั้งสิ้น 1,664 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นบ้านที่อยู่อาศัยมากถึง 1,436 หลัง ในขณะที่ยังมีที่อยู่อาศัยอีก 2.5 หมื่นแห่งเสี่ยงสูงต่อไฟเผาผลาญ
ไฟป่าแคลิฟอร์เนียปีนี้ เสียหายใกล้เคียงในปี 2534
ล่าสุด ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย เริ่มลุกลามไปยังบริเวณชายแดนประเทศเม็กซิโกกับสหรัฐ สำหรับไฟป่าที่ลุกลามเป็นวันที่ 4 ในรัฐแคลิฟอร์เนียครั้งนี้ มีความเสียหายใกล้เคียง กับเหตุไฟป่าที่เคยเกิดขึ้นในปี 1991 หรือในปี 2534 บนแนวเทือกเขาในเมืองโอ๊คแลนด์ และเบิร์กเล่ย์ ซึ่งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียเช่นกัน โดยในครั้งนั้น สร้างความเสียหายสูงถึง 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 5.95 หมื่นล้านบาท หรือมีมูลค่าเทียบกับ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 8.75 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน
เวเนซูเอล่า เปิดตัวธนบัตร และ เหรียญเงินโบลิวาร์ใหม่
ประธานาธิบดี ฮูโก้ ชาเวส เปิดตัวทั้งธนบัตร และเหรียญเงิน สกุลเงินโบลิวาร์ ของประเทศเวเนซูเอล่าแบบใหม่ โดยจะเริ่มกระจายเข้าไปในระบบการเงินของประเทศในวันที่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นไป ด้านธนาคารกลางแห่งเวเนซูเอล่า กล่าวว่ารูปแบบของธนบัตร และเงินเหรียญสกุลเงินโบลิวาร์ใหม่นี้ จะสร้างความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นให้กับนักลงทุน ที่มีต่อสกุลเงินของประเทศ ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินเหรียญโบลิวาร์อยู่ที่ 2,150 เหรียญโบลิวาร์ ต่อ 1 เหรียญสหรัฐ แต่ในตลาดมืดที่ซื้อขายทั่วไป กลับมีค่าอ่อนลงที่ระดับ 6,000 เหรียญโบลิวาร์ต่อเหรียญสหรัฐ
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news25/10/07
โพสต์ที่ 161
อุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐเรียกร้องญี่ปุ่นปล่อยค่าเงินเยนแข็งค่ามากขึ้น
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐอเมริกาได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นปล่อยให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตยานยนต์สหรัฐที่กำลังดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด คณะกรรมการนโยบายการค้ายานยนต์ ซึ่งประกอบด้วย ผู้ผลิตยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐได้แก่ เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป, ฟอร์ด มอเตอร์ โค และไครสเลอร์ แอลแอลซี กล่าวว่า "ขณะนี้ค่าเงินเยนเป็นสกุลเงินที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุดในโลกพัฒนาแล้ว" นอกเหนือจากค่าเงินหยวนที่ต่ำกว่าความเป็นจริงแล้ว การอ่อนค่าลงของเงินเยนก็เป็นประเด็นที่วุฒิสภาสหรัฐให้ความสนใจเช่นกัน โดยมองว่า ญี่ปุ่นยินยอมสกัดการแข็งค่าของเงินเยนด้วยการแทรกแซงตลาด
มาเลเซียตั้งเป้าเป็นเป้าหมายการลงทุนรายใหญ่ที่สุดในเอเชียใน 2 ปีหน้า
หนังสือพิมพ์นิว สเตรทส์ ไทม์รายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายไซนัล อัสนัม ยูซอฟ ที่ปรึกษาคณะทำงานแห่งชาติมาเลเซียว่า มาเลเซียอาจก้าวเป็นหนึ่งในเป้าหมายด้านการลงทุนรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอีก 2 ปีข้างหน้า หากมาเลเซียเร่งเดินหน้าพัฒนาให้เกิดเสรีและเพิ่มศักยภาพของประเทศให้มากขึ้น เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มาเลเซียได้พยายามปรับปรุงระบบขนส่งของประเทศควบคู่ไปกับการจัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อให้การสนับสนุนภาคธุรกิจ เขากล่าวว่า หนึ่งในการปฏิรูปก็คือการเดินหน้าเปลี่ยนแปลงระบบขนส่งภายใต้นโยบายเศรษฐกิจใหม่ และเการปลี่ยนแปลงกฎระเบียบต่างๆในพื้นที่เขตเศรษฐกิจทั้ง 5 แห่ง
โตเกียวมอเตอร์โชว์เปิดฉากแล้วเมื่อวานนี้ ไฮไลท์ที่อีโก้คาร์
มหกรรมยานยนต์ชั้นนำอย่างโตเกียว มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 40 ได้เปิดฉากขึ้นแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นรอบของสื่อมวลชน โดยจุดเด่นของงานอยู่ที่รถยนต์ประหยัดพลังงานหรืออีโก้คาร์ รวมทั้งรถสปอร์ตระดับไฮเอ็นด์ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นมองว่า ยากลำบากสำหรับการได้ใจและทำยอดขายจากผู้บริโภคภายในประเทศ ภายในงานจะมียานยนต์จัดแสดงในงานประมาณ 540 คัน ซึ่งรวมถึงรถมอเตอร์ไซค์ จากบริษัทรถถึง 58 บริษัท โดยบริษัทรถของญี่ปุ่นเองกำลังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการส่งเสริมแนวคิดเรื่องความสนุกสนานในการขับขี่แบบพิเศษ ซึ่งจะมีการเปิดตัวให้กับผู้เข้าชมงานทั่วไปได้เห็นในวันเสาร์ที่จะถึงนี้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐอเมริกาได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นปล่อยให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตยานยนต์สหรัฐที่กำลังดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด คณะกรรมการนโยบายการค้ายานยนต์ ซึ่งประกอบด้วย ผู้ผลิตยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐได้แก่ เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป, ฟอร์ด มอเตอร์ โค และไครสเลอร์ แอลแอลซี กล่าวว่า "ขณะนี้ค่าเงินเยนเป็นสกุลเงินที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุดในโลกพัฒนาแล้ว" นอกเหนือจากค่าเงินหยวนที่ต่ำกว่าความเป็นจริงแล้ว การอ่อนค่าลงของเงินเยนก็เป็นประเด็นที่วุฒิสภาสหรัฐให้ความสนใจเช่นกัน โดยมองว่า ญี่ปุ่นยินยอมสกัดการแข็งค่าของเงินเยนด้วยการแทรกแซงตลาด
มาเลเซียตั้งเป้าเป็นเป้าหมายการลงทุนรายใหญ่ที่สุดในเอเชียใน 2 ปีหน้า
หนังสือพิมพ์นิว สเตรทส์ ไทม์รายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายไซนัล อัสนัม ยูซอฟ ที่ปรึกษาคณะทำงานแห่งชาติมาเลเซียว่า มาเลเซียอาจก้าวเป็นหนึ่งในเป้าหมายด้านการลงทุนรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอีก 2 ปีข้างหน้า หากมาเลเซียเร่งเดินหน้าพัฒนาให้เกิดเสรีและเพิ่มศักยภาพของประเทศให้มากขึ้น เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มาเลเซียได้พยายามปรับปรุงระบบขนส่งของประเทศควบคู่ไปกับการจัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อให้การสนับสนุนภาคธุรกิจ เขากล่าวว่า หนึ่งในการปฏิรูปก็คือการเดินหน้าเปลี่ยนแปลงระบบขนส่งภายใต้นโยบายเศรษฐกิจใหม่ และเการปลี่ยนแปลงกฎระเบียบต่างๆในพื้นที่เขตเศรษฐกิจทั้ง 5 แห่ง
โตเกียวมอเตอร์โชว์เปิดฉากแล้วเมื่อวานนี้ ไฮไลท์ที่อีโก้คาร์
มหกรรมยานยนต์ชั้นนำอย่างโตเกียว มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 40 ได้เปิดฉากขึ้นแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นรอบของสื่อมวลชน โดยจุดเด่นของงานอยู่ที่รถยนต์ประหยัดพลังงานหรืออีโก้คาร์ รวมทั้งรถสปอร์ตระดับไฮเอ็นด์ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นมองว่า ยากลำบากสำหรับการได้ใจและทำยอดขายจากผู้บริโภคภายในประเทศ ภายในงานจะมียานยนต์จัดแสดงในงานประมาณ 540 คัน ซึ่งรวมถึงรถมอเตอร์ไซค์ จากบริษัทรถถึง 58 บริษัท โดยบริษัทรถของญี่ปุ่นเองกำลังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการส่งเสริมแนวคิดเรื่องความสนุกสนานในการขับขี่แบบพิเศษ ซึ่งจะมีการเปิดตัวให้กับผู้เข้าชมงานทั่วไปได้เห็นในวันเสาร์ที่จะถึงนี้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news25/10/07
โพสต์ที่ 162
เศรษฐกิจจีนไตรมาส 3 พุ่งสูง 11.5% - ข่าว 18.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Thursday, October 25, 2007
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 3/2550 อยู่ที่ 11.5% ลดลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการขยายตัวสูงถึง 11.9% เป็นอัตราการขยายตัวรายไตรมาสสูงที่สุดในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา หากการขยายตัวเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงรักษาระดับนี้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะทำให้การขยายตัวของทั้งปี 2550 สร้างสถิติการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1993 หรือในรอบ 14 ปีที่ผ่านมา
จากอัตราการขยายตัวที่สูงถึง 11.5% ในไตรมาสที่ 3/2550 ส่งผลให้อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจจีนในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้สูงถึง 11.5% เช่นเดียวกัน โดยมีสาเหตุมาจากการขยายตัวภาคอุตสาหกรรม ภาคครัวเรือน และภาคการผลิต ซึ่งเป็น 3 ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนอย่างต่อเนื่อง
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนแผ่นดินใหญ่ยอมรับว่า การขยายตัวที่มีสูงถึง 7 ไตรมาส หรือ 21 เดือนติดต่อกัน ได้เพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อมากขึ้น อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อล่าสุดเมื่อคิดบนพื้นฐาน 12 เดือนนั้น ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา กลับชะลอตัวลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 6.2% เมื่อเทียบกับเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคมที่ระดับ 6.5%
ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์ และนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ ล้วนมองไปทางเดียวกันว่า ทางการจีนอาจจะต้องตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มข้นมากขึ้น รวมถึงมาตรการอื่น ๆ ในภาคการเงิน และการลงทุนในสินทรัพย์คงที่
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Thursday, October 25, 2007
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 3/2550 อยู่ที่ 11.5% ลดลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการขยายตัวสูงถึง 11.9% เป็นอัตราการขยายตัวรายไตรมาสสูงที่สุดในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา หากการขยายตัวเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงรักษาระดับนี้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะทำให้การขยายตัวของทั้งปี 2550 สร้างสถิติการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1993 หรือในรอบ 14 ปีที่ผ่านมา
จากอัตราการขยายตัวที่สูงถึง 11.5% ในไตรมาสที่ 3/2550 ส่งผลให้อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจจีนในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้สูงถึง 11.5% เช่นเดียวกัน โดยมีสาเหตุมาจากการขยายตัวภาคอุตสาหกรรม ภาคครัวเรือน และภาคการผลิต ซึ่งเป็น 3 ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนอย่างต่อเนื่อง
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนแผ่นดินใหญ่ยอมรับว่า การขยายตัวที่มีสูงถึง 7 ไตรมาส หรือ 21 เดือนติดต่อกัน ได้เพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อมากขึ้น อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อล่าสุดเมื่อคิดบนพื้นฐาน 12 เดือนนั้น ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา กลับชะลอตัวลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 6.2% เมื่อเทียบกับเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคมที่ระดับ 6.5%
ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์ และนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ ล้วนมองไปทางเดียวกันว่า ทางการจีนอาจจะต้องตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มข้นมากขึ้น รวมถึงมาตรการอื่น ๆ ในภาคการเงิน และการลงทุนในสินทรัพย์คงที่
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news26/10/07
โพสต์ที่ 163
บริษัทผู้ผลิตรองเท้าในจีนตั้งเป้ารุกตลาดรองเท้าในภูมิภาคเอเชียกลาง
บริษัทผู้ผลิตรองเท้าของจีนหลายแห่งตั้งเป้าที่จะบุกตลาดในภูมิภาคเอเชียกลาง หลังจากที่บริษัทได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้นโยบายคืนเงินภาษีส่งออกฉบับใหม่ของจีน และการใช้มาตรการต่อต้านการลดภาษีของสหภาพยุโรป ด้วยมาตรฐานการดำรงชีวิตของประชาชนในประเทศแถบเอเชียกลางที่ดีขึ้น ทำให้ประชาชนต่างพอใจที่จะสวมใส่รองเท้าที่ผลิตในประเทศจีนมากขึ้น ดังนั้นสถานการณ์เช่นนี้จึงถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ผลิตรองเท้าในประเทศจีนที่จะตีตลาดในภูมิภาคดังกล่าว
สิงคโปร์แอร์ไลน์เปิดให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์เครื่องแอร์บัสA380 แล้ว
สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์สได้เปิดให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์บนเครื่องบินแอร์บัส A380 ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกแล้ว โดยเที่ยวบินเที่ยวแรกจะบินในเส้นทางสิงคโปร์ไปยังนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 7 ชั่วโมงครึ่ง แอร์บัส A380 เป็นเครื่องบินที่มีพื้นที่ให้บริการขนาดใหญ่ 2 ชั้นนั้น ได้เดินทางออกจากสนามบินชางจีของสิงคโปร์พร้อมด้วยผู้โดยสารประมาณ 455 คน การประมูลเที่ยวบินดังกล่าวสามารถระดมทุนได้ประมาณ 1.9 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น จะถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล
จีนคาดกีฬาโอลิมปิกปักกิ่งจะช่วยธุรกิจอาหารกวาดรายได้ 2.7 พันล้านดอลลาร์
สมาคมอาหารของจีน (CCA) รายงานว่า มหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งจะช่วยให้ธุรกิจอาหารของจีนกวาดรายได้สูงถึง 2 หมื่นล้านหยวน (2.7 พันล้านดอลลาร์) ในช่วงระหว่างการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีหน้า จีนจะให้การต้อนรับนักกีฬา คณะกรรมการผู้ตัดสิน ผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่อื่นๆจำนวน 280,000 คน จากกว่า 200 ประเทศ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศประมาณ 5 ล้านคน และนักท่องเที่ยวในประเทศอีกกว่า 120 ล้านคน เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ปักกิ่งในปี 2551 และมีผู้เข้าชมมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 7 ล้านคน
ธ.กลางเกาหลีใต้เผยเศรษฐกิจไตรมาส 3 ขยายตัว 1.4% สอดคล้องคาดการณ์
ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ชะลอตัวลงในไตรมาส 3 ของปีนี้ หลังจากที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งปีแรกและไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยธนาคารกลางระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)ไตรมาส 3 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.4% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ สถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ตึงตัว และการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมโรงงานและเครื่องจักรที่ซบเซาเป็นปัจจัยที่ทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ชะลอตัวลง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
บริษัทผู้ผลิตรองเท้าของจีนหลายแห่งตั้งเป้าที่จะบุกตลาดในภูมิภาคเอเชียกลาง หลังจากที่บริษัทได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้นโยบายคืนเงินภาษีส่งออกฉบับใหม่ของจีน และการใช้มาตรการต่อต้านการลดภาษีของสหภาพยุโรป ด้วยมาตรฐานการดำรงชีวิตของประชาชนในประเทศแถบเอเชียกลางที่ดีขึ้น ทำให้ประชาชนต่างพอใจที่จะสวมใส่รองเท้าที่ผลิตในประเทศจีนมากขึ้น ดังนั้นสถานการณ์เช่นนี้จึงถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ผลิตรองเท้าในประเทศจีนที่จะตีตลาดในภูมิภาคดังกล่าว
สิงคโปร์แอร์ไลน์เปิดให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์เครื่องแอร์บัสA380 แล้ว
สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์สได้เปิดให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์บนเครื่องบินแอร์บัส A380 ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกแล้ว โดยเที่ยวบินเที่ยวแรกจะบินในเส้นทางสิงคโปร์ไปยังนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 7 ชั่วโมงครึ่ง แอร์บัส A380 เป็นเครื่องบินที่มีพื้นที่ให้บริการขนาดใหญ่ 2 ชั้นนั้น ได้เดินทางออกจากสนามบินชางจีของสิงคโปร์พร้อมด้วยผู้โดยสารประมาณ 455 คน การประมูลเที่ยวบินดังกล่าวสามารถระดมทุนได้ประมาณ 1.9 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น จะถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล
จีนคาดกีฬาโอลิมปิกปักกิ่งจะช่วยธุรกิจอาหารกวาดรายได้ 2.7 พันล้านดอลลาร์
สมาคมอาหารของจีน (CCA) รายงานว่า มหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งจะช่วยให้ธุรกิจอาหารของจีนกวาดรายได้สูงถึง 2 หมื่นล้านหยวน (2.7 พันล้านดอลลาร์) ในช่วงระหว่างการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีหน้า จีนจะให้การต้อนรับนักกีฬา คณะกรรมการผู้ตัดสิน ผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่อื่นๆจำนวน 280,000 คน จากกว่า 200 ประเทศ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศประมาณ 5 ล้านคน และนักท่องเที่ยวในประเทศอีกกว่า 120 ล้านคน เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ปักกิ่งในปี 2551 และมีผู้เข้าชมมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 7 ล้านคน
ธ.กลางเกาหลีใต้เผยเศรษฐกิจไตรมาส 3 ขยายตัว 1.4% สอดคล้องคาดการณ์
ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ชะลอตัวลงในไตรมาส 3 ของปีนี้ หลังจากที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งปีแรกและไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยธนาคารกลางระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)ไตรมาส 3 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.4% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ สถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ตึงตัว และการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมโรงงานและเครื่องจักรที่ซบเซาเป็นปัจจัยที่ทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ชะลอตัวลง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news26/10/07
โพสต์ที่ 164
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มั่นใจ FED ลดดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 0.25% ส่วนบ้านเรารอลุ้นสิ้นปีอีกครั้ง
Posted on Friday, October 26, 2007
ในวันที่ 30-31 ตุลาคม 2550 คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (Federal Open Market Committee: FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด จะมีการประชุมรอบที่ 7 ของปีเพื่อพิจารณาทิศทางนโยบายการเงิน หรืออัตราดอกเบี้ย Fed Funds ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 4.75 หลังจากที่ในการประชุมรอบก่อนหน้า (18 กันยายน) เฟดเพิ่งจะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ลงเป็นครั้งแรก ร้อยละ 0.50 จากร้อยละ 5.25 ซึ่งเป็นระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2549
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เฟดยังมีความยืดหยุ่นสำหรับการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงได้อีกในระยะที่เหลือของปีนี้ โดยมีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกอย่างน้อยร้อยละ 0.25 ในการประชุมวันที่ 30 - 31 ตุลาคมนี้ เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้สามารถรักษาโมเมนตัมการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป (soft landing) เนื่องจากปัจจบัน ความเสี่ยงด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาสินเชื่อจำนองของลูกหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ หรือซับไพร์มจะบรรเทาเบาบางลงบ้างจากที่มีมากในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงกันยายนก็ตาม
ในขณะที่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ แม้ราคาน้ำมันตลาดโลกที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อาจเพิ่มแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อในระยะถัดไป แต่ทิศทางอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ขยับเข้าสู่กรอบที่เฟดรู้สึกว่าเป็นปกติ (comfort zone) และการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ก็น่าที่จะช่วยให้แรงกดดันเงินเฟ้อยังคงอยู่ภายในระดับที่ควบคุมได้ของเฟด และเอื้อให้เฟดยังมีความยืดหยุ่นสำหรับการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงต่อเนื่องต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ทั้งนี้ การรายงานข้อมูลเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะถัดไป โดยเฉพาะผลกระทบจากปัญหาสินเชื่อซับไพร์ม ตลอดจนแถลงการณ์หลังการประชุมและสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่เฟด ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและจะมีอิทธิพลต่อการคาดการณ์แนวโน้มการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟดในระยะข้างหน้า
ด้านผลกระทบต่อไทยนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ของเฟด และการคาดการณ์แนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของเฟดในระยะถัดไป อาจมีผลกดดันเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ให้ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ซึ่งทิศทางดังกล่าว ย่อมจะส่งผลให้เงินสกุลภูมิภาค และเงินบาทของไทย ยังมีแนวโน้มปรับตัวแข็งค่าขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ จากปัญหาสินเชื่อซับไพร์ม ที่อาจมีผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้า คงจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย พิจารณาประกอบการตัดสินใจนโยบายอัตราดอกเบี้ยด้วย
อย่างไรก็ตาม หากภาวะการใช้จ่ายในประเทศ ทั้งการบริโภคและการลงทุน ทยอยกลับมาฟื้นตัวขึ้นเมื่อปัญหาการเมืองคลี่คลายลงได้ตามที่คาดหวังไว้ ประกอบกับ ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อของไทยที่มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งกนง.ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาแล้วรวมร้อยละ 1.75 ในปีนี้ กนง.อาจมีความจำเป็นน้อยลงที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยการประชุมรอบสุดท้ายของปี จะมีขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
Posted on Friday, October 26, 2007
ในวันที่ 30-31 ตุลาคม 2550 คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (Federal Open Market Committee: FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด จะมีการประชุมรอบที่ 7 ของปีเพื่อพิจารณาทิศทางนโยบายการเงิน หรืออัตราดอกเบี้ย Fed Funds ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 4.75 หลังจากที่ในการประชุมรอบก่อนหน้า (18 กันยายน) เฟดเพิ่งจะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ลงเป็นครั้งแรก ร้อยละ 0.50 จากร้อยละ 5.25 ซึ่งเป็นระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2549
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เฟดยังมีความยืดหยุ่นสำหรับการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงได้อีกในระยะที่เหลือของปีนี้ โดยมีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกอย่างน้อยร้อยละ 0.25 ในการประชุมวันที่ 30 - 31 ตุลาคมนี้ เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้สามารถรักษาโมเมนตัมการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป (soft landing) เนื่องจากปัจจบัน ความเสี่ยงด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาสินเชื่อจำนองของลูกหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ หรือซับไพร์มจะบรรเทาเบาบางลงบ้างจากที่มีมากในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงกันยายนก็ตาม
ในขณะที่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ แม้ราคาน้ำมันตลาดโลกที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อาจเพิ่มแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อในระยะถัดไป แต่ทิศทางอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ขยับเข้าสู่กรอบที่เฟดรู้สึกว่าเป็นปกติ (comfort zone) และการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ก็น่าที่จะช่วยให้แรงกดดันเงินเฟ้อยังคงอยู่ภายในระดับที่ควบคุมได้ของเฟด และเอื้อให้เฟดยังมีความยืดหยุ่นสำหรับการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงต่อเนื่องต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ทั้งนี้ การรายงานข้อมูลเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะถัดไป โดยเฉพาะผลกระทบจากปัญหาสินเชื่อซับไพร์ม ตลอดจนแถลงการณ์หลังการประชุมและสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่เฟด ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและจะมีอิทธิพลต่อการคาดการณ์แนวโน้มการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟดในระยะข้างหน้า
ด้านผลกระทบต่อไทยนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ของเฟด และการคาดการณ์แนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของเฟดในระยะถัดไป อาจมีผลกดดันเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ให้ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ซึ่งทิศทางดังกล่าว ย่อมจะส่งผลให้เงินสกุลภูมิภาค และเงินบาทของไทย ยังมีแนวโน้มปรับตัวแข็งค่าขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ จากปัญหาสินเชื่อซับไพร์ม ที่อาจมีผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้า คงจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย พิจารณาประกอบการตัดสินใจนโยบายอัตราดอกเบี้ยด้วย
อย่างไรก็ตาม หากภาวะการใช้จ่ายในประเทศ ทั้งการบริโภคและการลงทุน ทยอยกลับมาฟื้นตัวขึ้นเมื่อปัญหาการเมืองคลี่คลายลงได้ตามที่คาดหวังไว้ ประกอบกับ ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อของไทยที่มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งกนง.ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาแล้วรวมร้อยละ 1.75 ในปีนี้ กนง.อาจมีความจำเป็นน้อยลงที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยการประชุมรอบสุดท้ายของปี จะมีขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news29/10/07
โพสต์ที่ 165
หลายฝ่ายมั่นใจเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงิน
Posted on Monday, October 29, 2007
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Hard Topic ทาง Money Channel ว่า ในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระหว่างวันที่ 30 31 ตุลาคมนี้ เชื่อว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย FED Fund Rate ลง 0.25% จากเดิม 4.75% มาอยู่ที่ 4.5% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากหลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ยังไม่สามารถบอกได้ว่าสภาพคล่องของสหรัฐฯ ดีขึ้นแล้วหรือไม่
นอกจากนี้ยอดการซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ก็ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 2 ปีของสหรัฐฯ ก็อยู่ในระดับ 3.8% ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ย FED Fund Rate ที่อยู่ที่ 4.75% ฉะนั้น จึงมีโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ทั้งนี้ อยากให้ติดตามอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานด้วย เพราะสามารถเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบการเงินได้เช่นกัน
นายกอบสิทธิ์บอกว่า ถ้าเฟดลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จะถือเป็นข่าวดีต่อตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก เพราะนักลงทุนรับข่าวล่วงหน้าแล้ว แต่ถ้าเฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ก็จะส่งผลกระทบต่อตลาดทุนทั่วโลกเช่นกัน เพราะนักลงทุนจะมองว่า สหรัฐฯ ไม่ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม เฟดจะต้องพิจารณาเรื่องอัตราเงินเฟ้อด้วย เนื่องจากขณะนี้ราคาสินค้า Commodity เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเนื่องไปถึงอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
สำหรับปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์สำหรับลูกค้าที่มีเครดิตต่ำกว่ามาตรฐานของสหรัฐฯ (Subprime Mortgage Loan) ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 - 3 เดือนที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ความเสียหายได้ถูกควบคุมให้อยู่ในวงจำกัด หลังจากที่เฟดสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเฟดยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป เนื่องจากปี 2551 ตลาดหุ้น S&P ของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะขยายตัวถึง 11% จากปีก่อนหน้า ซึ่งสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในขณะนี้
นายกอบสิทธิ์บอกว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว นักลงทุนจะหันมาลงทุนในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น และไทยก็เป็นประเทศที่นักลงทุนเหล่านี้ให้ความสนใจ เพราะถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย แต่เศรษฐกิจไทยก็ยังสามารถขยายตัวได้ในระดับ 4% อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติยังรอความชัดเจนเรื่องมาตรการกันสำรอง 30% และกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งถ้ารัฐบาลใหม่มีความชัดเจน และมีนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุนของชาวต่างชาติ เชื่อว่าเม็ดเงินลงทุนในปี 2551 จะมากกว่าปี 2549 2550 แน่นอน
ดร.โชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้อำนวยการส่วนนโยบายระบบการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เชื่อว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง 0.25% ในช่วงต้นปีหน้า
ดร.โชติชัยบอกว่า ถ้าเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยจริง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็อาจจะต้องทบทวนนโยบายการเงินด้วย เพราะส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยจะมีผลต่อเม็ดเงินที่จะไหลเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทย ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว เชื่อว่าคงจะไม่กระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงมากนัก เพราะไทยเริ่มลดการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ และหันมาทำการค้าขายกับประเทศในเอเชียมากขึ้น
ดร.โชติชัยคาดว่า ปี 2551 จะมีเงินทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยน่าจะขยายตัวประมาณ 10% จากปีที่ผ่านมา ประกอบกับไทยจะมีรัฐบาลชุดใหม่ และเริ่มก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีกว่าปี 2550
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Har ... fault.aspx
Posted on Monday, October 29, 2007
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Hard Topic ทาง Money Channel ว่า ในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระหว่างวันที่ 30 31 ตุลาคมนี้ เชื่อว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย FED Fund Rate ลง 0.25% จากเดิม 4.75% มาอยู่ที่ 4.5% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากหลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ยังไม่สามารถบอกได้ว่าสภาพคล่องของสหรัฐฯ ดีขึ้นแล้วหรือไม่
นอกจากนี้ยอดการซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ก็ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 2 ปีของสหรัฐฯ ก็อยู่ในระดับ 3.8% ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ย FED Fund Rate ที่อยู่ที่ 4.75% ฉะนั้น จึงมีโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ทั้งนี้ อยากให้ติดตามอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานด้วย เพราะสามารถเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบการเงินได้เช่นกัน
นายกอบสิทธิ์บอกว่า ถ้าเฟดลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จะถือเป็นข่าวดีต่อตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก เพราะนักลงทุนรับข่าวล่วงหน้าแล้ว แต่ถ้าเฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ก็จะส่งผลกระทบต่อตลาดทุนทั่วโลกเช่นกัน เพราะนักลงทุนจะมองว่า สหรัฐฯ ไม่ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม เฟดจะต้องพิจารณาเรื่องอัตราเงินเฟ้อด้วย เนื่องจากขณะนี้ราคาสินค้า Commodity เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเนื่องไปถึงอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
สำหรับปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์สำหรับลูกค้าที่มีเครดิตต่ำกว่ามาตรฐานของสหรัฐฯ (Subprime Mortgage Loan) ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 - 3 เดือนที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ความเสียหายได้ถูกควบคุมให้อยู่ในวงจำกัด หลังจากที่เฟดสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเฟดยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป เนื่องจากปี 2551 ตลาดหุ้น S&P ของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะขยายตัวถึง 11% จากปีก่อนหน้า ซึ่งสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในขณะนี้
นายกอบสิทธิ์บอกว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว นักลงทุนจะหันมาลงทุนในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น และไทยก็เป็นประเทศที่นักลงทุนเหล่านี้ให้ความสนใจ เพราะถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย แต่เศรษฐกิจไทยก็ยังสามารถขยายตัวได้ในระดับ 4% อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติยังรอความชัดเจนเรื่องมาตรการกันสำรอง 30% และกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งถ้ารัฐบาลใหม่มีความชัดเจน และมีนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุนของชาวต่างชาติ เชื่อว่าเม็ดเงินลงทุนในปี 2551 จะมากกว่าปี 2549 2550 แน่นอน
ดร.โชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้อำนวยการส่วนนโยบายระบบการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เชื่อว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง 0.25% ในช่วงต้นปีหน้า
ดร.โชติชัยบอกว่า ถ้าเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยจริง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็อาจจะต้องทบทวนนโยบายการเงินด้วย เพราะส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยจะมีผลต่อเม็ดเงินที่จะไหลเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทย ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว เชื่อว่าคงจะไม่กระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงมากนัก เพราะไทยเริ่มลดการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ และหันมาทำการค้าขายกับประเทศในเอเชียมากขึ้น
ดร.โชติชัยคาดว่า ปี 2551 จะมีเงินทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยน่าจะขยายตัวประมาณ 10% จากปีที่ผ่านมา ประกอบกับไทยจะมีรัฐบาลชุดใหม่ และเริ่มก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีกว่าปี 2550
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Har ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news29/10/07
โพสต์ที่ 166
ว่าที่ผู้นำสูงสุดหญิงแห่งอาเจนติน่าลั่นปรามเศรษฐกิจสุดร้อนแรง
นางคริสติน่า เฟอร์นันเดส เดอ เคิรช์เนอร์ วุฒิสมาชิกหญิงแห่งรัฐสภาอาเจนติน่า กำลังจะได้รับชัยชนะ เพื่อขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีหญิงคนแรกแห่งอาเจนติน่า เหตุจาก ผลสำรวจล่าสุดหลังปิดหีบลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ชี้ชัด นาง เฟอร์นันเดส วัย 54 ปีอาจได้รับคะแนนเสียงสูงถึง 46.3% ชนะคู่แข่งอันดับ 2 ซึ่งอาจได้เพียง 23.7% นาง เฟอร์นันเดส กล่าวว่า พร้อมที่จะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจอาเจนติน่าอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันภาวะวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวร้อนแรง เช่น รักษาอัตราว่างงานให้ต่ำสุดในรอบ 15 ปีต่อเนื่อง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
นางคริสติน่า เฟอร์นันเดส เดอ เคิรช์เนอร์ วุฒิสมาชิกหญิงแห่งรัฐสภาอาเจนติน่า กำลังจะได้รับชัยชนะ เพื่อขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีหญิงคนแรกแห่งอาเจนติน่า เหตุจาก ผลสำรวจล่าสุดหลังปิดหีบลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ชี้ชัด นาง เฟอร์นันเดส วัย 54 ปีอาจได้รับคะแนนเสียงสูงถึง 46.3% ชนะคู่แข่งอันดับ 2 ซึ่งอาจได้เพียง 23.7% นาง เฟอร์นันเดส กล่าวว่า พร้อมที่จะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจอาเจนติน่าอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันภาวะวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวร้อนแรง เช่น รักษาอัตราว่างงานให้ต่ำสุดในรอบ 15 ปีต่อเนื่อง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news29/10/07
โพสต์ที่ 167
นายกฯมาเลเซียพอใจค่าเงินริงกิต/ดอลลาร์แข็งค่าสุดรอบเกือบ 10 ปี
นายกรัฐมนตรี อับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี แห่งมาเลเซีย แสดงความพอใจที่ค่าเงินริงกิตมาเลเซียแข็งค่าขึ้นอย่างมั่นคง หลังจากที่ขึ้นไปแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 10 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ อดีตนายกรัฐมนตรีดร. มหาเธร์ เลือกที่จะผูกติดสกุลเงินริงกิต ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างมีการวิพากษ์วิจารณ์กัน รวมทั้งควบคุมเงินทุน เพื่อป้องกันเศรษฐกิจมาเลเซียไม่ให้พังครืน แต่ได้มีการยกเลิกในที่สุดเมื่อปี 2548 เพื่อให้ค่าเงินลอยตัวบนพื้นฐานของตะกร้าเงิน
กลต.จีนเผยพร้อมให้บริการดัชนีฟิวเจอร์สอิงตลาดหุ้นเป็นครั้งแรก
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จีน (CSRC) เปิดเผยว่า จีนได้เตรียมระบบพื้นฐานและเทคนิคสำหรับดัชนีฟิวเจอร์สอ้างอิงตลาดหลักทรัพย์ (stock index futures) เป็นครั้งแรกของประเทศเสร็จสิ้นแล้ว ขณะที่ เฉิง ซื่อเหว่ย รองประธานคณะกรรมการถาวรประจำสภาประชาชนจีน กล่าวว่า การพัฒนาการซื้อขายอนุพันธ์ทางการเงินสามารถพัฒนาประสิทธิภาพทางการเงินการคลังของจีน และช่วยให้ประเทศสามารถรับมือกับความเสี่ยงทางการเงินได้ดีขึ้น พร้อมเน้นย้ำว่า การพัฒนาเช่นนี้ควรเป็นไปในทิศทางที่มั่นคง ทั้งนี้ ตลาดฟิวเจอร์สของจีน ประกอบด้วย ตลาดซื้อขายฟิวเจอร์สเซี่ยงไฮ้ ตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ต้าเหลียน และตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์เจิ้งโจวและ CFFE ซึ่งมีรายได้รวมคิดเป็น 2.81 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2549
รองผู้ว่าธ.กลางจีนย้ำจีนจะปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
หลิว ซืออวี่ กล่าวในที่ประชุมการเงินสเปน-จีนว่า จีนจะปฏิรูประบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ท่ามกลางแรงกดดันจากชาติตะวันตกให้ทางการจีนผ่อนปรนการคุมเข้มค่าเงินหยวน พร้อมทั้งยืนกรานว่า จีนไม่ได้พิจารณาเฉพาะการค้าเกินดุลเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ ในที่ประชุมรัฐมนตรีคลังจากกลุ่มสมาชิกชาติจี 7 ได้ออกมาชื่นชมจีนเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ยินยอมให้ค่าเงินหยวนลอยตัวเป็นอิสระมากขึ้น แต่การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่พุ่งขึ้นและอัตราเงินเฟ้อในประเทศจีนที่เพิ่มขึ้น แสดงว่าจีนจำเป็นต้องปล่อยให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเร็วกว่านี้
เวียดนาม-เกาหลีเหนือลงนามกระชับความสัมพันธ์ขณะนายกฯโสมแดงเยือน
เวียดนามและเกาหลีเหนือเห็นพ้องในการขยายมิตรภาพและความร่วมมือที่มีมายาวนาน โดยระหว่างการหารือวานนี้ นายกรัฐมนตรี เหงียน ตัน ดุง และนายกรัฐมนตรีคิม ยองอิล ต่างยืนยันเจตนาในการกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนในชาติและสันติสุข เสถียรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาทั้งในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และเวทีโลก สำนักข่าวเวียดนาม นิวส์ เอเจนซี่ รายงานว่า ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องในการแลกเปลี่ยนการเดินทางเยือนและบรรลุข้อตกลงมาตรการหลายประการเพื่อขยายความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติคอมมิวนิสต์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมทั้งมีการเรียกร้องให้ คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดำเนินการเป็นรูปธรรมมากขึ้น
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
นายกรัฐมนตรี อับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี แห่งมาเลเซีย แสดงความพอใจที่ค่าเงินริงกิตมาเลเซียแข็งค่าขึ้นอย่างมั่นคง หลังจากที่ขึ้นไปแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 10 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ อดีตนายกรัฐมนตรีดร. มหาเธร์ เลือกที่จะผูกติดสกุลเงินริงกิต ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างมีการวิพากษ์วิจารณ์กัน รวมทั้งควบคุมเงินทุน เพื่อป้องกันเศรษฐกิจมาเลเซียไม่ให้พังครืน แต่ได้มีการยกเลิกในที่สุดเมื่อปี 2548 เพื่อให้ค่าเงินลอยตัวบนพื้นฐานของตะกร้าเงิน
กลต.จีนเผยพร้อมให้บริการดัชนีฟิวเจอร์สอิงตลาดหุ้นเป็นครั้งแรก
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จีน (CSRC) เปิดเผยว่า จีนได้เตรียมระบบพื้นฐานและเทคนิคสำหรับดัชนีฟิวเจอร์สอ้างอิงตลาดหลักทรัพย์ (stock index futures) เป็นครั้งแรกของประเทศเสร็จสิ้นแล้ว ขณะที่ เฉิง ซื่อเหว่ย รองประธานคณะกรรมการถาวรประจำสภาประชาชนจีน กล่าวว่า การพัฒนาการซื้อขายอนุพันธ์ทางการเงินสามารถพัฒนาประสิทธิภาพทางการเงินการคลังของจีน และช่วยให้ประเทศสามารถรับมือกับความเสี่ยงทางการเงินได้ดีขึ้น พร้อมเน้นย้ำว่า การพัฒนาเช่นนี้ควรเป็นไปในทิศทางที่มั่นคง ทั้งนี้ ตลาดฟิวเจอร์สของจีน ประกอบด้วย ตลาดซื้อขายฟิวเจอร์สเซี่ยงไฮ้ ตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ต้าเหลียน และตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์เจิ้งโจวและ CFFE ซึ่งมีรายได้รวมคิดเป็น 2.81 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2549
รองผู้ว่าธ.กลางจีนย้ำจีนจะปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
หลิว ซืออวี่ กล่าวในที่ประชุมการเงินสเปน-จีนว่า จีนจะปฏิรูประบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ท่ามกลางแรงกดดันจากชาติตะวันตกให้ทางการจีนผ่อนปรนการคุมเข้มค่าเงินหยวน พร้อมทั้งยืนกรานว่า จีนไม่ได้พิจารณาเฉพาะการค้าเกินดุลเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ ในที่ประชุมรัฐมนตรีคลังจากกลุ่มสมาชิกชาติจี 7 ได้ออกมาชื่นชมจีนเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ยินยอมให้ค่าเงินหยวนลอยตัวเป็นอิสระมากขึ้น แต่การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่พุ่งขึ้นและอัตราเงินเฟ้อในประเทศจีนที่เพิ่มขึ้น แสดงว่าจีนจำเป็นต้องปล่อยให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเร็วกว่านี้
เวียดนาม-เกาหลีเหนือลงนามกระชับความสัมพันธ์ขณะนายกฯโสมแดงเยือน
เวียดนามและเกาหลีเหนือเห็นพ้องในการขยายมิตรภาพและความร่วมมือที่มีมายาวนาน โดยระหว่างการหารือวานนี้ นายกรัฐมนตรี เหงียน ตัน ดุง และนายกรัฐมนตรีคิม ยองอิล ต่างยืนยันเจตนาในการกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนในชาติและสันติสุข เสถียรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาทั้งในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และเวทีโลก สำนักข่าวเวียดนาม นิวส์ เอเจนซี่ รายงานว่า ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องในการแลกเปลี่ยนการเดินทางเยือนและบรรลุข้อตกลงมาตรการหลายประการเพื่อขยายความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติคอมมิวนิสต์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมทั้งมีการเรียกร้องให้ คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดำเนินการเป็นรูปธรรมมากขึ้น
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news29/10/07
โพสต์ที่ 168
อินเดียขานรับ ควบคุมเม็ดเงินไหลเข้าจากนักลงทุนนอกระบบ
Posted on Monday, October 29, 2007
หลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของอินเดีย (SEBI) ได้จำกัดการออกตราสาร participatory notes (P-notes) ซึ่งกลุ่มนักลงทุนที่ไม่จดทะเบียนได้ใช้ตราสารดังกล่าวในการเข้าลงทุนในหุ้นอินเดีย โดยระบุว่า SEBI ต้องการให้กระแสทุนไหลเข้ามีความโปร่งใส
ล่าสุด นายพาลาไนอัพพาน ชิดัมบารัม รัฐมนตรีคลังอินเดีย ได้ออกมาขานรับการประกาศใช้มาตรการดังกล่าวเช่นกัน โดยระบุว่า รัฐบาลอินเดีย มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นในปริมาณที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกลุ่มนักลงทุนที่ไม่จดทะเบียน เพราะอาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินอินเดีย จนอาจกระทบต่อเศรษฐกิจตามมา
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
Posted on Monday, October 29, 2007
หลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของอินเดีย (SEBI) ได้จำกัดการออกตราสาร participatory notes (P-notes) ซึ่งกลุ่มนักลงทุนที่ไม่จดทะเบียนได้ใช้ตราสารดังกล่าวในการเข้าลงทุนในหุ้นอินเดีย โดยระบุว่า SEBI ต้องการให้กระแสทุนไหลเข้ามีความโปร่งใส
ล่าสุด นายพาลาไนอัพพาน ชิดัมบารัม รัฐมนตรีคลังอินเดีย ได้ออกมาขานรับการประกาศใช้มาตรการดังกล่าวเช่นกัน โดยระบุว่า รัฐบาลอินเดีย มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นในปริมาณที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกลุ่มนักลงทุนที่ไม่จดทะเบียน เพราะอาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินอินเดีย จนอาจกระทบต่อเศรษฐกิจตามมา
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news30/10/07
โพสต์ที่ 169
จิม โรเจอร์ส กูรูหุ้น คู่ซี้ จอร์จ โซรอส ประกาศทุ่มลงทุนตลาดหุ้นจีน ระบุยังไม่เป็นฟองสบู่
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Tuesday, October 30, 2007
จิม โรเจอร์ส ผู้คร่ำหวอดในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท และผู้ก่อตั้งกองทุนควอนตัม ร่วมกับจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุน ได้เดินทางมายังเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง เพื่อเข้าร่วมงานสัมมนาธุรกิจหลักทรัพย์ประจำปีนี้ โดยเขากล่าวในงานดังกล่าว ยืนยันว่า ปัจจุบัน เงินหยวนเป็นสินทรัพย์ที่ควรค่าแก่การลงทุนมากที่สุดในโลก พร้อมทั้งคาดการณ์ด้วยว่า เงินหยวนจะแข็งขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกหลายปี
สำหรับตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ถึงแม้ปัจจุบันภาวะการซื้อขายในกระดาน-เอ จะทำให้ราคาหุ้นพองตัวขึ้นหลายเท่าตัวในปีนี้ แต่ก็ยังไม่รุนแรงถึงขั้นเกิดฟองสบู่
" ผมจะยังไม่ยอมเทขายหุ้นจีนที่มีอยู่ในมือ เพราะปัจจุบันตลาดยังไม่นับว่าเป็นฟองสบู่ ผมจะทิ้งหุ้นก็ต่อเมื่อผมเชื่อว่ามันเป็นฟองสบู่แล้วเท่านั้น .... ตลาดหลักทรัพย์ที่แข็งแรงจะต้องมีการขึ้น-ลง ตลาดที่ดัชนีมีแต่ขึ้นย่อมไม่มั่นคง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากดัชนีของตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นไม่หยุด จนทะลุ 9,000 จุดไป ผมคงต้องเทขายหุ้นทิ้งแน่ เพราะตลาดแบบนี้พุ่งแรงและเร็วเกินไป จนกลายเป็นฟองสบู่แล้ว" จิม ย้ำ
พร้อมกันนี้ เขายังได้เปิดเผยพอร์ตการลงทุนส่วนตัวด้วยว่า นอกจากจะเก็บหุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว สายการบิน รถไฟ การเกษตรแล้ว ยังจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นบริษัทที่ทำอุตสาหกรรมทางทหารด้วย เพราะเชื่อว่าหุ้นเหล่านี้ จะสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างมหาศาล
นอกจากนั้น โรเจอร์ส ยังถือโอกาสแสดงความเห็นคัดค้านแนวทางที่จีนเปิดการลงทุนผ่าน QDII เพื่อไปลงทุนยังต่างประเทศ โดยชี้ว่า ปัจจุบัน ราคาหุ้นนอกประเทศจีนมีราคาสูงเกิน ทำให้มีต้นทุนสูง อีกทั้งไม่เชื่อว่าโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ จะดีกว่าการลงทุนในจีนมากนัก
แนวคิดของจิม โรเจอร์ส สอดคล้องกับแนวคิดของนายซั่ง ฝูหลิน หัวหน้าสำนักงานปริวรรตเงินตราจีน ซึ่งระบุว่า ทางการจะต้องหาวิธีการดูแลเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ ระหว่างภาคเศรษฐกิจจริง และภาคตลาดทุนในระยะยาว
" ตลาดทุนกลายมาเป็นเวทีในการบริหารความมั่งคั่งที่สำคัญในสังคม จนถึงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีผู้เปิดบัญชีลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้นรวมกันถึง 126 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นจากปลายปี 2002 ถึง 57.62 ล้านบัญชี แต่กระนั้น การเติบโตขึ้นของตลาดยังเป็นไปอย่างมั่นคง แม้จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นก็ตาม " ซั่ง ฝูหลิน กล่าว
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Tuesday, October 30, 2007
จิม โรเจอร์ส ผู้คร่ำหวอดในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท และผู้ก่อตั้งกองทุนควอนตัม ร่วมกับจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุน ได้เดินทางมายังเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง เพื่อเข้าร่วมงานสัมมนาธุรกิจหลักทรัพย์ประจำปีนี้ โดยเขากล่าวในงานดังกล่าว ยืนยันว่า ปัจจุบัน เงินหยวนเป็นสินทรัพย์ที่ควรค่าแก่การลงทุนมากที่สุดในโลก พร้อมทั้งคาดการณ์ด้วยว่า เงินหยวนจะแข็งขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกหลายปี
สำหรับตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ถึงแม้ปัจจุบันภาวะการซื้อขายในกระดาน-เอ จะทำให้ราคาหุ้นพองตัวขึ้นหลายเท่าตัวในปีนี้ แต่ก็ยังไม่รุนแรงถึงขั้นเกิดฟองสบู่
" ผมจะยังไม่ยอมเทขายหุ้นจีนที่มีอยู่ในมือ เพราะปัจจุบันตลาดยังไม่นับว่าเป็นฟองสบู่ ผมจะทิ้งหุ้นก็ต่อเมื่อผมเชื่อว่ามันเป็นฟองสบู่แล้วเท่านั้น .... ตลาดหลักทรัพย์ที่แข็งแรงจะต้องมีการขึ้น-ลง ตลาดที่ดัชนีมีแต่ขึ้นย่อมไม่มั่นคง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากดัชนีของตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นไม่หยุด จนทะลุ 9,000 จุดไป ผมคงต้องเทขายหุ้นทิ้งแน่ เพราะตลาดแบบนี้พุ่งแรงและเร็วเกินไป จนกลายเป็นฟองสบู่แล้ว" จิม ย้ำ
พร้อมกันนี้ เขายังได้เปิดเผยพอร์ตการลงทุนส่วนตัวด้วยว่า นอกจากจะเก็บหุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว สายการบิน รถไฟ การเกษตรแล้ว ยังจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นบริษัทที่ทำอุตสาหกรรมทางทหารด้วย เพราะเชื่อว่าหุ้นเหล่านี้ จะสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างมหาศาล
นอกจากนั้น โรเจอร์ส ยังถือโอกาสแสดงความเห็นคัดค้านแนวทางที่จีนเปิดการลงทุนผ่าน QDII เพื่อไปลงทุนยังต่างประเทศ โดยชี้ว่า ปัจจุบัน ราคาหุ้นนอกประเทศจีนมีราคาสูงเกิน ทำให้มีต้นทุนสูง อีกทั้งไม่เชื่อว่าโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ จะดีกว่าการลงทุนในจีนมากนัก
แนวคิดของจิม โรเจอร์ส สอดคล้องกับแนวคิดของนายซั่ง ฝูหลิน หัวหน้าสำนักงานปริวรรตเงินตราจีน ซึ่งระบุว่า ทางการจะต้องหาวิธีการดูแลเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ ระหว่างภาคเศรษฐกิจจริง และภาคตลาดทุนในระยะยาว
" ตลาดทุนกลายมาเป็นเวทีในการบริหารความมั่งคั่งที่สำคัญในสังคม จนถึงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีผู้เปิดบัญชีลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้นรวมกันถึง 126 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นจากปลายปี 2002 ถึง 57.62 ล้านบัญชี แต่กระนั้น การเติบโตขึ้นของตลาดยังเป็นไปอย่างมั่นคง แม้จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นก็ตาม " ซั่ง ฝูหลิน กล่าว
http://www.moneychannel.co.th/BreakingN ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news30/10/07
โพสต์ที่ 170
นักวิเคราะห์คาดไต้หวันจะก้าวเป็นซัพพลายเออร์ไมโครชิพอันดับ 2 ของโลก
สำนักข่าวเซ็นทรัล นิวส์ของไต้หวันรายงานว่า ไต้หวันกำลังจะแซงหน้าสหรัฐก้าวเป็นซัพพลายเออร์ด้านไมโครชิพรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกในปีนี้ ไต้หวันจะสามารถผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ได้ในสัดส่วน 18% ของยอดผลิตทั่วโลก รองจากจีนที่สามารถผลิตได้ในสัดส่วน 24% ขณะที่สหรัฐและเกาหลีใต้คาดครองอันดับ 3 ร่วมกัน โดยมีส่วนแบ่งตลาด 17% นายเปง เคา-ชู นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยฯกล่าวว่า ภาคเทคโนโลยีอุตสาหกรรมยังได้กระตุ้นผลผลิตด้วยการเดินหน้าขยายโรงงานผลิตไมโครชิพขนาด 12 นิ้ว (300 มม.) ในไต้หวัน
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เตรียมเปิดสำนักงานในปักกิ่งต้นปีหน้า หวังดึงลูกค้าจีน
เดอะ โคเรีย เอ็กซ์เชงจ์ ผู้บริหารตลาดหุ้นเกาหลีใต้คาดว่า จะได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของจีน เพื่อเปิดสำนักงานในกรุงปักกิ่งช่วงต้นปีหน้า ตลาดหุ้นเกาหลีใต้คาดว่าจะเปิดสำนักงานในปักกิ่งได้ในช่วงเดือนก.ค.หรือมี.ค.ปีหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะดึงบริษัทของจีนให้มาจดทะเบียนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้มากขึ้น เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา บริษัท 3NOD ซึ่งมีฐานอยู่ที่เสิ่นเจิ้น และทำธุรกิจผลิตระบบลำโพงโฮมเธียเตอร์และมังติมีเดีย ได้จดทะเบียนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ด้วยดี และเป็นบริษัทของจีนบริษัทแรกที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้
ไต้หวันเล็งหามาตรการรับมือผลกระทบเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่ง
เลขาธิการรัฐบาลไต้หวัน เปิดเผยว่า รัฐบาลไต้หวันเตรียมพิจารณาหามาตรการต่างๆเพื่อลดผลกระทบด้านเงินเฟ้อจากการที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น รัฐบาลไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะจำกัดกลไกในการจัดตั้งราคาพลังงานที่ไชนีส ปิโตรเลียม คอร์ป ซึ่งดูแลโดยรัฐบาลจะนำมาใช้ โดยในวันพฤหัสบดีนี้ ไชนีส ปิโตรเลียมจะประกาสตัดสินใจปรับราคาน้ำมันสำหรับเดือนพฤศจิกายน นายโหเหม่ยเย่ ประธานกรรมการฝ่ายวางแผนและพัฒนาเศรษฐกิจประจำรัฐสภา กล่าวว่า การขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ ซีพีไอ ในปีนี้ จะเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ 2%
ก.พาณิชย์จีนคาดยอดเกินดุลการค้าปี 50 แตะ 2.50 แสนล้านดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์จีนคาดการณ์ว่า ยอดเกินดุลการค้าของจีนในปีนี้จะแตะระดับ 2.50 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ และยอดนำเข้าเพิ่มขึ้นแตะ 9.50 แสนล้านดอลลาร์ เศรษฐกิจทั่วโลกที่ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความต้องการที่คึกคักในต่างประเทศเป็นปัจจัยที่ทำให้ปริมาณการค้าระหว่างประเทศของจีนสูงขึ้น ทั้งนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นก็มีบทบาทสำคัญต่อยอดเกินดุลการค้า โดยตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 4.72 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ไตรมาสแรก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
สำนักข่าวเซ็นทรัล นิวส์ของไต้หวันรายงานว่า ไต้หวันกำลังจะแซงหน้าสหรัฐก้าวเป็นซัพพลายเออร์ด้านไมโครชิพรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกในปีนี้ ไต้หวันจะสามารถผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ได้ในสัดส่วน 18% ของยอดผลิตทั่วโลก รองจากจีนที่สามารถผลิตได้ในสัดส่วน 24% ขณะที่สหรัฐและเกาหลีใต้คาดครองอันดับ 3 ร่วมกัน โดยมีส่วนแบ่งตลาด 17% นายเปง เคา-ชู นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยฯกล่าวว่า ภาคเทคโนโลยีอุตสาหกรรมยังได้กระตุ้นผลผลิตด้วยการเดินหน้าขยายโรงงานผลิตไมโครชิพขนาด 12 นิ้ว (300 มม.) ในไต้หวัน
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เตรียมเปิดสำนักงานในปักกิ่งต้นปีหน้า หวังดึงลูกค้าจีน
เดอะ โคเรีย เอ็กซ์เชงจ์ ผู้บริหารตลาดหุ้นเกาหลีใต้คาดว่า จะได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของจีน เพื่อเปิดสำนักงานในกรุงปักกิ่งช่วงต้นปีหน้า ตลาดหุ้นเกาหลีใต้คาดว่าจะเปิดสำนักงานในปักกิ่งได้ในช่วงเดือนก.ค.หรือมี.ค.ปีหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะดึงบริษัทของจีนให้มาจดทะเบียนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้มากขึ้น เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา บริษัท 3NOD ซึ่งมีฐานอยู่ที่เสิ่นเจิ้น และทำธุรกิจผลิตระบบลำโพงโฮมเธียเตอร์และมังติมีเดีย ได้จดทะเบียนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ด้วยดี และเป็นบริษัทของจีนบริษัทแรกที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้
ไต้หวันเล็งหามาตรการรับมือผลกระทบเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่ง
เลขาธิการรัฐบาลไต้หวัน เปิดเผยว่า รัฐบาลไต้หวันเตรียมพิจารณาหามาตรการต่างๆเพื่อลดผลกระทบด้านเงินเฟ้อจากการที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น รัฐบาลไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะจำกัดกลไกในการจัดตั้งราคาพลังงานที่ไชนีส ปิโตรเลียม คอร์ป ซึ่งดูแลโดยรัฐบาลจะนำมาใช้ โดยในวันพฤหัสบดีนี้ ไชนีส ปิโตรเลียมจะประกาสตัดสินใจปรับราคาน้ำมันสำหรับเดือนพฤศจิกายน นายโหเหม่ยเย่ ประธานกรรมการฝ่ายวางแผนและพัฒนาเศรษฐกิจประจำรัฐสภา กล่าวว่า การขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ ซีพีไอ ในปีนี้ จะเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ 2%
ก.พาณิชย์จีนคาดยอดเกินดุลการค้าปี 50 แตะ 2.50 แสนล้านดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์จีนคาดการณ์ว่า ยอดเกินดุลการค้าของจีนในปีนี้จะแตะระดับ 2.50 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ และยอดนำเข้าเพิ่มขึ้นแตะ 9.50 แสนล้านดอลลาร์ เศรษฐกิจทั่วโลกที่ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความต้องการที่คึกคักในต่างประเทศเป็นปัจจัยที่ทำให้ปริมาณการค้าระหว่างประเทศของจีนสูงขึ้น ทั้งนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นก็มีบทบาทสำคัญต่อยอดเกินดุลการค้า โดยตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 4.72 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ไตรมาสแรก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news31/10/07
โพสต์ที่ 171
ดอลลาร์ร่วงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับยูโร ขณะที่ตลาดรอผลการประชุม เฟด
เมื่อคืนนี้ดอลลาร์ร่วงลงสุดระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งถือว่าเป็นการอ่อนค่าต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากตลาดเฝ้ารอผลการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐฯ ด้วยคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย นักวิเคราะห์กล่าวว่า นอกเหนือจากผลการประชุมแล้วจะต้องจับตาดูแถลงการณ์หลังการประชุมอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะสามารถบอกได้ถึงทิศทางของนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯในลำดับต่อไปได้ โดยเงินยูโรแข็งค่าทำสถิติเมื่อคืนนี้ที่ 1.4441 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหนึ่งยูโร ก่อนจะลงมาปิดที 1.4432 ดอลลาร์ต่อยูโร ยูโรแข็งค่าขึ้นมาประมาณ 10 เซ็นต์ นับตั้งแต่ สิงหาคมเป็นต้นมา
ยอดค้าปลีกในยุโรปร่วงเหตุจากสินค้าและน้ำมันแพง
ยอดขายปลีกในยุโรปลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ในเดือนตุลาคม สาเหตุจาก ราคาสินค้าและพลังงานปรับตัวสูงขึ้น บั่นทอนความมั่นใจของผู้บริโภค โดยดัชนีดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 47.9 ลดลงจาก 50.5 ในเดือนกันยายน ซึ่งผลสำรวจของดัชนีทำโดยการสุมตัวอย่าง 1,000 ตัวอย่าง ซึ่งดัชนีดังกล่าว ส่งสัญให้เห็นถึงความไม่มีเสถีรภาพของเศรษฐกิจ และ ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ ซึ่งการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนนั้นคิดเป็นสัดส่วน สูงถึง 60 % ของมูลค่าทางเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
เมื่อคืนนี้ดอลลาร์ร่วงลงสุดระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งถือว่าเป็นการอ่อนค่าต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากตลาดเฝ้ารอผลการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐฯ ด้วยคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย นักวิเคราะห์กล่าวว่า นอกเหนือจากผลการประชุมแล้วจะต้องจับตาดูแถลงการณ์หลังการประชุมอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะสามารถบอกได้ถึงทิศทางของนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯในลำดับต่อไปได้ โดยเงินยูโรแข็งค่าทำสถิติเมื่อคืนนี้ที่ 1.4441 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหนึ่งยูโร ก่อนจะลงมาปิดที 1.4432 ดอลลาร์ต่อยูโร ยูโรแข็งค่าขึ้นมาประมาณ 10 เซ็นต์ นับตั้งแต่ สิงหาคมเป็นต้นมา
ยอดค้าปลีกในยุโรปร่วงเหตุจากสินค้าและน้ำมันแพง
ยอดขายปลีกในยุโรปลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ในเดือนตุลาคม สาเหตุจาก ราคาสินค้าและพลังงานปรับตัวสูงขึ้น บั่นทอนความมั่นใจของผู้บริโภค โดยดัชนีดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 47.9 ลดลงจาก 50.5 ในเดือนกันยายน ซึ่งผลสำรวจของดัชนีทำโดยการสุมตัวอย่าง 1,000 ตัวอย่าง ซึ่งดัชนีดังกล่าว ส่งสัญให้เห็นถึงความไม่มีเสถีรภาพของเศรษฐกิจ และ ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ ซึ่งการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนนั้นคิดเป็นสัดส่วน สูงถึง 60 % ของมูลค่าทางเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news31/10/07
โพสต์ที่ 172
กรีน สแปน ออกโรงเตือนวิกฤตฟองสบู่ในจีน
นายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ ให้ความเห็นครั้งล่าสุดในการสัมนาที่บอสตัน เกี่ยวกับสถานการณ์ฟองสบู่ในตลาดหุ้นจีน โดยคาดการณ์ว่า ใกล้ถึงจุดระเบิด และเมื่อถามถึงสถานการณืเศรษฐกิจของจีน ว่าเข้าใกล้จุด ``irrational exuberance,'' ซึ่งเป็นประโยคที่โด่งดังที่ นาย อลัน เคยพูดไว้เมื่อปี 1996 แล้วหรือยัง อดีตประธานเฟด กล่าวว่า เขาคิดว่าอย่างนั้น และเมื่อไรที่เราไม่ทันตั้งตัว เมื่อนั้นฟองสบู่จะแตก
กรีนสแปนเห็นคล้องกับ บัฟเฟต์กรณี ตลาดหุ้นจีนร้อนเกินไป
ความเห็นของ กรีนสแปน ในเรื่องดังกล่าวมีออกมาตั้งแต่ เมื่อเดือน พค. เมื่อกรีนสแปน แสดงความกังวลต่อการขยายตัวอย่างท่วมท้นของตลาดหุ้นจีน โดยมีอัตราการขยายตัวมากว่า 90 % ตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขาย ซึ่งสอดคล้องกับความคิดเห็นของ นายวอรเร็น ปัฟเฟต มหาเศรษฐีชาวอเมริกันที่เคยออกมาพูดว่า ราคาหุ้นหลายตัวในตลาดหุ้นจีน วิ่งเร็วเกินไป
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
นายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ ให้ความเห็นครั้งล่าสุดในการสัมนาที่บอสตัน เกี่ยวกับสถานการณ์ฟองสบู่ในตลาดหุ้นจีน โดยคาดการณ์ว่า ใกล้ถึงจุดระเบิด และเมื่อถามถึงสถานการณืเศรษฐกิจของจีน ว่าเข้าใกล้จุด ``irrational exuberance,'' ซึ่งเป็นประโยคที่โด่งดังที่ นาย อลัน เคยพูดไว้เมื่อปี 1996 แล้วหรือยัง อดีตประธานเฟด กล่าวว่า เขาคิดว่าอย่างนั้น และเมื่อไรที่เราไม่ทันตั้งตัว เมื่อนั้นฟองสบู่จะแตก
กรีนสแปนเห็นคล้องกับ บัฟเฟต์กรณี ตลาดหุ้นจีนร้อนเกินไป
ความเห็นของ กรีนสแปน ในเรื่องดังกล่าวมีออกมาตั้งแต่ เมื่อเดือน พค. เมื่อกรีนสแปน แสดงความกังวลต่อการขยายตัวอย่างท่วมท้นของตลาดหุ้นจีน โดยมีอัตราการขยายตัวมากว่า 90 % ตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขาย ซึ่งสอดคล้องกับความคิดเห็นของ นายวอรเร็น ปัฟเฟต มหาเศรษฐีชาวอเมริกันที่เคยออกมาพูดว่า ราคาหุ้นหลายตัวในตลาดหุ้นจีน วิ่งเร็วเกินไป
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news31/10/07
โพสต์ที่ 173
ไอเอ็มเอฟเตือนเงินเฟ้อพุ่งในประเทศค้าน้ำมันตะวันออกกลาง-เอเชียกลาง
ไอเอ็มเอฟได้ออกมาเตือนเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศตะวันออกกลางและเอเชียกลาง โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อในประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน ปัจจัยจากอุปสงค์ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งกระแสเงินทุนจากภายนอกมูลค่ามหาศาล และนโยบายการเงิน ได้ผลักดันให้เงินเฟ้อเฉลี่ยในภูมิภาคนี้ยืนอยู่ที่ 8-9% ไอเอ็มเอฟแสดงความเห็นว่า แม้การคาดการณ์ในภูมิภาคนี้จะเป็นบวก แต่ปัจจัยเสี่ยงขาลงจากเศรษฐกิจทั่วโลกเพิ่มขึ้น วิกฤตการณ์สินเชื่ออาจแผ่ขยายวงกว้าง และราคาน้ำมันและอาหารที่ทะยานขึ้นอาจสร้างปัญหาให้กับสหรัฐ หรือธนาคารกลางประเทศอื่นๆ
จีนยืนยันไม่ต้องการเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้าและแร่เหล็กรายใหญ่ระดับโลก
นายเซียง ปีหลิน รองผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมของคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปของจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนไม่ต้องการเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้าและสินแร่เหล็กรายใหญ่ของโลกเพียงรายเดียว นอกจากนั้นจีนยังตั้งเป้าลดกำลังการผลิตเหล็กกล้าลง 36 ล้านตัน และลดการผลิตแร่เหล็กลง 58 ล้านตันในปีนี้ ก่อนหน้านี้ นายเหลา ปิงเซียง รองประธานสมาคมอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าของจีนคาดการณ์ว่า จีนน่าจะผลิตเหล็กกล้าได้ 480 ล้านตัน และแร่เหล็กได้ประมาณ 800 ล้านตัน
รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจไม่ขึ้นเงินโบนัสให้ข้าราชการเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจไม่ขึ้นเงินโบนัสให้กับข้าราชการ และเบี้ยเลี้ยงพิเศษให้กับข้าราชการอาวุโสระดับชาติในปีงบประมาณ 2550 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปีงบประมาณ 2540 การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลกังวลว่าการปรับเพิ่มเงินรายได้ให้กับข้าราชการอาวุโสระดับชาติจะกระตุ้นให้สาธารณชนไม่พอใจ ท่ามกลางข่าวอื้อฉาวหลายระลอกที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการระดับสูง อย่างไรก็ดีรัฐบาลจะปรับเพิ่มฐานเพดานเงินเดือนและโบนัสให้กับให้กับข้าราชการที่อายุยังน้อย รวมทั้งเงินเบี้ยเลี้ยงพิเศษให้กับหัวหน้าภาคส่วนในระดับภูมิภาค
ธนาคารกลางออสเตรเลียเผยผลสำรวจชี้ความเชื่อมั่นธุรกิจทรงตัวในไตรมาส 4
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (NAB) ได้เปิดเผยผลการสำรวจพบว่า ภาคธุรกิจต่างๆของออสเตรเลียยังคงมีความมั่นใจในสภาพแวดล้อมด้านการซื้อขายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ขณะที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรลดน้อยลง NAB ระบุว่า ผลสำรวจของธุรกิจรายไตรมาสล่าสุดชี้ว่า ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวลงในไตรมาส 3 แต่สภาพต่างๆยังคงได้รับประโยชน์จากความต้องการภาคเอกชนและการใช้จ่ายของภาครัฐบาลที่สดใส โดยความเชื่อมั่นที่ชะลอตัวลงเล็กน้อยนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความวิตกกังวลในภาคธุรกิจที่อ่อนไหวเรื่องอัตราดอกเบี้ยมากกว่าผลพวงจากภาวะผันผวนที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ในตลาดทั่วโลก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
ไอเอ็มเอฟได้ออกมาเตือนเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศตะวันออกกลางและเอเชียกลาง โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อในประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน ปัจจัยจากอุปสงค์ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งกระแสเงินทุนจากภายนอกมูลค่ามหาศาล และนโยบายการเงิน ได้ผลักดันให้เงินเฟ้อเฉลี่ยในภูมิภาคนี้ยืนอยู่ที่ 8-9% ไอเอ็มเอฟแสดงความเห็นว่า แม้การคาดการณ์ในภูมิภาคนี้จะเป็นบวก แต่ปัจจัยเสี่ยงขาลงจากเศรษฐกิจทั่วโลกเพิ่มขึ้น วิกฤตการณ์สินเชื่ออาจแผ่ขยายวงกว้าง และราคาน้ำมันและอาหารที่ทะยานขึ้นอาจสร้างปัญหาให้กับสหรัฐ หรือธนาคารกลางประเทศอื่นๆ
จีนยืนยันไม่ต้องการเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้าและแร่เหล็กรายใหญ่ระดับโลก
นายเซียง ปีหลิน รองผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมของคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปของจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนไม่ต้องการเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้าและสินแร่เหล็กรายใหญ่ของโลกเพียงรายเดียว นอกจากนั้นจีนยังตั้งเป้าลดกำลังการผลิตเหล็กกล้าลง 36 ล้านตัน และลดการผลิตแร่เหล็กลง 58 ล้านตันในปีนี้ ก่อนหน้านี้ นายเหลา ปิงเซียง รองประธานสมาคมอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าของจีนคาดการณ์ว่า จีนน่าจะผลิตเหล็กกล้าได้ 480 ล้านตัน และแร่เหล็กได้ประมาณ 800 ล้านตัน
รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจไม่ขึ้นเงินโบนัสให้ข้าราชการเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจไม่ขึ้นเงินโบนัสให้กับข้าราชการ และเบี้ยเลี้ยงพิเศษให้กับข้าราชการอาวุโสระดับชาติในปีงบประมาณ 2550 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปีงบประมาณ 2540 การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลกังวลว่าการปรับเพิ่มเงินรายได้ให้กับข้าราชการอาวุโสระดับชาติจะกระตุ้นให้สาธารณชนไม่พอใจ ท่ามกลางข่าวอื้อฉาวหลายระลอกที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการระดับสูง อย่างไรก็ดีรัฐบาลจะปรับเพิ่มฐานเพดานเงินเดือนและโบนัสให้กับให้กับข้าราชการที่อายุยังน้อย รวมทั้งเงินเบี้ยเลี้ยงพิเศษให้กับหัวหน้าภาคส่วนในระดับภูมิภาค
ธนาคารกลางออสเตรเลียเผยผลสำรวจชี้ความเชื่อมั่นธุรกิจทรงตัวในไตรมาส 4
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (NAB) ได้เปิดเผยผลการสำรวจพบว่า ภาคธุรกิจต่างๆของออสเตรเลียยังคงมีความมั่นใจในสภาพแวดล้อมด้านการซื้อขายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ขณะที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรลดน้อยลง NAB ระบุว่า ผลสำรวจของธุรกิจรายไตรมาสล่าสุดชี้ว่า ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวลงในไตรมาส 3 แต่สภาพต่างๆยังคงได้รับประโยชน์จากความต้องการภาคเอกชนและการใช้จ่ายของภาครัฐบาลที่สดใส โดยความเชื่อมั่นที่ชะลอตัวลงเล็กน้อยนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความวิตกกังวลในภาคธุรกิจที่อ่อนไหวเรื่องอัตราดอกเบี้ยมากกว่าผลพวงจากภาวะผันผวนที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ในตลาดทั่วโลก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news31/10/07
โพสต์ที่ 174
ผู้ผลิตเหล็กกล้ายุโรปร้องจีนทุ่มตลาด - ข่าว 09.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Wednesday, October 31, 2007
สหพันธ์อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้ายุโรป (Eurofer) ยื่นเรื่องร้องทุกข์กับคณะกรรมาธิการยุโรปให้ดำเนินการออกบทลงโทษกับประเทศจีน ในข้อหาทุ่มตลาดเหล็กกล้าที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรป โดยสหพันธ์ได้เรียกร้องให้มีบทลงโทษมาตรการทุ่มตลาดเหล็กนำเข้าจากจีน ทั้งในผลิตภัณฑ์สแตนเลสสตีล แผ่นม้วนรีดเย็น และแผ่นเหล็กเคลือบโลหะชุบร้อน เนื่องจากพบว่า มีการทุ่มตลาดในยุโรปเป็นจำนวนมากถึง 40% ของสัดส่วนการทุ่มตลาด ฉุดให้ราคาภายในกลุ่มประเทศยุโรปร่วงลงถึง 25% สร้างความเสียหายกับอุตสาหกรรมเหล็กกล้ายุโรป และส่งผลให้ผู้ผลิตเหล็กกล้ายุโรปต้องอยู่ในสภาพดิ้นรน
นอกจากนี้ Eurofer กำลังสอบสวนสถานการณ์ผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าอื่น ๆ เพื่อเพิ่มข้อร้องทุกข์อื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการทุ่มตลาดผลิตภัณฑ์นำเข้าจากจีนอีกด้วย
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Wednesday, October 31, 2007
สหพันธ์อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้ายุโรป (Eurofer) ยื่นเรื่องร้องทุกข์กับคณะกรรมาธิการยุโรปให้ดำเนินการออกบทลงโทษกับประเทศจีน ในข้อหาทุ่มตลาดเหล็กกล้าที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรป โดยสหพันธ์ได้เรียกร้องให้มีบทลงโทษมาตรการทุ่มตลาดเหล็กนำเข้าจากจีน ทั้งในผลิตภัณฑ์สแตนเลสสตีล แผ่นม้วนรีดเย็น และแผ่นเหล็กเคลือบโลหะชุบร้อน เนื่องจากพบว่า มีการทุ่มตลาดในยุโรปเป็นจำนวนมากถึง 40% ของสัดส่วนการทุ่มตลาด ฉุดให้ราคาภายในกลุ่มประเทศยุโรปร่วงลงถึง 25% สร้างความเสียหายกับอุตสาหกรรมเหล็กกล้ายุโรป และส่งผลให้ผู้ผลิตเหล็กกล้ายุโรปต้องอยู่ในสภาพดิ้นรน
นอกจากนี้ Eurofer กำลังสอบสวนสถานการณ์ผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าอื่น ๆ เพื่อเพิ่มข้อร้องทุกข์อื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการทุ่มตลาดผลิตภัณฑ์นำเข้าจากจีนอีกด้วย
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news31/10/07
โพสต์ที่ 175
จีนจะสร้างนิคมอุตสาหกรรมในอียิปต์
31 ตุลาคม พ.ศ. 2550 08:56:00
จีนจะสร้างนิคมอุตสาหกรรมในอียิปต์ ที่คาดว่าจะนำเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่อียิปต์ถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายราชิด โมฮาเหม็ด ราชิด รัฐมนตรี การค้าและอุตสาหกรรมของอียิปต์ เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า จีนจะสร้างนิคมอุตสาหกรรมขึ้นในอียิปต์ โดยจะสร้างในพื้นที่ 5 ตารางกิโลเมตรใกล้คลองสุเอซ และจะใช้เวลาก่อสร้าง 13 ปีด้วยเงินลงทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือราว 3,400 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้ดำเนินงานโดยบริษัท เทด้า ของจีน และนายเหลียว เสี่ยวฉี รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ของจีนที่อยู่ระหว่างเยือนอียิปต์ได้ร่วมลงนามข้อตกลงในวันเดียวกัน
นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้จะดึงดูดเงินลงทุนจากจีนถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 85,000 ล้านบาท และบริษัทจากจีนที่จะมาตั้งโรงงานที่นี่ คาดว่าจะมีทั้งบริษัทผลิตสิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ ท่อก๊าซและท่อน้ำมัน และการตั้งนิคมอุตสาหกรรมครั้งนี้จะทำให้บริษัทจีนมีฐานการผลิตที่จะส่งออกสินค้าไปยังยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
จีนส่งออกสินค้าไปยังอียิปต์ตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้จนถึงเดือนกันยายนรวมมูลค่าสูงถึง 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 98,600 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และนายราชิด คาดว่า จีนจะขึ้นมาเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอียิปต์แทนสหรัฐภายใน 6 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบันสหรัฐมีมูลค่าการค้ากับอียิปต์รวม 6,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 228,000 ล้านบาทในปีที่แล้ว
http://www.bangkokbiznews.com/2007/10/3 ... sid=197552
31 ตุลาคม พ.ศ. 2550 08:56:00
จีนจะสร้างนิคมอุตสาหกรรมในอียิปต์ ที่คาดว่าจะนำเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่อียิปต์ถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายราชิด โมฮาเหม็ด ราชิด รัฐมนตรี การค้าและอุตสาหกรรมของอียิปต์ เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า จีนจะสร้างนิคมอุตสาหกรรมขึ้นในอียิปต์ โดยจะสร้างในพื้นที่ 5 ตารางกิโลเมตรใกล้คลองสุเอซ และจะใช้เวลาก่อสร้าง 13 ปีด้วยเงินลงทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือราว 3,400 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้ดำเนินงานโดยบริษัท เทด้า ของจีน และนายเหลียว เสี่ยวฉี รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ของจีนที่อยู่ระหว่างเยือนอียิปต์ได้ร่วมลงนามข้อตกลงในวันเดียวกัน
นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้จะดึงดูดเงินลงทุนจากจีนถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 85,000 ล้านบาท และบริษัทจากจีนที่จะมาตั้งโรงงานที่นี่ คาดว่าจะมีทั้งบริษัทผลิตสิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ ท่อก๊าซและท่อน้ำมัน และการตั้งนิคมอุตสาหกรรมครั้งนี้จะทำให้บริษัทจีนมีฐานการผลิตที่จะส่งออกสินค้าไปยังยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
จีนส่งออกสินค้าไปยังอียิปต์ตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้จนถึงเดือนกันยายนรวมมูลค่าสูงถึง 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 98,600 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และนายราชิด คาดว่า จีนจะขึ้นมาเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอียิปต์แทนสหรัฐภายใน 6 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบันสหรัฐมีมูลค่าการค้ากับอียิปต์รวม 6,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 228,000 ล้านบาทในปีที่แล้ว
http://www.bangkokbiznews.com/2007/10/3 ... sid=197552
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news01/11/07
โพสต์ที่ 176
แบงก์ชาติสหรัฐ ลดดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 0.25%
นายเบน เบอร์นันกี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด และคณะกรรมการนโยบายการเงิน ประกาศปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐ ลงอีก 0.25% เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ลดลงเหลือเพียง 4.5% นับเป็นการปรับลดลงถึง 2 ครั้งในรอบกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา เฟด ให้เหตุผลว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสที่ 3 จะขยายตัวสุดแข่งแกร่งนับตั้งแต่ในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ และสภาพคล่องที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดภาวะสมดุลย์ เฟด ชี้ว่า ในช่วงระยะเวลาอันใกล้ เศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลงมาก ทั้งนี้ การลดดอกเบี้ยไม่เป็นเอกฉันฑ์มีค้าน 1 เสียง
เฟด ชี้ เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวในเร็วๆนี้ เตือน เงินเฟ้อยังน่าห่วง
เฟด ยอมรับว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันใกล้นั้น ส่วนหนึ่งมาจากการปรับฐานของวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่เกิดขึ้นจากสินเชื่อด้อยคุณภาพ หรือสับไพร์ม ในขณะเดียวกัน เฟด กล่าวในแถลงการณ์ว่า ยังคงให้ความสำคัญกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างชัดเจน จากภาวะความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ นาย เบน เบอร์นันกี้ ประธานเฟด จะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมธิการร่วมรัฐสภาสหรัฐ ในประเด็นเศรษฐกิจสหรัฐ ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้
เหรียญสหรัฐ อ่อนค่าลงเป็นประวัติการณ์ทันที หลังเฟดลดดอกเบี้ย
ค่าเงินเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญทั่วโลก ทำสถิติอ่อนค่าลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ทันที หลังการตัดสินใจของเฟด ลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงเหลือเพียง 4.5% โดยเมื่อเทียบกับเงินเยนญี่ปุ่น ล่าสุด เคลื่อนไหวอ่อนค่าอยู่ที่ 167.29 เยนญี่ปุ่นต่อเหรียญสหรัฐ และเมื่อเทียบกับเงินเหรียญยูโร เคลื่อนต่ำสุดที่ 1.4504 ต่อเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ค่าเงินเหรียญยูโร ปรับแข็งค่าสูงขึ้นถึง 10% เทียบเหรียญสหรัฐตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ ทั้งที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินเหรียญยูโร แข็งค่าถึง 8%
ราคาทองคำนิวยอร์ก พุ่งสูงสุดระหว่างวัน แตะ 800.80 เหรียญ หลังดอกเบี้ยลด
ราคาทองคำในตลาดสำคัญของโลก ที่นิวยอร์ก มีราคาซื้อขายสูงสุดระหว่างวัน เมื่อคืนที่ผ่านมาทะลุ 800.80 เหรียญ ต่อออนซ์ กลายเป็นสถิติสูงสุดในรอบกว่า 28 ปี ก่อนที่จะอ่อนตัวลงเล็กน้อยมาปิดที่ออนซ์ละ 795.30 เหรียญ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นทันที หลังการประกาศตัดลดดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดลง 0.25% เมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ราคาทองคำในตลาดสำคัญทั่วโลก ทะยานเพิ่มขึ้นถึง 100 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ใน 2 เดือนที่ผ่านมา และนับตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคมจนถึงเมื่อคืนนี้ ทองคำพุ่งขึ้นถึง 17%
ไครส์เลอร์ ยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ในสหรัฐ ปลดพนักงานเพิ่มอีกกว่า 2 พันคน
บริษัท ไครส์เลอร์ ยักษ์ใหญ่ผลิตรถยนต์อันดับ 3 ในสหรัฐ ตัดสินใจปลดพนักงานของบริษัทกว่า 2,100 คนถึงสิ้นเดือนหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งตามแผนปรับโครงสร้างครั้งสำคัญ ในจำนวนดังกล่าว จะมีพนักงานประจำถูกปลดออก 1,000 คน และพนักงานชั่วคราวถูกปลดออกอีก 1,100 คน การปลดพนักงานในครั้งนี้ของไครส์เลอร์ จะครอบคลุมทุกฝ่ายของบริษัท เช่น การเงิน วิศวกร จัดซื้อ เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัท ไครส์เลอร์ ได้ปลดพนักงานระดับสำนักงานออกไปแล้วตั้งแต่ต้นปีถึง 1.3 หมื่นคน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
นายเบน เบอร์นันกี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด และคณะกรรมการนโยบายการเงิน ประกาศปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐ ลงอีก 0.25% เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ลดลงเหลือเพียง 4.5% นับเป็นการปรับลดลงถึง 2 ครั้งในรอบกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา เฟด ให้เหตุผลว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสที่ 3 จะขยายตัวสุดแข่งแกร่งนับตั้งแต่ในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ และสภาพคล่องที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดภาวะสมดุลย์ เฟด ชี้ว่า ในช่วงระยะเวลาอันใกล้ เศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลงมาก ทั้งนี้ การลดดอกเบี้ยไม่เป็นเอกฉันฑ์มีค้าน 1 เสียง
เฟด ชี้ เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวในเร็วๆนี้ เตือน เงินเฟ้อยังน่าห่วง
เฟด ยอมรับว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันใกล้นั้น ส่วนหนึ่งมาจากการปรับฐานของวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่เกิดขึ้นจากสินเชื่อด้อยคุณภาพ หรือสับไพร์ม ในขณะเดียวกัน เฟด กล่าวในแถลงการณ์ว่า ยังคงให้ความสำคัญกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างชัดเจน จากภาวะความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ นาย เบน เบอร์นันกี้ ประธานเฟด จะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมธิการร่วมรัฐสภาสหรัฐ ในประเด็นเศรษฐกิจสหรัฐ ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้
เหรียญสหรัฐ อ่อนค่าลงเป็นประวัติการณ์ทันที หลังเฟดลดดอกเบี้ย
ค่าเงินเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญทั่วโลก ทำสถิติอ่อนค่าลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ทันที หลังการตัดสินใจของเฟด ลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงเหลือเพียง 4.5% โดยเมื่อเทียบกับเงินเยนญี่ปุ่น ล่าสุด เคลื่อนไหวอ่อนค่าอยู่ที่ 167.29 เยนญี่ปุ่นต่อเหรียญสหรัฐ และเมื่อเทียบกับเงินเหรียญยูโร เคลื่อนต่ำสุดที่ 1.4504 ต่อเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ค่าเงินเหรียญยูโร ปรับแข็งค่าสูงขึ้นถึง 10% เทียบเหรียญสหรัฐตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ ทั้งที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินเหรียญยูโร แข็งค่าถึง 8%
ราคาทองคำนิวยอร์ก พุ่งสูงสุดระหว่างวัน แตะ 800.80 เหรียญ หลังดอกเบี้ยลด
ราคาทองคำในตลาดสำคัญของโลก ที่นิวยอร์ก มีราคาซื้อขายสูงสุดระหว่างวัน เมื่อคืนที่ผ่านมาทะลุ 800.80 เหรียญ ต่อออนซ์ กลายเป็นสถิติสูงสุดในรอบกว่า 28 ปี ก่อนที่จะอ่อนตัวลงเล็กน้อยมาปิดที่ออนซ์ละ 795.30 เหรียญ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นทันที หลังการประกาศตัดลดดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดลง 0.25% เมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ราคาทองคำในตลาดสำคัญทั่วโลก ทะยานเพิ่มขึ้นถึง 100 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ใน 2 เดือนที่ผ่านมา และนับตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคมจนถึงเมื่อคืนนี้ ทองคำพุ่งขึ้นถึง 17%
ไครส์เลอร์ ยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ในสหรัฐ ปลดพนักงานเพิ่มอีกกว่า 2 พันคน
บริษัท ไครส์เลอร์ ยักษ์ใหญ่ผลิตรถยนต์อันดับ 3 ในสหรัฐ ตัดสินใจปลดพนักงานของบริษัทกว่า 2,100 คนถึงสิ้นเดือนหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งตามแผนปรับโครงสร้างครั้งสำคัญ ในจำนวนดังกล่าว จะมีพนักงานประจำถูกปลดออก 1,000 คน และพนักงานชั่วคราวถูกปลดออกอีก 1,100 คน การปลดพนักงานในครั้งนี้ของไครส์เลอร์ จะครอบคลุมทุกฝ่ายของบริษัท เช่น การเงิน วิศวกร จัดซื้อ เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัท ไครส์เลอร์ ได้ปลดพนักงานระดับสำนักงานออกไปแล้วตั้งแต่ต้นปีถึง 1.3 หมื่นคน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news01/11/07
โพสต์ที่ 177
นักวิเคราะห์ชี้ธุรกิจส่งออกอินโดนีเซียบูม แต่อัตราว่างงานยังสูงมาก
อินโดนีเซียกำลังแสวงหาหนทางที่จะกลับมาสู่ยุครุ่งเรืองของการส่งออกอีกวาระหนึ่ง เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 90 แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า ต้องระมัดระวังเรื่องอัตราการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง นักวิเคราะห์แสดงทัศนะว่า การส่งออกของอินโดนีเซียกลับมารุ่งเรือง แต่การเติบโตมุ่งเน้นไปที่สินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งมีจ้างแรงงานเพียงหยิบมือ โดยราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ถีบตัวสูงขึ้นผลักดันให้การส่งออกที่ไม่ใช่น้ำมันและก๊าซพุ่งขึ้น 19% แตะระดับ 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2550 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
กรมการบินพลเรือนจีนชี้เร็วไปที่สายการบินยักษ์ใหญ่ทั้ง 3 จะควบรวมกิจการ
สำนักงานการบินพลเรือนของจีนกล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปสำหรับสายการบินยักษ์ใหญ่ของประเทศทั้ง 3 แห่ง ซึ่งได้แก่ แอร์ไชน่า, ไชน่า อีสเทิร์น และ ไชน่า เซาเทิร์น ที่จะเดินหน้าควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ เขากล่าวว่า แต่ละสายการบินไม่มีศักยภาพมากพอที่จะบริหารบริษัทที่มีขนาดใหญ่อันเนื่องจากการควบรวมกิจการได้ การพัฒนาธุรกิจการบินพลเรือนของประเทศต้องการการแข่งขันระหว่างสายการบินหลักๆทั้ง 3 แห่ง รวมถึงสายการบินในภูมิภาค และสายการบินของเอกชน เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ไชน่า เนชั่นแนล อาวิเอชั่น โฮลดิ้งส์ โค ซึ่งควบคุมดูแลสายการบินแอร์ไชน่า ได้ยกเลิกแผนที่จะร่วมมือกับสายการบินแอร์ ไชน่า เพื่อเข้าซื้อหุ้นในสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์
ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ 0.50%
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ตัดสินใจด้วยเสียงส่วนใหญ่ 8 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดได้มีการคาดการณ์ไว้ คณะกรรมการด้านนโยบายของบีโอเจทั้ง 9 รายได้สรุปการตัดสินใจดังกล่าวในการประชุมเป็นระยะเวลา 1 วันในวันนี้ โดยระบุในแถลงการณ์ว่า ธนาคารกลางจะผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ที่ 0.5% นักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่คาดว่า บีโอเจจะไม่ขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นในตลาดการเงินทั่วโลก เพราะผลพวงจากวิกฤติ Subprime สหรัฐ
มาเลเซียคาดการผลิตไบโอดีเซลชะลอตัวเหตุราคาน้ำมันปาล์มพุ่งสูงขึ้น
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสหากรรมการเพาะปลูกและสินค้าโภคภัณฑ์มาเลเซีย กล่าวว่า การผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์มจำนวนมากของมาเลเซียอาจจะชะลอตัวลง เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบที่อยู่ในระดับสูงในช่วงนี้ทำให้การใช้แหล่งพลังงานทางเลือกใหม่เป็นวิธีการที่ไม่ส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน มาเลเซียได้อนุมัติโครงการสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงไบโอดีเซลไปแล้ว 91 โครงการในช่วงสิ้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ มีเพียง 4 โรงงานเท่านั้นที่เริ่มดำเนินการ ขณะเดียวกัน โรงงานอีก 4 แห่งยังอยู่ในระหว่างการทดลองเพื่อการผลิตเป็นจำนวนมาก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
อินโดนีเซียกำลังแสวงหาหนทางที่จะกลับมาสู่ยุครุ่งเรืองของการส่งออกอีกวาระหนึ่ง เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 90 แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า ต้องระมัดระวังเรื่องอัตราการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง นักวิเคราะห์แสดงทัศนะว่า การส่งออกของอินโดนีเซียกลับมารุ่งเรือง แต่การเติบโตมุ่งเน้นไปที่สินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งมีจ้างแรงงานเพียงหยิบมือ โดยราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ถีบตัวสูงขึ้นผลักดันให้การส่งออกที่ไม่ใช่น้ำมันและก๊าซพุ่งขึ้น 19% แตะระดับ 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2550 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
กรมการบินพลเรือนจีนชี้เร็วไปที่สายการบินยักษ์ใหญ่ทั้ง 3 จะควบรวมกิจการ
สำนักงานการบินพลเรือนของจีนกล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปสำหรับสายการบินยักษ์ใหญ่ของประเทศทั้ง 3 แห่ง ซึ่งได้แก่ แอร์ไชน่า, ไชน่า อีสเทิร์น และ ไชน่า เซาเทิร์น ที่จะเดินหน้าควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ เขากล่าวว่า แต่ละสายการบินไม่มีศักยภาพมากพอที่จะบริหารบริษัทที่มีขนาดใหญ่อันเนื่องจากการควบรวมกิจการได้ การพัฒนาธุรกิจการบินพลเรือนของประเทศต้องการการแข่งขันระหว่างสายการบินหลักๆทั้ง 3 แห่ง รวมถึงสายการบินในภูมิภาค และสายการบินของเอกชน เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ไชน่า เนชั่นแนล อาวิเอชั่น โฮลดิ้งส์ โค ซึ่งควบคุมดูแลสายการบินแอร์ไชน่า ได้ยกเลิกแผนที่จะร่วมมือกับสายการบินแอร์ ไชน่า เพื่อเข้าซื้อหุ้นในสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์
ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ 0.50%
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ตัดสินใจด้วยเสียงส่วนใหญ่ 8 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดได้มีการคาดการณ์ไว้ คณะกรรมการด้านนโยบายของบีโอเจทั้ง 9 รายได้สรุปการตัดสินใจดังกล่าวในการประชุมเป็นระยะเวลา 1 วันในวันนี้ โดยระบุในแถลงการณ์ว่า ธนาคารกลางจะผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ที่ 0.5% นักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่คาดว่า บีโอเจจะไม่ขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นในตลาดการเงินทั่วโลก เพราะผลพวงจากวิกฤติ Subprime สหรัฐ
มาเลเซียคาดการผลิตไบโอดีเซลชะลอตัวเหตุราคาน้ำมันปาล์มพุ่งสูงขึ้น
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสหากรรมการเพาะปลูกและสินค้าโภคภัณฑ์มาเลเซีย กล่าวว่า การผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์มจำนวนมากของมาเลเซียอาจจะชะลอตัวลง เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบที่อยู่ในระดับสูงในช่วงนี้ทำให้การใช้แหล่งพลังงานทางเลือกใหม่เป็นวิธีการที่ไม่ส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน มาเลเซียได้อนุมัติโครงการสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงไบโอดีเซลไปแล้ว 91 โครงการในช่วงสิ้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ มีเพียง 4 โรงงานเท่านั้นที่เริ่มดำเนินการ ขณะเดียวกัน โรงงานอีก 4 แห่งยังอยู่ในระหว่างการทดลองเพื่อการผลิตเป็นจำนวนมาก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news01/11/07
โพสต์ที่ 178
คาดธนาคารกลางออสเตรเลียขึ้นดอกเบี้ยอีก ข่าว 18.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Thursday, November 01, 2007
นายเดวิด มอร์แกน ผู้บริหารสูงสุดจาก Westpac Banking Corp Ltd ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์อันดับ 4 ของออสเตรเลีย คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียอาจจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกในสัปดาห์หน้า จากแรงกดดันในอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเกิดจากอัตราการว่างงานที่ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และนโยบายการเงินแบบขยายตัวของธนาคารกลาง
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ในทิศทางเดียวกันว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 6.75% ในวันอังคารหน้า หลังจากที่ได้ปรับขึ้นไปแล้ว 0.25% ในเดือนสิงหาคม
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Thursday, November 01, 2007
นายเดวิด มอร์แกน ผู้บริหารสูงสุดจาก Westpac Banking Corp Ltd ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์อันดับ 4 ของออสเตรเลีย คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียอาจจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกในสัปดาห์หน้า จากแรงกดดันในอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเกิดจากอัตราการว่างงานที่ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และนโยบายการเงินแบบขยายตัวของธนาคารกลาง
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ในทิศทางเดียวกันว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 6.75% ในวันอังคารหน้า หลังจากที่ได้ปรับขึ้นไปแล้ว 0.25% ในเดือนสิงหาคม
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news02/11/07
โพสต์ที่ 179
ไทยเซ็นสัญญาลาวธ.ค.ช่วยทำคลอดตลาดหุ้น
โพสต์ทูเดย์ ตลาดหลักทรัพย์เตรียมเซ็นเอ็มโอยูกับลาว ธ.ค.นี้ ช่วยทำคลอดตลาดหุ้นลาว ตามแผน 3 ปีข้างหน้า
ท่านสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีและผู้ประจำการรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กล่าวว่า ในเดือน ธ.ค. จะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้ประเทศไทยให้การสนับสนุนทางด้านตลาดทุน เพราะประเทศลาวเตรียมจะจัดตั้งตลาดหุ้นภายใน 3 ปีข้างหน้า
ประเทศลาวเห็นความจำเป็น ในการจัดตั้งตลาดหุ้น เพราะเห็นว่า มีส่วนสำคัญในการพัฒนาตลาด ทุน หากไม่มีก็จะทำให้การพัฒนาประเทศเป็นไปด้วยความล่าช้า ซึ่งลาวต้องการพัฒนาประเทศให้เท่าทันกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน จากปัจจุบันอยู่ระดับเดียวกับกัมพูชา และพม่า
เราได้เดินทางไปศึกษาการจัดตั้งตลาดหุ้นในหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และจีน เตรียมจะเดินทางไปญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศยุโรป โดยดูงานหลายเรื่อง เช่นการแปรรูปรัฐวิสาหกิจและเตรียมความพร้อมของผู้ลงทุนลาวด้วย
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าว ว่า ลาวได้หารือกับตลาดหลักทรัพย์ถึงความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านตลาดทุน
ด้านการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ภายในสัปดาห์หน้า พร้อมจะส่งเกณฑ์จัดร่างขอบเขตงาน (ทีโออาร์) ให้แก่ผู้เชี่ยวชาญศึกษาวิจัยตลาดทุนต่างประเทศหลายแห่งเพื่อเข้ามาศึกษาการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์
http://www.posttoday.com/newsdet.php?se ... &id=201162
โพสต์ทูเดย์ ตลาดหลักทรัพย์เตรียมเซ็นเอ็มโอยูกับลาว ธ.ค.นี้ ช่วยทำคลอดตลาดหุ้นลาว ตามแผน 3 ปีข้างหน้า
ท่านสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีและผู้ประจำการรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กล่าวว่า ในเดือน ธ.ค. จะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้ประเทศไทยให้การสนับสนุนทางด้านตลาดทุน เพราะประเทศลาวเตรียมจะจัดตั้งตลาดหุ้นภายใน 3 ปีข้างหน้า
ประเทศลาวเห็นความจำเป็น ในการจัดตั้งตลาดหุ้น เพราะเห็นว่า มีส่วนสำคัญในการพัฒนาตลาด ทุน หากไม่มีก็จะทำให้การพัฒนาประเทศเป็นไปด้วยความล่าช้า ซึ่งลาวต้องการพัฒนาประเทศให้เท่าทันกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน จากปัจจุบันอยู่ระดับเดียวกับกัมพูชา และพม่า
เราได้เดินทางไปศึกษาการจัดตั้งตลาดหุ้นในหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และจีน เตรียมจะเดินทางไปญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศยุโรป โดยดูงานหลายเรื่อง เช่นการแปรรูปรัฐวิสาหกิจและเตรียมความพร้อมของผู้ลงทุนลาวด้วย
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าว ว่า ลาวได้หารือกับตลาดหลักทรัพย์ถึงความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านตลาดทุน
ด้านการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ภายในสัปดาห์หน้า พร้อมจะส่งเกณฑ์จัดร่างขอบเขตงาน (ทีโออาร์) ให้แก่ผู้เชี่ยวชาญศึกษาวิจัยตลาดทุนต่างประเทศหลายแห่งเพื่อเข้ามาศึกษาการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์
http://www.posttoday.com/newsdet.php?se ... &id=201162
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
news02/11/07
โพสต์ที่ 180
ครม.จีนอนุมัติร่างกฎหมายด้านการรักษาความปลอดภัยในอาหาร
คณะรัฐมนตรีจีนได้อนุมัติในหลักการร่างกฎหมายด้านการรักษาความปลอดภัยในอาหาร โดยได้มีการแก้ไขเนื้อหาในร่างเล็กน้อย และหลังจากนี้จะยื่นเสนอต่อคณะกรรมการสภาพประชาชนเพื่อพิจารณาอนุมัติ ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ระบุให้มีการจัดทำระบบการออกใบอนุญาตในการผลิตอาหาร และร่างโครงการตรวจสอบความปลอดภัยในอาหาร รวมทั้งการบริหารคุณภาพอาหารส่งออกและนำเข้าอย่างไรก็ดี ยังไม่ได้มีการระบุกรอบระยะเวลาในการใช้กฎหมายดังกล่าว
WEF ลดระดับความสามารถการแข่งขันของญี่ปุ่นเหลืออันดับ 8
ที่ประชุมเศรษฐกิจโลก (WEF) ปรับลดระดับความสามารถในการแข่งขันของญี่ปุ่นลงสู่อันดับ 8 จากประเทศที่ได้รับการจัดอันดับทั้งหมด 131 ประเทศ โดยเมื่อปีที่แล้ว ความสามารถในการแข่งขันของญี่ปุ่นถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 8 ในขณะที่สหรัฐยังรั้งอันดับ โดยมีเยอรมนีรั้งอันดับ 5 แทนญี่ปุ่น ญี่ปุ่นรั้งอันดับ 3 ด้านความเชี่ยวชาญในธุรกิจ, รั้งอันดับ 4 ด้านนวัตกรรมและขนาดของตลาด และรั้งอันดับ 9 ด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นกลับได้อันดับ 97 ด้านเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคเนื่องจากมีงบขาดดุลจำนวนมาก
ริงกิตแข็งค่าทำนิวไฮเทียบดอลล์ในรอบ 10 ปี หลังเฟดปรับลดดอกเบี้ย
ค่าเงินริงกิตของมาเลเซียแข็งค่าขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในรอบ 10 ปีที่ระดับ 3.33 ต่อดอลลาร์สหรัฐในวัน นี้ อันเป็นผลจากการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลง 0.25% นักเศรษฐศาสตร์ของเคนานกา อินเวสเมนท์ แบงค์กล่าวว่า "ในระยะสั้นนั้น เราเชื่อว่าค่าเงินริงกิตจะแข็งค่าขึ้นอีกและจะค่อยๆแข็งค่าขึ้นทดสอบระดับ 3.30 ต่อดอลลาร์" ซติ อักทาร์ อาซิส ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซียกล่าวว่า ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจภายในประเทศจะสามารถสกัดปัจจัยลบที่เกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนในตลาดเงินทั่วโลกได้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx
คณะรัฐมนตรีจีนได้อนุมัติในหลักการร่างกฎหมายด้านการรักษาความปลอดภัยในอาหาร โดยได้มีการแก้ไขเนื้อหาในร่างเล็กน้อย และหลังจากนี้จะยื่นเสนอต่อคณะกรรมการสภาพประชาชนเพื่อพิจารณาอนุมัติ ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ระบุให้มีการจัดทำระบบการออกใบอนุญาตในการผลิตอาหาร และร่างโครงการตรวจสอบความปลอดภัยในอาหาร รวมทั้งการบริหารคุณภาพอาหารส่งออกและนำเข้าอย่างไรก็ดี ยังไม่ได้มีการระบุกรอบระยะเวลาในการใช้กฎหมายดังกล่าว
WEF ลดระดับความสามารถการแข่งขันของญี่ปุ่นเหลืออันดับ 8
ที่ประชุมเศรษฐกิจโลก (WEF) ปรับลดระดับความสามารถในการแข่งขันของญี่ปุ่นลงสู่อันดับ 8 จากประเทศที่ได้รับการจัดอันดับทั้งหมด 131 ประเทศ โดยเมื่อปีที่แล้ว ความสามารถในการแข่งขันของญี่ปุ่นถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 8 ในขณะที่สหรัฐยังรั้งอันดับ โดยมีเยอรมนีรั้งอันดับ 5 แทนญี่ปุ่น ญี่ปุ่นรั้งอันดับ 3 ด้านความเชี่ยวชาญในธุรกิจ, รั้งอันดับ 4 ด้านนวัตกรรมและขนาดของตลาด และรั้งอันดับ 9 ด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นกลับได้อันดับ 97 ด้านเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคเนื่องจากมีงบขาดดุลจำนวนมาก
ริงกิตแข็งค่าทำนิวไฮเทียบดอลล์ในรอบ 10 ปี หลังเฟดปรับลดดอกเบี้ย
ค่าเงินริงกิตของมาเลเซียแข็งค่าขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในรอบ 10 ปีที่ระดับ 3.33 ต่อดอลลาร์สหรัฐในวัน นี้ อันเป็นผลจากการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลง 0.25% นักเศรษฐศาสตร์ของเคนานกา อินเวสเมนท์ แบงค์กล่าวว่า "ในระยะสั้นนั้น เราเชื่อว่าค่าเงินริงกิตจะแข็งค่าขึ้นอีกและจะค่อยๆแข็งค่าขึ้นทดสอบระดับ 3.30 ต่อดอลลาร์" ซติ อักทาร์ อาซิส ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซียกล่าวว่า ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจภายในประเทศจะสามารถสกัดปัจจัยลบที่เกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนในตลาดเงินทั่วโลกได้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mor ... fault.aspx